หากในวันปกติ ตระกูลตู้อาจจะยังทำอะไรฟ่างหลิงเยว่ไม่ได้ แต่วันนี้เธอกลับพบงานยากเข้าซะแล้ว!บังเอิญเจอกับลูกพี่ลูกน้องห่าง ๆของอาเผิงที่มาเยี่ยม แล้วยังมีนักบู๊มาด้วยอีกหลายคน วันนี้เด็กสาวคนนี้จะต้องเจอกับปัญหาอย่างแน่นอนตู้เหลียนเซิงรีบพูดขึ้นว่า :“ได้ ได้ ได้ พวกเราก็รออยู่ตรงนี้แหละ”“บอกกับพี่ชายของคุณด้วยว่า ถ้าหากเรื่องในวันนี้สำเร็จ ตระกูลตู้ของฉันจะตอบแทนให้อย่างงาม!”หลังจากที่วางสายแล้ว ตู้เหลียนเซิงก็ยิ้มเยาะออกมาอย่างเย็นชา“สาวน้อย หากฉันเป็นเธอ ตอนนี้เธอก็คงกำลังคิดที่จะหนีอยู่สินะ”“หึ”ฟ่างหลิงเยว่ไม่ได้พูดอะไร และทำเพียงแค่ยิ้มเยาะเท่านั้นเสียงยิ้มเยาะนี้ ทำให้ตู้เหลียนเซิงรู้สึกไม่แน่ใจอยู่เล็กน้อยเด็กสาวคนนี้มีเบื้องหลังหรือเปล่านะ?แต่น่าเสียดายที่ ลูกชายของตัวเองใกล้จะหมดลมหายใจแล้ว แถมยังอยากจะถามถึงตัวตนของเด็กสาวคนนี้ด้วย แต่ก็ไม่สามารถที่ถามได้เขาทำได้แค่รอเท่านั้นหลังจากนั้นไม่นาน ตรงทางเดินก็เกิดความโกลาหลขึ้นชายผมเหลืองที่เป็นหัวหน้าเตะประตูห้องไอซียู แล้วเดินเข้ามาพร้อมกับถือกระบอกเหล็กที่ด้านข้างของเขายังมีชายร่างใหญ่อีกสามสี่คน ท
ถึงแม้ว่าความแข็งแกร่งของคนพวกนี้อาจนับได้ว่าเป็นนักบู๊ แต่ทั้งหมดต่างก็เพิ่งจะเป็นนักบู๊ระดับเซียนเทียนขั้นเริ่มต้นเท่านั้นต่อหน้าฟ่านหลิงเยว่ที่ใกล้จะเข้าสู้แดนแปรภาพแล้วนั้นพวกเขาก็แทบจะไม่มีพละกำลังที่จะต่อต้านได้เลยฟ่านหลิงเยว่ตะโกนออกมาเบา ๆ ก่อนที่ทั้งร่างจะลอยขึ้นเหมือนกับนกกระเรียนที่กำลังบินแล้วเหยียบตรงที่หน้าต่าง แล้วออกหมัดที่ดูเหมือนจะเบา ๆ แต่กลับผลักชายร่างใหญ่ที่ไม่ทันได้ป้องกันกระเด็นออกไปในทันทีเด็กสาวที่มีน้ำหนักไม่ถึงห้าสิบกิโล คิดไม่ถึงว่าจะต่อยชายที่สูงกว่าเธอหลายช่วงศีรษะจนลอยไปชนกับกำแพง ไม่รู้เป็นตายร้ายดียังไงวิสัยทัศน์ทางสายตาที่เกิดจากหมัดนี้ ทำให้ฉีจวินและตู้เหลียนเซิงที่อยู่ไกล ๆเกือบจะอ้าปากค้าง“หมัดทลายคีรี!”ลูกพี่ลูกน้องของอาเผิงได้แสดงศิลปะการต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดออกมา แล้วหมัดก็ยังมาพร้อมกับเสียงระเบิดที่ดังราวกับจะระเบิดภูเขาและทำลายหินได้แต่ฟ่านหลิงเยว่เพียงแค่ชี้นิ้วไปทางเขาราวกับเป็นเครื่องหมายก็ทำให้ลูกพี่ลูกน้องของอาเผิงส่งเสียงกรีดร้องออกมา และเอามือกันหมัดของตัวเองจนถอยหลังออกไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า“เธอคือ....แดนแปรภาพงั้นเห
