เจ้านายของน้ายินดีช่วยดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้ แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ไม่ใช่คนใจดีถึงขั้นที่จะยอมช่วยอะไรใครฟรีๆ
สำหรับคนอย่างคชา หากต้องเสียเงินมากมายขนาดนั้นก็ต้องมีสิ่งที่สมน้ำสมเนื้อกันมาแลก และบังเอิญว่าเขา…ดันมองเห็นสิ่งที่ว่าในตัวของหลานสาวเลขา บางสิ่งที่อยากจะได้มาครอบครองทันทีที่เผลอไปสบเข้ากับดวงตากลมโตที่อัดแน่นไปด้วยความไร้เดียงสาของอีกฝ่ายเข้า ความไร้เดียงสาที่มันเผลอปลุกเอาสัญชาตญาณดิบในตัวเขาให้ลุกโชนขึ้น!
‘ไปอยู่กับฉันสามเดือน…หรือจะหาเงินสองล้านมาคืนฉันก็แล้วแต่ เธอเลือกเอาเองก็แล้วกัน!’ ชายหนุ่มให้เธอเป็นคนเลือก ในขณะที่เขานั้น ทำเพียงแค่ยืนกดดันกันห่างๆ เพื่อรอฟังคำตอบ และหากสุดท้ายแล้วเธอเลือกที่จะปฏิเสธ เขาก็พร้อมที่จะเข้าใจ
“สะ…สามเดือนเท่านั้นใช่ไหมคะ”
“ไม่เกินไปกว่านี้…” เธอมารู้ทีหลังจากนั้นเพียงไม่นานว่าสามเดือนข้างหน้าคู่หมั้นที่แสนเพียบพร้อมของเขากำลังจะกลับมาจากเรียนต่อปริญญาโท และทั้งคู่ก็มีแพลนจะแต่งงานกันหลังจากนั้น ในส่วนเธอก็คงเป็นแค่คนคั่นเวลาเหงาให้เขาระหว่างรอคอยคนรักที่กำลังจะกลับมาเท่านั้น ไม่มีทางเลยที่คนธรรมดาอย่างเธอจะเป็นอะไรที่สำคัญสำหรับเชา เพราะว่าเขามีคนที่รักและอยากใช้ชีวิตด้วยอยู่แล้ว ซึ่งคนๆ นั้นก็ไม่มีวันเป็นเธอ
‘หนู…ตกลงค่ะ’ คชาไม่ได้ตอบอะไรนอกจากสั่งให้เธอเก็บข้าวของที่จำเป็น ส่วนเขาก็เดินหายออกไปจากบ้านทิ้งไว้ก็แต่คุณดนุมือขวา ที่ขับรถพาเธอไปทิ้งไว้ที่คอนโดหรูริมแม่น้ำเจ้าพระเจ้า
และคืนนั้นเองที่เธอตกเป็นของเขาครั้งแรก…มันเป็นค่ำคืนที่เธอจะไม่มีวันลืม เพราะนอกจากเขาจะอ่อนโยนกับเธอมากแล้วนั้น เขายังสอนให้เธอได้เรียนรู้ที่จะคว้าความสุขด้วยตัวเอง
ตลอดสามเดือนที่เธอมีโอกาสได้ใกล้ชิดกับเขานั้น เธอมีความสุขทุกวันจนนึกอยากจะให้วันเวลาเดินให้ช้าลงอีกหน่อยเพื่อที่ว่าเธอจะได้เก็บความทรงจำที่ได้ทำร่วมกันเอาไว้ให้ได้มากที่สุดเท่าที่มันจะมากได้ แต่ก็เหมือนคำขอนั้นจะไม่เป็นผลเลยสักนิด เพราะนอกจากวันเวลาจะเดินเร็วขึ้นแล้วนั้น อาการหลังผ่าตัดของน้าสาวของเธอ ก็เหมือนว่ามันจะไม่ดีขึ้นเลยสักนิด
