หลังจากที่หัวหน้าชาวเวน่าตายไปไม่ถึงห้านาทีทั่วทั้งโรงงานก็ไม่มีชาวเวน่าที่มีชีวิตอยู่อีกแล้วคนส่วนใหญ่ในกลุ่มพวกเขาเสียชีวิตจากการฆ่าสังหารกันเอง อีกทั้งเสียชีวิตอย่างอนาถ มองดูจางกุ้ยหลานที่อยู่ข้างๆ อ้วกไม่หยุดจางซินก็สีหน้าซีดเซียว ตึงเกร็ง ไม่กล้าพูดจาสักประโยค“พี่…ชิงเสวียน!”ในตอนที่หลินเฟิงยืนอยู่ท่ามกลางกองศพที่เหม็นคาวเลือด เขาได้ยินเสียงตะโกนเรียกจากด้านหลังกะทันหันรอให้หลินเฟิงหันหน้ามองไปเขาเห็นหญิงสาวที่น้ำตาคลอเบ้าคนหนึ่ง จ้องมองหลินเฟิง เหมือนกับจะระบายความคิดถึงที่มีมาหลายปีผ่านสายตาของตัวเอง“คุณ…คุณจำผิดคนแล้ว”หลินเฟิงก้มหน้าด้วยความเศร้าสลด เงียบขรึมครู่หนึ่ง จากนั้นเงยหน้ายิ้มพูดว่า:“ผมชื่อหลินเฟิง ไม่ได้ชื่อหลินชิงเสวียน บ้านของผมอยู่เจียงโจว อ่อใช่ ผู้นำกลุ่มพันธมิตรหยินหลิง ครั้งที่แล้วที่พวกเราเจอหน้ากันก็คือที่สำนักเสินฉือ คุณคงไม่ลืมใช่ไหม?”หยินหลิงปิดปากของตัวเอง และส่ายหน้าอย่างแรง“พี่! พี่เลิกหลอกฉันได้แล้ว พี่ก็คือพี่ชิงเสวียน พี่เป็นพี่ชิงเสวียนขอฉันตลอดไป!”“พี่ พี่รู้ไหมว่าหลายปีมานี้ฉันตามหาพี่ด้วยความยากลำบากขนาดไหน?!”“พวกเขา
“จริงเหรอคะ? พี่…คุณหลินเฟิง? คุณไม่พิจารณาหน่อยเหรอคะ?”“เป็นเพราะฉัน…เพราะหยินหลิงโตแล้ว ไม่สวยแล้วงั้นเหรอ?”หยินหลิงอยากร้องไห้ แต่พยายามให้ตัวเองยิ้มสีหน้ากระอักกระอ่วนทำให้จีอวิ๋นเจี๋ยที่อยู่ข้างๆ รู้สึกสงสารเล็กน้อยยิ่งไม่ต้องพูดถึงหลินเฟิงเลย“อืม”หลินเฟิงหันหน้าไป และพยักหน้า“ต่อไปพวกเราไม่ต้องเจอหน้ากันอีกเป็นดี”“งั้นเอาแบบนี้ ฉันเข้าใจแล้ว”หยินหลิงใช้แขนเสื้อเช็ดหน้าของตัวเอง ก้าวเดินออกไปจากโรงงาน โดยไม่หันหน้ากลับมามองอีก“เอ๊ะ ทำไมวันนี้ลมฝุ่นพัดแรงจัง? ฮ่าฮ่า…แปลกจริงๆ เลยนะ…”ขณะที่พยายามอยากจะทำให้น้ำเสียงเปลี่ยนไปผ่อนคลาย เงาของหยินหลิงหายไปจากด้านหน้าของทุกคน“สหายหลิน…”จีอวิ๋นเจี๋ยไม่รู้ว่าควรจะปลอบใจหลินเฟิงอย่างไรเพราะว่าเขาเป็นคนนอก ไม่รู้ว่าทำไมหลินเฟิงถึงไม่ยอมรับกองกำลังที่แข็งแกร่ง และก็คนที่น่ารักเหมือนนางฟ้าแบบนี้“เฮ้อ…”หลินเฟิงถอนหายใจอย่างแรง หันหน้ามองไปทางจีอวิ๋นเจี๋ย และพยักหน้าพูด: “สหายจี เรื่องที่เหลือฝากคุณจัดการด้วย เรื่องในวันนี้ รบกวนคุณถือว่าทำเป็นไม่เห็นอะไร”“วางใจเธอ สหายหลิน”จีอวิ๋นเจี๋ยพยักหน้าอย่างจริงจังจาก
