หลินเฟิงเงียบขรึมอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเงยหน้าขึ้นและตอบตกลงดูท่าว่านี่คือเงื่อนไขที่เป็นเส้นตายของตระกูลถังแล้ว ถ้าหากเสนอเงื่อนไขอื่นอีก เกรงว่าตระกูลถังก็จะโมโหแล้วและวันนี้โชคก็ไม่ดีบังเอิญเจอกับหลงยวนที่นี่ และบริวารแดนแปรภาพที่เป็นลูกน้องของหลงยวนต่อให้หลินเฟิงลงมือที่นี่ ก็ไม่ได้เปรียบเท่าไหร่นักเอาเป็นว่า ช่วงเวลานี้ให้เขาได้เจอหน้าถังหว่านก็พอแล้วเขาจำเป็นต้องถามเรื่องบางเรื่องกับถังหว่านให้ชัดเจนเห็นหลินเฟิงตอบตกลง ถังเจี้ยนหยวนที่อยู่ไกลออกไปก็โล่งอกอย่างเห็นได้ชัด นั่นเป็นเพราะข่าวที่น้องสามของตัวเองส่งมาหลินเฟิงไม่เพียงมีพลังระดับแดนแปรภาพอีกทั้งเกรงว่ายังจะเป็นแดนแปรภาพขั้นสูงสุดอีกด้วย ถ้าหากทำให้เขาโมโห งั้นเรื่องราวก็คงจะจัดการได้ยากจริงๆ“ผู้ป่วยอยู่ที่ไหน? พวกคุณ...เร็ว เร็วหน่อยไม่ได้เหรอ?”ศาสตราจารย์โรเบิร์ตที่หัวล้านมีสีหน้าหงุดหงิด เขารู้สึกไม่ชินความสัมพันธ์ยุ่งเหยิงแบบนี้ของประเทศมังกรเป็นอย่างมาก“ศาสตราจารย์โรเบิร์ตพูดได้ถูกต้อง ไปเถอะครับ ช่วยพ่อของผมก่อนเป็นเรื่องสำคัญ”เมื่อพูดคุยถึงเงื่อนไขกันเสร็จแล้ว ถังเจี้ยนหยวนสั่งให้ลูกน้องขับร
“นี่...”หลินเฟิงขมวดคิ้ว“วิชาแพทย์ดั้งเดิมของประเทศมังกรให้ความสำคัญกับการมองการถามการดมและการคลำ สำหรับคำว่าการคลำ ไม่มีเรื่องของการสวมถุงมือ การสัมผัสถึงอุณหภูมิของผู้ป่วย และสภาพร่างกาย ผมต้องสัมผัสร่างกายของผู้ป่วย...”“อย่าพูดพล่าม!”เมื่อได้ยินคำแก้ตัวที่พูดไม่หยุดของหลินเฟิง หญิงชราก็หงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด เธอบุ้ยปาก จนฟันปลอมเกือบจะหลุดออกมา“สวมถุงมือคู่นี้ นายไม่สวมถุงมือก็ไสหัวไป พวกเราไม่ได้ขอให้นายรักษา!”“นายที่เป็นไอ้หนุ่มยากจนที่มาจากสถานที่ห่างไกล คู่ควรที่จะสัมผัสร่างกายของนายท่านตระกูลถังด้วยงั้นเหรอ?”“นายไม่รังเกียจ แต่ฉันรังเกียจ!”คำพูดของหญิงชราเกือบจะทำให้หลินเฟิงอดกลั้นความโมโหไว้ไม่ไหวเขาอยากจะรักษา แต่ตระกูลถังนี้ข่มเหงซ้ำแล้วซ้ำเล่า ดูท่าว่าไม่อยากให้เขารักษานายท่านตระกูลถังด้วยซ้ำ!“หึ”หลินเฟิงส่งเสียงไม่พอใจ เพื่อที่จะได้เจอถังหว่าน ก็ยังอดกลั้นเอาไว้ จากนั้นก็สวมถุงมืออย่างว่าง่าย“สหายหลินเฟิง คุณต้องระวังหน่อยนะ”หลินเฟิงสวมถุงมือไปด้วย หลงยวนที่อยู่ด้านหลังก็ยิ้มพูดไปด้วย: “อีกเดี๋ยววินิจฉัยสาเหตุของโรคผิดแล้วโยนความผิดไปที่ถุงมือล่ะ
