Share

บทที่ 266

Auteur: ลูกพีชแสนสวย
“ถ้าเป็นไปได้ ให้ฉันได้มีโอกาสสักครั้ง ฉันจะจัดการเรื่องที่เกี่ยวข้องในประเทศให้เรียบร้อย แล้วหลังจากนั้น ฉันอยากไปต่างประเทศพร้อมกับเธอ”

วันนั้นที่ร้านกาแฟ เขาก็ให้คำมั่นแบบนี้เหมือนกัน สำหรับฉันช่างน่าประหลาดใจอย่างยิ่ง ไม่มีใครเคยเลือกฉันอย่างหนักแน่นและไม่เปลี่ยนใจแบบนี้มาก่อนเลย

คนเดียวที่รักฉันอย่างแท้จริงได้กลายเป็นเพียงเถ้ากระดูกไปนานแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น ฉันยังไม่สามารถจับตัวคนร้ายที่เป็นต้นเหตุได้เลยด้วยซ้ำ

ฉันกลัวว่าเขาอาจทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ โดยไม่ได้คาดคิดถึงผลลัพธ์ที่เลวร้ายยิ่งกว่านี้ และธุรกิจของเขาก็เติบโตได้เพียงในประเทศเท่านั้น

“จริง ๆ แล้ว นายจะมีโอกาสพัฒนาตัวเองได้ดีกว่าในประเทศ อีกทั้งการเรียนของนายก็ยังไม่จบ ถ้านายตัดสินใจตามฉันมาแบบหุนหันพลันแล่น อาจจะทำให้เวลาสำเร็จการศึกษาของนายล่าช้าได้”

ฉันไม่ต้องการให้ใครเปลี่ยนแปลงตัวเองเพราะฉัน ฉันเพียงหวังว่าการตัดสินใจของพวกเขาทุกครั้งจะมาจากมุมมองของตัวเองและเพื่ออนาคตของตัวเอง

บางทีเขาอาจสัมผัสได้ถึงความจริงใจในคำพูดของฉัน เขายืนอยู่ที่เดิมอย่างเงียบงัน เดิมทีเหมือนจะพูดอะไรออกมา แต่กลับนิ่งเงียบเสียจนดูเหมือนน
Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application
Chapitre verrouillé

Related chapter

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 267

    ถึงแม้ว่าตระกูลกู้อาจมีอำนาจล้นฟ้า แต่สักวันหนึ่งฉันจะต้องหาช่องโหว่จนได้ ตระกูลกู้ในตอนนี้เปรียบเสมือนต้นไม้ใหญ่ที่มีอายุนับร้อยปี รากของมันหยั่งลึกและซับซ้อนจนก่อเกิดเครือข่ายเฉพาะตัวใต้พื้นดินฉันต้องมีต้นทุนที่มากพอหากต้องการต่อสู้กับพวกเขา วิธีเดียวคือไปต่างประเทศเพื่อเสริมสร้างพลังของตัวเอง ไม่เพียงแต่ต้องสร้างเครือข่ายที่กว้างขวางขึ้น แต่ยังต้องพัฒนาตัวเองให้กลายเป็นคนที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นด้วยแต่ว่าบางเรื่องกลับเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน จนทำให้แผนการทั้งหมดของฉันต้องพังทลายตั้งแต่ลั่วอี้ฝานพูดว่าอยากไปต่างประเทศกับฉัน ฉันก็เริ่มรู้สึกถึงความผูกพันบางอย่างในใจ บางทีนี่อาจจะเป็นแค่ภาพลวงตา แต่ฉันก็หวังว่ามันจะเป็นความจริงฉันก็เหมือนผักตบที่ไร้ราก ล่องลอยมาเป็นเวลานาน ใครก็ตามที่มอบความอบอุ่นให้ฉันเพียงเล็กน้อย ฉันก็มักจะฝากความหวังทั้งหมดไว้กับเขา แต่บางเรื่องจะไปหวังให้คนอื่นช่วยได้อย่างไรกัน?วันนี้ฉันรู้สึกว่าร่างกายของตัวเองฟื้นฟูจนเกือบจะปกติแล้ว การนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยตลอดเวลาก็เริ่มทำให้ฉันรู้สึกเบื่อหน่ายเล็กน้อย มองออกไปนอกหน้าต่าง เห็นท้องฟ้าสดใส แสงแดดอบอุ่น ดอก

