ในตอนนี้หลี่ซืออวี่ก็วิ่งเข้ามาประสมโรง “หวงเหมา นายไหวไหมเนี่ย? รีบดื่มสิ”เมื่อครู่เห็นของขวัญที่หลินเฟิงมอบให้ไม่มีมูลค่า หลี่ซืออวี่ก็เกิดความลำเอียงต่อหลินเฟิงอีกครั้งจึงปลุกระดมทุกคนอย่างไรซะใครเสียหน้าก็กระทบมาไม่ถึงตัวเธอเป็นการดูเรื่องสนุกและไม่กลัวว่าจะเดือดร้อน“หวงเหมาดื่มต่อสิ…”ในตอนนี้หลี่ว์เจิ้งหยางถลึงตาใส่เขา คนอื่น ๆ ก็พากันส่งเสียงให้กำลังใจหวงเหมามองดูหลินเฟิง เห็นเพียงแค่ว่าไอ้หมอนี่นั่งไขว่ห้าง หน้าไม่แดงหายใจไม่แรง ดื่มเบียร์ไปยี่สิบขวดทำเหมือนกับไม่ได้เกิดอะไรขึ้นทั้งนั้นหลินเฟิงยิ้มบางแล้วพูดขึ้น “ถ้าหากดื่มไม่ไหว นายไม่ต้องดื่มก็ได้”ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ไอ้หมอนี่ดื่มเบียร์ไปยี่สิบขวดถือว่ามีความสามารถจริง ๆ นั่นแหละแต่น่าเสียดายที่เขาเจอกับหลินเฟิงหลินเฟิงรวบรวมกำลังภายใน เบียร์ที่ดื่มเข้าไปทั้งหมดถูกขับออกจากร่างกายพร้อมกับเหงื่อหวงเหมากัดฟันแล้วพูดขึ้น “นี่เพิ่งถึงไหนเอง พวกเราดื่มกันต่อ”พูดจบก็เปิดขวดเบียร์อีกหนึ่งขวดเขาอดกลั้นอาการคลื่นไส้และดื่มต่อเพียงแต่ครั้งนี้เขาเพิ่งดื่มได้ครึ่งหนึ่งกระเพาะไม่สามารถจุได้อีกแล้วน้ำย่อยพ
ในปากก็ตะโกนไม่หยุด“หลินเฟิงคนนี้ก็จริง ๆ เลย ต้องการดวลเบียร์กับหวงเหมาให้ได้ ฉันดูแล้วเขาตั้งใจชัด ๆ”โจวเสี่ยวหางช่วยเหลืออยู่ด้านข้าง เมื่อได้ยินคำพูดนี้ก็รู้สึกจนปัญญา “เรื่องนี้หลินเฟิงไม่ได้เป็นคนเริ่มสักหน่อย โทษใครก็ได้แต่ก็ไม่ควรโทษไปถึงหัวหลินเฟิงไหม?”“จะไม่เกี่ยวข้องกับเขาได้อย่างไร เขาก็เข้าร่วมไม่ใช่เหรอ”โจวเสี่ยวหางส่ายหน้าและก็ไม่ถกเถียงเรื่องนี้กับเธอ “เดี๋ยวเธอใส่ชุดของฉันก่อนเถอะ”ขณะพูดก็ถอดเสื้อคลุมบนตัวออกหลัจากหลี่ซืออวี่เช็ดตัวสะอาด ถึงได้คลุมเสื้อคลุมของโจวเสี่ยวหางชุดเดรสสีขาวตัวนั้นไม่สามารถสวมใส่ได้แล้วโชคดีที่เธอใส่กางเกงเลกกิ้งไว้สวมเสื้อแจ็กเกตของหลี่ซืออวี่ก็ไม่ได้โป๊มากนักโจวเสี่ยวหางสวมเสื้อสายเดี่ยวสีดำเอาไว้ข้างใน เมื่อไม่มีเสื้อคลุมปกปิด รูปร่างที่สมบูรณ์แบบก็เผยออกมาอย่างชัดเจนหวงเหมาตามมาที่หน้าประตู และหยุดอยู่ตรงอ่างล้างมือวันนี้ขายขี้หน้ามากจริง ๆเขากลัดกลุ้มใจจริง ๆ หลินเฟิงคนนั้นท้องใหญ่แค่ไหนกันนะ? ถึงได้สามารถจุเบียร์ได้เยอะขนาดนั้นที่ตัวเองสามารถดื่มได้ก็เพราะเข้าห้องน้ำบ่อย เพียงแค่ว่าครั้งนี้เวลาครึ่งชั่วโมงดื่ม
