ถ้าพูดตามเหตุผลแล้ว คนที่ออกหน้าไม่ควรจะเป็นเขา แต่เป็นหลินเฟิงถึงจะถูก แต่ท่าทางของหลินเฟิงทำให้เขาผิดหวังมากจริงๆจะมีผู้ชายทนเห็นคนอื่นพูดจาเหยียดหยามผู้หญิงของตัวเองโดยไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ได้อย่างไร?พูดได้ดีขนาดนั้น บอกว่าสถานการณ์โดยรวมสำคัญกว่าแต่ความจริงก็คือไม่กล้าสินะ! ไม่กล้าที่จะสู้กับหลูข่ายหยวนไม่รู้จริงๆ ว่าคุณถังหว่านชอบผู้ชายคนนี้ตรงไหนทำให้คนผิดหวังอย่างถึงที่สุดจริงๆในตอนนี้เอง น้องชายของหลูข่ายหยวนดูเหมือนจะนึกอะไรได้ และชี้ไปที่หลินเฟิงด้วยความเหลือเชื่อ:“นายเองเหรอ?! คนที่ชนรถฉันเมื่อวานนี้!”“ชนรถนายเหรอ?”หลินเฟิงนิ่งอึ้งเล็กน้อยหลังจากสังเกตใบหน้าของน้องชายของหลูข่ายหยวนอย่างละเอียด เขาก็รู้ทันทีว่าผู้ชายคนนี้คือหนุ่มเจ้าชู้ที่เมาแล้วขับชนท้ายเขาเมื่อวานนี้ ตอนที่เขาและอวี๋จื่อเสวียนออกจากมาจากกองถ่ายทั้งๆ ที่เขาชนท้าย แต่จากตรงนี้มันกลายเป็นว่าหลินเฟิงชนเขา มันน่าขันเกินไปจริงๆ“หือ? อวี่ต๋า เกิดอะไรขึ้น นายรู้จักคนนั้นเหรอ”หลูข่ายหยวนหันกลับมามองน้องชายของเขาด้วยความสับสน“พี่ เขานี่แหละ เมื่อวานขับรถชนรถฉัน แถมยังไม่ขอโทษฉันด้วย เขาถึงขั้น
“เมื่อกี้แกพูดว่าอะไรนะ?”หลูข่ายหยวนนิ่งอึ้งทันที เขาไม่ได้ฟังที่หลินเฟิงพูดเมื่อครู่ ได้ยินเพียงแค่ว่าชายคนนี้กำลังดูหมิ่นน้องชายของเขาเท่านั้น“เมื่อคุณได้ยินไม่ชัดเจน งั้นผมก็พูดอีกเป็นครั้งสุดท้ายด้วยความหวังดี”หลินเฟิงกวาดตามองทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ แล้วพูดอย่างเย็นชา:“พวกเราทุกคนได้รับคำเชิญจากตระกูลถัง เพื่ออีกาแห่งหนานไห่ ผม่ไม่ต้องการฆ่าใครที่นี่ ส่งผลกระทบต่อขวัญกำลังใจของทุกคน”“นายพูดว่าอะไรนะ?”เมื่อได้ยินหลินเฟิงพูดคำเหล่านี้ หลูข่ายหยวนก็ตกตะลึงเล็กน้อย จากนั้นก็หัวเราะเสียงดังลั่น"ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า......"เมื่อผู้คนรอบๆ เห็นหลูข่ายหยวนหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง พวกเขาทั้งหมดก็เม้มริมฝีปากและมองหลินเฟิงด้วยความกระอักกระอ่วนถูกต้องแล้วผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ล้วนเป็นผู้มีความสามารถที่ได้รับคำเชิญจากตระกูลย่อยของตระกูลถังจากสถานที่ต่างๆมีนักบู๊ระดับเซียนเทียนอยู่ไม่น้อยไม่ว่าจะเป็นพวกเขา ไท่สื่อทง หรือหลูข่ายหยวน ต่างก็สัมผัสถึงร่องรอยของพลังชี่แท้ที่พุ่งพล่านอยู่ในร่างของหลินเฟิงไม่ได้แบบนี้หมายความว่ายังไง?นั่นหมายความว่าหลินเฟิงเป็นเพียงคนทั่วไปที่ไม่มีทักษะก
