“พี่หลินเฟิง...”ในตอนนี้เอง หลินเสวี่ยฮุ่ยเดินโซเซเข้ามาที่ด้านข้างของหลินเฟิง และหายใจหอบพูดขอร้องว่า:“พี่หลินเฟิง ไม่เอา...อย่าวู่วามนะ ถ้าหากฆ่าเขา...พี่ก็จะเดือดร้อน!”“พี่หลินเฟิง อย่าวู่วามเด็ดขาด อย่า...”หลินเสวี่ยฮุ่ยจับแขนของหลินเฟิงไว้ พูดขอความเมตตาได้ครึ่งหนึ่ง จู่ๆๆ ก็หลับตาลง และหมดสติล้มไปบนพื้น“เสวี่ยฮุ่ย!”หลินเฟิงเห็นหลินเสวี่ยฮุ่ยหมดสติ จึงไม่สนใจเจียงปินอีกต่อไปเขารีบผลักเจียงปินไปที่ด้านข้าง ประคองหลินเสวี่ยฮุ่ยขึ้นมา และหลับตาลงตรวจภายในร่างกายของหลินเสวี่ยฮุ่ยไม่นานนัก หลินเฟิงก็พบว่าภายในร่างกายของหลินเสวี่ยฮุ่ยมีไฟหยินกลุ่มหนึ่งที่ยิ่งอยู่ยิ่งโหมกระหน่ำสำหรับอาการแบบนี้ หลินเฟิงงงงวยเล็กน้อย แต่ไม่นานนัก จู่ๆ เขาก็นึกถึงเหล้าที่เจียงปินฝืนกรอกปากให้หลินเสวี่ยฮุ่ยในเหล้านั้น คงจะผสมยาที่กระตุ้นอารมณ์บางอย่าง เพิ่มไฟหยินขึ้นมา“ไอ้สารเลว!”หลินเฟิงจะไม่เข้าใจได้อย่างไรว่าเจียงปินคิดอะไรอยู่เขาจึงโกรธขึ้นมาฉับพลัน แต่ติดตรงที่ตรงนี้อยู่ภายใต้สายตาของทุกคน ไม่สามารถถอนพิษให้เสวี่ยฮุ่ยที่ตรงนี้ได้ ดังนั้นทำได้เพียงไว้ชีวิตเจียงปินก่อนชั่วคราว
“เธอถูกพิษ อดทนหน่อย กลับไปฉันจะถอนพิษให้เธอ”หลินเฟิงกัดฟัน อดกลั้นกับร่างกายหญิงสาวที่อ่อนนุ่ม ตั้งสมาธิทั้งหมดไปที่บนถนนที่อยู่นอกรถ“อื้อ...อืม”หลินเสวี่ยฮุ่ยครวญคราง แต่ก็ยังพยักหน้าอย่างเชื่อฟังกว่าจะกลับมาถึงอ่าวเทียนสุ่ยได้หลินเฟิงไม่พูดพร่ำทำเพลง อุ้มหลินเสวี่ยฮุ่ยเข้าไปในห้องของเธอโดยตรง โชคดีที่ตอนนี้ในคฤหาสน์ไม่มีคนพอดีจ้าวเฉียวอวิ๋นก็กำลังยุ่งอยู่ที่ในร้าน ไม่ได้กลับมาส่วนอิ่นนั่วเจียกับพวกอวี๋จื่อเสวียนออกจากมหาวิทยาลัยไปที่บริษัท หลังจากเสร็จสิ้นงานรับปริญญาของพวกเธอตอนนี้ก็ยังไม่กลับมานี่เป็นโอกาสดีที่หาได้ยากมาก...เพิ่งคิดถึงตรงนี้ หลินเฟิงก็เกือบจะทนไม่ไหวจนตบหน้าตัวเอง โอกาสดีที่หาได้ยากอะไรกัน?หลินเฟิงฝืนยิ้มออกมา ภายในห้องรับน้ำอาบอ่างใหญ่ ละลายยาแก้พิษ และใช้พลังชี่แท้เร่งให้ออกฤทธิ์ไม่นานนัก น้ำในอ่างอาบน้ำนี้ก็ส่งกลิ่นยาออกมา“เอาล่ะเสวี่ยฮุ่ย ตอนนี้เธอ...”หลินเฟิงเพิ่งหันหน้าไป ก็เห็นหลินเสวี่ยฮุ่ยในตอนนี้แต่งตัวเย็นสบายอย่างมาก สวมแค่เพียงชุดชั้นใน เห็นสายตาตะลึงงันของหลินเฟิง เธอก็ยิ้มซื่อๆ เหมือนกับดื่มเหล้าเมาและพูดว่า:“ร้อนมาก ฉั