หลี่ซืออวี่กลอกตามอง “โชคดีที่นายมาได้ทันเวลา ฉันก็ไม่ได้ถูกรังแกอะไร”“แต่ชุดตัวนี้ของฉันนายต้องชดใช้ด้วยเงิน”หวงเหมาทำท่าทางประจบประแจง “วางใจได้ ฉันชดใช้ ชดใช้ให้แน่นอน”ทั้งสามคนกลับไปที่ห้องส่วนตัวหลินเสวี่ยฮุ่ยเดินเข้าไปถาม “เสี่ยวหาง พวกเธอทำไมไปตั้งนานถึงเพิ่งจะกลับมา?”หวงเหมาพูดด้วยสีหน้าลำพองใจ “เมื่อครู่มีไอ้หนุ่มคนหนึ่งกล้าลวนลามหลี่ซืออวี่ ถูกฉันสั่งสอนไปยกหนึ่ง”โจวเสี่ยวหางพยักหน้าอย่างจนใจ“ห๊ะ? พวกเธอมีเรื่องกับคนอื่นเหรอ?” หลินเสวี่ยฮุ่ยพูดด้วยความเป็นห่วง“วางใจเถอะ เสวี่ยฮุ่ย ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ก็แค่คนเสเพลคนหนึ่งก็เท่านั้น”หวงเหมาตบหน้าอกของตัวเองแล้วพูดขึ้น“ถ้าหากเขากล้ามาหาเรื่อง ดูสิว่าฉันจะสั่งสอนเขาอย่างไร”ฟังน้ำเสียงของหวงเหมาเหมือนกับไม่ได้มีเรื่องใหญ่อะไร หลินเสวี่ยฮุ่ยจึงไม่ได้ซักไซ้ไล่เลียงแต่โจวเสี่ยวหางแอบรู้สึกเป็นกังวลเมื่อจบเหตุการณ์วุ่นวายเมื่อครู่ ทุกคนก็เล่นสนุกกันต่ออีกครู่หนึ่ง ในตอนที่กำลังจะกลับไปประตูของห้องส่วนตัวก็ถูกคนถีบออกทันทีหนุ่มผมสกินเฮดคนหนึ่งเดินเข้ามานักเรียนของมหาวิทยาลัยเจียงโจวต่างงุนงงในทันทีห้อง
“ถ้าหากขอโทษแล้วมีประโยชน์ งั้นบนโลกนี้จะมีตำรวจไว้ทำไม?” ชายหัวล้านพูดเยาะหยัน“งั้น…พี่ชาย ความหมายของคุณคือ?” หลี่ซืออวี่ถามด้วยความระมัดระวังชายหัวล้านลูบคางของตัวเอง แล้วจ้องมองหลี่ซืออวี่ “หรือว่าเอาแบบนี้ เธอไปดื่มเหล้าเป็นเพื่อนพรรคพวกของฉันสักสองสามแก้ว เรื่องนี้ก็ถือว่าผ่านไป”“ห๊ะ?” หลี่ซืออวี่ตกตะลึงอย่างมาก ดื่มเหล้าเป็นเพื่อนพวกเขากลุ่มนี้นั่นหมายความว่าอย่างไรไม่ต้องพูดก็สามารถเข้าใจได้“ไม่ได้นะ…” หวงเหมาเพิ่งจะเอ่ยปากหนุ่มสกินเฮดก็ถือไม้ฟาดไปที่ศีรษะของเขา “พวกเราคุยกันอยู่ มีที่ให้แกพูดแทรกด้วยเหรอ?”หวงเหมาถูกตีจนหัวแตกในทันทีเขากุมศีรษะแล้วนอนหมอบอยู่บนพื้น“พวกคุณมีสิทธิ์อะไรทำร้ายคน?” หลินเสวี่ยฮุ่ยเห็นเพื่อนร่วมห้องของตัวเองถูกตี จึงก้าวออกมาในทันทีในเมื่อวันนี้เป็นงานวันเกิดของเธอ เพื่อนนักเรียนกลุ่มนี้มาเพื่อฉลองให้กับเธอเธอจำเป็นต้องออกหน้า“เสวี่ยฮุ่ย” หลี่ซืออวี่รีบดึงหลินเสวี่ยฮุ่ยเอาไว้เห็นได้ชัดว่าคนกลุ่มนี้ไม่ใช่คนดี หลินเสวี่ยฮุ่ยท่าทางแข็งกร้าวแบบนี้เกรงว่าจะต้องได้รับผลไม่ดีหนุ่มสกินเฮดเงยหน้าขึ้น สายตาเปล่งประกายทันทีในห้องส่วนต
“ที่แท้ก็พี่หวังนี่เอง ยินดีที่ได้พบครับ” หลี่ว์เจิ้งหยางเข้าไปคำนับเล็กน้อยพวกนักเรียนเห็นหลี่ว์เจิ้งหยางออกหน้าก็ถอนหายใจอย่างแรงในทันทีในเมื่อเขาเป็นลูกเศรษฐีที่แท้จริง เคยเจอโลกภายนอกมาเยอะ มีเขาออกหน้าน่าจะแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้“แกแม่งเป็นใครวะ?” หวังข่ายมองหลี่ว์เจิ้งหยางด้วยสายตาเย็นชาหลี่ว์เจิ้งหยางแนะนำตัวด้วยความมั่นใจ “ผมคือหลี่ว์เจิ้งหยางนายน้อยตระกูลหลี่ว์”“เรื่องในวันนี้ เพื่อนของผมลงมือก่อน แต่เป็นเรื่องเข้าใจผิดกันทั้งนั้น”“เอาแบบนี้ ค่ารักษาพยาบาลของพี่ชายคนนี้ผมรับผิดชอบทั้งหมด แล้วก็ให้ค่าบำรุงร่างกายห้าหมื่นบาทกับพี่ชาย พี่หวังพี่คิดว่าอย่างไรครับ?”