บทที่ 9

"ห๊ะ?"

ลู่เฉินแข็งทื่อ

เขาไม่ได้คาดคิดว่าฉาวซวนเฟยจะพูดออกมาเช่นนั้น

ความงามของคนตรงหน้าเขาแตกต่างจากความเย็นชาของหลี่ชิงเหยายิ่งนัก

เป็นความงามที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์และความยั่วยวนใจ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเวลาเธอยิ้ม มันช่างมีเสน่ห์มากมายนัก

พูดง่ายๆเลยก็คือเธอเป็นนางจิ้งจอกที่ผู้ชายไม่กี่คนจะต้านทานได้

"ห้าๆๆๆ...แค่ล้อเล่นน่ะ คุณตกใจขนาดนี้เลยหรอ"

ฉาวซวนเฟยยิ้มใหญ่ หน้าอกที่ขาวๆของเธอสั่นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีความดึงดูดอย่างมาก

ดวงตาของลู่เฉินกระตุกและเขาก็รีบมองไปทางอื่น

ผู้หญิงคนนี้ยั่วยวนใจเขามากเกินไปแล้ว ยิ่งมองก็ยิ่งติดใจเธอมากยิ่งขึ้น

“คุณลู่คะ ฉันคงต้องรบกวนคุณอีกครั้ง” รอยยิ้มของฉาวซวนเฟยค่อยๆจางลง

“เรื่องอะไรล่ะ?” ลู่เฉินผงะ

"อย่างที่คุณทราบ บอดี้การ์ดของฉันกำลังเฝ้าอยู่ในโรงพยาบาล ฉันไม่มีคนคอยคุ้มกันอยู่รอบตัวเลย แล้วตอนนี้ฉันยังตกเป็นเป้าหมายของคนอื่นอีกด้วย มันยากมากที่จะรับประกันความปลอดภัยของตัวฉันเอง ดังนั้นฉันหวังว่าคุณลู่จะปกป้องฉันตลอด24ชั่วโมงได้” ฉาวซวนเฟยร้องขอ

"ปกป้อง?"

ลู่เฉินยักคิ้ว "คุณฉาวครับ คุณหาที่ซ่อนที่ปลอดภัยจะไม่ดีกว่าหรอ?"

“คุณลู่ไม่รู้หรอก คืนนี้ตระกูลฉาวจะมีงานการกุศลที่สำคัญ ในฐานะผู้จัดงาน ฉันต้องไปเข้าร่วมอย่างแน่นอน

หากใครสร้างปัญหาในระหว่างงาน ฉันซึ่งเป็นผู้หญิงที่อ่อนแอก็ขวางไม่ได้ ฉันคิดว่าเพื่อหญ้าใจมังกร คุณคงไม่อยากให้ฉันเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาใช่ไหม? "

ฉาวซวนเฟยกระพริบตาที่สวยงามของเธอและแสดงท่าทางที่น่าสงสาร

"นี่......"

ลู่เฉินลังเลอยู่สองวินาทีและพยักหน้าในที่สุด "งั้นก็ได้ครับ"

แม้ว่ามันจะยุ่งยากเล็กน้อย แต่เพื่อหญ้าใจมังกรเขาก็ทำได้เพียงแค่ตกลง

เพราะเขาไม่อยากให้เกิดอะไรขึ้น

"ขอบคุณคุณลู่นะคะ"

ฉาวซวนเฟยยกริมฝีปากขึ้น และแสดงรอยยิ้มที่มีความหมาย

เรื่องที่ให้มาปกป้องนั้นเป็นเพียงแค่ข้ออ้าง ที่จริงเธอสนใจในตัวเขาต่างหาก

...