เขาอุ้มหลินเสวี่ยฮุ่ยออกมาจากในอ่างอาบน้ำ วางลงบนเตียงก็อยากจะออกจากห้องของเธอไปทั้งแบบนี้แต่เห็นท่าทางหลับสนิทของหลินเสวี่ยฮุ่ย และผมกับร่างกายที่เปียกชุ่ม หลินเฟิงก็อดไม่ได้หากจะเดินจากไปโดยตรงถ้าหลับต่อไปแบบนี้ ต้องไม่สบายแน่นอนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง หลินเฟิงถึงได้ทำการตัดสินใจยังไงเธอก็หลับแล้ว ไม่รู้อะไรทั้งนั้นหลินเฟิงค้นหาเสื้อผ้าของหลินเสวี่ยฮุ่ยในตู้เสื้อผ้า และใช้ผ้าเช็ดตัวเช็ดร่างกายให้เธอสุดท้ายก็เปลี่ยนเป็นชุดแนบเนื้อที่สะอาดสะอ้านระหว่างนี้ หลินเฟิงถึงแม้จะพยายามเต็มที่แล้ว แต่สิ่งที่ควรดูไม่ควรดูเขาก็ดูจนหมดแล้วเขารู้สึกกระอักกระอ่วนอย่างมาก แต่โชคดีที่สุดท้ายก็เปลี่ยนเสร็จหลินเฟิงถอนหายใจยาวๆ ออกจากห้องของหลินเสวี่ยฮุ่ยเหมือนหนีตาย......หลินเฟิงไม่กล้าอยู่ต่อนานนักเขากลัวว่าหลังจากหลินเสวี่ยฮุ่ยตื่นขึ้นมา เมื่อนึกถึงบรรยากาศกระอักกระอ่วนระหว่างทั้งสองคน ดังนั้นจึงรีบขับรถออกจากเมืองเจียงโจวในคืนเดียวกันวันต่อมาเขาปรากฏตัวที่เมืองเจิ้งเต๋อ มารายงานตัวที่หลี่ซื่อกรุ๊ปตรงเวลาในฐานะหัวหน้าแผนกรักษาความปลอดภัยของหลี่ซื่อกรุ๊ป งานของหลินเฟิงพูดได้ว
เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าหลี่เหวินเชาต้องการที่จะเลี่ยงความรับผิดชอบชายที่ถูกเรียกว่ารองประธานโจวก็ลุกขึ้นยืนทันที ก่อนจะเดินไปข้าง ๆหลี่เหวินเชา แล้วจับคอเสื้อของเขา พร้เอมกับด่าทอว่า :“แล้วมันไม่ใช่ความคิดของไอ้สารเลวอย่างแกเหรอ? ที่บอกว่าเอาที่ดินตรงนี้ ไปหลอกเอาเงินแม่ของแกเพื่อมาใช้หนี้พนัน.....”“แม่งเอ๊ย ตอนนี้กลับเป็นคนในครอบครัวของแกได้เปรียบไป”รองประธานโจวโยนหลี่เหวินเชาลงบนโซฟาแล้วตะโกนใส่ว่า :“ฉันจะให้เวลาแกสามวันไปคิดหาทางซื้อที่ดินตรงนี้คืนจากกลับมาให้ฉัน หากซื้อคืนกลับมาไม่ได้ นายก็รอถูกตัดหัวได้เลย!”หลังจากที่พูดคำนี้จบ ประธานโจวก็ทุบโต๊ะ“รปภ.!”ทันใดนั้น ประตูบานคู่ของสำนักงานก็เปิดออก ก่อนที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองคนที่ดูแข็งแกร่งและสูงสองเมตรจะเดินเข้ามา“จับมันโยนออกไป!”รองประธานโจวชี้ไปที่หลี่เหวินเชา พร้อมกับตะโกนขึ้น“ครับ รองประธานโจว”เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งสองคนหิ้วปีกหลี่เหวินเชาออกไปจากบริษัทราวกับจับลูกไก่ แล้วไปโยนทิ้งไว้บนถนนเหมือนกับสุนัขที่ตายแล้วตัวหนึ่ง“พวกแก....พวกแกจะเกินไปแล้วนะ!”หลี่เหวินเชาลุกขึ้นจากพื้น พร้อมกับป
“ไอ้สารเลว แกยังกล้ากลับมาอีกนะ!”ทันทีที่จางกุ้ยหลานเห็นหลี่เหวินเชา สีหน้าก็เปลี่ยนไป ก่อนที่จะเริ่มด่าทอหลี่เหวินเชาทำเธอเจ็บปวดอย่างมากสุดท้ายหากไม่ใช่หลินเฟิงที่เป็นคนโดนโกง แล้วเอาที่ดินที่ขายไม่ออกตรงนั้นไปเธอก็คงจะเดือดร้อนมากแน่ ๆไม่เพียงแค่สูญเสียวิลล่าหรูหราเท่านั้น ถึงขั้นที่ถูกคนไล่ล่าอีกด้วยจุดจบแบบนั้น แค่คิดก็ทำให้จางกุ้ยหลานสั่นไปทั้งตัวเมื่อเห็นตัวการสำคัญคนนี้ จางกุ้ยหลานก็ไม่สามารถระงับความโกรธในใจได้อีกต่อไป ก่อนจะชี้ไปที่หน้าของหลี่เหวินเชาและด่าทอเสียงดัง“ไอ้สารเลวน่ารังเกียจ แกต้องการจะฆ่าแม่ของแกให้ตาย! แล้วตอนนี้แกยังกล้าโผล่หน้ามาเจอฉันอีกเหรอ?!”