ประเทศเวน่าตั้งอยู่ทางทิศใต้ของประเทศมังกรพวกเขามีความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยดีกับประเทศมังกรมาโดยตลอด และมักจะปะทะกันที่ชายแดนทั้งหนักและเบาถ้าหากไม่ใช่เพราะราชาหลินแห่งตอนใต้ควบคุมหนานโจวประเทศมังกร และสร้างความหวาดกลัวให้กับประเทศเวน่าอย่างสิ้นเชิง การแทรกซึมและปล้นชิงส่วนใหญ่ของชาวเวน่าเป็นเรื่องปกติ ต้องรู้ว่า สิ่งที่ชาวเวน่าเกรงกลัวที่สุดก็คือราชาหลินแห่งตอนใต้และตอนนี้ก็มีเรื่องที่ผิดปกติเกิดขึ้นแล้วเพราะอะไรที่ทำให้คนของประเทศเวน่าไม่สนใจผลที่ตามมา ก็จะปรากฏตัวที่เมืองจิงประเทศมังกร ซึ่งเป็นสถานที่ที่สำคัญแบบนี้ด้วยล่ะ?ในฐานะลูกชายของราชาหลินแห่งตอนใต้ไม่ว่าจะเป็นเพราะจางกุ้ยหลิน หรือเพราะเจตนาร้ายของชาวเวน่าที่มีเป็นเดิมทีอยู่แล้ว เขาจะไม่ปล่อยไปอย่างแน่นอน“ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นผมก็จะไปชานเมืองทางใต้สักหน่อย คนของประเทศเวน่าปรากฏตัวในเมืองจิงประเทศมังกรของเรา เรื่องนี้มันไม่ง่ายอย่างนั้นแน่นอน”หลังจากที่หลินเฟิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก็พยักหน้าเบา ๆ“งั้นผมก็จะไปกับสหายหลินด้วย”จีอวิ๋นเจี๋ยพยักหน้าเดิมทีหลินเฟิงไม่อยากให้เขาตามไป แต่คิดว่าถ้าไม่มีคำแนะนำของเข
เมื่อเห็นว่าหลินเฟิงทำเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ถึงขั้นสั่งการบอดี้การ์ด สิ่งนี้ทำให้หลี่ฮุ่ยหรานสับสนเล็กน้อยไปทันที“จำเป็น”หลินเฟิงพยักหน้าอย่างจริงจังจริง ๆแล้ว สิ่งที่หลินเฟิงกังวลนั้นไม่ใช่อย่างอื่นเลย แต่เป็นเป้าหมายของชาวเวน่าพวกนี้ที่ปรากฏตัวขึ้นที่นี่มีเพียงหนึ่งเดียวที่น่าจะเกี่ยวข้องกับชาวเวน่าพวกนี้ได้ ดูท่าว่าจะเป็นตัวหลินเฟิงเองตอนนั้นราชาหลินแห่งตอนใต้ได้นำทัพเข้าสู่ประเทศเวน่า และเกือบจะจับตัวราชาแห่งเวน่าได้ ความแค้นนี้ของชาวเวน่าต่างก็จดจำไว้ในใจมาโดยตลอดในฐานะที่เป็นลูกคนเดียวของราชาหลินแห่งตอนใต้ หลินเฟิงกลัวว่าชาวเวน่าพวกนี้ตั้งเป้ามาที่ตัวเองอีกทั้งชาวเวน่าก็ทำได้ทุกวิถีทางมาโดยตลอดหากชาวเวน่าจับจางกุ้ยหลานไปจริง ๆ ถ้าอย่างนั้นหลินเฟิงก็ไม่สามารถให้หลี่ฮุ่ยหรานตกอยู่ในอันตรายอีกต่อไปที่สำคัญกว่านั้น เขาไม่อาจถูกชาวเวน่าข่มขู่ได้มันไม่เคยมีผลกระทบต่อพ่อของเขาเลยเขาไม่อยากจะเกี่ยวข้องกับชายคนนั้นด้วยเหตุผลที่ตัวเองไร้ความสามารถอย่างแน่นอน......รถยนต์มาเซราติที่โดยสารคนสองคน ได้ขับตรงไปยังชานเมืองตอนใต้ของเมืองจิงบนถนนต้องขอบคุณจีอวิ๋นเจี๋ยท
