Share

บทที่ 47

Author: เบลล่า
มุมมองของเกรซ

นี่เป็นวันเกิดของฉัน

ฉันจะทำในสิ่งที่ฉันชอบ

ฉันจะกินในสิ่งที่ฉันชอบ

ฉันจะจูบกับคนที่ฉันชอบ

นี่เป็นวันเกิดของฉัน

ในขณะที่จังหวะร้องประสานเสียงของเพลง 'เบิร์ธเดย์' ของแอนน์ มารีดังก้องผ่านลำโพงเครื่องเสียงออกมาอย่างเร้าใจ ฉันพบว่าตัวเองไม่สามารถต้านทานได้อีกต่อไป ในขณะที่ฉันหวีผมอยู่นั้น หัวก็โยกไปตามจังหวะเพลง ปากขยับปากร้องตามทุกเนื้อร้อง และดื่มด่ำอยู่กับเสียงเพลงนั้น

ฉันจะทำให้สิ่งที่ฉันชอบ

ฉันจะสวมใส่ในสิ่งที่ฉันชอบ

ฉันจะไปปาร์ตี้ในคืนนี้

บ้าเอ๊ย นี่เป็นวันเกิดฉัน

ทุกคนต่างรักฉัน

ใช่ ใช่ ใช่ ดูฉันสิ ให้เงินฉันหน่อย

บ้าเอ๊ย นี่เป็นวันเกิดฉัน

ฉันหยุดร้องเพื่อทาลิปสติกให้ถูกที่ถูกทาง ฉันเม้มริมฝีปากเข้าด้วยกัน แล้วส่งยิ้มหวานให้ตัวเองในกระจก ฉันยืดตัวตรงและชื่นชมตัวเองในกระจก ดวงตาจับจ้องอยู่ตรงคอเสื้อชุดนั้นไม่วางตา สร้อยคอมรกตที่ซิดนีย์ทำให้ฉัน ส่วนโค้งส่วนเว้าบนตัว และรอยผ่าของเดรสตัวนั้น

“บ้าเอ๊ย สวยเป็นบ้าเลยคนอะไรเนี่ย" ฉันพูดช้า ๆ ในขณะที่หันไปมองในกระจก หัวใจเปี่ยมไปด้วยความสุข โจเอลจะต้องชอบอย่างแน่นอน!

นี่เป็นวันธรรมดา แต่ฉันหยุดใส่ชุดทำงานในวันน
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 48

    หัวใจที่หนักอึ้งเพราะถูกนอกใจ ฉันจึงเผลอหลุดปากออกไป "ตอนนี้คุณยังจะกล้าว่าฉันอีกเหรอ?” ฉันเอนศีรษะไปทางด้านหลัง เพื่อพยายามไม่ให้น้ำตาร่วงหล่นลงมาอย่างเปล่าประโยชน์ เสียงหัวเราะอันขมขื่นหลุดลอดออกไปจากริมฝีปากแม้ในยามที่ฉันสะอื้นไห้ "อยากมาเซอร์ไพรส์ แต่กลับจับได้ว่าคุณกำลังนอกใจฉันอยู่!”โจเอลหัวเราะเยาะ แล้วเสียงนั้นก็ทิ่มแทงเข้าไปในหัวที่กำลังแตกสลายอยู่ "นอกใจเหรอ?” เขาทำเสียงเยาะเย้ย "เรายังไม่เคยตกลงเรื่องความสัมพันธ์กันเลยนะ ไม่มีป้ายกำกับ ไม่มีพันธะผูกพัน เราไม่ใช่แฟนกัน แล้วคุณมากล่าวหาว่าผมนอกใจคุณได้ยังไงในเมื่อเราไม่เคยคบกันแบบจริง ๆ จัง ๆ เลย?"ฉันเอามือทาบหน้าอกแล้วออดอ้อนเขา "แล้วฉันเป็นอะไรกับคุณเหรอ โจเอล? ถ้าไม่ใช่แฟนแล้วฉันเป็นอะไร?”หัวใจขสลายออกเป็นเสี่ยง ๆ เมื่อโจเอล ผู้ชายที่ฉันเชื่อว่าฉันรักเขา และหวังว่าเขาคงจะรักฉันอย่างหัวปักหัวปำเช่นกัน พูดใส่หน้าฉันว่า "เราแค่เป็นเพื่อนคู่นอนเท่านั้น เกรซ" เขาประกาศอย่างเย็นชา "เราแค่เป็นเพื่อนที่เอากันได้ คุณเกาหลังให้ผม ผมเกาหลังให้คุณ แค่นั้นก็พอแล้ว"ฉันมีความรู้สึกเหมือนจะเป็นลม แล้วก้าวถอยหลังโดยสัญชาตญาณ "เพื่อน