“อย่ารีบร้อนสิครับ”หลินเฟิงจับคาง จากนั้นถามต่อว่า:“ยาสารคัดหลั่งกวางชะมด แต่ทุกครั้งทาน 5 กรัม ผสมน้ำดื่มเข้าไป ถูกต้องไหมครับ?”“ไอ้หนุ่ม ที่นายพูดมาไม่ถูกต้องสักข้อ”หญิงชราหมดความอดทนแล้ว เดินเข้าไปชี้หน้าต่าทอหลินเฟิงโดยตรง: “รีบไสหัวไป อย่ามาเสียเวลาของพวกเราอยู่ตรงนี้!”“หลินเฟิง ไม่อย่างนั้นคุณยอมแพ้ซะเถอะ”หลงยวนเห็นเขาประสบเคราะห์ก็รู้สึกดีใจ“ถูกต้อง หลินเฟิง คุณไปซะเถอะ ตระกูลถังของผมไม่กีดขวางคุณ แต่ต่อไปห้ามคุณเอ่ยถึงถังหว่านอีก และไม่อนุญาตให้คุณมาเหยียบที่ตระกูลถังอีกแม้แต่ครึ่งก้าว คุณได้ยินแล้วยัง?”ถังเจี้ยนหยวนก็เผยอำนาจของผู้นำตระกูลออกมา และพูดเสียงทุ้มต่ำ“หึ...”หลินเฟิงหรี่ตา สุดท้ายพยักหน้าพูดว่า: “ผมคิดว่าผมรู้แล้วว่านายท่านตระกูลถังโดนหนอนคุณไสยชนิดไหน”“ระยะเวลาหนึ่งสัปดาห์ ไม่ได้เป็นเพราะโสมภูเขา แต่เป็นการนำพาด้วยยาสารคัดหลั่งกวางชะมด ที่มากกว่า 5 กรัม และไม่ได้ดูดซึมเข้าในปากด้วยลักษณะเข้มข้น...”หลินเฟิงหยิบเข็มเงินที่พกติดตัวออกมาจากกระเป๋าหน้าอก จากนั้นมองไปทางผู้คนที่อยู่รอบๆ และพูดว่า:“ลำดับต่อไปผมจะทำการฝังเข็ม ถ้าหากข้อมูลที่พวกค
“กลับกัน พวกเราก็สามารถือโอกาส โยนความผิดไปใส่หลินเฟิงได้ ให้หว่านเอ๋อร์เกิดความรังเกียจต่อหลินเฟิง”“และทำให้พวกเรามีเหตุผลในการจัดการหลินเฟิงเพิ่มมากขึ้น”ประโยคสุดท้ายนี้ เป็นคำพูดที่ถังเจี้ยนหยวนขยับเข้าไปพูดข้างหูหญิงชราหญิงชราได้ยินคำพูดสุดท้ายของถังเจี้ยนหยวน ทันใดนั้นคิ้วที่ขมวดแน่นก็ค่อยๆ คลายออก“งั้นก็ได้ เอาตามที่นายว่า!”หญิงชราพยักหน้าอย่างหนักแน่น และจึงได้ตอบตกลงหลินเฟิงที่อยู่ข้างๆ เห็นการแอบกระซิบกระซาบของพวกเขา ชั่วพริบตาเดียวก็เดาออกได้ว่าคนเหล่านี้มีความคิดอะไรถึงแม้เขาจะไม่สนใจอะไร แต่ในใจก็ค่อนข้างโมโหอยู่ดีถ้าหากไม่ใช่เพราะหญิงชราไม่ให้เขาสัมผัสร่างกายกับผิวหนังของนายท่านตระกูลถัง งั้นหลินเฟิงก็ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีการหลอกล่อคำพูดของพวกเขาด้วยซ้ำก็สามารถหาสาเหตุอาการป่วยของนายท่านตระกูลถังออกมาได้อย่างแม่นยำนายท่านตระกูลถังถูกหนอนคุณไสย นั่นคือหนอนคุณไสยเน่าเฟะชนิดหนึ่งของเมืองหนานไห่ที่ไม่นับว่าเก่งอาจมากนักหนอนคุณไสยประเภทนี้ถ้าหากถูกคนกลืนเข้าไปในท้อง ควบคู่ยาชนิดพิเศษหรือวิธีการกระตุ้น ก็สามารถทำให้ตัวอ่อนฟักไข่เป็นตัว จากนั้นวางไข่และสร้างร
ตามการคาดเดาของหลินเฟิงหลังจากที่นายท่านตระกูลถังได้รับการรักษาของตัวเองแล้ว ก็น่าจะต้องฟื้นคืนสติขึ้นมาในเวลาห้านาที แล้วขับไข่ออกจากช่องท้องเขาบอกว่าสิบนาที แต่จริง ๆแล้วก็พอมีเวลาสเหลืออยู่บ้างสุดท้ายก็ไม่มีการรับรองได้ว่าว่าร่างกายของทุกคนจะเหมือนกัน และการปิดเป็นความลับก็เป็นรูปแบบการรักษาของหลินเฟิงเช่นกันแต่เมื่อมองเวลาที่ผ่านไปสิบนาทีแล้วนายท่านตระกูลถังที่อยู่บนเตียงยังคงไม่แสดงท่าทีว่าจะฟื้นขึ้นมา