จางกุ้ยหลานรับโทรศัพท์มา แล้วกดหมายเลขชุดหนึ่งด้วยความสั่นเทา“ฮัลโหล? ฮัลโหล....หลินเฟิงเหรอ ฉัน จางกุ้ยหลาน คือ..ฉันถูกโจรลักพาตัว พวกเขาต้องการเงินหนึ่งหมื่นห้าพันล้านบาท”“ใช่แล้ว หนึ่งหมื่นห้าพันล้านบาท ขอร้องนายล่ะ นายช่วยคิดหาวิธีการกับฮุ่ยหรานได้ไหม หรือจะขอยืมบางส่วนจากคุณหนูถังหว่านของตระกูลถังก็ได้ ขอร้องล่ะ....”“ถ้าไม่อย่างนั้นฉันต้องตายอย่างแน่นอนเลย”หลังจากที่โทรเสร็จ พละกำลังทั้งหมดของจางกุ้ยหลานก็ถูกสูบออกไปจนหมดเธอนึกไม่ถึงจริง ๆว่าวันหนึ่งเพื่อที่จะมีชีวิตอยู่ เธอจะต้องโทรหาหลินเฟิงและขอร้องให้เขาช่วยเหลืออารมณ์ที่เรียกว่าความอัปยศอดสู ทำให้จางกุ้ยหลานไม่สามารถเงยหน้าขึ้นมาได้อย่างสิ้นเชิงโดยเฉพาะสิ่งที่หลินเฟิงพูดทางโทรศัพท์“ไม่ต้องกลัว ก็แค่หนึ่งหมื่นห้าพันล้านบาทเท่านั้นเอง”ใช่แล้วก็แค่ “เพียง”หนึ่งหมื่นห้าพันล้านบาทเท่านั้นเขาไม่ร้อนใจเลยจริง ๆถ้าหากตัวเองตาย มันก็จะเป็นไปตามความต้องการของเขา ลูกสาวของตัวเองก็อาจจะถูกหลินเฟิงล่อลวงหนีไปแล้วเมื่อถึงตอนที่ลูกสาวถูกหลินเฟิงหลอก หรือเป็นผู้ชายที่เกาะผู้หญิงกิน ถ้าอย่างนั้นก็คงไม่มีใครที่จะช่วยพ
“ใช่แล้ว ลูกเขยของฉันคนนั้นต่อสู้เก่งมาก ได้ยินมาว่ายังเป็นนักบู๊อีกด้วย พวกคุณต้องระวังให้ดี!”เมื่อได้ยินคำพูดของจางกุ้ยหลาน ชาวเวน่าที่อยู่ที่นั้นต่างก็พากันหัวเราะ“วางใจเถอะ พวกเราทั้งหมดก็เป็นนักบู๊!”“หัวหน้าพวกเราก็เป็นนักบู๊แดนแปรภาพ!”“ไม่ต้องพูดถึงนักบู๊ของประเทศมังกรพวกคุณหรอก นอกจากราชาหลินแห่งตอนใต้แล้ว เกรงว่าคนทั้งประเทศมังกรจะมีไม่กี่คนที่จะแข็งแกร่งกว่าหัวหน้าของพวกเรา!”จางกุ้ยหลานมองท่าทางที่ดูมั่นใจของชาวเวน่าพวกนี้ ก็ไม่รู้ว่าทำไมจู่ ๆก็รู้สึกถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ค่อยดีขึ้นมาในใจ“คุณป้า คุณฉลาดจริง ๆเลย!”จางซินพูดชื่นชมอยู่ด้านข้าง“หุบปาก! เรื่องทั้งหมดมันเป็นความผิดของแก!”จางกุ้ยหลานจะไม่ไว้หน้าจางซินอีกต่อไป จางซินก็วางตัวลำบากและมองไปทางอื่นด้วยความกระอักกระอ่วนสองพันห้าร้อยล้านจากการขายอัญมณีก่อนหน้านี้เธอใช้เพียงเวลาไม่ถึงสัปดาห์ก็ใช้จ่ายไปจนหมดแล้วเดิมทีแผนก่อนหน้านี้ของชาวเวน่า ก็คือรับเงินจากจางซินสองหมื่นห้าพันล้านบาทในเมื่อพวกเขาได้ยินข่าวแล้วว่า จะต้องใช้เงินประมานสองหมื่นห้าพันล้าน ถึงจะซื้อสมบัติประจำชาติกลับมาจากตลาดมืดได้จางซินท