มันเกิดขึ้นในเวลานี้พอดีในที่สุดตู้จิ่นเชาก็ฟื้นคืนสติกลับมาได้ครึ่งหนึ่งและทันทีที่เขาลืมตาขึ้น ก็มองเห็นหลินเสวี่ยฮุ่ย และก่อนที่เขาจะรู้สึกตัวแล้วชี้ไปทางหลินเสวี่ยฮุ่ยพร้อมกับตะโกนอย่างบ้าคลั่งว่า :“พ่อ พี่เขย เป็นเธอที่สร้างปัญหา เธอที่ให้ผู้หญิงคนนั้นทำร้ายผม ต้องแก้แค้นให้ผมนะพ่อ!”เมื่อได้ยินคำพูดของลูกชายตัวเอง ตู้เหลียนเซิงก็ตกตะลึงไปชั่วครู่เพราะว่าเขาเพิ่งจะเข้าใจจากคำพูดของฉีจวินแล้วเช่นกันว่า เด็กสาวคนนี้เป็นถึงผู้อำนวยการโรงพยาบาลเมืองเจิ้งเต๋อนั่นเองจริง ๆแล้วที่เขามาที่นี่ก็เพื่อขอความช่วยเหลือคิดไม่ถึงว่าคนที่ลูกชายตัวเองจะไปล่วงเกินนั้น เป็นถึงผู้อำนวยการของโรงพยาบาลเมืองเจิ้งเต๋อและคิดไม่ถึงว่าผู้อำนวยการจะอายุน้อยขนาดนี้ แถมยังเป็นเพียงหญิงสาวตัวเล็ก ๆคนหนึ่งเท่านั้น“พ่อ พี่เขย พวกคุณยังตะลึงอะไรกันอยู่ แก้แค้นแทนผมสิ!”เมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องที่เจ็บปวดของตู้จิ่นเชาในที่สุดตู้เหลียนเซิงก็ทนไม่ไหว และขมวดคิ้วขึ้นพร้อมกับบอกลูกชายของตัวเองถึงตัวตนของหมอสาวคนนี้“อะไรนะ?!”หลังจากได้ยินข่าวนี้ ตู้จิ่นเชาก็รู้สึกเหมือนโดนฟ้าผ่าในฐานะคนของตระกูล
ผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตเผิงกวงฉี่หมอเทวดา ผู้ที่ประมูลขายยาเม็ดนับพันล้านและคนที่ได้รับการชื่นชมจากอาจารย์โปอย่างไม่มีสิ้นสุดเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งออกมา และตู้เหลียนเซิงก็ไม่สามารถไปล่วงเกินได้ด้วย! ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าเขาเป็นนักบู๊ที่น่าหวาดกลัวยิ่งกว่าเฝิงอวี้อู่เสียอีกเพราะว่าไม่กี่วันก่อนหน้านี้ เฝิงอวี้อู่ จากตระกูลเฝิงได้ประกาศข่าวสำคัญไปแล้วว่าตัวเองพ่ายแพ้ในการต่อสู้กับชายแข็งแกร่งลึกลับๆแล้ว และเขาก็รู้สึกว่าตัวเองด้อยกว่า และอยู่ในลำดับสามของอันดับสวรรค์ชายที่แข็งแกร่งคนนั้น ตอนนี้อยู่ในลำดับสองของอันดับสวรรค์แล้ว!สำหรับชายที่แข็งแกร่งและลึกลับคนนี้ คนอื่นอาจจะไม่รู้ แล้วเขาจะไม่รู้ได้อย่างไร ?ก็คือ หลินเฟิง!เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ตู้เหลียนเซิงก็ยิ่งตกตะลึงลูกชายที่ดีที่สุดคนนี้ของตัวเอง จะไปล่วงเกินกับคนแบบไหนกัน?!นี่คือการทำลายตระกูลตู้โดยตรงเลยงั้นเหรอ?“ขอบคุณมาก พี่หลินเฟิง”เมื่อได้ยินว่าหลินเสวี่ยฮุ่ยรับรายการมาจากในมือของหลินเฟิง แล้วก็ตะโกนเรียก “พี่หลินเฟิง”ทั้งร่างกายของตู้จิ่นเชาก็อ่อนแรงไปหมด ในตอนนี้เขาได้เข้าใจทุกอย่างแล้วจบแล้วทุกอย่
