FAZER LOGINในที่สุดเราก็ได้เจอกันสักที พรหมลิขิตทำให้เราพัดพรากจากกัน จนวันนี้ทุกอย่างก็นำพาให้เราได้กลับมาเจอกัน ความจริงบรรยากาศการพบกันครั้งแรกของคู่หมั้น คงต้องให้ความรู้สึกประมาณนี้ แต่ความจริงนั้น ฉันแทบจะพุ่งเข้าไปบีบคอเขาให้แหลกคามือ
"ยินดีต้อนรับค่ะ...คู่หมั้น" แม้ว่าประโยคหลังจะกัดฟันพูด แต่ใบหน้ายังคงฝืนยิ้มให้กว้างมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ฉันพิจารณาผู้ชายตรงหน้า ฉันคิดว่าเขาจะโดดเด่นมากกว่านี้ซะอีก ใบหน้าเปลี่ยนไปจากเดิมในทางที่ดี...ดีแบบหล่อมาก แต่นอกนั้นดูไม่มีอะไรน่าสนใจ เสื้อฮูดตัวหนาสีดำ กางเกงยีน รองเท้าผ้าใบบนใบหน้าสวมทับด้วยแว่นสายตา แววตานิ่งเฉยจ้องมองมาทางฉัน ทั้งหมดของเขาธรรมดาซะจน...จืดชืด
"ขอบคุณที่มารับ" เสียงทุ้มเอ่ยพูด พร้อมกับขายาวที่ก้าวเดินเข้ามาใกล้
"จะไปไหน" ฉันก้าวเดินเข้าไปดักหน้า สายตาของเราทั้งคู่จ้องมองกัน
"อยากเจอขนาดนั้นเลยเหรอ เดี๋ยวยังไงผมก็ต้องเข้าไปหาคุณเฮเลนอยู่แล้ว"
"ไม่ได้อยากเจอขนาดนั้นหรอก แค่อยากเห็นหน้า"
"พูดเหมือนว่ากำลังชอบเลยนะครับ" จะอ้วก แค่ฟังก็ขนลุกซู่ละ
"หึ!" เห็นฉันเป็นพวกตกหลุมรักง่ายหรือไง
ตึก ตึก ตึก
แต่ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรต่อ กลุ่มคนจำนวนหนึ่งเดินผ่านฉันไปหยุดยืนอยู่ด้านหลังของมาร์ชิน เมื่อเห็นว่าเป็นฉันพวกเขาก็ก้าวทักทายตามมารยาทที่ควรจะเป็น
"สวัสดีครับคุณหนูเฮเลน"
"สวัสดีค่ะ"
ฉันกวาดสายตามองกลุ่มคนที่ยืนอยู่ด้านหลังมาร์ชิน คิดน้อยไปหน่อยที่ไม่พาใครมาด้วย ตอนแรกก็คิดแค่ว่าจะแวะมาดูเล่นๆเท่านั้น แต่ไม่คิดว่าจะแจ็คพอตแตกได้เจอตัวจริงตั้งแต่รอบนี้ แล้วอีกอย่างเขามาเวลาตามที่บอก
"ไม่ทราบว่าคุณหนูมีธุระด่วนกับคุณมาร์ชินหรือเปล่าครับ" บุคคลที่คาดว่าจะเป็นหัวหน้าผู้มารับเดินเข้ามาหยุดยืนตรงหน้าฉัน
"คู่หมั้นกันต้องมีธุระด่วนด้วยเหรอคะ"
"เอ่อ ครับ" เขามีสีหน้าเลิ่กลั่กอย่างเห็นได้ชัด เมื่อได้ยินคำว่าคู่หมั้น
"ก็แค่มารับคู่หมั้นเฉยๆค่ะ ตื่นเต้น" มาร์ชินยังคงเงียบ เขาหันมองไปทางอื่นพร้อมกับแสดงสีหน้ารำคาญออกมาอย่างเห็นได้ชัด
"ได้เจอกันแล้ว ผมขออนุญาตพาคุณมาร์ชิน กลับก่อนนะครับ พึ่งเดินทางมาเหนื่อยๆด้วย"
ดูเหมือนพวกเขาจะรีบร้อนพานายของตัวเองออกไปจากตรงนี้ซะจริง ฉันจ้องมองร่างสูงที่เดินเบี่ยงออกไปทางอื่น พร้อมกลุ่มคนเดินตามหลัง ผู้คนต่างหันมาสนใจยังเขาเป็นจุดเดียว เมินฉันแล้วหนึ่ง หนีฉันแล้วสองและไม่ตกตะลึงกับความสวยของฉันตั้งแต่แรกเจอแล้วสาม!