“ ประโยคนี้ควรจะเป็นผมที่ถามคุณถึงจะถูกนะ”หลังจากเงาขนาดใหญ่ที่กระโดดลงมาจากด้านบนของตัวอาคารโรงงาน แตะลงบนพื้นเสียงดัง”ตุบ”ประตูโรงงานขนาดใหญ่ ด้านหลังที่หลินเฟิงกับจีอวิ๋นเจี๋ยก็ถูกคนจำนวนหลายคนมาขวางเอาไว้“คุณรู้จักผู้หญิงประเทศมังกรทั้งสองคนนี้ด้วยงั้นเหรอ?”ชาวเวน่าหัวโล้นเอาคบไฟที่สว่างโชติช่วงชี้ไปที่จางกุ้ยหลานและจางซินที่แสดงท่าทางหวาดกลัวออกมา“หืม?”หลินเฟิงขมวดคิ้วเขารู้แค่ว่าจางกุ้ยหลานถูกลักพาตัว แต่กลับคิดไม่ถึงว่าจางซินก็อยู่ที่นี่ด้วยเมื่อเห็นจางซิน หลินเฟิงก็นึกถึงเรื่องทับทิมปานเหิงที่อาฝูตั้งใจมอบให้ก่อนหน้านี้ได้ทันทีดูเหมือนว่าตัวเองจะเดาได้เกือบถูกทั้งหมดผู้หญิงคนนี้ขายทับทิมไปแล้ว และโกหกจางกุ้ยหลานว่าทับทิมนั้นไม่มีค่าจากนั้นก็มีคนเอาเงินไปใช้ชีวิตอย่างมีความสุขอยู่ที่ต่างประเทศตอนนี้เธอก็เลยถูกชาวเวน่าจับมาได้โดยผ่านการค้าขายและเบาะแสร่องรอยในตลาดมืดและดูเหมือนว่าชาวเวน่าจะยังไม่รู้ตัวตนของเขาอีกด้วยหลินเฟิงแอบถอนหายใจด้วยความโล่งอกถ้าหากพวกเขามาเพื่อทับทิมเม็ดนั้น หลินเฟิงก็พอยอมรับได้สิ่งที่กลัวก็คือคนพวกนี้รู้ว่าตัวเองคือลูกชายข
“ผมอาจจะเข้าใจแล้วว่า ทำไมคุณหนูหลี่ฮุ่ยหรานถึงเป็นอดีตภรรยาของคุณ แต่ไม่ใช่ภรรยาอีกแล้ว”“หึ....”หลินเฟิงหัวเราะเยาะเย้ย“เอาล่ะ ผมไม่มีเวลามาฟังพวกคุณพูดคุยเรื่องครอบครัวหรอกนะ!”หัวหน้าหัวโล้นชาวเวน่ายืนขึ้น และจ้องมองไปที่หลินเฟิงอย่างเย็นชา ในความมืด นัยน์ตาสีแดงทั้งสองข้างดุร้ายราวกับหมาป่า“ไม่อย่างนั้นคุณคิดหาวิธีคืนสมบัติประจำชาติของผมมา หรืออยากจะให้ผมเอาชีวิตของพวกคุณทั้งหมด พวกคุณเลือกเถอะ!”“มีทางเลือกที่สามไหม?”หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง หลินเฟิงก็เอ่ยถามด้วยสีหน้าปกติ“ทางเลือกที่สาม?”หัวหน้าหัวโล้นตกตะลึงเล็กน้อย และไม่เข้าใจว่าหลินเฟิงกำลังพูดถึงอะไร“ผมเลือกทางเลือกที่สาม”บรรยากาศรอบตัวหลินเฟิงค่อย ๆเปลี่ยนจากสงบกลายเป็นเยือกเย็น คำพูดที่พูดออกมาก็เหมือนกับน้ำแข็งพันปี ที่จู่ ๆทำให้อุณหภูมิภายในโรงงานลดลงไปหลายองศาในทันที“ตัวเลือกที่สาม คาดไม่ถึงว่าชาวเวน่าที่เข้ามาในประเทศมังกรของเราด้วยความอวดดีแบบนี้และยังลักพาตัวคนประเทศมังกรของเรา พวคุณ กำลังรนหาที่ตาย!”หลินเฟิงส่งเสียงคำรามเสียงต่ำ จนพลังชี่แท้พุ่งพล่านออกมา ทันใดนั้นก็เกิดพายุที่รุนแรงรอบ ๆตัวเข
ตอนนี้หลินเฟิงยังไม่ได้เข้าสู่แดนแปรภาพแต่ด้วยความช่วยเหลือของปีศาจชั่วร้ายกลืนกินพลังสวรรค์ หลินเฟิงก็สามารถสัมผัสระดับสูงสุดของแดนแปรภาพได้ชั่วครู่ หรือแม้แต่การใช้พลังวิญญาณชั่วร้ายทั้งหมด ก็เพียงพอที่จะต้านทานระดับสูงสุดของแดนแปรภาพได้ชั่วขณะหนึ่งแถมหัวหน้าชาวเวน่าคนนี้ ก็ยังเป็นแค่ระดับกลางของแดนแปรภาพเท่านั้น เมื่อเผชิญหน้ากับหลินเฟิงที่ใช้กำลังเต็มที่ ก็ยังด้อยกว่าก้าวหนึ่ง “ตายซะเถอะ!”หมัดสีเลือดของหลินเฟิงมาพร้อมกับเสียงคำรามของมังกร ได้ทำลายศิลปะการต่อสู้ของหัวหน้าชาวเวน่าได้ด้วยหมัดเดียว ทั้งยังถือโอกาสทำลายแขนของเขาทั้งหมดไปด้วย“หัวหน้า!”คาดไม่ถึงว่าจะได้เห็นหัวหน้าที่ปกติแข็งแกร่งอย่างมาก โดนหลินเฟิงจัดการได้ในกระบวนท่าเดียว ในใจชาวเวน่าคนอื่น ๆต่างก็หวาดกลัวข
