[คุณอิฐ]
สวัสดีครับทุก ๆ คน ใครหลาย ๆ คนอาจจะเคยรู้จักผมมาบ้างแล้ว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ยังมีคนบางกลุ่มที่ยังไม่รู้จักผมดีพอ วันนี้ผมจะขอสาธยายชีวิตของผมคร่าวๆ เพื่อให้ทุกคนได้รู้จักทั่ว ๆ กัน ผมชื่ออิฐ หรือ นายอมรเชษฐ์ เศรษฐ์คุณาธิป อายุสามสิบสามปี ส่วนสูงร้อยแปดสิบห้า น้ำหนักเจ็ดสิบหก หุ่นค่อนข้างสันทัดตามแบบฉบับผู้ชายไทย อมรเชษฐ์ แปลว่า ผู้เป็นใหญ่ ซึ่งเอาจริงๆ ชีวิตผมไม่ได้ยิ่งใหญ่เหมือนชื่อ ถ้าเทียบกับพี่ชายแท้ๆ ผมก็เป็นได้แค่เศษดินปลายเล็บ เพราะพ่อกับแม่รักพี่ชายมากกว่าผม ถึงผมจะมีอาชีพการงานที่ดีกว่า แต่ผมมันก็เป็นได้แค่เศษสวะในสายตาพ่อ แต่ถึงอย่างไรผมก็ไม่เคยคิดอิจฉาพี่ชายในสายเลือด อาจจะมีผิดใจกันบ้างในบางเรื่อง แต่ก็ไม่เคยคิดร้ายต่อกัน ผมเป็นคนง่าย ๆ สบาย ๆ กล้าได้กล้าเสีย อาจจะเป็นคนอารมณ์ร้อนไปนิด แต่ลึก ๆ ผมเป็นคนจิตใจดี ซึ่งใครหลาย ๆ คนก็ต่างพูดกันแบบนั้น ผมนั้นประกอบธุรกิจหลากหลายอย่างครับ ไม่ว่าจะเปิดบริษัทส่งออกรถยนต์ทั้งในและนอกประเทศ และทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ผมคว้านซื้อที่ดินในหลาย ๆ จังหวัดเพื่อเก็งกำไร อีกส่วนก็แบ่งไว้สร้างคอนโดหรือบ้านจัดสรรขายทอดตลาด เอาจริง ๆ ถ้าเรื่องความรวย ไอ้เพลิงเทียบผมไม่ติด แต่ก็มีอีกเรื่องหนึ่งที่ผมสู้มันไม่ได้เลย นั่นก็คือเรื่องผู้หญิง ผมมักจะแพ้มันทุกครั้งไป ไม่รู้เป็นเพราะอะไร ผมจะรักใครแต่ละที ก็จำต้องผิดหวัง เอาจริง ๆ ผมโคตรศรัทธาในความรักเลย แต่ความรักไม่เคยเข้าข้างผมเลยสักครั้ง และครั้งนี้ก็เช่นกัน ผมตกหลุมรักผู้หญิงคนเดียวกันกับมันอีกแล้วครับ นั่นก็คือสปาย เพราะเธอดันรักไอ้เพลิง ไม่ใช่ผม ผมตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกเห็น วันนั้นเธอวิ่งหนีใครบางคนอย่างหวาดกลัว และมาขอร้องอ้อนวอนให้ผมพาเธอหนี แรก ๆ ผมก็ปฏิเสธ พอรู้ว่าเธอหนีใครมา ผมก็ตัดสินใจช่วยอย่างไม่ลังเล เพราะคนที่สปายหนีมาก็คือ... ไอ้เพลิง ศัตรูของผม ผมพาเธอไปส่งที่ห้อง แต่รู้อะไรไหม ผมยิ้มและยืนมองตามเธอตลอดทางที่เธอเดินขึ้นตึกไปเลย ขนาดกลับถึงคอนโด ผมยังเก็บเอาใบหน้าแสนหวานของเธอกลับไปฝันอะคิดดู แต่ฟ้าก็ดันมาเล่นตลก พรากเธอไปจากผม เพราะผู้หญิงที่ผมไม่ค่อยชอบขี้หน้า เพราะมันฝีปากกล้า ๆ หน่อย กล้าต่อล้อต่อเถียงกับผม โดยที่ไม่ดูรุ่น ดูอายุ นั่นก็คือไอ้แป้ง ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ผมไม่ค่อยถูกชะตากับผู้หญิงคนนี้เท่าไหร่นัก หรืออาจเป็นเพราะผมตกหลุมรักสปายไปแล้วก็ได้ ผมเลยไม่สนใจใครอีก ต่อให้จะสวยจะดีมากแค่ไหนก็ตาม และแล้ววันนี้ วันที่ผมกลัวก็มาถึง วันที่สปายจากผมไป เพราะผู้หญิงคนนั้น ไอ้แป้ง!! มันพาสปายหนีผมไปหาไอ้เพลิง ศัตรูตลอดกาลของผม ซึ่งผมผิดหวัง เสียใจ และโมโหมากๆ และผมก็ระงับอารมณ์โกรธของตัวเองไม่อยู่ “แม่ง!! ใครเป็นคนพาไปว่ะ มึง!! มึงใช่ไหม มึงทำแบบนี้ทำไมว่ะ” ฝ่ามือหนาของผมรีบคว้าไปที่คอของไอ้แป้งอย่างรุนแรง ก่อนที่จะกระชากตัวมันให้ลุกขึ้นมาจากโซฟา แล้วดันตัวมันให้ไปติดกับผนังห้อง ผมรวบรวมความโกรธที่มีบีบรัดลำคอเรียวยาวของมันสุดแรง จนมันนั้นตัวสั่นเครือ และน้ำตาก็ไหลพรากออกมา “ขะ ขอ... โทษ...” ไอ้แป้งมันกลั้นใจพูดออกมาจนน้ำเสียงแทบหายไปกับอากาศ ก่อนที่มันจะยกมือเรียวเล็กของมันขึ้นมากุมมือผมด้วยอาการสั่นเครือ สายตาที่มันจ้องมองผม มันมีแต่ความหวาดกลัว “แม่ง!!” ผมจับคนตัวเล็กเหวี่ยงสุดแรง ก่อนที่หัวของมันจะไปโขกกับขอบโต๊ะ แล้วมันก็ล้มลงไปกองกับพื้น เลือดสีแดงสดก็ไหลมาเปื้อดใบหน้าขาวนวลช้า ๆ ช่วยไม่ได้ นาทีนี้ผมโมโหจริง ๆ “แคกๆๆ” ไอ้แป้งมันหายใจหอบ และไอออกมาสุดแรง เพราะเมื่อกี้มันคงหายใจไม่ออก แต่คิดว่าผมจะสงสารมันไหม ไม่มีทาง “มึงเป็นคนวางแผนพาสปายหนีใช่มั้ยแป้ง มึงไปวางแผนกับไอ้เพลิงมาใช่ไหม ใช่ไหม กูถามว่าใช่ไหม?” ผมตะคอกออกไปสุดแรง ก่อนจะยกนิ้วชี้หน้า ส่งสายตาคาดโทษให้มัน แม่ง!! กล้าดียังไงมาพาคนที่ผมรักสุดหัวใจหนีไปแบบนี้ ผมไม่ยอมง่าย ๆ แน่ “ไม่!! ฉันไม่ได้วางแผนอะไรทั้งนั้นแหละ คุณกำลังเข้าใจผิด” แป้งมันยกมือขึ้นมาจับคอตัวเองไว้หลวม ๆ แล้วแสดงสีหน้าที่เจ็บปวด ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองใบหน้าคมคายของผมช้าๆ น้ำตาก็ยังคงไหลมาเป็นสาย หึ!! ร้องไห้ให้ตายผมก็ไม่มีวันสงสารหรอก “แล้วมึงพาสปายไปให้ไอ้เพลิงทำเหี้ยอะไรวะ” ผมนั่งชันเข่าลงไปข้าง ๆ มัน ก่อนจะตบไปที่ใบหน้าขาวนวลเบาๆ สองสามที “กูเคยเตือนมึงแล้วใช่ไหม ว่าถ้ามึงบอกไอ้เพลิง กูเอามึงตายแน่” ผมพูดออกไปด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้ง ก่อนที่น้ำตาของมันจะร่วงหล่นลงมาอีกครั้ง ผมเคยพูดว่าผมเกลียดน้ำตาผู้หญิง แต่สำหรับผู้หญิงคนนี้ ผม... ไม่!! “ฮึก!! มึงคิดว่ามึงจะยื้อสปายไว้กับมึงตลอดไปได้เหรอว่ะ สักวันสปายก็ต้องกลับมาจำได้ เลิกหลอกตัวเองได้แล้ว สปายเขาไม่ได้รักมึง คนที่สปายรักคือเสี่ยเพลิง” คนตัวเล็กมันตะเบ็งเสียงออกมาดังลั่น จนทำให้ผมที่ได้ฟังนั้น โมโหเลือดขึ้นหน้า สปายรักไอ่เพลิงงั้นเหรอ หึ!! ทำไมผมกลัวคำนี้จังว่ะ ผมกลัวมาก ๆ กลัวว่าสปายจะกลับไปจำไอ้เพลิงได้ ถ้าสปายกลับไปจำไอ้เพลิงได้อีกครั้ง ผมจะทำยังไงวะ ผมคงปวดใจไม่น้อย “ไม่ใช่!! สปายเขารักกู” เพี๊ยะ!! ฝ่ามือหนาของผมประทับลงไปบนใบหน้าขาวนวลด้วยความโกรธ จนเผยให้เห็นรอยนิ้วมือฉายขึ้นมาบนใบหน้า ซึ่งมันทำให้ผมสะใจซะมากกว่า จากนั้นผมก็รีบเดินออกจากห้องเพื่อไปตามหาสปายอย่างหัวเสีย โดยที่ผมไม่สนใจคนที่กำลังนั่งร้องไห้อยู่ในห้อง ผมรู้ตัวดีว่าผมกำลังหลอกตัวเองอยู่ว่าสปายเขารักผม แต่ผมก็ยอมให้สปายหลอก หลอกทั้งชีวิตยังได้เลย [แป้งร่ำ] มันชาไปทั้งหัวใจ เราไม่คิดไม่ฝันว่าคนที่เรารัก เขาจะทำกับเราแบบนี้ เรายกมือข้างซ้ายไปกุมใบหน้าที่แดงฉ่าของตัวเองไว้หลวม ๆ แล้วร้องไห้ออกมาด้วยความเจ็บปวด เราจุกหัวใจมาก ในตอนนี้ความรู้สึกที่มีต่อเขามันแตกละเอียดไปหมดแล้ว เราคงรักเขามากจนเกินไป จนมันย้อนกลับมาทำร้ายตัวเอง เรารู้สึกอึดอัดใจยังไงก็ไม่รู้ พอได้ร้องไห้ ก็ปล่อยออกมาจนหมดแม็ก ผ่านไปหนึ่งวันเต็มๆ กับการออกตามหาสปาย แต่ก็ไร้วี่แวว เราไม่รู้ว่าเสี่ยเพลิงเอาสปายไปไว้ที่ไหน ส่วนคุณอิฐเขาก็คงกำลังตามหาสปายอยู่เช่นกัน จู่ ๆ เราก็ดันไปเห็นคุณอิฐในห้างสรรพสินค้าโดยบังเอิญ ซึ่งตอนนี้เป็นเวลาหนึ่งทุ่มตรงพอดีเป๊ะ เราทำใจดีสู้เสือ แล้วเดินเข้าไปถามข่าวคราวของสปายจากเขา เผื่อเราจะช่วยอะไรเขาได้บ้าง เพราะตอนนี้เขากำลังยื่นรูปสปายให้คนในห้างดูอยู่ “คุณ!! ได้ข่าวสปายบ้างหรือเปล่าคะ?” เราสูดลมหายใจเข้าไปลึก ๆ ก่อนจะเอ่ยปากถามข่าวคราวของสปาย ถึงเราจะเจ็บปวดจากการกระทำของเขามากแค่ไหน แต่เพราะความเป็นห่วงเพื่อน เราจึงยอมกลับมาคุยดีกับเขาอีกครั้ง เขาหันมามองเราสักพัก ก่อนจะหันมาตอบเราด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย เขาไม่แสดงท่าทางอะไรออกมา ซึ่งเราไม่รู้เลยว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ “หาทั่วแล้ว แต่ไม่มีใครเจอเลยสักคน กูหมดปัญญาแล้วจริง ๆ ว่ะ” “ยังหรอกค่ะ อีกไม่นานก็คงเจอ เดี๋ยวฉันจะช่วยคุณออกตามหาอีกแรง” เขาพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะออกตามหาสปายอีกครั้ง ส่วนเราก็เดินตามเขามาติด ๆ เราเห็นการกระทำของเขาทุกอย่าง เขาดูรัก และเป็นห่วงสปายมาก แต่กับเราเขาไม่เคยมีความปรานีหรือเห็นอกเห็นใจ เขาก็คงรักของเขานั่นแหละ ส่วนเราก็รักของเราเช่นกัน แต่จากนี้ไปเราคงต้องทำใจ เพราะเรื่องของเรากับเขามันคงเป็นไปไม่ได้ เพราะเขาเกลียดเรายิ่งกว่าอะไรดี “น้องครับ เคยเจอผู้หญิงในรูปนี้บ้างหรือเปล่าครับ?” “ไม่นะคะ หน้าไม่คุ้นเลยค่ะ” “อ้อ ครับ ขอบคุณครับ” เขาโค้งนิดหนึ่ง ก่อนจะเดินเข้าไปถามผู้ชายที่มีอายุราว ๆ สามสิบปีคนหนึ่งปีคนหนึ่งต่อ “เอ่อ... พี่ครับ เคยเห็นผู้หญิงในรูปนี้บ้างหรือเปล่าครับ?” “ไม่เคยนะครับ” เขาถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ก่อนจะเดินตามหาสปายอีกครั้ง เขาดูรักสปายมาก ๆ เลยนะ ออกตามหาสปายไม่ได้พักผ่อนเลย น้ำท่าได้อาบบ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้ แล้วทำไมเราต้องเป็นห่วงเขาด้วยล่ะ เขาพึ่งทำร้ายเราไปเองนะ เราควรจะโกรธเขาสิ แต่ไม่เลย เราโกรธเขาไม่ลง ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน สักพักเราสองคนก็เดินมาที่รถ ก่อนจะแล่นรถออกตามหาสปายที่อื่นต่อ เราบอกให้เขาไปพักผ่อน เขาก็ไม่ยอมไป อ้างว่าสปายกำลังตกอยู่ในอันตรายอยู่นั่นแหละ อันตรายอะไรวะ สปายอยู่กับผัวที่กำลังกลับตัวกลับใจเป็นคนใหม่เพื่อลูกเพื่อเมีย มันอันตรายยังไงวะ ซึ่งเราเองก็งง