Share

บทที่ 248

Penulis: ลูกพีชแสนสวย
มองส่งชายคนนั้นจากไป ฉันยืนอยู่ท่ามกลางสายลมเย็น

สายลมอันหนาวเหน็บพัดผ่าน ฉันกระชับเสื้อคลุมบางเบาให้แนบตัว

แสงไฟข้างทางที่ริบหรี่สลับสว่างส่งแสงสีส้มทอดลงบนตัวฉัน

ฉันก้าวเดินช้า ๆ ท่ามกลางสายลมเย็นในรองเท้าส้นสูง แสงไฟถนนสีส้มสะท้อนให้เห็นเงาหลังที่โดดเดี่ยวและอ้างว้างของฉัน

ระยะทางไม่ไกลนัก ฉันเดินกลับถึงบ้านแล้วถอดรองเท้าที่กัดเท้าทิ้งไว้บนพื้น

เท้าที่ปวดหนึบค่อย ๆ ก้าวไปบนพรมขนแกะ รอยเลือดจาง ๆ ประหนึ่งดอกเหมยที่ประทับลงบนพรม

ฉันหยิบแอลกอฮอล์และสำลีก้านมา ใช้น้ำยาฆ่าเชื้อเช็ดทำความสะอาดบาดแผล

ฉันกัดฟันอดทนกับความเจ็บ ปิดแผลด้วยพลาสเตอร์หลังจากทำความสะอาดเสร็จ

เปลือกตาหนักอึ้งจนฉันฝืนต่อไปไม่ไหว สุดท้ายจึงค่อย ๆ หลับตาลงอย่างช้า ๆ

ในความฝัน ฉันรู้สึกถึงไออุ่นอันแผ่วเบา ราวกับบ่ายแก่ในสวนที่แสงแดดอ่อนโยนสาดส่องลงบนร่างกาย

เงาร่างเลือนรางค่อย ๆ ปรากฏขึ้นตรงหน้าฉัน เห็นเพียงคุณย่าหลังค่อมยิ้มแย้มเดินเข้ามาหาฉันอย่างช้า ๆ

“คุณย่า! คุณย่า!”

ฉันร้องไห้จนใบหน้าเปื้อนไปด้วยน้ำตา วิ่งตรงไปหาคุณย่า

ฉันอยากอยู่กับคุณย่ามากแค่ไหนกัน!

ฉันอยากย้อนกลับไปยังช่วงเวลาที่ไร
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 249

    มอบความหวังให้ฉันอยู่เรื่อยมา และเมื่อฉันกำลังจะยอมแพ้ ก็ส่งมอบความหวังนั้นให้ฉันอีกครั้ง แล้วจึงฉุดกระชากความหวังทั้งหมดไปอย่างโหดร้าย ทิ้งให้ฉันผิดหวัง... และท้ายที่สุดคือความสิ้นหวัง... “เขาไม่ใช่คนที่ควรค่าแก่การรัก และฉันเองก็ไม่อยากเสียเวลาของตัวเองไปกับการรักคนที่ไม่มีทางเป็นไปได้อีกแล้วด้วย” “ฉันไม่ใช่คนที่ฉลาดหลักแหลม แต่ฉันรู้จักกาลเทศะและการวางตัว” “เฉิงเฉิง เขาไม่เคยรักฉันเลยแม้แต่น้อย แถมยังทำร้ายฉันมาตลอด แล้วฉันจะไปอยู่กับคนแบบนั้นได้ยังไง?” เมื่อคิดถึงสิ่งที่กู้จือโม่เคยทำ ฉันก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย จู่ ๆ ท้องก็รู้สึกปวดขึ้นมา ฉันกัดริมฝีปากแน่น ปลายสายดูเหมือนว่าเฉิงเฉิงจะลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่หลังจากที่เธอลังเลไปสักพัก เสียงที่เต็มไปด้วยความลองเชิงก็ดังขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “ลั่วลั่ว บางทีสิ่งต่าง ๆ อาจไม่ได้เป็นอย่างที่เธอเห็นก็ได้นะ? เขาอาจจะทำอะไรหลาย ๆ อย่าง เพียงแค่ไม่ได้บอกเธอก็เท่านั้นเอง” เฉิงเฉิงกำลังลองเชิงท่าทีของฉัน และทดสอบขีดกำจัดความอดทนของฉันไปพร้อมกัน“เฉิงเฉิง ไม่ว่าเขาจะทำอะไร ถ้าไม่ได้เกิดขึ้นต่อหน้าฉัน นั่นก็แปลว่าเขาไม่ได้รัก รักคือการคอ

