เมื่อเห็นใบหน้าเล็ก ๆ ของลูกสาวที่เต็มไปด้วยความอิดโรยบนใบหน้านั้น สุดท้ายเจิ้งชิวจือก็ทำได้แต่ถอนหายใจยาว“ขอโทษนะลูก มันเป็นความผิดของแม่เอง ที่ทำให้ลูกต้องเดือดร้อนไปด้วย!”เธอเองก็รู้ว่าตัวเองไม่ควรไปปลูกฝังเรื่องการกลัวผู้ชายให้ลูกสาวบ่อย ๆ สุดท้ายแล้วไม่ช้าก็เร็วเธอก็ต้องแต่งงานอยู่ดี แต่เธอก็แค่กลัว! กลัวว่าลูกสาวจะสับสนจนโดนทำร้ายให้เจ็บปวดอีก!“เดือดรงเดือดร้อนอะไรกันคะ รอแม่ผ่าตัดสำเร็จแล้ว คุณหมอบอกว่าไม่แน่ว่าแม่อาจลุกจากเตียงเดินได้ปกติก็ได้! พอถึงตอนนั้นแม่ต้องทำเกี๊ยวให้หนูด้วยนะ หนูอยากกินแล้วเนี่ย”“ได้เลยจ้า” เจิ้งชิวจือพยักหน้า ทันใดนั้นก็นึกอะไรขึ้นได้ “แล้วแฟนของลูก ให้เขาเข้ามาเถอะ แม่อยากเจอสักหน่อย”สวี่ชิงฮวนชะงักไปชั่วครู่ แล้วหันหน้าหนีไปหยิบแอปเปิ้ลขึ้นมาเริ่มปอกด้วยความร้อนตัว “เขายุ่งมาก มีเรื่องที่บริษัทเยอะแยะเลย”“พ่อของลูกในตอนนั้นก็เป็นแบบนั้นแหละ”“แม่!” เธอขัดจังหวะเบา ๆ “ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเป็นเหมือนเขานี่คะ”อย่างน้อยสัญชาตญาณก็บอกสวี่ชิงฮวนว่า ฟู่เยี่ยนฉือไม่ใช่คนแบบนั้นพอคำพูดนี้เข้าหูเจิ้งชิวจือ ยิ่งฟังดูเหมือนลูกสาวกำลังแก้ต่างแทนแฟนตัว
“ได้”แล้วก็ไม่รู้ว่าเขาเมาหรือไม่เมากันแน่ ถ้าจะบอกว่าเมา แต่กลับสามารถอุ้มเธอในท่าเจ้าหญิงไปที่ห้องนอนได้ แต่ถ้าบอกว่าไม่ได้เมา...... ตอนนี้เด็กหนุ่มคนนี้ก็ดูท่าทางรีบร้อน ไม่เหมือนกับการกระทำของฟู่เยี่ยนฉือผู้ที่สุขุมนุ่มลึกจนถึงขั้นแทบจะเย็นชาในยามปกติ ที่จะสามารถแสดงออกมาได้!สวี่ชิงฮวนกลับรู้สึกเหมือนว่าตัวเองก็เมาไปด้วยเหมือนกัน ดูมึน ๆ เวลาผ่านไปนานมาก จนเหมือนว่าแม้แต่โคมไฟบนเพดานก็ส่ายไปมาไปพร้อมกับเธอในที่สุดเธอก็ทนต่อไปไม่ไหว ขยับสายตาไปที่รอยสักบนกระดูกไหปลาร้าของเขาตรงนั้นแล้วกัดลงไปอย่างแรงพอรู้สึกเจ็บ ฟู่เยี่ยนฉือถึงได้หยุดลง"ขอโทษ ผม……”“ประธานฟู่ วันนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วนะ โอเคไหมคะ?” เสียงในลำคอของเธอแหบแห้ง น้ำเสียงเจือความอ้อนวอนออดอ้อนเล็กน้อยฟู่เยี่ยนฉือไม่ตอบ แต่หลังจากสิ้นสุดครั้งนี้ไป เขาก็ลุกขึ้นไปเข้าห้องอาบน้ำสวี่ชิงฮวนคิด ดูเหมือนว่าตนเองจะค้นพบปุ่มหยุดชั่วคราวที่ใช้กับฟู่เยี่ยนฉือแล้ว! ที่เธอรีบกัดรอยสักนั่นไปเมื่อกี้ ก็แค่อยากจะเตือนสติฟู่เยี่ยนฉือสักหน่อย ให้เขาได้คิดถึงคนรักที่อยู่ในใจเป็นอย่างที่คิดไว้!เขาก็ปล่อยตัวเองไปใช้เวลาใ