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 268

    ตรงข้ามห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นห้องรับรอง ซึ่งห้องรับรองนั้นแบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งคือห้องโถงใหญ่ อีกส่วนหนึ่งคือห้องเล็กที่เป็นพื้นที่ส่วนตัวเขาถือเอกสารปึกนั้นเดินเข้าไปในห้องโถงใหญ่ ส่วนฉันแอบซ่อนตัวอยู่หลังประตูอย่างเงียบเชียบปกติที่นี่แทบไม่มีคนมา สนามกอล์ฟได้รับการดูแลรักษาเพียงสัปดาห์ละครั้ง เพราะธุรกิจหลายอย่างที่เจรจากันที่นี่ล้วนเป็นเรื่องที่ไม่อยากให้ใครรู้เห็น จึงต้องหลีกเลี่ยงสายตาผู้อื่น ในตอนนี้ คุณปู่นั่งอยู่บนเก้าอี้ ร่างกายดูแก่ชราลงอย่างเห็นได้ชัด แต่ยังคงแสดงท่าทีหยิ่งยโสและอวดดีออกมาอย่างชัดเจนเขาราวกับนั่งอยู่บนบัลลังก์มังกร มองลงมาราวจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ สายตาเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่งจ้องมองชายที่ยืนอยู่เบื้องหน้า ในมือของคุณปู่คีบบุหรี่อยู่ มวลควันลอยอ้อยอิ่งรอบตัว ใบหน้าของเขาค่อย ๆ เคร่งขรึมขึ้นเรื่อย ๆ แถมยังแฝงไปด้วยความไม่พอใจอย่างชัดเจน “ฉันบอกนายไปแล้วไม่ใช่เหรอ? ทุกเรื่องมันคุยกันได้ แล้ววันนี้นายยังจะมาเจอฉันอีก จะเอาอะไรกันแน่?” เขาดูเหมือนจะไม่พอใจอย่างมาก ขณะที่ฉันซึ่งเห็นฉากนี้กลับรู้สึกตกตะลึงอย่างยิ่ง ในใจเริ่มสงสัยว่าทั้งสองคนต้อง

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 269

    บุหรี่ในมือที่ใกล้หมดอยู่แล้ว เถ้าบุหรี่จำนวนหนึ่งพลันร่วงหล่นลงมาอย่างกะทันหัน หัวบุหรี่ที่ยังติดไฟลวกมือของเขาปลายบุหรี่ในมือของคุณปู่ร่วงลงสู่พื้นทันที ความตกใจทำให้เขาทั้งร่างเต็มไปด้วยความหวาดหวั่น และรายงานในมือก็พลันร่วงลงพื้นตามไปด้วยหน้าต่างเปิดอยู่ ลมพัดผ่านมาทำให้เอกสารไม่กี่แผ่นนั้นปลิวไปข้างหน้า ฉันที่ยืนอยู่หน้าประตูถึงกับสะดุดตากับหัวข้อบนหน้าแรกของเอกสารหัวใจที่เคยแขวนอยู่กลางอากาศพลันร่วงหล่นลงอย่างสิ้นเชิงในขณะนี้ แต่ก็เหมือนมันได้ตายไปแล้วเรียบร้อยเป็นอย่างที่คิด ฉันไม่อาจเชื่อใจใครอย่างหมดใจเลยสักคน แม้กระทั่งผู้ชายตรงหน้าที่พูดนักพูดหนาว่าจะไปต่างประเทศกับฉัน ท้ายที่สุดเขาก็หักหลังฉันจนได้เอาหลักฐานที่ได้ไปจากมือฉันไปประจบคุณปู่ตระกูลกู้แม้จะเป็นฤดูร้อนที่สดใส แต่ฉันกลับรู้สึกถึงความเย็นเยียบที่แผ่ซ่านออกมาจากใจ ปลายนิ้วที่เย็นเฉียบทำให้ฉันรู้สึกเหมือนเลือดในร่างกายกำลังไหลย้อนกลับอย่างรุนแรงที่แท้คนที่หลอกลวงฉันมีมากมายถึงเพียงนี้ มีผู้คนมากมายที่เกาะติดฉันเหมือนปลวกกัดกินอยู่บนร่างกายของฉันเองพวกเขาอยากกัดกินร่างกายของฉัน บีบคั้นจิตวิญญาณของฉัน แล