เพื่อนนักเรียนคนอื่น ๆ เห็นแบบนี้ก็พยักหน้าติดต่อกันดูพี่หยางจัดการปัญหาสิ กระจ่างแจ้งถ้าหากเปลี่ยนเป็นพวกเขาต้องยอมรับข้อเสนอนี้แน่นอนแต่หวังข่ายไม่ได้เห็นแก่เงินด้วยซ้ำเขายกมือขึ้นฟาดไปที่ใบหน้าของหลี่ว์เจิ้งหยางเสียงดัง “เพี๊ยะ” ชัดเจนและกังวานฝ่ามือนี้ตบจนหลี่ว์เจิ้งหยางงุนงงเล็กน้อยเขาคิดไม่ถึงเลยว่าตัวเองเปิดเผยสถานะแล้ว หวังข่ายคนนี้ยังจะกล้าตบเขาอีกแม้แต่เพื่อนร่วมห้องของเขาก็คาดคิดไม่ถ
ดวงตาทั้งสองข้างเลือนลาง เธอรู้สึกอึดอัดอย่างมากหวังข่ายรีบข่มขู่ นักศึกษากลุ่มนี้ยังจะกล้าต่อต้านตัวเองอีกที่ไหนกันล่ะ?เขายื่นมือออกไปจะถอดเสื้อคลุมของหลินเสวี่ยฮุ่ยต่อหน้าทุกคนมืออีกข้างหนึ่งของหลินเสวี่ยฮุยจับเสื้อคลุมไว้สุดแรง“คุณจะทำอะไรน่ะ?”ในตอนนี้เพื่อนร่วมห้องคนอื่น ๆ ไม่ปริปากพูดจา ถึงขั้นที่ไม่กล้าเข้าไปมีเพียงโจวเสี่ยวหางที่คว้าขวดเบียร์บนโต๊ะขึ้นมาโยนไปทางหวังข่ายเพล้งขวดเบียร์กระแทกศรีษะของหวังข่ายจนแตกศีรษะของหวังข่ายมีเลือดไหลออกมาทันที“แม่งเอ้ย…ฉันใจดีกับพวกแกเกินไปแล้ว” หวังข่ายมองดูรอยเลือดที่ไหลลงจากหน้าผากก็โกรธจนระงับอารมณ์ไม่อยู่จากนั้นก็ชี้หน้าโจวเสี่ยวหาง “ผู้หญิงคนนี้ยกให้พวกนาย”พวกลูกสมุนได้ยินคำพูดนี้ก็รู้สึกดีใจอย่างมาก จากนั้นก็พากันมุ่งหน้ามาทางโจวเสี่ยวหาง“พอแล้ว”ในตอนนั้นเอง หลินเฟิงลุกขึ้นยืนช้า ๆ และตวาดเสียงดังก้องทั่วทั้งห้องส่วนตัวสายตาของทุกคนพากันมองไปทางหลินเฟิงสายตาเฉียบคมของหลินเฟิงจ้องมองหวังข่ายแล้วพูดขึ้น “ปล่อยคน และไสหัวออกไปซะ แล้วฉันจะไว้ชีวิตพวกนาย”“เชี่ย ยังมีคนกล้าทำเก่งต่อหน้าฉันอีกเหรอ?” หวังข่าย
หวังข่ายจ่อมีดพกไปที่ลำคอของหลินเสวี่ยฮุ่ย และมองหลินเฟิงอย่างระแวงหลินเสวี่ยฮุ่ยตัวแข็งทื่อ เธอไม่คิดเลยว่าเธอที่เป็นแค่นักศึกษายากจนอยู่มาวันหนึ่งจะถูกจับเป็นตัวประกันตอนนี้เธอไม่กล้าขยับเขยื้อนหลินเฟิงเห็นแบบนี้ ดวงตาที่เฉียบคมหรี่ตาลงและหยุดเดินหวังข่ายยิ้มมุมปาก “หึหึ ไอ้หนุ่ม ดูท่าความสัมพันธ์กับนังหนูคนนี้ไม่ธรรมดาเลยนะ”หลินเฟิงสีหน้าอึมครึมดวงตาแฝงไปด้วยความดุดัน “ฉันเกลียดที่คนอื่นข่มขู่ฉันที่สุด ตอนนี้ปล่อยเธอไปซะ แล้วฉันจะไว้ชีวิตแก”“เชี่ย แกขู่ใครวะ?” หวังข่ายเห็นเขาแต่งกายไม่เหมือนกับบุคคลใหญ่โตอะไรต่อให้ตัวเองปล่อยให้เขาฆ่าจริง ๆ เขามีความกล้านั้นไหมล่ะ?“ไอ้หนุ่ม แกเจ๋งมากเหรอวะ? ถ้าหากอยากให้คนสวยคนนี้รอดชีวิต แกก็หักแขนข้างหนึ่งของแกซะ” หวังข่ายพูดข่มขู่เสียงเย็นชาหลินเฟิงสองมือกำหมัดแน่นหวังข่ายเห็นแบบนั้นมีดพกในมือก็ขยับเข้าใกล้หลินเสวี่ยฮุ่ยอีกสองสามเซนติเมตรหลินเสวี่ยฮุ่ยชูคอ เธอไม่กล้าขยับเขยื้อนซี้ซั้วแม้แต่นิด ถึงขั้นที่สามารถสัมผัสได้ถึงอุณหภูมิเย็นเฉียบที่ส่งมาจากมีดพก“ไอ้หนุ่ม แม่งอย่าเล่นตุกติก เร็ว ๆ เลย ไม่อย่างนั้นฉันจะให้เธอตายต่อห