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 49

    มุมมองของซิดนีย์ฉันประคองเกรซเดินไปที่รถ จากนั้นก็กลับไปข้างในเพื่อคว้าโทรศัพท์ของเธอที่วางอยู่ท่ามกลางข้าวของที่หลุดร่วงออกมาจากกระเป๋า โดยไม่ต้องค้นหาอะไรเลย บนหน้าจอโทรศัพท์นั้นมีรูปของเธอกับผู้ชายหน้าคุ้น ๆฉันเหน็บโทรศัพท์ไว้ตรงกระเป๋าหลัง หารองเท้าแตะได้คู่หนึ่ง แล้วเดินกลับไปหาเธอที่รถ ในขณะที่ฉันขับรถไปยังโรงพยาบาลนั้น เธอไม่ได้พูดอะไรเลย เธอเอียงคอมองออกไปนอกหน้าต่าง แววตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและเศร้าสร้อยฉันไม่รู้ว่าจะพูดหรือปลอบเธออย่างไรดี บางทีเธออาจจะอยากอยู่เงียบ ๆ ก็ได้ ฉันได้แต่บีบมือเธอเป็นครั้งคราว แล้วนิ้วของเธอก็ค่อย ๆ กำมือชั้นอย่างช้า ๆ เธอยังอยู่ตรงนั้น เกรซผู้คล่องแคล่วของฉันยังอยู่ตรงนั้นเมื่อขับรถไปถึงโรงพยาบาล ก็มีพยาบาลออกมาพบฉันตรงครึ่งทาง แล้วเราทั้งคู่ก็ช่วยประคองเกรซไปยังห้องคนไข้ พวกเขาลงมือรักษาเธอทันทีหลังจากฉันจ่ายค่ารักษาเรียบร้อยแล้วฉันจับมือเกรซไว้ในขณะที่หมอเช็ดเลือดที่แห้งกรังอยู่บนใบหน้าเธอ จากนั้นก็เริ่มทำการรักษา เธอกำมือฉันแน่น และสะดุ้งหนีในขณะที่หมอกำลังทำหน้าที่อยู่ในขณะที่หมอกำลังสาละวนกับการดูแลเธออยู่นั้น ฉันก็ดึงโทรศัพท์ข

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 50

    เขาดูตกใจเมื่อเห็นท่าทีเดือดดาลของฉัน "ซิดนีย์" เขาเรียกซ้ำ และเสียงที่เขาเรียกชื่อฉันซ้ำ ๆ นั้นเริ่มทำให้ฉันหงุดหงิดอย่างมาก“โจเอลอยู่ที่ไหน?”ดูเหมือนริมฝีปากจะสั่นพักหนึ่งก่อนจะเอื้อนเอ่ยอะไรออกมาได้ "คุณมาที่นี่ทำไม?” จากนั้น เขาก็ขมวดคิ้วแล้วส่งสายตาที่ดูอ่อนโยนลงในขณะเดินเข้ามาหาฉัน เขาชี้ไปที่ประตูที่อยู่ด้านหลังฉัน "ซิดนีย์ คุณอยู่หลังประตูนั่นมานานแค่ไหนแล้ว?” เขากวาดตามองฉันพร้อมกับถาม "คุณได้ยินอะไรหรือเปล่าเมื่อกี้นี้?” เขาเริ่มก้าวเดินมาหาฉันหลังจากถามคำถามสุดท้ายฉันยกฝ่ามือห้ามเขาเอาไว้ เขาหยุดก้าวเดินทันที เมื่อสายตาเราสบกัน ฉันเห็นความกังวลสับสนหมุนวนอยู่ในดวงตาของเขา“ซิดนี...” เขาเริ่มพูด แต่ฉันไม่อาจทนได้ยินชื่อฉันจากริมฝีปากของเขาได้อีกครั้ง“คุณหยุดเรียกชื่อฉันซะทีได้ไหม? แล้วแค่บอกมาว่าโจเอลอยู่ที่ไหน?” ฉันระเบิดคำพูดออกมาอย่างร้อนแรง ซึ่งเต็มไปด้วยความหงุดหงิด ความโกรธเกรี้ยว และความเจ็บปวด“คุณตามหาโจเอลทำไม? มีอะไรหรือเปล่า?” สายตาของเขาดูอ่อนโยน และน้ำเสียงก็ฟังดูสงบนิ่ง แต่นั่นช่างรบกวนประสาทของฉันเหลือเกินโอ้พระเจ้า ฉันอยากจะทึ้งผมตัวเองแล้วกรีดร้อ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 51

