ในที่สุดเราก็ได้เจอกันสักที พรหมลิขิตทำให้เราพัดพรากจากกัน จนวันนี้ทุกอย่างก็นำพาให้เราได้กลับมาเจอกัน ความจริงบรรยากาศการพบกันครั้งแรกของคู่หมั้น คงต้องให้ความรู้สึกประมาณนี้ แต่ความจริงนั้น ฉันแทบจะพุ่งเข้าไปบีบคอเขาให้แหลกคามือ
"ยินดีต้อนรับค่ะ...คู่หมั้น" แม้ว่าประโยคหลังจะกัดฟันพูด แต่ใบหน้ายังคงฝืนยิ้มให้กว้างมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ฉันพิจารณาผู้ชายตรงหน้า ฉันคิดว่าเขาจะโดดเด่นมากกว่านี้ซะอีก ใบหน้าเปลี่ยนไปจากเดิมในทางที่ดี...ดีแบบหล่อมาก แต่นอกนั้นดูไม่มีอะไรน่าสนใจ เสื้อฮูดตัวหนาสีดำ กางเกงยีน รองเท้าผ้าใบบนใบหน้าสวมทับด้วยแว่นสายตา แววตานิ่งเฉยจ้องมองมาทางฉัน ทั้งหมดของเขาธรรมดาซะจน...จืดชืด
"ขอบคุณที่มารับ" เสียงทุ้มเอ่ยพูด พร้อมกับขายาวที่ก้าวเดินเข้ามาใกล้
"จะไปไหน" ฉันก้าวเดินเข้าไปดักหน้า สายตาของเราทั้งคู่จ้องมองกัน
"อยากเจอขนาดนั้นเลยเหรอ เดี๋ยวยังไงผมก็ต้องเข้าไปหาคุณเฮเลนอยู่แล้ว"
"ไม่ได้อยากเจอขนาดนั้นหรอก แค่อยากเห็นหน้า"
"พูดเหมือนว่ากำลังชอบเลยนะครับ" จะอ้วก แค่ฟังก็ขนลุกซู่ละ
"หึ!" เห็นฉันเป็นพวกตกหลุมรักง่ายหรือไง
ตึก ตึก ตึก
แต่ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรต่อ กลุ่มคนจำนวนหนึ่งเดินผ่านฉันไปหยุดยืนอยู่ด้านหลังของมาร์ชิน เมื่อเห็นว่าเป็นฉันพวกเขาก็ก้าวทักทายตามมารยาทที่ควรจะเป็น
"สวัสดีครับคุณหนูเฮเลน"
"สวัสดีค่ะ"
ฉันกวาดสายตามองกลุ่มคนที่ยืนอยู่ด้านหลังมาร์ชิน คิดน้อยไปหน่อยที่ไม่พาใครมาด้วย ตอนแรกก็คิดแค่ว่าจะแวะมาดูเล่นๆเท่านั้น แต่ไม่คิดว่าจะแจ็คพอตแตกได้เจอตัวจริงตั้งแต่รอบนี้ แล้วอีกอย่างเขามาเวลาตามที่บอก
"ไม่ทราบว่าคุณหนูมีธุระด่วนกับคุณมาร์ชินหรือเปล่าครับ" บุคคลที่คาดว่าจะเป็นหัวหน้าผู้มารับเดินเข้ามาหยุดยืนตรงหน้าฉัน
"คู่หมั้นกันต้องมีธุระด่วนด้วยเหรอคะ"
"เอ่อ ครับ" เขามีสีหน้าเลิ่กลั่กอย่างเห็นได้ชัด เมื่อได้ยินคำว่าคู่หมั้น
"ก็แค่มารับคู่หมั้นเฉยๆค่ะ ตื่นเต้น" มาร์ชินยังคงเงียบ เขาหันมองไปทางอื่นพร้อมกับแสดงสีหน้ารำคาญออกมาอย่างเห็นได้ชัด
"ได้เจอกันแล้ว ผมขออนุญาตพาคุณมาร์ชิน กลับก่อนนะครับ พึ่งเดินทางมาเหนื่อยๆด้วย"
ดูเหมือนพวกเขาจะรีบร้อนพานายของตัวเองออกไปจากตรงนี้ซะจริง ฉันจ้องมองร่างสูงที่เดินเบี่ยงออกไปทางอื่น พร้อมกลุ่มคนเดินตามหลัง ผู้คนต่างหันมาสนใจยังเขาเป็นจุดเดียว เมินฉันแล้วหนึ่ง หนีฉันแล้วสองและไม่ตกตะลึงกับความสวยของฉันตั้งแต่แรกเจอแล้วสาม!