เขามองหลินเฟิงด้วยความหวาดกลัว ความเร็วของไอ้หมอนี่จะเร็วเกินไปหน่อยไหม?เมื่อเห็นว่าการหลบหนีไร้ความหวัง เขาจึงร้องขอความเมตตาในทันที “พี่ชายท่านนี้ ไว้ชีวิตด้วย ไว้ชีวิตด้วยนะครับ…”“วันนี้เป็นความผิดของผมทั้งหมด ผมขอโทษ ผมจะชดใช้เงินให้…”“ฉันเคยให้โอกาสนายแล้ว น่าเสียดายที่นายไม่ทะนุถนอมเอง” หลินเฟิงเดินไปข้างกายเขาช้า ๆ แล้วพูดขึ้นเสียงเย็นชา“คณจะฆ่าผมตรงนี้ไม่ได้นะ เนี่ย ตรงนี้มีกล้องวงจรปิด…คุณจะติดคุกนะครับ” หวังข่ายอดกลั้นความเจ็บปวดบนร่างกาย และพูดขึ้นด้วยความยากลำบากหลินเฟิงได้ยินแบบนั้นก็เงยหน้าขึ้นมองกล้องวงจรปิดที่อยู่ตรงทางเดินเลนส์กล้องหันไปทางพวกเขาทั้งสองคนพอดี“ฮ่าฮ่า….ผมพูดได้มีเหตุผลใช่ไหมล่ะ?” หวังข่ายถอนหายใจออกมายาว ๆดูท่าไอ้หมอนี่ยังค่อนข้างกลัวกฎหมายอยู่ขณะเดียวกันหลินเสวี่ยฮุ่ยและคนอื่น ๆ ก็ไม่ได้โง่รออยู่ในห้องส่วนตัวแต่วิ่งตามออกมาหลี่ว์เจิ้งหยางและคนอื่น ๆ ก็ตามมาอยู่ด้านหลังของเธอ“พี่เฟิง…”หลินเฟิงเหลือบเห็นหลินเสวี่ยฮุ่ย เขาไม่ได้กลัวกล้องวงจรปิด แต่ไม่อยากฆ่าคนต่อหน้าหลินเสวี่ยฮุ่ย“พี่เฟิง พี่ไม่ต้องคิดเล็กคิดน้อยกับเขาแล้ว พวกเร
“เพียงแค่วางยาคุณหลงซิ่ว เพื่อดูว่าคุณมีพละกำลังพอที่จะเป็นลูกผู้ชายหรือเปล่า”หลินเฟิงมองไปที่หลงซิ่วที่สวมสูทสีชมพู แต่งเนื้อแต่งตัวเกินความพอดี รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาจริงใจอย่างยิ่ง"แก......"“เอาล่ะ เอาล่ะ ผมรู้ว่าคุณทรมาน วางใจได้ ผมไม่มีทางไม่สนใจคุณ”ขณะพูดหลินเฟิงดีดนิ้วชายสองคนในชุดสูทก้าวออกมาจากด้านหลังของหลินเฟิง หามหลงซิ่วขึ้นและพาเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สองคนเหล่านี้คือคนของเผิงกวงฉี่ส่วนเผิงกวงฉี่ก่อนหน้านี้ เขาได้นำลูกน้องสี่หรือห้าคนของเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สอง ที่มีโซฟาสีชมพูขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ถ่ายภาพตั้งนานแล้วภายในห้องมีชายเปลือยกาย 2 คนล้มลงในแอ่งเลือดเมื่อถานหงเดินเข้ามาในห้องส่วนตัวด้วยรอยยิ้มอาฆาตบนใบหน้า เห็นชายที่นั่งอยู่บนโซฟารอยยิ้มบนใบหน้าของเธอแข็งทื่อ และกลายเป็นร่องรอยของความกลัวและความตื่นตระหนก“ถานหง ผ่านไปเพียงไม่กี่วัน เธอก็ได้พบกับที่พึ่งใหม่แล้วเหรอ?”เผิงกวงฉี่นั่งสูบบุหรี่ซิการ์อยู่บนโซฟา และมองไปที่ถานหงอย่างไม่ใส่ใจ"ฉัน......"ถานหงรู้สึกสับสนในเวลานี้ เผิงกวงฉี่มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?หรือว่า...หัวใจของถานหงรู้ส