แม้แต่ใบหน้าก็ยังคงเป็นสีเขียวงคล้ำเหมือนเดิม ไม่มีท่าทางจะดีขึ้นด้วยซ้ำ“หรือว่าตอนที่ฉันถามไปเมื่อครู่นั้น พวกเขาจะโกหกหลอกลวงงั้นเหรอ?” หลังจากที่หลินเฟิงตรวจดูยาที่ตัวแองถือมา ผลที่ได้จึงทำให้เขาโกรธมากถ้าหากพวกเธอโกหกหลอกลวง ถ้าอย่างนั้นความคาดเดาของหลินเฟิงเกี่ยวกับหนอนคุณไสยก็จะไม่ถูกต้อง และวิธีการที่ใช้ก็จะไม่ถูกต้องเช่นกันถ้าเป็นแบบนี้มันก็จะไม่มีผลอะไรเลยอย่างเลวร้ายที่สุด ก็อาจจะเป็นอันตรายถึงชีวิตของผู้ป่วยได้ในตอนที่หลินเฟิงอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมา ถังเจี้ยนหยวนที่อยู่ด้านข้างก็ยกแขนของตัวเอง ขึ้นมา แล้วเหลือบมองไปที่ปาเต็กฟิลิปป์ที่บนข้อมือ ก่อนจะส
“ผมเป็นหมอน่ะถูกต้องแล้ว”หลินเฟิงยังอยากจะพยายามเป็นครั้งสุดท้าย และพูดด้วยเสียงทุ้มว่า “แต่ผมไม่ใช่เทพเจ้า มันเป็นไปไม่ได้ที่ผมจะสรุปสาเหตุอาการป่วยของผู้ป่วยได้โดยไม่ต้องติดต่อกับเขา!” “และผมก็ไม่อาจจะรักษานายท่านของคุณได้ ในเมื่อคุณปิดบังอาการป่วยและโกหกผม!”“มีผู้หญิงแบบนี้อย่างคุณ นายท่านตระกูลถังโชคไม่ดีจริง ๆ!”คำพูดสุดท้ายของหลินเฟิงนับว่าเป็นระเบิดที่ถูกจุดชนวนแล้วเพียงแค่เห็นคุณนายตระกูลถังกระโดดขึ้นมา แล้วตรงไหนกันที่เหมือนกับหญิงชราวันเจ็ดสิบปี?ความสามารถของเธอคล่องแคล่วมาก และต้องการที่จะข่วนใบหน้าและดวงตาของหลินเฟิงด้วยเล็บของเธออย่างบ้าคลั่ง ในขณะที่เอะอะโวยวายก็พูดด่าไปด้วยว่า“ไอ้สารเลว แกนับประสาอะไร ถึงได้กล้ามาด่าฉัน?! วันนี้.....วันนี้ฉันจะต้องฆ่าแกให้ได้!”“เจี้ยนหยวน! เรียกผู้คุ้มกันทั้งหมดของตระกูลถังเข้ามา!”“ฉันจะทำให้ไอ้สารเลวคนนี้ตายทั้งเป็น!”เมื่อเผชิญหน้ากับแม่ที่บ้าคลั่งแบบนี้ ถังเจี้ยนหยวนก็ไม่ได้ก้าวไปเพื่อห้ามปราม แต่กลับมองไปที่หลินเฟิงอย่างเย็นชาแล้วพูดว่า“หลินเฟิง คุณรู้หรือเปล่าว่าคุณพูดอะไรอยู่?!”“คำพูดเมื่อครู่ของคุณลองพูดอีกรอ
เขาเงยหน้าและเผชิญหน้ากับหลินเฟิง“เดี๋ยวก่อน”และในขณะนี้ หลงยวนก็ยืนขึ้นมา“ผู้นำตระกูลถัง จะจัดการกับหลินเฟิงอย่างไร พวกเราจะหารือเรื่องนี้ในภายหลัง แต่ตอนนี้ ผมรู้สึกว่าศาสตราจารย์โรเบิร์ตได้เห็นทักษะทางการแพทย์แบบดั้งเดิมของประเทศมังกรที่ไร้สาระของหลินเฟิงแล้ว”“ตอนนี้ก็ควรจะให้เขาได้เปิดประสบการณ์กับผู้เชี่ยวชาญตัวจริงได้แล้ว”หลงยวนหัวเราะเยาะ“หลังจากที่เขาได้เห็นทักษะทางการแพทย์ที่แท้จริงแล้ว ค่อยฆ่าเขาก็ไม่สายเกินไปหรอก”ผลลัพธ์นี้คือสิ่งที่หลงยวนต้องการ หากจะโจมตีก็ต้องเริ่มจากจิตใจ เริ่มลงมือจากสองด้านของสรีรวิทยาหลินเฟิงที่สูญเสียท่าทางอวดดีไปอย่างสิ้นเชิง สีหน้าไม่มีชีวิตชีวาและคุกเข่าแทบเท้าด้วยความเสียใจ“พวกคุณคุยกันจบแล้วงใช่ไหม?”ศาสตราจารย์โรเบิร์ตที่ยืนรออยู่ด้านข้างอย่างหงุดหงิด“คุยจบแล้ว เชิญศาสตราจารย์โรเบิร์ตลงมือ ช่วยเหลือพ่อของผม”หลินเฟิงที่ถูกรายล้อมไปด้วยบริวารของตระกูลถังและตระกูลหลงอยู่ไกล ๆเพื่อที่จะได้รับการสนับสนุนจากบริวารตระกูลหลง จึงไม่ปฏิเสธข้อเสนอของหลงยวนอยู่แล้วดังนั้นเขาจึงมองตรงไปที่โรเบิร์ตอย่างขอร้องด้วยความจริงใจ“ฮึ ศาส
“ฮะ?!”ความผิดปกติของนายท่านตระกูลถังแบบนี้ เห็นได้ชัดว่าเกินความคาดหมายของศาสตราจารย์โรเบิร์ตเขาถลึงตาโต และส่ายหน้าอย่างแรงพูดว่าเป็นไปไม่ได้อยู่หลายครั้ง จากนั้นก้มหน้าเริ่มค้นหากระเป๋าถือของตัวเอง“ศาสตราจารย์โรเบิร์ต นี่...พ่อของผมเป็นอะไรไปครับ?”ถังเจี้ยนหยวนเห็นภาพนี้ จึงรีบถามขึ้น“ผมก็ไม่เคยเห็นมาก่อน นี่เป็นยาแก้พิษที่ทีมงานของเราคิดค้นขึ้นมาใหม่ล่าสุด เป็นแบบนี้ต่อไป น่าจะฆ่าพยาธิตายได้...แต่สถานการณ์แบบนี้...”โรเบิร์ตลุกลี้ลุกลนอย่างมาก เขาใช้เข็มฉีดสูบของเหลวสีเหลืองอ่อนอีกครั้งด้วยความสั่นเทา และมองไปรอบๆ จากนั้นพูดว่า:“พวกคุณ เร็ว...ใครก็ได้มาช่วยผมกดผู้ป่วยเอาไว้!”ได้ยินเสียงตะโกนของศาสตราจารย์โรเบิร์ต ถังเจี้ยนหยวนรีบเรียกบริวารตระกูลถังสองสามคนที่เพิ่งล้อมหลินเฟิงเอาไว้เมื่อครู่ ให้พวกเขาจับนายท่านที่คลุ้มคลั่งกดไว้บนเตียง“จับให้ดีล่ะ!”ศาสตราจารย์โรเบิร์ตลูบเหงื่อที่อยู่บนศีรษะ และฉีดของเหลวสีเหลืองอ่อนเข้าไปในหลอดเลือดของนายท่านตระกูลถัง“เอื๊อก...”ในที่สุดนายท่านตระกูลถังก็สงบลงแล้วเขาไม่สั่นเทาและกระตุกอีกแล้ว เลือดสีดำที่ไหลออกจากปากไม่หยุดก็
“เพียงแค่วางยาคุณหลงซิ่ว เพื่อดูว่าคุณมีพละกำลังพอที่จะเป็นลูกผู้ชายหรือเปล่า”หลินเฟิงมองไปที่หลงซิ่วที่สวมสูทสีชมพู แต่งเนื้อแต่งตัวเกินความพอดี รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาจริงใจอย่างยิ่ง"แก......"“เอาล่ะ เอาล่ะ ผมรู้ว่าคุณทรมาน วางใจได้ ผมไม่มีทางไม่สนใจคุณ”ขณะพูดหลินเฟิงดีดนิ้วชายสองคนในชุดสูทก้าวออกมาจากด้านหลังของหลินเฟิง หามหลงซิ่วขึ้นและพาเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สองคนเหล่านี้คือคนของเผิงกวงฉี่ส่วนเผิงกวงฉี่ก่อนหน้านี้ เขาได้นำลูกน้องสี่หรือห้าคนของเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สอง ที่มีโซฟาสีชมพูขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ถ่ายภาพตั้งนานแล้วภายในห้องมีชายเปลือยกาย 2 คนล้มลงในแอ่งเลือดเมื่อถานหงเดินเข้ามาในห้องส่วนตัวด้วยรอยยิ้มอาฆาตบนใบหน้า เห็นชายที่นั่งอยู่บนโซฟารอยยิ้มบนใบหน้าของเธอแข็งทื่อ และกลายเป็นร่องรอยของความกลัวและความตื่นตระหนก“ถานหง ผ่านไปเพียงไม่กี่วัน เธอก็ได้พบกับที่พึ่งใหม่แล้วเหรอ?”เผิงกวงฉี่นั่งสูบบุหรี่ซิการ์อยู่บนโซฟา และมองไปที่ถานหงอย่างไม่ใส่ใจ"ฉัน......"ถานหงรู้สึกสับสนในเวลานี้ เผิงกวงฉี่มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?หรือว่า...หัวใจของถานหงรู้ส