"ว่าที่บอสคนต่อไปของมัสชิโม่ทำไมถึงทำตัวแบบนี้คะ!" เสียงตะโกนของฉันทำให้มาร์ชินหยุดชะงักแล้วค่อยๆหันหลังกลับมามอง
"...." เขาขมวดคิ้วด้วยความสงสัยให้กับสิ่งที่ฉันพูดออกไป
"ฮึก! คุณมาร์ชินทำไมทำกับฉันแล้วก็ลูกแบบนี้!" ฉันใช้มือป้องปากพร้อมกับพยายามทำเสียงสะอึกสะอื้น
"คุณเฮเลนครับ พูดอะไรน่ะครับ" ผู้ดูแลของเขารีบเดินเข้ามาและพยายามทำให้ฉันหยุดพูด ส่วนเขาน่ะเหรอยืนเงียบและจ้องหน้าฉัน
"คุณไม่มีความเป็นผู้ชายเลย ฮึก! ฉันตามหาคุณมาตลอดหลายวันแต่คุณบินหนีไปญี่ปุ่นเพียงเพราะไม่อยากรับผิดชอบลูกของเราเหรอคะ ฉันเป็นคู่หมั้นคุณนะ!" สิ่งที่ฉันพูดเรียกความสนใจของคนรอบข้างได้ดี แต่พวกเขาก็ได้แต่มุ่งดูอยู่ห่างๆ ไม่เว้นแม้แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่กล้าเข้ามาใกล้ เพราะพวกเขารู้จัก 'มัสชิโม่' ดี
"คุณเฮเลนอย่าทำแบบนี้เลยครับ อย่าทำให้เจ้านายของผมต้องหงุดหงิดเลยนะครับ" แม้ว่าเขาจะขอร้องด้วยถอยคำสุภาพแต่ฉันก็ยังไม่ยอมหยุด
"คุณข่มขู่ฉันเหรอคะ ฉันกำลังท้องลูกของบอสคุณนะ! ฮึก" มือเล็กยกทาบอกและใช้มืออีกข้างปาดแก้มตัวเอง ประหนึ่งว่าปาดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มออกมาเป็นสายน้ำ
"แย่จังเลยนะผู้ชายแบบนี้" เสียงซุบซิบของคนรอบข้างดังขึ้นเป็นระยะ
"ผู้ชายก็หน้าตาดี ทำกับผู้หญิงสวย ๆแบบนั้นได้ยังไง" อีกเสียงที่ดังเล็ดลอดเข้ามาในหู
"คุณเฮเลนครับ ขอร้องล่ะครับ" คนของมาร์ชินยังไม่ละความพยายาม เขายังคงขอร้องให้ฉันหยุด
"ฉันหยุดไม่ได้หรอกนะ ฮึก! ฉันเป็นผู้หญิงถูกคำพูดแย่ๆจากเจ้านายของคุณมากมายที่ไม่มีใครเคยได้รับรู้ ฮึก!" คุยกันยังไม่ถึงห้าประโยคเลยด้วยซ้ำ ฉันนี่มันสุดยอดจริงๆ
"...." ดูเหมือนว่าเขาจะพูดอะไรไม่ออกและฉันยังคงแสดงต่อไป
"ว่าที่บอสของมัสชิโม่ ทำอะไรไว้แล้วก็ไม่ยอมรับผิดชอบ!" ฉันพูดเสียงดังฟังชัด พร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองไปที่มาร์ชิน โดยที่มือยังคงปิดไว้ครึ่งหน้า
"...." จนในที่สุดเขาก็เดินตรงเข้ามาหาและนั่นยิ่งเรียกความสนใจจากทุกคนมากขึ้นไปอีก
"จะทำร้ายฉันกับลูกเหรอคะคุณมาร์ชิน ฮือ~"
"เธอท้องเหรอ" ประโยคแรกที่เปิดปากพูดหลังจากเงียบอยู่นาน
"ทำไมถามแบบนี้ล่ะ ฮึก!ฮือ!" น้ำตาไม่ไหล แต่เสียงร้องอันทรงพลังยังดังขึ้นเรื่อยๆ
"ที่ผ่านมาฉันตามใจเธอตลอด บาร์โฮสที่คุณหนูของแอซเซอร์แบบคุณเฮเลนเปิดฉันก็ไม่เคยเข้าไปห้าม" หมอนี่รู้การเคลื่อนไหวของฉันมาตลอดนิ
"....อันนั้นธุรกิจส่วนตัวไม่เกี่ยวกับแอซเซอร์" ฉันยังคงต้องก้มหน้าร้องไห้ต่อไป แม้ในใจอยากจะขยุ้มคอเขาแล้วก็ตาม
"เธออยู่กับผู้ชายที่บาร์ทั้งวันทั้งคืนฉันก็อดทนมาตลอด จนวันนี้เธอท้องแล้วก็บอกว่าเป็นลูกของฉัน" สายตาดูถูกที่ขัดกับน้ำเสียงของเขากำลังจ้องหน้าฉันตาไม่กะพริบ
"คุณมาร์ชินกำลังบอกว่าฉันทำอะไรกับเด็กในบาร์เหรอคะ ฮือ! จะดูถูกกันเกินไปแล้วนะ!" ไอ้บ้ามาร์ชิน เอาคืนฉันเหรอ
"ก็ผม....เป็นหมันนิครับจะทำให้คุณท้องได้ยังไง" สายตาดุจ้องมองใบหน้าของฉันอย่างเหนือกว่า
"...ขอให้เป็นจริง" เสียงกระซิบที่มีเพียงเราเท่านั้นที่ได้ยิน ริมฝีปากบางยกยิ้มด้วยความกวนประสาท
พึ่บ! มาร์ชินเอื้อมมือมาเพื่อจะจับแต่ฉันถอยหลังหลบได้ทัน แววตาของเขาเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด ตอนนี้มาร์ชินกำลังโมโหขั้นสุด
"..."