"ว่าที่บอสคนต่อไปของมัสชิโม่ทำไมถึงทำตัวแบบนี้คะ!" เสียงตะโกนของฉันทำให้มาร์ชินหยุดชะงักแล้วค่อยๆหันหลังกลับมามอง
"...." เขาขมวดคิ้วด้วยความสงสัยให้กับสิ่งที่ฉันพูดออกไป
"ฮึก! คุณมาร์ชินทำไมทำกับฉันแล้วก็ลูกแบบนี้!" ฉันใช้มือป้องปากพร้อมกับพยายามทำเสียงสะอึกสะอื้น
"คุณเฮเลนครับ พูดอะไรน่ะครับ" ผู้ดูแลของเขารีบเดินเข้ามาและพยายามทำให้ฉันหยุดพูด ส่วนเขาน่ะเหรอยืนเงียบและจ้องหน้าฉัน
"คุณไม่มีความเป็นผู้ชายเลย ฮึก! ฉันตามหาคุณมาตลอดหลายวันแต่คุณบินหนีไปญี่ปุ่นเพียงเพราะไม่อยากรับผิดชอบลูกของเราเหรอคะ ฉันเป็นคู่หมั้นคุณนะ!" สิ่งที่ฉันพูดเรียกความสนใจของคนรอบข้างได้ดี แต่พวกเขาก็ได้แต่มุ่งดูอยู่ห่างๆ ไม่เว้นแม้แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่กล้าเข้ามาใกล้ เพราะพวกเขารู้จัก 'มัสชิโม่' ดี
"คุณเฮเลนอย่าทำแบบนี้เลยครับ อย่าทำให้เจ้านายของผมต้องหงุดหงิดเลยนะครับ" แม้ว่าเขาจะขอร้องด้วยถอยคำสุภาพแต่ฉันก็ยังไม่ยอมหยุด
"คุณข่มขู่ฉันเหรอคะ ฉันกำลังท้องลูกของบอสคุณนะ! ฮึก" มือเล็กยกทาบอกและใช้มืออีกข้างปาดแก้มตัวเอง ประหนึ่งว่าปาดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มออกมาเป็นสายน้ำ
"แย่จังเลยนะผู้ชายแบบนี้" เสียงซุบซิบของคนรอบข้างดังขึ้นเป็นระยะ
"ผู้ชายก็หน้าตาดี ทำกับผู้หญิงสวย ๆแบบนั้นได้ยังไง" อีกเสียงที่ดังเล็ดลอดเข้ามาในหู
"คุณเฮเลนครับ ขอร้องล่ะครับ" คนของมาร์ชินยังไม่ละความพยายาม เขายังคงขอร้องให้ฉันหยุด
"ฉันหยุดไม่ได้หรอกนะ ฮึก! ฉันเป็นผู้หญิงถูกคำพูดแย่ๆจากเจ้านายของคุณมากมายที่ไม่มีใครเคยได้รับรู้ ฮึก!" คุยกันยังไม่ถึงห้าประโยคเลยด้วยซ้ำ ฉันนี่มันสุดยอดจริงๆ
"...." ดูเหมือนว่าเขาจะพูดอะไรไม่ออกและฉันยังคงแสดงต่อไป
"ว่าที่บอสของมัสชิโม่ ทำอะไรไว้แล้วก็ไม่ยอมรับผิดชอบ!" ฉันพูดเสียงดังฟังชัด พร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองไปที่มาร์ชิน โดยที่มือยังคงปิดไว้ครึ่งหน้า
"...." จนในที่สุดเขาก็เดินตรงเข้ามาหาและนั่นยิ่งเรียกความสนใจจากทุกคนมากขึ้นไปอีก
"จะทำร้ายฉันกับลูกเหรอคะคุณมาร์ชิน ฮือ~"
"เธอท้องเหรอ" ประโยคแรกที่เปิดปากพูดหลังจากเงียบอยู่นาน
"ทำไมถามแบบนี้ล่ะ ฮึก!ฮือ!" น้ำตาไม่ไหล แต่เสียงร้องอันทรงพลังยังดังขึ้นเรื่อยๆ
"ที่ผ่านมาฉันตามใจเธอตลอด บาร์โฮสที่คุณหนูของแอซเซอร์แบบคุณเฮเลนเปิดฉันก็ไม่เคยเข้าไปห้าม" หมอนี่รู้การเคลื่อนไหวของฉันมาตลอดนิ
"....อันนั้นธุรกิจส่วนตัวไม่เกี่ยวกับแอซเซอร์" ฉันยังคงต้องก้มหน้าร้องไห้ต่อไป แม้ในใจอยากจะขยุ้มคอเขาแล้วก็ตาม
"เธออยู่กับผู้ชายที่บาร์ทั้งวันทั้งคืนฉันก็อดทนมาตลอด จนวันนี้เธอท้องแล้วก็บอกว่าเป็นลูกของฉัน" สายตาดูถูกที่ขัดกับน้ำเสียงของเขากำลังจ้องหน้าฉันตาไม่กะพริบ
"คุณมาร์ชินกำลังบอกว่าฉันทำอะไรกับเด็กในบาร์เหรอคะ ฮือ! จะดูถูกกันเกินไปแล้วนะ!" ไอ้บ้ามาร์ชิน เอาคืนฉันเหรอ
"ก็ผม....เป็นหมันนิครับจะทำให้คุณท้องได้ยังไง" สายตาดุจ้องมองใบหน้าของฉันอย่างเหนือกว่า
"...ขอให้เป็นจริง" เสียงกระซิบที่มีเพียงเราเท่านั้นที่ได้ยิน ริมฝีปากบางยกยิ้มด้วยความกวนประสาท
พึ่บ! มาร์ชินเอื้อมมือมาเพื่อจะจับแต่ฉันถอยหลังหลบได้ทัน แววตาของเขาเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด ตอนนี้มาร์ชินกำลังโมโหขั้นสุด
"..."
