จางกุ้ยหลานพูดอย่างไม่แยแส: “เขาจะเป็นอย่างไรเกี่ยวข้องอะไรกับพวกเรา?”“แม่…ทำไมแม่ถึงเป็นแบบนี้? หลี่ฮุ่ยหรานโมโหจนกระทืบเท้าแต่อีกฝ่ายคือแม่ของเธอ เธอจะทำอะไรได้ตอนนี้สิ่งที่เขาเสียใจมากที่สุดก็คือเมื่อครู่ควรจะคิดให้มากหน่อยตัวเองทำไมถึงได้เลอะเลือนแบบนี้ ถึงได้สงสัยหลินเฟิงในตอนนี้จางซินก็เข้ามาพูดเกลี้ยกล่อม: “พี่ อย่างไรพี่กับหลินเฟิงก็หย่าร้างกันแล้ว พี่ยังจะคิดแทนเขาทำไม?”“พี่ควรจะคิดหาวิธีเอาตำรับยาปรับประสานพลังมา ถึงเวลาตระกูลหลี่ของเราก็จะรุ่งโรจน์พุ่งแรงหลี่ฮุ่ยหรานมองเห็นสีหน้าท่าทางของญาติเหล่านี้ของตัวเอง จึงพูดด้วยความโมโหเดือดดาล: “พอแล้ว ตั้งแต่วันนี้ไปไม่ว่าใครก็ห้ามพูดถึงอีก”“ถ้าหากพวกคุณไปเอาตำรับยาจากหลินเฟิงอีก อย่าโทษที่ฉันโมโห“หลี่ฮุ่ยหรานพูดจบ จากนั้นก็ขึ้นไปชั้นบนด้วยความโมโห”ไอหยา…“จางกุ้ยหลานและคนอื่นหมดคำพูด“ฮุ่ยหรานจริง ๆ เลย ทำไมถึงได้เข้าข้างคนนอกตลอดเลยนะ?”ขณะเดียวกัน หลินเฟิงมาถึงสำนักไป๋เกาจางเต๋อหลินรออยู่ที่หน้าประตูนานแล้วด้านหลังยังมีจางเจียหนิงยืนอยู่ด้วย เมื่อเห็นหลินเฟิงมาถึงทั้งสองคนก็เดินเข้ามาทันที“สหายน้อยหล
“คุณหลิน ฉันไปเอาอุปกรณ์อาบน้ำมาให้คุณนะคะ” จางเจียหนิงพูดขึ้นหลินเฟิงพูด: “ไม่จำเป็นแล้ว อีกเดี๋ยวผมจะกลั่นยา”“ห๊ะ?”จางเจียหนิงตกตะลึงอย่างมาก: “ดึกขนาดนี้แล้ว คุณไม่พักผ่อนเหรอคะ?”“ครั้งนี้ยาที่จะกลั่นไม่ได้ซับซ้อนมาก อีกเดี๋ยวก็จัดการเรียบร้อยแล้ว”“งั้น…ฉันก็ยังอยากเตรียมให้คุณสักชุด”จางเจียหนิงพูดจบก็วิ่งออกไปนอกห้องจากนั้นก็นำอุปกรณ์อาบน้ำวางไว้ที่ห้องรับแขกจากนั้นก็เดินหาวมาที่หน้าประตูสำนักไป๋เกาสำนักไป๋เกาไม่ใช่โรงพยาบาล ปกติไม่ได้เปิดทำการยี่สิบสี่ชั่วโมงในตอนที่เธอจะปิดประตูจู่ ๆ ก็มีผู้หญิงสองคนบุกเข้ามาผู้หญิงคนหนึ่งที่สวมชุดเดรสยาวสีฟ้าใบหน้าซีดเซียวถูกผู้หญิงที่สวมชุดรัดรูปประคองอยู่“ทั้งสองท่าน พวกเราจะปิดร้านแล้วค่ะ”หญิงสาวชุดรัดรูปมองไปทางจางเจียหนิงแล้วรีบพูดขึ้น: “แม่หนูคนนี้ พวกเรากำลังถูกคนไล่ฆ่า ขอให้พวกเราหลบซ่อนตัวหน่อยนะคะ”จางเจียหนิงสีหน้างุนงง คิดไม่ถึงว่าตัวเองจะเจอกับเรื่องแบบนี้ไม่รอให้เธอเอ่ยปาก คนกลุ่มใหญ่ก็พุ่งออกมาจากหัวมุมถนนแต่ละคนมือถืออาวุธและมุ่งเข้ามาที่สำนักไป๋เกาโดยตรงจางเจียหนิงเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ที่ไหนก