หลูข่ายหยวนเป็นหมาบ้าที่เจอใครก็กัดไปทั่วจริงๆเขาไม่สนใจใครหน้าไหนทั้งนั้น“ผู้นำตระกูลถัง คุณถอยไปเถอะ”เมื่อเห็นเช่นนี้ หลินเฟิงรู้ว่าวันนี้ไม่มีโอกาสที่จะเจรจาหลูข่ายหยวนได้แล้วเขาขวางอยู่ตรงหน้าของถังเจี้ยนหยวน จ้องมองตรงไปที่หลูข่ายหยวนที่ร่างกายสูงใหญ่และพูดว่า:“กำเริบเสิบสานที่ตระกูลถังถึงขนาดนี้ แถมยังเหยียดหยามผู้หญิงของฉันซ้ำแล้วซ้ำเล่า ดูเหมือนว่าวันนี้นายคงไม่อยากมีชีวิตตออกไปจากที่นี่แล้ว”คำพูดของหลินเฟิงทำให้หลูข่ายหยวนตกตะลึง จากนั้นเขาก็หัวเราะออกมา“ไอ้หนุ่ม แกคุยโวอย่างหน้าไม่อายจริงๆ แกคิดว่าแผนตบตาศัตรูของแกสามารถทำให้ฉันกลัวได้งั้นเหรอ!”หลูข่ายหยวนแสยะยิ้มและพูดว่า:"แกก็แค่คนทั่วไปที่ไม่มีพลังความสามารถ!"“พวกเราที่ฝึกศิลปะการต่อสู้มองออกได้ในพริบตา ว่าแกทำเป็นข่มขู่อยู่ตรงนี้ เหมือนกับตัวตลก”“ดูเหมือนว่าตระกูลถังไม่มีผู้ที่มีความสามารถจริงๆ ด้วย”เมื่อได้ยินเช่นนี้ ผู้คนรอบข้างก็เริ่มวิพากษ์วิจารณ์กันหลายๆ คนเห็นด้วยกับมุมมองของหลูข่ายหยวน ในเมื่อจากที่พวกเขาดู หลินเฟิงไม่มีวิทยายุทธใดๆ เลยด้วยซ้ำแค่เสแสร้งแกล้งทำเท่านั้น“หลินเฟิง อย่าเอาไ
“หลินเฟิง ระวัง!”ไท่สื่อทงรู้สึกตกตะลึงเมื่อพบว่าหลูข่ายหยวนลอบโจมตีได้อย่างหน้าไม่อายแบบนี้สิ่งแรกที่เขาทำคือไม่ได้ก้าวไปข้างหน้าเพื่อสกัดดาบให้หลินเฟิง แต่กลับกระโดดหนีเองเขามีความคิดอันมืดมนอย่างยิ่งอยู่ในใจของเขาหากหลูข่ายหยวนฆ่าหลินเฟิง งั้นคุคณถังหว่าน เขาก็มีโอกาสแล้วไม่ใช่เหรอ?ดังนั้น แม้ว่าไท่สื่อทงจะเตือนหลินเฟิง แต่เขาก็ไม่ได้ลงมือเพื่อสกัดการโจมตีให้หลินเฟิงพูดตรงๆ ว่าไท่สื่อทงไม่มีความมั่นใจเลยว่าเขาจะสามารถป้องกันการโจมตีที่รุนแรงเช่นนี้ได้แต่ทว่าหลินเฟิงไม่ได้ตื่นตระหนกเขาจ้องดูไท่สื่อทงที่กระโดดหนีอย่างใจเย็น เพียงแวบเดียว เขาก็มองความคิดของไท่สื่อทงได้อย่างชัดเจนหากหลูข่ายหยวนถูกมองว่าเป็นคนต่ำช้าถ้าเช่นนั้นไท่สื่อทงก็อาจถูกมองว่าเป็นคนหน้าซื่อใจคดได้ถ้าไม่ได้เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ส่วนตัว เกรงว่าเขาคงไม่ลงมือเมื่อครู่เขาขวางอยู่หน้าหลูข่ายหยวน เพื่ออยากจะออกหน้าให้ถังหว่านเมื่อเห็นการเคลื่อนไหวอันทรงพลังของหลูข่ายหยวน เขาก็ถอยออก“มันน่าผิดหวังจริงๆ”หลินเฟิงส่ายหัวมันเกิดขึ้นในชั่วพริบตาในขณะที่มีดสปาต้าของหลูข่ายหยวนเกือบจะสัมผัสหนัง
ผู้คนที่อยู่รอบๆ ก็ไม่สามารถสัมผัสได้ถึงพลังที่ระเบิดออกมาจากตัวหลินเฟิง รู้สึกแค่ว่าหลินเฟิงกำลังถามคำถามที่เย็นชากับเขาและในสายตาของหลูข่ายหยวนกลับกลายเป็นสัตว์ร้ายยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่น่าสะพรึงกลัว ซึ่งปกคลุมไปด้วยเลือดและมีความสูงหลายร้อยฟุต กำลังคำรามใส่เขาด้วยความโกรธเกรี้ยวในขณะนี้หลูข่ายหยวนหน้าซีดด้วยความตกใจ"เชี่ย นี่...