ชีพจรมังกร...จะเป็นจื่อเสวียนรึเปล่านะ? -อิ่นนั่วเจียตกใจอย่างมาก และไม่ทราบว่าจื่อเสวียนกลายมาเป็นชีพจรมังกรที่หลงซิ่วพูดถึงได้อย่างไรดูเหมือนว่าตระกูลหลงจะต้องการสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรอย่างมากและครั้งนี้หลงซิ่วช่วยเหลือถานหง ในที่สุดก็รู้เป้าหมายชัดเจนแล้วพวกเขามาที่นี่เพื่อสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรในมือของหลินเฟิง!หลังจากคิดเรื่องนี้ออก ใบหน้าของอิ่นนั่วเจียก็ไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ออกมาเลย นอกจากความคิดอันลึกซึ้งในทางกลับกัน จวงฉุนกลับถามหลงซิ่วด้วยสีหน้าสับสน:“คุณหลงซิ่ว ชีพจรมังกรคืออะไร?”“ชีพจรมังกรนั้นคือ…”หลงซิ่วไม่ต้องการตอบคำถามของจวงฉุน แต่เห็นว่าอินนั่วเจียยังคงจมอยู่กับความคิดเขาอธิบายอย่างเรียบง่ายว่า:"มีการกล่าวกันว่าชีพจรมังกรเป็นที่มาของโชคลาภของประเทศมังกร"“หากรวบรวมชีพจรมังกรครบทั้งแปดเส้นได้ ก็จะกลายเป็นราชาแห่งมังกรตัวจริงได้ ตามประวัติศาสตร์แล้ว ชีพจรมังกรเหล่านี้เป็นของตระกูลหลงของเรามาโดยตลอด”“เพราะเหตุนี้สถานที่นี้จึงเรียกได้ว่าเป็นประเทศมังกร”“แล้วนามสกุลของเราคือหลง (หลง แปลว่า มังกร) เข้าใจแล้วยัง?”“เราแค่อยากนำสิ่งที่เดิมเป็น
ดังนั้นการร่วมมือกับถานหง เพื่อจัดการกับอิ่นนั่วเจียและหลินเฟิงจึงเป็นเพียงงานเสริมเท่านั้นจุดประสงค์ที่แท้จริงของหลงซิ่วคือเพื่อสำรวจหรือแม้กระทั่งเอาชีพจรมังกรที่อยู่รอบตัวหลินเฟิงออกไป!มีเพียงแค่เอาชีพจรมังกรมาอยู่ในมือ หลงหยวนก็สามารถใช้พละกำลังของเขา จัดการกับหลินเฟิงอย่างกล้าหาญได้และเรื่องของชีพจรมังกรมีเพียงหลงซิ่วและสวีโจวซึ่งเป็นนักบู๊ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดานักบู๊ของตระกูลหลงที่เขาส่งออกไปเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ส่วนที่เหลือก็ไม่ชัดเจนนักแต่ในเวลานี้หลงซิ่วไม่รู้ว่าสวีโจวและคนอื่น ๆ ได้กลายเป็นวิญญาณที่ตายแล้วในมือของหลินเฟิง ด้วยความพยายามผลักดันของจวงฉุน ไม่มีใครหนีไปได้สักคนเหลือเพียงจวงฉุนเท่านั้น และเพื่อความอยู่รอด เขาจึงได้กลายมาเป็นคนทรยศหากหลงซิ่วรู้เรื่องนี้เกรงว่าเขาจะตบจวงฉุนคนไร้ประโยชน์คนนี้จนตายไปซะเลยแทนที่จะชื่นชมเขาเพราะเขาพาอิ่นนั่วเจียมาอยู่เคียงข้างเขา"เอาล่ะ"หลงซิ่วยืนขึ้นและโบกมือให้อิ่นนั่วเจียอย่างด้วยสีหน้านิ่งเฉย“ผมได้เตรียมคนและอุปกรณ์ไว้แล้ว อยู่ในห้องส่วนตัวใต้ดินชั้นสอง ถานหง คุณไปเตรียมตัวก่อนเถอะ”“รอผมถามคำถามอิ่