    ฉันรีบเดินผ่านชายรูปร่างกำยำสองคนที่มีสีหน้าบูดบึ้งอยู่ตลอดเวลา และดูเหมือนกำลังยืนอยู่ตรงทางเข้าและทางขึ้นบันไดสั้น ๆ แล้วนั่นไง ไอ้ผู้ชายเฮงซวยฉันรู้สึกว่ามีคนมาแตะไหล่ฉัน แล้วหันไปเห็นผู้ชายคนหนึ่งในกลุ่มคนพวกนั้น "ส่วนตรงนี้คุณไม่ได้รับอณุาญาตให้เข้าไป" เขาพูดเรียบ ๆ แต่ถอยกลับไปยังตำแหน่งเดิม หลังจากมองขึ้นไปบริเวณเหนือศีรษะของฉันฉันกลับไปหาโจเอลที่กำลังโอบแขนอยู่รอบ...ฉันหรี่ตามองผู้หญิงที่ยืนยิ้มแฉ่งอยู่ข้าง ๆ เขา ฉันรู้จักเธอ แซนดร้า เธอเป็นเพื่อนของเบลล่า เบลล่ามักจะขลุกอยู่กับเธอเสมอ เธอมาทำอะไรกับโจเอลเนี่ย? ฉันไม่ได้มาที่นี่เพื่อพบเธอนะฉันหยุดกึกเมื่อมองเห็นคอของเธอ แต่ฉันมาเพื่อสร้อยคอที่เธอใส่อยู่นั่นแหละ มันเป็นสร้อยเส้นเดียวกับที่ฉันทำให้เกรซ ดังนั้น เป็นนังบ้าชอบแย่งผู้ชายชาวยังไม่พอใจ แต่ยังเป็นหัวขโมยด้วย ฉันจะไปจัดการกับเธอทีหลัง แต่ขั้นแรกฉันจะต้องไปให้บทเรียนกับผู้ชายเฮงซวยอย่างโจเอลก่อนฉันเบนสายตาไปที่ผู้ชายคนที่ฉันมาตามหาเขาที่นี่ ฉันรู้สึกว่ามือสั่นเทาและกำแน่นด้วยความโกรธที่พลุ่งพล่านอยู่ข้างในมากขึ้น เมื่อเห็นเขาก้มลงไปจูบปากแซนดร้า จากนั้นเขาก็หันม

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 52

    ในขณะที่มาร์คยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าฉัน แซนดร้าก็เงียบเสียงลงทันที และผู้ชายพวกนั้นก็ถอยกลับไปอย่างรวดเร็วอย่างให้ความเคารพก่อนจะพูดอะไรออกมา เขาก็ส่งสัญญาณให้บาร์เทนเดอร์เข้ามา เด็กชายรูปร่างผอมสูงที่ดูเหมือนจะมาเข้าเวรแทนคนอื่น ได้วิ่งเข้ามาหามาร์คอย่างไม่ลังเลพร้อมดวงตาเบิกกว้าง“สวัสดีครับ ท่าน" เขาโค้งคำนับทักทายโดยวางมือไว้ข้างตัวอย่างมั่นคง เขาใช้ความพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะไม่มองมาทางฉัน ฉันไม่ตำหนิเขาหรอก เขาแค่มองดูฉันฟาดขวดเบียร์ใส่หัวผู้ชายคนหนึ่งเท่านั้น“ไม่เรียกเจ้านายมา แล้วให้ทุกคน ยกเว้นพวกเรา ออกจากบาร์นี้ไป ฉันจะเป็นคนจ่ายเงินทั้งหมดให้เองเขาพยักหน้าอย่างกระตือรือร้น "ครับท่าน! ทันทีเลยครับ!” จากนั้น เขาก็หมุนตัวแล้ววิ่งออกไป ฉันคิดหาเหตุผลว่าทำไมมาร์คถึงทำแบบนั้น แล้วฉันก็สรุปได้ว่าเหตุผลนั่นคืออะไร พวกเราทั้งหมดมาจากครอบครัวที่มีชื่อเสียงในสังคมชั้นสูง แต่ฉันไม่สนใจหรอก ไม่มีทางที่อะไรก็ตามที่รั่วไหลออกมาจากเรื่องวุ่นวายนี้ จะทำให้ชื่อเสียงของฉันเสียหายได้ เนื่องจากไม่มีใครรู้เลยว่าฉันเป็นเจ้าของร่วมในอเทลิเย่ สตูดิโอส์ นอกจากพนักงานในบริษัทนั้น ดังนั้น

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 53

    "ก็เป็นนังแพศยาอยู่นิ!" ฉันสวนกลับไปแล้วท้าทายเขากับมาร์คให้ทำอะไรก็ได้ที่ต้องการ“อย่าได้บังอาจมาเรียกแฟนฉันว่านังแพศยาอีก แซนดร้าเป็นแฟนฉัน เพื่อนเธอเหมาะคำ ๆ นั้นมากกว่า"ฉันหันกลับไปจ้องมองเขาอย่างไม่เชื่อหู ฉันไม่เชื่อว่าเกรซจะหลงรักผู้ชายแบบนี้ได้ "ไอ้ชั่วเอ้ย! ผู้หญฺงไรสมองของแกอ่ะเป็นนังแพศยาย่ะ คิดว่าแกทุบตีเพื่อนฉันขนาดนั้น แล้วฉันจะนั่งดูเฉย ๆ โดยไม่ทำอะไรอย่างนั้นเหรอ?”“ไม่มีใครทำร้ายเธอนะ" เขาพูดขึ้น "อีกอย่าง ตอนนั้นเธอไม่ได้อยู่ที่นั่น แล้วเห็นว่าเพื่อนเธอทำอะไรกับแฟนฉันบ้าง”ฉันจ้องมองแซนดร้าตั้งแต่หัวจดเท้า ฉันมองหารอยฉีกขาดบนชุดเดรสอันสวยไร้ที่ติแต่ก็หาไม่เจอ เส้นผมของเธอดูเรียบตรงราวกับเพิ่งเดินออกมาจากร้านทำผม แล้วก็ไม่มีรอยฟกช้ำใด ๆ บนใบหน้าเลยก่อนที่ฉันจะจัดให้ไปเมื่อกี้นี้“ไม่เห็นมีรอยช้ำ รอยข่วนบนหน้าเลย แล้วก็ไม่ได้ถูกหามไปนอนโรงพยาบาลด้วย แล้วเพื่อนฉันทำอะไรให้มัน ถึงต้องทำแบบนั้นกับเกรซด้วย? เพื่อนฉันยังคงนอนเป็นผักอยู่บนเตียงในโรงพยาบาลอยู่เลย ต้องกินยาคลายเครียดจะได้นอนหลับลงแล้วลืมเรื่องร้าย ๆ ทั้งหมดไปได้!” จู่ ๆ ฉันก็รู้สึกโกรธมากขึ้น "เป็นผู้ชายอ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 54

