FAZER LOGIN(มาร์ชิน)
หมับ!
แขนแกร่งสวมกอดแม่ของเขาจากด้านหลังในขณะที่เธอกำลังจัดเตรียมอาหารเย็นก่อนที่จะลูกชายของเธอจะต้องบินกลับไปอิตาลี
"เตรียมของครบแล้วใช่ไหมลูก"
"ครับ" เขาคลายอ้อมกอดออก แล้วเดินไปนั่งยังเก้าอี้โต๊ะอาหาร
"ขออนุญาตครับ" ลูกน้องคนสำคัญเดินตามหลังเข้ามาและนั่งลงร่วมโต๊ะอาหารในแบบทุกครั้ง
"ต่อจากนี้คงต้องกินข้าวคนเดียวแล้วสินะ" เธอหันไปส่งยิ้มให้กับทั้งคู่
"ไม่หรอกครับ เดี๋ยวผมก็กลับมา" มาร์ชินพูดจบก็ยกแก้วน้ำชาขึ้นดื่ม เขาไม่ได้จะไปถาวรสักหน่อย
"กลับมาเยี่ยมแม่น่ะได้ แต่ไม่ใช่คิดว่าจะกลับมาอยู่ที่นี่ถาวรนะ อย่าลืมว่าลูกมีสิ่งที่ต้องดูแล" ไม่มีใครรู้ทันเขามากไปกว่าแม่อีกแล้ว
"ถ้างั้น แม่ก็ไปอยู่กับผมสิครับ" คำพูดของลูกชายทำให้เธอหยุดชะงักทันที
"ให้มันเป็นแบบนี้แหละดีแล้ว เชื่อแม่สิ"
"ครับ ผมรู้ว่าแม่ตัดสินใจดีแล้ว"
"ทานอาหารกันก่อนนะ แล้วค่อยเดินทางกัน อาจจะจืดไปสักหน่อยนะวันนี้"
เธอวางชุดอาหารลงตรงหน้าพวกเขาทั้งคู่ เมื่อจัดเตรียมทุกอย่างเสร็จก็นั่งร่วมโต๊ะกับพวกเขาอีกคน
"อาหารฝีมือนายหญิงอร่อยที่สุดแล้วครับ ไม่ว่าจะผ่านมากี่ปีก็ไม่เคยเปลี่ยนไปเลย" คำชมที่ออกมาจากใจจริง เพราะเขาทำงานให้อดีตสามีของเธอมาตั้งแต่ก่อนที่เธอจะเข้ามา
เมื่อก่อนเธอชอบทำอาหารเลี้ยงลูกน้องทุกคนเป็นประจำ เธอคือผู้หญิงที่เพียบพร้อมทุกอย่างไม่มีที่ติ แต่ด้วยปัญหาระหว่างเจ้านายทั้งสองที่เราทุกคนไม่สามารถเข้าไปยุ่งได้ ทำให้ต้องยอมรับการตัดสินใจของเธอ
"บอกว่าให้เลิกเรียกนายหญิงไง" เธอต้องคอยเตือนทุกครั้งและมันก็ไม่เคยได้ผลสักครั้ง พวกเขายังคงเคารพเธอเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน
"ครับ" แม้จะรับปากแต่ก็ไม่เคยทำตาม เธอได้แค่ส่ายหัวด้วยความเหนื่อยใจ ก่อนจะหันมองไปยังลูกชายตัวเอง
"มาร์ชิน" เสียงเรียกของผู้เป็นแม่ ทำให้เขาละสายตาจากอาหารตรงหน้าขึ้นสบตาเธอ
"ครับ"
"ใจดีกลับพวกเขาหน่อยนะลูก" 'พวกเขา' ที่เธอหมายถึงก็คือ ภรรยาใหม่ของอดีตสามีกับลูกติดของผู้หญิงคนนั้น
"ได้ครับ" รอยยิ้มบางๆปรากฏบนใบหน้าของลูกชาย เธอคาดหวังว่าเขาจะทำตามที่รับปากจริงๆ
"แล้วก็..." เธอหยุดพูดแล้วยกมือเท้าคางส่งยิ้มหวานให้ลูกชาย
"...." เขาได้แต่ส่งสายตาสงสัยให้กับแม่ของตัวเอง
"เอ็นดูหนูเฮเลนด้วยนะ"
"...." ทำไมใครๆก็พูดถึงแต่ผู้หญิงคนนี้อยู่เรื่อยเลยช่วงนี้
"ได้ยินหรือเปล่า" เธอรู้ดีกว่าใคร ว่ามาร์ชินตั้งใจยกเลิกการหมั้น หลังจากที่เขาจัดการปัญหาส่วนตัวจบ
"ขอไม่รับปากนะครับ"
"ถ้างั้นเอาแบบนี้ สัญญากับแม่ก่อนว่าจะไปพบเธอ"
"...."