“ไม่สามารถนับได้เลย”ไม่รอให้หวังลี่ลี่ตอบกลับ หลินเสวี่ยฮุ่ยก็พูดขึ้นมาอย่างเย็นชาว่า :“ฉันยังมีอีกหลายบัญชีที่ต้องชำระกับพวกเขา!”“ปลุกเขาขึ้นมา”หลินเฟิงชี้ไปที่ตู้จิ่นเชา โดยที่ส่งสัญญาณอย่างชัดเจนให้กับตู้เหลียนเซิงผู้เป็นพ่อให้ลงมือทำด้วยตัวเอง“จิ่นเชา จิ่นเชา?”ตู้เหลียนเซิงไม่กล้าขัดขืน ก่อนจะรีบเขย่าลูกชายของตัวเอง แต่เมื่อเห็นว่าปลุกไม่ตื่น แถมแววตาของหลินเฟิงก็เย็นชาขึ้นเรื่อย ๆตู้เหลียนเซิงก็รู้สึกเหมือนมีหนามอยู่ด้านหลัง สุดท้ายจึงทำได้เพียงขบเขี้ยวเคี้ยวฟันเท่านั้นก่อนจะเหวี่ยงแขน ตบไปที่หน้าของลูกชายตัวเองอย่างแรง“เพี๊ยะ!”หลังจากที่ตบไปแล้ว ในที่สุดตู้จิ่นเชาก็ได้สติฟื้นกลับมาเขารู้สึกถึงบางอย่างได้ในตอนแรก โดยที่ปิดหน้าพร้อมกับมองไปที่พ่อของตัวเองด้วยความไม่อยากเชื่อ“พ่อ พ่อตีผม?!”ในความประทับใจของตู้จิ่นเชา ก็คือพ่อคอยเอาใจใส่เขามาโดยตลอดและไม่เคยที่จะตีเขาเลยแต่วันนี้ คิดไม่ถึงว่าจะตีเขาต่อหน้าคนมากมายอย่างนี้มันทำให้เขาตกใจอย่างมาก“ฉัน...”ตู้เหลียนเซิงมองดูลูกชายของตัวเองด้วยความสงสาร แต่เมื่อนึกถึงปัญหาใหญ่ที่เกิดจากเขาหามาให้ตัวเอง จู
“ถ้าหากคุณยังอยากแก้ตัว ก็ดูใบรายการชุดนี้เถอะ”“เอ๊ะ?”ฉีจวินตัวสั่นเก็บใบรายการชุดนี้ขึ้นมา ไม่ดูไม่รู้ เมื่อดูก็ตกใจอย่างมากบนใบรายการนี้ แสดงให้เห็นราคาต้นทุนการนำเข้าอุปกรณ์ทางการแพทย์และยาประเภทต่างๆ ของตระกูลถังอย่างชัดเจนสิ่งของเหล่านี้ สุดท้ายก็จะตกไปที่ตลาดทางการแพทย์ของประเทศมังกรส่วนราคาแต่ละชิ้นของอุปกรณ์เหล่านี้ เมื่ออยู่ที่ผู้จัดการฉีก็จะมีส่วนลดจำนวนมากนี่เป็นข่าวภายในที่เชื่อถือได้พูดตามหลักแล้ว หลินเสวี่ยฮุ่ยไม่น่าจะได้รับใบรายการเหล่านี้มาแต่เขาเหลือบมองหลินเฟิง ก็หมดอาลัยตายอยากทันทีคิดไม่ถึงว่า ผู้อำนวยการคนใหม่คนนี้ไม่เพียงมีเผิงกวงฉี่ที่เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง ถึงขั้นที่หลี่ซื่อกรุ๊ป กับตระกูลถังเมืองจิงต่างก็เป็นเบื้องหลังของเธอนี่มันน่ากลัวเกินไปแล้วดูใบรายการนี้เสร็จ ฉีจวินก็ไม่สามารถพูดแก้ตัวอะไรได้อีกแล้ว ทำได้เพียงก้มหน้าลง ยอมรับความจริงที่เขากินกำไรจำนวนมหาศาลแต่ตู้จิ่นเชากลับแอบสัมผัสได้ พี่เขยของเขามองมาทางเขา นั่นเป็นสายตาที่แทบจะฆ่าคนได้ถ้าหากมีโอกาส เขาจะต้องฆ่าฉันแน่ๆตู้จิ่นเชาเกิดความคิดแบบนี้ขึ้นมาในใจอย่างอดไม่ได้แน่นอนว
ข้างกายของตู้เหลียนเซิงกับกลุ่มลูกน้องที่พ่ายแพ้ออกจากโรงพยาบาลเมืองเจิ้งเต๋อ ที่หน้าประตู พบกับบอดี้การ์ดของตระกูลตู้อีกกลุ่มหนึ่งที่มาเป็นกองหนุนอยู่ที่นี่“ผู้นำตระกูล นี่...นี่มันเรื่องอะไรกันครับ?!”หัวหน้ากลุ่มบอดี้การ์ดที่มาเสริมกำลังตกตะลึงอย่างมาก โดยเฉพาะเอเห็นอาเผิงกับตู้จิ่นเชามีเลือดไหลเต็มตัว แค่มองก็รู้แล้วว่าได้รับบาดเจ็บหนัก“ไม่ต้องพูดแล้ว เพิกถอน”ตู้เหลียนเซิงโบกมือด้วยความอ่อนแรงวันนี้ พูดได้ว่าตั้งแต่ที่เขาตู้เหลียนเซิงตั้งรกรากปักฐานอยู่ที่เมืองเจิ้งเต๋อ เป็นวันที่คับข้องใจมากที่สุด ไม่มีวันไหนเทียบได้อีกแล้ว“ผู้นำตระกูล พวกเรายินยอมที่จะบุกน้ำลุยไฟเพื่อท่าน ทวงศักดิ์ศรีกลับมา!”