“......”เมื่อสัมผัสได้ถึงสายตาที่ร้อนใจของโอวหยางชิ่ง หลินเฟิงเงียบขรึมอยู่ครู่หนึ่งสุดท้ายเขาก็ส่ายหน้า“เกรงว่าจะสายไปแล้ว”“ผมดูแล้วลูกชายเจ้าสำนักของพวกคุณดูไม่เหมือนคนที่มีเหตุมีผล ต่อให้คุณกลับไป เกรงว่าก็ไม่สามารถเปลี่ยนความคิดของสำนักเสินฉือได้”หลินเฟิงหยุดชะงัก และเหลือบมองโอวหยางชิ่งที่อ่อนแอไม่แข็งแรง: “ยิ่งกว่านั้นตอนนี้พ่อของคุณเสียชีวิตไปแล้ว คุณไม่มีประโยชน์ใด ๆ ต่อสำนักเสินฉืออีกแล้ว”“เทียบกับการฟังคุณ ที่จะไปแก้แค้นตระกูลเซี่ยง”“ไม่สู้ถือโอกาสกำจัดผม แบบนั้นมีผลประโยชน์มากที่สุดแล้ว”การวิเคราะห์ของหลินเฟิงทำให้สีหน้าของโอวหยางชิ่งเผยความซีดเซียวของความสิ้นหวังออกมาเพราะเธอรู้ว่า หลินเฟิงพูดถูกทั้งหมดก่อนหน้านี้หลังจากที่ตันเถียนของโอวหยางชิ่งถูกทำลาย สองพ่อลูกก็รู้แล้วว่าสำนักเสินฉือไม่มีที่สำหรับพวกเขาสองคนพ่อลูกอีกแล้วเขาเขากลับสำนักเสินฉือ ก็เพียงเพราะอยากจะรวบรวมพรรคพวกเก่า พึ่งพาอำนาจและเอาเงินในส่วนของตัวเองกลับมาจากนั้นก็หนีไปให้ไกลและตอนนี้ โอวหยางป๋อตายไปแล้ว กองกำลังภายในสำนักที่เป็นฝ่ายของเขาก็พังยับเยินเธอกลับไปตอนนี้ อาจจะไม่มีประ
“คุณไม่ต้องสนฉัน ถ้าหากพวกเขาจะฆ่า งั้นก็ให้พวกเขาฆ่าฉันซะเลย”เมื่อเห็นโอวหยางชิ่งดื้อรั้นขนาดนี้ หลินเฟิงก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย“ในเมื่อเป็นแบบนี้ก็ขึ้นรถเถอะ”หลินเฟิงเห็นโอวหยางชิ่งลากขาของตัวเอง เปิดประตูรถด้วยท่าทางโซเซ สุดท้ายก็คลานขึ้นรถด้วยท่าทางน่าไม่น่าดูนักเห็นได้ชัดว่าถึงแม้ฤทธิ์ยาอมตะเลือดราชันย์ของหลินเฟิงล้ำเลิศ แต่ระยะเวลาเพียงแค่หนึ่งคืน ยังไม่สามารถฟื้นฟูบาดแผลของเธอได้ อย่างมากก็แค่บรรเทาอาการเท่านั้นเกรงว่าเมื่อถูกเธอขยับเขยื้อนแบบนี้ บาดแผลที่เดิมทียังไม่สมานก็ฉีกออกอีกแล้วโอวหยางชิ่งนั่งอยู่บนที่นั่งข้างคนขับทั้งแบบนี้ต่อให้เลือดไหลลงจากขาของเธอและหยดลงบนที่นั่งในรถ เธอเพียงแค่จ้องมองไปข้างหน้า และไม่พูดอะไร“ติ๊งกริ่งกริ่ง”โทรศัพท์มือถือของหลินเฟิงเสียงดังขึ้นเมื่อรับสายนั่นก็คือสายของจางเจียหนิง“หลินเฟิง คุณ...คุณเห็นเด็กสาวคนนั้นเมื่อคืนนี้ไหม? เมื่อคืนฉันนอนหลับไป ผลปรากฏว่าเมื่อตื่นมาเธอก็หายไปแล้ว!”“บาดแผลบนตัวของเธอรุนแรงมาก กระดูกก็ยังไม่เข้าที่ เธอก็หนีออกไปแบบนี้ ฉันกลัวว่า...”ฟลินเฟิงฟังคำพูดที่เป็นกังวลของจางเจียหนิงไปด้วย แ