เห้อ... คุณอิฐขับรถมาเรื่อย ๆ สองข้างทางค่อนข้างมืดและเปลี่ยว จนสักพักรถหรูก็เคลื่อนตัวมาอยู่บนสะพานริมแม่น้ำเจ้าพระยา แต่สายตาเราก็เหลือบไปเห็นผู้หญิงร่างบางกำลังจะกระโดดสะพาน เรารีบตะโกนบอกคุณอิฐ ให้รีบจอดรถทันที “คุณๆๆ กำลังจะมีผู้หญิงกระโดดสะพาน จอดรถเร็ว!!” เราพูดออกมาด้วยความตกใจกลัว จนทำให้คุณอิฐรีบเหยียบเบรกทันควัน จนทำให้หัวเราไปโขกกับคอนโซนรถเต็มแรง เจ็บชะมัด สักพักคุณอิฐก็รีบเปิดประตูรถ และวิ่งไปอีกฝั่งของถนน จากนั้นก็กระชากแขนผู้หญิงคนนั้นลงมาสุดแรง ส่วนเราก็รีบวิ่งเข้าไปดูเหตุการณ์ เรากึ่งวิ่งกึ่งเดิน พอมองเข้าไปดี ๆ ผู้หญิงคนนี้หน้าตาคุ้นมาก พอเรารู้ว่าเขาเป็นใคร ขาเราก็หยุดชะงักทันที เรายืนดูเหตุการณ์อยู่ไกล ๆ ไม่คิดไม่ฝันว่าผู้หญิงคนนี้จะเป็นสปาย ซึ่งเราเองก็ดีใจมาก ๆ ดีใจจนฉีกยิ้มอ่อน ๆ ออกมา สปายยังคงปลอดภัย แต่ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ เมื่อคุณอิฐรู้ว่าผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าคือสปาย ก็โผเข้ากอดสปายทันที เขากอดสปายแน่นมาก คงเป็นเพราะเขาทั้งห่วง ทั้งโหยหา มือหนาก็ยกขึ้นไปลูบหัวอย่างแผ่วเบา นี่สินะความรัก ความรักที่เสี่ยอิฐมีให้สปาย ทำไมดูน่าอิจฉาจังเลย ซึ่งเราเองก็ภาวนาขอให้ได้เจอสักครั้งในชีวิต และเราก็ภาวนาขอให้เป็นเขา คุณอิฐ!! คุณอิฐเขารัวคำถามมากมายใส่สปาย และพยายามชวนสปายกลับบ้าน แต่สปายก็รั้งแขนไว้ สีหน้าคุณอิฐเขาดูตกใจนิดหน่อย ที่สปายมีท่าทีที่เปลี่ยนไป พอเขารู้ว่าสปายกลับมาจำทุกอย่างได้แล้ว คุณอิฐถึงกลับปล่อยโฮออกมาทันที เขาคงเสียใจมากๆ ที่ทุกอย่างมันพังลงไม่เป็นท่า ซึ่งเราเองก็เสียใจเหมือนกัน เพราะเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นมันก็เป็นเพราะเรา สปายเขากลับมาจำเสี่ยเพลิงได้ เขาจำได้แม้กระทั่งคุณอิฐ เขาไม่ใช่พี่อิฐที่แสนดีของสปาย สปายรู้แล้วว่าที่ผ่านมาคุณอิฐปิดบังความจริงและหลอกตนมาโดยตลอด สปายร้องไห้ออกมาอย่างหนัก สปายคงผิดหวังและเสียใจมากๆ ที่เจอแต่คนหลอกลวง วินาทีนี้เราสงสารสปายจริงๆ เราเห็นการกระทำที่คุณอิฐแสดงต่อสปายทุกอย่าง เขาร้องไห้ แล้วเอ่ยคำขอโทษ ก่อนจะสารภาพรักสปาย ว่าที่ผ่านมา เขาไม่ได้ดึงสปายเข้ามาเพื่อที่จะแก้แค้นเสี่ยเพลิง แต่เขารักสปายจริงๆ ซึ่งพอเราได้ยินแบบนั้นเราก็เสียใจ เพราะเราก็รักเขาเหมือนกัน แต่ทำไมนะ ทำไมผู้หญิงที่เขารักถึงไม่ใช่เรา สักพักเราก็เห็นสปายทรุดเข่าลงไปนั่งกองกับพื้น เราชะงักไปเล็กน้อย กะว่าจะเดินเข้าไปช่วย แต่คุณอิฐก็โผเข้ากอดสปายไว้เสียก่อน เราเลยรั้งขาไว้ คุณอิฐกอดสปายจนกระชับ ส่วนสปายก็ซบลงไปที่อกแกร่งของเขา และร้องไห้ เขาสองคนร้องไห้ไปพร้อมๆ กัน ส่วนเรานะเหรอ ยืนร้องไห้เงียบ ๆ อยู่คนเดียว คุณอิฐเขาทั้งปลอบโยน ลูบหัวสปาย ราวกับว่าสปายคือผู้หญิงที่บอบบางที่สุดบนโลกใบนี้ เขาช่างอ่อนโยนกับสปายซะเหลือเกิน