ทว่าหนึ่งเดือนก่อนที่สัญญาที่มีจะจบลง เธอกลับพบว่าตัวเองตั้งท้อง ซึ่งคนที่ทำให้เรื่องนี้เกิดขึ้นก็ไม่ใช่ใครอื่นที่ไหนเลย
แต่เป็นน้าสาวของเธอเองที่จงใจสลับยาคุมกำเนิดของเธอ ทำให้เกิดความผิดพลาดที่ใครก็ไม่ทันคาดคิดขึ้นจากนั้นหนึ่งเดือน ความผิดพลาดที่แม้แต่เธอยังตกใจ นับประสาอะไรกับเขา
คนที่เกลียดการถูกบงการชีวิตเสียยิ่งกว่าใครๆ
‘ใจอยากให้คุณคีรับผิดชอบยัยนาด้วยการแต่งงานและจดทะเบียนสมรสอย่างถูกต้องค่ะ ไม่อย่างนั้นใจคงไม่มีทางเลือก…’
เพราะในเวลานั้นเธอยังไม่บรรลุนิติภาวะ การพูดคุยตกลงกันอย่างลับๆ ถึงได้เกิดขึ้นที่ห้องรับแขกของบ้าน ซึ่งมีสมาชิกอยู่ครบทุกคน ไม่เว้นแม้แต่ศจีคู่หมั้นของคชา ที่เธอเพิ่งมีโอกาสได้พบกับอีกฝ่ายตัวเป็นๆในวันนั้น ซึ่งยิ่งได้เห็น ก็ยิ่งทำให้รู้สึกอิจฉา
และความอิจฉาที่เกิดขึ้นนั่นเอง ที่มันได้เปลี่ยนสายตาที่เคยเอ็นดูกัน ให้แปรเปลี่ยนกลายเป็นความเกลียดชังสุดหัวใจ
คชาไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจในเรื่องนี้
เพราะท่านสันติ ปู่ของเขาเป็นคนขยับเข้ามาเจรจากับน้าสาวของเธอแทน อีกฝ่ายให้คำมั่นว่าจะทำทุกอย่างตามที่พวกเธอร้องขอ และนั่นรวมไปถึงการจดทะเบียนสมรสกันอย่างลับๆ ระหว่างเธอกับพ่อของลูก ซึ่งเขาให้เธอได้เพียงเท่านั้น จะไม่มีงานแต่งงานใหญ่โต หรือแม้แต่คำมั่นสัญญาว่าจะรักและดูแลกันไปจนแก่เฒ่า จะมีก็แต่สายตาเกลียดชังจับใจของเขาเท่านั้น ที่จ้องมองกันตลอดเวลา ขณะที่จรดเซ็นชื่อลงไปในทะเบียนสมรส
‘อย่าได้คิดว่าเธอจะมีความสุข นับจากวินาทีนี้ไปฉันจะทำให้เธอสำนึก… ว่าการต้องทนอยู่อย่างตายทั้งเป็นมันรู้สึกยังไง!’ชายหนุ่มไม่ได้ทำเพียงแค่ขู่กันเล่นเท่านั้น แต่เขาทำให้เธอได้เห็นมาตลอด นับตั้งแต่วันแรกที่เธอย้ายเข้าไปอยู่ในเรือนหอที่ปู่ของเขาจัดหามาให้ ว่าเขาทำได้ทุกอย่างอย่างที่พูดออกมาจริงๆ
แรกๆ เธอก็พอจะรับมือกับความใจร้ายของเขาได้บ้างเพราะมีน้าสาวคอยให้การช่วยเหลือ แต่นั่นก็เป็นเวลาแค่สองเดือนเท่านั้น สองเดือนที่ได้เห็นว่าหลานสาวเพียงคนเดียวของตนเองมีคนปกป้องดูแล สายใจก็จากไปอย่างสงบ ทิ้งไว้ก็แต่เธอที่ต้องอยู่รับผลจากกระทำของผู้เป็นน้าต่อ จนกระทั่งวันนี้ วันที่ลูกสาวตัวน้อยได้ถือกำเนิดขึ้นมา พ่อของแกก็ยังใจร้ายไม่เปลี่ยน