“เข็มเก้าวิญญาณตามล่าพลังหยาง!”หลินเฟิงใช้ชี่แท้ฆ่าเชื้อเข็มเงินในมือชี้แท้ที่แตกต่างกันทั้งเก้าถูกปล่อยออกจากปลายนิ้วของหลินเฟิงและกลายเป็นเส้นไหมโปรงใส พันรอบเข็มเอาไว้จากนั้นหลินเฟิงเพ่งเล็งไปที่จุดฝังเข็มบนตัวโอวหยางชิ่ง ใช้สมาธิจดจ่อไปที่ด้านนอกผิวหนัง เข็มเงินเล่นหนึ่งแทงไปที่ท้องน้อยของโอวหยางชิ่งช้า ๆ“อ๊ะ!”โอวหยางชิ่งถอนหายใจเบา ๆ และส่งเสียงครางที่ทำให้คนเกิดจินตนาการออกมา“อดทนไว้”หลินเฟิงมีเหงื่อหยดหนึ่งไหลออกมาจากตรงหน้าผากอย่างหาได้ยากเข็มเก้าวิญญาณตามล่าพลังหยางหลินเฟิงเคยอ่านจากในตำราต้องห้ามภายในสำนักเสวียนเทียน ไม่เคยใช้จริงสักครั้งวิชาเข็มชุดหนึ่งถูกฝังลงไปต่อให้บาดแผลร้ายแรงแค่ไหนก็สามารถฟื้นฟูกลับมาได้อย่างไว บาดแผลจะสมานอย่างรวดเร็ว เป็นความเหลือเชื่ออย่างมากแต่เข็มเก้าวิญญาณตามล่าพลังหยางไม่ใช่วิธีการฝังเข็มที่กำจัดโรคภัยอย่างก่อนหน้านี้กลับกัน เข็มเก้าวิญญาณตามล่าพลังหยางนี้กลับเป็นวิชาฝังเข็มที่อยู่ขั้นขีดสุด และจะสูญเสียศักยภาพของร่างกายถึงแม้จะสามารถสมานบาดแผลได้อย่างรวดเร็วแต่ก็เทียบเท่ากับการสูญเสียศักยภาพและกำลังพื้นฐานของร่างกายม
หลินเฟิงไม่ได้หันหน้ากลับ และเดินออกจากห้องไปทั้งแบบนี้ใครจะไปรู้ว่าผลักประตูออกไป ที่หน้าประตูกลับมีคนกลุ่มหนึ่งยืนอยู่คนเหล่านี้มีผู้ชายมีผู้หญิง ทุกคนเผยสีหน้าที่รู้กันออกมา“สหาย เมื่อครู่นายเจ๋งมากจริง ๆ!”“จริงด้วย สหายใช้ยายี่ห้ออะไร แนะนำพวกเราหน่อยได้ไหม?”หลินเฟิงชะงักงันอยู่กับที่ผ่านไปครู่หนึ่งถึงได้ตั้งตัวกลับมาได้ ผู้ชายสองคนที่ขยับเข้ามาใกล้หมายความว่าอย่างไรโรงแรมนี้ไม่ใหญ่ ฉนวนกันเสียงไม่ดีดูท่าเมื่อครู่เสียงของโอวหยางชิ่งดังไปทั่วทั้งโรงแรม นี่ถึงได้ทำให้คนเข้าใจผิด“สุดหล่อ รู้จักกันหน่อยไหม?”ผู้หญิงสองคนที่ห่อผ้าขนหนู โปรยเสน่ห์แพรวพราวขวางทางหลินเฟิงเอาไว้ และทอดสายตาไปทางหลินเฟิง“ขอโทษด้วย ผมไม่สน”หลินเฟิงเดินอ้อมทั้งสองคน และหันหน้าเดินออกไป“เอ๊ะ สหาย ตกลงว่าใช้ยาอะไรกัน บอกกับพวกเราหน่อยสิ...”ผู้ชายสองคนที่อยู่ด้านหลังรีบตามมาโอวหยางชิ่งที่อยู่ในห้องมองดูรอยเลือดที่อยู่บนผ้าปูที่นอน เธอก็ได้ยินความเข้าใจผิดที่มีต่อหลินเฟิงแล้วเพียงแต่เธอไม่เพียงไม่รู้สึกโมโห กลับยังเผยความอับอายออกมาเล็กน้อยรอยเลือดที่อยู่บนเตียง ถึงขั้นที่ทำให้เธอใ
หลีกเลี่ยงผู้คุ้มกัน คลำทางไปถึงหลังเขา เรื่องนี้สำหรับโอวหยางชิ่งนั้นง่ายดายอย่างมากทั้งสองคนแยกทางกันปฏิบัติการหลินเฟิงกลับมาดึงดูดความสนใจของคนชั้นสูงของสำนักเสินฉือเขาก้าวเข้าสู่ประตูภูเขาหลินเฟิงก็เห็นป้ายที่มีพลังอำนาจตรงขั้นบันได ตัวอักษร “สำนักเสินฉือ” ที่เขียนอยู่ด้านบนนั้นมีชีวิตชีวาและกระฉับกระเฉงมีพลังสำนักอายุร้อยปี ไม่ธรรมดาจริง ๆลูกศิษย์สำนักเสินฉือที่เฝ้าประตูสำนัก หลังจากเห็นหลินเฟิงปรากฏตัวขึ้น ก็ทำหน้าเคร่งขรึมแล้วพูดขึ้น: “ใครกัน?”