"จะทำร้ายกันเลยเหรอคะ!" การแสดงของฉันมันเยี่ยมยอดมานานแล้ว
"...."
"เรื่องเป็นหมันน่ะ บ่ายเบี่ยงสินะ จะทิ้งฉันใช่ไหม แย่ที่สุด ฮือ~" ถ้าจบง่ายๆก็ไม่ใช่เฮเลนแล้ว
"....เรื่องแบบนี้เขาไม่ล้อเล่นกันหรอกครับ ผมไม่โกรธนะที่คุณเฮเลนหลอกผม แต่ผมรับลูกชู้เป็นลูกตัวเองไม่ได้จริงๆ" คำพูดที่ชัดถ้อยชัดคำทำให้เกิดหัวข้อสนทนาใหม่ขึ้นรอบตัว
"น่าสงสารผู้ชายจัง คงอดทนมาตลอดเลยสินะ ตอนแรกฉันก็เชื่อเธอไปแล้ว แย่จริงๆ" เสียงซุบซิบที่หนึ่งดังขึ้น
"น่าสงสารผู้ชาย เป็นฉันจะไม่นอกใจเด็ดขาด" เสียงซุบซิบที่สอง
"คุณหนูของแอซเซอร์กำลังท้องแล้วก็ยังเป็นลูกของใครอีกก็ไม่รู้งั้นเหรอ ฉันสงสารผู้ชายจัง" เสียงซุบซิบที่สาม ทำให้มาร์ชินยกยิ้มมุมปากอย่างผู้ชนะ
เมื่อทุกอย่างถูกตีย้อนกลับ ฉันจึงต้องหาวิธีชิ่งหนี แต่ก่อนไปขอเช็คปฏิกิริยาที่เขามีต่อฉันอีกสักครั้ง ฉันลดมือที่กุมหน้าลงและปาดสายตามองไปยังมาร์ชิน ขาเรียวก้าวเดินประชิดตัวพร้อมกับยื่นหน้าเข้าไปใกล้ เขาไม่มีอาการตกใจหรือเขินอาย แล้วยังจ้องหน้าฉันกลับเช่นกัน
"จะเล่นอะไรอีก" เสียงทุ้มต่ำเอ่ยถาม
"...." ฉันไม่ตอบแต่ใช้มือจับไปที่ไหล่ทั้งสองข้าง ก่อนจะเขย่งปลายเท้ายื่นหน้าเข้าไปใกล้ ลมหายใจร้อนเป่ารดข้างแก้ม กลิ่นน้ำหอมจากตัวของเขาทำเอาฉันเอะใจ
"จะทำอะไรครับคุณคู่หมั้น"
"ไม่หลบ ไม่เขิน ไม่ตกใจฉันหน่อยเหรอ"
"...." เขาไม่ยอมปริปากพูดอะไรออกมา แต่เบือนหน้าหนีไปทางอื่น
"ผู้ชายจืดซืดเขาใช้น้ำหอมกลิ่นนี้กันด้วยเหรอ" น้ำหอมจะบ่งบอกตัวตนและบุคลิกของผู้ใช้กลิ่นน้ำหอมของผู้ชายกลิ่นนี้ฉันเคยได้กลิ่นจากคนอื่นมาหลายคนละ แต่ยังไม่มีใครฉีดแล้วรู้สึกหอมชวนหลงได้เท่าเขา
"จืดชืด..." มาร์ชินพูดซ้ำคำพูดของฉัน นัยน์ตาคมหันกลับมามอง
"อือ จืดซืด...แล้วเจอกันนะคะคู่หมั้นของฉัน หึ!"