ในค่ำคืนนี้ สวี่ชิงฮวนได้นอนหลับไปแค่สามชั่วโมงเท่านั้นในตอนที่ตื่นขึ้นมาในวันรุ่งขึ้น ฟู่เยี่ยนฉือก็ออกไปแล้วบนโต๊ะในห้องอาหารมีอาหารเช้าที่เขาทำเสร็จแล้ววางเอาไว้ให้ ยังร้อน ๆ อยู่เลย และโพสต์อิทแหนึ่งแผ่นแปะอยู่ข้าง ๆ[ผมเดินทางไปติดต่อธุรกิจ กลับอาทิตย์หน้า] ลงชื่อมาคำเดียวคือ ฉือสวี่ชิงฮวนอ่านโพสต์อิท แล้วมองดูอาหารเช้าบนโต๊ะ เธอไม่สามารถปะติดปะต่อฟู่เยี่ยนฉือที่โลกส่วนตัวสูงกับเขาคนที่ทำตัวเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนที่อยู่บริษัทได้จริง ๆ!เวลาที่อยู่บ้าน นับว่าเขาเป็นคนอ่อนโยนเลยทีเดียว แม้ว่าเมื่อคืนจะเรียกร้องมากเกินไปแต่การกระทำก็นับว่ามีความอ่อนโยน ราวกับกลัวจะทำให้เธอขาดใจตายอย่างงั้นล่ะถ้าไม่ใช่เพราะรอยสักนั่น เธอเกือบจะเข้าใจผิดคิดว่าฟู่เยี่ยนฉือชอบตัวเธอเองไปแล้ว!ทันใดนั้นสวี่ชิงฮวนก็รู้สึกว่าผู้หญิงที่ถูกเขาแอบรักอยู่ในใจมาตั้งหลายปีคนนั้น ช่างน่าอิจฉาเสียจริงเลย อย่างน้อยเธอก็แค่รู้สึกอิจฉา…….เมื่อถึงบริษัท สวี่ชิงฮวนที่เสร็จจากประชุมช่วงเช้าก็เริ่มเขียนหนังสือยื่นคำร้องเงินกู้ในช่วงเวลาที่ใกล้จะเที่ยงวัน จู่ ๆ ผู้จัดการเฉินก็ผลักเปิดประตูห้องทำงานของเธอ
คำเตือนที่จริงจังของเขา ทำให้สวี่ชิงฮวนมีสติขึ้นมาอย่างกะทันหันนั่นสิ ทำไมเธอถึงได้กล้ามั่นใจว่าฟู่เยี่ยนฉือจะเปิดอ่านหนังสือคำร้องนี้ได้กันนะ? เพียงเพราะว่าเขานอนกับเธอแล้วอย่างงั้นเหรอ?อย่าลืมว่าคนเขาจ่ายเงินมาแล้ว ในเมื่อเป็นการทำธุรกิจด้วยเงินทอง ดึงความรู้สึกมาเกี่ยวข้องก็เป็นตัวเองนั่นแหละที่จะแหกกฎเอง“ไม่มีแล้วค่ะ ขอโทษที่รบกวนประธานฟู่ค่ะ”สวี่ชิงฮวนไม่ได้ฟังว่าเขาพูดอะไรต่ออีก รีบวางสายโทรศัพท์อย่างเร็ว คำว่า “ช่างไม่เจียมตัว” สี่คำนี้ ดูเหมือนจะตอกหน้าเธออย่างแรงถึงสี่ครั้ง!ทางด้านนอก ผู้จัดการเฉินก็ได้รับการแจ้งแล้วเช่นกัน เขาได้พุ่งตัวเข้ามาด้วยความโกรธเต็มประดา“ผมบอกแล้วว่ามันไม่ผ่านใช่ไหม! สวี่ชิงฮวน คุณคิดว่าคุณเป็นใคร แถมยังขอให้ผมเชื่อคุณอีกสักครั้ง! พอผมเชื่อ ตอนนี้เป็นไงล่ะ! เฮอะ?”เมื่อได้ยินคำตำหนิของเขา ฟู่เจียเจียรีบหอบเอกสารวิ่งเข้ามาอย่างรีบร้อน มาขวางอยู่ตรงหน้าของสวี่ชิงฮวนและพูดแทนเธอว่า “ผู้จัดการเฉิน แม่ของสวี่ชิงฮวนเพิ่งเกิดเรื่อง คุณช่วยใจกว้างกับเธอหน่อยไม่ได้รึไงคะ?”“ให้ผมใจกว้าง? แล้วใครมันจะมาใจกว้างกับผมบ้างล่ะ!” ผู้จัดการเฉินตบโต๊ะอย่