ในเวลาพลบค่ำ ตึกเฟิ่งหมิง

ในฐานะโรงแรมสไตล์จีนที่มีชื่อเสียงในเมืองเจียงหลิง ตึกเฟิ่งหมิงครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่มาก

มองแวบแรกก็ดูเหมือนเป็นพระราชวังเลย

ล้อมรอบด้วยกำแพงสูงและอาคารภายในมีความงดงามด้วยเสาแกะสลักและภาพวาด

มีครบทุกอย่างไม่ว่าจะเป็น สวนดอกไม้ ป่าไผ่ โรงบ่มไวน์ สระที่ขุดขึ้นฯลฯ

ทุกแห่งเผยให้เห็นถึงความคลาสสิกและความประณีต

ในขณะนี้ ณ ทางเข้าตึกเฟิ่งหมิง

รถเบนซ์สีดำคันหนึ่งเข้ามาจอดอย่างช้าๆ

ประตูรถเปิดออก หญิงงามที่สวมชุดสีดำเดินออกมาก่อน

ผู้หญิงคนนี้มีผิวขาว ขาเรียวยาว และใบหน้าที่สวยงามจนเรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบ ประกอบกับออร่าความเยือกเย็นของเธอ

ทันทีที่เธอปรากฏตัวขึ้น ก็โดดเด่นจากฝูงชน

เธอได้ดึงดูดความสนใจของทุกคนทันที

“ช่างเป็นผู้หญิงที่สวยจริงๆ! ใช่ดาราดังหรือเปล่า?”

"ว้าวๆๆ ใบหน้าและรูปร่างของเธอนี่ ช่างน่าทึ่งจริงๆ!"

“เฮ้ นี่เป็นคุณหลี่จากชิงเฉิงกรุ๊ปไม่ใช่หรือ? นั่นเป็นหนึ่งในสี่สาวงามที่เรายอมรับในเมืองเจียงหลิง!”

ในขณะนี้ แขกจำนวนมากที่อยู่นอกประตูเริ่มกระซิบกระซาบ และประหลาดใจกับความงามของหลี่ชิงเหยา

แต่เนื่องจากสถานะของพวกเขานั้น ทำให้ พวกเขาไม่กล้าเข้าใกล้ไปทักทายเธอ

“คิดไม่ถึงว่าตึกเฟิ่งหมิงจะสวยงามขนาดนี้ กระเบื้องสีดำและผนังสีขาว มีเสน่ห์อันน่าดื่มด่ำจัง!”

เลขาจางที่ลงจากรถตามมาก็อดไม่ได้ที่อุทาน

“ตึกเฟิ่งหมิงที่เป็นสถานที่ตระกูลฉาวใช้บ่อยๆ นั้นมีความพิเศษ หากคนธรรมดาสามารถก้าวเข้ามาได้ ก็คงเหมือนกับปลาคาร์พที่กระโดดข้ามประตูมังกรอย่างแน่นอน” หลี่ชิงเหยามองไปรอบๆ

แม้ว่าเธอจะมีมาตรฐานที่สูงมาก แต่เธอก็ต้องยอมรับว่าสถานที่แห่งนี้สวยงามมากจริงๆ

“ชิงเหยา คุณมาแล้วเหรอ?”

ในเวลานี้ จู่ๆก็มีชายหนุ่มที่สวมชุดสูทและใส่แว่นตาใกล้เข้ามา

คนนี้ไม่ใช่ใครคนอื่น แต่เป็นหยางเหว่ย นายน้อยคนที่สองของตระกูลหยาง

“คุณหยาง...คุณสนใจกับงานกาล่าการกุศลด้วยหรอ?” หลี่ชิงเหยาพูดอย่างใจเย็น

“แน่นอนว่าผมไม่มีความสนใจกับงานกาล่าการกุศลทั่วไป แต่งานนี้จัดขึ้นโดยตระกูลฉาว ใครจะกล้าไม่ไว้หน้าล่ะ?” หยางเหว่ยกล่าวด้วยรอยยิ้ม

ตระกูลฉาวเป็นหนึ่งในสามตระกูลของผู้ยิ่งใหญ่ในเมืองเจียงหลิง เป็นตระกูลสูงศักดิ์ที่แท้จริง!