    ดูเหมือนโจเอลจะทำตัวลีบในขณะหันไปหามาร์ค แล้วคิ้วขมวดด้วยความสับสน "เพื่อน เราเป็นเพื่อนซี้กันไม่ใช่เหรอ? ฉันนึกว่านายจะเข้าข้างฉันซะอีก" เขาพูดด้วยความไม่เชื่อ“เราเป็นเพื่อนซี้กัน และฉันก็คอยอยู๋ข้างเสมอ" มาร์คตอบอย่างเฉยเมย จากนั้นก็ยักไหล่แล้วเอามือล้วงกระเป๋า "แต่นี่ก็ภรรยาของฉันเหมือนกัน แล้วเชื่อฉันเถอะ ฉันไม่ได้เข้าข้างใครทั้งนั้น"“แล้วนายจะยืนเฉย ๆ อยู่ตรงนั้น แล้วปล่อยให้เมียนายรังแกเราแบบนั้นเหรอ?” โจเอลพึมพำ แววตายังเต็มไปด้วยความผิดหวัง“ฉันปล่อยให้ซิดนีย์รังแกนายแบบนั้น อย่างนั้นเหรอ?” มาร์คตอบโต้อย่างใจเย็น เขาเลิกคิ้วขึ้น ทำให้โจเอลพูดไม่ออกในขณะมองเขาอ้าปากค้าง มาร์คยักไหล่ "อะไร? ฉันเป็นบอดี้การ์ดของนายหรือไง?”คำพูดของโจเอลหลั่งไหลออกมาด้วยความหงุดหงิดพลางขึ้นเสียงออกมา "ฉันยั้งมือเอาไว้เพราะเห็นแกนายนะเว้ย!”"พอซะทีเถอะ" ฉันเผชิญหน้ากับเขาอย่างดูถูกเหยียดหยาม "อย่าขี้ขลาดไปหน่อยเลย ทำกับฉันให้เหมือนกับทำกับเกรซไปเลย ปล่อยให้นังแพศยานั่นวิ่งเอาเล็บเข้ามาข่วนหน้าฉันอย่างที่มันเป็นนั่นแหละ"ขากรรไกรของโจเอลดูนูนขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด สายตาเบนไปที่ใครบางคนข้างหลัง

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 55

    "ผมจะอธิบายทุกสิ่งทุกอย่างให้คุณฟังเมื่อเราถึงบ้านแล้ว หยุดก่อเรื่องวุ่นวายแล้วไปกันเถอะ" มาร์คพูดอย่างหงุดหงิด ฉันบอกได้เลยว่าเขากำลังพยายามสงบสติอารมณ์เหมือนในช่วงก่อนหน้านี้ แต่ถึงยังไงก็ตามเสียงของเขาก็ดังกว่าฉันนิดนึง“บ้านเหรอ? นั่นมันบ้านของคุณ โอเคไหม? นั่นมันบ้านของคุณ ไม่ใช่บ้านของฉัน" ฉันชี้นิ้วไปที่ประตู "ฉันจะไม่ไปไหนกับคุณทั้งนั้น และไม่อยากได้ยินคำอธิบายที่คุณแต่งขึ้นมาด้วย!”“ซิดนีย์" เขาขมวดคิ้ว“คุณกับโจเอลต่างกันยังไงเหรอ?” ฉันหัวเราะเยาะพวกเขา "พวกคุณทั้งคู่ต่างเป็นคนเห็นแก่ตัว จอมหลอกลวง ตลบตะแลง! ไม่น่าแปลกใจเลยที่เป็นเพื่อนกันได้!”สีหน้าของมาร์คยิ่งดูมืดมนลงไปอีก "ผมบอกคุณแล้วไง ซิดนีย์ ว่าผมไม่ได้นอนกับเบลล่า ผมไม่ได้ทรยศต่อชีวิตคู่เรา!”“เห็นไหม? คุณยังเป็นคนโกหกอีกต่างหาก" ฉันกล่าวหาเขา เขาเอามือเสยผมด้วยความหงุดหงิด ในขณะที่เอามืออีกข้างท้าวสะโพกอยู่ เขาเริ่มพูดจาติด ๆ ขัด ๆ เสียงของเขาขลุกขลักอยู่ในลำคอ ราวกับกำลังพยายามหาคำพูดที่เหมาะสม "ผมไม่ได้นอนกับ...”เขาหยุดชะงัก จากนั้นก็มองมาที่ฉันแล้วส่ายหัว เขาพยายามอีกครั้งหนึ่ง "ผมไม่ได้นอนกับ...” เขาพูดแ