ได้ยินคำพูดที่หมดอาลัยตายอยากของตู้เหลียนเซิง พวกบอดี้การ์ดตระกูลตู้ที่มาเป็นกองหนุนแต่ละคนกำมือแน่นทันทีไม่ว่าจะพูดยังไงก็จะแก้แค้นเพื่อตระกูลตู้ถึงขั้นที่คนจำนวนมากจะบุกเข้าไปในโรงพยาบาลเจิ้งเต๋อต่อหน้าต่อตา แม้แต่ตู้เหลียนเซิงก็เกลี้ยกล่อมไม่อยู่“เพี๊ยะ!”สุดท้าย ตู้เหลียนเซิงระเบิดอารมณ์ในที่สุดเขาตบหน้าบอดี้การ์ดคนที่เป็นผู้นำในการก่อเรื่อง และพูดตวาดอย่างบ้าคลั่ง:
“อีกทั้งเขายังให้ฉันบอกเธอว่า เขาพึงพอใจต่อการแสดงออกของคุณในวันนี้เป็นอย่างมากนะ”“อ๊ะ...”ได้ยินความคิดเห็นที่หลินเฟิงมีต่อเธอ หลินเสวี่ยฮุ่ยใบหน้าเล็กแดงระเรื่อนี่เป็นครั้งแรกที่หลินเฟิงชื่นชมเธอแบบนี้......“อาจารย์หลิน เมื่อไหร่จะถึงเนี่ย!”ภายในเฮลิคอปเตอร์ที่เสียงดังเกรียวกราว ในหูฟังของหลินเฟิงมีเสียงร้อนรนของอวี๋จื่อเสวียนดังขึ้นมา“ยังต้องใช้เวลาอีกครึ่งชั่วโมง”หลินเฟิงตอบกลับอย่างใจเย็น“อาจารย์รีบหน่อยนะ พวกเขาเริ่มไล่คนแล้ว!”พูดได้ครึ่งหนึ่ง จู่ๆ อวี๋จื่อเสวียนที่อยู่อีกฝ่ายของโทรศัพท์ก็ร้องอุทานขึ้นมา จากนั้น ก็เป็นเสียงตะโกนด่าของชายกลุ่มหนึ่งที่อยู่เบื้องหลัง“ช่างเถอะ รอคุณไม่ได้แล้ว! อาจารย์หลิน ฉันไม่ลงมือไม่ได้แล้ว ถ้ายังไม่ลงมืออีก บ้านของฉันก็จะหายไปแล้ว!”พูดจบ โทรศัพท์ก็ถูกตัดสายหลินเฟิงนิ่งอึ้งอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเก็บโทรศัพท์ สีหน้าค่อยๆ เปลี่ยนไปเคร่งขรึมเล็กน้อยเมื่อครู่เขาได้รับสายของอวี๋จื่อเสวียนอวี๋จื่อเสวียนช่วงนี้เป็นเพราะเรื่องถ่ายภาพยนตร์ จึงไปที่เมืองจิงพร้อมกับอิ่นนั่วเจีย และเลือกจุดชมวิวที่มือชื่อเสียงของเมืองจิงมาเป็นฉากถ่า
“เพียงแค่วางยาคุณหลงซิ่ว เพื่อดูว่าคุณมีพละกำลังพอที่จะเป็นลูกผู้ชายหรือเปล่า”หลินเฟิงมองไปที่หลงซิ่วที่สวมสูทสีชมพู แต่งเนื้อแต่งตัวเกินความพอดี รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาจริงใจอย่างยิ่ง"แก......"“เอาล่ะ เอาล่ะ ผมรู้ว่าคุณทรมาน วางใจได้ ผมไม่มีทางไม่สนใจคุณ”ขณะพูดหลินเฟิงดีดนิ้วชายสองคนในชุดสูทก้าวออกมาจากด้านหลังของหลินเฟิง หามหลงซิ่วขึ้นและพาเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สองคนเหล่านี้คือคนของเผิงกวงฉี่ส่วนเผิงกวงฉี่ก่อนหน้านี้ เขาได้นำลูกน้องสี่หรือห้าคนของเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สอง ที่มีโซฟาสีชมพูขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ถ่ายภาพตั้งนานแล้วภายในห้องมีชายเปลือยกาย 2 คนล้มลงในแอ่งเลือดเมื่อถานหงเดินเข้ามาในห้องส่วนตัวด้วยรอยยิ้มอาฆาตบนใบหน้า เห็นชายที่นั่งอยู่บนโซฟารอยยิ้มบนใบหน้าของเธอแข็งทื่อ และกลายเป็นร่องรอยของความกลัวและความตื่นตระหนก“ถานหง ผ่านไปเพียงไม่กี่วัน เธอก็ได้พบกับที่พึ่งใหม่แล้วเหรอ?”