พูดจบก็ผละออกแล้วเดินผ่านเขาไป ทิ้งทุกอย่างเอาไว้ถามกลางความงุนงงของผู้อื่น ก็ถือว่าเอาคืนฉันได้แสบพอตัว แต่เขาไม่คิดจะเขินหรือหลงใหลฉันแบบผู้ชายคนอื่นบ้างหรือไง
"....มีคู่หมั้นเป็นไบโพลาร์หรือไงวะ" เสียงทุ้มต่ำพึมพำกับตัวเอง
เขาก้มมองตัวเอง เพราะเขาไม่ต้องการโดดเด่นจึงแต่งตัวง่ายๆ ปกปิดตัวเองในระดับหนึ่ง แต่ดันมาถูกผู้หญิงที่เจอกันครั้งแรกก็สร้างปัญหาให้แล้วยังพูดว่าจืดชืด ไม่เคยมีใครมองเขาเป็นแบบนี้มาก่อนและไม่มีใครกล้าเท่าเธอ
"คุณมาร์ชินครับ"
"...." ตาคมตวัดมองลูกน้องตัวเองด้วยอารมณ์ที่เริ่มปะทุขึ้นเรื่อยๆ เธอพูดมาตั้งเยอะ สร้างเรื่องตั้งมากมาย แต่แค่พูดคำว่า จืดชืดใส่เขาก็ทำให้รู้สึกหงุดหงิดได้มากขนาดนี้
"ขอโทษครับ" เมื่อเห็นสายตาของเจ้านาย เขาก็รีบกล่าวขอโทษและกลับมายืนยังจุดของตัวเอง เพียงแค่เจอกันครั้งแรกก็ทำให้นายของเขาเป็นแบบนี้ได้ ไม่อยากนึกถึงเรื่องต่อจากนี้เลย
ณ คฤหาสน์แอซเซอร์
"พ่อ!" เสียงเล็กตะโกนลั่นโถ่งกลางบ้าน ผู้ถูกเรียกสะดุ้งด้วยความตกใจในขณะที่เขากำลังดูโทรทัศน์อยู่
"พ่ออยู่นี่!" เมื่อได้ยินเสียงของพ่อ ฉันก็เดินเลี้ยวไปยังห้องนั่งเล่นทันที
"พ่อคะ!"
"อะไรเฮเลน หน้าตาตื่นเชียว"
"มาร์ชินมาแล้ว"
"อ่อๆๆ" อะไรคือการที่พ่อไม่มีท่าทีตกใจแม้แต่น้อย
"ทำไมไม่ตกใจเลย!"
"ตกใจอยู่นี่ไงพ่อกำลังตกใจ"
"เฮเลนไปรับเขาที่สนามบิน" สิ่งที่ฉันพูดทำให้พ่อแสดงสีหน้าตกใจได้มากกว่าเรื่องที่พูดออกไปในครั้งแรกซะอีก
"...." พ่อค่อยๆหันมามองหน้าฉันช้าๆ
"เราเจอกันแล้ว"
"อึก!" พ่อกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่
"เฮเลนก็เลยบอกไปว่าท้องลูกของเขา เพราะหมอนั่นเมินเฮเลน กล้าดียังไง!" ยิ่งพูดก็ยิ่งโมโห กล้าเมินฉันแล้วยังไม่สนใจความสวยของฉันอีก
"หา!"
"แต่มาร์ชินบอกว่าเป็นหมัน!"
"หา!" พ่ออ้าปากค้างเพราะคำบอกเล่าเหตุการณ์แบบลวกๆของฉัน
"มีเรื่องที่จะบอกแค่นี้แหละค่ะ หงุดหงิด!" พูดจบก็เดินออกจากห้องนั่งเล่น ปล่อยให้พ่อนั่งอ้าปากค้างอยู่คนเดียวแบบนั้น
"อะไรวะเนี่ย..." เสียงพึมพำแบบคนสิ้นหวัง เพราะนี่แค่พวกเขาพึ่งเจอกันยังมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น ถ้าต่อจากนี้ต้องอยู่ในฐานะคู่หมั้นที่ต้องเจอกันทุกวัน ไปไม่ฆ่ากันตายจริงๆเหรอเนี่ย
ณ คฤหาสน์มัสชิโม่
ตึง!
"อ๊าก!"
ร่างหนาถูกเหวี่ยงลงบนพื้น เลือดไหลออกตามปากและจมูกไม่หยุด เท้าของผู้ชายที่ยืนค้ำร่างเขากระทืบลงบนหน้าท้องเต็มแรง สายตากวาดมองรอบๆห้อง ผู้ชายประมาณสิบกว่าคนนอนสลบอยู่บนพื้นกลางบ้าน ทั้งหมดเป็นคนสนิทของแม่เลี้ยงและผู้ชายที่เขาพึ่งจะจัดการไปเป็นคนสุดท้ายก็คือ ลูกชายของเธอ
ครืด ครืด ครืด!
เก้าอี้ไม้ถูกลากเข้ามาใกล้ร่างของลูกชายแม่เลี้ยง มาร์ชินวางขาเก้าอี้ข้างหนึ่งไว้บนหลังมือของเขาแล้วทิ้งน้ำหนักตัวนั่งลงบนเก้าอี้
ปึก!