Latest chapter

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 438

    มุมมองของนักเขียนอาน่าถอนหายใจเสียงดังขณะเดินเข้าไปในห้องพักของเดนนิสและนั่งลงข้าง ๆ เขา เธอหยิบหนังสือออกมาและเริ่มอ่านเป็นครั้งคราว เธอจะเปิดโทรศัพท์เพื่อดูจัสตินนอนหลับหรือเล่นรอบบ้านในขณะที่พี่เลี้ยงยุ่งอยู่ หรือแค่ซุกตัวบนโซฟาตัวหนึ่งเพื่ออ่านหนังสือ โดยคอยจับตาดูจัสตินตอนนี้มันกลายเป็นกิจวัตรประจำวันของอาน่าไปแล้วในวันที่เธอพักค้างคืนที่โรงพยาบาล เธอจะออกจากที่นั่นแต่เช้าเพื่อไปดูแลจัสตินและกลับมา ขณะที่เธอนั่งอยู่ข้างๆ เขา นิ้วอุ่นๆ ของเธอประสานกับนิ้วเย็นๆ ที่ยังคงนิ่งของเขา เธอจะอ่านหนังสือเดนนิสยังคงอยู่ในอาการโคม่า และในแต่ละวัน อาน่ารู้สึกว่าความกลัวกำลังเพิ่มขึ้น... กลัวว่าเขาอาจจะยังคงอยู่ในอาการโคม่าจนถึงแก่ชีวิต ทั้งหมดเป็นเพราะเธอคนเดียวเธอต้องการให้เขาลืมตาขึ้นมามองเธอด้วยความรักที่เขามีให้เธอเสมอ เธอต้องการบอกเขาว่าเธอรักเขามากแค่ไหนและรู้สึกขอบคุณที่มีเขาในชีวิตของเธอ แต่ที่สำคัญที่สุด เธอต้องการขอโทษเขาเธอเห็นแก่ตัวมาก คิดว่าความเจ็บปวดของพวกเขาไม่ยิ่งใหญ่เท่าของเธอ... พวกเขาทุกคนรักเอมี่อย่างสุดซึ้ง และพวกเขาทุกคนเจ็บปวดกับการจากไปของเธอจากชีวิตนี้ ห

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 437

    มุมมองของนักเขียนชารอนถูกตัดสินว่าไม่มีความผิดฐานมีส่วนร่วมโดยตรงในการเสียชีวิตของเอมี่ แต่มีความผิดฐานสมรู้ร่วมคิด เธอโชคดีพอที่จะได้รับการลดหย่อนโทษ จำคุกในระยะเวลาอันสั้น ทนายของเธอทำให้แน่ใจว่ามันจะเป็นเช่นนั้น และทั้งหมดนี้เป็นเพราะพ่อของเธอแม้ว่าพ่อของเธอจะผิดหวังกับทุกสิ่งที่เธอทำ แต่เธอก็เป็นลูกสาวของเขา ทายาทที่น่าเกรงขามเพียงคนเดียวของเขา ไม่มีทางที่เขาจะทอดทิ้งเธอได้ขณะที่เธอรับโทษจำคุก นับถอยหลังสู่วันที่เธอจะได้ออกไปจากที่นั่นในที่สุด เธอได้รับเอกสารหย่าร้างส่งมาให้เธอเธอคิดว่าเช้าวันนั้นหนาวเกินไปสำหรับฤดูกาล ห้องขังเล็กๆ ของเธอรู้สึกเล็กกะทันหัน มันรู้สึกเหมือนมันจะปิดล้อมเธอ และเธอเอามือสอดเข้าไปในช่องประตูเพื่อหายใจเมื่อหนึ่งในผู้คุมมาพาเธอไปเธอนั่งลง ได้รับปากกา และต่อหน้าเธอ บนโต๊ะเหล็ก มีจดหมายหย่าร้างวางอยู่ เหตุผลหลักที่เธอเข้าไปเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมและการกระทำสกปรกเหล่านี้ทั้งหมดคือเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ไอเดนทิ้งเธอ มันน่าเศร้าจริงๆ ที่เธอทำงานอย่างหนักเพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งนี้ แต่กลับถูกโยนใส่อย่างแรงที่ใบหน้าของเธอในตอนท้ายดวงตาปวดหนึบด้วยน้ำตาขณะที่เธ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 436