เผิงกวงฉี่นั่งสูบบุหรี่ซิการ์อยู่บนโซฟา และมองไปที่ถานหงอย่างไม่ใส่ใจ"ฉัน......"ถานหงรู้สึกสับสนในเวลานี้ เผิงกวงฉี่มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?หรือว่า...หัวใจของถานหงรู้ส
ชีพจรมังกร...จะเป็นจื่อเสวียนรึเปล่านะ? -อิ่นนั่วเจียตกใจอย่างมาก และไม่ทราบว่าจื่อเสวียนกลายมาเป็นชีพจรมังกรที่หลงซิ่วพูดถึงได้อย่างไรดูเหมือนว่าตระกูลหลงจะต้องการสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรอย่างมากและครั้งนี้หลงซิ่วช่วยเหลือถานหง ในที่สุดก็รู้เป้าหมายชัดเจนแล้วพวกเขามาที่นี่เพื่อสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรในมือของหลินเฟิง!หลังจากคิดเรื่องนี้ออก ใบหน้าของอิ่นนั่วเจียก็ไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ออกมาเลย นอกจากความคิดอันลึกซึ้งในทางกลับกัน จวงฉุนกลับถามหลงซิ่วด้วยสีหน้าสับสน:“คุณหลงซิ่ว ชีพจรมังกรคืออะไร?”“ชีพจรมังกรนั้นคือ…”หลงซิ่วไม่ต้องการตอบคำถามของจวงฉุน แต่เห็นว่าอินนั่วเจียยังคงจมอยู่กับความคิดเขาอธิบายอย่างเรียบง่ายว่า:"มีการกล่าวกันว่าชีพจรมังกรเป็นที่มาของโชคลาภของประเทศมังกร"“หากรวบรวมชีพจรมังกรครบทั้งแปดเส้นได้ ก็จะกลายเป็นราชาแห่งมังกรตัวจริงได้ ตามประวัติศาสตร์แล้ว ชีพจรมังกรเหล่านี้เป็นของตระกูลหลงของเรามาโดยตลอด”“เพราะเหตุนี้สถานที่นี้จึงเรียกได้ว่าเป็นประเทศมังกร”“แล้วนามสกุลของเราคือหลง (หลง แปลว่า มังกร) เข้าใจแล้วยัง?”“เราแค่อยากนำสิ่งที่เดิมเป็น
ดังนั้นการร่วมมือกับถานหง เพื่อจัดการกับอิ่นนั่วเจียและหลินเฟิงจึงเป็นเพียงงานเสริมเท่านั้นจุดประสงค์ที่แท้จริงของหลงซิ่วคือเพื่อสำรวจหรือแม้กระทั่งเอาชีพจรมังกรที่อยู่รอบตัวหลินเฟิงออกไป!มีเพียงแค่เอาชีพจรมังกรมาอยู่ในมือ หลงหยวนก็สามารถใช้พละกำลังของเขา จัดการกับหลินเฟิงอย่างกล้าหาญได้และเรื่องของชีพจรมังกรมีเพียงหลงซิ่วและสวีโจวซึ่งเป็นนักบู๊ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดานักบู๊ของตระกูลหลงที่เขาส่งออกไปเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ส่วนที่เหลือก็ไม่ชัดเจนนักแต่ในเวลานี้หลงซิ่วไม่รู้ว่าสวีโจวและคนอื่น ๆ ได้กลายเป็นวิญญาณที่ตายแล้วในมือของหลินเฟิง ด้วยความพยายามผลักดันของจวงฉุน ไม่มีใครหนีไปได้สักคนเหลือเพียงจวงฉุนเท่านั้น และเพื่อความอยู่รอด เขาจึงได้กลายมาเป็นคนทรยศหากหลงซิ่วรู้เรื่องนี้เกรงว่าเขาจะตบจวงฉุนคนไร้ประโยชน์คนนี้จนตายไปซะเลยแทนที่จะชื่นชมเขาเพราะเขาพาอิ่นนั่วเจียมาอยู่เคียงข้างเขา"เอาล่ะ"หลงซิ่วยืนขึ้นและโบกมือให้อิ่นนั่วเจียอย่างด้วยสีหน้านิ่งเฉย“ผมได้เตรียมคนและอุปกรณ์ไว้แล้ว อยู่ในห้องส่วนตัวใต้ดินชั้นสอง ถานหง คุณไปเตรียมตัวก่อนเถอะ”“รอผมถามคำถามอิ่