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 250

    บางทีอาจเพราะได้รับกำลังใจเล็กน้อย ฉันจึงตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะจัดการเรื่องอาจารย์โอวหยางให้สำเร็จ ลั่วอี้ฝานไม่ได้บอกว่าช่วงนี้ดขายุ่งเรื่องอะไร แต่ฉันคิดว่าสิ่งที่เขาต้องทำคงไม่ใช่แค่เรื่องงาน อาจมีบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับครอบครัวของเขาด้วย แต่ฉันไม่ชอบล้วงความลับของคนอื่น จึงเลือกที่ให้ความเคารพอย่างเงียบ ๆ เมื่อฉันใช้บัตรเข้างานที่ผู้อาวุโสหนานให้มา และได้พบกับอาจารย์โอวหยางอย่างราบรื่น ฉันก็รู้ทันทีว่าตัวเองเข้าใกล้ความสำเร็จไปอีกก้าวแล้ว เพียงแต่ไม่รู้ว่าการเชิญอาจารย์โอวหยางให้กลับมาช่วยงานนั้นจะต้องแลกด้วยต้นทุนแค่ไหน แต่เขาคือความหวังเดียวของฉันที่จะพลิกสถานการณ์และคว้าชัยชนะกลับมาได้ อาจารย์โอวหยางเป็นคนเรียบง่าย สวมชุดลำลองสีฟ้าอ่อนที่ให้ความรู้สึกสดชื่นและอ่อนโยนไปพร้อมกัน อีกทั้งยังแฝงไว้ด้วยกลิ่นอายของความสง่างามแบบโบราณ “อาจารย์โอวหยาง ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ” ยังไม่ทันที่ฉันจะพูดอะไร ก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งที่แต่งตัวอย่างสง่างามเดินเข้ามาใกล้ ผู้หญิงคนนั้นสวมชุดเดรสยาวสีชมพูอ่อน ผมลอนหนาของเธอช่วยเพิ่มความสง่างามและความมีระดับให้ดูโดดเด่นยิ่งขึ้นเครื่องประดับที

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 251

    ทั้งสองเปิดฉากโต้เถียงกันต่อหน้าฉัน ฉันได้แต่ยืนมองพวกเขาทะเลาะกันไปมาโดยที่ไม่สามารถแย้งอะไรได้เลยจนกระทั่งผู้อาวุโสโอวหยางหอบหายใจหนัก ใบหน้าของเขาแดงก่ำไปด้วยความโกรธ ในตอนนั้นเองที่ฉันรู้สึกเสียใจอย่างมากโดนขัดจังหวะก็ว่าแย่แล้ว ยังต้องมาพลาดโอกาสที่ดีที่สุด ไปอีกคาดว่าเขาโกรธจนเป็นแบบนี้ คงไม่มีอารมณ์มาจัดการเรื่องความร่วมมือแล้วแน่ ๆยิ่งดูท่าทางแล้ว ดูเหมือนจะไม่พอใจเรื่องพิธีการความร่วมมือนี้อยู่ไม่น้อย หากตอนนี้ฉันพูดอะไรออกไป ก็คงเหมือนราดน้ำมันลงบนกองไฟเท่านั้นฉันจึงเลือกเดินออกไปที่สวนหลังบ้านของผู้อาวุโสโอวหยาง ที่นี่ดูสง่างามแบบเรียบง่าย มีดอกโบตั๋นปลูกอยู่ทั่วบริเวณหลังจากฝนตกเมื่อไม่กี่วันก่อน ตอนนี้ดอกโบตั๋นกำลังบานสะพรั่ง ราวกับเป็นงานแสดงที่สวยงามตระการตาฉันใช้เวลาอยู่ที่นั่นเกือบครึ่งชั่วโมง รู้ตัวดีว่าครั้งนี้คงกลับไปมือเปล่าอีกแล้วจึงตัดสินใจโทรหาลั่วอี้ฝาน“ที่นี่มีปัญหานิดหน่อย คิดว่าโครงการอาจจะไปต่อได้ยาก ถ้าไม่หาทางแก้ไขอะไรบางอย่าง โครงการของพวกเราคงต้องล่มแน่ ๆ"ในเมื่อผู้อาวุโสหนานปฏิเสธไม่ยอมช่วยเหลือ แล้วยังเจออุปสรรคครั้งใหญ่แบบนี้ หากไ