    "หยุด!" เสียงของเธอสั่นเครือขณะที่เธอตะโกนบอกคนขับแท็กซี่แค่นั้นก็เพียงพอให้อาน่าหันกลับมา"ฉันทำอะไรลงไป?" ลมหายใจของเธอสั่นเทาขณะที่เธอเปิดประตูและรีบออกจากแท็กซี่ มือของเธอสั่นเทาขณะที่เธอสะดุดลงบนทางเท้า"เดนนิส!" เธอตะโกนขณะที่เข่าของเธอล้มลงบนพื้นคอนกรีตแข็ง "ได้โปรด อย่า" เธอพูดกระซิบ สายตาของเธอจ้องมองไปที่รถที่พังยับเยิน "เดนนิส ต้องรอดให้ได้นะ"เธอคลานไปที่รถ มองเข้าไปข้างในเพื่อดูเขา แต่ข้างในนั้นมืดมิดและเสียงสะอื้นของเธอก็ดังขึ้น "ทำไมฉันถึงออกมา? ทำไมฉันไม่รอเขา?"เธอเช็ดน้ำตา "ฉันสัญญา" เธอสะอื้น "ฉันจะไม่ไปหาเอมี่อีกแล้ว ฉันสัญญา เดนนิส ได้โปรดออกมา" เธอร้องไห้ขณะที่เธอจำได้เลือนรางว่าเขาบอกเธอว่าเอมี่ได้รับความยุติธรรมแล้ว และไม่จำเป็นต้องไปหาเธออีกต่อไปนี่เป็นความผิดของเธอทั้งหมด เธอควรจะฟังเขา เธอควรจะรอเขาก่อนที่เธอจะออกไป"อาน่า!" ไอเดนตะโกนขณะที่เขารีบออกจากรถ เขารู้สึกโล่งใจที่เห็นอาน่า เขาหารถแท็กซี่หลังจากที่เดนนิสขับออกไปสักพัก และตามเขาไป เมื่อเขาสังเกตเห็นฝูงชนและเห็นว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้น เขาก็กลัวว่าจะเป็นอาน่า"ให้ตายสิ!" เขาพึมพำขณะหยุดอยู่ต่อ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 435

    มุมมองของนักเขียนหลังจากที่ไอเดนได้ยินคำพูดเหล่านั้น เขาไม่ลังเลเลยก่อนที่จะเดินออกจากห้องพิจารณาคดีหัวใจของชารอนแตกสลายเมื่อมองดูไอเดนเดินออกไปอย่างโกรธจัด เขาเกลียดชังเธอมากจนทนดูการพิจารณาคดีของเธอไม่ได้เลยหรือ? น้ำตาไหลลงมาบนใบหน้าของเธอ และเธอรีบเช็ดมันออกก่อนที่พ่อของเธอจะเห็นพ่อของเธอบอกเธอไปก่อนหน้านี้ว่า "พอได้แล้ว ชารอน อย่าร้องไห้เพราะผู้ชายอย่างเขาเลย" แต่นั่นหลังจากที่เขาตำหนิเธอสำหรับทุกสิ่งที่เธอทำ"มีการตัดสินแล้วหรือยัง คุณไอเดน? คุณจะประกันตัวภรรยาของคุณไหม?"คำถามทั้งหมดของพวกเขาไม่ได้เข้าหูไอเดนแม้แต่น้อย เขาไม่ได้สนใจสิ่งใดเลยขณะที่เขาเร่งรีบไปที่รถของเขาและขับออกจากบริเวณศาลระหว่างทางไปโรงพยาบาล เขาโทรหาทีมรักษาความปลอดภัยของเขาที่ตามเขามาทันทีที่เขาขับรถออกไป "อาน่าสตาเซียเพิ่งหนีออกจากโรงพยาบาลบ้า ตามหาเธอ" เขาออกคำสั่ง "ผมจะส่งรูปของเธอให้คุณตอนนี้""ครับ"เขาตัดสาย ขณะที่เขาขับรถ เขาหารูปอาน่าที่ชัดเจนและส่งให้ทีมรักษาความปลอดภัยที่เริ่มตามหาเธอทันทีจากนั้นไอเดนพยายามโทรหาเดนนิส แต่เขาก็ยังไม่รับสายเมื่อมาถึงโรงพยาบาล เขาพบเดนนิสอยู่ข้างนอก เขา