ตัวตายตัวแทน......เอ่อ คนที่อยู่ในประโยคนี้ยังต้องคิดอะไรอีกไหม? ที่ว่ามาก็น่าจะเป็นตัวเธอเองแน่ ๆเห็นได้ชัดว่าเขากำลังอธิบายเรื่องทะเบียนสมรสให้กับคนรักที่ไม่สามารถแต่งงานด้วยกันได้ของตนเองฟังสวี่ชิงฮวนรู้สึกว่าในวินาทีตนเองเหมือนกับเป็นตัวตลก! กำลังผลุบอยู่ระหว่างชายหญิงตระกูลร่ำรวยก่อนหน้านี้เธอยังคงสงสัยว่าทำไมฟู่เยี่ยนฉือถึงได้เลือกเธอ ตอนนี้ทุกอย่างกระจ่างแล้ว!มิน่าล่ะ……ไม่แปลกใจเลยที่ในตอนนั้นฟู่เยี่ยนฉือบอกว่าตนเองเหมาะสมที่สุด! สุดท้ายแล้วหากไม่ได้เกี่ยวข้องกันทางสายเลือด การที่จะหาคนรักที่ไม่สามารถแต่งงานด้วยกันได้ที่มีใบหน้าละม้ายคล้ายกันก็คงนับว่าเป็นเรื่องยากมาก ตัวเองก็เป็นเพียงแค่ “ตัวแทนของเซี่ยหว่านอวี่” ตั้งแต่แรกนั่นเองในนาทีแรก สวี่ชิงฮวนไม่รู้ว่าควรจะเกลียดความบังเอิญนี้ หรือจะรู้สึกโชคดีกับความบังเอิญนี้ดี! เพราะถ้าไม่มีตำแหน่งการแทนที่นี้ คุณแม่ก็คงไม่มีเงินก้อนนั้นมาจ่ายค่ารักษาเซี่ยหว่านอวี่เห็นสีหน้าที่ยุ่งเหยิงสับสนนั้นของสวี่ชิงฮวน ก็รู้ได้ว่าเธอไม่รู้จักตัวเองอย่างแน่นอน และ......ตอนนี้ก็คงเข้าใจผิดอะไรไปกันใหญ่แน่ ๆแต่เธอชอบความเข้าใจผิดน
ด้วยความรู้สึกที่ใจไม่เป็นสุข หลังจากที่สวี่ชิงฮวนเลิกงานก็เรียกแท็กซี่ตรงไปที่อ่าวตงเยว่ทันทีป้อนรหัสล็อกประตูได้ครึ่งทาง ทันใดนั้นก็รู้สึกขึ้นมาได้ว่าไม่ควรทำอะไรแบบนี้ ถ้าเกิดจ๊ะเอ๋กันขึ้นมาทุกคนจะทำตัวไม่ถูกกันได้! เพราะงั้นจึงรีบกดกริ่งประตูไม่นาน ประตูก็ถูกเปิดออกฟู่เยี่ยนฉือเปลี่ยนชุดสูทที่สวมระหว่างวันเรียบร้อยแล้ว ปกติตอนอยู่บริษัทจะหวีผมอย่างพิถีพิถันแต่ก็ยังมียุ่งเหยิงอยู่บ้าง ร่างสูงสวมชุดอยู่บ้านสีขาว หลังจากแปลงโฉมจากมาดนักธุรกิจผู้สง่างามเรียบร้อยแล้ว เขาในตอนนี้ให้ความรู้สึกเป็นพ่อหนุ่มน้อยจอมขี้เกียจเหมือนกับว่าเพิ่งจะไปเล่นบาสเก็ตบอลในสนามกีฬากลับมา ดูเหนื่อยนิดหน่อยและเตรียมที่จะกลับห้องเรียนไปพักสวี่ชิงฮวนกลัวว่าคนรักที่ไม่สามารถแต่งงานด้วยกันได้จะอยู่ด้วย เพราะงั้นจึงไม่ยอมเข้าไปและยังคงยืนอยู่ตรงที่เดิมด้วยท่าทางที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ “ประธานฟู่ เรื่องที่คุณบอกว่าเกี่ยวกับโครงการหัวเย่”“สวี่ชิงฮวน”เขาเรียกชื่อเธอตรง ๆ ขมวดคิ้วเป็นปม "ตอนนี้ผมเลิกงานแล้ว”“.......” สวี่ชิงฮวนรู้สึกว่าตัวเองโง่เขลาซะจริงๆ ไม่เข้าใจความหมายที่เขาสื่อ! เขาเป็นคนส่งข้อค