“แม่ แม่ก็พูดเกินไป”หลี่เหวินเชาเกาหัว ก่อนจะยิ้มอย่างกระอักกระอ่วน สุดท้ายก็วางดอกไม้ที่พามาด้วยไว้บนโต๊ะที่อยู่ด้านข้างจางกุ้ยหลานแต่คิดไม่ถึงเลยว่าจางกุ้ยหลานจะไม่ซาบซึ้งเลยแม้แต่น้อยก่อนจะปัดช่อดอกไม้ร่วงตกไปอยู่บนพื้น“แกออกไปซะ ฉันไม่อยากเห็นหน้าแก ฉันไม่มีลูกชายสารเลวที่หลอกได้แม้กระทั่งแม่อย่างแก!”เมื่อได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าของหลี่เหวินเชาก็เปลี่ยนไปแต่เมื่อเขาคิดถึงราคาที่ดินตรงนั้น
“ก็ปล่อยให้เธออยู่ด้วยกันกับหลินเฟิงไปเถอะ ไม่ช้าก็เร็วพวกเขาก็ต้องจบเห่!”“สุดท้ายพี่สาวของผมก็ต้องร้องไห้กลับมาขอร้องพวกเรา”หลังจากที่ได้ยินคำพูดนี้ ในที่สุดจางกุ้ยหลานก็วางใจ“ได้ได้ได้ เด็กอย่างแกถือว่าคิดได้แล้วนะ”หลังจากที่ได้รับคำชม สีหน้าของจางกุ้ยหลานก็เปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน โดยมีความรู้สึกกระอักกระอ่วนเล็กน้อย“ที่พูดมานั้นก็เป็นเรื่องจริง แต่.....เหวินเชา ที่ดินตรงนั้น....ที่ดินตรงนั้นถูกฉันขายทิ้งไปแล้ว”“อะไรนะ?!”หลังจากที่ได้ยินคำพูดนี้ หลี่เหวินเชาก็กระโดดสูงสามฟุตเหมือนกับแมวที่ถูกเหยียบหาง “แม่....แม่...แม่มันเกิดอะไรขึ้น? ทำไมถึงมีคนซื้อที่ดินตรงนี้ในเวลาอันสั้นแบบนี้ล่ะ?”“แม่ขายให้ใครไป?”เมื่อเห็นปฏิกิริยาที่รุนแรงขนาดนี้ของลูกชายตัวเอง จางกุ้ยหลานก็รู้สึกผิดเล็กน้อย ก่อนจะเกาหัวอย่างกระอักกระอ่วนพร้อมกับพูดว่า :“หลังจากที่ลูกโทรมาหาในวันนั้น แม่ก็กังวลนิดหน่อย สุดท้ายก็เลยเอาที่ดินตรงนั้นขายให้กับหลินเฟิงไป”“หลินเฟิง? แม่ขายให้กับหลินเฟิง?!”เมื่อหลี่เหวินเชาได้ยินชื่อนี้ หัวก็แทบจะระเบิด แต่เขายังคงกอดความหวังสุดท้ายเอาไว้ ก่อนจะฝืนรอยยิ้มสุดท้า
“คุณป้า สิบเท่า! ไม่เพียงแค่สิบเท่า!”จางซินนับนิ้วมือ คำนวณและพูดว่า:“ก่อนหน้านี้พวกเราใช้เงินจำนวนสองพันห้าร้อยล้านบาทซื้อที่ดินผืนนี้เอาไว้ และตอนนี้ มูลค่าของที่ดินผืนนี้เกินสองหมื่นห้าพันล้านบาทแล้ว!”“ป้า นั่นมันสองหมื่นห้าพันล้านบาทแล้ว!”ได้ยินตัวเลขที่จางซินรายงานออกมา จางกุ้ยหลายงุนงงไปหมด เธอนั่งลงบนเตียง พูดไม่ออกอยู่ครู่ใหญ่“เร็ว…เร็ว…เร็ว…”จางกุ้ยหลานตั้งสติอยู่นาน ถึงได้ยกมือขึ้นอย่างเหม่อลอย มองไปทางจางซินและพูดว่า:“เอาโทรศัพท์ของฉันมา ฉัน…ฉันจะโทรศัพท์ไปหาหลินเฟิง!”“ได้ค่ะ!”