“หลินเฟิงเมืองเจียงโจว”หลินเฟิงพูดออกมา ทำให้สีหน้าของลูกศิษย์กลุ่มหนึ่งเปลี่ยนไปอย่างมากทันทีลูกศิษย์ที่เฝ้าประตูรีบล้อมรอบหลินเฟิงและพร้อมรบลูกศิษย์คนหนึ่งที่เป็นส่วนเกินออกมากลับพุ่งเข้าไปรายงานภายในสำนักอย่างรวดเร็วผ่านไปครู่หนึ่งโอวหยางหมิงพาผู้อาวุโสของสำนักเสินฉือกลุ่มหนึ่งตามมาพวกเขายืนอยู่ตรงที่ขั้นบันได จากนั้นมองเหยียดหลินเฟิง สีหน้าเต็มไปด้วยความเหยียดหยามและหยิ่งยโส“ไม่เลวไม่เลว หลินเฟิง คุณนี่มันเจ๋งจริง ๆ คิดไม่ถึงว่าจะมาตายถึงที่”โอวหยางหมิงสวมชุดสูทสีขาว หลังจากเห็นหลินเฟิงเขาก็ปรบมือและหัวเรา
หลินเฟิงคืนคำที่โอวหยางพูดกลับไปให้โอวหยางหมิง“ตอนนี้ปล่อยคนที่คุณจับมาไปซะ ไม่อย่างนั้น...ตาย!”เมื่อเผชิญหน้ากับการข่มขู่ของหลินเฟิง สีหน้าของผู้อาวุโสทั้งสองท่านของสำนักเสินฉือเปลี่ยนไปอย่างมากแต่โอวหยางหมิงกลับไม่ได้ร้อนรนแม้แต่นิดเหมือนกับคาดเดาไว้ได้แล้วว่าหลินเฟิงจะลงมือ และก็รู้ตั้งนานแล้วว่าหลินเฟิงจะข่มขู่แบบนี้ถึงขั้นที่เขาไม่ได้ดิ้นรนและต่อต้านด้วยซ้ำ ปล่อยให้หลินเฟิงจับเอาไว้แบบนี้อย่างว่าง่าย“อย่าขยับ!”โอวหยางหมิงเห็นผู้อาวุโสทั้งสองคนจะออกมาช่วยเขาไว้ จึงตะโกนห้ามการกระทำของพวกเขาไว้โดยตรงและเคลื่อนสายตาออกไป จากนั้นมองหลินเฟิงด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม: “มาเถอะ ลงมือเถอะ ฆ่าฉันเลย”“อะไร?”เห็นโอวหยางหมิงไม่กลัวถึงขนาดนี้ หลินเฟิงก็เงียบสงัดเล็กน้อย“อย่าประหลาดใจขนาดนี้”โอวหยางหมิงหลุดขำออกมา: “หลินเฟิง ถ้าหากคุณมีความกล้านี้จริง ๆ ก็ฆ่าผมซะตรงนี้เลย แต่ผลที่ตามมาคุณต้องคิดให้ดีนะ”“ฆ่าผม งั้นคนรักพวกนั้นที่ถูกผมจับตัวเอาไว้ ก็หนีออกไปไม่ได้สักคน ผมตาย พวกเธอก็ไม่มีทางรอดไปได้”“มาเถอะ ลงมือเถอะ”โอวหยางหมิงพูดด้วยสีหน้ามั่นคงมั่นใจ หลินเฟิงอยากทำแต่ก็ไม
ท่าทางของโอวหยางหมิงในตอนนี้กำเริบเสิบสานอย่างมากพูดได้ว่าเหมือนตั้งใจยั่วโมโหหลินเฟิง“วันนี้บังเอิญมีแขกผู้มีเกียรติท่านหนึ่ง มาจากเมืองจิง จะพูดอย่างไรดีล่ะ สำนักเสินฉือของผมไม่สามารถล่วงเกินได้”โอวหยางหมิงส่ายหน้าด้วยความเสแสร้งแล้วพูดว่า: “แต่แขกผู้มีเกียรตินั้นหน้าตาสวยมาก อีกทั้งอำนาจแข็งแกร่งอย่างมาก หากผมขืนใจ อาจจะทำให้เธอฆ่าผมได้โดยตรง”“ดังนั้นผมต้องการยอดฝีมือที่ไม่กลัวฟ้า ไม่กลัวดิน”“ทางที่ดีที่สุดก็เป็นยอดฝีมือที่ไม่เกี่ยวข้องกับสำนักเสินฉือ มาช่วยผมจัดการเธอ อ่อ ใช่แล้ว จัดการในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าจะให้คุณฆ่าเธอทิ้งซะ แต่แค่ทำให้เธอพิการ ทางที่ดีที่สุดคือทำให้สลบไป”“จากนั้นมอบให้ผมก็พอแล้ว”โอวหยางหมิงเดินวนรอบหลินเฟิง จากนั้นประคองใบหน้าของหลินเฟิงเอาไว้ และตบไหล่ของเขาแล้วพูดว่า: “เรื่องนี้ต้องรบกวนคุณแล้ว คุณหลินเฟิง!”“วางใจเถอะ เพียงแค่คุณทำเรื่องนี้สำเร็จ ผมจะต้อง...จุ๊จุ๊ ปล่อยยอดฝีมือที่เก่งกาจอย่างคุณไปแบบนี้ก็น่าเสียดายเล็กน้อยนะโอวหยางหมิงเปลี่ยนคำพูด: “งั้นเอาอย่างนี้ ผมปล่อยไปคนหนึ่ง คุณเลือกตามใจชอบ”“ห้าคน คุณทำธุระให้ผมห้าเรื่อง”“หลัง