สวี่ชิงฮวนปฏิเสธทันที “ไม่ใช่อย่างแน่นอน!”“แล้วเพื่อนของเธอได้บอกเธอหรือเปล่า ว่าผู้ชายคนนี้พออยู่บนเตียงแล้วรุนแรง? แต่ถ้าเล็กพริกขี้หนูก็ช่างเหอะ!”สวี่ชิงฮวนตอบตามจิตใต้สำนึก “ก็ไม่ขนาดนั้นนะ”“เพื่อนเธอกับเธอเคยซุบซิบเรื่องนี้กันด้วยเหรอ?” ฟู่เจียเจียเบิกตากว้าง พอพูดถึงหัวข้อแบบนี้ก็ใจฟู ฮึกเหิมขึ้นมาเลย “ไม่ต้องมาอ้อมค้อมแล้ว เพื่อนเธอคนไหน?”“…… โธ่เอ๊ย เธอไม่รู้จักหรอก เขาเป็นเพื่อนร่วมชั้นของฉันนานแล้ว” สวี่ชิงฮวนกลัวว่าตัวเองอาจจะหลุดพูดอะไรออกไป จึงรีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “จริงสิ วันนี้ฉันมีนัดกับคนที่รับผิดชอบโครงการหัวเย่ เธอว่างหรือเปล่า?”ฟู่เจียเจียขยับปากทำเสียง รู้สึกลำบากใจอยู่เล็กน้อย “วันนี้ไม่ได้อ่ะ สำนักงานใหญ่โอนเงินชดเชยของฮั่นหยางมาแล้ว ฉันต้องไปที่นั่น”“ไม่เป็นไร ฉันไปเองก็ได้”สวี่ชิงฮวนเก็บข้าวของ ปรินท์รายชื่อบริษัทบุคคลภายนอกที่ฟู่เยี่ยนฉือส่งเข้ามาในอีเมล์ รวมเอกสารทั้งหมดเข้าด้วยกัน เหลือบมองเวลาและออกตัวเดินทางไปยังจุดนัดหมายคนที่รับผิดชอบของหัวเย่เป็นชายวัยกลางคน แม้ว่าจะแก่กว่าไม่กี่ปี แต่ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นคนรักความเรียบร้อยอะไรประมาณนั้น
สติที่ทำเป็นเข้มแข็งของสวี่ชิงฮวน ในวินาทีนี้ได้พังทลายลง!เมื่อร่างกายเลือกที่จะเชื่อว่าเป็นฟู่เยี่ยนฉือตามสัญชาตญาณ ก็เลยหมดสติไปในอ้อมแขนของเขาเธอไม่ได้เห็นใบหน้าอันหล่อเหลาที่ตึงเครียดและเฉียบคมของผู้ชายในเวลานี้ ดวงตาไม่เคยแสดงความรู้สึกยินดีตลอดทั้งวัน ในเวลานี้ก็เกาะเป็นน้ำแข็งขึ้นอีกชั้น“ฟู่ ฟู่เยี่ยนฉือ......”ประธานหวังงงตาแตก สั่นสะท้านไปทั้งตัว คิดไม่ถึงว่าวันนี้จะได้เห็นผู้ทรงอำนาจขนาดนี้!“แกภาวนาให้เธอไม่เป็นอะไรจะดีกว่านะ”คำพูดของฟู่เยี่ยนฉือไม่มีน้ำเสียงโกรธใด ๆ แต่พอฟังแล้วกลับทำให้คนอื่นตัวสั่นเป็นลูกนก!เห็นเงาหลังที่เขาอุ้มผู้หญิงออกไป ประธานหวังก็ตกใจจนทรุดตัวลงบนเตียง จนยืนด้วยขาไม่ไหว......สวี่ชิงฮวนรู้สึกเหมือนตัวเองหลับฝันไปนานมากฉากเริ่มตั้งแต่ในตอนที่แม่ฆ่าตัวตายมีเลือดแดงสดนองเต็มพื้น ไปจนถึงห้องเรียนของโรงเรียน แล้วก็ฝันถึงใบหน้าที่โมโหสุด ๆ ของผู้จัดการจางราวกับภาพสไลด์แว็บไปแว็บมาทันใดนั้นความเจ็บปวดที่รุนแรงก็ปลุกให้เธอตื่นขึ้นขมวดคิ้วและค่อย ๆ ลืมตาขึ้นช้า ๆ เพดานสีขาวของโรงพยาบาลทำให้เธอรู้สึกไม่ค่อยสบายซักเท่าไร จึงจะยกมือขึ้นมาบั