ชายที่มีรอยสักชะงักงัน หรือว่าภายในศูนย์การแพทย์เล็ก ๆ แห่งนี้มีผู้มีฝีมือสูงส่ง?”ในตอนนี้เอง หลินเฟิงเดินออกมาจางเจียหนิงกลับหลบอยู่ที่ด้านหลังของเขาเดิมทีหลินเฟิงกำลังจะกลั่นยา แต่กลับได้ยินเสียงอื้อฉาวที่ด้านนอกคิดไม่ถึงว่าเพิ่งจะออกมาข้างนอกห้องก็เห็นคนสองคนกำลังไล่ตามจางเจียหนิงหลินเฟิงก็ไม่มีความเกรงใจใด ๆ เขาถีบสองคนนั้นกระเด็นออกไปทันทีจากนั้นก็กวาดมองไปรอบ ๆ และสังเกตเห็นพวกไป๋ชิงเฉี่ยนและพูดเสียงแข็ง: “ใครกันกล้ามาก่อความวุ่นวายที่นี่?”ชายที่มีรอยสักจ้องมองหลินเฟิง แต่กลับไม่เห็นเขาอยู่ในสายตา จากนั้นก็ตะโกนขึ้นมาด้วยเสียงเย็นชา: “จัดการมันซะ”เพิ่งพูดจบ ลูกน้องจำนวนนับไม่ถ้วนก็พุ่งเข้ามาทันที“คุณหลินระวังนะคะ” จางเจียหนิงเห็นอีกฝ่ายมีกำลังเยอะจึงพูดเตือนในทันทีแต่พวกกุ้งหอยปูปลาเหล่านี้ ในสายตาของหลินเฟิงไม่เพียงพอให้มองดูด้วยซ้ำวินาทีต่อมาหลินเฟิงเคลื่อนไหวราวกับสายฟ้าเคลื่อนตัวไปในกลุ่มลูกน้องปล่อยหมัดใส่ทีละคน ต่อยจนกลุ่มลูกน้องกระเด็นออกไปทันที“แม่งเอ๊ย…” ชายที่มีรอยสักตกตะลึงจนหน้าถอดสีเป็นผู้มีฝีมือสูงจริง ๆ ด้วยเห็นลูกน้องของตัวเองล้มไ
หลินเฟิงชี้ไปที่สำนักไป๋เกาแล้วพูดขึ้น: “สถานที่นี้คือศูนย์การแพทย์สำนักไป๋เกาที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองเจียงโจว ต้องรักษาเป็นอยู่แล้ว”ไป๋ชิงเฉี่ยนมองดูตู้ยาที่อยู่โดยรอบแล้วยิ่งมั่นใจว่าหลินเฟิงไม่ได้พูดโกหกจริง ๆเมื่อครู่ระหว่างที่หลบหนีเธอถูกปล่อยหมัดใส่ตอนนี้ชี่และเลือดเสียสมดุล ถึงขั้นที่หายใจยังยากลำบากในเมื่ออีกฝ่ายเป็นหมอ เธอจึงยื่นมือออกมาทันทีหลินเฟิงเพียงแค่สัมผัสชีพจรเบา ๆ ก็รู้ว่าปัญหาของเธออยู่ตรงไหนเห็นเพียงแค่นิ้วมือของหลินเฟิงรวดเร็วเหมือนสายฟ้ากดจุดตรงหน้าอกของไป๋ชิงเฉี่ยนติดต่อกันเธอรู้สึกเจ็บหน้าอกเป็นอย่างมากในทันที“นี่ นายทำอะไรน่ะ? กล้าแต๊ะอั๋งคุณหนูของฉันเหรอ?” ต่งหลิงอวี้เห็นหลินเฟิงยื่นมือออกมาสัมผัสหน้าอกของไป๋ชิงเฉี่ยนก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟทันทีจากนั้นก็ดึงไป๋ชิงเฉี่ยนกลับไปเธอถลึงตาใส่หลินเฟิงแล้วพูดต่อว่า: “นึกว่านายเป็นหมอมีจรรยาบรรณอะไร แต่คิดไม่ถึงว่าจะแอบอ้างการรักษาเพื่อแต๊ะอั๋งคุณหนูของฉัน?”หลินเฟิงขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วมองไปทางต่งหลิงอวี้: “เธอพูดจาไม่น่าฟังเลยจริง ๆ”“นาย…”ต่งหลิงอวี้กำลังจะเอ่ยปากด่าคนแต่กลับถูกไป๋ชิงอวี้
“คุณหนู คุณไม่เป็นไรใช่ไหม?” ต่งหลิงอวี้เห็นแบบนี้ก็ตื่นตระหนกและรีบเข้าไปประคองเอาไว้ในตอนนี้เองกำลังคนของตระกูลต่งก็ตามมาถึง“หลิงอวี้ คุณหนูเป็นอะไรไป?” คนที่นำหน้ามาเห็นคุณหนูหมดสติจึงรีบเข้าไปถามต่งหลิงอวี้รีบพูดอธิบาย: “ฉันกับคุณหนูถูกมือสังหารลอบฆ่า คุณหนูถูกพวกมันต่อยเข้า”“รีบไปโรงพยาบาล” บอดี้การ์ดรีบอุ้มไป๋ชิงเฉี่ยนขึ้นรถจากนั้นก็ขับไปยังโรงพยาบาลเมืองเจียงโจวผ่านการช่วยชีวิตตลอดทั้งคืน