ออร่าไม่ธรรมดา ผิวพรรณขาวผ่อง ฝ่ามือใสเหมือนกับหยกขาว วางอยู่บนเข่า เธอกำลังจ้องมองโอวหยางหมิงโดยไม่พูดไม่จา“นายน้อยโอวหยาง ฉันจำได้ว่าคนที่ฉันนัดพบน่าจะเป็นเจ้าสำนักของพวกคุณถึงจะถูก หรือว่าเจ้าสำนักรังเกียจเจ้าแห่งพันธมิตรบู๊อย่างฉัน?”“จึงไม่ยอมมาพบหน้า?”ถึงแม้จะไม่ธรรมดา แต่คำพูดของสาวผู้นี้อวดดีอย่างมากเสียงของเธอเป็นเหมือนกับน้ำพุที่หวานสดชื่นดังติ๋ง ๆ แต่คำพูดเย็นชาควบคู่กับเสียงที่เยือกเย็น ทำให้รอยยิ้มบนใบหน้าของโอวหยางหมิงแข็งทื่อทันที“ใช่ที่ไหนกันล่ะครับ” โอวหยางหมิงฝืนยิ้มออกมา: “คุณพ่อของผมฝึกบู๊อยู่ที่หลังเขาอยู่ตลอด ช่วงนี้ร่างกายเป็นเพราะเกิดความผิดพลาดจากการฝึกบู๊ จึงกำลังบำรุงรักษาตัวอยู่”“จึงมีผมที่มีอำนาจรับผิดชอบกิจธุระเล็กใหญ่ของสำนักเสินฉือของพวกเรา”“ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นฉันก็ค่อยมาเยี่ยนเยียนใหม่ในวันหน้า”ขณะพูดผู้หญิงคนนี้ก็จะลุกขึ้นเดินออกไปโอวหยางหมิงกลับรีบห้ามเอาไว้และยิ้มเข้าสู้: “เจ้าแห่งพันธมิตรบู๊ ถึงแม้คุณพ่อจะร่างกายไม่สบาย แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าภายในสำนักเสินฉือไม่มียอดฝีมือให้พึ่งพา”“หือ?”เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ผู้หญิงฝีเท้าห
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง ความโกรธบนใบหน้าของหลงหยวนก็ค่อยๆ หายไปเขาหัวเราะกะทันหัน เสียงหัวเราะนั้นชั่วร้ายมาก“หลินเฟิง นายเก่งจริงๆ นายกล้าทำให้ฉันอับอายแบบนี้”ในตอนนี้บนโต๊ะของหลงหยวนมีโทรศัพท์มือถือจอกว้างตั้งไว้อยู่และบนโทรศัพท์ กำลังเปิดข่าวประจำวันไว้อยู่ในวิดีโอที่ข่าวเผยแพร่ออกมาหลงซิ่วที่คลุ้มคลั่งถูกเซนเซอร์บังเอาไว้ กับถานหงราชินีนักร้องเมื่อฟังเสียงกรีดร้องอันแหลมสูงของถานหงในวิดีโอ หลงเยียนก็หันกลับมามองลูกน้องของเขาด้วยสายตาที่เย็นชา“ทันหงกับหลงซิ่วล่ะ ให้พวกเขามาพบฉัน!”"นี่......"ผู้คุ้มกันตระกูลหลงลังเลเล็กน้อย ยิ้มอย่างกระอักกระอ่วนแล้วพูดว่า:“เมื่อข่าวนี้แพร่สะพัดออกไป เราจึงส่งคนไปตามหาพวกเขา สุดท้ายก็พบพวกเขาในบาร์ใต้ดินที่คุณหลงซิ่วมักไปเยี่ยมเยียน”“รอให้พวกเราพบคุณหลงซิ่วและถานหง พวกเขาก็ตายไปแล้ว...”“......”เมื่อได้ยินเช่นนี้ รอยยิ้มดุร้ายบนใบหน้าของหลงหยวนก็ยิ่งเข้มข้นมากขึ้น“หลินเฟิงนะหลินเฟิง นายประกาศสงครามกับฉันเหรอ? ฆ่าหลงอวี่และหลงเซี่ยว และทำให้ตระกูลหลงของฉันต้องอับอาย ฉันจะเก็บหนี้เลือดทั้งหมดนี้ไว้เป็นหลักฐาน!”"ไม่ช้าก็เร