"ได้ไหมมาร์ชิน"
"ถ้างั้นขอถามอะไรหน่อยก็แล้วกันครับ สาเหตุที่เราต้องหมั้นกันเพราะอะไร" คลุมถุงชนแบบไร้เหตุผล แล้วในตอนนั้นพวกเขาทั้งคู่ยังเป็นเด็กอีกด้วย
"แม่เป็นคนสัญญากับแม่ของหนูเฮเลนเอาไว้เอง เราทั้งคู่เป็นเพื่อนรักกัน"
"...." มาร์ชินจิ้มผักเข้าปาก พร้อมกับตั้งใจฟังสิ่งที่แม่กำลังพูด
"แม่สัญญาว่าจะให้ลูกชายของแม่เป็นคนดูแลลูกสาวของเธอแทนเธอเอง เพราะหลังจากที่เฮเลนเกิดมาไม่นานแม่ของเธอก็จากไป"
"...." สัญญาใจของผู้ใหญ่ที่เขาไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธด้วยซ้ำ
"ไปพบเธอหน่อยนะหนูเฮเลนน่ะ รู้จักกับเธอสักนิดเผื่อมาร์ชินของแม่จะเปลี่ยนความคิด"
"ไปพบเธอได้ครับ แต่ความคิดคงไม่เปลี่ยน"
"...." เธอจ้องลึกเข้าในนัยน์ตาของลูกชาย
"ขอให้ผมจัดการเองก็แล้วนะครับ จะไม่ให้แม่ต้องเดือดแม้แต่เรื่องเดียว"
"รู้อยู่แล้วแหละว่ามาร์ชินไม่ทำให้ใครเดือดร้อน แต่ ไป พบ เฮเลน ด้วย" เธอพูดย้ำด้วยน้ำเสียงจริงจัง
"เฮ้อ" เขาถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เพราะคำสั่งของแม่เพียงคนเดียวเท่านั้นที่เขาจะยอมทำตาม
"เข้าใจใช่ไหม"
"....ครับ" ก็รับปากไปก่อน แล้วหลังจากจัดการเรื่องของเขาเสร็จก็ค่อยว่ากัน
หลังจากทานอาหารกันเสร็จและล่ำลาแม่เรียบร้อย มาร์ชินก็เดินออกจากรั้วบ้าน เลยซอยบ้านของเขาสักหน่อยเพื่อให้ห่างจากสายตาของคนอื่นในละแวกนี้ รถยนต์หรูสีดำคันหนึ่งจอดรอรับเขาอยู่ไม่ไกลนัก กลุ่มชายหลายคนที่ปะปนใช้ชีวิตอยู่รอบตัว ต่างก้มหัวให้เมื่อเขาเดินผ่าน แม้ว่าเขาจะไม่อยู่แต่ก็ไม่ต้องเป็นห่วงว่าจะไม่มีใครดูแลแม่ เพราะตลอดที่ผ่านมาคนพวกนี้ก็ปะปนใช้ชีวิตดูแลอดีตนายหญิงเป็นอย่างดีมาตลอด
"แจ้งไปที่อิตาลีว่าฉันไปรอบเที่ยวบินสองทุ่ม" จากญี่ปุ่นไปอิตาลีก็น่าจะใช้เวลาประมาณสิบสองชั่วโมงกว่าจะไปถึง
"ทำไมแจ้งเที่ยวบินจริงล่ะครับ ผมนึกว่าคุณมาร์ชินจะแจ้งเวลาหลอกคนพวกนั้นซะอีก" ถ้างั้นจะให้เขาจองสองเที่ยวบินทำไม แทนที่จะให้ไปพร้อมกันก็จบ แล้วที่บอกว่าจะตบตาคู่หมั้นตัวเองการแจ้งเวลาจริงไปทางอิตาลีแบบนี้ ยังไงคนพวกนั้นก็สืบรู้