"จะทำร้ายกันเลยเหรอคะ!" การแสดงของฉันมันเยี่ยมยอดมานานแล้ว
"...."
"เรื่องเป็นหมันน่ะ บ่ายเบี่ยงสินะ จะทิ้งฉันใช่ไหม แย่ที่สุด ฮือ~" ถ้าจบง่ายๆก็ไม่ใช่เฮเลนแล้ว
"....เรื่องแบบนี้เขาไม่ล้อเล่นกันหรอกครับ ผมไม่โกรธนะที่คุณเฮเลนหลอกผม แต่ผมรับลูกชู้เป็นลูกตัวเองไม่ได้จริงๆ" คำพูดที่ชัดถ้อยชัดคำทำให้เกิดหัวข้อสนทนาใหม่ขึ้นรอบตัว
"น่าสงสารผู้ชายจัง คงอดทนมาตลอดเลยสินะ ตอนแรกฉันก็เชื่อเธอไปแล้ว แย่จริงๆ" เสียงซุบซิบที่หนึ่งดังขึ้น
"น่าสงสารผู้ชาย เป็นฉันจะไม่นอกใจเด็ดขาด" เสียงซุบซิบที่สอง
"คุณหนูของแอซเซอร์กำลังท้องแล้วก็ยังเป็นลูกของใครอีกก็ไม่รู้งั้นเหรอ ฉันสงสารผู้ชายจัง" เสียงซุบซิบที่สาม ทำให้มาร์ชินยกยิ้มมุมปากอย่างผู้ชนะ
เมื่อทุกอย่างถูกตีย้อนกลับ ฉันจึงต้องหาวิธีชิ่งหนี แต่ก่อนไปขอเช็คปฏิกิริยาที่เขามีต่อฉันอีกสักครั้ง ฉันลดมือที่กุมหน้าลงและปาดสายตามองไปยังมาร์ชิน ขาเรียวก้าวเดินประชิดตัวพร้อมกับยื่นหน้าเข้าไปใกล้ เขาไม่มีอาการตกใจหรือเขินอาย แล้วยังจ้องหน้าฉันกลับเช่นกัน
"จะเล่นอะไรอีก" เสียงทุ้มต่ำเอ่ยถาม
"...." ฉันไม่ตอบแต่ใช้มือจับไปที่ไหล่ทั้งสองข้าง ก่อนจะเขย่งปลายเท้ายื่นหน้าเข้าไปใกล้ ลมหายใจร้อนเป่ารดข้างแก้ม กลิ่นน้ำหอมจากตัวของเขาทำเอาฉันเอะใจ
"จะทำอะไรครับคุณคู่หมั้น"
"ไม่หลบ ไม่เขิน ไม่ตกใจฉันหน่อยเหรอ"
"...." เขาไม่ยอมปริปากพูดอะไรออกมา แต่เบือนหน้าหนีไปทางอื่น
"ผู้ชายจืดซืดเขาใช้น้ำหอมกลิ่นนี้กันด้วยเหรอ" น้ำหอมจะบ่งบอกตัวตนและบุคลิกของผู้ใช้กลิ่นน้ำหอมของผู้ชายกลิ่นนี้ฉันเคยได้กลิ่นจากคนอื่นมาหลายคนละ แต่ยังไม่มีใครฉีดแล้วรู้สึกหอมชวนหลงได้เท่าเขา
"จืดชืด..." มาร์ชินพูดซ้ำคำพูดของฉัน นัยน์ตาคมหันกลับมามอง
"อือ จืดซืด...แล้วเจอกันนะคะคู่หมั้นของฉัน หึ!"