ถานหงกำลังหัวเราะเยาะตัวเองเธอวางแผนมาเป็นเวลานาน โดยต้องการใช้ตระกูลหลง เพื่อแก้แค้นหลินเฟิง อิ่นนั่วเจียและคนอื่นๆติดไม่ถึงว่านี่จะเป็นผลลัพธ์สุดท้ายแม้แต่หลงซิ่วซึ่งได้รับการยกย่องว่าทรงพลังอย่างยิ่ง ก็ไม่สามารถต้านทานได้ในขณะนี้เขาถูกโยนลงพื้นอย่างไม่ใส่ใจเหมือนกับตะพาบน้ำแต่ทว่าถานหงกลับไม่รู้ว่าหลงซิ่วยังไงก็เป็นถึงรองหัวหน้าฝ่ายธุรการแนวหลังของสำนักหลงผาน ความแข็งแกร่งของเขาก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าคนอื่นเพียงแค่ด้อยกว่าหลินเฟิงมากไปหน่อยก็เท่านั้นเองยิ่งกว่านั้นเขายังมีความเย่อหยิ่งมากเกินไป เขาไม่ได้พาลูกน้องของเขามาด้วย เมื่อพวกเขาเผชิญหน้ากันครั้งนี้ ดังนั้นจึงถูกหลินเฟิงเอาชนะได้อย่างง่ายดายหลินเฟิงเตรียมยาพิษไว้สำหรับหลงซิ่วโดยเฉพาะเมื่อหลงซิ่วต้องการใช้พลังชี่แท้ พิษก็จะออกฤทธิ์พิษนี้จะไม่ฆ่าหลงซิ่วทันที แต่จะทำให้เขาเกิดความปรารถนาอันแรงกล้าในตอนแรกเขาสามารถต้านทานด้วยความมุ่งมั่นและพลังชี่แท้ของเขาได้ แต่เมื่อพิษค่อยๆ รุกรานร่างกาย เขาก็สูญเสียสติทั้งหมดไปหลังจากระบายความโมโห ก็เสียชีวิตทันทีเขากล้าใช้กลอุบายสกปรกกับหลินเฟิง ดังนั้นหลินเฟิงก็ไม่มีทา
“เพียงแค่วางยาคุณหลงซิ่ว เพื่อดูว่าคุณมีพละกำลังพอที่จะเป็นลูกผู้ชายหรือเปล่า”หลินเฟิงมองไปที่หลงซิ่วที่สวมสูทสีชมพู แต่งเนื้อแต่งตัวเกินความพอดี รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาจริงใจอย่างยิ่ง"แก......"“เอาล่ะ เอาล่ะ ผมรู้ว่าคุณทรมาน วางใจได้ ผมไม่มีทางไม่สนใจคุณ”ขณะพูดหลินเฟิงดีดนิ้วชายสองคนในชุดสูทก้าวออกมาจากด้านหลังของหลินเฟิง หามหลงซิ่วขึ้นและพาเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สองคนเหล่านี้คือคนของเผิงกวงฉี่ส่วนเผิงกวงฉี่ก่อนหน้านี้ เขาได้นำลูกน้องสี่หรือห้าคนของเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สอง ที่มีโซฟาสีชมพูขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ถ่ายภาพตั้งนานแล้วภายในห้องมีชายเปลือยกาย 2 คนล้มลงในแอ่งเลือดเมื่อถานหงเดินเข้ามาในห้องส่วนตัวด้วยรอยยิ้มอาฆาตบนใบหน้า เห็นชายที่นั่งอยู่บนโซฟารอยยิ้มบนใบหน้าของเธอแข็งทื่อ และกลายเป็นร่องรอยของความกลัวและความตื่นตระหนก“ถานหง ผ่านไปเพียงไม่กี่วัน เธอก็ได้พบกับที่พึ่งใหม่แล้วเหรอ?”เผิงกวงฉี่นั่งสูบบุหรี่ซิการ์อยู่บนโซฟา และมองไปที่ถานหงอย่างไม่ใส่ใจ"ฉัน......"ถานหงรู้สึกสับสนในเวลานี้ เผิงกวงฉี่มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?หรือว่า...หัวใจของถานหงรู้ส