จางซินกระตือรือร้นอย่างมาก ที่ดินผืนนี้ถ้าหากจางกุ้ยหลานได้มา งั้นเธอยังไงก็ได้รับเงินส่วนแบ่งจางกุ้ยหลานถือโทรศัพท์มือถือเอาไว้ เปิดสมุดโทรศัพท์เลื่อนไปที่หมายเลขของหลินเฟิงในตอนที่ปุ่มโทรออก จู่ๆ เธอก็นิ่งอึ้งไป“คุณป้า เป็นอะไรไป? รีบโทรสิคะ!”เห็นได้ชัดว่าจางซินร้อนใจยิ่งกว่าจางกุ้ยหลานส่วนหลี่เหวินเชาที่อยู่ข้างๆ ก็ร้อนใจอย่างมาก รีบพูดเร่งว่า: “แม่ รีบโทรสิ แม่ยังลังเลอะไรอีก?”“ฉัน…”จางกุ้ยหลานพูดไม่ออก ผ่านไปครู่หนึ่ง เธอถึงได้มองไปทางจางซินกับหลี่เหวินเชาด้วยความกร
จางกุ้ยหลานวางโทรศัพท์ลง ภายใต้สายตาคาดหวังของจางซินและหลี่เหวินเชา จากนั้นถอนหายใจพูดว่า:“ช่างเถอะ ในเมื่อที่ดินผืนนี้ได้ถูกขายไปแล้ว งั้นฉันก็ไม่เอาแล้ว ในเมื่อ…”จางซินรู้ดีอยู่แล้ว แต่เธอหนังหน้าหนาพูดเกลี้ยกล่อมว่า:“คุณป้า นั่นมันสองหมื่นห้าพันล้านบาทเชียวนะ!”“มีเงินสองพันห้าล้านบาทนี้ ชีวิตที่เหลือของเราก็มีแต่ความร่ำรวยรุ่งโรจน์ อยากได้อะไรก็ได้หมด?”“ตอนนี้ไปขอจากหลินเฟิง คิดว่าสุดท้ายเขาเห็นแก่หน้าของหลี่ฮุ่ยหราน ก็ยังคืนที่ดินผืนนั้นมาให้เราอยู่ดี”“ในเมื่อไอ้หมอนี่ชอบโอ้อวดต่อหน้าหลี่ฮุ่ยหรานมากที่สุด”คำแนะนำของจางซินทำให้จางกุ้ยหลานหวั่นไหวจริงด้วย นั่นมันสองหมื่นห้าพันล้านบาทเชียวนะ!มีเงินมหาศาลก้อนนี้ ชีวิตที่เหลือ เธอสามารถทำอะไรก็ได้ที่เธอต้องการ“แม่ แม่ต้องซื้อที่ดินผืนนั้นกลับมาจากในมือหลินเฟิงให้ได้นะ ไม่อย่างนั้น…ไม่อย่างนั้นลูกชายแม่ต้องตายแน่!”หลี่เหวินเชาล้มลงบนเตียงและร้องไห้โฮออกมา“อะไร?! ไม่มีที่ดินผืนนี้ ก็จะตายเหรอ?”จางกุ้ยหลานตกตะลึงส่วนจางซินกลับมองความเสแสร้งของไอ้หมอนี่ออก พูดยิ้มว่า:“คุณป้า ไม่ใช่ว่าจนถึงตอนนี้ป้ายังดูไม่ออก
“เพียงแค่วางยาคุณหลงซิ่ว เพื่อดูว่าคุณมีพละกำลังพอที่จะเป็นลูกผู้ชายหรือเปล่า”หลินเฟิงมองไปที่หลงซิ่วที่สวมสูทสีชมพู แต่งเนื้อแต่งตัวเกินความพอดี รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาจริงใจอย่างยิ่ง"แก......"“เอาล่ะ เอาล่ะ ผมรู้ว่าคุณทรมาน วางใจได้ ผมไม่มีทางไม่สนใจคุณ”ขณะพูดหลินเฟิงดีดนิ้วชายสองคนในชุดสูทก้าวออกมาจากด้านหลังของหลินเฟิง หามหลงซิ่วขึ้นและพาเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สองคนเหล่านี้คือคนของเผิงกวงฉี่ส่วนเผิงกวงฉี่ก่อนหน้านี้ เขาได้นำลูกน้องสี่หรือห้าคนของเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สอง ที่มีโซฟาสีชมพูขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ถ่ายภาพตั้งนานแล้วภายในห้องมีชายเปลือยกาย 2 คนล้มลงในแอ่งเลือดเมื่อถานหงเดินเข้ามาในห้องส่วนตัวด้วยรอยยิ้มอาฆาตบนใบหน้า เห็นชายที่นั่งอยู่บนโซฟารอยยิ้มบนใบหน้าของเธอแข็งทื่อ และกลายเป็นร่องรอยของความกลัวและความตื่นตระหนก“ถานหง ผ่านไปเพียงไม่กี่วัน เธอก็ได้พบกับที่พึ่งใหม่แล้วเหรอ?”เผิงกวงฉี่นั่งสูบบุหรี่ซิการ์อยู่บนโซฟา และมองไปที่ถานหงอย่างไม่ใส่ใจ"ฉัน......"ถานหงรู้สึกสับสนในเวลานี้ เผิงกวงฉี่มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?หรือว่า...หัวใจของถานหงรู้ส