พูดจบก็ผละออกแล้วเดินผ่านเขาไป ทิ้งทุกอย่างเอาไว้ถามกลางความงุนงงของผู้อื่น ก็ถือว่าเอาคืนฉันได้แสบพอตัว แต่เขาไม่คิดจะเขินหรือหลงใหลฉันแบบผู้ชายคนอื่นบ้างหรือไง
"....มีคู่หมั้นเป็นไบโพลาร์หรือไงวะ" เสียงทุ้มต่ำพึมพำกับตัวเอง
เขาก้มมองตัวเอง เพราะเขาไม่ต้องการโดดเด่นจึงแต่งตัวง่ายๆ ปกปิดตัวเองในระดับหนึ่ง แต่ดันมาถูกผู้หญิงที่เจอกันครั้งแรกก็สร้างปัญหาให้แล้วยังพูดว่าจืดชืด ไม่เคยมีใครมองเขาเป็นแบบนี้มาก่อนและไม่มีใครกล้าเท่าเธอ
"คุณมาร์ชินครับ"
"...." ตาคมตวัดมองลูกน้องตัวเองด้วยอารมณ์ที่เริ่มปะทุขึ้นเรื่อยๆ เธอพูดมาตั้งเยอะ สร้างเรื่องตั้งมากมาย แต่แค่พูดคำว่า จืดชืดใส่เขาก็ทำให้รู้สึกหงุดหงิดได้มากขนาดนี้
"ขอโทษครับ" เมื่อเห็นสายตาของเจ้านาย เขาก็รีบกล่าวขอโทษและกลับมายืนยังจุดของตัวเอง เพียงแค่เจอกันครั้งแรกก็ทำให้นายของเขาเป็นแบบนี้ได้ ไม่อยากนึกถึงเรื่องต่อจากนี้เลย
ณ คฤหาสน์แอซเซอร์
"พ่อ!" เสียงเล็กตะโกนลั่นโถ่งกลางบ้าน ผู้ถูกเรียกสะดุ้งด้วยความตกใจในขณะที่เขากำลังดูโทรทัศน์อยู่
"พ่ออยู่นี่!" เมื่อได้ยินเสียงของพ่อ ฉันก็เดินเลี้ยวไปยังห้องนั่งเล่นทันที
"พ่อคะ!"
"อะไรเฮเลน หน้าตาตื่นเชียว"
"มาร์ชินมาแล้ว"
"อ่อๆๆ" อะไรคือการที่พ่อไม่มีท่าทีตกใจแม้แต่น้อย
"ทำไมไม่ตกใจเลย!"
"ตกใจอยู่นี่ไงพ่อกำลังตกใจ"
"เฮเลนไปรับเขาที่สนามบิน" สิ่งที่ฉันพูดทำให้พ่อแสดงสีหน้าตกใจได้มากกว่าเรื่องที่พูดออกไปในครั้งแรกซะอีก
"...." พ่อค่อยๆหันมามองหน้าฉันช้าๆ
"เราเจอกันแล้ว"
"อึก!" พ่อกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่
"เฮเลนก็เลยบอกไปว่าท้องลูกของเขา เพราะหมอนั่นเมินเฮเลน กล้าดียังไง!" ยิ่งพูดก็ยิ่งโมโห กล้าเมินฉันแล้วยังไม่สนใจความสวยของฉันอีก
"หา!"
"แต่มาร์ชินบอกว่าเป็นหมัน!"
"หา!" พ่ออ้าปากค้างเพราะคำบอกเล่าเหตุการณ์แบบลวกๆของฉัน
"มีเรื่องที่จะบอกแค่นี้แหละค่ะ หงุดหงิด!" พูดจบก็เดินออกจากห้องนั่งเล่น ปล่อยให้พ่อนั่งอ้าปากค้างอยู่คนเดียวแบบนั้น
"อะไรวะเนี่ย..." เสียงพึมพำแบบคนสิ้นหวัง เพราะนี่แค่พวกเขาพึ่งเจอกันยังมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น ถ้าต่อจากนี้ต้องอยู่ในฐานะคู่หมั้นที่ต้องเจอกันทุกวัน ไปไม่ฆ่ากันตายจริงๆเหรอเนี่ย
ณ คฤหาสน์มัสชิโม่
ตึง!
"อ๊าก!"
ร่างหนาถูกเหวี่ยงลงบนพื้น เลือดไหลออกตามปากและจมูกไม่หยุด เท้าของผู้ชายที่ยืนค้ำร่างเขากระทืบลงบนหน้าท้องเต็มแรง สายตากวาดมองรอบๆห้อง ผู้ชายประมาณสิบกว่าคนนอนสลบอยู่บนพื้นกลางบ้าน ทั้งหมดเป็นคนสนิทของแม่เลี้ยงและผู้ชายที่เขาพึ่งจะจัดการไปเป็นคนสุดท้ายก็คือ ลูกชายของเธอ
ครืด ครืด ครืด!
