ประสานมือนอบน้อม สายตาที่มองไปยังหนิงอันอ่อนโยนจนเฉินหยวนสัมผัสได้
ขยับกายตั้งใจจะจับชีพจร เฉินหยวนในฮ่องเต้ขึ้นไปนั่งบนแท่นนอน ดึงตัวหนิงอันให้พิงอกกว้าง ให้หมอไป๋ได้ตรวจดูอาการป่วย
“สนมสุ่ยเอ่อ สนมจิวยี่ สนมอิงจื่อ เสด็จจจจ”เสี่ยวโอขานดังๆ
เฉินหยวนฮ่องเต้ กระชับอ้อมกอดแนบแน่นจนหนิงอันรู้สึกอึดอัด
“สุยเอ่อถวายพระพรฝ่าบาท จิวยี่ถวายพระพรฝ่าบาท อิงจื่อถวายพระพรฝ่าบาท”ย่อกายลงพร้อมกัน อิงจื่อยังมาพร้อมกับใบหน้าเศร้าสร้อย จิวยี่ที่มองภาพเฉินหยวนฮ่องเต้กอดประคองหนิงอันด้วยสายตาริษยา ไม่ต่างจากสุ่ยเอ่อแต่ทว่าสุ่ยเอ่อนางเจ็บแค้นในใจไม่น้อยด้วยนางไม่เคยเจียมตัวถูกเลี้ยงดูมาว่าสูงส่งเกินใคร
“ออกไปรอด้านนอก ท่านหมอกำลังตรวจดูอาการป่วยของสนมหนิงอัน”
น้ำเสียงเรียบเฉยทว่าเฉียบขาดของเฉินหยวนฮ่องเต้ที่คนฟังรู้สึกได้
“ฝ่าบาทสุยเอ่อแวะมายินดีกับสนมหนิงอัน”
“นางป่วยเจ้ามายินดีเรื่องอะไรกัน”
เสียงเข้มมีแววตำหนิ สุ่ยเอ่อหน้าเสีย
“เอ่อ พี่หญิงไม่ได้หมายความอย่างนั้นหรอกเพคะ พี่หญิงคงไม่รู้ว่าน้องหญิงหนิงอันกำลังป่วยคงแค่แวะมายินดีที่ได้เข้าวัง”
จิวยี่รีบแก้ตัวแทน และอยากมีตัวตนขึ้นมาในตอนนั้น หากจะเห็นว่าสายตาของเฉินหยวนมองจิวยี่และสนมทั้งสองราวกับอากาศธาตุ
“พวกเจ้าพร้อมใจกันมาขนาดนี้ ทำให้สนมหนิงอันไม่ได้พักผ่อน”
สุ่ยเอ่อยิ้มมุมปาก
สุ่ยเอ่อกับฝ่าบาทเป็นศัตรูกันหรือไร ฝ่าบาทจึงทำเหมือนว่าสุ่ยเอ่อมารบกวนหนิงอัน สุ่ยเอ่อเองก็มิได้อยากจะอ่อนข้อให้ใคร
หมอไป๋จับชีพจรที่เต้นตึกตัก ตีรวนของหนิงอัน เหงื่อผุดเต็มใบหน้าเพราะเฉินหยวนกอดไว้ต่อหน้าคนหมู่มากเสียแน่น
“ฝ่าบาท อิงจื่อแวะมาประจำในทุกวันเพื่อเป็นเพื่อนคุยกับน้องหญิงหนิงอัน พอได้เวลาที่ฝ่าบาทจะมาอิงจื่อจึงกลับ วันนี้ก็เช่นกัน …น้องหญิงฝ่าบาทอยู่นี่แล้ว เจ้าคงไม่เหงาแล้ว ข้ากลับตำหนักก่อนไว้พรุ่งนี้เจ้าเหงาๆ จึงจะมาเป็นเพื่อนคุยกับเจ้าเช่นเดิม”
น้ำเสียงเศร้าสร้อยอ่อนหวานเหมือนเช่นทุกครั้ง อิงจื่อย่อกายจากไปง่ายดาย