ไอ้หมอนี่เป็นใครกันแน่?!"“ทำไมบนตัวเขา...ทำไมมีความกดดันเหมือนกับเจ้าสำนักจิ่วเซียวของเรา!”“ยอดฝีมือขอบเขตเทพ? หรือจะเป็นปีศาจที่ชุบชีวิตให้เป็นหนุ่ม?”หลูข่ายหยวนในตอนนี้รู้สึกกลัวมากจนมึนงงเล็กน้อยในขณะเดียวกันหลูอวี่ต๋าน้องชายของหลูข่ายหยวน ยังไม่ได้สังเกตเห็นความผิดปกติของพี่ชายตัวเอง ตะโกนด้วยความตื่นเต้น:“พี่ลุยสิ สับมันให้เลยไปเลย!”“ไอ้หมอนี่รนหาที่ตาย รอให้พี่เล่นผู้หญิงของเขาเสร็จแล้ว อย่าลืมให้ฉันเล่นด้วย ฉัน...”"ปัง!"ไม่รอให้น้องชายของหลูข่ายหยวนจะพูดจบ ศีรษะของเขาก็ระเบิดเละเหมือนกับแตงโมเมื่อเห็นสีแดงและสีขาวกระจายไปทั่ว หลูข่ายหยวนก็จ้องมองหลินเฟิงด้วยความเหม่อลอย เขาไม่รู้เลยว่าหลินเฟิงลงมือตอนไหนน้องชายของเขาเหมือนต
“สำนักจิ่วเซียว?”หลินเฟิงจ้องมองหลูข่ายหยวนด้วยความสนใจและหัวเราะเยาะพูดว่า:“นายคิดว่าฉันจะกลัวสำนักจิ่วเซียวเหรอ? ฮ่าๆ งั้นนายก็ดูถูกกันเกินไปหน่อยแล้ว”“ไม่กล้าไม่กล้า”หลูข่ายหยวนไม่กล้าพูดอะไรอีก ตอนนี้มีดกำลังจ่ออยู่ที่คอของเขา เขาไม่กล้าที่จะทำให้หลินเฟิงไม่พอใจอย่างแน่นอนไม่อย่างนั้นหากหลินเฟิงฆ่าเขาจริงๆ เขาจะไปเรียกร้องความยุติธรรมกับใคร?ถึงแม้ว่าสำนักจิ่วเซียวจะออกหน้าเพื่อเขา แต่เขาก็ตายไปแล้ว จะมีประโยชน์อะไร?เมื่อเห็นหลูข่ายหยวนร้องขอความเมตตาอย่างถ่อมตัว ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ รวมถึงไท่สื่อทง และเชียนเชียน ศิษย์น้องหญิงของไท่สื่อทง ต่างก็อ้าปากกว้างพวกเขาคิดว่าพวกเขาเห็นมองผิดไปหลูข่ายหยวนผู้มีชื่อเสียงชั่วร้ายในโลกภายนอก แท้จริงแล้วกลับเป็นเหมือนปั๊กตัวหนึ่งที่คอยก้มหัวและร้องขอความเมตตาจากหลินเฟิงถึงขั้นที่น้องชายของเขาถูกคนฆ่า เขาก็ยังไม่กล้าที่จะพูดอะไรสักคำเห็นได้ชัดว่าหลินเฟิงทำให้เขาตกตะลึงมากแค่ไหนเมื่อนึกถึงเรื่องนี้ ใบหน้าของไท่สื่อทงดูไม่ค่อยมีดีสักเท่าไรในเมื่อเขาเพิ่งแนะนำหลินเฟิงให้ปล่อยมือจากถังหว่าน เพื่อเอาใจหลูข่ายหยวน เมื่อมองย้
ถังหว่านมองทะลุความประหม่าของหลินเฟิงได้ในทันทีหลินเฟิงไม่กล้าโต้กลับอีก แต่เพียงยิ้มอย่างเก้ๆ กังๆช่วงนี้บำเพ็ญตนจนถึงจุดสำคัญ หลินเฟิงก็เริ่มตระหนักถึงความสำคัญของแก่นแท้ในร่างกายของเขามากขึ้นเรื่อยๆหากเขาสามารถรักษาพลังหยวนหยางของเขาไม่ให้รั่วไหลออกไปได้ ร่างกายบริสุทธิ์ ก็จะสามารถฝึกฝนหยวนชี่ทั้งห้าได้เร็วยิ่งขึ้นเขายังไม่อยากให้เกิดอะไรขึ้นแต่ในความเป็นจริง หลินเฟิงทำมันเพื่อการบำเพ็ญตนของเขาเองเมื่อเขาเข้าสู่ขอบเขตเทพอย่างแท้จริง เขาก็กลายเป็นปรมาจารย์ระดับสูงสุดบนพีระมิดแห่งประเทศมังกรถึงขั้นที่แม้แต่ผู้นำตระกูลหลงไม่สามารถทำอะไรเขาได้ เขาถึงจะวางใจได้อย่างแท้จริงเมื่อถึงเวลานั้น ความมีหยวนชี่ทั้งห้าจะไม่ถูกรบกวนจากโลกภายนอกอีกต่อไปไม่จำเป็นต้องรักษาความบริสุทธิ์ของตนเองแล้วในระยะนี้ เขาแอบสัมผัสได้ถึงพายุที่ใกล้เข้ามาในประเทศมังกรอย่างเลือนลาง ดังนั้นเขาจึงทำได้แค่จดจ่อกับการบำเพ็ญตนเท่านั้น จะถูกรบกวนจากพลังภายนอกไม่ได้เด็ดขาดและนี่เป็นการปกป้องถังหว่าน หลี่ฮุ่ยหรานและคนอื่นๆ ด้วยแต่เรื่องนี้ หลินเฟิงพูดออกมาไม่มีประโยชน์ เขาจึงอ้างเพียงว่าสองสาวปฏิบัต
ในอีกสองวันต่อมา หลินเฟิงได้พักอยู่อยู่ในตระกูลถังเมื่อเขามีเวลาว่าก็จะสอนศิลปะการต่อสู้ให้กับอวี๋จื่อเสวียนและปฏิบัติต่ออวี๋จื่อเสวียนเหมือนเป็นลูกศิษย์ที่แท้จริงของเขาหลินเฟิงยังได้สอนหยวนชี่ทั้งห้าฉบับสมบูรณ์ให้เธออีกด้วยมีเพียงแค่ทำให้เธอแข็งแกร่งขึ้น ถึงจะสามารถปกป้องตัวเอง และช่วยให้หลินเฟิงปกป้องผู้อื่นได้และอวี๋จื่อเสวียนก็ไม่ทำให้หลินเฟิงผิดหวังสามารถพูดได้ก็คือชีพจรมังกรในร่างของอวี๋จื่อเสวียนแข็งแกร่งอย่างมากในเวลาเพียงสองวัน อวี๋จื่อเสวียนก็ก้าวหน้าอย่างรวดเร็วเหมือนจรวด จากระดับเริ่มต้นสู่เข้าสู่กำลังภายในจุดสูงสุดเธอในตอนนี้ รับมือกับพวกอันธพาล ไม่ใช่เรื่องยากเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไปผสมผสานกับศิลปะการต่อสู้ที่หลินเฟิงสอนให้ รวมถึงหยวนชี่ทั้งห้าตอนนี้ความสามารถในการต่อสู้ของอวี๋จื่อเสวียนถือว่าพอใช้ได้เลยแน่นอนว่าในขณะที่สอนศิลปะการต่อสู้แก่อวี๋จื่อเสวียน หลินเฟิงก็ไม่ลืมที่จะเดินเล่นและชื่นชมดอกไม้กับถังหว่านไปทั่วถังหว่านถึงขั้นโทรหาหลี่ฮุ่ยหรานเพื่อโอ้อวดเลยด้วยซ้ำถึงขั้นที่เพื่อจะแกล้งหลี่ฮุ่ยหราน ถังหว่านถึงกับเล่าถึงการต่อสู้ของเธอกับหลินเฟิงเม
“เพียงแค่วางยาคุณหลงซิ่ว เพื่อดูว่าคุณมีพละกำลังพอที่จะเป็นลูกผู้ชายหรือเปล่า”หลินเฟิงมองไปที่หลงซิ่วที่สวมสูทสีชมพู แต่งเนื้อแต่งตัวเกินความพอดี รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาจริงใจอย่างยิ่ง"แก......"“เอาล่ะ เอาล่ะ ผมรู้ว่าคุณทรมาน วางใจได้ ผมไม่มีทางไม่สนใจคุณ”ขณะพูดหลินเฟิงดีดนิ้วชายสองคนในชุดสูทก้าวออกมาจากด้านหลังของหลินเฟิง หามหลงซิ่วขึ้นและพาเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สองคนเหล่านี้คือคนของเผิงกวงฉี่ส่วนเผิงกวงฉี่ก่อนหน้านี้ เขาได้นำลูกน้องสี่หรือห้าคนของเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สอง ที่มีโซฟาสีชมพูขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ถ่ายภาพตั้งนานแล้วภายในห้องมีชายเปลือยกาย 2 คนล้มลงในแอ่งเลือดเมื่อถานหงเดินเข้ามาในห้องส่วนตัวด้วยรอยยิ้มอาฆาตบนใบหน้า เห็นชายที่นั่งอยู่บนโซฟารอยยิ้มบนใบหน้าของเธอแข็งทื่อ และกลายเป็นร่องรอยของความกลัวและความตื่นตระหนก“ถานหง ผ่านไปเพียงไม่กี่วัน เธอก็ได้พบกับที่พึ่งใหม่แล้วเหรอ?”