ชีพจรมังกร...จะเป็นจื่อเสวียนรึเปล่านะ? -อิ่นนั่วเจียตกใจอย่างมาก และไม่ทราบว่าจื่อเสวียนกลายมาเป็นชีพจรมังกรที่หลงซิ่วพูดถึงได้อย่างไรดูเหมือนว่าตระกูลหลงจะต้องการสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรอย่างมากและครั้งนี้หลงซิ่วช่วยเหลือถานหง ในที่สุดก็รู้เป้าหมายชัดเจนแล้วพวกเขามาที่นี่เพื่อสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรในมือของหลินเฟิง!หลังจากคิดเรื่องนี้ออก ใบหน้าของอิ่นนั่วเจียก็ไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ออกมาเลย นอกจากความคิดอันลึกซึ้งในทางกลับกัน จวงฉุนกลับถามหลงซิ่วด้วยสีหน้าสับสน:“คุณหลงซิ่ว ชีพจรมังกรคืออะไร?”“ชีพจรมังกรนั้นคือ…”หลงซิ่วไม่ต้องการตอบคำถามของจวงฉุน แต่เห็นว่าอินนั่วเจียยังคงจมอยู่กับความคิดเขาอธิบายอย่างเรียบง่ายว่า:"มีการกล่าวกันว่าชีพจรมังกรเป็นที่มาของโชคลาภของประเทศมังกร"“หากรวบรวมชีพจรมังกรครบทั้งแปดเส้นได้ ก็จะกลายเป็นราชาแห่งมังกรตัวจริงได้ ตามประวัติศาสตร์แล้ว ชีพจรมังกรเหล่านี้เป็นของตระกูลหลงของเรามาโดยตลอด”“เพราะเหตุนี้สถานที่นี้จึงเรียกได้ว่าเป็นประเทศมังกร”“แล้วนามสกุลของเราคือหลง (หลง แปลว่า มังกร) เข้าใจแล้วยัง?”“เราแค่อยากนำสิ่งที่เดิมเป็น
ดังนั้นการร่วมมือกับถานหง เพื่อจัดการกับอิ่นนั่วเจียและหลินเฟิงจึงเป็นเพียงงานเสริมเท่านั้นจุดประสงค์ที่แท้จริงของหลงซิ่วคือเพื่อสำรวจหรือแม้กระทั่งเอาชีพจรมังกรที่อยู่รอบตัวหลินเฟิงออกไป!มีเพียงแค่เอาชีพจรมังกรมาอยู่ในมือ หลงหยวนก็สามารถใช้พละกำลังของเขา จัดการกับหลินเฟิงอย่างกล้าหาญได้และเรื่องของชีพจรมังกรมีเพียงหลงซิ่วและสวีโจวซึ่งเป็นนักบู๊ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดานักบู๊ของตระกูลหลงที่เขาส่งออกไปเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ส่วนที่เหลือก็ไม่ชัดเจนนักแต่ในเวลานี้หลงซิ่วไม่รู้ว่าสวีโจวและคนอื่น ๆ ได้กลายเป็นวิญญาณที่ตายแล้วในมือของหลินเฟิง ด้วยความพยายามผลักดันของจวงฉุน ไม่มีใครหนีไปได้สักคนเหลือเพียงจวงฉุนเท่านั้น และเพื่อความอยู่รอด เขาจึงได้กลายมาเป็นคนทรยศหากหลงซิ่วรู้เรื่องนี้เกรงว่าเขาจะตบจวงฉุนคนไร้ประโยชน์คนนี้จนตายไปซะเลยแทนที่จะชื่นชมเขาเพราะเขาพาอิ่นนั่วเจียมาอยู่เคียงข้างเขา"เอาล่ะ"หลงซิ่วยืนขึ้นและโบกมือให้อิ่นนั่วเจียอย่างด้วยสีหน้านิ่งเฉย“ผมได้เตรียมคนและอุปกรณ์ไว้แล้ว อยู่ในห้องส่วนตัวใต้ดินชั้นสอง ถานหง คุณไปเตรียมตัวก่อนเถอะ”“รอผมถามคำถามอิ่