“ฉันคือลูกน้องของเธอ? คุณหลงซิ่ว นี่มันเรื่องอะไรกัน? ฉันจำได้ว่าไม่มีข้อกำหนดนั้นในสัญญาของเราหรอกมั้ง?”อิ่นนั่วเจียขมวดคิ้วและมองไปที่หลงซิ่วหลงซิ่วสับสนเป็นอย่างมาก แต่ไม่ได้พูดอะไรยังคงเป็นถานหงที่ตอบคำถามของอิ่นนั่วเจียด้วยเสียงหัวเราะ“อิ่นนั่วเจีย เธอช่างไร้เดียงสาเกินไป เธอคิดจริงๆ เหรอว่าตระกูลหลงจะเต็มใจยอมรับเธอ เพราะพวกเขาเห็นคุณค่าในชื่อเสียงและความสามารถของเธอจริงๆ”ถานหงส่ายหน้าอย่างดูถูกและกล่าวว่า:“ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน ตระกูลหลงจะยอมรับเธอได้ยังไง?”“อ่อใช่ ไม่ว่าฉันหรือตระกูลหลง ก็ไม่ได้โกหกเธอ เพราะฉันคือผู้รับผิดชอบบริษัทบันเทิงของตระกูลหลงที่เธอเข้าร่วมมาโดยตลอด”“ดังนั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อิ่นนั่วเจีย เธอต้องเชื่อฟังฉัน เข้าใจไหม?”“ฉันให้เธอถ่ายหนังอะไร เธอก็ต้องไปถ่าย”"เดี๋ยวนะ"อิ่นนั่วเจียยื่นมือออกไปและขมวดคิ้ว:“ถานหง เธอพูดรุนแรงเกินไปแล้ว ฉันจำได้ว่าฉันไม่เคยทำให้เธอขุ่นเคืองมาก่อน ทำไมเธอถึงตั้งใจจะจัดการกับฉันขนาดนั้น?”“ถึงขั้นยอมทุ่มเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเพื่อดึงตัวฉันมาจากหลี่ซื่อกรุ๊ปด้วย”“จุ๊จุ๊จุ๊”เมื่อได้ยินคำพูดของอิ่นนั
“บ้าเอ๊ย ฉันไม่สามารถทนได้จริงๆ ติดต่อน้องหลินให้ฉัน ฉันจะเข้าแทรกแซงเรื่องนี้ด้วย!”...วันต่อมาในบาร์ใต้ดินแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของเมืองจิงจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียที่สวมหมวกและหน้ากากไว้ และดูเรียบง่ายมากรีบเดินทางมาที่นี่ ที่นี่คือ “สถานที่นัดพบ” ที่หลงซิ่วพูดถึงควบคู่ด้วยเสียงดนตรีอันไพเราะและฝูงชนที่เต้นรำจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียเดินผ่านทางเดินและมองเห็นหลงซิ่วกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะ พร้อมคาบบุหรี่อยู่ในปากเมื่อเห็นว่าอิ่นนั่วเจียมาจริง ๆ ดวงตาของหลงซิ่วก็เป็นประกายบุหรี่ในปากของเขาหล่นลงพื้นโดยไม่รู้ตัวแม้ว่าอิ่นนั่วเจียจะสวมเพียงชุดเดรสยีนส์ซึ่งทำให้เธอดูเป็นเด็กสาวมากในวันนี้ แต่หุ่นที่น่าสะพรึงกลัวของเธอก็ยังทำให้ หลงซิ่วที่กำลังนั่งอยู่ตรงโต๊อย่างไม่ใส่ใจก็ต้องกลืนน้ำลายลงคอ"เชี่ย ไม่เสียแรงที่เป็นซูเปอร์สตาร์ประเทศมังกรจริงๆ นะ!"หลงซิ่วอดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบเธอกับถานหง หลังจากคิดดู นี่มันไม่ใช่คนระดับเดียวกันด้วยซ้ำ!แม้ว่าถานหงจะเป็นราชินีเพลงประเทศมังกร หน้าตาก็คล้ายๆกันแต่เมื่อเทียบกับอิ่นนั่วเจียสาวสวยที่อยู่แต่ในจอ ถานหงยังด้อยกว่าเยอะมากเพียงแค่ออร่าอันส