เผิงกวงฉี่นั่งสูบบุหรี่ซิการ์อยู่บนโซฟา และมองไปที่ถานหงอย่างไม่ใส่ใจ"ฉัน......"ถานหงรู้สึกสับสนในเวลานี้ เผิงกวงฉี่มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?หรือว่า...หัวใจของถานหงรู้ส
ชีพจรมังกร...จะเป็นจื่อเสวียนรึเปล่านะ? -อิ่นนั่วเจียตกใจอย่างมาก และไม่ทราบว่าจื่อเสวียนกลายมาเป็นชีพจรมังกรที่หลงซิ่วพูดถึงได้อย่างไรดูเหมือนว่าตระกูลหลงจะต้องการสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรอย่างมากและครั้งนี้หลงซิ่วช่วยเหลือถานหง ในที่สุดก็รู้เป้าหมายชัดเจนแล้วพวกเขามาที่นี่เพื่อสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรในมือของหลินเฟิง!หลังจากคิดเรื่องนี้ออก ใบหน้าของอิ่นนั่วเจียก็ไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ออกมาเลย นอกจากความคิดอันลึกซึ้งในทางกลับกัน จวงฉุนกลับถามหลงซิ่วด้วยสีหน้าสับสน:“คุณหลงซิ่ว ชีพจรมังกรคืออะไร?”“ชีพจรมังกรนั้นคือ…”หลงซิ่วไม่ต้องการตอบคำถามของจวงฉุน แต่เห็นว่าอินนั่วเจียยังคงจมอยู่กับความคิดเขาอธิบายอย่างเรียบง่ายว่า:"มีการกล่าวกันว่าชีพจรมังกรเป็นที่มาของโชคลาภของประเทศมังกร"“หากรวบรวมชีพจรมังกรครบทั้งแปดเส้นได้ ก็จะกลายเป็นราชาแห่งมังกรตัวจริงได้ ตามประวัติศาสตร์แล้ว ชีพจรมังกรเหล่านี้เป็นของตระกูลหลงของเรามาโดยตลอด”“เพราะเหตุนี้สถานที่นี้จึงเรียกได้ว่าเป็นประเทศมังกร”“แล้วนามสกุลของเราคือหลง (หลง แปลว่า มังกร) เข้าใจแล้วยัง?”“เราแค่อยากนำสิ่งที่เดิมเป็น
ดังนั้นการร่วมมือกับถานหง เพื่อจัดการกับอิ่นนั่วเจียและหลินเฟิงจึงเป็นเพียงงานเสริมเท่านั้นจุดประสงค์ที่แท้จริงของหลงซิ่วคือเพื่อสำรวจหรือแม้กระทั่งเอาชีพจรมังกรที่อยู่รอบตัวหลินเฟิงออกไป!มีเพียงแค่เอาชีพจรมังกรมาอยู่ในมือ หลงหยวนก็สามารถใช้พละกำลังของเขา จัดการกับหลินเฟิงอย่างกล้าหาญได้และเรื่องของชีพจรมังกรมีเพียงหลงซิ่วและสวีโจวซึ่งเป็นนักบู๊ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดานักบู๊ของตระกูลหลงที่เขาส่งออกไปเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ส่วนที่เหลือก็ไม่ชัดเจนนักแต่ในเวลานี้หลงซิ่วไม่รู้ว่าสวีโจวและคนอื่น ๆ ได้กลายเป็นวิญญาณที่ตายแล้วในมือของหลินเฟิง ด้วยความพยายามผลักดันของจวงฉุน ไม่มีใครหนีไปได้สักคนเหลือเพียงจวงฉุนเท่านั้น และเพื่อความอยู่รอด เขาจึงได้กลายมาเป็นคนทรยศหากหลงซิ่วรู้เรื่องนี้เกรงว่าเขาจะตบจวงฉุนคนไร้ประโยชน์คนนี้จนตายไปซะเลยแทนที่จะชื่นชมเขาเพราะเขาพาอิ่นนั่วเจียมาอยู่เคียงข้างเขา"เอาล่ะ"หลงซิ่วยืนขึ้นและโบกมือให้อิ่นนั่วเจียอย่างด้วยสีหน้านิ่งเฉย“ผมได้เตรียมคนและอุปกรณ์ไว้แล้ว อยู่ในห้องส่วนตัวใต้ดินชั้นสอง ถานหง คุณไปเตรียมตัวก่อนเถอะ”“รอผมถามคำถามอิ่