ผู้นำกลุ่มพันธมิตรบู๊!เมื่อได้ยินต่างก็รู้ว่าไม่ใช่คนที่สามารถบาดหมางได้ง่ายๆมันคือการต่อสู้ ที่ยอมถูกจับแต่โดยดี และทำได้ให้หัวหน้าของพวกเขาตัดสินใจเท่านั้น“ผู้นำกลุ่มพันธมิตรหยินหลิง พวกเราชาวเวน่าไม่ได้มีความตั้งใจที่จะเริ่มการขัดแย้งกับประเทศมังกรของพวกคุณ ที่พวกเรามาประเทศมังกร เพียงแค่จะค้นหาสมบัติของประจำชาติของประเทศเวน่าของพวกเราจากตลาดมืดในประเทศมังกรของพวกคุณก็เท่านั้น”“เป้าหมายการเดินทางมาที่นี่ของพวกเรา ก็เพื่อหาสมบัติประจำชาติให้เจอ เพราะอย่างนั้นจึงได้ขอให้ผู้นำกลุ่มพันธมิตรหยินหลิงเปิดทางให้....”ดูเหมือนว่าหัวหน้าชาวเวน่าคนนี้ คงจะคิดได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังกจากที่เผชิญหน้ากับผู้นำกลุ่มพันธมิตรถ้าไม่อย่างนั้น ด้วยภาษาประเทศมังกรที่แย่ของเขานั้น จะพูดคำพวกนี้ออกมาให้สอดคล้องได้อย่างไร?“สมบัติประจำชาติของพวกคุณ?”หยินหลิงตะลึงงันไปชั่วครู่เธอได้ยินข่าวว่าชาวเวน่าได้ลักพาตัวคนของประเทศมังกรจึงรีบมาที่นี่ แต่คิดไม่ถึงว่ายังจะมีแรงจูงใจแบบนี้อยู่อีกด้วย“ใช่แล้ว คนที่ขายสมบัติประจำชาติ ก็คือพวกเขาเหล่านี้”หัวหน้าของชาวเวน่าชี้ไปที่จางกุ้ยหลานกับหลินเฟิง
“เพียงแค่วางยาคุณหลงซิ่ว เพื่อดูว่าคุณมีพละกำลังพอที่จะเป็นลูกผู้ชายหรือเปล่า”หลินเฟิงมองไปที่หลงซิ่วที่สวมสูทสีชมพู แต่งเนื้อแต่งตัวเกินความพอดี รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาจริงใจอย่างยิ่ง"แก......"“เอาล่ะ เอาล่ะ ผมรู้ว่าคุณทรมาน วางใจได้ ผมไม่มีทางไม่สนใจคุณ”ขณะพูดหลินเฟิงดีดนิ้วชายสองคนในชุดสูทก้าวออกมาจากด้านหลังของหลินเฟิง หามหลงซิ่วขึ้นและพาเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สองคนเหล่านี้คือคนของเผิงกวงฉี่ส่วนเผิงกวงฉี่ก่อนหน้านี้ เขาได้นำลูกน้องสี่หรือห้าคนของเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สอง ที่มีโซฟาสีชมพูขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ถ่ายภาพตั้งนานแล้วภายในห้องมีชายเปลือยกาย 2 คนล้มลงในแอ่งเลือดเมื่อถานหงเดินเข้ามาในห้องส่วนตัวด้วยรอยยิ้มอาฆาตบนใบหน้า เห็นชายที่นั่งอยู่บนโซฟารอยยิ้มบนใบหน้าของเธอแข็งทื่อ และกลายเป็นร่องรอยของความกลัวและความตื่นตระหนก“ถานหง ผ่านไปเพียงไม่กี่วัน เธอก็ได้พบกับที่พึ่งใหม่แล้วเหรอ?”เผิงกวงฉี่นั่งสูบบุหรี่ซิการ์อยู่บนโซฟา และมองไปที่ถานหงอย่างไม่ใส่ใจ"ฉัน......"ถานหงรู้สึกสับสนในเวลานี้ เผิงกวงฉี่มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?หรือว่า...หัวใจของถานหงรู้ส