“ฉันคือลูกน้องของเธอ? คุณหลงซิ่ว นี่มันเรื่องอะไรกัน? ฉันจำได้ว่าไม่มีข้อกำหนดนั้นในสัญญาของเราหรอกมั้ง?”อิ่นนั่วเจียขมวดคิ้วและมองไปที่หลงซิ่วหลงซิ่วสับสนเป็นอย่างมาก แต่ไม่ได้พูดอะไรยังคงเป็นถานหงที่ตอบคำถามของอิ่นนั่วเจียด้วยเสียงหัวเราะ“อิ่นนั่วเจีย เธอช่างไร้เดียงสาเกินไป เธอคิดจริงๆ เหรอว่าตระกูลหลงจะเต็มใจยอมรับเธอ เพราะพวกเขาเห็นคุณค่าในชื่อเสียงและความสามารถของเธอจริงๆ”ถานหงส่ายหน้าอย่างดูถูกและกล่าวว่า:“ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน ตระกูลหลงจะยอมรับเธอได้ยังไง?”“อ่อใช่ ไม่ว่าฉันหรือตระกูลหลง ก็ไม่ได้โกหกเธอ เพราะฉันคือผู้รับผิดชอบบริษัทบันเทิงของตระกูลหลงที่เธอเข้าร่วมมาโดยตลอด”“ดังนั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อิ่นนั่วเจีย เธอต้องเชื่อฟังฉัน เข้าใจไหม?”“ฉันให้เธอถ่ายหนังอะไร เธอก็ต้องไปถ่าย”"เดี๋ยวนะ"อิ่นนั่วเจียยื่นมือออกไปและขมวดคิ้ว:“ถานหง เธอพูดรุนแรงเกินไปแล้ว ฉันจำได้ว่าฉันไม่เคยทำให้เธอขุ่นเคืองมาก่อน ทำไมเธอถึงตั้งใจจะจัดการกับฉันขนาดนั้น?”“ถึงขั้นยอมทุ่มเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเพื่อดึงตัวฉันมาจากหลี่ซื่อกรุ๊ปด้วย”“จุ๊จุ๊จุ๊”เมื่อได้ยินคำพูดของอิ่นนั
“บ้าเอ๊ย ฉันไม่สามารถทนได้จริงๆ ติดต่อน้องหลินให้ฉัน ฉันจะเข้าแทรกแซงเรื่องนี้ด้วย!”...วันต่อมาในบาร์ใต้ดินแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของเมืองจิงจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียที่สวมหมวกและหน้ากากไว้ และดูเรียบง่ายมากรีบเดินทางมาที่นี่ ที่นี่คือ “สถานที่นัดพบ” ที่หลงซิ่วพูดถึงควบคู่ด้วยเสียงดนตรีอันไพเราะและฝูงชนที่เต้นรำจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียเดินผ่านทางเดินและมองเห็นหลงซิ่วกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะ พร้อมคาบบุหรี่อยู่ในปากเมื่อเห็นว่าอิ่นนั่วเจียมาจริง ๆ ดวงตาของหลงซิ่วก็เป็นประกายบุหรี่ในปากของเขาหล่นลงพื้นโดยไม่รู้ตัวแม้ว่าอิ่นนั่วเจียจะสวมเพียงชุดเดรสยีนส์ซึ่งทำให้เธอดูเป็นเด็กสาวมากในวันนี้ แต่หุ่นที่น่าสะพรึงกลัวของเธอก็ยังทำให้ หลงซิ่วที่กำลังนั่งอยู่ตรงโต๊อย่างไม่ใส่ใจก็ต้องกลืนน้ำลายลงคอ"เชี่ย ไม่เสียแรงที่เป็นซูเปอร์สตาร์ประเทศมังกรจริงๆ นะ!"หลงซิ่วอดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบเธอกับถานหง หลังจากคิดดู นี่มันไม่ใช่คนระดับเดียวกันด้วยซ้ำ!แม้ว่าถานหงจะเป็นราชินีเพลงประเทศมังกร หน้าตาก็คล้ายๆกันแต่เมื่อเทียบกับอิ่นนั่วเจียสาวสวยที่อยู่แต่ในจอ ถานหงยังด้อยกว่าเยอะมากเพียงแค่ออร่าอันส