ชีพจรมังกร...จะเป็นจื่อเสวียนรึเปล่านะ? -อิ่นนั่วเจียตกใจอย่างมาก และไม่ทราบว่าจื่อเสวียนกลายมาเป็นชีพจรมังกรที่หลงซิ่วพูดถึงได้อย่างไรดูเหมือนว่าตระกูลหลงจะต้องการสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรอย่างมากและครั้งนี้หลงซิ่วช่วยเหลือถานหง ในที่สุดก็รู้เป้าหมายชัดเจนแล้วพวกเขามาที่นี่เพื่อสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรในมือของหลินเฟิง!หลังจากคิดเรื่องนี้ออก ใบหน้าของอิ่นนั่วเจียก็ไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ออกมาเลย นอกจากความคิดอันลึกซึ้งในทางกลับกัน จวงฉุนกลับถามหลงซิ่วด้วยสีหน้าสับสน:“คุณหลงซิ่ว ชีพจรมังกรคืออะไร?”“ชีพจรมังกรนั้นคือ…”หลงซิ่วไม่ต้องการตอบคำถามของจวงฉุน แต่เห็นว่าอินนั่วเจียยังคงจมอยู่กับความคิดเขาอธิบายอย่างเรียบง่ายว่า:"มีการกล่าวกันว่าชีพจรมังกรเป็นที่มาของโชคลาภของประเทศมังกร"“หากรวบรวมชีพจรมังกรครบทั้งแปดเส้นได้ ก็จะกลายเป็นราชาแห่งมังกรตัวจริงได้ ตามประวัติศาสตร์แล้ว ชีพจรมังกรเหล่านี้เป็นของตระกูลหลงของเรามาโดยตลอด”“เพราะเหตุนี้สถานที่นี้จึงเรียกได้ว่าเป็นประเทศมังกร”“แล้วนามสกุลของเราคือหลง (หลง แปลว่า มังกร) เข้าใจแล้วยัง?”“เราแค่อยากนำสิ่งที่เดิมเป็น
ดังนั้นการร่วมมือกับถานหง เพื่อจัดการกับอิ่นนั่วเจียและหลินเฟิงจึงเป็นเพียงงานเสริมเท่านั้นจุดประสงค์ที่แท้จริงของหลงซิ่วคือเพื่อสำรวจหรือแม้กระทั่งเอาชีพจรมังกรที่อยู่รอบตัวหลินเฟิงออกไป!มีเพียงแค่เอาชีพจรมังกรมาอยู่ในมือ หลงหยวนก็สามารถใช้พละกำลังของเขา จัดการกับหลินเฟิงอย่างกล้าหาญได้และเรื่องของชีพจรมังกรมีเพียงหลงซิ่วและสวีโจวซึ่งเป็นนักบู๊ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดานักบู๊ของตระกูลหลงที่เขาส่งออกไปเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ส่วนที่เหลือก็ไม่ชัดเจนนักแต่ในเวลานี้หลงซิ่วไม่รู้ว่าสวีโจวและคนอื่น ๆ ได้กลายเป็นวิญญาณที่ตายแล้วในมือของหลินเฟิง ด้วยความพยายามผลักดันของจวงฉุน ไม่มีใครหนีไปได้สักคนเหลือเพียงจวงฉุนเท่านั้น และเพื่อความอยู่รอด เขาจึงได้กลายมาเป็นคนทรยศหากหลงซิ่วรู้เรื่องนี้เกรงว่าเขาจะตบจวงฉุนคนไร้ประโยชน์คนนี้จนตายไปซะเลยแทนที่จะชื่นชมเขาเพราะเขาพาอิ่นนั่วเจียมาอยู่เคียงข้างเขา"เอาล่ะ"หลงซิ่วยืนขึ้นและโบกมือให้อิ่นนั่วเจียอย่างด้วยสีหน้านิ่งเฉย“ผมได้เตรียมคนและอุปกรณ์ไว้แล้ว อยู่ในห้องส่วนตัวใต้ดินชั้นสอง ถานหง คุณไปเตรียมตัวก่อนเถอะ”“รอผมถามคำถามอิ่