จนสักพักเราก็เห็นรถหรูคันหนึ่งจอดสนิทที่ฝากฝังหนึ่งของถนน และมีผู้ชายร่างสูงใหญ่เดินหน้าตั้งมาแต่ไกล ก่อนจะกระชากคุณอิฐให้ออกห่างจากสปาย พวกเขาสองคนชกต่อยกันเพื่อยื้อแย่งสปายกันอยู่นาน จนเราเริ่มทนไม่ไหว เพราะเรารู้สึกอึดอัดใจ จนต้องร้องไห้ออกมา วันนี้เราต้องบอกความรู้สึกที่มีต่อคุณอิฐให้เขารู้ให้ได้ เขาจะได้ตัดใจจากสปายเสียที “คุณอิฐ!! คุณตั้งสติหน่อยสิ แล้วหันกลับมามองความจริงบ้าง เลิกหลอกตัวเองได้แล้ว ฮึก! อย่างน้อยก็ยังมีคนที่รักคุณจริงๆ ยืนอยู่ตรงนี้นะ!!! ฮึก!” เราพูดออกไปเสียงเรียบ ก่อนจะสารภาพรักกับเขาทั้งน้ำตา ซึ่งท่าทีของเขาดูจะไม่แปลกใจอะไร นี่เขาไม่รู้สึกอะไรกับสิ่งที่เราเอื้อนเอ่ยไปเลยเหรอ “หึ!! แต่กูไม่ได้รักมึง!!” คุณอิฐตอบกลับมาเสียงแข็งทันที!! คำพูดนี้มันบาดลึกลงไปในใจของเรา เราเจ็บปวดมากเมื่อได้ยินคำตอบจากปากของเขา ประโยคสั้น ๆ แต่ได้ใจความ ว่าเขาไม่ได้รักเรา คนที่เขารักคือสปาย “ฮึก!! ฉัน... คนที่แอบรักคุณข้างเดียวมาโดยตลอด ฉันไม่มีสิทธิ์แยกคุณออกจากคนที่คุณรักหมดหัวใจได้เลยใช่ไหมคุณอิฐ? ฮึก!! ฮือ...” เรากลืนน้ำลายลงคอเฮือกใหญ่ ก่อนจะมองไปที่คุณอิฐด้วยสายตาที่ผิดหวังกับคำตอบ ส่วนคุณอิฐเขาไม่แม้แต่จะหันมามองใบหน้าขาวนวลของเราด้วยซ้ำ “ใช่! มึงไม่สามารถทำได้ หึ! คิดว่ากูไม่รู้หรือไง ว่าที่มึงอ้างว่าจะมาหาสปายทุกวัน มันเป็นเพราะอะไร กูพยายามทำตัวนิ่ง ๆ เพราะไม่อยากทำตัวให้ความหวังมึง แต่ถ้ากูจะรักมึงจริง ๆ กูคงรักไปนานแล้วล่ะ... นั่นก็หมายความว่าในใจกูไม่ได้มีมึงอยู่เลย!! มึงเองก็เลิกหลอกตัวเองได้แล้วล่ะ” น้ำเสียงแข็งกระด้างที่เอื้อนเอ่ยออกมา ทำให้หัวใจของเราเจ็บปวดเป็นอย่างมาก ทำไมนะ ทำไมเขาถึงไม่รักเราบ้าง ทั้งที่เราก็ดีกับเขาซะขนาดนี้ หรือความรักกับความดีมันแทนที่กันไม่ได้ “ฮึก!! กูแพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มสินะ!!” “กูไม่สามารถเริ่มใหม่กับใครได้อีกแล้ว!!” คุณอิฐพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น เขาไม่แม้แต่จะชายตามามองเราด้วยซ้ำ น้ำเสียงเย็นชาแบบนี้ฟังดูก็รู้ว่าเขาไม่มีทางรักเราได้ “ฮึก!! ฮือ... ฮือ...” เรายกมือขึ้นมาปิดปากของตัวเองไว้ช้าๆ ก่อนจะปล่อยโฮออกมา “กูหวังว่ามึงคงเข้าใจนะ” “ฮึก!! แป้งจะพยายามทำความเข้าใจนะ คุณอิฐ ฮึก!! ฮือ...” เราร้องไห้ออกมาอย่างหนัก และวิ่งไปหลบที่มุมมืดของถนน เราก้าวเท้าเดินในเส้นทางที่มืดมิดเเละเปล่าเปลี่ยวเพียงลำพัง เราเดินกอดตัวเองร้องไห้มาตลอดทาง ทำไมหัวใจเราถึงเจ็บปวดขนาดนี้นะ สักพักก็มีแสงไฟจ้าสาดส่องมาที่ตัวเราจากทางด้านหลัง ซึ่งเมื่อเราหันกลับไปมอง ก็ทำให้เรารู้ว่า นั่นคือรถของคุณอิฐ เขาขับมาประชิดตัวเราเรื่อยๆ และขับมาปาดหน้าขวางทางเราไว้ จนทำให้เราสะดุ้งตกใจ และเราพยายามเดินถอยหลังหนี ซึ่งตอนนี้เรารู้สึกกลัวมากๆ เราตัดสินใจปาดน้ำตาลวกๆ ก่อนจะหันไปมองผู้ชายร่างสูงใหญ่ที่เดินลงมาจากรถด้วยท่าทางที่โมโห “มึงมานี่!!” “ว้าย!! นี่คุณจะทำอะไร ปล่อยฉันนะ ปล่อย!!” เราร้องออกมาเสียงดังลั่น ก่อนที่คุณอิฐเขาจะเอาวงแขนหนามาคว้าเอวเราแล้วเหวี่ยงเข้าไปในรถสุดแรง ซึ่งมันเจ็บเอามากๆ เพราะหัวเรามันไปกระแทกกับหลังคารถเต็มแรง เราพยายามตะเกียกตะกายลุกขึ้นหนี แต่มือหนาก็มาล็อกคอเราไว้จนแน่น เราชะงักกับสิ่งที่เขาทำ เราเลยนิ่งเงียบ ซึ่งตอนนี้เรากับเขากำลังจ้องตากันอยู่ เขากัดฟันพูดกับเราด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้ง ซึ่งถ้าฟังดี ๆ มันคือน้ำเสียงของพวกคนป่าเถื่อน! “หึ!! ทำความรักกูพังทลายขนาดนี้ อย่าคิดว่ากูจะปล่อยมึงไปง่าย ๆ”[แป้งร่ำ]สองเดือนผ่านไปเดินทางเข้ามาสู่ประตูวิวาห์ โดยที่แป้งร่ำมีอายุครรภ์ได้สี่เดือนเต็ม บรรยากาศล้อมรอบไปด้วยทะเลและหุบเขาสุดกว้างใหญ่ไพศาลคอนเซปต์งานถูกจัดขึ้นตามความชอบของเจ้าบ่าวและเจ้าสาวที่มักจะชวนกันมานั่งชมพระอาทิตย์ตกดินยามเย็นด้วยกันเป็นประจำ เป็นงานแต่งเล็ก ๆ ที่มีแขกมาร่วมงานเพียงสี่ร้อยที่นั่งมีญาติฝั่งเจ้าบ่าวมาร่วมงานอย่างคับคั่ง ส่วนฝั่งเจ้าสาวมีเพียงป้าเพ็ญและลุงวินัยมาเป็นญาติผู้ใหญ่ให้ ส่วนเจ๊ตาล สปาย นุ่น และบลูเบอร์รี่เพื่อนสมัยเรียนก็ต่างเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับเธอในครั้งนี้เช่นกัน“มึงสวยมากเลยแป้ง ยิ่งท้องก็ยิ่งสวย ยิ่งได้ใส่ชุดเจ้าสาวยิ่งโคตรสวย”สปายเพื่อนรักเอ่ยชม ขณะที่เจ้าสาวกำลังจัดแจงเสื้อผ้าหน้าผมให้เข้าที่โดยช่างแต่งหน้าระดับเวิลด์คลาสอย่างคุณมิวกี้ นักแต่งหน้าชื่อดังที่ต้องใช้เวลาจองตัวนานถึงสองเดือนกว่าจะได้ฤกษ์งามยามดีมาสะบัดแปรงบนใบหน้าเกลี้ยงเกลาของคุณแม่ลูกสองอย่างแป้งร่ำ“งื้อ~ ขอบคุณมากนะมึง”เจ้าของใบหน้ายิ้มแย้มหมุนตัวไปมาหน้ากระจกอย่างเก็บความตื่นเต้นเอาไว้ไม่อยู่ ตัวเธอนั้นกำลังสวมชุดแต่งงานผ้าชีฟองบริสุทธิ์ ยามชายกระโปรงยาวฟูฟ่อ
หลังจากกินข้าวกันเสร็จ แป้งร่ำก็เข้าไปล้างไม้ล้างมือให้สะอาดสะอ้านในห้องน้ำ สองเท้าเรียวก้าวขาพ้นธรณีประตูกลับต้องตกใจ เมื่อพบว่าคุณอิฐกำลังนั่งคุกเข่ารอเธออยู่ก่อนหน้านี้แล้ว“คุณอิฐ คุณทำอะไร ลุกขึ้นมาก่อน”หญิงสาวพยายามโน้มลงไปประคองคนตัวสูงให้ลุกขึ้นยืน แต่เขากลับเอาแต่นั่งนิ่ง ๆ มองไปยังใบหน้าแสนหวานไม่วางตา สายตาคู่สวยก็หันไปมองบริเวณโดยรอบ เผยให้เห็นว่ามีทุกคนเดินเข้ามาล้อมรอบเธอกับคุณอิฐไว้ด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม“แต่งงานกับพี่นะแป้ง หลายวันก่อนพี่อาจจะยังไม่พร้อม แต่วันนี้พี่ตามหาแหวนเพชรน้ำดีที่สุดมาคุกเข่าขอเธอแต่งงาน พี่พร้อมแล้วที่จะสร้างครอบครัวกับเธอ พี่สัญญาว่าจะเป็นสามีที่ดี เป็นพ่อที่ดีของลูกทั้งสอง”ชายหนุ่มคว้ากล่องกำมะหยี่ในกระเป๋ากางเกงขึ้นมายื่นอยู่ตรงหน้าหญิงสาวที่ตนรัก ก่อนจะค่อย ๆ เปิดมันออกช้า ๆ เผยให้เห็นแหวนเพชรพิงค์โกลด์ เป็นตัวเรือนทองคำแท้ เนื้อสีชมพูอมแดง ซึ่งราคาก็น่าจะปาไปแปดหลักเข้าให้“คุณอิฐ”หญิงสาวเอ่ยเรียกชื่อคุณอิฐด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาจนทุกคนแทบจะไม่ได้ยิน แต่ชายหนุ่มตรงหน้าเขาได้ยินอย่างชัดเจน ก่อนที่เขาจะคลี่ยิ้มออกมาจาง ๆ ในดวงตาคู่คมกับมีน้