ชีพจรมังกร...จะเป็นจื่อเสวียนรึเปล่านะ? -อิ่นนั่วเจียตกใจอย่างมาก และไม่ทราบว่าจื่อเสวียนกลายมาเป็นชีพจรมังกรที่หลงซิ่วพูดถึงได้อย่างไรดูเหมือนว่าตระกูลหลงจะต้องการสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรอย่างมากและครั้งนี้หลงซิ่วช่วยเหลือถานหง ในที่สุดก็รู้เป้าหมายชัดเจนแล้วพวกเขามาที่นี่เพื่อสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรในมือของหลินเฟิง!หลังจากคิดเรื่องนี้ออก ใบหน้าของอิ่นนั่วเจียก็ไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ออกมาเลย นอกจากความคิดอันลึกซึ้งในทางกลับกัน จวงฉุนกลับถามหลงซิ่วด้วยสีหน้าสับสน:“คุณหลงซิ่ว ชีพจรมังกรคืออะไร?”“ชีพจรมังกรนั้นคือ…”หลงซิ่วไม่ต้องการตอบคำถามของจวงฉุน แต่เห็นว่าอินนั่วเจียยังคงจมอยู่กับความคิดเขาอธิบายอย่างเรียบง่ายว่า:"มีการกล่าวกันว่าชีพจรมังกรเป็นที่มาของโชคลาภของประเทศมังกร"“หากรวบรวมชีพจรมังกรครบทั้งแปดเส้นได้ ก็จะกลายเป็นราชาแห่งมังกรตัวจริงได้ ตามประวัติศาสตร์แล้ว ชีพจรมังกรเหล่านี้เป็นของตระกูลหลงของเรามาโดยตลอด”“เพราะเหตุนี้สถานที่นี้จึงเรียกได้ว่าเป็นประเทศมังกร”“แล้วนามสกุลของเราคือหลง (หลง แปลว่า มังกร) เข้าใจแล้วยัง?”“เราแค่อยากนำสิ่งที่เดิมเป็น
ดังนั้นการร่วมมือกับถานหง เพื่อจัดการกับอิ่นนั่วเจียและหลินเฟิงจึงเป็นเพียงงานเสริมเท่านั้นจุดประสงค์ที่แท้จริงของหลงซิ่วคือเพื่อสำรวจหรือแม้กระทั่งเอาชีพจรมังกรที่อยู่รอบตัวหลินเฟิงออกไป!มีเพียงแค่เอาชีพจรมังกรมาอยู่ในมือ หลงหยวนก็สามารถใช้พละกำลังของเขา จัดการกับหลินเฟิงอย่างกล้าหาญได้และเรื่องของชีพจรมังกรมีเพียงหลงซิ่วและสวีโจวซึ่งเป็นนักบู๊ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดานักบู๊ของตระกูลหลงที่เขาส่งออกไปเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ส่วนที่เหลือก็ไม่ชัดเจนนักแต่ในเวลานี้หลงซิ่วไม่รู้ว่าสวีโจวและคนอื่น ๆ ได้กลายเป็นวิญญาณที่ตายแล้วในมือของหลินเฟิง ด้วยความพยายามผลักดันของจวงฉุน ไม่มีใครหนีไปได้สักคนเหลือเพียงจวงฉุนเท่านั้น และเพื่อความอยู่รอด เขาจึงได้กลายมาเป็นคนทรยศหากหลงซิ่วรู้เรื่องนี้เกรงว่าเขาจะตบจวงฉุนคนไร้ประโยชน์คนนี้จนตายไปซะเลยแทนที่จะชื่นชมเขาเพราะเขาพาอิ่นนั่วเจียมาอยู่เคียงข้างเขา"เอาล่ะ"หลงซิ่วยืนขึ้นและโบกมือให้อิ่นนั่วเจียอย่างด้วยสีหน้านิ่งเฉย“ผมได้เตรียมคนและอุปกรณ์ไว้แล้ว อยู่ในห้องส่วนตัวใต้ดินชั้นสอง ถานหง คุณไปเตรียมตัวก่อนเถอะ”“รอผมถามคำถามอิ่