“ฉันคือลูกน้องของเธอ? คุณหลงซิ่ว นี่มันเรื่องอะไรกัน? ฉันจำได้ว่าไม่มีข้อกำหนดนั้นในสัญญาของเราหรอกมั้ง?”อิ่นนั่วเจียขมวดคิ้วและมองไปที่หลงซิ่วหลงซิ่วสับสนเป็นอย่างมาก แต่ไม่ได้พูดอะไรยังคงเป็นถานหงที่ตอบคำถามของอิ่นนั่วเจียด้วยเสียงหัวเราะ“อิ่นนั่วเจีย เธอช่างไร้เดียงสาเกินไป เธอคิดจริงๆ เหรอว่าตระกูลหลงจะเต็มใจยอมรับเธอ เพราะพวกเขาเห็นคุณค่าในชื่อเสียงและความสามารถของเธอจริงๆ”ถานหงส่ายหน้าอย่างดูถูกและกล่าวว่า:“ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน ตระกูลหลงจะยอมรับเธอได้ยังไง?”“อ่อใช่ ไม่ว่าฉันหรือตระกูลหลง ก็ไม่ได้โกหกเธอ เพราะฉันคือผู้รับผิดชอบบริษัทบันเทิงของตระกูลหลงที่เธอเข้าร่วมมาโดยตลอด”“ดังนั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อิ่นนั่วเจีย เธอต้องเชื่อฟังฉัน เข้าใจไหม?”“ฉันให้เธอถ่ายหนังอะไร เธอก็ต้องไปถ่าย”"เดี๋ยวนะ"อิ่นนั่วเจียยื่นมือออกไปและขมวดคิ้ว:“ถานหง เธอพูดรุนแรงเกินไปแล้ว ฉันจำได้ว่าฉันไม่เคยทำให้เธอขุ่นเคืองมาก่อน ทำไมเธอถึงตั้งใจจะจัดการกับฉันขนาดนั้น?”“ถึงขั้นยอมทุ่มเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเพื่อดึงตัวฉันมาจากหลี่ซื่อกรุ๊ปด้วย”“จุ๊จุ๊จุ๊”เมื่อได้ยินคำพูดของอิ่นนั
“บ้าเอ๊ย ฉันไม่สามารถทนได้จริงๆ ติดต่อน้องหลินให้ฉัน ฉันจะเข้าแทรกแซงเรื่องนี้ด้วย!”...วันต่อมาในบาร์ใต้ดินแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของเมืองจิงจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียที่สวมหมวกและหน้ากากไว้ และดูเรียบง่ายมากรีบเดินทางมาที่นี่ ที่นี่คือ “สถานที่นัดพบ” ที่หลงซิ่วพูดถึงควบคู่ด้วยเสียงดนตรีอันไพเราะและฝูงชนที่เต้นรำจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียเดินผ่านทางเดินและมองเห็นหลงซิ่วกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะ พร้อมคาบบุหรี่อยู่ในปากเมื่อเห็นว่าอิ่นนั่วเจียมาจริง ๆ ดวงตาของหลงซิ่วก็เป็นประกายบุหรี่ในปากของเขาหล่นลงพื้นโดยไม่รู้ตัวแม้ว่าอิ่นนั่วเจียจะสวมเพียงชุดเดรสยีนส์ซึ่งทำให้เธอดูเป็นเด็กสาวมากในวันนี้ แต่หุ่นที่น่าสะพรึงกลัวของเธอก็ยังทำให้ หลงซิ่วที่กำลังนั่งอยู่ตรงโต๊อย่างไม่ใส่ใจก็ต้องกลืนน้ำลายลงคอ"เชี่ย ไม่เสียแรงที่เป็นซูเปอร์สตาร์ประเทศมังกรจริงๆ นะ!"หลงซิ่วอดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบเธอกับถานหง หลังจากคิดดู นี่มันไม่ใช่คนระดับเดียวกันด้วยซ้ำ!แม้ว่าถานหงจะเป็นราชินีเพลงประเทศมังกร หน้าตาก็คล้ายๆกันแต่เมื่อเทียบกับอิ่นนั่วเจียสาวสวยที่อยู่แต่ในจอ ถานหงยังด้อยกว่าเยอะมากเพียงแค่ออร่าอันส