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 434

    ไอเดนเมื่อเวลาผ่านไป คดีของเอมี่ได้รับความสนใจจากสื่อมากมาย ช่องข่าวทุกช่องมีรูปเด็กผู้หญิงน่าสงสารคนนั้นขณะที่พวกเขาพูดถึงการตายที่ไม่ยุติธรรมของเธอ และทุกคนที่รับผิดชอบต้องถูกลงโทษตามนั้นท่ามกลางทุกสิ่งทุกอย่าง จุดสนใจก็เปลี่ยนจากเอมี่มาเป็นชารอนและผม อย่างไรก็ตาม มีข่าวลือเกี่ยวกับชีวิตแต่งงานของเราและการตั้งครรภ์ปลอมของเธอผมเริ่มได้รับโทรศัพท์จากหมายเลขที่ไม่รู้จักหลายหมายเลข โทรมาถามคำถามไร้สาระทั้งหมดเพื่อต้องการข้อมูลโดยตรงจากแหล่งข่าว ผมต้องเปลี่ยนซิมการ์ดในโทรศัพท์ของผมเป็นซิมที่ผู้ช่วยของผมใช้ หากมีข้อมูลใดๆ เขาก็แค่ส่งต่อมา ผมเบื่อที่จะรับมือกับสายเรียกเข้าที่ไม่หยุดหย่อนเหล่านั้นเมื่อชารอนอาการดีขึ้นและเธอต้องถูกส่งตัวกลับไปที่สถานีตำรวจ พวกเขามาถึงสถานีพร้อมกับกลุ่มนักข่าวที่ทางเข้าตำรวจคุ้มกันเธอขณะพาเธอเข้าไปข้างใน แต่นั่นไม่ได้หยุดนักข่าวจากการตะโกนถามคำถามของพวกเขา"คุณเสแสร้งว่าท้องจริง ๆ เหรอ คุณนายไอเดน?""คุณชารอน คุณยังเป็นผู้หญิงที่แต่งงานแล้วอยู่ไหม?""สามีของคุณอยู่ที่ไหน? เขายังรักคุณอยู่ไหม?""จะมีการหย่าร้างไหม?""คุณมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสีย

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 433

    เดนนิสอาน่าถูกส่งตัวไปยังศูนย์บำบัดวิกฤตสุขภาพจิต และผมใช้เวลาส่วนใหญ่ของผมที่นั่น แม้ว่าผมจะพยายามแบ่งเวลาอย่างเท่าเทียมกันระหว่างงาน จัสติน และเอมี่ แต่ผมก็พบว่าตัวเองใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่นี่งานเป็นไปด้วยดีอย่างยิ่ง ตอนนี้ผมทำเงินได้มากกว่าที่เคยทำก่อนที่ผมจะถูกหลอก แต่ผมไม่มีความสุข คนที่ผมรักที่สุดอยู่ในบ้านพักผู้ป่วยทางจิต ทุกวันที่ผมไปที่นั่น ผมหวังว่าอาการของเธอจะเริ่มดีขึ้นในไม่ช้า ครึ่งหนึ่งของเวลา เธอดูปกติดี แค่นั่งอยู่คนเดียวด้วยสีหน้าที่เป็นกลาง เธอจะไม่พูดคุยกับใครเป็นเวลาหลายชั่วโมง อีกครึ่งหนึ่งใช้ไปกับการร้องไห้และขอร้องให้ผมพาพวกเราไปหาเอมี่แพทย์บอกว่าเธอดีขึ้น แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นเช่นนั้นสำหรับผมจัสตินทำได้ดีมาก เขาดูเหมือนจะไม่โศกเศร้าอย่างที่ไอเดนแนะนำ มีบางครั้งที่เขาจะร้องไห้และไม่มีอะไรทำให้เขาหยุดได้จนกว่าเขาจะหลับไป แต่ช่วงเวลาเหล่านั้นหายาก และผมคิดว่าเขาแค่คิดถึงแม่ของเขาผมทำให้แน่ใจว่าผมมีเวลาให้เขาเสมอ เหมือนกับที่ผมมีเวลาให้อาน่า ไม่ว่างานจะยุ่งแค่ไหน ผมไม่ต้องการปล่อยเขาไว้กับพี่เลี้ยงทั้งหมด แม้ว่าเธอจะเป็นผู้หญิงที่ดี แต่ผมต้องการให้ไอเดนเติ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 432

    ไอเดนนักสืบส่งที่อยู่โรงพยาบาลที่ชารอนถูกนำตัวส่งมาให้กับผมภายในห้อง ชารอนนอนขดตัวอยู่กับตนเองพร้อมกับกุญแจมือที่คล้องอยู่พอจะเอื้อมถึงเธอรีบลุกขึ้นนั่งเมื่อเห็นผมเข้ามาในห้อง "ไอเดน" เธอหายใจออกมา ดวงตาเบิกกว้างด้วยความกลัว"ไม่เพียงแต่คุณจะเป็นอาชญากร แต่ยังเป็นคนโกหกด้วยเหรอ? คนโป้ปด!" ผมพูดออกมาขณะที่สายตาเหลือบไปที่ท้องแบนราบของเธอ ผมหัวเราะเยาะตัวเองขณะทรุดตัวลงบนเก้าอี้ที่หันหน้าเข้าหาเตียงของเธอ ผมรู้สึกหมดแรงจนแทบจะยืนด้วยขาของตัวเองไม่ได้เธอส่ายหัว น้ำตาไหลลงมาบนใบหน้าของเธอ เหมือนกับที่มันไหลลงมาบนใบหน้าของเธอตอนที่เธอถูกจับกุม "มันไม่ใช่อย่างที่คุณคิด ฉันสาบานได้นะ ฉัน…" เธอพูดไม่ออกและไหล่ของเธอก็สั่นเทาขณะที่เธอร้องไห้หนักขึ้นผมเอียงศีรษะไปด้านข้างและมองเธออยู่ครู่หนึ่ง ผมไม่แปลกใจเลยที่ผมไม่รู้สึกสงสารเธอแม้แต่น้อย "ถ้ามันไม่ใช่อย่างที่ผมคิด แล้วมันคืออะไร? บอกมาสิ""คุณแกล้งทำเป็นท้องมาตั้งหลายเดือน!" เสียงหัวเราะขมขื่นหลุดออกจากริมฝีปากขณะที่ผมส่ายหัว มันยังคงรู้สึกเหมือนเรื่องตลก ผมคงไม่เชื่อนักสืบเลย ถ้าไม่มีสัญญาณทั้งหมดที่ผมมองข้ามไปผมโน้มตัวไปข้างหน้

