“คุณพยาบาลครับ นี่เกิดเรื่องอะไรขึ้นครับ?”“ผู้ป่วยถูกทำร้ายร่างกาย หมดสติไปแล้ว คุณเป็นอะไรกับเธอคะ?” พยาบาลคนหนึ่งถามขึ้น“ผมคือเพื่อนของเธอ”พยาบาลเห็นแบบนี้จึงรีบถามขึ้น: “งั้นคุณติดต่อครอบครัวของเธอได้ไหม?”“ได้ ได้อยู่แล้วครับ……” ชายชุดสูทรีบพูดขึ้น“ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นคุณก็ไปกับพวกเราหน่อยค่ะ”“ได้ครับ” ชายชุดสูทไม่ได้ปฏิเสธ เขาพยักหน้าในทันที และขึ้นรถไปด้วยกันรถพยาบาลเพิ่งขับออกไปได้ไม่นานด้านหลัง คนของตระกูลหวางก็ตามมาถึงที่นี่หวางเจิ้นพาคนบุกเข้าไปในคฤหาสน์ของตระกูลเองทันทีนอกจากศพกองหนึ่งบนพื้น ก็เหลือเพียงหลินเฟิงที่ยังมีชีวิตอยู่ และนั่งสบายใจเฉิบอยู่บนโซฟา“นายก็คือหลินเฟิง?” หวางเจิ้นถามขึ้นอย่างโมโหหลินฟิงพยักหน้าอย่างเรียบเฉย“ลูกชายฉันอยู่ที่ไหน?” หวางเจิ้นถามคำถามที่ตัวเองเป็นกังวลมากที่สุดหลินเฟิงชี้ไปที่ห้องนอนหวางเจิ้นไม่พูดจา พุ่งเข้าไปในห้องทันทีเมื่อเห็นลูกชายของตัวเองตายอย่างน่าอนาถ หวางเจิ้นก็ร้องไห้ออกมาด้วยความเจ็บปวดอย่างควบคุมไม่ได้“ไอ้สารเลว แกมีสิทธิอะไรฆ่าลูกชายของฉัน?” หวางเจิ้นสีหน้าดุดันตะโกนขึ้นมาหลินเฟิงกลับลุกขึ้
“ว่าไงนะ?” หวางเจิ้นตัวแข็งทื่อในฉับพลันดวงตาทั้งสองมองไปที่หลินเฟิงอย่างเหลือเชื่อไอ้หมอนี่มีคุณสมบัติอะไรที่จะมาเป็นลูกเขยของฉินเซี่ยวเทียน? “พูดแบบนี้ แสดงว่าวันนี้ผู้ว่าฉินจะปกป้องนายหลินเฟิงนี่ให้ได้เลยใช่ไหม?” “ถูกต้อง คุณทำอะไรหลินเฟิงไม่ได้หรอก ถ้าคุณอยากจะได้การชดเชยอะไรก็บอกผมมา”ฉินเซี่ยวเทียนเอ่ยด้วยใบหน้าที่ดูจริงจัง “แต่นับจากนี้ตระกูลหวางจะไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับตระกูลฉินของเราอีก”“แล้วอ่าวเทียนสุ่ยก็ไม่ขอต้อนรับพวกคุณอีก”หวางเจิ้นเอ่ยด้วยใบหน้าอึมครึมว่า “ผู้ว่าฉินกะอีแค่หลินเฟิง คุณถึงต้องตัดขาดกับตระกูลหวางของเราเลยเหรอ?”“ดูไม่คุ้มใช่ไหมล่ะ?” “ไม่มีอะไรที่ไม่คุ้ม”ฉินเซี่ยวเทียนโบกมือ “สำหรับผมแล้วหลินเฟิงดีกว่าตระกูลหวางนับสิบตระกูลเสียอีก” “ฮึ”หวางเจิ้นส่งเสียงคำราม “ผู้ว่าฉินยังไม่ทันไรก็มาดูหมิ่นดูแคลนตระกูลหวางของเราแล้ว”“จะบอกความจริงให้คุณฟังนะ ธุรกิจตระกูลหวางในตอนนี้ได้ขยับขยายไปถึงจงโจวแล้ว อิทธิพลในเจียงโจวแบบนี้ไม่มีทางขัดขวางตระกูลหวางของผมได้หรอก”เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลินเฟิงและฉินเซี่ยวเทียนถึงกับขมวดคิ้วเบา ๆคิดไม่ถึงว่าตร