“ฉันคือลูกน้องของเธอ? คุณหลงซิ่ว นี่มันเรื่องอะไรกัน? ฉันจำได้ว่าไม่มีข้อกำหนดนั้นในสัญญาของเราหรอกมั้ง?”อิ่นนั่วเจียขมวดคิ้วและมองไปที่หลงซิ่วหลงซิ่วสับสนเป็นอย่างมาก แต่ไม่ได้พูดอะไรยังคงเป็นถานหงที่ตอบคำถามของอิ่นนั่วเจียด้วยเสียงหัวเราะ“อิ่นนั่วเจีย เธอช่างไร้เดียงสาเกินไป เธอคิดจริงๆ เหรอว่าตระกูลหลงจะเต็มใจยอมรับเธอ เพราะพวกเขาเห็นคุณค่าในชื่อเสียงและความสามารถของเธอจริงๆ”ถานหงส่ายหน้าอย่างดูถูกและกล่าวว่า:“ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน ตระกูลหลงจะยอมรับเธอได้ยังไง?”“อ่อใช่ ไม่ว่าฉันหรือตระกูลหลง ก็ไม่ได้โกหกเธอ เพราะฉันคือผู้รับผิดชอบบริษัทบันเทิงของตระกูลหลงที่เธอเข้าร่วมมาโดยตลอด”“ดังนั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อิ่นนั่วเจีย เธอต้องเชื่อฟังฉัน เข้าใจไหม?”“ฉันให้เธอถ่ายหนังอะไร เธอก็ต้องไปถ่าย”"เดี๋ยวนะ"อิ่นนั่วเจียยื่นมือออกไปและขมวดคิ้ว:“ถานหง เธอพูดรุนแรงเกินไปแล้ว ฉันจำได้ว่าฉันไม่เคยทำให้เธอขุ่นเคืองมาก่อน ทำไมเธอถึงตั้งใจจะจัดการกับฉันขนาดนั้น?”“ถึงขั้นยอมทุ่มเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเพื่อดึงตัวฉันมาจากหลี่ซื่อกรุ๊ปด้วย”“จุ๊จุ๊จุ๊”เมื่อได้ยินคำพูดของอิ่นนั
“บ้าเอ๊ย ฉันไม่สามารถทนได้จริงๆ ติดต่อน้องหลินให้ฉัน ฉันจะเข้าแทรกแซงเรื่องนี้ด้วย!”...วันต่อมาในบาร์ใต้ดินแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของเมืองจิงจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียที่สวมหมวกและหน้ากากไว้ และดูเรียบง่ายมากรีบเดินทางมาที่นี่ ที่นี่คือ “สถานที่นัดพบ” ที่หลงซิ่วพูดถึงควบคู่ด้วยเสียงดนตรีอันไพเราะและฝูงชนที่เต้นรำจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียเดินผ่านทางเดินและมองเห็นหลงซิ่วกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะ พร้อมคาบบุหรี่อยู่ในปากเมื่อเห็นว่าอิ่นนั่วเจียมาจริง ๆ ดวงตาของหลงซิ่วก็เป็นประกายบุหรี่ในปากของเขาหล่นลงพื้นโดยไม่รู้ตัวแม้ว่าอิ่นนั่วเจียจะสวมเพียงชุดเดรสยีนส์ซึ่งทำให้เธอดูเป็นเด็กสาวมากในวันนี้ แต่หุ่นที่น่าสะพรึงกลัวของเธอก็ยังทำให้ หลงซิ่วที่กำลังนั่งอยู่ตรงโต๊อย่างไม่ใส่ใจก็ต้องกลืนน้ำลายลงคอ"เชี่ย ไม่เสียแรงที่เป็นซูเปอร์สตาร์ประเทศมังกรจริงๆ นะ!"หลงซิ่วอดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบเธอกับถานหง หลังจากคิดดู นี่มันไม่ใช่คนระดับเดียวกันด้วยซ้ำ!แม้ว่าถานหงจะเป็นราชินีเพลงประเทศมังกร หน้าตาก็คล้ายๆกันแต่เมื่อเทียบกับอิ่นนั่วเจียสาวสวยที่อยู่แต่ในจอ ถานหงยังด้อยกว่าเยอะมากเพียงแค่ออร่าอันส