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 252

    นี่เป็นโอกาสที่หาได้ยาก ไม่เพียงแต่จะช่วยให้ฉันขยายเครือข่ายของตัวเอง แต่ยังทำให้เข้าใจสถานการณ์ในวงการนี้มากขึ้นด้วย"หนูเฉียว ใช่ไหม? ชอบดื่มชาอะไรหรือ?"ผู้อาวุโสโอวหยางที่เงียบขรึมมาตลอดจู่ ๆ ก็เก็บผลงานของตัวเองขึ้นมา ก่อนจะมองมาที่ฉันด้วยสายตาแหลมคมดูเหมือนเขาจะสนใจฉันไม่น้อย จึงเริ่มเปิดบทสนทนาขึ้น"ฉันค่อนข้างชอบชาผู่เอ๋อค่ะ แต่จะเอนเอียงไปทางชาดำมากกว่า"ก่อนหน้านี้ฉันเคยเรียนชงชาอยู่ไม่กี่ครั้ง ในสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายแบบนั้น ฉันจำเป็นต้องเรียนรู้หลายสิ่งหลายอย่างเพื่อเอาตัวรอดแม้แต่ศิลปะการชงชาก็เป็นหนึ่งในบทเรียนที่ต้องเรียน และเหตุผลที่พ่อบังคับให้ฉันเรียนสิ่งเหล่านี้ ก็เพื่อให้ฉันหาเงินทองกลับมาสู่ตระกูลเฉียวมากขึ้นแต่สุดท้ายพ่อผู้แสนดีของฉันกลับต้องจบลงด้วยการถูกส่งเข้าคุก คนที่แม้กระทั่งแม่ของตัวเองยังไม่กตัญญู คนแบบนี้ไม่ใช่คนที่มีจิตใจอำมหิตหรอกเหรอ?แล้วคนแบบนั้นจะมีจิตวจแบบไหนในการเลี้ยงดูลูกสาวให้มีความสามารถรอบด้าน?“โอ้ แบบนี้ก็น่าสนใจดีนะ ถ้างั้นช่วยชงชาให้พวกเราดื่มสักถ้วยสิ”ผู้อาวุโสโอวหยางดูประหลาดใจเล็กน้อย แต่ไม่นานสายตาที่มองฉันก็กลับมาเรียบเฉ

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 253

    การได้ร่วมงานกับผู้อาวุโสโอวหยาง จะทำให้โครงการเซาท์เทิร์น ฮิลด์ เรสซิเดนซ์มีโอกาสพัฒนามากยิ่งขึ้นฉันเม้มริมฝีปากเล็กน้อย พยายามควบคุมความรู้สึกยินดีไว้ในใจ และแสดงออกอย่างสงบ“ผู้อาวุโสโอวหยาง ฉันตื่นเต้นมากที่จะได้ร่วมงานกับคุณ หากสะดวก ฉันอยากนัดพูดคุยเรื่องความร่วมมือแบบพบหน้ากันค่ะ”ในใจฉันเต็มไปด้วยความหวัง อยากให้การเจรจาครั้งนี้สำเร็จลุล่วงเสียงหายใจที่มั่นคงจากปลายสายทำให้ฉันรู้สึกตื่นเต้นขึ้น ก่อนที่เขาจะตอบกลับสั้น ๆ แต่หนักแน่น “ได้ ถ้างั้นมาได้เลย”จากนั้น เขาก็วางสายไป ความยินดีเอ่อล้นในใจฉันอย่างที่สุดการได้โอกาสในการร่วมงานที่หาได้ยากเช่นนี้ ฉันย่อมไม่กล้าทำให้เสียไป ฉันรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดที่เรียบร้อยและสะอาดสะอ้าน ก่อนจะเร่งเดินทางไปยังบ้านของผู้อาวุโสโอวหยางทันทีเมื่อฉันมาถึงบ้านของผู้อาวุโสโอวหยาง พบว่าเขากำลังจิบชาอยู่ ในมือถือภาพบางอย่างไว้ คล้ายกับกำลังศึกษาบางสิ่งอย่างละเอียดฉันไม่ได้เข้าไปขัดจังหวะ แต่ยืนรออย่างเงียบ ๆ อยู่ข้าง ๆ ก่อนที่พ่อบ้านจะพาฉันไปนั่งที่ตรงข้ามกับเขา พร้อมกับส่งถ้วยชามะลิที่หอมอบอวลมาให้บางทีคนในวัยนี้อาจจะชื่นชอบการดื

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 254

    เนื่องจากทะเลสาบมีอายุยาวนาน ทำให้บางส่วนแห้งเหือดไป แต่ภายหลังธรรมชาติได้ฟื้นฟูตัวเอง จนค่อย ๆ กลายเป็นภูเขาเล็ก ๆ ที่มีลำธารไหลผ่าน สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติจึงค่อนข้างสมบูรณ์หากนำพื้นที่นี้ไปใช้สร้างอาคารสมัยใหม่ คงต้องถมทะเลสาบจนหมด ซึ่งจะทำให้เสียเอกลักษณ์ดั้งเดิมไปแถมยังต้องใช้เงินจำนวนมากแต่ผลลัพธ์ที่ได้อาจไม่คุ้มค่าแต่หากสามารถผสมผสานกับสถาปัตยกรรมโบราณได้จะช่วยประหยัดงบประมาณไปได้มาก และยังสร้างกลุ่มอาคารที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร“โครงการที่ดีแบบนี้ควรลองดู เรามีสภาพแวดล้อมที่ค่อนข้างดั้งเดิม มันสามารถใช้เป็นพื้นฐานในการสร้างสวนโบราณได้ นอกจากนี้ยังกำหนดขอบเขตที่ชัดเจนสำหรับย่านการค้าใกล้เคียงได้อีกด้วย”ฉันหยิบดินสอที่อยู่ข้าง ๆ ขึ้นมา แล้วเริ่มลงรายละเอียดเพิ่มเติมบนแบบโครงร่างเดิมของฉัน สีหน้าของผู้อาวุโสโอวหยางค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นความพึงพอใจหากความร่วมมือครั้งนี้สำเร็จ ฉันก็จะสามารถพัฒนาโครงการได้อย่างก้าวกระโดดเมื่อภาพทั้งหมดถูกเติมเต็ม ฉันส่งแบบร่างให้ผู้อาวุโสโอวหยาง เขาดูพึงพอใจเป็นอย่างมาก“ถ้าฉันได้พบเธอเร็วกว่านี้ และเธอสนใจในสาขานี้จริงๆ ฉันคงยินด