สำนักงานใหญ่กลุ่มเผิงกวง เมืองจิงขณะนั้นเผิงกวงฉี่กำลังคาบซิการ์ไว้ในปากอย่างเรื่อยเปื่ยอ ฟังการโต้เถียงขัดแย้งระหว่างตัวแทนจากทั่วทุกแห่งในการประชุมแม้ว่าเผิงกวงฉี่จะดูเป็นปกติ แต่ในใจเขากลับโกรธมากพวกขยะพวกนี้ได้แต่โทษกันไปมา และต่างคนต่างหาผลประโยชน์แม้แต่เผิงกวงฉี่ก็ยังคิดว่า ควรจะกำจัดคนไร้ประโยชน์เหล่านี้ และส่งเสริมให้คนอื่นขึ้นมาเป็นผู้นำภูมิภาคดีไหมขณะที่กำลังคิดแบบนี้ โทรศัพท์มือถือของเผิงกวงฉี่ก็ดังขึ้นกะทันหันเสียงโทรศัพท์ทำให้ห้องประชุมเงียบลงทันที“คุณหลินโทรมาครับ คุณเผิงกวงฉี่”ผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆ ยื่นโทรศัพท์ให้ด้วยความเคารพเมื่อคิดว่าเป็นหลินเฟิง เผิงกวงฉี่ก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมากไม่พูดไม่ได้ว่ายาหยกโมราของหลินเฟิงมีประสิทธิภาพมากจริงๆ ควบคู่กับน้ำพุร้อนที่เจียงโจว ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองดูหนุ่มลงเรื่อย ๆ และร่างกายก็เต็มไปด้วยกำลังวังชาแม้แต่ผู้หญิงคนใหม่ที่หามาช่วงนี้ ก็ไม่สามารถทำให้เขาพึงพอใจได้ช่วงนี้เขากำลังคิดว่าควรจะหาเพิ่มอีกสักหน่อย เพื่อสร้างทายาทให้กับตระกูลเผิงของเขาสองเดือนที่แล้ว นี่เป็นสิ่งที่เขาไม่กล้าคิดมาก่อนด้วยซ้ำ“ฮัลโหล
“ฉันจะโอนเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเข้าบัญชีของคุณทันที ทางที่ดีคุณให้อิ่นนั่วเจียออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ปโดยเร็วที่สุด ให้เธอมาพบฉันที่เมืองจิง”"ฮ่าฮ่าฮ่า......"ถานหงที่อยู่ปลายสายหัวเราะอย่างโอเวอร์“ฉันต้องการให้อิ่นนั่วเจียคุกเข่าอยู่แทบเท้าฉัน! ยังมีหลินเฟิง ฉันจะทำให้หลินเฟิงและหลี่ซื่อกรุ๊ปบ้าบออะไรนั่นได้ชำระในสิ่งที่ควรจ่าย!”หลังจากพูดจบโทรศัพท์ก็วางสายไปและภายในเวลาไม่กี่นาที ข้อความเงินสดเข้าบัญชีจำนวนสองหมื่นห้าพันล้านบาทก็ปรากฏบนโทรศัพท์มือถือของจวงฉุนทันทีเมื่อมองดูข้อความบนโทรศัพท์ ลมหายใจของจวงฉุนก็เร็วขึ้นอย่างมาก เขาไม่เคยเห็นเงินมากขนาดนี้ในชีวิตของเขามาก่อนแต่เมื่อเขาเงยหน้ามองไปทางหลินเฟิง ก็รู้สึกเหี่ยวเฉาทันทีเขารู้ว่าเงินจำนวนนี้จะไม่มีวันมาถึงเขาด้วยซ้ำ อีกทั้งเรื่องที่อิ่นนั่วเจียเข้าร่วมตระกูลหลงเป็นเรื่องโกหกทั้งหมดเขาแค่อยากหลอกเอาเงินก้อนนี้มาจากหลงซิ่ว เพื่อใช้รักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้ก็เท่านั้นเอง“ตอนนี้โอนเงินก้อนนี้เข้าบัญชีของหลี่ซื่อกรุ๊ปเถอะ”หลินเฟิงไม่พูดมาก บังคับจวงฉุนให้ดำเนินการบนโทรศัพท์มือถือของเขาโดยตรงหลังจากนั้นไม่นาน เงิน