สำนักงานใหญ่กลุ่มเผิงกวง เมืองจิงขณะนั้นเผิงกวงฉี่กำลังคาบซิการ์ไว้ในปากอย่างเรื่อยเปื่ยอ ฟังการโต้เถียงขัดแย้งระหว่างตัวแทนจากทั่วทุกแห่งในการประชุมแม้ว่าเผิงกวงฉี่จะดูเป็นปกติ แต่ในใจเขากลับโกรธมากพวกขยะพวกนี้ได้แต่โทษกันไปมา และต่างคนต่างหาผลประโยชน์แม้แต่เผิงกวงฉี่ก็ยังคิดว่า ควรจะกำจัดคนไร้ประโยชน์เหล่านี้ และส่งเสริมให้คนอื่นขึ้นมาเป็นผู้นำภูมิภาคดีไหมขณะที่กำลังคิดแบบนี้ โทรศัพท์มือถือของเผิงกวงฉี่ก็ดังขึ้นกะทันหันเสียงโทรศัพท์ทำให้ห้องประชุมเงียบลงทันที“คุณหลินโทรมาครับ คุณเผิงกวงฉี่”ผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆ ยื่นโทรศัพท์ให้ด้วยความเคารพเมื่อคิดว่าเป็นหลินเฟิง เผิงกวงฉี่ก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมากไม่พูดไม่ได้ว่ายาหยกโมราของหลินเฟิงมีประสิทธิภาพมากจริงๆ ควบคู่กับน้ำพุร้อนที่เจียงโจว ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองดูหนุ่มลงเรื่อย ๆ และร่างกายก็เต็มไปด้วยกำลังวังชาแม้แต่ผู้หญิงคนใหม่ที่หามาช่วงนี้ ก็ไม่สามารถทำให้เขาพึงพอใจได้ช่วงนี้เขากำลังคิดว่าควรจะหาเพิ่มอีกสักหน่อย เพื่อสร้างทายาทให้กับตระกูลเผิงของเขาสองเดือนที่แล้ว นี่เป็นสิ่งที่เขาไม่กล้าคิดมาก่อนด้วยซ้ำ“ฮัลโหล
“ฉันจะโอนเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเข้าบัญชีของคุณทันที ทางที่ดีคุณให้อิ่นนั่วเจียออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ปโดยเร็วที่สุด ให้เธอมาพบฉันที่เมืองจิง”"ฮ่าฮ่าฮ่า......"ถานหงที่อยู่ปลายสายหัวเราะอย่างโอเวอร์“ฉันต้องการให้อิ่นนั่วเจียคุกเข่าอยู่แทบเท้าฉัน! ยังมีหลินเฟิง ฉันจะทำให้หลินเฟิงและหลี่ซื่อกรุ๊ปบ้าบออะไรนั่นได้ชำระในสิ่งที่ควรจ่าย!”หลังจากพูดจบโทรศัพท์ก็วางสายไปและภายในเวลาไม่กี่นาที ข้อความเงินสดเข้าบัญชีจำนวนสองหมื่นห้าพันล้านบาทก็ปรากฏบนโทรศัพท์มือถือของจวงฉุนทันทีเมื่อมองดูข้อความบนโทรศัพท์ ลมหายใจของจวงฉุนก็เร็วขึ้นอย่างมาก เขาไม่เคยเห็นเงินมากขนาดนี้ในชีวิตของเขามาก่อนแต่เมื่อเขาเงยหน้ามองไปทางหลินเฟิง ก็รู้สึกเหี่ยวเฉาทันทีเขารู้ว่าเงินจำนวนนี้จะไม่มีวันมาถึงเขาด้วยซ้ำ อีกทั้งเรื่องที่อิ่นนั่วเจียเข้าร่วมตระกูลหลงเป็นเรื่องโกหกทั้งหมดเขาแค่อยากหลอกเอาเงินก้อนนี้มาจากหลงซิ่ว เพื่อใช้รักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้ก็เท่านั้นเอง“ตอนนี้โอนเงินก้อนนี้เข้าบัญชีของหลี่ซื่อกรุ๊ปเถอะ”หลินเฟิงไม่พูดมาก บังคับจวงฉุนให้ดำเนินการบนโทรศัพท์มือถือของเขาโดยตรงหลังจากนั้นไม่นาน เงิน