“ฉันคือลูกน้องของเธอ? คุณหลงซิ่ว นี่มันเรื่องอะไรกัน? ฉันจำได้ว่าไม่มีข้อกำหนดนั้นในสัญญาของเราหรอกมั้ง?”อิ่นนั่วเจียขมวดคิ้วและมองไปที่หลงซิ่วหลงซิ่วสับสนเป็นอย่างมาก แต่ไม่ได้พูดอะไรยังคงเป็นถานหงที่ตอบคำถามของอิ่นนั่วเจียด้วยเสียงหัวเราะ“อิ่นนั่วเจีย เธอช่างไร้เดียงสาเกินไป เธอคิดจริงๆ เหรอว่าตระกูลหลงจะเต็มใจยอมรับเธอ เพราะพวกเขาเห็นคุณค่าในชื่อเสียงและความสามารถของเธอจริงๆ”ถานหงส่ายหน้าอย่างดูถูกและกล่าวว่า:“ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน ตระกูลหลงจะยอมรับเธอได้ยังไง?”“อ่อใช่ ไม่ว่าฉันหรือตระกูลหลง ก็ไม่ได้โกหกเธอ เพราะฉันคือผู้รับผิดชอบบริษัทบันเทิงของตระกูลหลงที่เธอเข้าร่วมมาโดยตลอด”“ดังนั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อิ่นนั่วเจีย เธอต้องเชื่อฟังฉัน เข้าใจไหม?”“ฉันให้เธอถ่ายหนังอะไร เธอก็ต้องไปถ่าย”"เดี๋ยวนะ"อิ่นนั่วเจียยื่นมือออกไปและขมวดคิ้ว:“ถานหง เธอพูดรุนแรงเกินไปแล้ว ฉันจำได้ว่าฉันไม่เคยทำให้เธอขุ่นเคืองมาก่อน ทำไมเธอถึงตั้งใจจะจัดการกับฉันขนาดนั้น?”“ถึงขั้นยอมทุ่มเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเพื่อดึงตัวฉันมาจากหลี่ซื่อกรุ๊ปด้วย”“จุ๊จุ๊จุ๊”เมื่อได้ยินคำพูดของอิ่นนั
“บ้าเอ๊ย ฉันไม่สามารถทนได้จริงๆ ติดต่อน้องหลินให้ฉัน ฉันจะเข้าแทรกแซงเรื่องนี้ด้วย!”...วันต่อมาในบาร์ใต้ดินแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของเมืองจิงจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียที่สวมหมวกและหน้ากากไว้ และดูเรียบง่ายมากรีบเดินทางมาที่นี่ ที่นี่คือ “สถานที่นัดพบ” ที่หลงซิ่วพูดถึงควบคู่ด้วยเสียงดนตรีอันไพเราะและฝูงชนที่เต้นรำจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียเดินผ่านทางเดินและมองเห็นหลงซิ่วกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะ พร้อมคาบบุหรี่อยู่ในปากเมื่อเห็นว่าอิ่นนั่วเจียมาจริง ๆ ดวงตาของหลงซิ่วก็เป็นประกายบุหรี่ในปากของเขาหล่นลงพื้นโดยไม่รู้ตัวแม้ว่าอิ่นนั่วเจียจะสวมเพียงชุดเดรสยีนส์ซึ่งทำให้เธอดูเป็นเด็กสาวมากในวันนี้ แต่หุ่นที่น่าสะพรึงกลัวของเธอก็ยังทำให้ หลงซิ่วที่กำลังนั่งอยู่ตรงโต๊อย่างไม่ใส่ใจก็ต้องกลืนน้ำลายลงคอ"เชี่ย ไม่เสียแรงที่เป็นซูเปอร์สตาร์ประเทศมังกรจริงๆ นะ!"หลงซิ่วอดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบเธอกับถานหง หลังจากคิดดู นี่มันไม่ใช่คนระดับเดียวกันด้วยซ้ำ!แม้ว่าถานหงจะเป็นราชินีเพลงประเทศมังกร หน้าตาก็คล้ายๆกันแต่เมื่อเทียบกับอิ่นนั่วเจียสาวสวยที่อยู่แต่ในจอ ถานหงยังด้อยกว่าเยอะมากเพียงแค่ออร่าอันส