สนมอีกสองคนก็ย่อกายเดินออกจากห้อง เฉินหยวนคลายอ้อมกอดออกเหลือเพียงการกอดแบบหลวมๆ เอ่ยปากถามหมอไป๋
“อาการป่วยของนางเป็นอย่างไรบ้าง”หมอไป๋ยิ้มบางๆ
“ทูลฝ่าบาทพระสนมต้องไอเย็น ตำหนักสวรรค์ประทานลมผ่านเข้าออกปลอดโปร่งดี ข้าน้อยจึงเห็นว่าควรจะจัดห้องบรรทมให้มิดชิดอบอุ่นกว่าที่อื่น เพราะพระสนมเวลาที่หลับไปแล้วมักจะถีบผ้าห่มออกเสมอ”
เฉินหยานฮ่องเต้พยักหน้าขึ้นลง
“เสี่ยวโอรับบัญชาข้า ให้คนมาสร้างเตาพิงด้านในเพื่อยามที่อากาศหนาว”หนิงอันยิ้มสดใส
“ดีจังต่อไปไม่ต้องห่มผ้าแล้ว”
“ไม่ได้นะขอรับพระสนม ยามอยู่ที่บ้านหลี่ก็ไม่ห่มผ้าเช่นนั้นจะต้องกินยาบ่อยๆ และยังต้องป่วยไข้ อีกอย่างพระสนมกินยายากหากป่วยไข้ก็ต้องกินยาไปตลอด ต่อไปข้าน้อยจะกำชับเสี่ยวเอิงให้คอยห่มผ้าให้พระสนม”
“ไม่ต้องต่อไปข้าจะดูแลนางเอง ท่านหมอวางใจเถิดข้าจะมานอนที่นี่จนกว่านางจะยอมห่มผ้าเสียที”ไป๋เยว่เทียนยิ้ม
ทุกอย่างเหมือนจะดูราบรื่นดี แต่นั่นเท่ากับดาบสองคม ฝ่าบาทยิ่งโปรดปรานยิ่งเท่ากับผูกเชือกเตรียมไว้สำหรับแขนคอตัวเองวังหลวงแห่งนี้มีสิ่งใดแน่นอนก้าวพลาดเท่ากับจบชีวิต
หนิงอันยังคงยิ้มสว่างสดใสเช่นเดิม
“เราเข้าไม่ถึงตัวนางด้วยซ้ำฝ่าบาทดูแลนาง ..ราวกับกลัวว่าพวกเราจะขย้ำนาง”
“แล้วเราจะต้องทำอย่างไร พี่หญิงยอมไม่ได้นะเจ้าค่ะฝ่าบาทเปลี่ยนไปเพียงนั้นข้าเดิมก็ไม่ได้คิดอะไรอยู่แล้ว แต่ท่านนะสิเมื่อวานก่อนข้าเห็นเหล่านางกำนัลต่างนินทาว่าท่านกำลังจะเป็นช่วงขาลง”
“ใครพูดข้าจะตัดลิ้นมันเสีย”จิวยี่ลอบยิ้ม
“ใครบ้างจะไม่พูดหลายวันมานี้ทุกคนล้วนพูดถึงสนมหลี่ แล้วยังพาดพิงถึงพี่หญิงทั้งนั้นท่านทำใจเย็นหน่อยรอให้นางอับโชค ฝ่าบาทเบื่อนางแล้วเราจึงค่อยทำคะแนนดีไหม” สุ่ยเอ่อเม้มริมฝีปาก
“ฝ่าบาทไม่ยอมให้พวกเราตั้งครรภ์ แล้วจะยอมให้นางตั้งครรภ์หรือไม่นั่นไม่มีใครรู้ใต้เท้าหลี่บิดาของสนมหลี่เป็นขุนนางตงฉินฝ่าบาทเองยังใม่กล้าว่ากล่าวด้วยทำดีไม่มีที่ติ เจ้ากลัวไหมว่านางจะตั้งครรภ์”จิวยี่หน้าเสีย
“เช่นนั้นนางก็รุดหน้าไปกว่าพวกเรานะสิ หาทางเล่นงานนางดีไหม”