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 255

    “ต่อให้ไม่มีนายโครงการนี้ก็สำเร็จได้ และถึงจะไม่มีความช่วยเหลือจากผู้อาวุโสโอวหยาง ฉันก็ไม่มีวันยอมแพ้ง่าย ๆ แต่นายที่คอยช่วยเหลืออยู่ลับ ๆ นายต้องการอะไรกันแน่?”เฉินเยวี่ยเดินทางไปต่างประเทศแล้ว และฉันกับเขาก็แทบไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ อีก ฉันไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเขาถึงยังคงปรากฏตัวในโลกของฉันอยู่เรื่อย ๆดูเหมือนเขาจะสังเกตเห็นความเย็นชาของฉัน จู่ ๆ ก็เดินเข้ามาคว้าข้อมือของฉันไว้แน่น การกระทำแบบนี้ทำให้ฉันรู้สึกว่าเขาไร้มารยาท ฉันจึงพยายามดิ้นรนเพื่อให้หลุดจากการจับของอีกฝ่าย ทว่าคำพูดของเขาที่ตามมานั้นกลับทำให้ฉันชะงักไปทันที ราวกับถูกตรึงอยู่กับที่“ฉันรู้ว่าบางเรื่องมันไม่สามารถแก้ไขได้ แต่ฉันก็แค่อยากไถ่โทษและสารภาพความผิด เธอจะไม่ให้โอกาสฉันเลยเหรอ? หรือเธออยากให้ฉันต้องจมอยู่กับความทรมานในใจไปตลอดชีวิต?”เขายืนอยู่บนจุดสูงสุดของศีลธรรมใช้มันมาผูกมัดฉัน หากไม่ใช่เพราะพวกเขา ฉันก็คงไม่มีชีวิตที่น่าสังเวชแบบนี้ไม่ใช่เหรอ?หากไม่ใช่เพราะได้รู้จักเขา และไม่เคยหลงรักเขาอย่างไม่คิดชีวิต ชีวิตฉันก็คงไม่ตกต่ำถึงขนาดนี้ คงไม่ต้องถูกกลั่นแกล้งและเหยียดหยามซ้ำแล้วซ้ำเล่าแบบนี้ฉันเอง

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 256

    ความเจ็บปวดนั้นไม่ใช่ความเจ็บที่รุนแรง แต่มันค่อย ๆ แผ่กระจายเหมือนยาพิษเรื้อรังที่กำลังคร่าชีวิตฉันอย่างช้า ๆ จนทำให้จิตวิญญาณของฉันดูพร่องแหว่งไปอย่างสิ้นเชิง“เรื่องของเราสองคนไม่มีทางเป็นไปได้หรอกนะ วันนี้ที่ฉันพานายมาที่นี่ เพราะฉันอยากให้นายได้เห็นว่าคนคนเดียวในโลกนี้ที่รักฉันที่สุด ตอนนี้กำลังนอนอยู่ใต้พื้นดิน คนที่เคยให้ความอบอุ่นกับฉันอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ตอนนี้กลายเป็นเพียงร่างไร้วิญญาณอันเย็นเยียบ และคนที่นายพยายามปกป้องมาตลอดเธอคือฆาตกร”ฉันใช้ความพยายามอย่างยากลำบากกว่าจะได้รับความรักเพียงน้อยนิด แต่คนที่มอบความรักนั้นให้ฉันกลับกลายเป็นร่างเย็นชืดที่ถูกฝังลึกอยู่ใต้ผืนดิน ฉันไม่มีทางได้โอบกอดร่างของคุณย่าอีกต่อไป ไม่มีทางได้สัมผัสความอบอุ่นของท่านอีกแล้วฉันเองก็หวังให้ชีวิตของตัวเองจะได้รับการเยียวยาและไถ่บาป แต่ตอนนี้ชีวิตของฉันกลับตกต่ำจนถึงจุดที่ยากจะก้าวผ่าน“นายอยากให้ฉันยกโทษให้ใช่ไหม? ฉันทำได้นะ ขอแค่นายทำให้คุณย่าของฉันกลับมามีชีวิตๆด้อีกครั้ง แค่คุณย่ากลับมาหาฉันอีกครั้ง ฉันจะไม่ถือสาอะไรอีกเลย ฉันจะเลิกชอบนาย จะออกจากโลกของนายไป และแม้แต่เรื่องของฉันกับเฉินเ