“คะ…คุณคะ!” กระทั่งเมื่อปลายนิ้วหนาค่อยๆ แทรกผ่านความคับแน่นที่ชุ่มช่ำ มายังจุดที่แม้แต่ตัวเธอเองยังไม่เคยล้วงล้ำลึกซึ้งถึงเพียงนี้ เสียงหวานถึงได้ร้องครางขึ้นเบาๆ ให้กับความรู้สึกแปลกใหม่ ที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับร่างกายของเธอมาก่อน “แค่นิ้วยังรัดขนาดนี้…เธอมันแม่มดชัดๆ” เขากล่าวเพียงเท่านั้นก่อนจะขยับปลายนิ้วเข้าออกเป็นจังหวะไปพร้อมๆ กับเสียงครวญครางที่ดังขึ้นตามติด ทว่ายังไม่ทันที่เธอจะถึงที่หมาย ปลายนิ้วที่ชุ่มไปด้วยน้ำรักก็ชักออก พร้อมๆ กับร่างเธอที่ลอยขึ้น “อย่าเพิ่งรีบเสร็จสิคนสวย เรายังมีเวลาสนุกกันทั้งคืน” คชาไม่ปรารถนาให้แม่กวางน้อยเสร็จสมเร็วนัก เพราะเขาต้องการสอนให้เธอรู้ว่าค่ำคืนนี้จะเป็นคืนที่เธอจะไม่มีมันลืมเลือน ชายหนุ่มเริ่มจากการออกคำสั่งให้เธอช่วยตัวเองให้ดู ซึ่งก็ถือว่าภาพที่ได้เห็นนั้นทำให้เขาแข็งไปทั้งตัว ไหนจะท่าทีอ่อนเดียงสาพวกนั้น ที่ยิ่งเห็น ก็ยิ่งปลุกความเป็นนักล่าในตัวให้ตื่นขึ้น “อ้าปากหน่อยเด็กดี…” แม้แต่การใช้ปากเขาก็ยังสอน ไม่สนด้วยว่านี่จะเป็นครั้งแรกของเธอ!“อ่าส์ แบบนั้น ดูดแรงขึ้นหน่อยคนเก่ง” ความห
“ชอบคนที่มาด้วยมากกว่าค่ะ” นิสัยที่กล้าแสดงออกมากขึ้นของภรรยาทำให้คชารู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก เพราะมันทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองนั้นได้เข้าใกล้เธออีกก้าว ซึ่งมันเป็นก้าวที่สำคัญ เขาว่าชายหญิงต่างกันตรงการเก็บความรู้สึก ซึ่งผู้ชายโดยทั่วไปจะเป็นประเภทคิดยังไงก็พูดออกมาแบบนั้น ในขณะที่ผู้หญิง กลับเลือกที่จะเก็บทุกอย่างไว้ในใจมากกว่าพูดมันออกมา “ฉันรักนานะ” “นาก็รักคุณคีค่ะ ขอบคุณนะคะที่ดูแลนากับลูกๆ เป็นอย่างดี นา…มีความสุขมากค่ะ” เพียงเท่านี้ที่เขาต้องการ เขาไม่หวังอะไร ไปมากกว่าการที่ได้เห็นเธอกับลูกๆ ทั้งสองมีความสุข “พี่ก็มีความสุขครับ” คำว่า ‘พี่’ ที่สามีมอบให้ทำให้พรรณรีถึงกับยิ้มกว้าง เธอโผเข้ากอดเขาเต็มรัก ก่อนจะค่อยๆ ช้อนตาขึ้น “เข้าห้องกันไหมคะ นามีของขวัญจะให้พี่คี” จะด้วยเนื่องในโอกาสอะไรก็ช่างมันเถอะ ขอแค่เป็นของขวัญที่มาจากภรรยา เขาก็ชอบทั้งนั้น “ไหนครับของขวัญพี่” พรรณรีไม่ได้ตอบอะไรนอกจากขอร้องให้สามีหลับตาลง ใช้เวลาไม่นานเธอก็บอกให้เขาลืมตาขึ้น และภาพที่ได้เห็นหลังจากนั้น ก็