มีอำนาจและมีบารมีมากในเมืองเจียงหลิง

ไม่ต้องพูดถึงการจัดงานกาล่าการกุศล แม้ว่าตระกูลฉาวจะโยนขี้ทิ้งไป ก็ยังมีคนนับไม่ถ้วนไปแย่งกินมัน

“คุณหยางคะ ฉันว่าคุณคงไม่ได้สนใจงานกาล่าการกุศลหรอกมั้ง?” เลขาจางพูดด้วยรอยยิ้ม

“การเข้าร่วมงานเป็นเรื่องโกหก ผมมาเพื่อช่วยพวกคุณเป็นหลัก” หยางเหว่ยพูดด้วยรอยยิ้ม

“ช่วยเหลือพวกเรา?” เลขาจางงงเล็กน้อย

“ผมได้ยินมาว่าชิงเฉิงกรุ๊ปอยู่ในรายชื่อการคัดเลือกล่วงหน้าของตระกูลฉาวแล้ว แต่ยังห่างจากการเป็นพาร์ทเนอร์ที่แท้จริงอยู่เล็กน้อย ดังนั้นผมจึงวางแผนที่จะช่วยเหลือให้พวกคุณชนะและมีสิทธิที่ได้เป็นพาร์ทเนอร์!" หยางเหว่ยพูดอย่างมั่นใจ

“เยี่ยมมากเลย ขอบคุณคุณหยางมากๆค่ะ!” เลขาจางดีใจมาก

หากพวกเขาสามารถเป็นคู่ร่วมมือของตระกูลฉาว ได้ ไม่เพียงแต่ชิงเฉิงกรุ๊ปที่จะไปถึงระดับที่สูงขึ้นได้

แม้แต่สถานะของเธอในฐานะเลขานุการของประธานก็ได้สูงขึ้นไปด้วย

“ไม่ต้องเกรงใจหรอก ด้วยความสัมพันธ์ของผมกับชิงเหยา เรื่องแค่นี้เล็กน้อย” หยางเหว่ยยิ้มอย่างมีเลศนัย

“ใช่ ใช่ เราเป็นครอบครัวเดียวกัน” เลขาจางยิ้มอย่างคล้อยตาม

แต่หลี่ชิงเหยาที่อยู่ข้างๆพวกเขาดูเหมือนจะไม่ได้ยินการสนทนาของเขาสองคน

เพราะสายตาของเธอทอดมองออกไปในระยะไกลเสมอ

มีรถหรูคันหนึ่งจอดอยู่ที่นั่น

แล้วข้างรถคันหรูนั้นมีคนที่คุ้นเคยคนหนึ่งยืนอยู่

“นั่น...ลู่เฉินหรอ?”

หลังจากหลี่ชิงเหยามองอย่างตั้งใจ ในที่สุดเธอก็นึกออกแล้ว

ตั้งแต่ความจริงของการตบคนถูกเปิดเผย เธอก็รู้สึกอยู่เสมอว่าเธอเป็นหนี้กับลู่เฉิน

ในเมื่อได้เจอเขาแล้ว งั้นก็ควรอธิบายเรื่องที่เข้าใจผิดกันให้ชัดเจน

เมื่อเธอนึกถึงเรื่องนี้ เธอก็เดินเข้าไปใกล้ทันที

“ลู่เฉิน...”

หลี่ชิงเหยาเปิดปาก และเมื่อเธอกำลังอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เธอก็ต้องตกตะลึง

เพราะเธอพบว่ามีผู้หญิงที่สวยมากคนหนึ่งยืนอยู่ข้างลู่เฉิน!

ผู้หญิงคนนั้นสวมชุดกี่เพ้าสีแดงที่หรูหราอย่างยิ่ง

เอวที่บางๆ บั้นท้ายที่สวย และหน้าอกที่ใหญ่ของเธอ แสดงออกมาให้เห็นอย่างเต็มตา

ประกอบกับหน้าตาที่ไร้ที่ติกับออร่าที่สง่างามและสูงส่งของเธอ

ทำให้เธอดูเหมือนราชินี!

และไม่มีใครเทียบเทียมได้!