สำนักงานใหญ่กลุ่มเผิงกวง เมืองจิงขณะนั้นเผิงกวงฉี่กำลังคาบซิการ์ไว้ในปากอย่างเรื่อยเปื่ยอ ฟังการโต้เถียงขัดแย้งระหว่างตัวแทนจากทั่วทุกแห่งในการประชุมแม้ว่าเผิงกวงฉี่จะดูเป็นปกติ แต่ในใจเขากลับโกรธมากพวกขยะพวกนี้ได้แต่โทษกันไปมา และต่างคนต่างหาผลประโยชน์แม้แต่เผิงกวงฉี่ก็ยังคิดว่า ควรจะกำจัดคนไร้ประโยชน์เหล่านี้ และส่งเสริมให้คนอื่นขึ้นมาเป็นผู้นำภูมิภาคดีไหมขณะที่กำลังคิดแบบนี้ โทรศัพท์มือถือของเผิงกวงฉี่ก็ดังขึ้นกะทันหันเสียงโทรศัพท์ทำให้ห้องประชุมเงียบลงทันที“คุณหลินโทรมาครับ คุณเผิงกวงฉี่”ผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆ ยื่นโทรศัพท์ให้ด้วยความเคารพเมื่อคิดว่าเป็นหลินเฟิง เผิงกวงฉี่ก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมากไม่พูดไม่ได้ว่ายาหยกโมราของหลินเฟิงมีประสิทธิภาพมากจริงๆ ควบคู่กับน้ำพุร้อนที่เจียงโจว ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองดูหนุ่มลงเรื่อย ๆ และร่างกายก็เต็มไปด้วยกำลังวังชาแม้แต่ผู้หญิงคนใหม่ที่หามาช่วงนี้ ก็ไม่สามารถทำให้เขาพึงพอใจได้ช่วงนี้เขากำลังคิดว่าควรจะหาเพิ่มอีกสักหน่อย เพื่อสร้างทายาทให้กับตระกูลเผิงของเขาสองเดือนที่แล้ว นี่เป็นสิ่งที่เขาไม่กล้าคิดมาก่อนด้วยซ้ำ“ฮัลโหล
“ฉันจะโอนเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเข้าบัญชีของคุณทันที ทางที่ดีคุณให้อิ่นนั่วเจียออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ปโดยเร็วที่สุด ให้เธอมาพบฉันที่เมืองจิง”"ฮ่าฮ่าฮ่า......"ถานหงที่อยู่ปลายสายหัวเราะอย่างโอเวอร์“ฉันต้องการให้อิ่นนั่วเจียคุกเข่าอยู่แทบเท้าฉัน! ยังมีหลินเฟิง ฉันจะทำให้หลินเฟิงและหลี่ซื่อกรุ๊ปบ้าบออะไรนั่นได้ชำระในสิ่งที่ควรจ่าย!”หลังจากพูดจบโทรศัพท์ก็วางสายไปและภายในเวลาไม่กี่นาที ข้อความเงินสดเข้าบัญชีจำนวนสองหมื่นห้าพันล้านบาทก็ปรากฏบนโทรศัพท์มือถือของจวงฉุนทันทีเมื่อมองดูข้อความบนโทรศัพท์ ลมหายใจของจวงฉุนก็เร็วขึ้นอย่างมาก เขาไม่เคยเห็นเงินมากขนาดนี้ในชีวิตของเขามาก่อนแต่เมื่อเขาเงยหน้ามองไปทางหลินเฟิง ก็รู้สึกเหี่ยวเฉาทันทีเขารู้ว่าเงินจำนวนนี้จะไม่มีวันมาถึงเขาด้วยซ้ำ อีกทั้งเรื่องที่อิ่นนั่วเจียเข้าร่วมตระกูลหลงเป็นเรื่องโกหกทั้งหมดเขาแค่อยากหลอกเอาเงินก้อนนี้มาจากหลงซิ่ว เพื่อใช้รักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้ก็เท่านั้นเอง“ตอนนี้โอนเงินก้อนนี้เข้าบัญชีของหลี่ซื่อกรุ๊ปเถอะ”หลินเฟิงไม่พูดมาก บังคับจวงฉุนให้ดำเนินการบนโทรศัพท์มือถือของเขาโดยตรงหลังจากนั้นไม่นาน เงิน