“เฮ้อ…ถ้าหากถังหว่านอยู่ด้วยก็ดีสิ”ในใจของหลี่ฮุ่ยหรานมีความคิดแบบนี้โผล่ขึ้นมากะทันหัน ถ้าหากถังหว่านอยู่ด้วย งั้นยัยเด็กคนนี้ไม่มีทางกล้ากำเริบเสิบสานแบบนี้เพราะว่ามีน้อยคนมากที่จะเอาชนะปากของถังหว่านได้ถ้าหากถังหว่านอยู่ที่นี่ เพียงไม่กี่ประโยคก็ปราบเด็กคนนี้จนยอมพ่ายแพ้อย่างแน่นอนส่วนปากของเธอนั้นโง่สุดๆ มองดูเด็กคนนี้เหน็บแนมเธอสารพัด เธอกลับจนปัญญาไม่สามารถเถียงกลับได้ทำได้เพียงฟังอาอวี๋ที่อยู่ข้างๆ ขอโทษอย่างหนักแน่นอนว่า หลี่ฮุ่ยหรานยิ่งไม่สามารถลดหน้าลงมา คิดเล็กคิดน้อยกับยัยเด็กคนนี้ได้“แม่! พวกแม่ไม่เป็นไรใช่ไหม?”ในตอนนี้เอง หลินเฟิงพาจางกุ้ยหลานกับจางซินเข้ามาข้างใน หลี่ฮุ่ยหรานเห็นแล้วจึงรีบวิ่งเข้ามาในเมื่อจางกุ้ยหลานคือแม่ของเธอ พูดว่าไม่กังวลก็เป็นเรื่องโกหกตอนนี้เห็นหลินเฟิงพาแม่ของตัวเองกลับมาอย่างปลอดภัย เธอส่งสายตาซาบซึ้งใจไปทางหลินเฟิงอย่างอดไม่ได้“หึ จะไม่เป็นไรได้ยังไง?”จางกุ้ยหลานคิดคำพูดมาตลอดทาง เธอเหลือบมองหลินเฟิง และบ่นพึมพำ: “เงินถูกคนพวกนั้นแย่งชิงไปหมดแล้ว”“อะไรนะ?”หลี่ฮุ่ยหรานนิ่งอึ้งครู่หนึ่ง จากนั้นรีบพูดอย่างร้อนรน:“แม
อาอวี๋รีบเข้ามาขอโทษ“หนูไม่รู้เรื่องอะไรล่ะ?”อวี๋จื่อเสวียนเหยียดหยาม กอดอกแล้วพูดว่า: “ไม่เพียงทำเงินที่ลูกสาวฝากไว้กับตัวเองหาย แถมยังย้อนกลับมา ให้ลูกสาวขายบริษัททิ้ง เพื่อชดเชยความผิดของตัวเอง”“จุ๊จุ๊จุ๊ คุณเป็นแม่ที่ โหดร้ายยิ่งกว่าแวมไพร์อีกนะ! ขโมยมาแล้วยังต้องกราบคุณ ขอให้คุณสอนวิธีดูดเลือดที่เป็นธรรมชาติถึงขนาดนี้ให้กับเขา”หลังพูดจบประโยคสุดท้าย จางกุ้ยหลานก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ“นังเด็กบ้า ฉันจะฉีกปากแกซะ!”จางกุ้ยหลานกรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า…ตีกันเลย ตีกันเลย!”หลี่เยว่หรูปรบมืออยู่ที่ชั้นบน“พอแล้ว!”หลินเฟิงตวาดเสียงเย็นชา ในที่สุดก็หยุดความวุ่นวายนี้ลงได้หลินเฟิงครุ่นคิดถึงข่าวสารที่หัวหน้าชาวเวน่า เปิดเผยกับเขาในตอนสุดท้ายเขาไม่มีอารมณ์จะเข้าร่วมเรื่องของจางกุ้ยหลานกับคนอื่นๆ “ก่อนหน้านี้เงินที่คุณมอบให้ชาวเวน่า คุณชายจีอวิ๋นเจี๋ยจะตามหากลับมาให้ หักออกไปห้าร้อยล้านบาทถือเป็นการชำระค่าโครงการ เงินที่เหลือเขาจะคืนกลับให้ครบถ้วนตามธรรมชาติหลินเฟิงขมวดคิ้ว คำพูดสองสามประโยคทำให้จางกุ้ยหลินโล่งใจแต่ไม่เห็นเธอขอบคุณหลินเฟิง กลับยังยิ้มอย่างอ่อน
หลินเฟิงถูกพูดจนยอมแล้ว แต่เขายังคงไม่วางใจหลี่ฮุ่ยหราน ดังนั้นจึงตั้งกฏข้อสัญญาเอาไว้ ให้เธออยู่ในชุมชนกลางเมือง ไม่ให้ไปไหนซี้ซั้วหลี่ฮุ่ยหรานรับปากอย่างกระตือรือร้นดูท่าเธอค่อนข้างดีใจต่อเรื่องที่ตัวเองได้อยู่ต่อหลี่เยว่หรูและจางกุ้ยหลาน กับจางซินทั้งสามคน หลินเฟิงสั่งตู้ไหวให้ส่งคนไปคุ้มกันพวกเธอกลับเมืองเจียงโจวนี่เป็นการป้องกันไม่ให้ชาวเวน่าคนอื่นๆ หลบหนีออกจากเมืองจิงด้วยหลังจากทำเรื่องเหล่านี้เสร็จ ในที่สุดหลินเฟิงก็มีเวลาว่างเพื่อจัดการความคิดยุ่งๆ ของเขาอันดับแรกคือข่าวสารที่หัวหน้าชาวเวน่าเปิดเผยต่อเขาผุ้บริหารประเทศมังกร ประเทศเวน่า พ่อของตัวเอง และการเสียชีวิตของแม่ ยังมีการทำลายสำนักเสวียนเทียนเมื่อสามปีที่แล้ว แอบมีความเชื่อมโยงที่แปลกประหลาดดูจากพฤติกรรมของพ่อของเขาและอาฝูในตอนนั้นแล้วเกรงว่าผู้ที่บงการเบื้องหลังเหตุการณ์ เป็นพ่อของหลินเฟิง ราชาหลินแห่งตอนใต้ที่มีตัวตนที่ไม่สามารถขัดแย้งได้ส่วนสำนักเสวียนเทียนถูกทำลายหลินเฟิงก็เดาได้ว่าพ่อของเขาจงใจรับผิดผู้นำประเทศมังกรมีข้อตกลงแบบไหนกับประเทศเวน่ากันแน่นะ?หลินเฟิงไม่สามารถเข้าใจได้ และรู้สึกห
เดินทางไปก็เดินทางไปเถอะยังไงซะตอนนี้หลินเฟิงก็ไม่มีธุระอื่น มีเพียงเรื่องเดียวก็คือรอให้ศิษย์น้องหญิงของเขาแจ้งให้เขาไปพบกับตระกูลถังนี่ไม่ใช่ข่าวที่สามารถมีได้ภายในวันสองวันที่สำคัญกว่านั้นคือ…หลินเฟิงได้ยินเสียงฝีเท้าที่คุ้นเคยเริ่มเข้ามาใกล้ประตูห้องของเขามากขึ้นเรื่อยๆนั่นคืออวี๋จื่อเสวียนตอนนี้ หลี่ฮุ่ยหรานอยู่ห้องข้างๆ ถ้าถูกเธอเห็นเข้าจะทำยังไง?ดังนั้นหลินเฟิงหยุดชะงัก ลุกขึ้นยืน พูดล้อเล่นว่า:“หมอเทวดาเลี่ยว คุณเชิญผมบ่อยขนาดนี้ ผมจะเก็บค่ารักษาแล้วนะ”“ไม่มีปัญหา ไม่มีปัญหาแน่นอนครับ!”เดิมทีหมอเทวดาเลี่ยวคิดว่าหลินเฟิงไม่มีทางลับปากในเมื่อวิธีการของหลินเฟิงนั้นล้ำหน้าไปจริงๆ เขารบกวนหลินเฟิงถึงสองครั้งภายในเวลาหนึ่งสัปดาห์สั้นๆยอดฝีมือมีนิสัยแปลกประหลาดเล็กน้อยตัวเองรบกวนเขาแบบนี้ ไม่แน่ทำให้เขาโมโห ระเบิดอารมณ์ ด่าทอเขายกใหญ่ทันทีเรื่องแบบนี้ต่างก็มีความเป็นไปได้และเขาก็ไม่กล้าพูดอะไร ทำได้แค่รับฟังถ้าหากไม่ใช่ว่าแขกในวันนี้สำคัญอย่างมาก หมอเทวดาเลี่ยวไม่กล้ารบกวนหลินเฟิงเด็ดขาดเห็นได้ชัดว่า เขาคิดมากไปแล้วหลินเฟิงพูดง่ายยิ่งกว่าที่เขาคิดไว
ขณะพูด หมอเทดาเลี่ยวขออภัยกับผูป่วยที่อยู่ข้างๆ จากน้ันรีบก้าวเท้าเดินเร่งฝีเท้าออกไปต้อนรับหลินเฟิงศูนย์การแพทย์ตระกูลเลี่ยวใช้การออกแบบลานแบบดั้งเดิมของประเทศหลงทางจากโถงด้านหลังไปที่ประตูหน้าไม่ใกล้ เพราะตื่นเต้น มีหลายครั้งตอนที่ขึ้นบันไดเกือบจะล้มลงโชคดีที่มีหลานชายประคองอยู่ข้างๆไม่อย่างนั้นหมอเทวดาเลี้ยวยังไม่ได้พบหลินเฟิงก็บาดเจ็บเต็มตัว แบบนั้นจะทำให้คนหัวเราะจนฟันร่วง“คุณปู่ คุณปู่ว่าคนคนนั้นเก่งขนาดนี้จริงๆ เหรอ?”หลานชายของหมอเทวดาเลี่ยวดูอายุไม่น้อยแล้ว ประมาณยี่สิบกว่าๆ สวมแว่นตามีท่าทางเรียบร้อยชื่อว่าเลี่ยวจงถึงขั้นที่ใบหน้าดูแก่กว่าหลินเฟิงเล็กน้อยเขาเห็นปู่ของตัวเองเคารพนับถือถึงขนาดนี้ และมีท่าทางรีบร้อน จึงไม่ถือว่าเป็นเช่นนั้นในทันทีเดิมทีเขายังมีความเคารพต่อคุณผู้ชายท่านนี้ในเมื่อก่อนหน้านี้คุณปู่เคยพูดไว้ว่าเป็นอาจารย์ของคุณปู่แต่เมื่อครู่ได้พบเห็น บวกกับลักษณะรูปร่างหน้าตา กลับเป็นแค่วัยรุ่นคนหนึ่งที่ดูอายุยังน้อยกว่าเขานี่จึงทำให้ในใจของเลี่ยวจงเกิดความรู้สึกที่เหลือเชื่ออย่างบอกไม่ถูก หรือว่าคุณปู่ของเขาจะป่วยเป็นอัลไซเมอร์?และรับนัก