ในที่สุดไป๋ชิงเฉี่ยนก็พ้นขีดอันตรายท้องฟ้าเพิ่งสว่าง ผู้นำตระกูลไป๋ก็ตามมาที่โรงพยาบาลด้วยความร้อนรน“ตอนนี้อาการลูกสาวของฉันเป็นอย่างไรบ้าง?” ไป๋เจิ้นหัวถามบอดี้การ์ดบอดี้การ์ดก้มหน้าด้วยความเก้กังแล้วพูดขึ้น: “คุณไป๋ถูกมือสังหารลอบฆ่า ได้รับบาดเจ็บภายใน แต่ตอนนี้พ้นขีดอันตรายแล้วครับ”“พวกแกเลี้ยงเสียข้าวสุกจริง ๆ คนเยอะแยะขนาดนี้ยังทำให้ลูกสาวของฉันบาดเจ็บได้” ไป๋เจิ้นหัวด่าทอด้วยความโมโหจนระงับอารมณ์ไม่อยู่กลุ่มบอดี้การ์ดทำได้แค่ก้มหน้าไม่พูดไม่จาในตอนนี้ต่งหลิงอวี้พูดอธิบายขึ้น: “คุณอาไป๋ เรื่องนี้โทษหนูเองค่ะ ตอนนั้นคุณหนูอยากออกไปเดินเที่ยวเล่น หนูไม่ได้ห้ามปรามไว้ไ
“เอาเถอะชิงเฉี่ยน ลูกพักผ่อนให้เต็มที่อย่าขยับซี้ซั้ว”ไป๋ชิงเฉี่ยนพยักหน้าแล้วถามขึ้น: “พ่อ อาการของหนูไม่ได้รุนแรงมากใช่ไหมคะ?”ไป๋เจิ้นหัวพูดปลอบใจ: “ลูกวางใจได้ ผู้อำนวยการของโรงพยาบาลเจียงโจวได้ไปหาผู้มีฝีมือสูงมาแล้ว จะต้องรักษาอาการของลูกได้แน่นอน”“เหรอคะ?” ไป๋ชิงเฉี่ยนยิ้มบาง“แน่นอนอยู่แล้ว” ไป๋เจิ้นหัวพยักหน้าติดต่อกัน: “มีพ่ออยู่ ลูกไม่มีทางเป็นอะไรแน่นอน”ครั้งนี้ไป๋ชิงเฉี่ยนไม่ได้พูดอะไรอีกอันที่จริงเธอไม่ได้เป็นกังวลเรื่องอาการบาดเจ็บของตัวเอง ในเมื่อจุดประสงค์หลักในการมาเมืองเจียงโจวในครั้งนี้ก็คือการแต่งงานเกี่ยวดองกันแต่เธอไม่ได้ชอบคู่แต่งงานของเธอด้วยซ้ำเมื่อคืนออกจากโรงแรมกลางดึก เหตุผลหลักก็เป็นเพราะอยากจะหนีออกจากเมืองเจียงโจวหลุดพ้นจากชะตากรรมของการแต่งงานแต่น่าเสียดายที่สวรรค์ไม่ทำตามอย่างที่หวังเมื่อคืนเธอคิดอยู่ตลอด บางทีเธอตายไปแบบนี้ก็คงดีผ่านไปครู่หนึ่ง ประตูของห้องพักผู้ป่วยก็ถูกผลักออกชายวัยกลางคนคนหนึ่งกับวัยรุ่นที่อายุยี่สิบต้น ๆ เดินเข้ามาคนที่มาก็คือเหยนควาน ท่านผู้นำสำนักอวี้เจี้ยนของเมืองเจียงโจววัยรุ่นที่อยู่ด้านข้างคือเหยน
“หือ?” หลินเฟิงเงยหน้าขึ้นมอง ก็จำผู้หญิงคนนี้ได้ทันทีนี่ก็คือผู้หญิงสองคนนั้นที่ถูกไล่ฆ่าที่สำนักไป๋เกาเมื่อคืนนี้ไม่ใช่เหรอคิดไม่ถึงว่าโลกนี้จะมีเรื่องบังเอิญขนาดนี้ด้วย“หลิงอวี้ หนูรู้จักเขาเหรอ?” ไป๋เจิ้นหัวถามด้วยความงุนงง“ถูกต้องเขาก็คือคนเมื่อคืน…”ต่งหลิงอวี้กำลังจะพูดว่า หลินเฟิงคือคนที่เมื่อคืนนี้เอาเปรียบคุณหนูไป๋แต่ว่าพ่อลูกตระกูลเหยนยังอยู่ที่นี่ด้วย ถ้าได้ยินคำพูดนี้จะต้องโกรธเป็นอย่างแน่”คำพูดที่อยู่ข้างปากถูกเขาฝืนกลืนกลับเข้าไป“เมื่อคืนทำไม?” ไป๋เจิ้นหัวถามขึ้นด้วยความงุนงงโชคดีที่ไป๋ชิงหัวที่อยู่บนเตียงคนไข้ตอบสนองได้เร็วพอ จึงรีบพูดขึ้น: “เขาก็คือคนที่ช่วยหนูไว้เมื่อคืนนี้”“พวกเราถูกคนของสำนักเทียนอิงตามฆ่า เป็นเขาที่ช่วยพวกเราเอาไว้”“อ้าว? มีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ?”