วันหยุดสุดสัปดาห์ ซึ่งเป็นวันที่ลูกสาวหยุดเรียนพอดิบพอดี และเป็นจังหวะประจวบเหมาะที่จะพาหลานสาวไปเยี่ยมปู่กับย่าเป็นครั้งแรก เด็กน้อยกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจยกใหญ่ เพราะอยากเห็นคฤหาสน์ที่คุณปู่กับคุณย่าอาศัยอยู่ เพราะผู้เป็นพ่อนั้นเคยเอ่ยปากบอกว่ามันใหญ่โตอย่างกับพระราชวัง“ป๊าวันนี้วันเสาร์ใช่มั้ยคะ”เด็กน้อยชะเง้อคอถามผู้เป็นพ่อที่กำลังขับรถอยู่อย่างคนเก็บความตื่นเต้นเอาไว้ไม่อยู่ ส่วนคุณอิฐก็คลี่ยิ้มจาง ๆ พลางเอ่ยตอบลูกสาว ก่อนจะหันกลับมาขับรถอีกครั้ง“ใช่ค่ะ เสาร์ทั้งวันอ่ะวันนี้ พรุ่งนี้ก็อาทิตย์ทั้งวัน”“ป๊า~ น้องโอปไม่เข้าใจ”เด็กน้อยขมวดคิ้วเข้าหากันเป็นปมมองไปทางผู้เป็นพ่อด้วยความงุนงง เสาร์ทั้งวันคืออะไร อาทิตย์ทั้งวันคืออะไร ซึ่งผู้เป็นพ่อไม่เคยให้คำตอบที่เข้าใจง่าย ๆ ได้เลยสักครั้ง“น้องโอปอลล์อย่าไปถือสาคุณพ่อเขาเลยค่ะ เขายังไม่โต...”แป้งร่ำทำได้เพียงถอนลมหายใจออกมาแรง ๆ อย่างเอือมระอา ก่อนจะหันไปปลอบลูกสาวที่นั่งอยู่เบาะหลัง เพราะไม่อยากให้เด็กน้อยต้องรู้สึกสับสนกับคำตอบนี้“แต่ป๊าตัวโตกว่าคุณแม่อีกนะคะ”“ก็ใช่ค่ะ แต่ก็โตแค่ตัวนั่นแหละ”“คุณแม่จะบอกว่าป๊าสมองไม่พัฒนาเห
หนึ่งอาทิตย์ผ่านไปคุณอิฐยังคงมีอาการแปลก ๆ คล้ายกับคนขาดวิตามิน จนหญิงสาวก็อดสงสัยไม่ได้ว่าเขาเป็นอะไรไป เธอพยายามชวนเขาไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจสุขภาพอยู่หลายครั้ง แต่เขานั้นมันดื้อรั้นกว่าสิ่งไหน“ไปหาหมอหน่อยไหม เป็นแบบนี้มาเป็นอาทิตย์แล้วนะ”จะว่าเป็นห่วงก็คงใช่ เพราะช่วงนี้เขาป่วยหนักจนแทบไม่ได้เข้าไปดูแลบริษัทเลย ขลุกอยู่แต่ที่บ้านของเธอตั้งหลายอาทิตย์ไปยอมไปไหน ร้องขอให้เธออยู่ดูแลตลอดเวลา“รอให้ลูกกลับมาจากโรงเรียนก่อนได้ไหม อยากพาลูกไปด้วยกัน”“ได้สิ อีกไม่กี่ชั่วโมงก็ใกล้เวลาเลิกเรียนแล้ว”หญิงสาวเม้มริมฝีปากบางก่อนจะพยักหน้ารับด้วยความดีใจ เพราะวันนี้คุณอิฐกลับเชื่อฟังคำพูดของเธอ ทั้งที่ผ่านมาเขาก็ยืนกรานมาตลอดว่าจะไม่ไปเวลาล่วงเลยไปถึงสี่โมงเย็น ซึ่งเป็นเวลาเลิกเรียนของน้องโอปอล์ ชายหนุ่มขับรถไปรับลูกสาวหน้าโรงเรียนแบบนี้เป็นประจำ จนคุณครูที่ยืนประจำการอยู่หน้าโรงเรียนจำหน้าคร่าตาอันหล่อเหลาเอาการของเขาได้“ลูกหมาของป๊า”ผู้เป็นพ่อนั่งย่อตัวอ้าแขนรอรับลูกสาวที่กำลังวิ่งเข้ามาหาด้วยความดีใจเฉกเช่นทุกครั้ง ท่อนแขนแกร่งก็โอบกอดลูกสาวไว้อย่างแนบแน่นด้วยความคิดถึง“พ่อหมาของลูก ฮ่