ปึง! คนตัวสูงก้าวเข้าไปนั่งในรถ กระจกรถเลื่อนลงช้าๆ เขาหันไปมองผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างรถ ลูกน้องของเขายังคงทำหน้าสงสัยในสิ่งที่เขาทำไม่หาย
"เธอไม่เชื่อเวลาจริงที่ฉันบอกหรอก"
"ผมยิ่งไม่เข้าใจไปใหญ่เลยครับ"
"ก็...คนที่หายไปสิบปีอยู่ๆก็ตามเจอได้อย่างง่ายดาย เธอต้องสนใจที่ไฟลต์บินที่ถูกจองในนามมัสชิโม่อีกเที่ยวที่ไม่มีคนสนใจน่ะสิ"
"...." ลูกน้องอย่างเขาได้แต่ยืนอ้าปากค้าง ขนาดทั้งสองยังไม่ได้เจอกันนะเนี่ย
"เดี๋ยวก็ค่อยดูว่าเธอจะตามหาฉันเจอ ก่อนที่ฉันจะไปพบเธอด้วยตัวเองหรือเปล่า"
"แล้วถ้าเธอตามหาคุณมาร์ชินไม่เจอล่ะครับ" ดวงตาสีดำสนิทก้มมองกล่องกำมะหยี่สีแดง ที่เขาล้วงมันออกมาจากกระเป๋าเสื้อฮู้ดตัวหนา
"คำขอของแม่ก็ไม่ได้ผล" ถ้าแบบนั้นเธอก็แค่ยัยคุณหนูลูกสาวมาเฟียซื่อบื้อคนหนึ่ง ที่ไม่มีลูกเล่นให้น่าสนใจ
"แล้ว...ถ้าเธอเจอล่ะครับ" คำถามที่สองของลูกน้องคนสนิท ที่ทำให้หัวใจของเขากระตุกวูบแปลกๆ
"...." นั่นสินะ ถ้าเธอเจอล่ะ
"แต่ทั้งคู่ก็ไม่เคยเห็นกันในปัจจุบันนี้เลยนิครับ" ก็จริงอย่างที่ลูกน้องของเขาพูด ผู้หญิงคนนั้นเขาเองก็ยังไม่เคยเห็นเธอเหมือนกัน
"...มีรูปของเธอไหม"
"มีครับ" เมื่อได้ยินคำถามของผู้เป็นเจ้านาย เขาก็รีบลนลานหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดรูปของเธอทันที
"...." อะไรจะดูตื่นเต้น ลนลานขนาดนี้
"นี่ครับ" หน้าจอโทรศัพท์ปรากฏเป็นรูปภาพของหญิงสาวคนหนึ่ง
ผมยาวตรงสีดำ ผิวขาวผ่องอมชมพู คิ้วเรียวทรงสวยได้รูป ดวงตาคมโตราวกับรูปปั้นเทพธิดา ริมฝีปากบางกระจับสวย ชุดเดรสเข้ารูปทำให้เห็นสัดส่วนของเธอได้อย่างชัดเจน
แม้จะตัวเล็กแต่หน้าอกที่ดูจะเกินตัวหน่อย ทำให้บุคคลด้านหลังที่ติดอยู่ในภาพต่างจ้องมองมาที่เธอ แต่สิ่งที่สะดุดตาเขามากที่สุด คือขวดเตกีร่าในมือ
"ยัยขี้เมาเนี่ยเหรอคู่หมั้นฉัน"
"เอ่อ เธอแค่ชอบดื่มมั้งครับ..."