ชีพจรมังกร...จะเป็นจื่อเสวียนรึเปล่านะ? -อิ่นนั่วเจียตกใจอย่างมาก และไม่ทราบว่าจื่อเสวียนกลายมาเป็นชีพจรมังกรที่หลงซิ่วพูดถึงได้อย่างไรดูเหมือนว่าตระกูลหลงจะต้องการสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรอย่างมากและครั้งนี้หลงซิ่วช่วยเหลือถานหง ในที่สุดก็รู้เป้าหมายชัดเจนแล้วพวกเขามาที่นี่เพื่อสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรในมือของหลินเฟิง!หลังจากคิดเรื่องนี้ออก ใบหน้าของอิ่นนั่วเจียก็ไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ออกมาเลย นอกจากความคิดอันลึกซึ้งในทางกลับกัน จวงฉุนกลับถามหลงซิ่วด้วยสีหน้าสับสน:“คุณหลงซิ่ว ชีพจรมังกรคืออะไร?”“ชีพจรมังกรนั้นคือ…”หลงซิ่วไม่ต้องการตอบคำถามของจวงฉุน แต่เห็นว่าอินนั่วเจียยังคงจมอยู่กับความคิดเขาอธิบายอย่างเรียบง่ายว่า:"มีการกล่าวกันว่าชีพจรมังกรเป็นที่มาของโชคลาภของประเทศมังกร"“หากรวบรวมชีพจรมังกรครบทั้งแปดเส้นได้ ก็จะกลายเป็นราชาแห่งมังกรตัวจริงได้ ตามประวัติศาสตร์แล้ว ชีพจรมังกรเหล่านี้เป็นของตระกูลหลงของเรามาโดยตลอด”“เพราะเหตุนี้สถานที่นี้จึงเรียกได้ว่าเป็นประเทศมังกร”“แล้วนามสกุลของเราคือหลง (หลง แปลว่า มังกร) เข้าใจแล้วยัง?”“เราแค่อยากนำสิ่งที่เดิมเป็น
ดังนั้นการร่วมมือกับถานหง เพื่อจัดการกับอิ่นนั่วเจียและหลินเฟิงจึงเป็นเพียงงานเสริมเท่านั้นจุดประสงค์ที่แท้จริงของหลงซิ่วคือเพื่อสำรวจหรือแม้กระทั่งเอาชีพจรมังกรที่อยู่รอบตัวหลินเฟิงออกไป!มีเพียงแค่เอาชีพจรมังกรมาอยู่ในมือ หลงหยวนก็สามารถใช้พละกำลังของเขา จัดการกับหลินเฟิงอย่างกล้าหาญได้และเรื่องของชีพจรมังกรมีเพียงหลงซิ่วและสวีโจวซึ่งเป็นนักบู๊ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดานักบู๊ของตระกูลหลงที่เขาส่งออกไปเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ส่วนที่เหลือก็ไม่ชัดเจนนักแต่ในเวลานี้หลงซิ่วไม่รู้ว่าสวีโจวและคนอื่น ๆ ได้กลายเป็นวิญญาณที่ตายแล้วในมือของหลินเฟิง ด้วยความพยายามผลักดันของจวงฉุน ไม่มีใครหนีไปได้สักคนเหลือเพียงจวงฉุนเท่านั้น และเพื่อความอยู่รอด เขาจึงได้กลายมาเป็นคนทรยศหากหลงซิ่วรู้เรื่องนี้เกรงว่าเขาจะตบจวงฉุนคนไร้ประโยชน์คนนี้จนตายไปซะเลยแทนที่จะชื่นชมเขาเพราะเขาพาอิ่นนั่วเจียมาอยู่เคียงข้างเขา"เอาล่ะ"หลงซิ่วยืนขึ้นและโบกมือให้อิ่นนั่วเจียอย่างด้วยสีหน้านิ่งเฉย“ผมได้เตรียมคนและอุปกรณ์ไว้แล้ว อยู่ในห้องส่วนตัวใต้ดินชั้นสอง ถานหง คุณไปเตรียมตัวก่อนเถอะ”“รอผมถามคำถามอิ่