“ฉันคือลูกน้องของเธอ? คุณหลงซิ่ว นี่มันเรื่องอะไรกัน? ฉันจำได้ว่าไม่มีข้อกำหนดนั้นในสัญญาของเราหรอกมั้ง?”อิ่นนั่วเจียขมวดคิ้วและมองไปที่หลงซิ่วหลงซิ่วสับสนเป็นอย่างมาก แต่ไม่ได้พูดอะไรยังคงเป็นถานหงที่ตอบคำถามของอิ่นนั่วเจียด้วยเสียงหัวเราะ“อิ่นนั่วเจีย เธอช่างไร้เดียงสาเกินไป เธอคิดจริงๆ เหรอว่าตระกูลหลงจะเต็มใจยอมรับเธอ เพราะพวกเขาเห็นคุณค่าในชื่อเสียงและความสามารถของเธอจริงๆ”ถานหงส่ายหน้าอย่างดูถูกและกล่าวว่า:“ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน ตระกูลหลงจะยอมรับเธอได้ยังไง?”“อ่อใช่ ไม่ว่าฉันหรือตระกูลหลง ก็ไม่ได้โกหกเธอ เพราะฉันคือผู้รับผิดชอบบริษัทบันเทิงของตระกูลหลงที่เธอเข้าร่วมมาโดยตลอด”“ดังนั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อิ่นนั่วเจีย เธอต้องเชื่อฟังฉัน เข้าใจไหม?”“ฉันให้เธอถ่ายหนังอะไร เธอก็ต้องไปถ่าย”"เดี๋ยวนะ"อิ่นนั่วเจียยื่นมือออกไปและขมวดคิ้ว:“ถานหง เธอพูดรุนแรงเกินไปแล้ว ฉันจำได้ว่าฉันไม่เคยทำให้เธอขุ่นเคืองมาก่อน ทำไมเธอถึงตั้งใจจะจัดการกับฉันขนาดนั้น?”“ถึงขั้นยอมทุ่มเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเพื่อดึงตัวฉันมาจากหลี่ซื่อกรุ๊ปด้วย”“จุ๊จุ๊จุ๊”เมื่อได้ยินคำพูดของอิ่นนั
“บ้าเอ๊ย ฉันไม่สามารถทนได้จริงๆ ติดต่อน้องหลินให้ฉัน ฉันจะเข้าแทรกแซงเรื่องนี้ด้วย!”...วันต่อมาในบาร์ใต้ดินแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของเมืองจิงจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียที่สวมหมวกและหน้ากากไว้ และดูเรียบง่ายมากรีบเดินทางมาที่นี่ ที่นี่คือ “สถานที่นัดพบ” ที่หลงซิ่วพูดถึงควบคู่ด้วยเสียงดนตรีอันไพเราะและฝูงชนที่เต้นรำจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียเดินผ่านทางเดินและมองเห็นหลงซิ่วกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะ พร้อมคาบบุหรี่อยู่ในปากเมื่อเห็นว่าอิ่นนั่วเจียมาจริง ๆ ดวงตาของหลงซิ่วก็เป็นประกายบุหรี่ในปากของเขาหล่นลงพื้นโดยไม่รู้ตัวแม้ว่าอิ่นนั่วเจียจะสวมเพียงชุดเดรสยีนส์ซึ่งทำให้เธอดูเป็นเด็กสาวมากในวันนี้ แต่หุ่นที่น่าสะพรึงกลัวของเธอก็ยังทำให้ หลงซิ่วที่กำลังนั่งอยู่ตรงโต๊อย่างไม่ใส่ใจก็ต้องกลืนน้ำลายลงคอ"เชี่ย ไม่เสียแรงที่เป็นซูเปอร์สตาร์ประเทศมังกรจริงๆ นะ!"หลงซิ่วอดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบเธอกับถานหง หลังจากคิดดู นี่มันไม่ใช่คนระดับเดียวกันด้วยซ้ำ!แม้ว่าถานหงจะเป็นราชินีเพลงประเทศมังกร หน้าตาก็คล้ายๆกันแต่เมื่อเทียบกับอิ่นนั่วเจียสาวสวยที่อยู่แต่ในจอ ถานหงยังด้อยกว่าเยอะมากเพียงแค่ออร่าอันส