Bab terbaru

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 370

    “อย่าให้เธอหนีไปได้!”เสียงคำรามของหัวหน้าชายดังมาจากด้านหลัง น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยอำนาจที่ไม่อาจปฏิเสธได้ และแฝงความเร่งรีบอย่างชัดเจนแต่ฉันรู้ดีว่า นี่คือโอกาสสุดท้ายของฉันฉันพุ่งเข้าไปในห้องนอนโดยไม่ลังเล โถมตัวเข้าหาหน้าต่างทันที ใช้แรงทั้งหมดที่มีผลักเปิดบานหน้าต่างที่หนักและเก่าไปสุดแรงสายลมเย็นพัดกระทบใบหน้า พร้อมกับกลิ่นอายของค่ำคืน ทำให้ฉันลืมความหวาดกลัวและความเหนื่อยล้าไปชั่วขณะฉันลังเลอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะหันตัวเตรียมหนีไป แต่ทันใดนั้นเอง ปลายเสื้อของฉันก็ถูกกระชากเอาไว้!“ปล่อยฉันนะ!”ฉันอุทานออกมาด้วยความตกใจ พยายามดิ้นรนสุดแรง แต่แรงที่จับฉันไว้นั้นแข็งแกร่งอย่างน่ากลัว ราวกับจะดึงฉันกลับเข้าไปในห้องอย่างไม่ปรานีในช่วงเวลาที่คับขันที่สุด ฉันเหวี่ยงมีดปอกผลไม้ในมือออกไปอย่างสุดแรง แม้ว่าจะไม่ได้แทงเข้าเป้าตรง ๆ แต่คมมีดก็เฉือนเข้าที่แขนของเขา ทิ้งรอยแผลลึกไว้พร้อมกับเลือดที่ไหลซึมออกมา!ความเจ็บปวดทำให้เขาเผลอคลายมือโดยไม่รู้ตัว ฉันฉวยโอกาสนี้สะบัดตัวหลุดจากการควบคุม แล้วกระโจนออกไปทันที ร่างของฉันลอยอยู่กลางอากาศ แขวนตัวอยู่เหนือพื้นด้านล่าง!‘กระโดดเร็ว!’ฉันตะโกน

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 369

    ในตอนนั้นเอง ความคิดหนึ่งก็แวบเข้ามาในหัวของฉันอย่างกะทันหันฉันต้องการหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อพิสูจน์ตัวตนของพวกเขา หรืออย่างน้อยก็ถ่วงเวลาไว้ เพื่อรอโอกาสที่อาจเปลี่ยนสถานการณ์ได้แต่ฉันก็นึกถึงความเป็นไปได้อีกอย่างหนึ่ง นั่นคือพวกเขากำลังทดสอบขีดจำกัดของฉันฉันเป็นผู้หญิงที่อาศัยอยู่ตามลำพัง ไร้ที่พึ่งพาเผชิญกับสถานการณ์ฉุกเฉินเช่นนี้ ฉันรู้ดีว่าตัวเองไม่สามารถทำอะไรบุ่มบ่ามได้ จำเป็นต้องรักษาความสงบและใช้สติปัญญาอย่างถึงที่สุดฉันกวาดตามองชายเหล่านั้นอย่างเงียบ ๆ โดยประมาณแล้วดูเหมือนว่าจะมีเพียงสามคนฉันคำนวณในใจเงียบ ๆ หากจำเป็นต้องลงมือ อย่างน้อยฉันต้องพยายามเบี่ยงเบนความสนใจของพวกเขาเสียก่อนดังนั้น ฉันจึงจงใจเพิ่มระดับเสียง ทำท่าเหมือนกำลังหาโทรศัพท์ไปด้วย ขณะเดียวกันก็ใช้หางตาสังเกตปฏิกิริยาของพวกเขาอย่างระมัดระวัง“ขอโทษค่ะ ดูเหมือนว่าโทรศัพท์ของฉันจะอยู่ในห้องนั่งเล่น รอสักครู่ค่ะ เดี๋ยวฉันกลับมา”พูดจบ ฉันค่อย ๆ หมุนตัวทำท่าเหมือนจะเดินกลับเข้าไปในห้อง แต่แท้จริงแล้ว ฉันใช้ปลายเท้าเกี่ยวเข้ากับกระถางต้นไม้ที่วางอยู่ตรงขอบประตู กระถางนั้นเป็นเพียงของตกแต่งในชีวิตประจ