เก้าอี้ไม้ถูกลากเข้ามาใกล้ร่างของลูกชายแม่เลี้ยง มาร์ชินวางขาเก้าอี้ข้างหนึ่งไว้บนหลังมือของเขาแล้วทิ้งน้ำหนักตัวนั่งลงบนเก้าอี้
ปึก!
"อ๊าก! อ๊าก! อ๊าก!" เสียงร้องโหยหวนราวกับจะขาดใจตาย จากน้ำหนักตัวที่ทิ้งนั่งลงบนเก้าอี้ไม้ไม่รู้ว่ากระดูกมือของหมอนี่จะแตกหรือเปล่า
เขาหยิบบุหรี่มวลขึ้นมาจุดสูบ พร้อมกับยกขานั่งไขว่ห้างเฝ้ารอบุคคลที่กุมอำนาจสูงสุดของมัสชิโม่ในตอนนี้กลับมา
"อ๊าก!" เมื่อเขาขยับตัวที เสียงร้องก็ดังขึ้นมาที
"โทษที อารมณ์ไม่ค่อยดีอยู่ช่วยร้องเบาๆหน่อย" ยิ่งนึกถึงหน้าผู้หญิงคนนั้นก็ยิ่งทำให้นึกถึงคำพูดของเธอ จืดชืดเหรอ
ตึก ตึก ตึก!
เสียงรองเท้าส้นสูงกระทบกับพื้นกระเบื้อง ภายในบ้านที่เงียบสงบไร้ซึ่งผู้คนจากปกติที่เคยเปิด กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งไปทั่วทั้งบ้าน จนผู้มาใหม่ต้องใช้มือปิดจมูก แต่เมื่อเดินเข้ามายังกลางบ้าน กลิ่นบุหรี่ก็ลอยเตะจมูกเธอขึ้นมา สายตามองไปตามพื้นก็พบกับร่างคนสนิทนอนแน่นิ่งอยู่ตามจุดต่างๆ จนในที่สุดสายตาก็หยุดมองไปยังผู้ชายที่นั่งไขว่ห้างสูบบุหรี่อยู่บนเก้าอี้
"กรี๊ด!" เธอกรีดร้องสุดเสียง เมื่อเห็นสภาพผู้ชายที่นอนอยู่บนพื้น
"ชู่~….อย่าเสียงดังสิครับคุณแม่เลี้ยง"
"แม่...แม่" เสียงแหบของผู้ชายที่นอนอยู่ใต้เก้าอี้พยายามส่งเสียงร้องเรียกผู้เป็นแม่
"อึก! มา มาได้ มาได้ยังไง!" น้ำเสียงของเธอสั่นด้วยความกลัว ทำไมเธอไม่รู้ว่าเขากลับมา
"ดีใจไหมครับที่เราได้เจอกันในรอบสิบปี"
"อึก...มะ มาร์...ชิน" เสียงพึมพำขาดห้วงของเธอ มาพร้อมกับมือไม้สั่น ขาอ่อนแรงแทบจะยืนไม่อยู่
"สนุกพอหรือยังครับคุณแม่ เงินที่ใช้เลี้ยงผู้ชาย ต้องเป็นคนแบบไหนครับถึงกล้าทำในขณะที่พ่อใกล้จะตายแบบนั้น" มาร์ชินเหยียดยิ้มมุมปาก สายตาจ้องมองไปที่ผู้หญิงตรงหน้า
พึ่บ!
เธอทิ้งตัวนั่งลงกับพื้น แขนขาอ่อนแรง สายตามองไปรอบๆห้องอีกครั้ง ตอนนี้ไม่มีใครเหลือให้ขอความช่วยเหลือ ที่ผ่านมาคนพวกที่ต่อต้านเธอส่งข่าวให้เขาตลอด จนวันที่เขากลับมาเธอก็ไม่รู้เรื่องเลย
"....มะ มาร์ชิน แม่น่ะดูแลที่นี่เป็นอย่างดีมาตลอดเลยนะ" เธอพยายามคิดคำแก้ต่าง เพราะสายตาที่จ้องมาทำให้ไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัว
"ดูแลดียังไงให้ไปตกไปอยู่ลำดับสาม"
"...." เธอมือไม้สั่น ไม่กล้าแม้แต่จะอ้าปากพูด
"อ่อ ขอโทษไว้อย่างหนึ่งนะครับที่เผลอฆ่าชู้ทั้งห้าคนของคุณไป" ในบรรดาพวกนอนจมกองเลือดอยู่มีผู้ชายที่เธอหลับนอนปะปนอยู่ด้วย ความเน่าเฟะระหว่างนายหญิงของมัสชิโม่กับลูกน้อง
"...ฮึก!"