ถ้าหากให้เด็กผู้หญิงคนนี้ดื่มเข้าไป ไม่เพียงไม่ได้รักษาอาการป่วย แถมยังทำให้อาการหนักยิ่งกว่าเดิม ถึงขั้นที่เกิดผลที่ตามมาอย่างไม่แน่ชัด“ไม่ได้ ยาพวกนี้ให้เด็กดื่มไม่ได้ ดื่มแล้วไม่เพียงไม่รักษาอาการ แถมยังอาการหนักยิ่งกว่าเดิม!”หลินเฟิงกำใบรายการยาโยนทิ้งไปในถังขยะ“หือ?”เห็นหลินเฟิงเป็นแบบนี แม่ของเด็กนิ่งอึ้งทันที“พรวด...”ไกลออกไป เลี่ยวจงที่เตรียมจะเข้ามาก็หลุดขำออกมา“คุณปู่ นี่ก็คือหมอเทวดาที่คุณปู่เชิญมาเหรอ? คุณเลอะเลือนไปแล้วเหรอ?”เลี่ยวจงชี้ไปทางเด็กผู้หญิงที่ร้องไห้จนเสียงแหบแห้งอยู่ในอ้อมแขนของสตรีคนนั้น จากนั้นส่ายหน้ายิ้มพูด:“เด็กผู้หญิงคนนี้ทั้งๆ ที่เป็นโรคหนาว ชีพจรลอยและเต่งตึง แถมควบคู่กับอาการไอ คุณปู่ดูมือเล็กๆ ของเธอ ลูบคอของตัวเองไม่หยุด”“น่าจะไม่สบายคอหอย ทุกอย่างนี้เห็นได้ชัดเจนว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นเป็นโรคหวัดจากลมหนาว อีกทั้งเป็นโรคหวัดลมหนาวชนิดรุนแรง”เลี่ยวจงหยุดชะงักเล็กน้อยแล้วยิ้มพูด:“แต่คนคนนั้นกลับพูดว่าเป็นโรคหวัดร้อน คุณปู่ หรือว่านี่ก็คือหมดเทวดาที่คุณเชิญมา? อย่าล้อเล่นเลย?”“นี่...”หมอเทวดาเลี่ยวก็คิดว่าหลานชายของตัวเองพูดถูก
“เพียงแค่วางยาคุณหลงซิ่ว เพื่อดูว่าคุณมีพละกำลังพอที่จะเป็นลูกผู้ชายหรือเปล่า”หลินเฟิงมองไปที่หลงซิ่วที่สวมสูทสีชมพู แต่งเนื้อแต่งตัวเกินความพอดี รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาจริงใจอย่างยิ่ง"แก......"“เอาล่ะ เอาล่ะ ผมรู้ว่าคุณทรมาน วางใจได้ ผมไม่มีทางไม่สนใจคุณ”ขณะพูดหลินเฟิงดีดนิ้วชายสองคนในชุดสูทก้าวออกมาจากด้านหลังของหลินเฟิง หามหลงซิ่วขึ้นและพาเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สองคนเหล่านี้คือคนของเผิงกวงฉี่ส่วนเผิงกวงฉี่ก่อนหน้านี้ เขาได้นำลูกน้องสี่หรือห้าคนของเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สอง ที่มีโซฟาสีชมพูขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ถ่ายภาพตั้งนานแล้วภายในห้องมีชายเปลือยกาย 2 คนล้มลงในแอ่งเลือดเมื่อถานหงเดินเข้ามาในห้องส่วนตัวด้วยรอยยิ้มอาฆาตบนใบหน้า เห็นชายที่นั่งอยู่บนโซฟารอยยิ้มบนใบหน้าของเธอแข็งทื่อ และกลายเป็นร่องรอยของความกลัวและความตื่นตระหนก“ถานหง ผ่านไปเพียงไม่กี่วัน เธอก็ได้พบกับที่พึ่งใหม่แล้วเหรอ?”เผิงกวงฉี่นั่งสูบบุหรี่ซิการ์อยู่บนโซฟา และมองไปที่ถานหงอย่างไม่ใส่ใจ"ฉัน......"ถานหงรู้สึกสับสนในเวลานี้ เผิงกวงฉี่มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?หรือว่า...หัวใจของถานหงรู้ส