ไป๋เจิ้นหัวประหลาดใจเล็กน้อย ไอ้หมอนี่ดูไปแล้วอายุแค่ยี่สิบต้น ๆ แต่ยังมีความสามารถแบบนี้ด้วย?สายตาที่มองไปทางหลินเฟิงไม่มีความเหยียดหยามเมื่อครู่นี้แล้วในตอนนี้หวังไห่ยิ้มแล้วพูดขึ้น: “ผมพูดว่าอย่างไรล่ะ สหายน้อยหลินความสามารถไม่ธรรมดา ไม่เพียงทักษะการแพทย์เลิศล้ำ อีกทั้งศิลปะการ
ที่สำคัญคือ ถ้าหลินเฟิงคนนี้เป็นแพทย์แผนจีนสูงวัยก็ช่างเถอะ แต่เขาอายุน้อยเกินไปแล้ว“หรือว่าไม่มีวิธีอื่นแล้วเหรอครับ?” ไป๋เจิ้นหัวเกาศีรษะแล้วถามขึ้นหลินเฟิงส่ายหน้า: “วิธีรักษาของผมมีแค่วิธีนี้วิธีเดียว ถ้าหากพวกคุณไม่อยากใช้จะไม่ใช้ก็ได้”“หึ”ในตอนนี้เอง เหยนจวิ้นส่งเสียงไม่พอใจแล้วพูดขึ้น: “ฉันดูแล้วนายอยากจะเอาเปรียบคู่หมั้นของฉันซะมากกว่า”“ยังจะถอดเสื้อผ้ารักษาอะไรอีก? ทำไมฉันไม่เคยได้ยินวิธีการรักษาที่เหลวไหลแบบนี้เลย”หลินเฟิงเหลือบตามองเขา หน้าตาเหมือนกับตือโป๊ยก่าย ดวงตาเหมือนหนูดูอย่างไรก็อัปลักษณ์อย่างนั้นคิดไม่ถึงว่าไป๋ชิงเฉี่ยนที่สวยและสูงโปร่งจะมีคู่หมั้นแบบนี้แต่เขาไม่อยากยุ่งเรื่องครอบครัวของคนอื่นจากนั้นก็ยักไหล่แล้วแสดงท่าทาง: “ในเมื่อพวกคุณไม่ยอมเชื่ออย่างงั้นก็ช่างเถอะ”ในตอนนี้ไป๋ชิงเฉี่ยนกลับเอ่ยปากขึ้น: “คุณหลินมารักษาอาการให้ฉัน จากที่ฉันดู ในสายตาของหมอไม่มีผู้หญิงผู้ชาย ไม่สู้ให้คุณหลินรักษาเถอะ”เธอไม่ได้คิดว่าหลินเฟิงจะมีความคิดชั่วร้ายอะไรเหยนจวิ้นที่อยู่ด้านข้างพูดเกลี้ยกล่อม: “ทำแบบนี้ได้อย่างไร? คุณเป็นคู่หมั้นของผม พวกเรายังไม่ได้แต
“เพียงแค่วางยาคุณหลงซิ่ว เพื่อดูว่าคุณมีพละกำลังพอที่จะเป็นลูกผู้ชายหรือเปล่า”หลินเฟิงมองไปที่หลงซิ่วที่สวมสูทสีชมพู แต่งเนื้อแต่งตัวเกินความพอดี รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาจริงใจอย่างยิ่ง"แก......"“เอาล่ะ เอาล่ะ ผมรู้ว่าคุณทรมาน วางใจได้ ผมไม่มีทางไม่สนใจคุณ”ขณะพูดหลินเฟิงดีดนิ้วชายสองคนในชุดสูทก้าวออกมาจากด้านหลังของหลินเฟิง หามหลงซิ่วขึ้นและพาเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สองคนเหล่านี้คือคนของเผิงกวงฉี่ส่วนเผิงกวงฉี่ก่อนหน้านี้ เขาได้นำลูกน้องสี่หรือห้าคนของเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สอง ที่มีโซฟาสีชมพูขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ถ่ายภาพตั้งนานแล้วภายในห้องมีชายเปลือยกาย 2 คนล้มลงในแอ่งเลือดเมื่อถานหงเดินเข้ามาในห้องส่วนตัวด้วยรอยยิ้มอาฆาตบนใบหน้า เห็นชายที่นั่งอยู่บนโซฟารอยยิ้มบนใบหน้าของเธอแข็งทื่อ และกลายเป็นร่องรอยของความกลัวและความตื่นตระหนก“ถานหง ผ่านไปเพียงไม่กี่วัน เธอก็ได้พบกับที่พึ่งใหม่แล้วเหรอ?”เผิงกวงฉี่นั่งสูบบุหรี่ซิการ์อยู่บนโซฟา และมองไปที่ถานหงอย่างไม่ใส่ใจ"ฉัน......"ถานหงรู้สึกสับสนในเวลานี้ เผิงกวงฉี่มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?หรือว่า...หัวใจของถานหงรู้ส