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 368

    ชายคนหนึ่งเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสุภาพ แต่ยังคงแฝงไปด้วยความหนักแน่นฉันพยักหน้า พยายามทำให้เสียงของตัวเองฟังดูนิ่งสงบที่สุด“ใช่ค่ะ ไม่ทราบว่ามีเรื่องอะไรเหรอคะ?”“พวกเราเป็นทีมปฏิบัติการพิเศษของตำรวจ เกี่ยวกับเหตุการณ์ปล้นในช่วงเช้าวันนี้ เรามีบางเรื่องที่ต้องสอบถามคุณเพิ่มเติม”ชายที่เป็นผู้นำยื่นบัตรประจำตัวให้ดู น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความจริงจังที่ไม่อาจมองข้ามได้ฉันชะงักไปเล็กน้อย คาดไม่ถึงว่าเหตุปล้นที่ดูเหมือนจะเป็นเรื่องธรรมดา จะโยงมาถึงตัวฉันได้อย่างรวดเร็วขนาดนี้แม้ในใจจะเต็มไปด้วยความสงสัย แต่ฉันก็พยายามทำตัวให้สงบที่สุด ก่อนจะขยับตัวหลบไปด้านข้าง เตรียมให้พวกเขาเข้ามาในบ้านแต่ฉันฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า ดึกขนาดนี้ ตำรวจจะมาหาฉันถึงบ้านได้อย่างไรกัน?ฉันหยุดเดินทันที ความระแวงพุ่งขึ้นสุดขีด สายตากวาดมองไปมาระหว่างชายเหล่านั้น พยายามจับพิรุธจากแววตาของพวกเขาในตอนนั้นเอง เบาะแสเล็กน้อยบางอย่างก็สะดุดตาฉันชายที่เป็นหัวหน้าถึงแม้จะแสดงบัตรออกมา แต่ในสายตาที่พร่ามัวของฉัน บัตรใบนั้นดูเหมือนจะมีแสงสะท้อนที่ผิดปกติ ไม่เหมือนกับวัสดุพลาสติกทั่วไปที่ควรจะเป็นเมื่ออยู่ใต้แสงไฟ

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 367

    สำหรับกู้จือโม่ ความรักของเขามีหรือไม่มี ก็ไม่สำคัญสำหรับฉันอีกต่อไปบางที สักวันหนึ่ง เขาอาจยอมทิ้งฉันเพื่อครอบครัวของเขาก็เป็นได้คิดมาถึงตรงนี้ ฉันเผลอแสดงรอยยิ้มขมขื่นออกมาโดยไม่รู้ตัว แต่ในรอยยิ้มนั้นกลับแฝงไปด้วยความปล่อยวางเช้าวันรุ่งขึ้น ฉันเก็บข้าวของเสร็จล่วงหน้าแล้วและออกเดินไปตามทางแสงแดดลอดผ่านกลุ่มเมฆบางเบา โปรยเป็นลวดลายลงบนพื้น เติมความอบอุ่นให้กับเช้าวันนี้ที่เงียบเหงาขึ้นมาเล็กน้อยฉันสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าไปลึก ๆ พยายามปล่อยความหม่นหมองของเมื่อคืนออกไปทั้งหมด และเตรียมตัวต้อนรับวันใหม่บนท้องถนน ผู้คนเริ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ทุกคนต่างก้าวเดินอย่างเร่งรีบและวุ่นวายกับชีวิตของตัวเองฉันเดินไปอย่างไร้จุดหมาย แต่ในใจกลับมีทิศทางที่ชัดเจน ฉันจะมุ่งมั่นกับชีวิตและหน้าที่ของตัวเองให้มากขึ้น และจะไม่ให้ความรู้สึกมาผูกมัดฉันอีกต่อไปขณะที่ฉันกำลังจมอยู่ในความคิดของตัวเอง เสียงฝีเท้าที่เร่งรีบก็ดังขึ้น ทำลายความเงียบสงบรอบตัวฉันหันกลับไปมอง เห็นชายคนหนึ่งวิ่งตรงมาหาฉันด้วยท่าทางตื่นตระหนก ขณะที่ด้านหลังของเขามีกลุ่มชายฉกรรจ์สีหน้าดุดันไล่ตามมาอย่างกระชั้นชิด เห็นได้ชัดว