ชีพจรมังกร...จะเป็นจื่อเสวียนรึเปล่านะ? -อิ่นนั่วเจียตกใจอย่างมาก และไม่ทราบว่าจื่อเสวียนกลายมาเป็นชีพจรมังกรที่หลงซิ่วพูดถึงได้อย่างไรดูเหมือนว่าตระกูลหลงจะต้องการสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรอย่างมากและครั้งนี้หลงซิ่วช่วยเหลือถานหง ในที่สุดก็รู้เป้าหมายชัดเจนแล้วพวกเขามาที่นี่เพื่อสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรในมือของหลินเฟิง!หลังจากคิดเรื่องนี้ออก ใบหน้าของอิ่นนั่วเจียก็ไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ออกมาเลย นอกจากความคิดอันลึกซึ้งในทางกลับกัน จวงฉุนกลับถามหลงซิ่วด้วยสีหน้าสับสน:“คุณหลงซิ่ว ชีพจรมังกรคืออะไร?”“ชีพจรมังกรนั้นคือ…”หลงซิ่วไม่ต้องการตอบคำถามของจวงฉุน แต่เห็นว่าอินนั่วเจียยังคงจมอยู่กับความคิดเขาอธิบายอย่างเรียบง่ายว่า:"มีการกล่าวกันว่าชีพจรมังกรเป็นที่มาของโชคลาภของประเทศมังกร"“หากรวบรวมชีพจรมังกรครบทั้งแปดเส้นได้ ก็จะกลายเป็นราชาแห่งมังกรตัวจริงได้ ตามประวัติศาสตร์แล้ว ชีพจรมังกรเหล่านี้เป็นของตระกูลหลงของเรามาโดยตลอด”“เพราะเหตุนี้สถานที่นี้จึงเรียกได้ว่าเป็นประเทศมังกร”“แล้วนามสกุลของเราคือหลง (หลง แปลว่า มังกร) เข้าใจแล้วยัง?”“เราแค่อยากนำสิ่งที่เดิมเป็น
ดังนั้นการร่วมมือกับถานหง เพื่อจัดการกับอิ่นนั่วเจียและหลินเฟิงจึงเป็นเพียงงานเสริมเท่านั้นจุดประสงค์ที่แท้จริงของหลงซิ่วคือเพื่อสำรวจหรือแม้กระทั่งเอาชีพจรมังกรที่อยู่รอบตัวหลินเฟิงออกไป!มีเพียงแค่เอาชีพจรมังกรมาอยู่ในมือ หลงหยวนก็สามารถใช้พละกำลังของเขา จัดการกับหลินเฟิงอย่างกล้าหาญได้และเรื่องของชีพจรมังกรมีเพียงหลงซิ่วและสวีโจวซึ่งเป็นนักบู๊ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดานักบู๊ของตระกูลหลงที่เขาส่งออกไปเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ส่วนที่เหลือก็ไม่ชัดเจนนักแต่ในเวลานี้หลงซิ่วไม่รู้ว่าสวีโจวและคนอื่น ๆ ได้กลายเป็นวิญญาณที่ตายแล้วในมือของหลินเฟิง ด้วยความพยายามผลักดันของจวงฉุน ไม่มีใครหนีไปได้สักคนเหลือเพียงจวงฉุนเท่านั้น และเพื่อความอยู่รอด เขาจึงได้กลายมาเป็นคนทรยศหากหลงซิ่วรู้เรื่องนี้เกรงว่าเขาจะตบจวงฉุนคนไร้ประโยชน์คนนี้จนตายไปซะเลยแทนที่จะชื่นชมเขาเพราะเขาพาอิ่นนั่วเจียมาอยู่เคียงข้างเขา"เอาล่ะ"หลงซิ่วยืนขึ้นและโบกมือให้อิ่นนั่วเจียอย่างด้วยสีหน้านิ่งเฉย“ผมได้เตรียมคนและอุปกรณ์ไว้แล้ว อยู่ในห้องส่วนตัวใต้ดินชั้นสอง ถานหง คุณไปเตรียมตัวก่อนเถอะ”“รอผมถามคำถามอิ่