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 270

    เพื่อความรักที่เลื่อนลอย ไร้ตัวตน ฉันถึงกับยอมวางศักดิ์ศรีของตัวเองลงกับพื้นให้คนอื่นเหยียบย่ำ “แต่คุณสัญญากับผมแล้วว่าจะไม่ทำร้ายเธอ แล้วทำไมคุณถึงยังวางแผนให้เกิดอุบัติเหตุรถชนครั้งนี้? คุณรู้ไหมว่าเธอเกือบจะเอาชีวิตไม่รอดแล้ว?” ตอนนั้นฉันรู้สึกเหมือนน้ำตาแทบจะไหลออกมา แต่ฉันพยายามอดกลั้นไว้ บังคับตัวเองให้ยืนหยัดอย่างเข้มแข็ง ณ ที่ตรงนี้ ส่วนคำพูดต่อจากนั้น ฉันไม่กล้าฟังอีกแล้ว ฉันไม่รู้ว่าตัวเองจากมาได้อย่างไร แต่รู้สึกถึงความสูญเสียและเจ็บปวดอย่างที่สุดในหัวใจ ผู้คนมากมายล้วนฉวยโอกาสจากความไว้วางใจของฉัน ค่อย ๆ เข้ามาใกล้จนรู้จุดอ่อนของฉัน แล้วใช้กริชอันแหลมคมแทงลงไปในจุดที่ฉันเจ็บปวดที่สุด ฉันเดินออกจากสถานที่อันกว้างใหญ่แห่งนี้ด้วยความสิ้นหวัง มองไปที่สนามกอล์ฟแล้วนึกถึงตัวเองในอดีต ดูเหมือนว่าเรื่องที่เกี่ยวข้องกับตระกูลกู้จะไม่มีอะไรที่ทำให้รู้สึกสุขใจได้เลย แม้แต่ความทรงจำเหล่านั้นก็เต็มไปด้วยความเจ็บปวดอย่างยากจะลืมเลือน ยังจำได้ว่าตอนนั้นฉันอยากพากู้จือโม่กลับบ้าน แต่กู้จือโม่ที่เมาแอ๋แล้วกลับนอนอยู่ข้างนอกอย่างไร้สติจนเป็นหวัด เขายอมอยู่ท่ามกลางลมหนาวอยู่ข้าง

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 271

    เขาจอดรถแล้วรีบเดินตรงมาหาฉัน มองฉันด้วยสายตาเต็มไปด้วยความห่วงใย “เกิดอะไรขึ้น? ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่?” ฉันสูดลมหายใจลึก พยายามระงับความสั่นไหวในใจ แต่ความขมขื่นในใจกลับพลุ่งพล่านราวกับน้ำท่วมที่เอ่อล้น ยากจะหยุดยั้งฉันยิ้มบาง ๆ อย่างเรียบเฉย ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่ใช่ทุกเรื่องที่จะต้องแสดงออกมาให้เห็น แต่ฉันอาศัยความเข้มแข็งทางจิตใจทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพียงเพื่อให้เขายอมเปิดใจบอกความจริงกับฉัน “ไม่มีอะไรหรอก แค่หลงทางนิดหน่อย” เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย ดูเหมือนจะไม่เชื่อข้อแก้ตัวของฉัน แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ ฉันจะหลงทางมาที่นี่ได้ยังไง? นอกจากมาที่บ้านตระกูลกู้แล้ว ฉันจะมีโอกาสมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกัน? ฉันรู้ว่าคนที่อยากได้คำตอบมากที่สุดต้องเป็นเขา แต่ตอนนี้ที่ฉันได้รู้ความจริงแล้ว กลับรู้สึกเจ็บปวดอย่างมาก ราวกับมีมีดปลายแหลมปักลงกลางใจของฉัน ทำให้ฉันไม่สามารถยิ้มออกมาได้ เขาหันไปเปิดประตูรถ สายตากลับมีความอ่อนโยนเจือปนอยู่ โดยไม่มีท่าทีตำหนิฉันเหมือนเมื่อครู่ ก็จริงอย่างที่คิด คนที่เสแสร้งเก่ง มักจะหาช่องทางปกป้องตัวเองได้ในช่วงเวลาที่อันตรายที่สุด และยั

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 272

    แต่ว่าจนถึงตอนนี้ ฉันเพิ่งจะรู้ว่า ที่แท้เขาให้โอกาสฉันได้เข้าใกล้เขามากขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อให้ฉันไว้ใจเขาจริง ๆ และจากนั้นจึงโจมตีฉันอย่างร้ายแรงที่สุด เมื่อฉันพูดทุกเรื่องจนหมด เขาก็นิ่งเงียบไปอยู่ครู่หนึ่ง “ลั่วลั่ว เธอลำบากมามาก แต่เธอต้องเชื่อนะ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ฉันจะอยู่เคียงข้างเธอและคอยสนับสนุนเสมอ” ตอนนี้ฉันทำได้แค่แสร้งทำเป็นมองเขาด้วยท่าทางขอบคุณ เพื่อให้เขารู้สึกว่าหัวใจของฉันเต็มไปด้วยความซาบซึ้งและความอบอุ่น “เดิมทีฉันรู้สึกอึดอัดใจมาก แต่ตอนนี้พอได้คุยกับนาย ฉันรู้สึกสบายใจขึ้นเยอะเลย” ฉันแกล้งทำเป็นเหมือนว่าฉันเข้าใจและโล่งใจแล้ว เพื่อให้เขาพูดความจริงกับฉัน และบอกทุกอย่างที่ฉันอยากรู้ ผู้ใหญ่ส่วนใหญ่ไม่ใช่คนโง่ ความสัมพันธ์ที่ดีที่สุดคือการเงียบใส่กัน แต่เข้าใจความคิดของกันและกัน รถเคลื่อนตัวเข้าสู่เขตเมืองอย่างช้า ๆ ฉันค่อย ๆ ฟื้นตัวจากความรู้สึกสับสนวุ่นวายในจิตใจ ฉันรู้ว่าช่วงเวลาที่เหลือระหว่างเราสองคนมีไม่มากแล้ว แต่บางเรื่องก็จำเป็นต้องพูดให้ชัดเจน “พวกเราเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดกันนี่นา แล้วนายไม่มีอะไรอยากจะพูดกับฉันเหรอ?” หรือว่าเขาไม่คิดจะบ