“ดูเหมือนว่าคุณจะได้เจอกับอิ่นนั่วเจียจริงๆ นะ”หลงซิ่วที่อยู่ปลายสายพูดอย่างใจเย็นว่า:“ผมลืมบอกคุณไปว่าตอนนี้อิ่นนั่วเจียเป็นสมาชิกของหลี่ซื่อกรุ๊ปแล้ว เธอเต็มใจที่จะออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ป และร่วมมือกับตระกูลหลงของเราจริงๆ เหรอ?”เมื่อได้ยินสิ่งที่หลงซิ่วพูดจวงฉุนสั่นสะเทือนไปทั้งตัวเกือบหัวใจวายเพราะความโมโหในที่สุดเขาก็ได้ลิ้มรสว่าการถูกหลอกเป็นอย่างไรหากหลงซิ่วเล่าเบื้องหลังของอิ่นนั่วเจียให้เขาฟังก่อนหน้านี้เขาจะพาผู้คนมาที่นี่เพื่อมาหาอิ่นนั่วเจีย และตกหลุมพรางได้ยังไง?ตอนนี้มันสายเกินไปที่จะพูดอะไรอีกแล้วร่องรอยแห่งความโกรธเริ่มผุดขึ้นในใจของจวงฉุนหากพูดว่าเมื่อครู่เพียงแค่โกหกหลงซิ่ว เขาก็มีความกดดันอยู่ไม่น้อยเมื่อเขาได้ยินว่าหลงซิ่วปกปิดเรื่องของอิ่นนั่วเจียกับเขา เขาก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันทีหากคุณไม่ได้บอกผมให้ชัดเจนก่อนที่คุณจะจากไปผมจำเป็นต้องตกไปอยู่ในมือของหลินเฟิงงั้นเหรอ?จวงฉุนตัดสินใจ คำพูดก็ราบรื่นมากขึ้น“ใช่ครับ คุณอิ่นนั่วเจียบอกผมเอง แต่ว่า...”"แต่ว่าอะไร?"หลงซิ่วที่ปลายสายโทรศัพท์ขมวดคิ้วเล็กน้อย“แต่คุณอิ่นนั่วเจียบอกว่าเธอได้เซ็น
จวงฉุนคิดว่าคำพูดนี้สมบูรณ์แบบไร้ที่ติขณะที่จวงฉุนกำลังจมอยู่กับจินตนาการของเขา หลินเฟิงก็ยื่นมือออกไปและโบกไปมาตรงหน้าจวงฉุน“การปล้นทำลายของพวกนายในครั้งนี้ ได้ทำลายสินค้าของหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันมูลค่าสองหมื่นห้าพันล้านบาทเต็มๆ เพียงแค่นายสามารถชดเชยเงินสินค้าเหล่านี้ให้เราได้ ฉันก็จะไม่ถือสาเอาความ”"สองหมื่นห้าพันล้านบาท?"เมื่อได้ยินตัวเลขนี้ อิ่นนั่วเจียที่อยู่ข้างๆ ก็เปิดริมฝีปากสีแดงของเธอออกครู่หนึ่ง เธอก็ส่ายหัวอย่างจนปัญญาหลินเฟิงกำลังพยายามกรรโชกเงินอยู่เหรอ!"เป็นไปไม่ได้!"เห็นได้ชัดว่าจวงฉุนก็ตกใจกับจำนวนเงินมหาศาลนี้อย่าว่าแต่ยี่สิบห้าล้านบาทเลย แม้แต่ห้าพันล้านบาทเขาก็ยังไม่มี จะอุดรูโบ๋นี้ได้อย่างไรหลินเฟิงรีดไถมากเกินไปจริงๆ“แน่นอนว่าหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันไม่สนใจเงินจำนวนน้อยๆ นี้ แต่ฉันแค่อยากเห็นท่าทางของคุณ”“เป็นไงบ้าง?”หลินเฟิงจ้องมองจวงฉุนด้วยความสนใจอย่างยิ่ง ต้องการดูว่าคนๆ นี้จะหาเงินได้มากเท่าไหร่เพื่อเอาชีวิตรอดได้ในเมื่อเสียหายหนึ่งหมื่นล้านบาท หลินเฟิงต้องหาชดเชยมาจากที่อื่น"ดี...ดีครับ!"จวงฉุนรู้ดีว่าวันนี้เขาไม่มีสิทธิ์ต่อรองกับหลิ