“ฉันคือลูกน้องของเธอ? คุณหลงซิ่ว นี่มันเรื่องอะไรกัน? ฉันจำได้ว่าไม่มีข้อกำหนดนั้นในสัญญาของเราหรอกมั้ง?”อิ่นนั่วเจียขมวดคิ้วและมองไปที่หลงซิ่วหลงซิ่วสับสนเป็นอย่างมาก แต่ไม่ได้พูดอะไรยังคงเป็นถานหงที่ตอบคำถามของอิ่นนั่วเจียด้วยเสียงหัวเราะ“อิ่นนั่วเจีย เธอช่างไร้เดียงสาเกินไป เธอคิดจริงๆ เหรอว่าตระกูลหลงจะเต็มใจยอมรับเธอ เพราะพวกเขาเห็นคุณค่าในชื่อเสียงและความสามารถของเธอจริงๆ”ถานหงส่ายหน้าอย่างดูถูกและกล่าวว่า:“ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน ตระกูลหลงจะยอมรับเธอได้ยังไง?”“อ่อใช่ ไม่ว่าฉันหรือตระกูลหลง ก็ไม่ได้โกหกเธอ เพราะฉันคือผู้รับผิดชอบบริษัทบันเทิงของตระกูลหลงที่เธอเข้าร่วมมาโดยตลอด”“ดังนั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อิ่นนั่วเจีย เธอต้องเชื่อฟังฉัน เข้าใจไหม?”“ฉันให้เธอถ่ายหนังอะไร เธอก็ต้องไปถ่าย”"เดี๋ยวนะ"อิ่นนั่วเจียยื่นมือออกไปและขมวดคิ้ว:“ถานหง เธอพูดรุนแรงเกินไปแล้ว ฉันจำได้ว่าฉันไม่เคยทำให้เธอขุ่นเคืองมาก่อน ทำไมเธอถึงตั้งใจจะจัดการกับฉันขนาดนั้น?”“ถึงขั้นยอมทุ่มเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเพื่อดึงตัวฉันมาจากหลี่ซื่อกรุ๊ปด้วย”“จุ๊จุ๊จุ๊”เมื่อได้ยินคำพูดของอิ่นนั
“บ้าเอ๊ย ฉันไม่สามารถทนได้จริงๆ ติดต่อน้องหลินให้ฉัน ฉันจะเข้าแทรกแซงเรื่องนี้ด้วย!”...วันต่อมาในบาร์ใต้ดินแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของเมืองจิงจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียที่สวมหมวกและหน้ากากไว้ และดูเรียบง่ายมากรีบเดินทางมาที่นี่ ที่นี่คือ “สถานที่นัดพบ” ที่หลงซิ่วพูดถึงควบคู่ด้วยเสียงดนตรีอันไพเราะและฝูงชนที่เต้นรำจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียเดินผ่านทางเดินและมองเห็นหลงซิ่วกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะ พร้อมคาบบุหรี่อยู่ในปากเมื่อเห็นว่าอิ่นนั่วเจียมาจริง ๆ ดวงตาของหลงซิ่วก็เป็นประกายบุหรี่ในปากของเขาหล่นลงพื้นโดยไม่รู้ตัวแม้ว่าอิ่นนั่วเจียจะสวมเพียงชุดเดรสยีนส์ซึ่งทำให้เธอดูเป็นเด็กสาวมากในวันนี้ แต่หุ่นที่น่าสะพรึงกลัวของเธอก็ยังทำให้ หลงซิ่วที่กำลังนั่งอยู่ตรงโต๊อย่างไม่ใส่ใจก็ต้องกลืนน้ำลายลงคอ"เชี่ย ไม่เสียแรงที่เป็นซูเปอร์สตาร์ประเทศมังกรจริงๆ นะ!"หลงซิ่วอดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบเธอกับถานหง หลังจากคิดดู นี่มันไม่ใช่คนระดับเดียวกันด้วยซ้ำ!แม้ว่าถานหงจะเป็นราชินีเพลงประเทศมังกร หน้าตาก็คล้ายๆกันแต่เมื่อเทียบกับอิ่นนั่วเจียสาวสวยที่อยู่แต่ในจอ ถานหงยังด้อยกว่าเยอะมากเพียงแค่ออร่าอันส