"อ๊าก! อ๊าก! อ๊าก!" เสียงร้องโหยหวนราวกับจะขาดใจตาย จากน้ำหนักตัวที่ทิ้งนั่งลงบนเก้าอี้ไม้ไม่รู้ว่ากระดูกมือของหมอนี่จะแตกหรือเปล่า
เขาหยิบบุหรี่มวลขึ้นมาจุดสูบ พร้อมกับยกขานั่งไขว่ห้างเฝ้ารอบุคคลที่กุมอำนาจสูงสุดของมัสชิโม่ในตอนนี้กลับมา
"อ๊าก!" เมื่อเขาขยับตัวที เสียงร้องก็ดังขึ้นมาที
"โทษที อารมณ์ไม่ค่อยดีอยู่ช่วยร้องเบาๆหน่อย" ยิ่งนึกถึงหน้าผู้หญิงคนนั้นก็ยิ่งทำให้นึกถึงคำพูดของเธอ จืดชืดเหรอ
ตึก ตึก ตึก!
เสียงรองเท้าส้นสูงกระทบกับพื้นกระเบื้อง ภายในบ้านที่เงียบสงบไร้ซึ่งผู้คนจากปกติที่เคยเปิด กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งไปทั่วทั้งบ้าน จนผู้มาใหม่ต้องใช้มือปิดจมูก แต่เมื่อเดินเข้ามายังกลางบ้าน กลิ่นบุหรี่ก็ลอยเตะจมูกเธอขึ้นมา สายตามองไปตามพื้นก็พบกับร่างคนสนิทนอนแน่นิ่งอยู่ตามจุดต่างๆ จนในที่สุดสายตาก็หยุดมองไปยังผู้ชายที่นั่งไขว่ห้างสูบบุหรี่อยู่บนเก้าอี้
"กรี๊ด!" เธอกรีดร้องสุดเสียง เมื่อเห็นสภาพผู้ชายที่นอนอยู่บนพื้น
"ชู่~….อย่าเสียงดังสิครับคุณแม่เลี้ยง"
"แม่...แม่" เสียงแหบของผู้ชายที่นอนอยู่ใต้เก้าอี้พยายามส่งเสียงร้องเรียกผู้เป็นแม่
"อึก! มา มาได้ มาได้ยังไง!" น้ำเสียงของเธอสั่นด้วยความกลัว ทำไมเธอไม่รู้ว่าเขากลับมา
"ดีใจไหมครับที่เราได้เจอกันในรอบสิบปี"
"อึก...มะ มาร์...ชิน" เสียงพึมพำขาดห้วงของเธอ มาพร้อมกับมือไม้สั่น ขาอ่อนแรงแทบจะยืนไม่อยู่
"สนุกพอหรือยังครับคุณแม่ เงินที่ใช้เลี้ยงผู้ชาย ต้องเป็นคนแบบไหนครับถึงกล้าทำในขณะที่พ่อใกล้จะตายแบบนั้น" มาร์ชินเหยียดยิ้มมุมปาก สายตาจ้องมองไปที่ผู้หญิงตรงหน้า
พึ่บ!
เธอทิ้งตัวนั่งลงกับพื้น แขนขาอ่อนแรง สายตามองไปรอบๆห้องอีกครั้ง ตอนนี้ไม่มีใครเหลือให้ขอความช่วยเหลือ ที่ผ่านมาคนพวกที่ต่อต้านเธอส่งข่าวให้เขาตลอด จนวันที่เขากลับมาเธอก็ไม่รู้เรื่องเลย
"....มะ มาร์ชิน แม่น่ะดูแลที่นี่เป็นอย่างดีมาตลอดเลยนะ" เธอพยายามคิดคำแก้ต่าง เพราะสายตาที่จ้องมาทำให้ไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัว
"ดูแลดียังไงให้ไปตกไปอยู่ลำดับสาม"
"...." เธอมือไม้สั่น ไม่กล้าแม้แต่จะอ้าปากพูด
"อ่อ ขอโทษไว้อย่างหนึ่งนะครับที่เผลอฆ่าชู้ทั้งห้าคนของคุณไป" ในบรรดาพวกนอนจมกองเลือดอยู่มีผู้ชายที่เธอหลับนอนปะปนอยู่ด้วย ความเน่าเฟะระหว่างนายหญิงของมัสชิโม่กับลูกน้อง
"...ฮึก!"
"มีสองทางเลือกให้เลือกครับคุณแม่เลี้ยง" มาร์ชินส่งยิ้มเย็นยะเยือกให้กับหญิงสาวที่เขาเรียกว่าแม่เลี้ยง ผู้หญิงที่มีส่วนทำให้แม่ของเขาเสียใจ
"....อะไร อะไร"
"หนึ่ง...ไปตายเอง"
"....อึก!"