“ฉันคือลูกน้องของเธอ? คุณหลงซิ่ว นี่มันเรื่องอะไรกัน? ฉันจำได้ว่าไม่มีข้อกำหนดนั้นในสัญญาของเราหรอกมั้ง?”อิ่นนั่วเจียขมวดคิ้วและมองไปที่หลงซิ่วหลงซิ่วสับสนเป็นอย่างมาก แต่ไม่ได้พูดอะไรยังคงเป็นถานหงที่ตอบคำถามของอิ่นนั่วเจียด้วยเสียงหัวเราะ“อิ่นนั่วเจีย เธอช่างไร้เดียงสาเกินไป เธอคิดจริงๆ เหรอว่าตระกูลหลงจะเต็มใจยอมรับเธอ เพราะพวกเขาเห็นคุณค่าในชื่อเสียงและความสามารถของเธอจริงๆ”ถานหงส่ายหน้าอย่างดูถูกและกล่าวว่า:“ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน ตระกูลหลงจะยอมรับเธอได้ยังไง?”“อ่อใช่ ไม่ว่าฉันหรือตระกูลหลง ก็ไม่ได้โกหกเธอ เพราะฉันคือผู้รับผิดชอบบริษัทบันเทิงของตระกูลหลงที่เธอเข้าร่วมมาโดยตลอด”“ดังนั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อิ่นนั่วเจีย เธอต้องเชื่อฟังฉัน เข้าใจไหม?”“ฉันให้เธอถ่ายหนังอะไร เธอก็ต้องไปถ่าย”"เดี๋ยวนะ"อิ่นนั่วเจียยื่นมือออกไปและขมวดคิ้ว:“ถานหง เธอพูดรุนแรงเกินไปแล้ว ฉันจำได้ว่าฉันไม่เคยทำให้เธอขุ่นเคืองมาก่อน ทำไมเธอถึงตั้งใจจะจัดการกับฉันขนาดนั้น?”“ถึงขั้นยอมทุ่มเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเพื่อดึงตัวฉันมาจากหลี่ซื่อกรุ๊ปด้วย”“จุ๊จุ๊จุ๊”เมื่อได้ยินคำพูดของอิ่นนั
“บ้าเอ๊ย ฉันไม่สามารถทนได้จริงๆ ติดต่อน้องหลินให้ฉัน ฉันจะเข้าแทรกแซงเรื่องนี้ด้วย!”...วันต่อมาในบาร์ใต้ดินแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของเมืองจิงจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียที่สวมหมวกและหน้ากากไว้ และดูเรียบง่ายมากรีบเดินทางมาที่นี่ ที่นี่คือ “สถานที่นัดพบ” ที่หลงซิ่วพูดถึงควบคู่ด้วยเสียงดนตรีอันไพเราะและฝูงชนที่เต้นรำจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียเดินผ่านทางเดินและมองเห็นหลงซิ่วกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะ พร้อมคาบบุหรี่อยู่ในปากเมื่อเห็นว่าอิ่นนั่วเจียมาจริง ๆ ดวงตาของหลงซิ่วก็เป็นประกายบุหรี่ในปากของเขาหล่นลงพื้นโดยไม่รู้ตัวแม้ว่าอิ่นนั่วเจียจะสวมเพียงชุดเดรสยีนส์ซึ่งทำให้เธอดูเป็นเด็กสาวมากในวันนี้ แต่หุ่นที่น่าสะพรึงกลัวของเธอก็ยังทำให้ หลงซิ่วที่กำลังนั่งอยู่ตรงโต๊อย่างไม่ใส่ใจก็ต้องกลืนน้ำลายลงคอ"เชี่ย ไม่เสียแรงที่เป็นซูเปอร์สตาร์ประเทศมังกรจริงๆ นะ!"หลงซิ่วอดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบเธอกับถานหง หลังจากคิดดู นี่มันไม่ใช่คนระดับเดียวกันด้วยซ้ำ!แม้ว่าถานหงจะเป็นราชินีเพลงประเทศมังกร หน้าตาก็คล้ายๆกันแต่เมื่อเทียบกับอิ่นนั่วเจียสาวสวยที่อยู่แต่ในจอ ถานหงยังด้อยกว่าเยอะมากเพียงแค่ออร่าอันส