ชีพจรมังกร...จะเป็นจื่อเสวียนรึเปล่านะ? -อิ่นนั่วเจียตกใจอย่างมาก และไม่ทราบว่าจื่อเสวียนกลายมาเป็นชีพจรมังกรที่หลงซิ่วพูดถึงได้อย่างไรดูเหมือนว่าตระกูลหลงจะต้องการสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรอย่างมากและครั้งนี้หลงซิ่วช่วยเหลือถานหง ในที่สุดก็รู้เป้าหมายชัดเจนแล้วพวกเขามาที่นี่เพื่อสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรในมือของหลินเฟิง!หลังจากคิดเรื่องนี้ออก ใบหน้าของอิ่นนั่วเจียก็ไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ออกมาเลย นอกจากความคิดอันลึกซึ้งในทางกลับกัน จวงฉุนกลับถามหลงซิ่วด้วยสีหน้าสับสน:“คุณหลงซิ่ว ชีพจรมังกรคืออะไร?”“ชีพจรมังกรนั้นคือ…”หลงซิ่วไม่ต้องการตอบคำถามของจวงฉุน แต่เห็นว่าอินนั่วเจียยังคงจมอยู่กับความคิดเขาอธิบายอย่างเรียบง่ายว่า:"มีการกล่าวกันว่าชีพจรมังกรเป็นที่มาของโชคลาภของประเทศมังกร"“หากรวบรวมชีพจรมังกรครบทั้งแปดเส้นได้ ก็จะกลายเป็นราชาแห่งมังกรตัวจริงได้ ตามประวัติศาสตร์แล้ว ชีพจรมังกรเหล่านี้เป็นของตระกูลหลงของเรามาโดยตลอด”“เพราะเหตุนี้สถานที่นี้จึงเรียกได้ว่าเป็นประเทศมังกร”“แล้วนามสกุลของเราคือหลง (หลง แปลว่า มังกร) เข้าใจแล้วยัง?”“เราแค่อยากนำสิ่งที่เดิมเป็น
ดังนั้นการร่วมมือกับถานหง เพื่อจัดการกับอิ่นนั่วเจียและหลินเฟิงจึงเป็นเพียงงานเสริมเท่านั้นจุดประสงค์ที่แท้จริงของหลงซิ่วคือเพื่อสำรวจหรือแม้กระทั่งเอาชีพจรมังกรที่อยู่รอบตัวหลินเฟิงออกไป!มีเพียงแค่เอาชีพจรมังกรมาอยู่ในมือ หลงหยวนก็สามารถใช้พละกำลังของเขา จัดการกับหลินเฟิงอย่างกล้าหาญได้และเรื่องของชีพจรมังกรมีเพียงหลงซิ่วและสวีโจวซึ่งเป็นนักบู๊ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดานักบู๊ของตระกูลหลงที่เขาส่งออกไปเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ส่วนที่เหลือก็ไม่ชัดเจนนักแต่ในเวลานี้หลงซิ่วไม่รู้ว่าสวีโจวและคนอื่น ๆ ได้กลายเป็นวิญญาณที่ตายแล้วในมือของหลินเฟิง ด้วยความพยายามผลักดันของจวงฉุน ไม่มีใครหนีไปได้สักคนเหลือเพียงจวงฉุนเท่านั้น และเพื่อความอยู่รอด เขาจึงได้กลายมาเป็นคนทรยศหากหลงซิ่วรู้เรื่องนี้เกรงว่าเขาจะตบจวงฉุนคนไร้ประโยชน์คนนี้จนตายไปซะเลยแทนที่จะชื่นชมเขาเพราะเขาพาอิ่นนั่วเจียมาอยู่เคียงข้างเขา"เอาล่ะ"หลงซิ่วยืนขึ้นและโบกมือให้อิ่นนั่วเจียอย่างด้วยสีหน้านิ่งเฉย“ผมได้เตรียมคนและอุปกรณ์ไว้แล้ว อยู่ในห้องส่วนตัวใต้ดินชั้นสอง ถานหง คุณไปเตรียมตัวก่อนเถอะ”“รอผมถามคำถามอิ่