สำนักงานใหญ่กลุ่มเผิงกวง เมืองจิงขณะนั้นเผิงกวงฉี่กำลังคาบซิการ์ไว้ในปากอย่างเรื่อยเปื่ยอ ฟังการโต้เถียงขัดแย้งระหว่างตัวแทนจากทั่วทุกแห่งในการประชุมแม้ว่าเผิงกวงฉี่จะดูเป็นปกติ แต่ในใจเขากลับโกรธมากพวกขยะพวกนี้ได้แต่โทษกันไปมา และต่างคนต่างหาผลประโยชน์แม้แต่เผิงกวงฉี่ก็ยังคิดว่า ควรจะกำจัดคนไร้ประโยชน์เหล่านี้ และส่งเสริมให้คนอื่นขึ้นมาเป็นผู้นำภูมิภาคดีไหมขณะที่กำลังคิดแบบนี้ โทรศัพท์มือถือของเผิงกวงฉี่ก็ดังขึ้นกะทันหันเสียงโทรศัพท์ทำให้ห้องประชุมเงียบลงทันที“คุณหลินโทรมาครับ คุณเผิงกวงฉี่”ผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆ ยื่นโทรศัพท์ให้ด้วยความเคารพเมื่อคิดว่าเป็นหลินเฟิง เผิงกวงฉี่ก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมากไม่พูดไม่ได้ว่ายาหยกโมราของหลินเฟิงมีประสิทธิภาพมากจริงๆ ควบคู่กับน้ำพุร้อนที่เจียงโจว ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองดูหนุ่มลงเรื่อย ๆ และร่างกายก็เต็มไปด้วยกำลังวังชาแม้แต่ผู้หญิงคนใหม่ที่หามาช่วงนี้ ก็ไม่สามารถทำให้เขาพึงพอใจได้ช่วงนี้เขากำลังคิดว่าควรจะหาเพิ่มอีกสักหน่อย เพื่อสร้างทายาทให้กับตระกูลเผิงของเขาสองเดือนที่แล้ว นี่เป็นสิ่งที่เขาไม่กล้าคิดมาก่อนด้วยซ้ำ“ฮัลโหล
“ฉันจะโอนเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเข้าบัญชีของคุณทันที ทางที่ดีคุณให้อิ่นนั่วเจียออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ปโดยเร็วที่สุด ให้เธอมาพบฉันที่เมืองจิง”"ฮ่าฮ่าฮ่า......"ถานหงที่อยู่ปลายสายหัวเราะอย่างโอเวอร์“ฉันต้องการให้อิ่นนั่วเจียคุกเข่าอยู่แทบเท้าฉัน! ยังมีหลินเฟิง ฉันจะทำให้หลินเฟิงและหลี่ซื่อกรุ๊ปบ้าบออะไรนั่นได้ชำระในสิ่งที่ควรจ่าย!”หลังจากพูดจบโทรศัพท์ก็วางสายไปและภายในเวลาไม่กี่นาที ข้อความเงินสดเข้าบัญชีจำนวนสองหมื่นห้าพันล้านบาทก็ปรากฏบนโทรศัพท์มือถือของจวงฉุนทันทีเมื่อมองดูข้อความบนโทรศัพท์ ลมหายใจของจวงฉุนก็เร็วขึ้นอย่างมาก เขาไม่เคยเห็นเงินมากขนาดนี้ในชีวิตของเขามาก่อนแต่เมื่อเขาเงยหน้ามองไปทางหลินเฟิง ก็รู้สึกเหี่ยวเฉาทันทีเขารู้ว่าเงินจำนวนนี้จะไม่มีวันมาถึงเขาด้วยซ้ำ อีกทั้งเรื่องที่อิ่นนั่วเจียเข้าร่วมตระกูลหลงเป็นเรื่องโกหกทั้งหมดเขาแค่อยากหลอกเอาเงินก้อนนี้มาจากหลงซิ่ว เพื่อใช้รักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้ก็เท่านั้นเอง“ตอนนี้โอนเงินก้อนนี้เข้าบัญชีของหลี่ซื่อกรุ๊ปเถอะ”หลินเฟิงไม่พูดมาก บังคับจวงฉุนให้ดำเนินการบนโทรศัพท์มือถือของเขาโดยตรงหลังจากนั้นไม่นาน เงิน