ก่อนจะไป ซ่งเฉียนคุนขวางและเอ่ยข่มขู่หวางเจิ้นว่า “ทำไม? คุณหวางคิดจะมาแก้แค้นวันหลังอีกเหรอ?”สีหน้าหวางเจิ้นซีดเผือด แน่นอนว่าเขาต้องคิดอยู่แล้วแต่ปากยังจะพูดออกไปว่า “ในเมื่อท่านผู้นำซ่งออกปากไว้ กระผมจะไปกล้าได้ยังไงกัน” “งั้นก็ดี”หวางเจิ้นพร้อมกับคนของตนรีบก้าวออกไปอย่างฉับไวฉินเซี่ยวเทียนเองก็ถอนหายใจโล่งอกเช่นกัน หันกลับไปมองซ่งเฉียนคุนแล้วเอ่ยว่า “คิดไม่ถึงนะเนี่ยว่าท่านผู้นำซ่งจะรู้จักเจ้าหลินด้วย?” “ฮ่า ๆ ๆ ......”ซ่งเฉียนคุนหัวเราะและเอ่ยด้วยความเบิกบานใจว่า “ก่อนหน้านี้คุณถังเคยแนะนำให้ผมรู้จักกับเจ้าหลินมาก่อน”“ไม่ใช่แค่นี้นะ ผมยังเคยเห็นเจ้าหลินใช้ยารักษาท่านผู้ว่าหลิวจนหายดีกับตาตัวเองเลยด้วย” “มีเรื่องแบบนี้ด้วย?” ฉินเซี่ยวเทียนมองหลินเฟิงอย่างทึ่งเจ้าเด็กนี้ยังมีความลับอะไรอีกบ้างนะ“เจ้าหลิน ดูจากท่าทีหวางเจิ้นแล้ว เกรงว่าจะไม่ยอมรามือง่าย ๆ แน่”ในเวลานี้ซ่งเฉียนคุนได้เอ่ยเตือนว่า “ยังไงเจ้าหลินก็ระวังตัวไว้ให้ดีก็แล้วกัน"หลินเฟิงเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจว่า “ถ้าเกิดเขายังกล้ามายุ่งกับผมอีก ผมจะล้มสำนักเขาให้สิ้นซาก”ในน้ำเสียงก็เต็มไปด้วยความอาฆาตยิ่
“อาเชา ฮุ่ยหรานของเราอยู่ไหนเหรอ?” จางกุ้ยหลานที่เพิ่งฉุกนึกถึงลูกสาวของตนขึ้นในเวลานี้จึงรีบเอ่ยถามในทันทีสวีเชาจึงรีบเอ่ยทันทีว่า “ฮุ่ยหรานไม่ได้บาดเจ็บร้ายแรงอะไรครับ อยู่ที่ห้องพักฟื้นครับ”“หมอบอกว่าเธอแค่ได้รับการกระแทกที่สมองเล็กน้อย พักสักหน่อยก็ไม่เป็นไรแล้วงั้นเหรอ?”เมื่อคนเหล่านั้นมาถึงห้องพักฟื้น เห็นหลี่ฮุ่ยหรานที่หมดสติไม่ฟื้น จางกุ้ยหลานก็หลั่งน้ำตาออกมาโดยไม่รู้ตัว“โธ่ ๆ ลูกสาวที่โชคร้ายของฉัน......”ในเวลานี้สวีเชาก็เอ่ยถามอย่างสงสัย “คุณป้าครับ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ครับ? ทำไมฮุ่ยหรานถึงถูกคนทำร้ายจนเข้าโรงพยาบาลล่ะครับ?”จางกุ้ยหลานอธิบายด้วยความคร่ำครวญว่า “ถ้าไม่ใช่เพราะป้าทำตัวเลอะเลือน จนถูกคนหลอกเอาเงินไป พอคนของบริษัทเห็นว่าป้าคืนเงินไม่ไหว พวกเขาก็เลยจับตัวฮุ่ยหรานไป”“คุณป้าเป็นหนี้เท่าไหร่ครับ” สวีเชาเอ่ยถาม“ก็ประมาณร้อยกว่าล้านน่ะ” จางกุ้ยหลานหลบสายตา เพราะเธอเองก็เป็นคนที่เห็นแก่หน้าตาเลยไม่ได้บอกว่าตนเองเป็นหนี้อยู่เท่าไหร่สวีเชาได้ฟังจึงหัวเราะร่า “ผมก็คิดว่าเป็นเรื่องใหญ่โตมากเสียอีก ก็แค่เงินร้อยกว่าล้านเอง” “เอาแบบนี้ไหมครับ วันมะร
แต่ในเวลานั้นหลี่ฮุ่ยหรานยุ่งอยู่กับการเรียนมาโดยตลอด ไม่สนใจที่จะมีความรักมากนัก“ฮุ่ยหรานไม่ได้เจอกันนานเลยนะ”สวีเชาผุดรอยยิ้มที่อ่อนโยนมองเธอด้วยสายตาที่เร่าร้อนในตอนนั้นเขาชอบหลี่ฮุ่ยหรานจริง ๆ นั่นแหละแต่น่าเสียดายที่พื้นเพครอบครัวของตนเองไม่ได้ดีเท่าไหร่ ในตอนนั้นวางแผนไว้ว่าหลังเรียนจบจะไปสารภาพรัก แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้ยินข่าวการแต่งงานของหลี่ฮุ่ยหรานเพื่อหน้าที่การงาน เขาก็เลยทำได้เพียงยอมแพ้คิดไม่ถึงว่าหลายปีผ่านไปพอกลับมาจากต่างประเทศ ก็ทำให้ตนได้พบกับนางฟ้าในตอนนั้นอีกครั้ง“ไม่......ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ” หลี่ฮุ่ยหรานรู้สึกเขินเล็กน้อยไม่คิดว่าหลายปีผ่านไปจะได้เจอเห็นเพื่อนร่วมรุ่นสมัยก่อนของตนเองในสภาพแบบนี้“วันนี้ต้องขอบคุณสวีเชาจริง ๆ ไม่งั้นก็ไม่รู้ฮุ่ยหรานของเราจะเป็นยังไงบ้าง ป้าไม่รู้จะขอบคุณเรายังไงดี” จางกุ้ยหลานมองสวีเชาด้วยใบหน้าที่รู้สึกขอบคุณสวีเชายิ้มร่าและเอ่ยว่า “คุณป้า ผมกับฮุ่ยหรานเป็นเพื่อนร่วมชั้นกัน ช่วยเหลือกันเป็นเรื่องสมควรทำครับ” “ใช่ ๆ ๆ......แถมเป็นคนมีการศึกษาด้วย การพูดการจาก็ไม่เหมือนกันด้วย” จางกุ้ยหลานเอ่ยอย่างเบิกบานใจใ
จางกุ้ยหลานตกใจใหญ่อ่าวเทียนสุ่ยเป็นคฤหาสน์ที่แม้แต่คนรวยก็ไม่สามารถใช้เงินซื้อได้โครงการอสังหาริมทรัพย์ที่คุณชายตระกูลฉินพัฒนาผู้คนที่อาศัยอยู่ถ้าไม่เป็นตระกูลใหญ่จากทั่วทุกมุม ก็เป็นคนที่มีอำนาจในพื้นที่แต่แค่แปปเดียวจางกุ้ยหลานก็ฉุกคิดปัญหาหนึ่งขึ้นมาได้ว่าสวีเชามีทรัพย์สินแค่หกพันล้าน แล้วเขามีคุณสมบัติอะไรถึงอาศัยอยู่ที่อ่าวเทียนสุ่ย?“อาเชา ที่อ่าวเทียนสุ่ยเราซื้อเองหรือเปล่า?”สวีเชาส่ายหน้า “เปล่าครับ ที่อ่าวเทียนสุ่ยนี่คู่ค้าของผมที่ยกให้ครับ” “หือ......”จางกุ้ยหลานเบิกตาโพลง “ยกให้?”คู่ค้าของสวีเชาให้ความสำคัญกับเขาถึงขั้นยกคฤหาสน์ในเจียงโจวให้เขาเลย? “ถูกต้องครับ”สวีเชาพยักหน้าและเอ่ยชักชวนอีกครั้ง “คุณป้าครับ ผมว่าคุณป้าก็คงเหนื่อยมาก คืนนี้ไปพักที่บ้านผมไม่ดีกว่าเหรอครับ”“ได้สิ ๆ......”จางกุ้ยหลานพยักหน้าสำทับการได้พักอาศัยอยู่ในอ่าวเทียนสุ่ยเป็นสิ่งที่บ่งบอกของการมีอำนาจและฐานะที่แน่นอนเธอฝันที่จะได้เข้าไปพักสักสองวันตอนนี้สวีเชามาเชิญด้วยตัวเอง เธอจะปฏิเสธได้ยังไงกัน“ฮุ่ยหราน คืนนี้เราไปพักที่อ่าวเทียนสุ่ยกันเถอะ” จางกุ้ยหลานดึงแขนลูกสาว
เมื่อมองลงไปเห็นพื้นที่กว้างใหญ่ท่ามกลางวิลล่า จางกุ้ยหลานมีสีหน้าดูอิจฉารีบควักโทรศัพท์ออกมาแล้วโพสต์โมเมนต์ในทันทีหลี่เหวินเชาก็เช่นกัน ถ่ายรูปวิลล่าแต่ละแบบไว้เมื่อดูความเคลื่อนไหวของคนทั้งสอง ทำให้การได้หน้าได้ตาของสวีเชาพอใจแบบสุด ๆลุกขึ้นมาชงชาด้วยตนเองและเอ่ยว่า “คุณป้าครับ มาดื่มชากันก่อนเถอะครับ ไม่ต้องรีบถ่ายรูปก็ได้ วันหลังถ้าพวกคุณอยากจะมาเมื่อไหร่ก็แวะมาได้เลยนะครับ” “จริงเหรอ?” จางกุ้ยหลานและหลี่เหวินเชาดีใจกับเรื่องที่คาดไม่ถึงรู้สึกไม่อยากจะเชื่ออยู่เล็กน้อยสวีเชาเอ่ยออกไปอย่างไม่ได้สนใจว่า “แน่นอนครับ เพียงผมอยู่บ้านพวกคุณก็สามารถแวะมาได้ทุกเมื่อ” “อุ๊ยตาย งั้นก็ดีเลย”จางกุ้ยหลานก็ไม่ลืมที่จะเอ่ยเชิญ “อาเชา วันหลังถ้าคุณว่างก็แวะมานั่งเล่นบ้านพวกเราได้บ่อย ๆ เลยนะ” “สอนฮุยหรานหาเงินหน่อย”หลี่ฮุ่ยหรานกอดอกทั้งสองแล้วเอ่ยว่า “บริษัทของหนูกับสวีเชาไม่เหมือนกันนะ จะมาสอนอะไรเล่า”จางกุ้ยหลานขมวดคิ้วแล้วเอ่ยว่า “มีอะไรไม่เหมือนกัน สวีเชาเขาก็สร้างมาด้วยมือเปล่า ตอนนี้บริษัทก็มีมูลค่าตลาดตั้งหกพันล้าน”หลี่ฮุ่ยหราประหลาดใจเล็กน้อย ตากลมคู่มองไปที่สวีเ
“คุณป้าครับ สวนของที่แห่งนี้ช่างฝีมือชั้นยอดของเจียงหนานเป็นคนสร้างขึ้น มีมูลค่ากว่าห้าพันล้าน ไม่เพียงแค่วิวที่มีราคาสูงเท่านั้น”“ยิ่งคุณค่าทางศิลปะประมาณค่าไม่ได้เลยล่ะครับ”สวีเชาแนะนำความวิจิตรการตาของสวนในอ่าวเทียนสุ่ยให้ทั้งสองคนรู้จักจางกุ้ยหลานมองวิวสวนที่อยู่ตรงหน้าด้วยความชื่นชมสุด ๆอดไม่ได้ที่จะเอ่ยชม “สมแล้วที่เป็นคฤหาสน์หรูอันดับหนึ่งของเจียงโจว แม้แต่สวนในพื้นที่สาธารณะยังแพงกว่าคฤหาสน์ของเราอีก”คฤหาสน์ของตระกูลหลี่ตั้งอยู่แถบชานเมือง ดูใหญ่โตมาก แต่ราคาเทียบกับอ่าวเทียนสุ่ยไม่ติดเลยสักนิดหลี่เหวินเชาที่อยู่ข้าง ๆ พูดประจบ “มันแน่อยู่แล้ว แม่ไม่เห็นเหรอว่าคนแบบไหนที่จะอาศัยอยู่ในอ่าวเทียนสุ่ยได้” “ใช่ไหมล่ะครับ คุณชายสวี”สวีเชายิ้มเบา ๆ “ใช่ที่ไหนกันล่ะครับ ทุกคนต่างก็เป็นคนธรรมดา แค่โปรยเงินไม่กี่บาทเล่นก็เท่านั้น”ในขณะที่ทั้งสามกำลังพูดคุยกันอยู่นั้นหลินเฟิงก็เดินลงเขาด้วยจังหวะฝีก้าวที่รวดเร็วจางกุ้ยหลานเห็นหลินเฟิงจากหางตาแว็บ ๆ พอเห็นหลินเฟิงก็อึ้งไปชั่วขณะ“หลินเฟิง?”พอได้ยินว่ามีคนเรียกชื่อของตนเอง หลินเฟิงก็หยุดชะงักหันกลับไปมอง ก็เห็นว่า
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง ความโกรธบนใบหน้าของหลงหยวนก็ค่อยๆ หายไปเขาหัวเราะกะทันหัน เสียงหัวเราะนั้นชั่วร้ายมาก“หลินเฟิง นายเก่งจริงๆ นายกล้าทำให้ฉันอับอายแบบนี้”ในตอนนี้บนโต๊ะของหลงหยวนมีโทรศัพท์มือถือจอกว้างตั้งไว้อยู่และบนโทรศัพท์ กำลังเปิดข่าวประจำวันไว้อยู่ในวิดีโอที่ข่าวเผยแพร่ออกมาหลงซิ่วที่คลุ้มคลั่งถูกเซนเซอร์บังเอาไว้ กับถานหงราชินีนักร้องเมื่อฟังเสียงกรีดร้องอันแหลมสูงของถานหงในวิดีโอ หลงเยียนก็หันกลับมามองลูกน้องของเขาด้วยสายตาที่เย็นชา“ทันหงกับหลงซิ่วล่ะ ให้พวกเขามาพบฉัน!”"นี่......"ผู้คุ้มกันตระกูลหลงลังเลเล็กน้อย ยิ้มอย่างกระอักกระอ่วนแล้วพูดว่า:“เมื่อข่าวนี้แพร่สะพัดออกไป เราจึงส่งคนไปตามหาพวกเขา สุดท้ายก็พบพวกเขาในบาร์ใต้ดินที่คุณหลงซิ่วมักไปเยี่ยมเยียน”“รอให้พวกเราพบคุณหลงซิ่วและถานหง พวกเขาก็ตายไปแล้ว...”“......”เมื่อได้ยินเช่นนี้ รอยยิ้มดุร้ายบนใบหน้าของหลงหยวนก็ยิ่งเข้มข้นมากขึ้น“หลินเฟิงนะหลินเฟิง นายประกาศสงครามกับฉันเหรอ? ฆ่าหลงอวี่และหลงเซี่ยว และทำให้ตระกูลหลงของฉันต้องอับอาย ฉันจะเก็บหนี้เลือดทั้งหมดนี้ไว้เป็นหลักฐาน!”"ไม่ช้าก็เร