สำนักงานใหญ่กลุ่มเผิงกวง เมืองจิงขณะนั้นเผิงกวงฉี่กำลังคาบซิการ์ไว้ในปากอย่างเรื่อยเปื่ยอ ฟังการโต้เถียงขัดแย้งระหว่างตัวแทนจากทั่วทุกแห่งในการประชุมแม้ว่าเผิงกวงฉี่จะดูเป็นปกติ แต่ในใจเขากลับโกรธมากพวกขยะพวกนี้ได้แต่โทษกันไปมา และต่างคนต่างหาผลประโยชน์แม้แต่เผิงกวงฉี่ก็ยังคิดว่า ควรจะกำจัดคนไร้ประโยชน์เหล่านี้ และส่งเสริมให้คนอื่นขึ้นมาเป็นผู้นำภูมิภาคดีไหมขณะที่กำลังคิดแบบนี้ โทรศัพท์มือถือของเผิงกวงฉี่ก็ดังขึ้นกะทันหันเสียงโทรศัพท์ทำให้ห้องประชุมเงียบลงทันที“คุณหลินโทรมาครับ คุณเผิงกวงฉี่”ผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆ ยื่นโทรศัพท์ให้ด้วยความเคารพเมื่อคิดว่าเป็นหลินเฟิง เผิงกวงฉี่ก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมากไม่พูดไม่ได้ว่ายาหยกโมราของหลินเฟิงมีประสิทธิภาพมากจริงๆ ควบคู่กับน้ำพุร้อนที่เจียงโจว ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองดูหนุ่มลงเรื่อย ๆ และร่างกายก็เต็มไปด้วยกำลังวังชาแม้แต่ผู้หญิงคนใหม่ที่หามาช่วงนี้ ก็ไม่สามารถทำให้เขาพึงพอใจได้ช่วงนี้เขากำลังคิดว่าควรจะหาเพิ่มอีกสักหน่อย เพื่อสร้างทายาทให้กับตระกูลเผิงของเขาสองเดือนที่แล้ว นี่เป็นสิ่งที่เขาไม่กล้าคิดมาก่อนด้วยซ้ำ“ฮัลโหล
“ฉันจะโอนเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเข้าบัญชีของคุณทันที ทางที่ดีคุณให้อิ่นนั่วเจียออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ปโดยเร็วที่สุด ให้เธอมาพบฉันที่เมืองจิง”"ฮ่าฮ่าฮ่า......"ถานหงที่อยู่ปลายสายหัวเราะอย่างโอเวอร์“ฉันต้องการให้อิ่นนั่วเจียคุกเข่าอยู่แทบเท้าฉัน! ยังมีหลินเฟิง ฉันจะทำให้หลินเฟิงและหลี่ซื่อกรุ๊ปบ้าบออะไรนั่นได้ชำระในสิ่งที่ควรจ่าย!”หลังจากพูดจบโทรศัพท์ก็วางสายไปและภายในเวลาไม่กี่นาที ข้อความเงินสดเข้าบัญชีจำนวนสองหมื่นห้าพันล้านบาทก็ปรากฏบนโทรศัพท์มือถือของจวงฉุนทันทีเมื่อมองดูข้อความบนโทรศัพท์ ลมหายใจของจวงฉุนก็เร็วขึ้นอย่างมาก เขาไม่เคยเห็นเงินมากขนาดนี้ในชีวิตของเขามาก่อนแต่เมื่อเขาเงยหน้ามองไปทางหลินเฟิง ก็รู้สึกเหี่ยวเฉาทันทีเขารู้ว่าเงินจำนวนนี้จะไม่มีวันมาถึงเขาด้วยซ้ำ อีกทั้งเรื่องที่อิ่นนั่วเจียเข้าร่วมตระกูลหลงเป็นเรื่องโกหกทั้งหมดเขาแค่อยากหลอกเอาเงินก้อนนี้มาจากหลงซิ่ว เพื่อใช้รักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้ก็เท่านั้นเอง“ตอนนี้โอนเงินก้อนนี้เข้าบัญชีของหลี่ซื่อกรุ๊ปเถอะ”หลินเฟิงไม่พูดมาก บังคับจวงฉุนให้ดำเนินการบนโทรศัพท์มือถือของเขาโดยตรงหลังจากนั้นไม่นาน เงิน