สำนักงานใหญ่กลุ่มเผิงกวง เมืองจิงขณะนั้นเผิงกวงฉี่กำลังคาบซิการ์ไว้ในปากอย่างเรื่อยเปื่ยอ ฟังการโต้เถียงขัดแย้งระหว่างตัวแทนจากทั่วทุกแห่งในการประชุมแม้ว่าเผิงกวงฉี่จะดูเป็นปกติ แต่ในใจเขากลับโกรธมากพวกขยะพวกนี้ได้แต่โทษกันไปมา และต่างคนต่างหาผลประโยชน์แม้แต่เผิงกวงฉี่ก็ยังคิดว่า ควรจะกำจัดคนไร้ประโยชน์เหล่านี้ และส่งเสริมให้คนอื่นขึ้นมาเป็นผู้นำภูมิภาคดีไหมขณะที่กำลังคิดแบบนี้ โทรศัพท์มือถือของเผิงกวงฉี่ก็ดังขึ้นกะทันหันเสียงโทรศัพท์ทำให้ห้องประชุมเงียบลงทันที“คุณหลินโทรมาครับ คุณเผิงกวงฉี่”ผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆ ยื่นโทรศัพท์ให้ด้วยความเคารพเมื่อคิดว่าเป็นหลินเฟิง เผิงกวงฉี่ก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมากไม่พูดไม่ได้ว่ายาหยกโมราของหลินเฟิงมีประสิทธิภาพมากจริงๆ ควบคู่กับน้ำพุร้อนที่เจียงโจว ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองดูหนุ่มลงเรื่อย ๆ และร่างกายก็เต็มไปด้วยกำลังวังชาแม้แต่ผู้หญิงคนใหม่ที่หามาช่วงนี้ ก็ไม่สามารถทำให้เขาพึงพอใจได้ช่วงนี้เขากำลังคิดว่าควรจะหาเพิ่มอีกสักหน่อย เพื่อสร้างทายาทให้กับตระกูลเผิงของเขาสองเดือนที่แล้ว นี่เป็นสิ่งที่เขาไม่กล้าคิดมาก่อนด้วยซ้ำ“ฮัลโหล
“ฉันจะโอนเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเข้าบัญชีของคุณทันที ทางที่ดีคุณให้อิ่นนั่วเจียออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ปโดยเร็วที่สุด ให้เธอมาพบฉันที่เมืองจิง”"ฮ่าฮ่าฮ่า......"ถานหงที่อยู่ปลายสายหัวเราะอย่างโอเวอร์“ฉันต้องการให้อิ่นนั่วเจียคุกเข่าอยู่แทบเท้าฉัน! ยังมีหลินเฟิง ฉันจะทำให้หลินเฟิงและหลี่ซื่อกรุ๊ปบ้าบออะไรนั่นได้ชำระในสิ่งที่ควรจ่าย!”หลังจากพูดจบโทรศัพท์ก็วางสายไปและภายในเวลาไม่กี่นาที ข้อความเงินสดเข้าบัญชีจำนวนสองหมื่นห้าพันล้านบาทก็ปรากฏบนโทรศัพท์มือถือของจวงฉุนทันทีเมื่อมองดูข้อความบนโทรศัพท์ ลมหายใจของจวงฉุนก็เร็วขึ้นอย่างมาก เขาไม่เคยเห็นเงินมากขนาดนี้ในชีวิตของเขามาก่อนแต่เมื่อเขาเงยหน้ามองไปทางหลินเฟิง ก็รู้สึกเหี่ยวเฉาทันทีเขารู้ว่าเงินจำนวนนี้จะไม่มีวันมาถึงเขาด้วยซ้ำ อีกทั้งเรื่องที่อิ่นนั่วเจียเข้าร่วมตระกูลหลงเป็นเรื่องโกหกทั้งหมดเขาแค่อยากหลอกเอาเงินก้อนนี้มาจากหลงซิ่ว เพื่อใช้รักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้ก็เท่านั้นเอง“ตอนนี้โอนเงินก้อนนี้เข้าบัญชีของหลี่ซื่อกรุ๊ปเถอะ”หลินเฟิงไม่พูดมาก บังคับจวงฉุนให้ดำเนินการบนโทรศัพท์มือถือของเขาโดยตรงหลังจากนั้นไม่นาน เงิน