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 273

    เขานิ่งเงียบอีกครั้ง ราวกับกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง เขาก็ค่อย ๆ เอ่ยปากพูด “เป็นคุณปู่กู้ที่มาหาฉัน ให้ฉันเข้าหาเธอ เพื่อให้เธอออกห่างจากกู้จือโม่ แต่ฉันไม่เคยคิดเลยว่าสิ่งต่าง ๆ จะมาถึงจุดนี้ ฉัน...” เขายังพูดไม่ทันจบ ฉันก็เข้าใจทุกอย่างแล้ว ที่แท้ เขาถูกตระกูลกู้จ้างมาเพื่อเข้าหาฉัน จุดประสงค์ก็เพื่อให้ฉันห่างจากกู้จือโม่ ในใจฉันเต็มไปด้วยความขมขื่น ที่แท้คนที่ฉันไว้ใจมาตลอดกลับกำลังใช้ประโยชน์จากฉัน ฉันหลับตาลง ไม่อยากให้ความรู้สึกของตัวเองหลุดควบคุมไปมากกว่านี้ ฉันรู้ว่าฉันไม่สามารถพ่ายแพ้ได้ง่าย ๆ แบบนี้ ฉันต้องเข้มแข็งและเผชิญหน้ากับทุกสิ่งอย่างกล้าหาญ รถค่อย ๆ จอดลง ฉันลืมตาขึ้นและมองดูโลกภายนอกผ่านหน้าต่าง ในใจมันเจ็บปวดเหลือเกิน ที่แท้ความรู้สึกถูกทรยศเป็นแบบนี้เองฉันหวังเหลือเกินว่าเหตุผลที่เขาเข้าหาฉันจะเป็นเพราะเขาคิดว่าฉันเป็นคนดี หรือเพราะเขารักฉัน ไม่ใช่เพราะค่าตอบแทนอันมากมายจากตระกูลกู้ “นายไม่คิดบ้างเลยเหรอว่าการทำแบบนี้จะทำให้ฉันเจ็บปวดมากแตาไหน? นายไม่กลัวว่าจะสูญเสียฉันไปเลยเหรอ?” ฉันยอมละทิ้งคนที่เคยรักสุดหัวใจเพื่อให

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 274

    “ฉันเข้าใจ แต่ฉันอยากให้เธอจำไว้ว่า ฉันเคยอยากจะเป็นเพื่อนกับเธอจริง ๆ” ฉันไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่มองออกไปนอกหน้าต่างเงียบ ๆ ฉันรู้ว่าเขายังพูดไม่จบ ฉันก็อยากจะกล่าวคำอำลาครั้งสุดท้ายกับเขา เพราะท้ายที่สุดแล้ว เขาอาจจะหายไปจากชีวิตของฉันตลอดกาล ฉันจะไม่ยอมให้ใครทรยศฉันในโลกของฉันอีก “บางทีวัตถุประสงค์ที่ฉันเข้าหาเธออาจจะไม่บริสุทธิ์นัก แต่ฉันรักเธอจริง ๆ เพียงแค่ฉันใช้วิธีที่ผิด ฉันหวังว่าเธอจะรักฉันได้ ถ้าเธอคิดว่าฉันไม่คู่ควร ฉันก็อยากหาวิธีไถ่โทษ เพื่อให้เธอรักฉัน” ทำไมถึงมีคนที่น่าขำขนาดนี้ได้นะ? เหยียบย่ำความจริงใจของฉัน แล้วบดขยี้ศักดิ์ศรีของฉันลงกับพื้นอย่างไร้ปรานี สุดท้ายยังคิดจะให้ฉันรักเขาอีกเหรอ? เขาคิดว่าฉันเป็นคนที่ต่ำต้อยมากขนาดไหนกัน? “ฉันไม่รู้ว่าฝ่ายนั้นให้ผลประโยชน์อะไรกับนาย แต่นายได้ทำร้ายฉันอย่างแท้จริง ฉันไม่อยากพูดอะไรกับนายอีก ไม่ว่าจะเป็นหรือตายจากนี้ไปเราสองคนอย่าได้เกี่ยวข้องกันอีก”ฉันนั่งอยู่บนรถด้วยความเจ็บปวดอย่างที่สุด ที่แท้การถูกทรยศมันเจ็บปวดขนาดนี้ แต่ฉันควรจะชินกับมันตั้งนานแล้วสิ ทำไมฉันถึงยังรู้สึกเจ็บปวดแบบนี้อยู่ล่ะ? นั่นก็เพร