“ดูเหมือนว่าคุณจะได้เจอกับอิ่นนั่วเจียจริงๆ นะ”หลงซิ่วที่อยู่ปลายสายพูดอย่างใจเย็นว่า:“ผมลืมบอกคุณไปว่าตอนนี้อิ่นนั่วเจียเป็นสมาชิกของหลี่ซื่อกรุ๊ปแล้ว เธอเต็มใจที่จะออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ป และร่วมมือกับตระกูลหลงของเราจริงๆ เหรอ?”เมื่อได้ยินสิ่งที่หลงซิ่วพูดจวงฉุนสั่นสะเทือนไปทั้งตัวเกือบหัวใจวายเพราะความโมโหในที่สุดเขาก็ได้ลิ้มรสว่าการถูกหลอกเป็นอย่างไรหากหลงซิ่วเล่าเบื้องหลังของอิ่นนั่วเจียให้เขาฟังก่อนหน้านี้เขาจะพาผู้คนมาที่นี่เพื่อมาหาอิ่นนั่วเจีย และตกหลุมพรางได้ยังไง?ตอนนี้มันสายเกินไปที่จะพูดอะไรอีกแล้วร่องรอยแห่งความโกรธเริ่มผุดขึ้นในใจของจวงฉุนหากพูดว่าเมื่อครู่เพียงแค่โกหกหลงซิ่ว เขาก็มีความกดดันอยู่ไม่น้อยเมื่อเขาได้ยินว่าหลงซิ่วปกปิดเรื่องของอิ่นนั่วเจียกับเขา เขาก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันทีหากคุณไม่ได้บอกผมให้ชัดเจนก่อนที่คุณจะจากไปผมจำเป็นต้องตกไปอยู่ในมือของหลินเฟิงงั้นเหรอ?จวงฉุนตัดสินใจ คำพูดก็ราบรื่นมากขึ้น“ใช่ครับ คุณอิ่นนั่วเจียบอกผมเอง แต่ว่า...”"แต่ว่าอะไร?"หลงซิ่วที่ปลายสายโทรศัพท์ขมวดคิ้วเล็กน้อย“แต่คุณอิ่นนั่วเจียบอกว่าเธอได้เซ็น
จวงฉุนคิดว่าคำพูดนี้สมบูรณ์แบบไร้ที่ติขณะที่จวงฉุนกำลังจมอยู่กับจินตนาการของเขา หลินเฟิงก็ยื่นมือออกไปและโบกไปมาตรงหน้าจวงฉุน“การปล้นทำลายของพวกนายในครั้งนี้ ได้ทำลายสินค้าของหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันมูลค่าสองหมื่นห้าพันล้านบาทเต็มๆ เพียงแค่นายสามารถชดเชยเงินสินค้าเหล่านี้ให้เราได้ ฉันก็จะไม่ถือสาเอาความ”"สองหมื่นห้าพันล้านบาท?"เมื่อได้ยินตัวเลขนี้ อิ่นนั่วเจียที่อยู่ข้างๆ ก็เปิดริมฝีปากสีแดงของเธอออกครู่หนึ่ง เธอก็ส่ายหัวอย่างจนปัญญาหลินเฟิงกำลังพยายามกรรโชกเงินอยู่เหรอ!"เป็นไปไม่ได้!"เห็นได้ชัดว่าจวงฉุนก็ตกใจกับจำนวนเงินมหาศาลนี้อย่าว่าแต่ยี่สิบห้าล้านบาทเลย แม้แต่ห้าพันล้านบาทเขาก็ยังไม่มี จะอุดรูโบ๋นี้ได้อย่างไรหลินเฟิงรีดไถมากเกินไปจริงๆ“แน่นอนว่าหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันไม่สนใจเงินจำนวนน้อยๆ นี้ แต่ฉันแค่อยากเห็นท่าทางของคุณ”“เป็นไงบ้าง?”หลินเฟิงจ้องมองจวงฉุนด้วยความสนใจอย่างยิ่ง ต้องการดูว่าคนๆ นี้จะหาเงินได้มากเท่าไหร่เพื่อเอาชีวิตรอดได้ในเมื่อเสียหายหนึ่งหมื่นล้านบาท หลินเฟิงต้องหาชดเชยมาจากที่อื่น"ดี...ดีครับ!"จวงฉุนรู้ดีว่าวันนี้เขาไม่มีสิทธิ์ต่อรองกับหลิ