“ดูเหมือนว่าคุณจะได้เจอกับอิ่นนั่วเจียจริงๆ นะ”หลงซิ่วที่อยู่ปลายสายพูดอย่างใจเย็นว่า:“ผมลืมบอกคุณไปว่าตอนนี้อิ่นนั่วเจียเป็นสมาชิกของหลี่ซื่อกรุ๊ปแล้ว เธอเต็มใจที่จะออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ป และร่วมมือกับตระกูลหลงของเราจริงๆ เหรอ?”เมื่อได้ยินสิ่งที่หลงซิ่วพูดจวงฉุนสั่นสะเทือนไปทั้งตัวเกือบหัวใจวายเพราะความโมโหในที่สุดเขาก็ได้ลิ้มรสว่าการถูกหลอกเป็นอย่างไรหากหลงซิ่วเล่าเบื้องหลังของอิ่นนั่วเจียให้เขาฟังก่อนหน้านี้เขาจะพาผู้คนมาที่นี่เพื่อมาหาอิ่นนั่วเจีย และตกหลุมพรางได้ยังไง?ตอนนี้มันสายเกินไปที่จะพูดอะไรอีกแล้วร่องรอยแห่งความโกรธเริ่มผุดขึ้นในใจของจวงฉุนหากพูดว่าเมื่อครู่เพียงแค่โกหกหลงซิ่ว เขาก็มีความกดดันอยู่ไม่น้อยเมื่อเขาได้ยินว่าหลงซิ่วปกปิดเรื่องของอิ่นนั่วเจียกับเขา เขาก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันทีหากคุณไม่ได้บอกผมให้ชัดเจนก่อนที่คุณจะจากไปผมจำเป็นต้องตกไปอยู่ในมือของหลินเฟิงงั้นเหรอ?จวงฉุนตัดสินใจ คำพูดก็ราบรื่นมากขึ้น“ใช่ครับ คุณอิ่นนั่วเจียบอกผมเอง แต่ว่า...”"แต่ว่าอะไร?"หลงซิ่วที่ปลายสายโทรศัพท์ขมวดคิ้วเล็กน้อย“แต่คุณอิ่นนั่วเจียบอกว่าเธอได้เซ็น
จวงฉุนคิดว่าคำพูดนี้สมบูรณ์แบบไร้ที่ติขณะที่จวงฉุนกำลังจมอยู่กับจินตนาการของเขา หลินเฟิงก็ยื่นมือออกไปและโบกไปมาตรงหน้าจวงฉุน“การปล้นทำลายของพวกนายในครั้งนี้ ได้ทำลายสินค้าของหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันมูลค่าสองหมื่นห้าพันล้านบาทเต็มๆ เพียงแค่นายสามารถชดเชยเงินสินค้าเหล่านี้ให้เราได้ ฉันก็จะไม่ถือสาเอาความ”"สองหมื่นห้าพันล้านบาท?"เมื่อได้ยินตัวเลขนี้ อิ่นนั่วเจียที่อยู่ข้างๆ ก็เปิดริมฝีปากสีแดงของเธอออกครู่หนึ่ง เธอก็ส่ายหัวอย่างจนปัญญาหลินเฟิงกำลังพยายามกรรโชกเงินอยู่เหรอ!"เป็นไปไม่ได้!"เห็นได้ชัดว่าจวงฉุนก็ตกใจกับจำนวนเงินมหาศาลนี้อย่าว่าแต่ยี่สิบห้าล้านบาทเลย แม้แต่ห้าพันล้านบาทเขาก็ยังไม่มี จะอุดรูโบ๋นี้ได้อย่างไรหลินเฟิงรีดไถมากเกินไปจริงๆ“แน่นอนว่าหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันไม่สนใจเงินจำนวนน้อยๆ นี้ แต่ฉันแค่อยากเห็นท่าทางของคุณ”“เป็นไงบ้าง?”หลินเฟิงจ้องมองจวงฉุนด้วยความสนใจอย่างยิ่ง ต้องการดูว่าคนๆ นี้จะหาเงินได้มากเท่าไหร่เพื่อเอาชีวิตรอดได้ในเมื่อเสียหายหนึ่งหมื่นล้านบาท หลินเฟิงต้องหาชดเชยมาจากที่อื่น"ดี...ดีครับ!"จวงฉุนรู้ดีว่าวันนี้เขาไม่มีสิทธิ์ต่อรองกับหลิ