“แต่ฉันกลับชอบชีวิตของตัวเองแบบนี้มากกว่านะ…” ชีวิตที่มันทั้งแสนจะเรียบง่าย และมีความสุขได้โดยไม่ต้องพยายาม มันเหมือนกับว่าเขา รู้สึกเป็นตัวเองที่สุดเมื่อได้อยู่กับเธอ! “นาครับ…เรามาเริ่มต้นกันใหม่ได้ไหม” ครั้งนี้เขาจะไม่สัญญาอะไรกับเธอทั้งนั้น แต่จะทำให้เธอได้เห็นด้วยตาของตัวเอง ว่าเขาสามารถเป็นคนที่ดีขึ้นได้ และเขาจะทำทุกทางเพื่อให้เธอกับลูกๆ มีแต่ความสุข ด้วยความตั้งใจทั้งหมดที่เขามี คชาไม่สามารถเปลี่ยนอดีตได้ แต่เขาสามารถทำปัจจุบันให้ดีขึ้น และหากได้โอกาสสักครั้ง เขาจะไม่ลังเลเลยที่จะทำมัน! “เขาว่ากันว่า…หนังสือเล่มเดิมตอนจบก็มักจะเหมือนเดิมทุกครั้ง นากลัวค่ะ กลัวว่าสุดท้ายแล้วจะต้องกลับไปเจ็บแบบเดิมอีก” ความรักที่เธอมีต่อเขายังคงเหมือนเดิมเสมอไม่เคยเปลี่ยนเลย แต่มันเป็นใจของเธอเสียมากกว่าที่กลัวจนไม่กล้าเริ่มต้นใหม่ ใช่ว่าที่ผ่านมาเธอจะไม่เคยพยายามหยุดรักเขา แต่ยิ่งพยายามมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งเหมือนจะยิ่งรักเขามากขึ้นก็เท่านั้น “ลองดูก่อนได้ไหม ให้โอกาสฉันดูสักครั้ง…” หากนี่เป็นการเสี่ยงดวงครั้งสุดท้
“ดนุ…” น้ำเสียงที่ผู้เป็นนายใช้เรียกกันนั้นทำเอาคนถูกเรียกถึงกลับรู้สึกหวั่นใจแทนคนในห้องเสียเหลือเกินกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นนับจากนี้ แน่นอนว่าใครบ้างจะไม่รู้ว่าเจ้านายของเขานั้นเจ้าคิดเจ้าแค้นเป็นที่หนึ่ง ซึ่งคุณคเชนทร์อาจต้องรับศึกหนัก โทษฐานที่ปกปิดที่อยู่ของลูกเมียเจ้านายเขามาจนถึงวันนี้ “ครับนาย” “เรื่องของเด็กนั่น…ส่งข่าวให้แม่ฉันรู้ซะ!” คนได้ฟังตกใจจนพูดอะไรไม่ออก เพราะคิดว่านายจะล่วงรู้ความลับของน้องชาย ที่พยายามมาตลอดหลายปีในการซ่อนใครอีกคนเอาไว้ ใครบางคนที่อาจจะต้องพบเจอกับเรื่องไม่คาดฝัน ถ้าหากเพียงแต่แม่ของเขานั้น ได้รู้ว่าคเชนทร์กับหล่อนยังติดต่อกันอยู่ ภาพของคนที่เขาเฝ้าแต่คิดถึงมาตลอดหลายเดือนที่ตอนนี้กำลังยืนเฝ้าลูกสาวอยู่ที่ริมหาดทำให้คชาได้แต่ยิ้มอย่างมีความสุข ถึงแม้ว่าเขาจะอยากเข้าเป็นส่วนหนึ่งของภาพตรงหน้าสักแค่ไหน แต่ท้ายที่สุดแล้วไอ้ขาเจ้ากรรมก็ดันก้าวไปออกไปดื้อๆ นั่นอาจเป็นเพราะก่อนมาที่นี่เขาไม่ได้เตรียมคำพูดดีๆ เอาไว้เลย จึงไม่รู้ว่าควรต้องเริ่มจากตรงไหนมันถึงได้ทำให้พรรณรียอม