"ช่างเถอะ ไม่ได้สนใจอยู่แล้ว" เขาส่งโทรศัพท์คืน พร้อมกับกดเลื่อนกระจกขึ้น แต่ก็ถูกขัดจังหวะลูกน้องตัวเองอีกครั้ง
"คุณมาร์ชินยังไม่บอกเลยนะครับ ว่าถ้าเธอเจอคุณก่อนจะทำยังไง"
"ก็..." เขานิ่งเงียบไปอย่างใช้ความคิด แต่ต่อให้พูดอะไรยัยนั่นก็ไม่มีทางหาเขาเจออยู่แล้ว
"...." บุคคลนอกรถแอบใช้โทรศัพท์กดเปิดบันทึกเสียงไม่ให้เจ้าตัวได้รู้
"ไม่ต้องมาแอบบันทึกเสียงฉัน" คำพูดรู้ทันทำให้ลูกน้องของเขาสะดุ้ง
"....ครับ" เขาเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าตัวเองหลังจากถูกจับได้ ไม่เคยตบตาผู้ชายคนนี้ได้จริงๆ
กระจกรถก็ถูกเลื่อนขึ้นจนปิดสนิท ไม่มีคำตอบสำหรับคำถามของเขาออกมาให้ได้ยิน ยังคงเป็นบุคคลที่คาดเดาอะไรไม่ได้เช่นเคย เหมือนคุณพ่อไม่มีผิด
รถยนต์สีดำวิ่งผ่านทุ่งหญ้าสีเขียว มุ่งตรงไปยังสนามบิน บุคคลในรถนั่งมองกล่องสีแดงในมือ ริมฝีปากแดงคล้ำยกยิ้มมุมปาก เมื่อนึกถึงคำถามที่เขายังไม่ได้ตอบ ถ้าเธอเจอเขาก่อนงั้นเหรอ...ก็น่าสนุกดีนิ
‧͙⁺˚*・༓☾ หมั้นรักกับดักมาเฟีย ☽༓・*˚⁺‧͙
“ไม่คิดถึงสามี แต่สามีคิดถึงมากนะแล้วต้องนอนคนเดียวแบบนั้นไม่ใจร้ายไปเหรอเฮเลน” เสียงมาร์ชินดังขึ้นตามหลังระหว่างทางเดินไปยังห้องพัก ตอนนี้เด็ก ๆ ต่างถูกพาไปจัดการธุระส่วนตัวและฉันก็ต้องจัดการพ่อของพวกเขาเป็นรายต่อไป“...” ร่างบางเดินนำหน้าในขณะที่คนตัวสูงเดินตามมาติด ๆ“ขาดใจตายเลยนะต้องห่างจากเมีย” น้ำเสียงปนเศร้าที่ฉันรู้สึกหมั่นไส้มากกว่าน่าสงสาร “ก็ให้ตายไปเลย” พูดโดยไม่หันไปสนใจเขา เมื่อเดินเข้ามายังห้องพักก็ตรงเข้าไปยังห้องแต่งตัวเพื่อเตรียมของใช้ให้สามีในการไปใช้ชีวิตแยกห้องนอนครั้งแรกตั้งแต่เราแต่งงานกันมาหมับ! ร่างสูงโอบกอดเอวบางจากด้านหลังปลายคางวางลงบนไหล่เล็ก“ใจร้ายจังครับที่รัก” เสียงทุ้มดังขึ้นข้างหู ลมหายใจร้อนเป่ารดต้นคอแขนของเขากระชับอ้อมกอดจากด้านหลัง “...” ลูกอ้อนเริ่มมากอีกแล้ว ฉันไม่สนใจเขาแล้วเริ่มจัดเตรียมของส่วนตัวเพื่อย้ายไปอีกห้อง“เอาจริงเหรอเนี่ยเฮเลน” มาร์ชินรวบมือที่กำลังจัดของใช้ของเขามากอดเอาไว้แน่น ไม่ยอมให้ฉันทำอะไรไปมากกว่านี้“คนอย่างมาร์ถ้าไม่เอาจริงก็ไม่รู้สึกเลย” “รู้สึกสิครับ เวลาเมียดุน่ะน่ากลัวมากแค่ไหนทำไมจะไม่รู้” “กลัว...กลัวแล้วพาเด