“ดูเหมือนว่าคุณจะได้เจอกับอิ่นนั่วเจียจริงๆ นะ”หลงซิ่วที่อยู่ปลายสายพูดอย่างใจเย็นว่า:“ผมลืมบอกคุณไปว่าตอนนี้อิ่นนั่วเจียเป็นสมาชิกของหลี่ซื่อกรุ๊ปแล้ว เธอเต็มใจที่จะออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ป และร่วมมือกับตระกูลหลงของเราจริงๆ เหรอ?”เมื่อได้ยินสิ่งที่หลงซิ่วพูดจวงฉุนสั่นสะเทือนไปทั้งตัวเกือบหัวใจวายเพราะความโมโหในที่สุดเขาก็ได้ลิ้มรสว่าการถูกหลอกเป็นอย่างไรหากหลงซิ่วเล่าเบื้องหลังของอิ่นนั่วเจียให้เขาฟังก่อนหน้านี้เขาจะพาผู้คนมาที่นี่เพื่อมาหาอิ่นนั่วเจีย และตกหลุมพรางได้ยังไง?ตอนนี้มันสายเกินไปที่จะพูดอะไรอีกแล้วร่องรอยแห่งความโกรธเริ่มผุดขึ้นในใจของจวงฉุนหากพูดว่าเมื่อครู่เพียงแค่โกหกหลงซิ่ว เขาก็มีความกดดันอยู่ไม่น้อยเมื่อเขาได้ยินว่าหลงซิ่วปกปิดเรื่องของอิ่นนั่วเจียกับเขา เขาก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันทีหากคุณไม่ได้บอกผมให้ชัดเจนก่อนที่คุณจะจากไปผมจำเป็นต้องตกไปอยู่ในมือของหลินเฟิงงั้นเหรอ?จวงฉุนตัดสินใจ คำพูดก็ราบรื่นมากขึ้น“ใช่ครับ คุณอิ่นนั่วเจียบอกผมเอง แต่ว่า...”"แต่ว่าอะไร?"หลงซิ่วที่ปลายสายโทรศัพท์ขมวดคิ้วเล็กน้อย“แต่คุณอิ่นนั่วเจียบอกว่าเธอได้เซ็น
จวงฉุนคิดว่าคำพูดนี้สมบูรณ์แบบไร้ที่ติขณะที่จวงฉุนกำลังจมอยู่กับจินตนาการของเขา หลินเฟิงก็ยื่นมือออกไปและโบกไปมาตรงหน้าจวงฉุน“การปล้นทำลายของพวกนายในครั้งนี้ ได้ทำลายสินค้าของหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันมูลค่าสองหมื่นห้าพันล้านบาทเต็มๆ เพียงแค่นายสามารถชดเชยเงินสินค้าเหล่านี้ให้เราได้ ฉันก็จะไม่ถือสาเอาความ”"สองหมื่นห้าพันล้านบาท?"เมื่อได้ยินตัวเลขนี้ อิ่นนั่วเจียที่อยู่ข้างๆ ก็เปิดริมฝีปากสีแดงของเธอออกครู่หนึ่ง เธอก็ส่ายหัวอย่างจนปัญญาหลินเฟิงกำลังพยายามกรรโชกเงินอยู่เหรอ!"เป็นไปไม่ได้!"เห็นได้ชัดว่าจวงฉุนก็ตกใจกับจำนวนเงินมหาศาลนี้อย่าว่าแต่ยี่สิบห้าล้านบาทเลย แม้แต่ห้าพันล้านบาทเขาก็ยังไม่มี จะอุดรูโบ๋นี้ได้อย่างไรหลินเฟิงรีดไถมากเกินไปจริงๆ“แน่นอนว่าหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันไม่สนใจเงินจำนวนน้อยๆ นี้ แต่ฉันแค่อยากเห็นท่าทางของคุณ”“เป็นไงบ้าง?”หลินเฟิงจ้องมองจวงฉุนด้วยความสนใจอย่างยิ่ง ต้องการดูว่าคนๆ นี้จะหาเงินได้มากเท่าไหร่เพื่อเอาชีวิตรอดได้ในเมื่อเสียหายหนึ่งหมื่นล้านบาท หลินเฟิงต้องหาชดเชยมาจากที่อื่น"ดี...ดีครับ!"จวงฉุนรู้ดีว่าวันนี้เขาไม่มีสิทธิ์ต่อรองกับหลิ