Latest chapter

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 370

    “อย่าให้เธอหนีไปได้!”เสียงคำรามของหัวหน้าชายดังมาจากด้านหลัง น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยอำนาจที่ไม่อาจปฏิเสธได้ และแฝงความเร่งรีบอย่างชัดเจนแต่ฉันรู้ดีว่า นี่คือโอกาสสุดท้ายของฉันฉันพุ่งเข้าไปในห้องนอนโดยไม่ลังเล โถมตัวเข้าหาหน้าต่างทันที ใช้แรงทั้งหมดที่มีผลักเปิดบานหน้าต่างที่หนักและเก่าไปสุดแรงสายลมเย็นพัดกระทบใบหน้า พร้อมกับกลิ่นอายของค่ำคืน ทำให้ฉันลืมความหวาดกลัวและความเหนื่อยล้าไปชั่วขณะฉันลังเลอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะหันตัวเตรียมหนีไป แต่ทันใดนั้นเอง ปลายเสื้อของฉันก็ถูกกระชากเอาไว้!“ปล่อยฉันนะ!”ฉันอุทานออกมาด้วยความตกใจ พยายามดิ้นรนสุดแรง แต่แรงที่จับฉันไว้นั้นแข็งแกร่งอย่างน่ากลัว ราวกับจะดึงฉันกลับเข้าไปในห้องอย่างไม่ปรานีในช่วงเวลาที่คับขันที่สุด ฉันเหวี่ยงมีดปอกผลไม้ในมือออกไปอย่างสุดแรง แม้ว่าจะไม่ได้แทงเข้าเป้าตรง ๆ แต่คมมีดก็เฉือนเข้าที่แขนของเขา ทิ้งรอยแผลลึกไว้พร้อมกับเลือดที่ไหลซึมออกมา!ความเจ็บปวดทำให้เขาเผลอคลายมือโดยไม่รู้ตัว ฉันฉวยโอกาสนี้สะบัดตัวหลุดจากการควบคุม แล้วกระโจนออกไปทันที ร่างของฉันลอยอยู่กลางอากาศ แขวนตัวอยู่เหนือพื้นด้านล่าง!‘กระโดดเร็ว!’ฉันตะโกน

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 369

    ในตอนนั้นเอง ความคิดหนึ่งก็แวบเข้ามาในหัวของฉันอย่างกะทันหันฉันต้องการหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อพิสูจน์ตัวตนของพวกเขา หรืออย่างน้อยก็ถ่วงเวลาไว้ เพื่อรอโอกาสที่อาจเปลี่ยนสถานการณ์ได้แต่ฉันก็นึกถึงความเป็นไปได้อีกอย่างหนึ่ง นั่นคือพวกเขากำลังทดสอบขีดจำกัดของฉันฉันเป็นผู้หญิงที่อาศัยอยู่ตามลำพัง ไร้ที่พึ่งพาเผชิญกับสถานการณ์ฉุกเฉินเช่นนี้ ฉันรู้ดีว่าตัวเองไม่สามารถทำอะไรบุ่มบ่ามได้ จำเป็นต้องรักษาความสงบและใช้สติปัญญาอย่างถึงที่สุดฉันกวาดตามองชายเหล่านั้นอย่างเงียบ ๆ โดยประมาณแล้วดูเหมือนว่าจะมีเพียงสามคนฉันคำนวณในใจเงียบ ๆ หากจำเป็นต้องลงมือ อย่างน้อยฉันต้องพยายามเบี่ยงเบนความสนใจของพวกเขาเสียก่อนดังนั้น ฉันจึงจงใจเพิ่มระดับเสียง ทำท่าเหมือนกำลังหาโทรศัพท์ไปด้วย ขณะเดียวกันก็ใช้หางตาสังเกตปฏิกิริยาของพวกเขาอย่างระมัดระวัง“ขอโทษค่ะ ดูเหมือนว่าโทรศัพท์ของฉันจะอยู่ในห้องนั่งเล่น รอสักครู่ค่ะ เดี๋ยวฉันกลับมา”พูดจบ ฉันค่อย ๆ หมุนตัวทำท่าเหมือนจะเดินกลับเข้าไปในห้อง แต่แท้จริงแล้ว ฉันใช้ปลายเท้าเกี่ยวเข้ากับกระถางต้นไม้ที่วางอยู่ตรงขอบประตู กระถางนั้นเป็นเพียงของตกแต่งในชีวิตประจ