"สอง...ให้ช่วย" เธอรู้ว่าเขาทำจริง ดูจากสภาพคนอื่นๆที่เขาจัดการคนเดียวจนหมด
"แม่ขอโอกาส แม่จะอยู่เงียบๆ นะมาร์ชิน" เธอคลานเข่าเข้าไปใกล้ แล้วเอื้อมมือไปจับขาแต่เขาดันยกขาหนี
"ไปตายเองเถอะครับ...คุณแม่เลี้ยง" รอยยิ้มของมาร์ชิน ไม่ต่างจากรอยยิ้มของปีศาจ เพราะความหมายชื่อของเขา คือ ปีศาจ
“ไม่คิดถึงสามี แต่สามีคิดถึงมากนะแล้วต้องนอนคนเดียวแบบนั้นไม่ใจร้ายไปเหรอเฮเลน” เสียงมาร์ชินดังขึ้นตามหลังระหว่างทางเดินไปยังห้องพัก ตอนนี้เด็ก ๆ ต่างถูกพาไปจัดการธุระส่วนตัวและฉันก็ต้องจัดการพ่อของพวกเขาเป็นรายต่อไป“...” ร่างบางเดินนำหน้าในขณะที่คนตัวสูงเดินตามมาติด ๆ“ขาดใจตายเลยนะต้องห่างจากเมีย” น้ำเสียงปนเศร้าที่ฉันรู้สึกหมั่นไส้มากกว่าน่าสงสาร “ก็ให้ตายไปเลย” พูดโดยไม่หันไปสนใจเขา เมื่อเดินเข้ามายังห้องพักก็ตรงเข้าไปยังห้องแต่งตัวเพื่อเตรียมของใช้ให้สามีในการไปใช้ชีวิตแยกห้องนอนครั้งแรกตั้งแต่เราแต่งงานกันมาหมับ! ร่างสูงโอบกอดเอวบางจากด้านหลังปลายคางวางลงบนไหล่เล็ก“ใจร้ายจังครับที่รัก” เสียงทุ้มดังขึ้นข้างหู ลมหายใจร้อนเป่ารดต้นคอแขนของเขากระชับอ้อมกอดจากด้านหลัง “...” ลูกอ้อนเริ่มมากอีกแล้ว ฉันไม่สนใจเขาแล้วเริ่มจัดเตรียมของส่วนตัวเพื่อย้ายไปอีกห้อง“เอาจริงเหรอเนี่ยเฮเลน” มาร์ชินรวบมือที่กำลังจัดของใช้ของเขามากอดเอาไว้แน่น ไม่ยอมให้ฉันทำอะไรไปมากกว่านี้“คนอย่างมาร์ถ้าไม่เอาจริงก็ไม่รู้สึกเลย” “รู้สึกสิครับ เวลาเมียดุน่ะน่ากลัวมากแค่ไหนทำไมจะไม่รู้” “กลัว...กลัวแล้วพาเด
ณ ห้องพักโรงพยาบาล“เดี๋ยวทำแฝดสี่รอแป๊บ...โอเคไหมครับคิม” เสียงการ์เนทเอ่ยขึ้น ในขณะที่คนถูกถามทำหน้านิ่งโดยไม่หันไปโต้ตอบหรือสนใจสิ่งที่สามีตัวเองพูด “ฉันจะทำเป็นไม่ได้ยิน” คิมนั่งเกาะขอบเตียงไม่คิดจะหันไปตอบสิ่งที่สามีตัวเองถามฉันสบตากับคิมแล้วเราทั้งคู่ก็หัวเราะให้กัน ก็ตั้งแต่ตื่นมาการ์เนทกับมาร์ชินก็เถียงกันไม่หยุดและเรื่องที่หมดที่เถียงกันก็มีแต่เรื่องลูก พอบางครั้งกลัวฉันกับคิมจะได้ยินสิ่งที่ไม่ควรได้ยินทั้งคู่ก็ไปใช้ภาษาญี่ปุ่นคุยกันแทน ฉันกับคิมได้แต่ทำเป็นไม่ใส่ใจแล้วปล่อยพวกเขาไป “เมียไม่สนใจ” เมื่อคิมไม่สนใจก็เข้าทางมาร์ชิน เหนื่อยใจกับทั้งคู่จริง ๆ“กลับไปทำเมื่อไหร่ก็ได้ มีเชื้อแฝดอยู่แล้ว” สองคนนี้นี่นะ“แล้วหลานอยู่กับใคร”หลังจากออกจากห้องคลอดจนมาพักฟื้นลืมตาตื่นขึ้นมานอกจากมาร์ชินก็เจอคิมกับการ์เนท ส่วนพวกผู้ใหญ่ก็กำลังออกไปจัดการกับนักข่าวที่ให้ความสนใจกับฉันกันมากมาย ฉันเข้าใจความรู้สึกของเคทกับคิมแล้วว่ารู้สึกยังไงตอนที่คลอดลูกแล้วพวกนักข่าวมารุมล้อมให้ความสนใจเนี่ย “หลานอยู่กับคุณตาคุณยายแล้วก็น้าของพวกเขา” “พูดถึงน้านี่ยิ้มกว้างเลยนะ” คิมบอกว่าตั้งแต่ที่ท้