“เจ้านั่นแหละที่ควรจะหาทางจัดการนาง แล้วข้าจะคอยแก้ต่างให้เจ้าเอง”
จิวยี่ยิ้มแห้งๆ เพียงสติปัญหาของจิวยี่จะทำอะไรได้ สนมอิงจื่อก็อีกคนวันๆ ไม่ทุกข์ร้อนสิ่งใด จิวยี่ถอนหายใจยาว
“คงต้องหาช่องทางใช่ไหม”
“ใช่ ข้าเองก็รอโอกาสที่จะกำจัดนางเช่นกัน”
ตำหนักพระพันปี
“เฉินหยวนฮ่องเต้โปรดปรานสนมหลี่เกินกว่าสนมคนไหน ข้าพูดเรื่องนี้กับเฉินหยวนฮ่องเต้ทว่ากลับเฉยชา หึไม่เห็นหัวข้าอย่างนั้นหรือให้ข้าเป็นไทเฮาแต่ไม่เชื่อฟังข้า สนมสุ่ยเอ่อก็ไร้ความสามารถทุกวันนี้ฝ่าบาทไม่เคยเรียกหานาง ข้าเห็นจะต้องลงแรงด้วยตัวเองตระกูลกู้ของเราเป็นฮองเฮาและไทเฮามาช้านาน จะมายอมง่ายดายให้กับสนมไร้ชื่อเช่นนั้นหรือ”
นางกำนัลข้างกายย่อกายลงช้าๆ
“มีวิธีตั้งมากมายกำจัดสนมเล็กๆ ปลายแถวเช่นสนมหลี่หากแต่จะใช้วิธีไหนที่ฝ่าบาทไม่อาจคาดเดาหรือสาวมาถึงตัวได้”
“เช่นนั้นจึงต้องเป็นเจ้า”
“ไทเฮาวางใจหม่อมฉันจะจัดการเรื่องนี้ให้แนบเนียนที่สุด”
ตำหนักกุ้ยฮวา
“พระสนม พระสนมสบายดีหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”
เรื่องราวก่อนหน้าที่หนิงอันจะเข้าวังหนิงอันนั่งชิงช้าจากเถ้าวัลย์ ใบหน้างามสวมอาภรณ์สีชมพูขาว ใบหน้าสะอาดสดใส บนชิงช้าแกว่งไกล ร่างสูงของเฉินหยวนยืนตะลึงจังงังในมือกำธนูไว้แน่นเขาเข้าป่าล่าสัตว์และตามกระต่ายป่ามาจนกระทั่งพบเข้ากับใบหน้างดงามและรอยยิ้มสดใสนั้น“เทพีสวรรค์หรือไร”เสี่ยวโออมยิ้ม“ฝ่าบาท คุณหนูหนิงอันบุตรีบ้านหลี่ หลี่หนิงอัน”“บุตรีใต้เท้าหลี่อย่างนั้นหรือบิดานางเป็นขุนนางตงฉิน ดีเลยเสี่ยวโอพรุ่งนี้ให้ใต้เท้าหลี่เข้าพบข้าที่ตำหนักทรงงาน ข้ากำลังต้องการขุนนางกรมคลังคนใหม่ปลดคนของตระกูลกู้เสีย”เสี่ยวโอประสานมือ“ข้าอยากรับนางในตำแหน่งสนม”เฉินหยวนยิ้มกว้างในรอบหลายปีที่ผ่านมา“ฮะๆๆๆๆๆ เสี่ยวเอิงแกว่งสูงขึ้นไปอีกได้ยินไหมเสี่ยวเอิง”“คุณหนูเจ้าขา สูงแล้วเจ้าค่ะอันตรายเจ้าค่ะนายหญิงจะดุเสี่ยวเอิงที่ยอมตามใจคุณหนูหากเกิดพลาดพลั้งบาดเจ็บ เสี่ยวเอิงต้องโดนทำโทษแน่เลย”“ไม่ต้องห่วงน่าเห็นไหมท่านพี่ไป๋คอยรับข้าอยู่ด้านหลัง”ไป๋เยว่เทียนเอามือไพล่หลังยืนอมยิ้มอยู่ไม่ไกลนักคอยระวังและจับจตามองหนิงอันอยู่“สนุกจังฮ่าๆๆๆๆๆ ข้าอยากจะยกชิงช้าอันนี้กลับไปไว้ที่บ้านหลี่”ไป๋เยว่เทียนส่า