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 368

    ชายคนหนึ่งเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสุภาพ แต่ยังคงแฝงไปด้วยความหนักแน่นฉันพยักหน้า พยายามทำให้เสียงของตัวเองฟังดูนิ่งสงบที่สุด“ใช่ค่ะ ไม่ทราบว่ามีเรื่องอะไรเหรอคะ?”“พวกเราเป็นทีมปฏิบัติการพิเศษของตำรวจ เกี่ยวกับเหตุการณ์ปล้นในช่วงเช้าวันนี้ เรามีบางเรื่องที่ต้องสอบถามคุณเพิ่มเติม”ชายที่เป็นผู้นำยื่นบัตรประจำตัวให้ดู น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความจริงจังที่ไม่อาจมองข้ามได้ฉันชะงักไปเล็กน้อย คาดไม่ถึงว่าเหตุปล้นที่ดูเหมือนจะเป็นเรื่องธรรมดา จะโยงมาถึงตัวฉันได้อย่างรวดเร็วขนาดนี้แม้ในใจจะเต็มไปด้วยความสงสัย แต่ฉันก็พยายามทำตัวให้สงบที่สุด ก่อนจะขยับตัวหลบไปด้านข้าง เตรียมให้พวกเขาเข้ามาในบ้านแต่ฉันฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า ดึกขนาดนี้ ตำรวจจะมาหาฉันถึงบ้านได้อย่างไรกัน?ฉันหยุดเดินทันที ความระแวงพุ่งขึ้นสุดขีด สายตากวาดมองไปมาระหว่างชายเหล่านั้น พยายามจับพิรุธจากแววตาของพวกเขาในตอนนั้นเอง เบาะแสเล็กน้อยบางอย่างก็สะดุดตาฉันชายที่เป็นหัวหน้าถึงแม้จะแสดงบัตรออกมา แต่ในสายตาที่พร่ามัวของฉัน บัตรใบนั้นดูเหมือนจะมีแสงสะท้อนที่ผิดปกติ ไม่เหมือนกับวัสดุพลาสติกทั่วไปที่ควรจะเป็นเมื่ออยู่ใต้แสงไฟ

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 367

    สำหรับกู้จือโม่ ความรักของเขามีหรือไม่มี ก็ไม่สำคัญสำหรับฉันอีกต่อไปบางที สักวันหนึ่ง เขาอาจยอมทิ้งฉันเพื่อครอบครัวของเขาก็เป็นได้คิดมาถึงตรงนี้ ฉันเผลอแสดงรอยยิ้มขมขื่นออกมาโดยไม่รู้ตัว แต่ในรอยยิ้มนั้นกลับแฝงไปด้วยความปล่อยวางเช้าวันรุ่งขึ้น ฉันเก็บข้าวของเสร็จล่วงหน้าแล้วและออกเดินไปตามทางแสงแดดลอดผ่านกลุ่มเมฆบางเบา โปรยเป็นลวดลายลงบนพื้น เติมความอบอุ่นให้กับเช้าวันนี้ที่เงียบเหงาขึ้นมาเล็กน้อยฉันสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าไปลึก ๆ พยายามปล่อยความหม่นหมองของเมื่อคืนออกไปทั้งหมด และเตรียมตัวต้อนรับวันใหม่บนท้องถนน ผู้คนเริ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ทุกคนต่างก้าวเดินอย่างเร่งรีบและวุ่นวายกับชีวิตของตัวเองฉันเดินไปอย่างไร้จุดหมาย แต่ในใจกลับมีทิศทางที่ชัดเจน ฉันจะมุ่งมั่นกับชีวิตและหน้าที่ของตัวเองให้มากขึ้น และจะไม่ให้ความรู้สึกมาผูกมัดฉันอีกต่อไปขณะที่ฉันกำลังจมอยู่ในความคิดของตัวเอง เสียงฝีเท้าที่เร่งรีบก็ดังขึ้น ทำลายความเงียบสงบรอบตัวฉันหันกลับไปมอง เห็นชายคนหนึ่งวิ่งตรงมาหาฉันด้วยท่าทางตื่นตระหนก ขณะที่ด้านหลังของเขามีกลุ่มชายฉกรรจ์สีหน้าดุดันไล่ตามมาอย่างกระชั้นชิด เห็นได้ชัดว