ถานหงกำลังหัวเราะเยาะตัวเองเธอวางแผนมาเป็นเวลานาน โดยต้องการใช้ตระกูลหลง เพื่อแก้แค้นหลินเฟิง อิ่นนั่วเจียและคนอื่นๆติดไม่ถึงว่านี่จะเป็นผลลัพธ์สุดท้ายแม้แต่หลงซิ่วซึ่งได้รับการยกย่องว่าทรงพลังอย่างยิ่ง ก็ไม่สามารถต้านทานได้ในขณะนี้เขาถูกโยนลงพื้นอย่างไม่ใส่ใจเหมือนกับตะพาบน้ำแต่ทว่าถานหงกลับไม่รู้ว่าหลงซิ่วยังไงก็เป็นถึงรองหัวหน้าฝ่ายธุรการแนวหลังของสำนักหลงผาน ความแข็งแกร่งของเขาก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าคนอื่นเพียงแค่ด้อยกว่าหลินเฟิงมากไปหน่อยก็เท่านั้นเองยิ่งกว่านั้นเขายังมีความเย่อหยิ่งมากเกินไป เขาไม่ได้พาลูกน้องของเขามาด้วย เมื่อพวกเขาเผชิญหน้ากันครั้งนี้ ดังนั้นจึงถูกหลินเฟิงเอาชนะได้อย่างง่ายดายหลินเฟิงเตรียมยาพิษไว้สำหรับหลงซิ่วโดยเฉพาะเมื่อหลงซิ่วต้องการใช้พลังชี่แท้ พิษก็จะออกฤทธิ์พิษนี้จะไม่ฆ่าหลงซิ่วทันที แต่จะทำให้เขาเกิดความปรารถนาอันแรงกล้าในตอนแรกเขาสามารถต้านทานด้วยความมุ่งมั่นและพลังชี่แท้ของเขาได้ แต่เมื่อพิษค่อยๆ รุกรานร่างกาย เขาก็สูญเสียสติทั้งหมดไปหลังจากระบายความโมโห ก็เสียชีวิตทันทีเขากล้าใช้กลอุบายสกปรกกับหลินเฟิง ดังนั้นหลินเฟิงก็ไม่มีทา
“เพียงแค่วางยาคุณหลงซิ่ว เพื่อดูว่าคุณมีพละกำลังพอที่จะเป็นลูกผู้ชายหรือเปล่า”หลินเฟิงมองไปที่หลงซิ่วที่สวมสูทสีชมพู แต่งเนื้อแต่งตัวเกินความพอดี รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาจริงใจอย่างยิ่ง"แก......"“เอาล่ะ เอาล่ะ ผมรู้ว่าคุณทรมาน วางใจได้ ผมไม่มีทางไม่สนใจคุณ”ขณะพูดหลินเฟิงดีดนิ้วชายสองคนในชุดสูทก้าวออกมาจากด้านหลังของหลินเฟิง หามหลงซิ่วขึ้นและพาเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สองคนเหล่านี้คือคนของเผิงกวงฉี่ส่วนเผิงกวงฉี่ก่อนหน้านี้ เขาได้นำลูกน้องสี่หรือห้าคนของเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สอง ที่มีโซฟาสีชมพูขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ถ่ายภาพตั้งนานแล้วภายในห้องมีชายเปลือยกาย 2 คนล้มลงในแอ่งเลือดเมื่อถานหงเดินเข้ามาในห้องส่วนตัวด้วยรอยยิ้มอาฆาตบนใบหน้า เห็นชายที่นั่งอยู่บนโซฟารอยยิ้มบนใบหน้าของเธอแข็งทื่อ และกลายเป็นร่องรอยของความกลัวและความตื่นตระหนก“ถานหง ผ่านไปเพียงไม่กี่วัน เธอก็ได้พบกับที่พึ่งใหม่แล้วเหรอ?”เผิงกวงฉี่นั่งสูบบุหรี่ซิการ์อยู่บนโซฟา และมองไปที่ถานหงอย่างไม่ใส่ใจ"ฉัน......"ถานหงรู้สึกสับสนในเวลานี้ เผิงกวงฉี่มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?หรือว่า...หัวใจของถานหงรู้ส
ชีพจรมังกร...จะเป็นจื่อเสวียนรึเปล่านะ? -อิ่นนั่วเจียตกใจอย่างมาก และไม่ทราบว่าจื่อเสวียนกลายมาเป็นชีพจรมังกรที่หลงซิ่วพูดถึงได้อย่างไรดูเหมือนว่าตระกูลหลงจะต้องการสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรอย่างมากและครั้งนี้หลงซิ่วช่วยเหลือถานหง ในที่สุดก็รู้เป้าหมายชัดเจนแล้วพวกเขามาที่นี่เพื่อสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรในมือของหลินเฟิง!หลังจากคิดเรื่องนี้ออก ใบหน้าของอิ่นนั่วเจียก็ไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ออกมาเลย นอกจากความคิดอันลึกซึ้งในทางกลับกัน จวงฉุนกลับถามหลงซิ่วด้วยสีหน้าสับสน:“คุณหลงซิ่ว ชีพจรมังกรคืออะไร?”“ชีพจรมังกรนั้นคือ…”หลงซิ่วไม่ต้องการตอบคำถามของจวงฉุน แต่เห็นว่าอินนั่วเจียยังคงจมอยู่กับความคิดเขาอธิบายอย่างเรียบง่ายว่า:"มีการกล่าวกันว่าชีพจรมังกรเป็นที่มาของโชคลาภของประเทศมังกร"“หากรวบรวมชีพจรมังกรครบทั้งแปดเส้นได้ ก็จะกลายเป็นราชาแห่งมังกรตัวจริงได้ ตามประวัติศาสตร์แล้ว ชีพจรมังกรเหล่านี้เป็นของตระกูลหลงของเรามาโดยตลอด”“เพราะเหตุนี้สถานที่นี้จึงเรียกได้ว่าเป็นประเทศมังกร”“แล้วนามสกุลของเราคือหลง (หลง แปลว่า มังกร) เข้าใจแล้วยัง?”“เราแค่อยากนำสิ่งที่เดิมเป็น
ดังนั้นการร่วมมือกับถานหง เพื่อจัดการกับอิ่นนั่วเจียและหลินเฟิงจึงเป็นเพียงงานเสริมเท่านั้นจุดประสงค์ที่แท้จริงของหลงซิ่วคือเพื่อสำรวจหรือแม้กระทั่งเอาชีพจรมังกรที่อยู่รอบตัวหลินเฟิงออกไป!มีเพียงแค่เอาชีพจรมังกรมาอยู่ในมือ หลงหยวนก็สามารถใช้พละกำลังของเขา จัดการกับหลินเฟิงอย่างกล้าหาญได้และเรื่องของชีพจรมังกรมีเพียงหลงซิ่วและสวีโจวซึ่งเป็นนักบู๊ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดานักบู๊ของตระกูลหลงที่เขาส่งออกไปเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ส่วนที่เหลือก็ไม่ชัดเจนนักแต่ในเวลานี้หลงซิ่วไม่รู้ว่าสวีโจวและคนอื่น ๆ ได้กลายเป็นวิญญาณที่ตายแล้วในมือของหลินเฟิง ด้วยความพยายามผลักดันของจวงฉุน ไม่มีใครหนีไปได้สักคนเหลือเพียงจวงฉุนเท่านั้น และเพื่อความอยู่รอด เขาจึงได้กลายมาเป็นคนทรยศหากหลงซิ่วรู้เรื่องนี้เกรงว่าเขาจะตบจวงฉุนคนไร้ประโยชน์คนนี้จนตายไปซะเลยแทนที่จะชื่นชมเขาเพราะเขาพาอิ่นนั่วเจียมาอยู่เคียงข้างเขา"เอาล่ะ"หลงซิ่วยืนขึ้นและโบกมือให้อิ่นนั่วเจียอย่างด้วยสีหน้านิ่งเฉย“ผมได้เตรียมคนและอุปกรณ์ไว้แล้ว อยู่ในห้องส่วนตัวใต้ดินชั้นสอง ถานหง คุณไปเตรียมตัวก่อนเถอะ”“รอผมถามคำถามอิ่