ณ ห้องพักโรงพยาบาล“เดี๋ยวทำแฝดสี่รอแป๊บ...โอเคไหมครับคิม” เสียงการ์เนทเอ่ยขึ้น ในขณะที่คนถูกถามทำหน้านิ่งโดยไม่หันไปโต้ตอบหรือสนใจสิ่งที่สามีตัวเองพูด “ฉันจะทำเป็นไม่ได้ยิน” คิมนั่งเกาะขอบเตียงไม่คิดจะหันไปตอบสิ่งที่สามีตัวเองถามฉันสบตากับคิมแล้วเราทั้งคู่ก็หัวเราะให้กัน ก็ตั้งแต่ตื่นมาการ์เนทกับมาร์ชินก็เถียงกันไม่หยุดและเรื่องที่หมดที่เถียงกันก็มีแต่เรื่องลูก พอบางครั้งกลัวฉันกับคิมจะได้ยินสิ่งที่ไม่ควรได้ยินทั้งคู่ก็ไปใช้ภาษาญี่ปุ่นคุยกันแทน ฉันกับคิมได้แต่ทำเป็นไม่ใส่ใจแล้วปล่อยพวกเขาไป “เมียไม่สนใจ” เมื่อคิมไม่สนใจก็เข้าทางมาร์ชิน เหนื่อยใจกับทั้งคู่จริง ๆ“กลับไปทำเมื่อไหร่ก็ได้ มีเชื้อแฝดอยู่แล้ว” สองคนนี้นี่นะ“แล้วหลานอยู่กับใคร”หลังจากออกจากห้องคลอดจนมาพักฟื้นลืมตาตื่นขึ้นมานอกจากมาร์ชินก็เจอคิมกับการ์เนท ส่วนพวกผู้ใหญ่ก็กำลังออกไปจัดการกับนักข่าวที่ให้ความสนใจกับฉันกันมากมาย ฉันเข้าใจความรู้สึกของเคทกับคิมแล้วว่ารู้สึกยังไงตอนที่คลอดลูกแล้วพวกนักข่าวมารุมล้อมให้ความสนใจเนี่ย “หลานอยู่กับคุณตาคุณยายแล้วก็น้าของพวกเขา” “พูดถึงน้านี่ยิ้มกว้างเลยนะ” คิมบอกว่าตั้งแต่ที่ท้
หลายวันต่อมา “ร้อนหรือเปล่าครับนายหญิง เร่งแอร์ขึ้นอีกเหงื่อนายหญิงออกแล้ว!” เสียงตะโกนโหวกเหวกของหัวหน้าพ่อบ้านทำให้ทั่วห้องครับเกิดความวุ่นวายขึ้นอีกครั้งเป็นรอบที่ 3 สำหรับวันนี้“ไม่ร้อนค่ะ ๆ แต่ช่วยหยุดก่อน ฉันกำลังใช้สมาธิ” ทุกคนหยุดการเคลื่อนไหว แล้วมองสิ่งที่ฉันกำลังทำสองมือจับเปลือกไข่แล้วเทไข่แดงสลับไปมาระหว่างฝาทั้งสองด้วยความตั้งใจ ช่วงนี้ฉันกำลังเริ่มหัดทำขนมถึงแม้ว่ามาร์ชินจะซื้อตัวเชฟขนมหวานอันดับต้น ๆ ของญี่ปุ่นมาไว้ที่มัสชิโม่แล้วก็ตาม แต่ถ้าฉันใช้โอกาสนี้ให้เขาช่วยสอนไปด้วยก็ถือว่าเป็นการหาอะไรทำฆ่าเวลาไปด้วย เพราะมาร์ชิน ไคล์ โรส ทั้งสามคนไม่ยอมให้ฉันทำงานที่ต้องใช้ร่างกายและสมองมากเกินไป“ทำอะไรกันอยู่” ท่ามกลางความเงียบ ก็มีเสียงเอ่ยถามจากด้านหลังทำให้ฉันที่กำลังใช้สมาธิสะดุ้งด้วยความตกใจและไข่แดงที่กำลังรีดไข่ขาวออกก็ร่วงหล่นจากฝาลงไปรวมกับไข่ขาวในถ้วยและแตกต่อหน้าต่อตา“...” ฟองสุดท้ายแล้วนะ...