หลายวันต่อมา “ร้อนหรือเปล่าครับนายหญิง เร่งแอร์ขึ้นอีกเหงื่อนายหญิงออกแล้ว!” เสียงตะโกนโหวกเหวกของหัวหน้าพ่อบ้านทำให้ทั่วห้องครับเกิดความวุ่นวายขึ้นอีกครั้งเป็นรอบที่ 3 สำหรับวันนี้“ไม่ร้อนค่ะ ๆ แต่ช่วยหยุดก่อน ฉันกำลังใช้สมาธิ” ทุกคนหยุดการเคลื่อนไหว แล้วมองสิ่งที่ฉันกำลังทำสองมือจับเปลือกไข่แล้วเทไข่แดงสลับไปมาระหว่างฝาทั้งสองด้วยความตั้งใจ ช่วงนี้ฉันกำลังเริ่มหัดทำขนมถึงแม้ว่ามาร์ชินจะซื้อตัวเชฟขนมหวานอันดับต้น ๆ ของญี่ปุ่นมาไว้ที่มัสชิโม่แล้วก็ตาม แต่ถ้าฉันใช้โอกาสนี้ให้เขาช่วยสอนไปด้วยก็ถือว่าเป็นการหาอะไรทำฆ่าเวลาไปด้วย เพราะมาร์ชิน ไคล์ โรส ทั้งสามคนไม่ยอมให้ฉันทำงานที่ต้องใช้ร่างกายและสมองมากเกินไป“ทำอะไรกันอยู่” ท่ามกลางความเงียบ ก็มีเสียงเอ่ยถามจากด้านหลังทำให้ฉันที่กำลังใช้สมาธิสะดุ้งด้วยความตกใจและไข่แดงที่กำลังรีดไข่ขาวออกก็ร่วงหล่นจากฝาลงไปรวมกับไข่ขาวในถ้วยและแตกต่อหน้าต่อตา“...” ฟองสุดท้ายแล้วนะ...“เฮเลนทำอะไรอยู่ แล้วทำไมเหงื่อแตกเต็มหน้าผากขนาดนี้” มาร์ชินเดินเข้ามาหยุดข้างกาย แล้วเอียงหน้ามองฉันที่ยังคงยืนค้างไม่ยอมขยับ ฟองสุดท้ายแล้วอะ! ฟองสุดท้ายก็จะได้เริ่ม
หลายเดือนต่อมา (หลังจบงานแต่งเคท)ก๊อก ๆ ๆเสียงเคาะประตูห้องทำงานดังขึ้นแล้วก็ถูกเปิดออกช้า ๆ ร่างบางในชุดเดรสกระโปรงถือถาดกาแฟและของว่างเข้ามา ฉันวางลงบนโต๊ะตัวเล็กและนั่งลงบนโซฟา สายตาจ้องมองไปยังมาร์ชินที่กำลังทำงานในมือด้วยความตั้งใจ“...” ทั่วทั้งห้องอยู่ในความเงียบ“...” เขาไม่คิดจะทักทายหรือหันมามองด้วยซ้ำ“มาร์ชิน” เสียงเล็กเรียกชื่อเขา แต่อีกฝ่ายก็ไม่เงยหน้าจากเอกสารเขาเพียงส่งเสียงตอบกลับมาเท่านั้น“อือ” “...” คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน “...” เมื่อฉันไม่พูด เขาก็ไม่พูด“พักดื่มกาแฟก่อนไหม เมื่อเช้าก็ยังไม่ได้กินอะไรเลยนิ” “อือ เดี๋ยวค่อยกิน” “...” ริมฝีปากเม้มแน่น มือเล็กกำเพื่อพยายามระงับความรู้สึกบางอย่างในใจ“...” และเขาก็สนใจแต่งานอีกครั้ง “แค่สิบนาทีคงไม่เป็นอะไรหรอกมั้ง มาทานก่อนฉันทำของที่นายชอบด้วยนะ” “อือ” อีกครั้งที่เขาตอบรับเพียงสั้น ๆพึ่บ! ฉันลุกขึ้นจากโซฟา สายตาจ้องมองไปยังสามีตัวเอง มาร์ชินยังไม่สนใจฉันเช่นเดิม“ไม่กินก็ไม่ต้องกิน พูดแต่คำว่าอือ ฮึก! ไม่อยากคุยกันก็ไม่ต้องคุย! ฮึก!” พูดจบก็เดินออกจากห้องไปทันที ครืด!“เดี๋ยวเฮเลน!” คนตัวสูงวางงานในมือลงด้ว