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 431

    ไอเดนผมตกใจกับคำพูดของเขา เดนนิสรู้แล้วเหรอ?เดนนิสก็มีส่วนร่วมในการสอบสวนด้วย เขาแค่ไม่ได้กระตือรือร้นเท่าผม ดังนั้นมันไม่น่าแปลกใจที่เขาจะได้ยินเรื่องนี้ นอกจากนี้ มันเป็นคดีของลูกสาวเขาด้วย เขาจึงมีสิทธิ์ที่จะรู้แต่ผมเลือกที่จะเพิกเฉยต่อคำพูดที่รุนแรงของเขา ผมยังคงสับสนกับข่าวที่ว่าอนาอยู่ในโรงพยาบาลจิตเวชในขณะนี้ มันเป็นไปได้อย่างไร? เขาปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร? ผมอยากจะตะโกนใส่เขา แต่ผมก็สงบสติอารมณ์ ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของผมตั้งแต่แรก... และของชารอน"แล้วเธออยู่ที่โรงพยาบาลไหน?" มันฟังดูไม่จริง ผมรู้ว่าเธอรักเอมี่มาก แต่ผมไม่คิดว่ามันจะส่งผลกระทบต่อเธอมากขนาดนี้เดนนิสหันมาหาผม คิ้วของเขาขมวดลึกขณะที่เขาขมวดคิ้ว "อยากรู้ไปทำไม? จะได้เอาไปบอกภรรยานายหรือไง?"ให้ตายสิ! ผมรู้สึกว่ามือกำแน่นโดยอัตโนมัติผมหายใจเข้าลึกๆ "ฉันโทรหาพวกนาย แต่ไม่มีใครรับสาย อาน่าก็ปิดโทรศัพท์อีก ฉันก็แค่เป็นห่วง..." ผมพูดเสียงแผ่วและไหล่สั่น “ฉันก็เลยตัดสินใจมาดูเธอนี่ไง"“ตอนนี้นายก็รู้แล้วนะว่าเธออยู่ไหน งั้นเชิญออกไปได้แล้ว”เขามีสิทธิ์ทุกประการที่จะขอให้ผมออกจากบ้านและชีวิต แต่ผ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 430

    ไอเดน"ไม่เป็นไรแล้วค่ะ" ชารอนพูดขณะที่เธอโอบแขนรอบไหล่ "คุณต้องหยุดโทษตัวเองเรื่องนี้ได้แล้ว ที่รัก มันไม่ใช่ความผิดของคุณ และการทุ่มเทตัวเองให้กับการสอบสวนทั้งหมดนี้ก็ไม่ได้ช่วยอะไรด้วยเลย""ผมต้องหาตัวคนผิดมาให้ได้ ชารอน ผมต้องหาว่าใครทำเรื่องนี้ นี่เป็นสิ่งเดียวที่ผมทำเพื่อลูกสาวผมได้ ซึ่งจะทำให้ความรู้สึกผิดนี้ทุเลาลง" "ถ้ามันเป็นวิธีเดียว คุณก็ควรทำอยู่แล้ว" เธอให้กำลังใจ "ฉันจะคอยดูแลให้พ่อช่วยในคดีนี้ด้วย ฉันสัญญา"พ่อของเธอโทรหาผมครั้งหนึ่งเพื่อแสดงความเสียใจกับการจากไปของลูกสาวผม ซึ่งไม่ได้เป็นอะไรกับลูกสาวเขาเลย และเขาฟังดูไม่พอใจนัก ผมประหลาดใจด้วยซ้ำที่เธอจะบอกเรื่องนั้นกับพ่อของเธอ ผมสงสัยว่าเขาอยากจะช่วยเปิดโปงฆาตกรของเด็กที่ไม่ใช่ลูกของเขาในทางใดทางหนึ่งหรือไม่ แต่ผมเก็บเรื่องนั้นไว้กับตัวเอง"ขอบคุณครับ" ผมบอกเธอแทนเธอโอบกอดผมครึ่งหนึ่ง และคราวนี้ไม่ได้ผละออกทันที ในวันแบบนี้เองที่เธอไม่ได้กระโดดหนีจากผมเหมือนผมติดเชื้อเมื่อใดก็ตามที่ผมพยายามสัมผัสเธอ"แล้วคุณจะยิ้มให้ฉันไหม?" เธอยิ้มขณะที่ดึงผิวแก้มของผมเพื่อพยายามทำให้ผมยิ้มเมื่อผมเอามือของเธอออก เธอก็แสร้

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status