สำนักงานใหญ่กลุ่มเผิงกวง เมืองจิงขณะนั้นเผิงกวงฉี่กำลังคาบซิการ์ไว้ในปากอย่างเรื่อยเปื่ยอ ฟังการโต้เถียงขัดแย้งระหว่างตัวแทนจากทั่วทุกแห่งในการประชุมแม้ว่าเผิงกวงฉี่จะดูเป็นปกติ แต่ในใจเขากลับโกรธมากพวกขยะพวกนี้ได้แต่โทษกันไปมา และต่างคนต่างหาผลประโยชน์แม้แต่เผิงกวงฉี่ก็ยังคิดว่า ควรจะกำจัดคนไร้ประโยชน์เหล่านี้ และส่งเสริมให้คนอื่นขึ้นมาเป็นผู้นำภูมิภาคดีไหมขณะที่กำลังคิดแบบนี้ โทรศัพท์มือถือของเผิงกวงฉี่ก็ดังขึ้นกะทันหันเสียงโทรศัพท์ทำให้ห้องประชุมเงียบลงทันที“คุณหลินโทรมาครับ คุณเผิงกวงฉี่”ผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆ ยื่นโทรศัพท์ให้ด้วยความเคารพเมื่อคิดว่าเป็นหลินเฟิง เผิงกวงฉี่ก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมากไม่พูดไม่ได้ว่ายาหยกโมราของหลินเฟิงมีประสิทธิภาพมากจริงๆ ควบคู่กับน้ำพุร้อนที่เจียงโจว ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองดูหนุ่มลงเรื่อย ๆ และร่างกายก็เต็มไปด้วยกำลังวังชาแม้แต่ผู้หญิงคนใหม่ที่หามาช่วงนี้ ก็ไม่สามารถทำให้เขาพึงพอใจได้ช่วงนี้เขากำลังคิดว่าควรจะหาเพิ่มอีกสักหน่อย เพื่อสร้างทายาทให้กับตระกูลเผิงของเขาสองเดือนที่แล้ว นี่เป็นสิ่งที่เขาไม่กล้าคิดมาก่อนด้วยซ้ำ“ฮัลโหล
“ฉันจะโอนเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเข้าบัญชีของคุณทันที ทางที่ดีคุณให้อิ่นนั่วเจียออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ปโดยเร็วที่สุด ให้เธอมาพบฉันที่เมืองจิง”"ฮ่าฮ่าฮ่า......"ถานหงที่อยู่ปลายสายหัวเราะอย่างโอเวอร์“ฉันต้องการให้อิ่นนั่วเจียคุกเข่าอยู่แทบเท้าฉัน! ยังมีหลินเฟิง ฉันจะทำให้หลินเฟิงและหลี่ซื่อกรุ๊ปบ้าบออะไรนั่นได้ชำระในสิ่งที่ควรจ่าย!”หลังจากพูดจบโทรศัพท์ก็วางสายไปและภายในเวลาไม่กี่นาที ข้อความเงินสดเข้าบัญชีจำนวนสองหมื่นห้าพันล้านบาทก็ปรากฏบนโทรศัพท์มือถือของจวงฉุนทันทีเมื่อมองดูข้อความบนโทรศัพท์ ลมหายใจของจวงฉุนก็เร็วขึ้นอย่างมาก เขาไม่เคยเห็นเงินมากขนาดนี้ในชีวิตของเขามาก่อนแต่เมื่อเขาเงยหน้ามองไปทางหลินเฟิง ก็รู้สึกเหี่ยวเฉาทันทีเขารู้ว่าเงินจำนวนนี้จะไม่มีวันมาถึงเขาด้วยซ้ำ อีกทั้งเรื่องที่อิ่นนั่วเจียเข้าร่วมตระกูลหลงเป็นเรื่องโกหกทั้งหมดเขาแค่อยากหลอกเอาเงินก้อนนี้มาจากหลงซิ่ว เพื่อใช้รักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้ก็เท่านั้นเอง“ตอนนี้โอนเงินก้อนนี้เข้าบัญชีของหลี่ซื่อกรุ๊ปเถอะ”หลินเฟิงไม่พูดมาก บังคับจวงฉุนให้ดำเนินการบนโทรศัพท์มือถือของเขาโดยตรงหลังจากนั้นไม่นาน เงิน