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 366

    เมื่อหลินเฉี่ยนได้ยินดังนั้น ดวงตาของเธอแดงก่ำ แต่เธอพยายามกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ไหลออกมาการอยู่ที่นี่ต่อไปจะยิ่งทำให้สถานการณ์น่าอึดอัดขึ้น ฉันหยิบกระเป๋าของตัวเองขึ้นมาแล้วเดินออกไปทันทีเดินอยู่บนถนนอันเงียบสงัด ฉันรู้สึกว่าทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก เด็กหนุ่มที่เคยอ่อนโยนและน่ารักในวันวาน กลับมาทะเลาะกันเพราะเรื่องของความรู้สึกในตอนนี้ดูเหมือนจะสามารถสืบทอดกิจการของครอบครัวได้ แต่กลับสูญเสียอิสรภาพในการเลือกความรักของตัวเองไม่รู้ว่าเดินมาได้นานแค่ไหน ฉันก็พบว่าตัวเองมาถึงริมแม่น้ำแล้ว ตอนนี้เป็นช่วงพลบค่ำพอดีสายลมยามค่ำคืนพัดผ่านเบา ๆ นำพาความเย็นเล็กน้อย แต่ก็ดูเหมือนจะช่วยพัดพาความหงุดหงิดในใจให้จางหายไปด้วยฉันเดินทอดน่องเพียงลำพังบนถนนที่มีแสงไฟสลัว ในหัวยังคงฉายภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในร้านกาแฟซ้ำแล้วซ้ำเล่าความรัก ความรับผิดชอบ ผลประโยชน์ของครอบครัว... คำเหล่านี้สานกันเป็นใยซับซ้อนในความคิดของฉัน ทำให้ยากที่จะหลุดพ้นบางเรื่องฉันเคยผ่านมันมาแล้ว แต่บางเรื่องกลับทำให้ฉันเจ็บปวดเหลือเกิน แม้ว่าจะมีโอกาสเริ่มต้นใหม่ ฉันก็ยังไม่ได้คำตอบที่ต้องการอยู่ดีฉันหยุดเดิน เ

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 365

    สีหน้าของลู่เฉินเต็มไปด้วยความสับสน เขามองฉันแวบหนึ่งก่อนจะรีบหลบสายตากลับไป ราวกับกำลังชั่งใจและตัดสินใจบางอย่างในใจฉันรับรู้ได้ถึงความสับสนและความเจ็บปวดในใจของเขา ไม่ใช่แค่เพราะหลินเฉี่ยนที่อยู่ตรงหน้า แต่ยังเป็นเพราะทางเลือกที่เขาเคยทำ รวมถึงความไม่แน่นอนต่ออนาคตของตัวเอง“หลินเฉี่ยน เธอใจเย็น ๆ ก่อนนะ”น้ำเสียงของลู่เฉินพยายามรักษาความสงบ แต่ความเหนื่อยล้าและความสิ้นหวังที่ซ่อนอยู่กลับไม่อาจปกปิดได้“ที่นี่ไม่ใช่ที่สำหรับคุยเรื่องนี้ เราหาเวลาคุยกันให้ดีอีกทีได้ไหม?”เมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของหลินเฉี่ยนไม่ได้ดีขึ้นมากนัก แต่เธอดูเหมือนจะตระหนักได้ว่าสถานการณ์ตรงนี้ไม่เหมาะสมสำหรับการพูดคุยเรื่องนี้ เธอจึงสูดลมหายใจลึก พยายามระงับอารมณ์ของตัวเอง“ก็ได้ แต่ฉันต้องการคำตอบที่ชัดเจนจากคุณตอนนี้เลย เกี่ยวกับการหมั้นของเรา คุณคิดยังไงกันแน่?”ลู่เฉินนิ่งเงียบไปชั่วครู่ ก่อนจะเอ่ยปากพูดอย่างช้า ๆ ในที่สุด“หลินเฉี่ยน ผมรู้ว่าฉันติดค้างคำอธิบายกับคุณ เกี่ยวกับการหมั้น ผมไม่เคยคิดจะหนี เพียงแต่... ผมต้องใช้เวลาเพื่อจัดการความคิดของตัวเอง ธุรกิจของครอบครัว อนาคตของเราสักหน่อย เร

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 364

    ในคำพูดของเขา มีทั้งความจำใจต่อสถานการณ์ปัจจุบัน ความคิดถึงอดีต และความสับสนต่ออนาคตที่ไม่แน่นอนฉันตระหนักได้ว่าหนทางชีวิตของแต่ละคนล้วนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เราต่างก็ใช้วิธีของตัวเองในการประนีประนอมกับโลกใบนี้ และพูดคุยกับตัวเองภายในใจฉันแตะหลังมือของเขาเบา ๆ อย่างแผ่วเบา มอบกำลังใจให้เขาโดยไม่ต้องเอ่ยคำพูดใด ๆ“จริง ๆ แล้ว ทุกเส้นทางชีวิตล้วนมีคุณค่าและความหมายในแบบของตัวเอง การที่นายรับช่วงต่อธุรกิจของครอบครัว นั่นก็เป็นความรับผิดชอบและความกล้าหาญในอีกรูปแบบหนึ่ง ส่วนเรื่องการแต่งงาน แม้ว่าตอนแรกอาจจะรู้สึกไม่คุ้นเคย แต่ชีวิตเต็มไปด้วยความเปลี่ยนแปลง ใครจะรู้ได้ล่ะว่า คู่ชีวิตในอนาคตอาจกลายเป็นคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของนายก็ได้?”เมื่อได้ยินเช่นนั้น แววตาของเขาฉายแววคลายกังวลขึ้นเล็กน้อย ริมฝีปากค่อย ๆ ปรากฏรอยยิ้มบาง ๆ อย่างไม่รู้ตัว“เธอพูดถูกนะ เฉียวเฉียว บางทีฉันอาจจะมองโลกในแง่ร้ายเกินไป”ท่ามกลางบทสนทนา กลิ่นหอมของกาแฟอบอวลไปทั่วอากาศ ราวกับพาเราย้อนกลับไปสู่ช่วงเวลามัธยมที่ไร้กังวลอีกครั้ง“จริง ๆ แล้ว นายอาจรู้สึกว่าชีวิตตอนนี้เหมือนกรงขัง แต่พวกเราที่ดิ้นรนต่อสู้อยู่