“เฮเลนทำอะไรอยู่ แล้วทำไมเหงื่อแตกเต็มหน้าผากขนาดนี้” มาร์ชินเดินเข้ามาหยุดข้างกาย แล้วเอียงหน้ามองฉันที่ยังคงยืนค้างไม่ยอมขยับ ฟองสุดท้ายแล้วอะ! ฟองสุดท้ายก็จะได้เริ่ม
หลายเดือนต่อมา (หลังจบงานแต่งเคท)ก๊อก ๆ ๆเสียงเคาะประตูห้องทำงานดังขึ้นแล้วก็ถูกเปิดออกช้า ๆ ร่างบางในชุดเดรสกระโปรงถือถาดกาแฟและของว่างเข้ามา ฉันวางลงบนโต๊ะตัวเล็กและนั่งลงบนโซฟา สายตาจ้องมองไปยังมาร์ชินที่กำลังทำงานในมือด้วยความตั้งใจ“...” ทั่วทั้งห้องอยู่ในความเงียบ“...” เขาไม่คิดจะทักทายหรือหันมามองด้วยซ้ำ“มาร์ชิน” เสียงเล็กเรียกชื่อเขา แต่อีกฝ่ายก็ไม่เงยหน้าจากเอกสารเขาเพียงส่งเสียงตอบกลับมาเท่านั้น“อือ” “...” คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน “...” เมื่อฉันไม่พูด เขาก็ไม่พูด“พักดื่มกาแฟก่อนไหม เมื่อเช้าก็ยังไม่ได้กินอะไรเลยนิ” “อือ เดี๋ยวค่อยกิน” “...” ริมฝีปากเม้มแน่น มือเล็กกำเพื่อพยายามระงับความรู้สึกบางอย่างในใจ“...” และเขาก็สนใจแต่งานอีกครั้ง “แค่สิบนาทีคงไม่เป็นอะไรหรอกมั้ง มาทานก่อนฉันทำของที่นายชอบด้วยนะ” “อือ” อีกครั้งที่เขาตอบรับเพียงสั้น ๆพึ่บ! ฉันลุกขึ้นจากโซฟา สายตาจ้องมองไปยังสามีตัวเอง มาร์ชินยังไม่สนใจฉันเช่นเดิม“ไม่กินก็ไม่ต้องกิน พูดแต่คำว่าอือ ฮึก! ไม่อยากคุยกันก็ไม่ต้องคุย! ฮึก!” พูดจบก็เดินออกจากห้องไปทันที ครืด!“เดี๋ยวเฮเลน!” คนตัวสูงวางงานในมือลงด้ว
หลายวันต่อมาณ คฤหาสน์แอซเซอร์ ห้องรับประทานอาหาร เวลา 20.30 น.