"มีสองทางเลือกให้เลือกครับคุณแม่เลี้ยง" มาร์ชินส่งยิ้มเย็นยะเยือกให้กับหญิงสาวที่เขาเรียกว่าแม่เลี้ยง ผู้หญิงที่มีส่วนทำให้แม่ของเขาเสียใจ
"....อะไร อะไร"
"หนึ่ง...ไปตายเอง"
"....อึก!"
"สอง...ให้ช่วย" เธอรู้ว่าเขาทำจริง ดูจากสภาพคนอื่นๆที่เขาจัดการคนเดียวจนหมด
"แม่ขอโอกาส แม่จะอยู่เงียบๆ นะมาร์ชิน" เธอคลานเข่าเข้าไปใกล้ แล้วเอื้อมมือไปจับขาแต่เขาดันยกขาหนี
"ไปตายเองเถอะครับ...คุณแม่เลี้ยง" รอยยิ้มของมาร์ชิน ไม่ต่างจากรอยยิ้มของปีศาจ เพราะความหมายชื่อของเขา คือ ปีศาจ
"คงทำได้อย่างที่พูดนะ" มาร์ชินจ้องมองตามเรือนร่างที่คร่อมเขาอยู่"ถ้าทำไม่ได้คงไม่พูด นายพอใจเรื่องข้อแลกเปลี่ยนใช่ไหม" ถ้าไม่พอใจก็ต้องกำลังแล้วแหละ"ก็ได้อยู่" ได้อยู่แบบไม่ค่อยเต็มใจสักเท่าไหร่เลยนะ รู้แหละว่าฉันคงไม่ถูกใจเขาเท่าแม่เลขาแน่"ดี แต่ฉันต้องการให้มั่นใจก่อนว่าคนของฉันจะปลอดภัย" ถ้าต้องมาห่วงเรื่องนี้มันอาจจะทำให้ฉันจัดการเขายาก เพราะฉะนั้นต้องให้พาทั้งสองคนออกไปก่อน"ก็เอาไปสิ" มาร์ชินจ้องหน้าฉันด้วยสายตาเรียบเฉย คำพูดของเขาสามารถใช้เปิดทางให้ฉันได้อย่างดี ร่างบางยันตัวออกห่างแล้วหยิบโทรศัพท์ส่วนตัวจากกระเป๋ามากดโทรออก หลังจากคุยกับบุคคลที่อยู่ปลายสายเรียบร้อยแล้วก็หันกลับมาหาผู้ชายที่นั่งอยู่"เปิดทางให้คนของฉันเข้ามาด้วย""...อือ" เพียงแค่เสียงแผ่วเบาของเขาก็ทำให้ลูกน้องต่างเดินออกไปจัดการตามคำขอของฉันทันที แต่ก็รู้สึกได้ถึงสายตาของใครบางคนที่จ้องมองมา ฉันหันไปมองยังเลขาสาวที่แอบมองมา เมื่อถูกจับได้เธอก็ทำเป็นมองตรงไปยังด้านหน้า"คุณเลขา""...คะ" น้ำเสียงนุ่มนวลแตกต่างจากสายตาที่มองมาจริงๆ"ขอโทษที่แย่งหน้าที่ของคุณในคืนนี้นะคะ เดี๋ยวฉันจะทำแทนเอง" ฉันนี่มันเป็นพวกเห
ณ คฤหาสน์แอซเซอร์ก๊อก ก๊อก ก๊อก"เชิญค่ะ"ประตูเปิดกว้างออก ผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามายังภายในห้องพักส่วนตัวด้วยใบหน้าเคร่งเครียด"คุณหนูครับ""มีอะไรเหรอ" ฉันสวมสร้อยที่เคทให้มาแล้วนั่งจ้องอยู่หน้ากระจก เคททำอะไรก็ถูกใจฉันไปหมดจริงๆ แม้จะมีบุคคลที่เข้ามาใหม่แต่ก็ไม่คิดจะหันไปสนใจสักนิด"คนของเราที่ส่งให้ไปติดตามคุณมาร์ชิน""อือ ได้เรื่องอะไรบ้าง" ฉันแค่ต้องการรู้สถานที่ๆเขาไปในแต่ละวันของหมอนั่นก็เท่านั้นและที่สำคัญวันที่มาร์ชินจะเข้าไปที่คลับ การปรากฏตัวของฉันมันต้องสนุกแน่ เพราะดูแล้วเขาไม่ต้องการให้ใครรู้เรื่องการหมั้นของเรา"ข้อความสุดท้ายที่ฝากเอาไว้มีเพียงเท่านี้ครับ""...." ฉันหันหลังกลับมามองหน้าเขา ' ข้อความสุดท้าย'"ข้อความถูกส่งผ่านเบอร์โทรนี้เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมาแล้วเราก็ไม่สามารถติดต่อทั้งคู่ได้อีกเลย" โทรศัพท์ถูกยื่นมาตรงหน้าฉัน พร้อมกับข้อความที่ถูกส่งมาปรากฏบนหน้าจอ'มารับของคืนด้วย แต่ต้องหาอะไรมาแลกเปลี่ยนที่ทำให้ฉันพอใจด้วยนะ'"ฉันแค่ให้ไปตามดูว่าวันหนึ่งหมอนั่นไปที่ไหนบ้างนิ แล้วทำอีท่าไหนถึงโดนจับได้""พวกเขาเป็นเด็กใหม่ ผมแค่คิดว่ามันเป็นงานง่ายๆ""ประเมินหมอนั่น