“ฉันคือลูกน้องของเธอ? คุณหลงซิ่ว นี่มันเรื่องอะไรกัน? ฉันจำได้ว่าไม่มีข้อกำหนดนั้นในสัญญาของเราหรอกมั้ง?”อิ่นนั่วเจียขมวดคิ้วและมองไปที่หลงซิ่วหลงซิ่วสับสนเป็นอย่างมาก แต่ไม่ได้พูดอะไรยังคงเป็นถานหงที่ตอบคำถามของอิ่นนั่วเจียด้วยเสียงหัวเราะ“อิ่นนั่วเจีย เธอช่างไร้เดียงสาเกินไป เธอคิดจริงๆ เหรอว่าตระกูลหลงจะเต็มใจยอมรับเธอ เพราะพวกเขาเห็นคุณค่าในชื่อเสียงและความสามารถของเธอจริงๆ”ถานหงส่ายหน้าอย่างดูถูกและกล่าวว่า:“ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน ตระกูลหลงจะยอมรับเธอได้ยังไง?”“อ่อใช่ ไม่ว่าฉันหรือตระกูลหลง ก็ไม่ได้โกหกเธอ เพราะฉันคือผู้รับผิดชอบบริษัทบันเทิงของตระกูลหลงที่เธอเข้าร่วมมาโดยตลอด”“ดังนั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อิ่นนั่วเจีย เธอต้องเชื่อฟังฉัน เข้าใจไหม?”“ฉันให้เธอถ่ายหนังอะไร เธอก็ต้องไปถ่าย”"เดี๋ยวนะ"อิ่นนั่วเจียยื่นมือออกไปและขมวดคิ้ว:“ถานหง เธอพูดรุนแรงเกินไปแล้ว ฉันจำได้ว่าฉันไม่เคยทำให้เธอขุ่นเคืองมาก่อน ทำไมเธอถึงตั้งใจจะจัดการกับฉันขนาดนั้น?”“ถึงขั้นยอมทุ่มเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเพื่อดึงตัวฉันมาจากหลี่ซื่อกรุ๊ปด้วย”“จุ๊จุ๊จุ๊”เมื่อได้ยินคำพูดของอิ่นนั
“บ้าเอ๊ย ฉันไม่สามารถทนได้จริงๆ ติดต่อน้องหลินให้ฉัน ฉันจะเข้าแทรกแซงเรื่องนี้ด้วย!”...วันต่อมาในบาร์ใต้ดินแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของเมืองจิงจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียที่สวมหมวกและหน้ากากไว้ และดูเรียบง่ายมากรีบเดินทางมาที่นี่ ที่นี่คือ “สถานที่นัดพบ” ที่หลงซิ่วพูดถึงควบคู่ด้วยเสียงดนตรีอันไพเราะและฝูงชนที่เต้นรำจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียเดินผ่านทางเดินและมองเห็นหลงซิ่วกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะ พร้อมคาบบุหรี่อยู่ในปากเมื่อเห็นว่าอิ่นนั่วเจียมาจริง ๆ ดวงตาของหลงซิ่วก็เป็นประกายบุหรี่ในปากของเขาหล่นลงพื้นโดยไม่รู้ตัวแม้ว่าอิ่นนั่วเจียจะสวมเพียงชุดเดรสยีนส์ซึ่งทำให้เธอดูเป็นเด็กสาวมากในวันนี้ แต่หุ่นที่น่าสะพรึงกลัวของเธอก็ยังทำให้ หลงซิ่วที่กำลังนั่งอยู่ตรงโต๊อย่างไม่ใส่ใจก็ต้องกลืนน้ำลายลงคอ"เชี่ย ไม่เสียแรงที่เป็นซูเปอร์สตาร์ประเทศมังกรจริงๆ นะ!"หลงซิ่วอดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบเธอกับถานหง หลังจากคิดดู นี่มันไม่ใช่คนระดับเดียวกันด้วยซ้ำ!แม้ว่าถานหงจะเป็นราชินีเพลงประเทศมังกร หน้าตาก็คล้ายๆกันแต่เมื่อเทียบกับอิ่นนั่วเจียสาวสวยที่อยู่แต่ในจอ ถานหงยังด้อยกว่าเยอะมากเพียงแค่ออร่าอันส