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 366

    เมื่อหลินเฉี่ยนได้ยินดังนั้น ดวงตาของเธอแดงก่ำ แต่เธอพยายามกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ไหลออกมาการอยู่ที่นี่ต่อไปจะยิ่งทำให้สถานการณ์น่าอึดอัดขึ้น ฉันหยิบกระเป๋าของตัวเองขึ้นมาแล้วเดินออกไปทันทีเดินอยู่บนถนนอันเงียบสงัด ฉันรู้สึกว่าทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก เด็กหนุ่มที่เคยอ่อนโยนและน่ารักในวันวาน กลับมาทะเลาะกันเพราะเรื่องของความรู้สึกในตอนนี้ดูเหมือนจะสามารถสืบทอดกิจการของครอบครัวได้ แต่กลับสูญเสียอิสรภาพในการเลือกความรักของตัวเองไม่รู้ว่าเดินมาได้นานแค่ไหน ฉันก็พบว่าตัวเองมาถึงริมแม่น้ำแล้ว ตอนนี้เป็นช่วงพลบค่ำพอดีสายลมยามค่ำคืนพัดผ่านเบา ๆ นำพาความเย็นเล็กน้อย แต่ก็ดูเหมือนจะช่วยพัดพาความหงุดหงิดในใจให้จางหายไปด้วยฉันเดินทอดน่องเพียงลำพังบนถนนที่มีแสงไฟสลัว ในหัวยังคงฉายภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในร้านกาแฟซ้ำแล้วซ้ำเล่าความรัก ความรับผิดชอบ ผลประโยชน์ของครอบครัว... คำเหล่านี้สานกันเป็นใยซับซ้อนในความคิดของฉัน ทำให้ยากที่จะหลุดพ้นบางเรื่องฉันเคยผ่านมันมาแล้ว แต่บางเรื่องกลับทำให้ฉันเจ็บปวดเหลือเกิน แม้ว่าจะมีโอกาสเริ่มต้นใหม่ ฉันก็ยังไม่ได้คำตอบที่ต้องการอยู่ดีฉันหยุดเดิน เ

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 365

    สีหน้าของลู่เฉินเต็มไปด้วยความสับสน เขามองฉันแวบหนึ่งก่อนจะรีบหลบสายตากลับไป ราวกับกำลังชั่งใจและตัดสินใจบางอย่างในใจฉันรับรู้ได้ถึงความสับสนและความเจ็บปวดในใจของเขา ไม่ใช่แค่เพราะหลินเฉี่ยนที่อยู่ตรงหน้า แต่ยังเป็นเพราะทางเลือกที่เขาเคยทำ รวมถึงความไม่แน่นอนต่ออนาคตของตัวเอง“หลินเฉี่ยน เธอใจเย็น ๆ ก่อนนะ”น้ำเสียงของลู่เฉินพยายามรักษาความสงบ แต่ความเหนื่อยล้าและความสิ้นหวังที่ซ่อนอยู่กลับไม่อาจปกปิดได้“ที่นี่ไม่ใช่ที่สำหรับคุยเรื่องนี้ เราหาเวลาคุยกันให้ดีอีกทีได้ไหม?”เมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของหลินเฉี่ยนไม่ได้ดีขึ้นมากนัก แต่เธอดูเหมือนจะตระหนักได้ว่าสถานการณ์ตรงนี้ไม่เหมาะสมสำหรับการพูดคุยเรื่องนี้ เธอจึงสูดลมหายใจลึก พยายามระงับอารมณ์ของตัวเอง“ก็ได้ แต่ฉันต้องการคำตอบที่ชัดเจนจากคุณตอนนี้เลย เกี่ยวกับการหมั้นของเรา คุณคิดยังไงกันแน่?”ลู่เฉินนิ่งเงียบไปชั่วครู่ ก่อนจะเอ่ยปากพูดอย่างช้า ๆ ในที่สุด“หลินเฉี่ยน ผมรู้ว่าฉันติดค้างคำอธิบายกับคุณ เกี่ยวกับการหมั้น ผมไม่เคยคิดจะหนี เพียงแต่... ผมต้องใช้เวลาเพื่อจัดการความคิดของตัวเอง ธุรกิจของครอบครัว อนาคตของเราสักหน่อย เร

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 364

    ในคำพูดของเขา มีทั้งความจำใจต่อสถานการณ์ปัจจุบัน ความคิดถึงอดีต และความสับสนต่ออนาคตที่ไม่แน่นอนฉันตระหนักได้ว่าหนทางชีวิตของแต่ละคนล้วนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เราต่างก็ใช้วิธีของตัวเองในการประนีประนอมกับโลกใบนี้ และพูดคุยกับตัวเองภายในใจฉันแตะหลังมือของเขาเบา ๆ อย่างแผ่วเบา มอบกำลังใจให้เขาโดยไม่ต้องเอ่ยคำพูดใด ๆ“จริง ๆ แล้ว ทุกเส้นทางชีวิตล้วนมีคุณค่าและความหมายในแบบของตัวเอง การที่นายรับช่วงต่อธุรกิจของครอบครัว นั่นก็เป็นความรับผิดชอบและความกล้าหาญในอีกรูปแบบหนึ่ง ส่วนเรื่องการแต่งงาน แม้ว่าตอนแรกอาจจะรู้สึกไม่คุ้นเคย แต่ชีวิตเต็มไปด้วยความเปลี่ยนแปลง ใครจะรู้ได้ล่ะว่า คู่ชีวิตในอนาคตอาจกลายเป็นคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของนายก็ได้?”เมื่อได้ยินเช่นนั้น แววตาของเขาฉายแววคลายกังวลขึ้นเล็กน้อย ริมฝีปากค่อย ๆ ปรากฏรอยยิ้มบาง ๆ อย่างไม่รู้ตัว“เธอพูดถูกนะ เฉียวเฉียว บางทีฉันอาจจะมองโลกในแง่ร้ายเกินไป”ท่ามกลางบทสนทนา กลิ่นหอมของกาแฟอบอวลไปทั่วอากาศ ราวกับพาเราย้อนกลับไปสู่ช่วงเวลามัธยมที่ไร้กังวลอีกครั้ง“จริง ๆ แล้ว นายอาจรู้สึกว่าชีวิตตอนนี้เหมือนกรงขัง แต่พวกเราที่ดิ้นรนต่อสู้อยู่