ซ่า!!สายน้ำจากฝักบัวไหลกระทบร่างเปลือยเปล่า น้ำที่ไหลผ่านช่วยให้ร่างกายได้รู้สึกผ่อนคลาย แต่นั่นใช้ไม่ได้กับเขา ตอนนี้ในหัวมีแต่คำพูดของเฮเลน สายตา ใบหน้า ริมฝีปากที่เขาพึ่งสัมผัสแล้วยังกลิ่นหอมจากตัวเธอ ไม่ใช่ครั้งแรกที่เจอผู้หญิงสักหน่อย แล้วจะสนใจผู้หญิงที่สวยแต่บ้าแบบนั้นทำไม เมื่อตั้งสติให้กลับมาเหมือนเดิมได้แล้ว เขาก็จัดการตัวเองให้เรียบร้อยแล้วออกจากห้องน้ำร่างสูงเปลือยท่อนบน ส่วนล่างมีเพียงผ้าขนหนูพันล้อมเอวปกปิดเอาไว้เท่านั้น เขาเดินออกจากห้องน้ำสายตาก็เหลือบมองไปเห็นกล่องสีแดงที่วางอยู่บนโต๊ะ กล่องแหวนหมั้นที่เขาถือมันกลับมา จะทิ้งมันมาหลายรอบก็ทำไม่สำเร็จสักที จนสุดท้ายก็พามันกลับมายังที่เดิมทุกที ในระหว่างที่เขากำลังจะเปิดฝากล่องกำมะหยี่ในมือ เสียงเคาะประตูก็ดังขัดจังหวะก๊อก ก๊อก ก๊อก!"คุณมาร์ชินคะ" เสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น เสียงคุ้นหูที่เขาพอจะรู้ได้ทันทีว่าเป็นใคร"เข้ามา" สิ้นเสียงของเขาประตูก็เปิดออกทันที"ขออนุญาตค่ะ"ร่างบางในชุดนอนผ้าแพรสีดำตัวบางเดินเข้ามาในห้องนอนของเขา แอล เลขาประจำมัสชิโม่ ผู้ส่งข่าวและผู้ดูแลประจำตัวของเขา เธอมักจะบินไปญี่ปุ่นบ่อยๆ ทั้งไป
(มาร์ชิน)2 วันต่อมา ณ โรงพยาบาลเอกชนผู้ชายคนหนึ่งนอนหลับอยู่บนเตียงของโรงพยาบาล ภายในห้องพักVIP การดูแลความปลอดภัยแน่นหนาสมฐานะของผู้เป็นบอสใหญ่แห่งมัสชิโม่ ข้างเตียงมีผู้ชายอีกคนนั่งเฝ้ามาตลอดสองวันหลังจากที่เขากลับมาถึงอิตาลี ทายาททางสายเลือดเพียงคนเดียว ตลอดสิบปีเราไม่เคยได้เจอหน้ากันเลยด้วยซ้ำเพราะเขาไม่คิดที่จะกลับมา จนกระทั่งพ่อเส้นเลือดในสมองแตก ทุกอย่างจึงตกไปอยู่ในมือของแม่เลี้ยง นายหญิงผู้กุมตำแหน่งและใช้ชีวิตหลงอยู่ในอำนาจที่ไม่ใช่ของตนเอง ทั้งเงินและผู้ชายทำให้เธอลุ่มหลงจนลืมสิ่งที่เธอต้องดูแล"จะนอนแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน" ความรู้สึกของเขาที่มีต่อพ่อนั้นไร้ซึ่งความผูกพัน มีเพียงความเป็นห่วงในฐานะของลูกและหน้าที่ที่ต้องดูแลเท่านั้น"...." ถามออกไปทั้งๆที่รู้ว่าไม่มีทางจะได้คำตอบ"บอกแม่แล้วนะครับ แม่แค่ฝากความเป็นห่วงมาเท่านั้น""....""แม่หวังว่าพ่อจะเข้าใจ ที่แม่ไม่สามารถมาได้" พูดคนเดียวทั้งๆที่รู้ว่าพ่อไม่มีทางได้ยิน"....""แล้วก็ขอโทษด้วยนะครับที่ไม่สามารถให้แม่เลี้ยงกับลูกของเธอใช้นามสกุลของเราได้อีกต่อไป" แม่เลี้ยงถูกพาไปไว้ที่ไหนสักแห่ง ที่ๆเธอจะไม่สามารถกลับมาได้อ