หนิงอันวิ่งไปหยุดตรงหน้าเฉินหยวนฮ่องเต้ แต่กลับสะดุดชายกระโปรงตัวเองเฉินหยวนรวงบร่างบางไว้ในอ้อมแขนอมยิ้มกับความซุกซน“โอ๊ะๆๆๆ ฝ่าบาทเก่งจังรับหนิงอันไว้ได้ทัน”ยิ้มกว้างสดใสเมื่อร่างบางถูกรวบว้ในอ้อมแขนของเฉินหยวนดวงตากลมโตจ้องใบหน้าหล่อเหลาของเฉินหยวนนิ่ง เฉินหยวนยกมือขึ้นลูบที่แก้มเนียนเบาๆ รอยยิ้มที่เขา เห็นนางในครั้งแรกรอยยิ้มที่อยากจะยิ้มตามยกมือขึ้นอังหน้าผาก หนิงอันเบี่ยงตัวหลบ เฉินหยวนฮ่องเต้ยิ้มน้อยๆ หนิงอันคนเดิม กลับมาแล้วหนิงอันเลือกที่จะจดจำเรื่องราวดีๆ ลบทิ้งเรื่องราวเลวร้ายเสียกำมือเรียวของเฉินหยวนฮ่องเต้มาแนบแก้มเนียน“หนิงอันไม่ชอบให้ใครเอามืออังหน้าผากมันเหมือนว่าหนิงอันกำลังป่วยและต้องกินยา”ไป๋เยว่เทียนยิ้มพยักหน้าให้เสี่ยวเอิงกับเสี่ยวโอออกไปข้างนอก“ในที่สุดก็มีวันนี้”กดจมูกโด่งลงบนแก้มเนียนสองสามที“อะวันไหนกัน ฝ่าบาทขี้โกงฝ่าบาทเอาเปรียบหนิงอัน”“หืม ข้าขอโทษเอาแบบนี้ไถ่โทษโดยการมอบตำแหน่งฮองเฮาให้กับสนมหลี่ดีไหม”พูดไปยิ้มไปหนิงอันทำตาโต“ฝ่าบาทแล้วสนมคนอื่นเล่าฝ่าบาทเอาพวกนางไปไว้ไหนยอมยกตำแหน่งฮองเฮาให้หนิงอันง่ายดายเพียงนี้เชียวหรือ”เฉินหยวนจูงมืออีกค
เฉินหยวนฮ่องเต้เฝ้ามองด้วยความเจ็บปวดในใจ หมอหลวงหนุ่มไป๋เยว่เทียนถอนหายใจยาวสุดจะสะกดกลั้นความรู้สึกหดหู่นั้นได้เช่นกัน“ฝ่าบาท พระสนมไม่รับรู้สิ่งใดแล้ว นอกจากโลกที่นางสร้างขึ้นมา โลกที่มีเพียงนางกับโอรส ธิดาทั้งสอง”“พอกันที เจ้าเลิกทำแบบนี้ได้แล้ว หนิงอัน”น้ำเสียงแหบแห้งในลำคอเฉินหยวนฮ่องเต้คว้ามัดฟางโยนทิ้งไปคนละทิศละทาง รวบร่างบางไว้แนบกาย“ลูกแม่ลูกแม่ อย่าๆๆๆ อย่าพาพวกเขาไป เอาลูกข้าคืนมา ได้โปรดคืนพวกเขามาฮือๆๆๆๆๆ ได้โปรดคืนพวกเขาให้ข้า….”