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 363

    ในตอนนั้น หัวใจของฉันเจ็บปวดราวกับถูกฉีกออกเป็นชิ้น ๆ แต่ยังต้องฝืนยิ้มต่อหน้าผู้คน และเล่นตามบทบาทในพิธีศพอันแสนไร้สาระทุกครั้งที่ฉันมองแผ่นหลังของไอ้สารเลวนั่น ความโกรธและความเศร้าที่ไม่อาจบรรยายได้ก็เอ่อล้นขึ้นมาในใจคนที่ควรจะเป็นที่พึ่งพาที่มั่นคงที่สุดของฉัน กลับเลือกที่จะใช้การจากไปของคุณย่าเพื่อตอบสนองความต้องการเห็นแก่ตัวของตัวเอง ในช่วงเวลาที่ฉันต้องการความเข้าใจและการสนับสนุนมากที่สุดหลังจากพิธีศพจบลง ฉันเดินวนเวียนอยู่เพียงลำพังในสวนหลังบ้าน แสงจันทร์สาดส่องลงมา ทำให้บรรยากาศยิ่งเย็นเยียบและเงียบเหงาเป็นพิเศษฉันหวนคิดถึงทุกช่วงเวลาที่แสนอบอุ่นที่เคยใช้ร่วมกับคุณย่า รอยยิ้มของเธอ คำสอนของย่า ราวกับยังคงก้องอยู่ข้างหูน้ำตาไหลรินอย่างเงียบงันในช่วงเวลานี้ ความคับแค้น ความโกรธ และความไม่ยอมรับทุกอย่าง ถูกปลดปล่อยออกมาในที่สุดแต่ตอนนี้ คนที่เจ็บปวดจริง ๆ คือเฉิงเฉิง ฉันรู้สึกทรมานใจเหลือเกินเห็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉันกลายเป็นคนหมดอาลัยตายอยากหลังจากการจากไปของคุณย่า ฉันเองก็รู้สึกไม่สบายใจเช่นกันฉันสูดลมหายใจลึก พยายามทำให้ตัวเองสงบลง แล้วหันไปมองเฉิงเฉิงด้วยความต

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 362

    “ฉันเข้าใจความรู้สึกของเธอ เฉียวเฉียว การสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักเป็นความเจ็บปวดที่ยากจะลืมเลือน แต่เช่นเดียวกับที่เธอกล่าวไว้ เราทุกคนจำเป็นต้องหาหนทางที่จะก้าวออกจากความเศร้าและกลับมาใช้ชีวิตอีกครั้ง คุณทำได้ และฉันเชื่อว่าฉันก็ทำได้เช่นกัน”เสียงของเฉิงเฉิงเต็มไปด้วยความหนักแน่นมากขึ้น แม้ว่าดวงตาจะยังคงแดงก่ำ แต่ความปรารถนาที่จะใช้ชีวิตก็ได้ปรากฏขึ้นอย่างเงียบ ๆ“ฉันจำได้ว่า คุณย่าเคยบอกฉันว่า ชีวิตก็เหมือนการเดินทาง เราจะได้พบเจอผู้คนมากมาย และก็ต้องลาจากกับหลายคนเช่นกัน การจากไปของแต่ละคนมีไว้เพื่อให้เราซาบซึ้งกับคนที่ยังอยู่เคียงข้างเรามากขึ้น และให้เห็นคุณค่าของเส้นทางชีวิตข้างหน้าของตัวเอง ฉันคิดว่า ตอนนี้ย่าคงอยู่ที่ไหนสักแห่ง มองฉันด้วยความอ่อนโยน และหวังให้ฉันเข้มแข็งก้าวต่อไป”ฉันจับมือเธอเบา ๆ มอบกำลังใจให้เธอโดยไม่ต้องเอ่ยคำพูดใด ๆ“เฉิงเฉิง คำพูดของย่าเธอถูกต้องแล้ว เราต้องก้าวต่อไปโดยมีความรักของเธออยู่กับเรา พรุ่งนี้เราจะเผชิญกับพิธีศพด้วยกัน แม้ว่ามันจะยาก แต่ก็นับเป็นการอำลาย่าของเธอ และเป็นก้าวสำคัญของการเติบโตของเราเอง”คืนนั้น เราคุยกันมากมาย ตั้งแต่ความทรง

Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status