ในที่สุดเราก็ได้เจอกันสักที พรหมลิขิตทำให้เราพัดพรากจากกัน จนวันนี้ทุกอย่างก็นำพาให้เราได้กลับมาเจอกัน ความจริงบรรยากาศการพบกันครั้งแรกของคู่หมั้น คงต้องให้ความรู้สึกประมาณนี้ แต่ความจริงนั้น ฉันแทบจะพุ่งเข้าไปบีบคอเขาให้แหลกคามือ"ยินดีต้อนรับค่ะ...คู่หมั้น" แม้ว่าประโยคหลังจะกัดฟันพูด แต่ใบหน้ายังคงฝืนยิ้มให้กว้างมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ฉันพิจารณาผู้ชายตรงหน้า ฉันคิดว่าเขาจะโดดเด่นมากกว่านี้ซะอีก ใบหน้าเปลี่ยนไปจากเดิมในทางที่ดี...ดีแบบหล่อมาก แต่นอกนั้นดูไม่มีอะไรน่าสนใจ เสื้อฮูดตัวหนาสีดำ กางเกงยีน รองเท้าผ้าใบบนใบหน้าสวมทับด้วยแว่นสายตา แววตานิ่งเฉยจ้องมองมาทางฉัน ทั้งหมดของเขาธรรมดาซะจน...จืดชืด"ขอบคุณที่มารับ" เสียงทุ้มเอ่ยพูด พร้อมกับขายาวที่ก้าวเดินเข้ามาใกล้"จะไปไหน" ฉันก้าวเดินเข้าไปดักหน้า สายตาของเราทั้งคู่จ้องมองกัน"อยากเจอขนาดนั้นเลยเหรอ เดี๋ยวยังไงผมก็ต้องเข้าไปหาคุณเฮเลนอยู่แล้ว""ไม่ได้อยากเจอขนาดนั้นหรอก แค่อยากเห็นหน้า""พูดเหมือนว่ากำลังชอบเลยนะครับ" จะอ้วก แค่ฟังก็ขนลุกซู่ละ"หึ!" เห็นฉันเป็นพวกตกหลุมรักง่ายหรือไงตึก ตึก ตึกแต่ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรต่อ กลุ่มค
เวลา 01.30 น. ณ บาร์โฮสของเฮเลนเสียงเพลงดังสนั่นไปทั้งร้าน แต่นั่นก็ไม่สามารถทำให้การพูดระหว่างสามสาวลดลงได้เลย"ไม่รู้อ่ะฉันต้องได้กระเป๋า!" คิมเพื่อนสนิทของฉันกำลังแหกปากแข่งกับเสียงเพลง เธอกับเคททะเลาะกันเรื่องกระเป๋าคอลเลคชั่นใหม่ที่ออกมาแล้วหมดภายในห้านาที โดยที่ไม่มีเหลือให้สำหรับยัยคิมแม้แต่ใบเดียว"ก็บอกว่ามันหมด!" เคทแหกปากแข่งกับเสียงเพลง ส่วนฉันนั่งมองทั้งคู่สลับกันไปมา"สั่งทำพิเศษให้สำหรับฉันเดี๋ยวนี้!" คิมยังไม่ยอมแพ้ เมื่อเหล้าเข้าปาก ความเอาแต่ใจจึงเริ่มขึ้น"ไม่ทำย่ะ!" เคทตะโกนใส่เพื่อนอีกครั้ง ก่อนจะยกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม"แกเปลี่ยนไปเคท แกไม่รักฉันเหมือนเดิม!" คิมเบะปากและจ้องหน้าเคท"ฉันไม่ได้เปลี่ยนไป แค่ฉันไม่มีหนังทำกระเป๋าให้แกแล้วยัยบ้า!""ฮึก!" เอาเข้าไปยัยสองคนนี้ อีกคนเมาก็ชอบมีอะไรแปลกๆออกมา อีกคนเมาแล้วก็ชอบดุ ไม่ใจดีกับเพื่อน"เออๆ หยุดร้องเดี๋ยวทำให้" เคทตัดบทด้วยความรำคาญ สุดท้ายยัยนี่ก็ยอมตามใจคิมอยู่ดีนั่นแหละ"กรี๊ด! ทำไมเกิดมาแล้วสวย ใจดี รวยน้ำใจกับเพื่อนขนาดนี้เนี่ย ฉันจะบวชให้แกหนึ่งพรรษา!" คิมโดดลงจากเก้าอี้บาร์ตัวสูงแล้วพุ่งตัวเข้าไปกอดเคทเอาไว