“ดูเหมือนว่าคุณจะได้เจอกับอิ่นนั่วเจียจริงๆ นะ”หลงซิ่วที่อยู่ปลายสายพูดอย่างใจเย็นว่า:“ผมลืมบอกคุณไปว่าตอนนี้อิ่นนั่วเจียเป็นสมาชิกของหลี่ซื่อกรุ๊ปแล้ว เธอเต็มใจที่จะออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ป และร่วมมือกับตระกูลหลงของเราจริงๆ เหรอ?”เมื่อได้ยินสิ่งที่หลงซิ่วพูดจวงฉุนสั่นสะเทือนไปทั้งตัวเกือบหัวใจวายเพราะความโมโหในที่สุดเขาก็ได้ลิ้มรสว่าการถูกหลอกเป็นอย่างไรหากหลงซิ่วเล่าเบื้องหลังของอิ่นนั่วเจียให้เขาฟังก่อนหน้านี้เขาจะพาผู้คนมาที่นี่เพื่อมาหาอิ่นนั่วเจีย และตกหลุมพรางได้ยังไง?ตอนนี้มันสายเกินไปที่จะพูดอะไรอีกแล้วร่องรอยแห่งความโกรธเริ่มผุดขึ้นในใจของจวงฉุนหากพูดว่าเมื่อครู่เพียงแค่โกหกหลงซิ่ว เขาก็มีความกดดันอยู่ไม่น้อยเมื่อเขาได้ยินว่าหลงซิ่วปกปิดเรื่องของอิ่นนั่วเจียกับเขา เขาก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันทีหากคุณไม่ได้บอกผมให้ชัดเจนก่อนที่คุณจะจากไปผมจำเป็นต้องตกไปอยู่ในมือของหลินเฟิงงั้นเหรอ?จวงฉุนตัดสินใจ คำพูดก็ราบรื่นมากขึ้น“ใช่ครับ คุณอิ่นนั่วเจียบอกผมเอง แต่ว่า...”"แต่ว่าอะไร?"หลงซิ่วที่ปลายสายโทรศัพท์ขมวดคิ้วเล็กน้อย“แต่คุณอิ่นนั่วเจียบอกว่าเธอได้เซ็น
จวงฉุนคิดว่าคำพูดนี้สมบูรณ์แบบไร้ที่ติขณะที่จวงฉุนกำลังจมอยู่กับจินตนาการของเขา หลินเฟิงก็ยื่นมือออกไปและโบกไปมาตรงหน้าจวงฉุน“การปล้นทำลายของพวกนายในครั้งนี้ ได้ทำลายสินค้าของหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันมูลค่าสองหมื่นห้าพันล้านบาทเต็มๆ เพียงแค่นายสามารถชดเชยเงินสินค้าเหล่านี้ให้เราได้ ฉันก็จะไม่ถือสาเอาความ”"สองหมื่นห้าพันล้านบาท?"เมื่อได้ยินตัวเลขนี้ อิ่นนั่วเจียที่อยู่ข้างๆ ก็เปิดริมฝีปากสีแดงของเธอออกครู่หนึ่ง เธอก็ส่ายหัวอย่างจนปัญญาหลินเฟิงกำลังพยายามกรรโชกเงินอยู่เหรอ!"เป็นไปไม่ได้!"เห็นได้ชัดว่าจวงฉุนก็ตกใจกับจำนวนเงินมหาศาลนี้อย่าว่าแต่ยี่สิบห้าล้านบาทเลย แม้แต่ห้าพันล้านบาทเขาก็ยังไม่มี จะอุดรูโบ๋นี้ได้อย่างไรหลินเฟิงรีดไถมากเกินไปจริงๆ“แน่นอนว่าหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันไม่สนใจเงินจำนวนน้อยๆ นี้ แต่ฉันแค่อยากเห็นท่าทางของคุณ”“เป็นไงบ้าง?”หลินเฟิงจ้องมองจวงฉุนด้วยความสนใจอย่างยิ่ง ต้องการดูว่าคนๆ นี้จะหาเงินได้มากเท่าไหร่เพื่อเอาชีวิตรอดได้ในเมื่อเสียหายหนึ่งหมื่นล้านบาท หลินเฟิงต้องหาชดเชยมาจากที่อื่น"ดี...ดีครับ!"จวงฉุนรู้ดีว่าวันนี้เขาไม่มีสิทธิ์ต่อรองกับหลิ