สำนักงานใหญ่กลุ่มเผิงกวง เมืองจิงขณะนั้นเผิงกวงฉี่กำลังคาบซิการ์ไว้ในปากอย่างเรื่อยเปื่ยอ ฟังการโต้เถียงขัดแย้งระหว่างตัวแทนจากทั่วทุกแห่งในการประชุมแม้ว่าเผิงกวงฉี่จะดูเป็นปกติ แต่ในใจเขากลับโกรธมากพวกขยะพวกนี้ได้แต่โทษกันไปมา และต่างคนต่างหาผลประโยชน์แม้แต่เผิงกวงฉี่ก็ยังคิดว่า ควรจะกำจัดคนไร้ประโยชน์เหล่านี้ และส่งเสริมให้คนอื่นขึ้นมาเป็นผู้นำภูมิภาคดีไหมขณะที่กำลังคิดแบบนี้ โทรศัพท์มือถือของเผิงกวงฉี่ก็ดังขึ้นกะทันหันเสียงโทรศัพท์ทำให้ห้องประชุมเงียบลงทันที“คุณหลินโทรมาครับ คุณเผิงกวงฉี่”ผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆ ยื่นโทรศัพท์ให้ด้วยความเคารพเมื่อคิดว่าเป็นหลินเฟิง เผิงกวงฉี่ก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมากไม่พูดไม่ได้ว่ายาหยกโมราของหลินเฟิงมีประสิทธิภาพมากจริงๆ ควบคู่กับน้ำพุร้อนที่เจียงโจว ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองดูหนุ่มลงเรื่อย ๆ และร่างกายก็เต็มไปด้วยกำลังวังชาแม้แต่ผู้หญิงคนใหม่ที่หามาช่วงนี้ ก็ไม่สามารถทำให้เขาพึงพอใจได้ช่วงนี้เขากำลังคิดว่าควรจะหาเพิ่มอีกสักหน่อย เพื่อสร้างทายาทให้กับตระกูลเผิงของเขาสองเดือนที่แล้ว นี่เป็นสิ่งที่เขาไม่กล้าคิดมาก่อนด้วยซ้ำ“ฮัลโหล
“ฉันจะโอนเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเข้าบัญชีของคุณทันที ทางที่ดีคุณให้อิ่นนั่วเจียออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ปโดยเร็วที่สุด ให้เธอมาพบฉันที่เมืองจิง”"ฮ่าฮ่าฮ่า......"ถานหงที่อยู่ปลายสายหัวเราะอย่างโอเวอร์“ฉันต้องการให้อิ่นนั่วเจียคุกเข่าอยู่แทบเท้าฉัน! ยังมีหลินเฟิง ฉันจะทำให้หลินเฟิงและหลี่ซื่อกรุ๊ปบ้าบออะไรนั่นได้ชำระในสิ่งที่ควรจ่าย!”หลังจากพูดจบโทรศัพท์ก็วางสายไปและภายในเวลาไม่กี่นาที ข้อความเงินสดเข้าบัญชีจำนวนสองหมื่นห้าพันล้านบาทก็ปรากฏบนโทรศัพท์มือถือของจวงฉุนทันทีเมื่อมองดูข้อความบนโทรศัพท์ ลมหายใจของจวงฉุนก็เร็วขึ้นอย่างมาก เขาไม่เคยเห็นเงินมากขนาดนี้ในชีวิตของเขามาก่อนแต่เมื่อเขาเงยหน้ามองไปทางหลินเฟิง ก็รู้สึกเหี่ยวเฉาทันทีเขารู้ว่าเงินจำนวนนี้จะไม่มีวันมาถึงเขาด้วยซ้ำ อีกทั้งเรื่องที่อิ่นนั่วเจียเข้าร่วมตระกูลหลงเป็นเรื่องโกหกทั้งหมดเขาแค่อยากหลอกเอาเงินก้อนนี้มาจากหลงซิ่ว เพื่อใช้รักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้ก็เท่านั้นเอง“ตอนนี้โอนเงินก้อนนี้เข้าบัญชีของหลี่ซื่อกรุ๊ปเถอะ”หลินเฟิงไม่พูดมาก บังคับจวงฉุนให้ดำเนินการบนโทรศัพท์มือถือของเขาโดยตรงหลังจากนั้นไม่นาน เงิน