“ถ้าไม่ทำแบบนั้นทั้งสองคนจะรู้ใจตัวเองกันไหมล่ะ แต่แผนนี้ก็ได้มาจากทางฝั่งของมัสชิโม่ด้วยนะ” พ่อยืดอกพูดด้วยความภาคภูมิใจ แทนที่จะรู้สึกผิดที่โดนเราทั้งสองจับได้พ่อกับรู้สึกภูมิกับมันมากเข้าไปอีกเพราะเรื่องภาพถ่ายปริศนาที่ส่งไปให้มาร์ชินในหลายครั้งนั่นก็มาจากฝีมือของแอซเซอร์ คำสั่งของพ่อคือตามถ่ายภาพเหตุการณ์น่าสนใจของฉันแล้วส่งให้มาร์ชินแบบลับ ๆ ด้วยเหตุผลที่ว่าความรักไม่มีขวากหนามมันจืดจางเกินกว่าจะเป็นรักของหนุ่มสาว ถึงแม้มันจะได้ผลอย่างไม่น่าเชื่อทำให้เราทั้งคู่รู้ใจตัวเองก็ตาม แต่ก็มีคนที่จะเป็นบ้ากับสิ่งนี้อยู่หนึ่งคน“มีคนเกือบเป็นบ้าค่ะพ่อ ไม่ใช่แค่รู้ใจตัวเอง” พูดจบก็ปาดสายตามองไปยังบุคคลที่นั่งอยู่ข้างกาย มาร์ชินยกแก้วไวน์ขึ้นจิบแล้วหันมองไปทางอื่น“ไม่ใช่แค่เกือบ แต่เป็นบ้าด้วยกันมันทั้งคู่นั่นแหละ” พ่อสิ่งยิ้มให้เราทั้งคู่ แล้วยกแก้วไวน์ขึ้นดื่มอีกคน“แล้วพ่อจะไปเที่ยวกับเพื่อนที่ประเทศไหนก่อนเหรอครับ” มาร์ชินพูดขึ้น เพราะอีกไม่กี่วันพ่อก็จะไปพักผ่อนและทำในสิ่งที่ตัวเองอยากจะทำแล้ว “คง...จะเริ่มที่เบลารุส”
พึ่บ!ร่างบางถูกพลิกนอนราบลงบนเตียง ลำตัวหนาแทรกกลางระหว่างขาเรียวฝ่ามือดันขาทั้งสองข้างอ้ากว้างออก แล้วโน้มหน้าพรมจูบลงต้นขา นัยน์ตาคมช้อนขึ้นสบตาคนตัวเล็ก ปลายนิ้วแตะบดขยี้เนินอูมเพียงเบา ๆ ก็ทำให้ร่างบางบิดเร้าด้วยความเสียว “อื้อ!”เสียงเล็กครางในลำคอเมื่อรู้สึกถึงริมฝีปากจูบลงบนเนินเนื้อเนียนช่วงล่าง นิ้วยาวสอดเข้าสัมผัสความนุ่มลื่นภายใน ริมฝีปากชื้นไซ้สัมผัสตามผิวกายเนียนนุ่ม นิ้วยาวเริ่มขยับเข้าออกตามจังหวะ ร่างบางบิดเร้าด้วยความเสียวในช่องท้อง มือเล็กจิกกำผ้าห่มแน่นเพราะรู้สึกได้ถึงนิ้วที่สอดเพิ่มเข้ามาอีกหนึ่ง เนินอูมถูกรุกล้ำอย่างหนักหน่วงแล้วถูกกลืนด้วยปากร้อนระอุ “อะ!”มือเล็กกำผ้าปูที่นอนแน่นกลั้นเสียงครางไว้ในลำคอ มือหนาข้างที่ว่างส่งขึ้นมาบีบเคล้นเต้าสวยเต็มมือถูกกระตุ้นความต้องการร่างเปลือยบิดเร้าไปมา คนตัวเล็กหอบหายใจถี่เมื่อนิ้วยาวทั้งสองขยับเข้าออกเร็วขึ้น ลิ้นชื้นดูดกลืนน้ำหวานจากกลีบดอกไม้สีสวย“อื้ม”เสียงครางในลำคอของเขาบ่งบอกได้ถึงความพึงพอใจ มาร์ชินกดจูบลงบนเนินอูมหนักอีกครั้งแล้วยันตัวขึ้นสบสายตาร่างบางที่ปรือตามมองมาที่เขาเช่นกัน นิ้วยาวถอนออกช้า ๆ เขายกนิ้