ภาพของลูกชายคนโตที่นั่งคุกเข่าอยู่เบื้องหน้าผู้เป็นปู่นั้นสร้างความสะเทือนแก่คนสามคนที่ได้แต่แอบมองอยู่ห่างๆ ไม่น้อย แต่กระนั้นเพราะคำสั่งเด็ดขาดของประมุขของบ้านจึงไม่มีใครกล้าพอที่จะสอดมือเข้าไปยุ่ง เว้นก็แต่คุณสินีนาถผู้เป็นแม่เท่านั้น ที่รั้งความรู้สึกเป็นห่วงไม่ไหว ถึงได้ตัดสินใจเดินเข้าไปหา “คี…” “แม่ครับ…นากับลูกไม่อยู่แล้ว เขาทิ้งผมไปแล้วครับแม่…” อกคนเป็นแม่หรือจะทนมองดูลูกสะอื้นไห้อย่างคนใจสลายได้ลงคอ รู้ตัวอีกทีนางก็คว้าตัวลูกชายเข้ามากอดเอาไว้เต็มรักพร้อมกับคำปลอบมากมายที่ดังขึ้น แต่ก็เหมือนจะช่วยอะไรไม่ได้มากนัก เพราะคชายังคงพร่ำขอโทษคนที่ตอนนี้ไม่ได้อยู่ที่นี่ เพื่อฟังคำพูดเหล่านั้น. จากปากของลูกชายนางอีกแล้ว… เด็กคนนั้นแม้ภายนอกจะดูอ่อนแอ ไม่สู้คน แต่ทว่าพอเอาเข้าจริงกลับใจแข็งกว่าที่นางและใครๆ หลายคนคิด พรรณรีไม่เพียงแต่ยอมคืนอิสรภาพให้กับคชาเท่านั้น แต่อีกฝ่ายยังคืนทุกๆ สิ่งให้ลูกชายนางจนหมดไม่เว้นแม้แต่แหวนแต่งงานก็ถูกทิ้งเอาไว้ ราวกับอีกฝ่ายนั้น ไม่ต้องการให้มีสิ่งไหนติดค้างใจกันอีกไม่ว่าชาตินี้ หรือช
“เชื่อคนอย่างเธอแล้วฉันได้อะไร! ครั้งก่อนทำลายความรักของพวกฉันมันยังไม่สาแก่ใจเธอใช่ไหมห๊ะ! ครั้งนี้เธอต้องการอะไร หรือต้องให้จีตายไปมันถึงจะสาแก่ใจเธอ! ตอบฉันมาสิ!” คำถามที่มาพร้อมแรงเขย่านั้น ทำให้เธอตกใจจนกลั้นน้ำไว้ไม่อยู่ สุดท้ายแล้วเขาก็ไม่เคยมองเธอในแง่ดี ไม่เคยเลยจริงๆ “มึงใจเย็นๆ ก่อนได้ไหมวะไอ้คี!” “จีเกือบตายเพราะผู้หญิงคนนี้ มึงยังมีหน้ามาบอกให้กูใจเย็นอีกรึไง”คำตวาดนั้นทำให้เธอเข้าใจทุกสิ่งโดยไม่ต้องถามอะไร “ถ้าในสายตาคุณนาเป็นคนสารเลวขนาดนั้น…เรามาหย่ากันเถอะค่ะ!” ทุกคนต่างพากันตกใจทันทีที่ประโยคนี้สิ้นสุดลง ทว่าสำหรับคชาแล้ว เขาไม่ได้ตกใจหรือแสดงท่าทีใดๆ ออกมาเลยแม้แต่นิดเดียว “ก็เอาสิ! ฉันเองก็ขยะแขยงผู้หญิงอย่างเธอเต็มทนแล้วเหมือนกัน!” และในเมื่ออยากได้อิสระจากเขานักเขาก็จะมอบให้ พอเสียทีความไว้ใจที่เคยมี จากนี้เขาจะไม่ไว้ใจเธออีกแล้วตอนจดทะเบียนเงียบแค่ไหน ตอนหย่าจากการนั้นกลับเงียบยิ่งกว่า เพราะอดีตสามีจัดการทุกอย่างผ่านทนายทั้งหมด ราวกับว่าเขาต้องการจะทำให้เธอได้รู้ ว่า