สำนักงานใหญ่กลุ่มเผิงกวง เมืองจิงขณะนั้นเผิงกวงฉี่กำลังคาบซิการ์ไว้ในปากอย่างเรื่อยเปื่ยอ ฟังการโต้เถียงขัดแย้งระหว่างตัวแทนจากทั่วทุกแห่งในการประชุมแม้ว่าเผิงกวงฉี่จะดูเป็นปกติ แต่ในใจเขากลับโกรธมากพวกขยะพวกนี้ได้แต่โทษกันไปมา และต่างคนต่างหาผลประโยชน์แม้แต่เผิงกวงฉี่ก็ยังคิดว่า ควรจะกำจัดคนไร้ประโยชน์เหล่านี้ และส่งเสริมให้คนอื่นขึ้นมาเป็นผู้นำภูมิภาคดีไหมขณะที่กำลังคิดแบบนี้ โทรศัพท์มือถือของเผิงกวงฉี่ก็ดังขึ้นกะทันหันเสียงโทรศัพท์ทำให้ห้องประชุมเงียบลงทันที“คุณหลินโทรมาครับ คุณเผิงกวงฉี่”ผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆ ยื่นโทรศัพท์ให้ด้วยความเคารพเมื่อคิดว่าเป็นหลินเฟิง เผิงกวงฉี่ก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมากไม่พูดไม่ได้ว่ายาหยกโมราของหลินเฟิงมีประสิทธิภาพมากจริงๆ ควบคู่กับน้ำพุร้อนที่เจียงโจว ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองดูหนุ่มลงเรื่อย ๆ และร่างกายก็เต็มไปด้วยกำลังวังชาแม้แต่ผู้หญิงคนใหม่ที่หามาช่วงนี้ ก็ไม่สามารถทำให้เขาพึงพอใจได้ช่วงนี้เขากำลังคิดว่าควรจะหาเพิ่มอีกสักหน่อย เพื่อสร้างทายาทให้กับตระกูลเผิงของเขาสองเดือนที่แล้ว นี่เป็นสิ่งที่เขาไม่กล้าคิดมาก่อนด้วยซ้ำ“ฮัลโหล
“ฉันจะโอนเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเข้าบัญชีของคุณทันที ทางที่ดีคุณให้อิ่นนั่วเจียออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ปโดยเร็วที่สุด ให้เธอมาพบฉันที่เมืองจิง”"ฮ่าฮ่าฮ่า......"ถานหงที่อยู่ปลายสายหัวเราะอย่างโอเวอร์“ฉันต้องการให้อิ่นนั่วเจียคุกเข่าอยู่แทบเท้าฉัน! ยังมีหลินเฟิง ฉันจะทำให้หลินเฟิงและหลี่ซื่อกรุ๊ปบ้าบออะไรนั่นได้ชำระในสิ่งที่ควรจ่าย!”หลังจากพูดจบโทรศัพท์ก็วางสายไปและภายในเวลาไม่กี่นาที ข้อความเงินสดเข้าบัญชีจำนวนสองหมื่นห้าพันล้านบาทก็ปรากฏบนโทรศัพท์มือถือของจวงฉุนทันทีเมื่อมองดูข้อความบนโทรศัพท์ ลมหายใจของจวงฉุนก็เร็วขึ้นอย่างมาก เขาไม่เคยเห็นเงินมากขนาดนี้ในชีวิตของเขามาก่อนแต่เมื่อเขาเงยหน้ามองไปทางหลินเฟิง ก็รู้สึกเหี่ยวเฉาทันทีเขารู้ว่าเงินจำนวนนี้จะไม่มีวันมาถึงเขาด้วยซ้ำ อีกทั้งเรื่องที่อิ่นนั่วเจียเข้าร่วมตระกูลหลงเป็นเรื่องโกหกทั้งหมดเขาแค่อยากหลอกเอาเงินก้อนนี้มาจากหลงซิ่ว เพื่อใช้รักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้ก็เท่านั้นเอง“ตอนนี้โอนเงินก้อนนี้เข้าบัญชีของหลี่ซื่อกรุ๊ปเถอะ”หลินเฟิงไม่พูดมาก บังคับจวงฉุนให้ดำเนินการบนโทรศัพท์มือถือของเขาโดยตรงหลังจากนั้นไม่นาน เงิน