หนิงอันสะอื้นอย่างหนักมือไขว่คว้าหามัดฟางสายตาเหม่อลอยแสดงอาการตื่นตกใจและหวาดกลัว มองหามัดฟางที่เฉินหยวนฮ่องเต้โยนทิ้งไป แม้เฉินหยวนฮ่องเต้จะกอดไว้แน่น ไม่ยอมให้นางไปเก็บเอามัดฟางเหล่านั้น“ฝ่าบาท อย่าทำร้ายพระสนมอีกเลย”ท่านหมอไป๋เยว่เทียน ส่งเสียงเตือนเบาๆ รีบเก็บมัดฟางส่งให้สนมหนิงอัน นางรับมาไว้ในอ้อมแขนเห่กล่อม ด้วยบทเพลงโศกสลด ริมฝีปากเผยรอยยิ้ม รอยยิ้มที่ยังสดใสเหมือนเมื่อครั้งแรกที่เฉินหยวนฮ่องเต้ได้พบนาง เขายังจำมันได้ดี“ไม่เป็นไรแล้วลูกแม่ พวกเขาทำอะไรพวกเจ้าไม่ได้หรอก…..เสด็จพ่อจะต้องปกป้องเรา”เฉินหยวนฮ่องเต้ กลืนก้อนแข็งๆ ล
“ฝ่าบาท เสวยเสียหน่อยวันนี้มีการแต่งตั้งขุนนางชุดใหม่ดำรงค์ตำแหน่งต่างๆ แทนคนเก่าของตระกูลกู้ เช่นนั้นควรจะกินให้มากหน่อย”เสี่ยวโอยกถาดเครื่องเสวยเข้ามา“ไป๋เยว่เทียนเล่า”“เอ่อท่านหมอ ได้ยินว่าวันนี้แวะไปเยี่ยมสุสานของเสี่ยวเอิง อีกสักประเดี๋ยวก็คงจะมา”เฉินหยวนฮ่องเต้วางฎีกาลงตรงหน้า ดึงเอาถ้วยตุ๋นรากบัวมาตรงหน้า“ใต้เท้าหลี่ถวายฎีกาทุกวันตลอดสามเดือนเพื่อให้ข้าปล่อยตัวหนิงอันจากคุกใต้ดิน ความรักของบิดามารดายิ่งใหญ่เสียจนข้าไม่อาจละเลย”“พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาทสมควรจะปล่อยตัวพระสนมโดยเร็วเพราะทุกอย่างเข้ารูปเข้ารอยหมดแล้วคนชั่วรับกรรม ตระกูลกู้ล้วนยอมจำนน”เสี่ยวโอพูดขึ้นยิ้มๆ“คนตระกูกู้ชุดสุดท้ายกำลังจะออกจากวังหลวงก่อนหน้านั้นพวกเขากดดันข้าให้ประหารเจ็ดชั่วโคตรตระกูลหลี่ และให้นำตัวหนิงอันออกมาประหาร มาบัดนี้พวกเขาจึงรู้ว่าข้าไม่ยอมให้ตระกูลกู้มีอำนาจเหนือข้าที่เป็นฮ่องเต้ต้าถังอีกต่อไป”“เช่นนั้นก็ควรพาพระสนมออกมาจากคุกใต้ดินได้แล้วขืนอยู่ต่อไปนานๆ การรักษาล้าช้าจะหมดหนทางเยียวยา อีกอย่างโอรสธิดาทั้งสองของพระสนมที่ท่านหมอส่งคนช่วยไว้จากนางกำนัลเสี่ยวหรานในวันนั้นตอนนี้แข็งแรงดีมีท่านย
“ไป๋เยว่เทียนรอด้านนอก”ก้าวเดินออกจากห้องปล่อยให้เแฺนหยวนกับหนิงอันอยู่ในห้องเฉินหยวนฮ่องเต้ เดินเข้ามาทรุดกายตรงหน้าหนิงอันกอดรวบร่างบางไว้ในอ้อมแขน ไม่เพียงแต่ไม่ปัดป้องหนิงอันยังนิ่งเฉยไม่ได้รู้สึกยินดียินร้ายอะไรเฉินหยวนก้มลงกดจมูกโด่งที่แก้มเนียน“เจ้ายังโกรธข้าอยู่หรือ”“ฝ่าบาท หนิงอันอยากจะกลับไปที่ตระกูลหลี่ ฝ่าบาทหนิงอันอยากจะหย่ากับฝ่าบาทเสียเพื่อว่าต่อไปจะได้ไม่ต้องกลับมาที่วังหลวงอีก”เฉินหยวนนิ่งงัน“เจ้า ไม่อยากอยู่กับข้าแล้วหรือไร เจ้า….