หลายวันต่อมาณ คฤหาสน์แอซเซอร์ ห้องรับประทานอาหาร เวลา 20.30 น.“ถ้าไม่ทำแบบนั้นทั้งสองคนจะรู้ใจตัวเองกันไหมล่ะ แต่แผนนี้ก็ได้มาจากทางฝั่งของมัสชิโม่ด้วยนะ” พ่อยืดอกพูดด้วยความภาคภูมิใจ แทนที่จะรู้สึกผิดที่โดนเราทั้งสองจับได้พ่อกับรู้สึกภูมิกับมันมากเข้าไปอีกเพราะเรื่องภาพถ่ายปริศนาที่ส่งไปให้มาร์ชินในหลายครั้งนั่นก็มาจากฝีมือของแอซเซอร์ คำสั่งของพ่อคือตามถ่ายภาพเหตุการณ์น่าสนใจของฉันแล้วส่งให้มาร์ชินแบบลับ ๆ ด้วยเหตุผลที่ว่าความรักไม่มีขวากหนามมันจืดจางเกินกว่าจะเป็นรักของหนุ่มสาว ถึงแม้มันจะได้ผลอย่างไม่น่าเชื่อทำให้เราทั้งคู่รู้ใจตัวเองก็ตาม แต่ก็มีคนที่จะเป็นบ้ากับสิ่งนี้อยู่หนึ่งคน“มีคนเกือบเป็นบ้าค่ะพ่อ ไม่ใช่แค่รู้ใจตัวเอง” พูดจบก็ปาดสายตามองไปยังบุคคลที่นั่งอยู่ข้างกาย มาร์ชินยกแก้วไวน์ขึ้นจิบแล้วหันมองไปทางอื่น“ไม่ใช่แค่เกือบ แต่เป็นบ้าด้วยกันมันทั้งคู่นั่นแหละ” พ่อสิ่งยิ้มให้เราทั้งคู่ แล้วยกแก้วไวน์ขึ้นดื่มอีกคน“แล้วพ่อจะไปเที่ยวกับเพื่อนที่ประเทศไหนก่อนเหรอครับ” มาร์ชินพูดขึ้น เพราะอีกไม่กี่วันพ่อก็จะไปพักผ่อนและทำในสิ่งที่ตัวเองอยากจะทำแล้ว “คง...จะเริ่มที่เบลารุส”
พึ่บ!ร่างบางถูกพลิกนอนราบลงบนเตียง ลำตัวหนาแทรกกลางระหว่างขาเรียวฝ่ามือดันขาทั้งสองข้างอ้ากว้างออก แล้วโน้มหน้าพรมจูบลงต้นขา นัยน์ตาคมช้อนขึ้นสบตาคนตัวเล็ก ปลายนิ้วแตะบดขยี้เนินอูมเพียงเบา ๆ ก็ทำให้ร่างบางบิดเร้าด้วยความเสียว “อื้อ!”เสียงเล็กครางในลำคอเมื่อรู้สึกถึงริมฝีปากจูบลงบนเนินเนื้อเนียนช่วงล่าง นิ้วยาวสอดเข้าสัมผัสความนุ่มลื่นภายใน ริมฝีปากชื้นไซ้สัมผัสตามผิวกายเนียนนุ่ม นิ้วยาวเริ่มขยับเข้าออกตามจังหวะ ร่างบางบิดเร้าด้วยความเสียวในช่องท้อง มือเล็กจิกกำผ้าห่มแน่นเพราะรู้สึกได้ถึงนิ้วที่สอดเพิ่มเข้ามาอีกหนึ่ง เนินอูมถูกรุกล้ำอย่างหนักหน่วงแล้วถูกกลืนด้วยปากร้อนระอุ “อะ!”มือเล็กกำผ้าปูที่นอนแน่นกลั้นเสียงครางไว้ในลำคอ มือหนาข้างที่ว่างส่งขึ้นมาบีบเคล้นเต้าสวยเต็มมือถูกกระตุ้นความต้องการร่างเปลือยบิดเร้าไปมา คนตัวเล็กหอบหายใจถี่เมื่อนิ้วยาวทั้งสองขยับเข้าออกเร็วขึ้น ลิ้นชื้นดูดกลืนน้ำหวานจากกลีบดอกไม้สีสวย“อื้ม”เสียงครางในลำคอของเขาบ่งบอกได้ถึงความพึงพอใจ มาร์ชินกดจูบลงบนเนินอูมหนักอีกครั้งแล้วยันตัวขึ้นสบสายตาร่างบางที่ปรือตามมองมาที่เขาเช่นกัน นิ้วยาวถอนออกช้า ๆ เขายกนิ้