“ดูเหมือนว่าคุณจะได้เจอกับอิ่นนั่วเจียจริงๆ นะ”หลงซิ่วที่อยู่ปลายสายพูดอย่างใจเย็นว่า:“ผมลืมบอกคุณไปว่าตอนนี้อิ่นนั่วเจียเป็นสมาชิกของหลี่ซื่อกรุ๊ปแล้ว เธอเต็มใจที่จะออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ป และร่วมมือกับตระกูลหลงของเราจริงๆ เหรอ?”เมื่อได้ยินสิ่งที่หลงซิ่วพูดจวงฉุนสั่นสะเทือนไปทั้งตัวเกือบหัวใจวายเพราะความโมโหในที่สุดเขาก็ได้ลิ้มรสว่าการถูกหลอกเป็นอย่างไรหากหลงซิ่วเล่าเบื้องหลังของอิ่นนั่วเจียให้เขาฟังก่อนหน้านี้เขาจะพาผู้คนมาที่นี่เพื่อมาหาอิ่นนั่วเจีย และตกหลุมพรางได้ยังไง?ตอนนี้มันสายเกินไปที่จะพูดอะไรอีกแล้วร่องรอยแห่งความโกรธเริ่มผุดขึ้นในใจของจวงฉุนหากพูดว่าเมื่อครู่เพียงแค่โกหกหลงซิ่ว เขาก็มีความกดดันอยู่ไม่น้อยเมื่อเขาได้ยินว่าหลงซิ่วปกปิดเรื่องของอิ่นนั่วเจียกับเขา เขาก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันทีหากคุณไม่ได้บอกผมให้ชัดเจนก่อนที่คุณจะจากไปผมจำเป็นต้องตกไปอยู่ในมือของหลินเฟิงงั้นเหรอ?จวงฉุนตัดสินใจ คำพูดก็ราบรื่นมากขึ้น“ใช่ครับ คุณอิ่นนั่วเจียบอกผมเอง แต่ว่า...”"แต่ว่าอะไร?"หลงซิ่วที่ปลายสายโทรศัพท์ขมวดคิ้วเล็กน้อย“แต่คุณอิ่นนั่วเจียบอกว่าเธอได้เซ็น
จวงฉุนคิดว่าคำพูดนี้สมบูรณ์แบบไร้ที่ติขณะที่จวงฉุนกำลังจมอยู่กับจินตนาการของเขา หลินเฟิงก็ยื่นมือออกไปและโบกไปมาตรงหน้าจวงฉุน“การปล้นทำลายของพวกนายในครั้งนี้ ได้ทำลายสินค้าของหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันมูลค่าสองหมื่นห้าพันล้านบาทเต็มๆ เพียงแค่นายสามารถชดเชยเงินสินค้าเหล่านี้ให้เราได้ ฉันก็จะไม่ถือสาเอาความ”"สองหมื่นห้าพันล้านบาท?"เมื่อได้ยินตัวเลขนี้ อิ่นนั่วเจียที่อยู่ข้างๆ ก็เปิดริมฝีปากสีแดงของเธอออกครู่หนึ่ง เธอก็ส่ายหัวอย่างจนปัญญาหลินเฟิงกำลังพยายามกรรโชกเงินอยู่เหรอ!"เป็นไปไม่ได้!"เห็นได้ชัดว่าจวงฉุนก็ตกใจกับจำนวนเงินมหาศาลนี้อย่าว่าแต่ยี่สิบห้าล้านบาทเลย แม้แต่ห้าพันล้านบาทเขาก็ยังไม่มี จะอุดรูโบ๋นี้ได้อย่างไรหลินเฟิงรีดไถมากเกินไปจริงๆ“แน่นอนว่าหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันไม่สนใจเงินจำนวนน้อยๆ นี้ แต่ฉันแค่อยากเห็นท่าทางของคุณ”“เป็นไงบ้าง?”หลินเฟิงจ้องมองจวงฉุนด้วยความสนใจอย่างยิ่ง ต้องการดูว่าคนๆ นี้จะหาเงินได้มากเท่าไหร่เพื่อเอาชีวิตรอดได้ในเมื่อเสียหายหนึ่งหมื่นล้านบาท หลินเฟิงต้องหาชดเชยมาจากที่อื่น"ดี...ดีครับ!"จวงฉุนรู้ดีว่าวันนี้เขาไม่มีสิทธิ์ต่อรองกับหลิ