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 363

    ในตอนนั้น หัวใจของฉันเจ็บปวดราวกับถูกฉีกออกเป็นชิ้น ๆ แต่ยังต้องฝืนยิ้มต่อหน้าผู้คน และเล่นตามบทบาทในพิธีศพอันแสนไร้สาระทุกครั้งที่ฉันมองแผ่นหลังของไอ้สารเลวนั่น ความโกรธและความเศร้าที่ไม่อาจบรรยายได้ก็เอ่อล้นขึ้นมาในใจคนที่ควรจะเป็นที่พึ่งพาที่มั่นคงที่สุดของฉัน กลับเลือกที่จะใช้การจากไปของคุณย่าเพื่อตอบสนองความต้องการเห็นแก่ตัวของตัวเอง ในช่วงเวลาที่ฉันต้องการความเข้าใจและการสนับสนุนมากที่สุดหลังจากพิธีศพจบลง ฉันเดินวนเวียนอยู่เพียงลำพังในสวนหลังบ้าน แสงจันทร์สาดส่องลงมา ทำให้บรรยากาศยิ่งเย็นเยียบและเงียบเหงาเป็นพิเศษฉันหวนคิดถึงทุกช่วงเวลาที่แสนอบอุ่นที่เคยใช้ร่วมกับคุณย่า รอยยิ้มของเธอ คำสอนของย่า ราวกับยังคงก้องอยู่ข้างหูน้ำตาไหลรินอย่างเงียบงันในช่วงเวลานี้ ความคับแค้น ความโกรธ และความไม่ยอมรับทุกอย่าง ถูกปลดปล่อยออกมาในที่สุดแต่ตอนนี้ คนที่เจ็บปวดจริง ๆ คือเฉิงเฉิง ฉันรู้สึกทรมานใจเหลือเกินเห็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉันกลายเป็นคนหมดอาลัยตายอยากหลังจากการจากไปของคุณย่า ฉันเองก็รู้สึกไม่สบายใจเช่นกันฉันสูดลมหายใจลึก พยายามทำให้ตัวเองสงบลง แล้วหันไปมองเฉิงเฉิงด้วยความต

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 362

    “ฉันเข้าใจความรู้สึกของเธอ เฉียวเฉียว การสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักเป็นความเจ็บปวดที่ยากจะลืมเลือน แต่เช่นเดียวกับที่เธอกล่าวไว้ เราทุกคนจำเป็นต้องหาหนทางที่จะก้าวออกจากความเศร้าและกลับมาใช้ชีวิตอีกครั้ง คุณทำได้ และฉันเชื่อว่าฉันก็ทำได้เช่นกัน”เสียงของเฉิงเฉิงเต็มไปด้วยความหนักแน่นมากขึ้น แม้ว่าดวงตาจะยังคงแดงก่ำ แต่ความปรารถนาที่จะใช้ชีวิตก็ได้ปรากฏขึ้นอย่างเงียบ ๆ“ฉันจำได้ว่า คุณย่าเคยบอกฉันว่า ชีวิตก็เหมือนการเดินทาง เราจะได้พบเจอผู้คนมากมาย และก็ต้องลาจากกับหลายคนเช่นกัน การจากไปของแต่ละคนมีไว้เพื่อให้เราซาบซึ้งกับคนที่ยังอยู่เคียงข้างเรามากขึ้น และให้เห็นคุณค่าของเส้นทางชีวิตข้างหน้าของตัวเอง ฉันคิดว่า ตอนนี้ย่าคงอยู่ที่ไหนสักแห่ง มองฉันด้วยความอ่อนโยน และหวังให้ฉันเข้มแข็งก้าวต่อไป”ฉันจับมือเธอเบา ๆ มอบกำลังใจให้เธอโดยไม่ต้องเอ่ยคำพูดใด ๆ“เฉิงเฉิง คำพูดของย่าเธอถูกต้องแล้ว เราต้องก้าวต่อไปโดยมีความรักของเธออยู่กับเรา พรุ่งนี้เราจะเผชิญกับพิธีศพด้วยกัน แม้ว่ามันจะยาก แต่ก็นับเป็นการอำลาย่าของเธอ และเป็นก้าวสำคัญของการเติบโตของเราเอง”คืนนั้น เราคุยกันมากมาย ตั้งแต่ความทรง

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status