หมดรักข้าแล้วหรือไร”หนิงอันถอนหายใจยาว“หนิงอันไม่อาจปรนนิบัติฝ่าบาทได้อีกแล้วในตอนนี้ในหัวใจหนิงอันว่างเปล่า ความรักใคร่ทั้งหมดไม่มีเหลือแล้ว ไม่ได้หมายความว่าเป็นเพราะฝ่าบาทยอมให้อิงจื่ออุ่นเตียงหากแต่ สำหรับเราทั้งสองมันจบลงแล้ว มันจบลงแล้วจริงๆ หนิงอันไม่อาจกลับไป ที่เดิมได้อีกแล้ว ไม่อาจกลับไปอยู่ข้างกายฝ่าบาทได้อีกแล้ว ”“แต่ข้ารักเจ้าหนิงอันเจ้าจะจากข้าไปแล้วหรือไร”“หนิงอัน ไม่อาจบอกว่าไม่เหลือเยื่อใยให้กับฝ่าบาทแล้ว แต่หากฝ่าบาทยังรัก หนิงอันฝ่าบาทก็ควรจะปล่อยหนิงอันไปเสีย”เฉินหยวนนิ่งงัน“เข้าใจแล้ว ข้ายินดีจะปล่อยเจ้าไป”หน
ไป๋เยว่เทียนล้วงหยิบยาในอกเสื้อยื่นตรงหน้าหนิงอัน“หนิงอัน พี่ใหญ่ไป๋เยว่เทียนทำน้ำตาลก้อนมาให้เจ้า”ใบหน้าเหม่อลอยหันมองเม็ดยาในมือของไป๋เยว่เทียน“ท่านพี่หมอไป๋หรอกหรือจริงด้วยท่านพี่หมอไป๋”“ท่านพี่หมอไป๋ท่านพาใครมา แล้วเสี่ยวเอิงไปไหนวันนี้ลูกข้าไม่สบายอีกแล้วเสี่ยวเอิงบอกว่าวันนี้ฝ่าบาทอยู่กับสนมอิงจื่อทั้งวันทั้งคืน ข้าแค่หวังว่าฝ่าบาทจะค้นหาความจริงแล้วปกป้องเราสามคนแม่ลูก ฝ่าบาทจะปกป้องข้ากับลูกใช่ไหม”เฉินหยวนหลับตาไล่หยาดน้ำตาเสีย“นางจำข้าไม่ได้”ไป๋เยว่เทียนยิ้มเศร้าๆ ยื่นยาเม็ดจ่อที่ริมฝีปากหนิงอัน“กินน้ำตาลก้อนเสียก่อน แล้วข้าจะพาเจ้าไปพบฝ่าบาท”“ไม่ไม่ข้าไม่พบเขา เขาใจร้ายพวกเขาทั้งหมดใจร้ายท่านพี่หมอไป๋ข้ารู้ว่าที่ให้ข้ากินมันคือยาข้าไม่สบายอีกแล้วใช่ไหม ข้ายอมกินยาท่านพาข้าหนีกลับไปที่ตระกูลหลี่จะได้ไหม ข้าคิดถึงท่านแม่”“ได้สิเจ้ากินรีบกินยาเสีย”อ้าปากให้ไป๋เยว่เทียนยัดยาเข้าไปในปาก“เอาเจ้าแฝดไปด้วย พวกเขาเป็นลูกข้า ไม่พา พวกเขาไป ไทเฮาจะกำจัดพวกเขา”พูดไปพร้อมกับดวงตาที่หรี่ปรือ และในที่สุดก็เอนกายหลับใหล เฉินหยวนรวบร่างบางไว้ในอ้อมแขน“นางฟื้นขึ้นมาจะอาละวาดไหม