“ฉันคือลูกน้องของเธอ? คุณหลงซิ่ว นี่มันเรื่องอะไรกัน? ฉันจำได้ว่าไม่มีข้อกำหนดนั้นในสัญญาของเราหรอกมั้ง?”อิ่นนั่วเจียขมวดคิ้วและมองไปที่หลงซิ่วหลงซิ่วสับสนเป็นอย่างมาก แต่ไม่ได้พูดอะไรยังคงเป็นถานหงที่ตอบคำถามของอิ่นนั่วเจียด้วยเสียงหัวเราะ“อิ่นนั่วเจีย เธอช่างไร้เดียงสาเกินไป เธอคิดจริงๆ เหรอว่าตระกูลหลงจะเต็มใจยอมรับเธอ เพราะพวกเขาเห็นคุณค่าในชื่อเสียงและความสามารถของเธอจริงๆ”ถานหงส่ายหน้าอย่างดูถูกและกล่าวว่า:“ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน ตระกูลหลงจะยอมรับเธอได้ยังไง?”“อ่อใช่ ไม่ว่าฉันหรือตระกูลหลง ก็ไม่ได้โกหกเธอ เพราะฉันคือผู้รับผิดชอบบริษัทบันเทิงของตระกูลหลงที่เธอเข้าร่วมมาโดยตลอด”“ดังนั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อิ่นนั่วเจีย เธอต้องเชื่อฟังฉัน เข้าใจไหม?”“ฉันให้เธอถ่ายหนังอะไร เธอก็ต้องไปถ่าย”"เดี๋ยวนะ"อิ่นนั่วเจียยื่นมือออกไปและขมวดคิ้ว:“ถานหง เธอพูดรุนแรงเกินไปแล้ว ฉันจำได้ว่าฉันไม่เคยทำให้เธอขุ่นเคืองมาก่อน ทำไมเธอถึงตั้งใจจะจัดการกับฉันขนาดนั้น?”“ถึงขั้นยอมทุ่มเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเพื่อดึงตัวฉันมาจากหลี่ซื่อกรุ๊ปด้วย”“จุ๊จุ๊จุ๊”เมื่อได้ยินคำพูดของอิ่นนั
“บ้าเอ๊ย ฉันไม่สามารถทนได้จริงๆ ติดต่อน้องหลินให้ฉัน ฉันจะเข้าแทรกแซงเรื่องนี้ด้วย!”...วันต่อมาในบาร์ใต้ดินแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของเมืองจิงจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียที่สวมหมวกและหน้ากากไว้ และดูเรียบง่ายมากรีบเดินทางมาที่นี่ ที่นี่คือ “สถานที่นัดพบ” ที่หลงซิ่วพูดถึงควบคู่ด้วยเสียงดนตรีอันไพเราะและฝูงชนที่เต้นรำจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียเดินผ่านทางเดินและมองเห็นหลงซิ่วกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะ พร้อมคาบบุหรี่อยู่ในปากเมื่อเห็นว่าอิ่นนั่วเจียมาจริง ๆ ดวงตาของหลงซิ่วก็เป็นประกายบุหรี่ในปากของเขาหล่นลงพื้นโดยไม่รู้ตัวแม้ว่าอิ่นนั่วเจียจะสวมเพียงชุดเดรสยีนส์ซึ่งทำให้เธอดูเป็นเด็กสาวมากในวันนี้ แต่หุ่นที่น่าสะพรึงกลัวของเธอก็ยังทำให้ หลงซิ่วที่กำลังนั่งอยู่ตรงโต๊อย่างไม่ใส่ใจก็ต้องกลืนน้ำลายลงคอ"เชี่ย ไม่เสียแรงที่เป็นซูเปอร์สตาร์ประเทศมังกรจริงๆ นะ!"หลงซิ่วอดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบเธอกับถานหง หลังจากคิดดู นี่มันไม่ใช่คนระดับเดียวกันด้วยซ้ำ!แม้ว่าถานหงจะเป็นราชินีเพลงประเทศมังกร หน้าตาก็คล้ายๆกันแต่เมื่อเทียบกับอิ่นนั่วเจียสาวสวยที่อยู่แต่ในจอ ถานหงยังด้อยกว่าเยอะมากเพียงแค่ออร่าอันส