“ดูเหมือนว่าคุณจะได้เจอกับอิ่นนั่วเจียจริงๆ นะ”หลงซิ่วที่อยู่ปลายสายพูดอย่างใจเย็นว่า:“ผมลืมบอกคุณไปว่าตอนนี้อิ่นนั่วเจียเป็นสมาชิกของหลี่ซื่อกรุ๊ปแล้ว เธอเต็มใจที่จะออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ป และร่วมมือกับตระกูลหลงของเราจริงๆ เหรอ?”เมื่อได้ยินสิ่งที่หลงซิ่วพูดจวงฉุนสั่นสะเทือนไปทั้งตัวเกือบหัวใจวายเพราะความโมโหในที่สุดเขาก็ได้ลิ้มรสว่าการถูกหลอกเป็นอย่างไรหากหลงซิ่วเล่าเบื้องหลังของอิ่นนั่วเจียให้เขาฟังก่อนหน้านี้เขาจะพาผู้คนมาที่นี่เพื่อมาหาอิ่นนั่วเจีย และตกหลุมพรางได้ยังไง?ตอนนี้มันสายเกินไปที่จะพูดอะไรอีกแล้วร่องรอยแห่งความโกรธเริ่มผุดขึ้นในใจของจวงฉุนหากพูดว่าเมื่อครู่เพียงแค่โกหกหลงซิ่ว เขาก็มีความกดดันอยู่ไม่น้อยเมื่อเขาได้ยินว่าหลงซิ่วปกปิดเรื่องของอิ่นนั่วเจียกับเขา เขาก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันทีหากคุณไม่ได้บอกผมให้ชัดเจนก่อนที่คุณจะจากไปผมจำเป็นต้องตกไปอยู่ในมือของหลินเฟิงงั้นเหรอ?จวงฉุนตัดสินใจ คำพูดก็ราบรื่นมากขึ้น“ใช่ครับ คุณอิ่นนั่วเจียบอกผมเอง แต่ว่า...”"แต่ว่าอะไร?"หลงซิ่วที่ปลายสายโทรศัพท์ขมวดคิ้วเล็กน้อย“แต่คุณอิ่นนั่วเจียบอกว่าเธอได้เซ็น
จวงฉุนคิดว่าคำพูดนี้สมบูรณ์แบบไร้ที่ติขณะที่จวงฉุนกำลังจมอยู่กับจินตนาการของเขา หลินเฟิงก็ยื่นมือออกไปและโบกไปมาตรงหน้าจวงฉุน“การปล้นทำลายของพวกนายในครั้งนี้ ได้ทำลายสินค้าของหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันมูลค่าสองหมื่นห้าพันล้านบาทเต็มๆ เพียงแค่นายสามารถชดเชยเงินสินค้าเหล่านี้ให้เราได้ ฉันก็จะไม่ถือสาเอาความ”"สองหมื่นห้าพันล้านบาท?"เมื่อได้ยินตัวเลขนี้ อิ่นนั่วเจียที่อยู่ข้างๆ ก็เปิดริมฝีปากสีแดงของเธอออกครู่หนึ่ง เธอก็ส่ายหัวอย่างจนปัญญาหลินเฟิงกำลังพยายามกรรโชกเงินอยู่เหรอ!"เป็นไปไม่ได้!"เห็นได้ชัดว่าจวงฉุนก็ตกใจกับจำนวนเงินมหาศาลนี้อย่าว่าแต่ยี่สิบห้าล้านบาทเลย แม้แต่ห้าพันล้านบาทเขาก็ยังไม่มี จะอุดรูโบ๋นี้ได้อย่างไรหลินเฟิงรีดไถมากเกินไปจริงๆ“แน่นอนว่าหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันไม่สนใจเงินจำนวนน้อยๆ นี้ แต่ฉันแค่อยากเห็นท่าทางของคุณ”“เป็นไงบ้าง?”หลินเฟิงจ้องมองจวงฉุนด้วยความสนใจอย่างยิ่ง ต้องการดูว่าคนๆ นี้จะหาเงินได้มากเท่าไหร่เพื่อเอาชีวิตรอดได้ในเมื่อเสียหายหนึ่งหมื่นล้านบาท หลินเฟิงต้องหาชดเชยมาจากที่อื่น"ดี...ดีครับ!"จวงฉุนรู้ดีว่าวันนี้เขาไม่มีสิทธิ์ต่อรองกับหลิ