“ดูเหมือนว่าคุณจะได้เจอกับอิ่นนั่วเจียจริงๆ นะ”หลงซิ่วที่อยู่ปลายสายพูดอย่างใจเย็นว่า:“ผมลืมบอกคุณไปว่าตอนนี้อิ่นนั่วเจียเป็นสมาชิกของหลี่ซื่อกรุ๊ปแล้ว เธอเต็มใจที่จะออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ป และร่วมมือกับตระกูลหลงของเราจริงๆ เหรอ?”เมื่อได้ยินสิ่งที่หลงซิ่วพูดจวงฉุนสั่นสะเทือนไปทั้งตัวเกือบหัวใจวายเพราะความโมโหในที่สุดเขาก็ได้ลิ้มรสว่าการถูกหลอกเป็นอย่างไรหากหลงซิ่วเล่าเบื้องหลังของอิ่นนั่วเจียให้เขาฟังก่อนหน้านี้เขาจะพาผู้คนมาที่นี่เพื่อมาหาอิ่นนั่วเจีย และตกหลุมพรางได้ยังไง?ตอนนี้มันสายเกินไปที่จะพูดอะไรอีกแล้วร่องรอยแห่งความโกรธเริ่มผุดขึ้นในใจของจวงฉุนหากพูดว่าเมื่อครู่เพียงแค่โกหกหลงซิ่ว เขาก็มีความกดดันอยู่ไม่น้อยเมื่อเขาได้ยินว่าหลงซิ่วปกปิดเรื่องของอิ่นนั่วเจียกับเขา เขาก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันทีหากคุณไม่ได้บอกผมให้ชัดเจนก่อนที่คุณจะจากไปผมจำเป็นต้องตกไปอยู่ในมือของหลินเฟิงงั้นเหรอ?จวงฉุนตัดสินใจ คำพูดก็ราบรื่นมากขึ้น“ใช่ครับ คุณอิ่นนั่วเจียบอกผมเอง แต่ว่า...”"แต่ว่าอะไร?"หลงซิ่วที่ปลายสายโทรศัพท์ขมวดคิ้วเล็กน้อย“แต่คุณอิ่นนั่วเจียบอกว่าเธอได้เซ็น
จวงฉุนคิดว่าคำพูดนี้สมบูรณ์แบบไร้ที่ติขณะที่จวงฉุนกำลังจมอยู่กับจินตนาการของเขา หลินเฟิงก็ยื่นมือออกไปและโบกไปมาตรงหน้าจวงฉุน“การปล้นทำลายของพวกนายในครั้งนี้ ได้ทำลายสินค้าของหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันมูลค่าสองหมื่นห้าพันล้านบาทเต็มๆ เพียงแค่นายสามารถชดเชยเงินสินค้าเหล่านี้ให้เราได้ ฉันก็จะไม่ถือสาเอาความ”"สองหมื่นห้าพันล้านบาท?"เมื่อได้ยินตัวเลขนี้ อิ่นนั่วเจียที่อยู่ข้างๆ ก็เปิดริมฝีปากสีแดงของเธอออกครู่หนึ่ง เธอก็ส่ายหัวอย่างจนปัญญาหลินเฟิงกำลังพยายามกรรโชกเงินอยู่เหรอ!"เป็นไปไม่ได้!"เห็นได้ชัดว่าจวงฉุนก็ตกใจกับจำนวนเงินมหาศาลนี้อย่าว่าแต่ยี่สิบห้าล้านบาทเลย แม้แต่ห้าพันล้านบาทเขาก็ยังไม่มี จะอุดรูโบ๋นี้ได้อย่างไรหลินเฟิงรีดไถมากเกินไปจริงๆ“แน่นอนว่าหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันไม่สนใจเงินจำนวนน้อยๆ นี้ แต่ฉันแค่อยากเห็นท่าทางของคุณ”“เป็นไงบ้าง?”หลินเฟิงจ้องมองจวงฉุนด้วยความสนใจอย่างยิ่ง ต้องการดูว่าคนๆ นี้จะหาเงินได้มากเท่าไหร่เพื่อเอาชีวิตรอดได้ในเมื่อเสียหายหนึ่งหมื่นล้านบาท หลินเฟิงต้องหาชดเชยมาจากที่อื่น"ดี...ดีครับ!"จวงฉุนรู้ดีว่าวันนี้เขาไม่มีสิทธิ์ต่อรองกับหลิ