สำนักงานใหญ่กลุ่มเผิงกวง เมืองจิงขณะนั้นเผิงกวงฉี่กำลังคาบซิการ์ไว้ในปากอย่างเรื่อยเปื่ยอ ฟังการโต้เถียงขัดแย้งระหว่างตัวแทนจากทั่วทุกแห่งในการประชุมแม้ว่าเผิงกวงฉี่จะดูเป็นปกติ แต่ในใจเขากลับโกรธมากพวกขยะพวกนี้ได้แต่โทษกันไปมา และต่างคนต่างหาผลประโยชน์แม้แต่เผิงกวงฉี่ก็ยังคิดว่า ควรจะกำจัดคนไร้ประโยชน์เหล่านี้ และส่งเสริมให้คนอื่นขึ้นมาเป็นผู้นำภูมิภาคดีไหมขณะที่กำลังคิดแบบนี้ โทรศัพท์มือถือของเผิงกวงฉี่ก็ดังขึ้นกะทันหันเสียงโทรศัพท์ทำให้ห้องประชุมเงียบลงทันที“คุณหลินโทรมาครับ คุณเผิงกวงฉี่”ผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆ ยื่นโทรศัพท์ให้ด้วยความเคารพเมื่อคิดว่าเป็นหลินเฟิง เผิงกวงฉี่ก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมากไม่พูดไม่ได้ว่ายาหยกโมราของหลินเฟิงมีประสิทธิภาพมากจริงๆ ควบคู่กับน้ำพุร้อนที่เจียงโจว ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองดูหนุ่มลงเรื่อย ๆ และร่างกายก็เต็มไปด้วยกำลังวังชาแม้แต่ผู้หญิงคนใหม่ที่หามาช่วงนี้ ก็ไม่สามารถทำให้เขาพึงพอใจได้ช่วงนี้เขากำลังคิดว่าควรจะหาเพิ่มอีกสักหน่อย เพื่อสร้างทายาทให้กับตระกูลเผิงของเขาสองเดือนที่แล้ว นี่เป็นสิ่งที่เขาไม่กล้าคิดมาก่อนด้วยซ้ำ“ฮัลโหล
“ฉันจะโอนเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเข้าบัญชีของคุณทันที ทางที่ดีคุณให้อิ่นนั่วเจียออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ปโดยเร็วที่สุด ให้เธอมาพบฉันที่เมืองจิง”"ฮ่าฮ่าฮ่า......"ถานหงที่อยู่ปลายสายหัวเราะอย่างโอเวอร์“ฉันต้องการให้อิ่นนั่วเจียคุกเข่าอยู่แทบเท้าฉัน! ยังมีหลินเฟิง ฉันจะทำให้หลินเฟิงและหลี่ซื่อกรุ๊ปบ้าบออะไรนั่นได้ชำระในสิ่งที่ควรจ่าย!”หลังจากพูดจบโทรศัพท์ก็วางสายไปและภายในเวลาไม่กี่นาที ข้อความเงินสดเข้าบัญชีจำนวนสองหมื่นห้าพันล้านบาทก็ปรากฏบนโทรศัพท์มือถือของจวงฉุนทันทีเมื่อมองดูข้อความบนโทรศัพท์ ลมหายใจของจวงฉุนก็เร็วขึ้นอย่างมาก เขาไม่เคยเห็นเงินมากขนาดนี้ในชีวิตของเขามาก่อนแต่เมื่อเขาเงยหน้ามองไปทางหลินเฟิง ก็รู้สึกเหี่ยวเฉาทันทีเขารู้ว่าเงินจำนวนนี้จะไม่มีวันมาถึงเขาด้วยซ้ำ อีกทั้งเรื่องที่อิ่นนั่วเจียเข้าร่วมตระกูลหลงเป็นเรื่องโกหกทั้งหมดเขาแค่อยากหลอกเอาเงินก้อนนี้มาจากหลงซิ่ว เพื่อใช้รักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้ก็เท่านั้นเอง“ตอนนี้โอนเงินก้อนนี้เข้าบัญชีของหลี่ซื่อกรุ๊ปเถอะ”หลินเฟิงไม่พูดมาก บังคับจวงฉุนให้ดำเนินการบนโทรศัพท์มือถือของเขาโดยตรงหลังจากนั้นไม่นาน เงิน