ท่อนแขนแกร่งคว้าเอวบางเข้ามาสวมกอดจากทางด้านหลังอย่างแนบแน่น ก่อนจะใช้คางเกยไหล่เธอเอาไว้อย่างออดอ้อน“กลัวผีหรือเปล่า”“ไม่กลัว”“ผีผ้าห่มก็ไม่กลัวเหรอ”“คุณพูดอะไรเดี๋ยวลูกก็ได้ยินหรอก”คนตัวเล็กถึงกับเอ่ยตวาดชายหนุ่มยกใหญ่ แต่เขากลับไม่รู้สึกสะทกสะท้าน แถมยังหัวเราะชอบใจให้กับปฏิกิริยาโต้ตอบของเธอ“ไม่ได้ยินหรอกลูกหลับแล้ว”ไม่พูดเปล่า ยังใช้ริมฝีปากหนาดูดดุ้นซอกคอระหงจนเกิดรอยแดง จนคนตัวเล็กสะดุ้งเฮือกด้วยความเจ็บ“นี่จะทำอะไร ปล่อยนะ”“ไม่ไหวแล้ว หัวก็หอม ตัวก็หอม เธอน่าขึงที่สุดเลยรู้ไหม”ชายหนุ่มพูดพร้อมกับซุกไซร้ไปตามซอกคอขาวเนียนอย่างหื่นกระหาย เขามีอารมณ์ทางเพศทุกครั้งเมื่อได้สัมผัสกับเรือนร่างอรชรของเธอ จนกักเก็บอารมณ์ความรู้สึกว่าต้องการหญิงสาวตรงหน้าเอาไว้ไม่อยู่ ปลายจมูกโด่งก็สูดดมกลิ่นหอมอ่อน ๆ จากร่างบางเข้าไปจนเต็มปอด“คืนนี้ขอได้ไหม?”“แล้วถ้าบอกว่าไม่ล่ะ”“ไม่ก็จะเอา เพราะลูกชายสุดที่รักของพี่มันพองตัวแล้ว ลองจับมันดูสิ”ชายหนุ่มคว้ามือเรียวมาจับความเป็นชายที่พองตัวอยู่ใต้ร่มผ้า ซึ่งมันก็ใหญ่โตตามคำบอกเล่าของเขาจริง ๆ คนตัวเล็กทำได้เพียงนั่งกัดปากเพราะรู้สึกเกร็งจนท
ห้าเดือนผ่านไปเมื่อมีเวลาว่างคุณอิฐก็ตามมาแจกขนมจีบแป้งร่ำที่ร้านดอกไม้ฟลาวเวอร์รี่โรสเป็นประจำ และเขาก็ทำแบบนี้มาจะเข้าปีที่ห้าแล้ว พนักงานในร้านก็ต่างรู้สึกอิจฉาที่แป้งร่ำได้เจอผู้ชายดี ๆ แต่ไม่มีใครรู้เลยว่าที่ผ่านมาเธอต้องเจอกับอะไรบ้าง“สวัสดีครับทุกคน”ชายหนุ่มยกมือขึ้นไหว้พนักงานทุกคนภายในร้านแบบนี้เป็นประจำ ในมือก็ถือข้าวของมากมายที่เขาไปคว้านซื้อมาจากห้างสรรพสินค้าชื่อดังเข้ามาด้วย“อ้าวพ่อหนุ่มมาทุกอาทิตย์เลย”“วันนี้ผมว่างน่ะครับ เลยตามมาเฝ้าแม่ของลูกที่ร้านได้”คุณอิฐฉีกยิ้มหวานกระชากใจ สายตาคู่คมชำเลืองไปมองคนตัวเล็กที่กำลังนั่งจัดดอกไม้ตลอดเวลา“แหม... ไม่ได้เจอกันตั้งสองวันพี่แมวคิดถึ๊ง คิดถึง”พี่แมวโน้มเข้ามากอดคุณอิฐอย่างถือวิสาสะ ใบหน้าที่ดูอ่อนกว่าวัยก็ถูไถไปมายังท่อนแขนแกร่งอย่างออดอ้อน ส่วนคุณอิฐก็ฉีกยิ้มแห้ง ๆ ออกมาให้ได้เห็น เขาพยายามหลีกหนีให้ห่าง แต่ด้วยความเกรงใจเลยยืนนิ่ง ๆ ให้พี่แมวกอดให้หนำใจอยาก“ผมก็คิดถึงทุกคนครับ”“หึ!!”คนตัวเล็กเบะปากคว่ำก่อนจะร้อง หึ! ออกมาในลำคออย่างไม่สบอารมณ์ เพราะเธอรู้สึกสะอิดสะเอียนคำพูดตอแหลของเขาจนเต็มทน เพราะคุณอิฐเขามักจ
“เอ่อ... ผัวก็คือป๊าเองค่ะน้องโอป”ผมตอบออกไปด้วยน้ำเสียงมั่นอกมั่นใจ เพราะอยากแสดงความเป็นเจ้าของหญิงสาวตรงหน้าให้ลูกสาวรับรู้ แต่เด็กน้อยอย่างน้องโอปก็ยังคงไม่เข้าใจอยู่ดี ก่อนจะเอียงคอถามผมอีกครั้ง“แล้วทำไมป๊าถึงต้องแทนตัวเองว่าผัวด้วยคะ น้องโอปไม่เข้าใจ”“น้องโอปอล์ หนูอย่าไปให้ความสนใจกับคำพูดของพ่อมากนักเลยค่ะ บางครั้งพ่อเขาก็มักจะพูดอะไรออกไปแบบไม่คิด”หน้าหล่อ ๆ ของผมถึงกับแตกออกจากกันเป็นเสี่ยง ๆ เพราะแป้งร่ำเธอพูดหักหน้าผมเข้าให้แล้ว มันเจ็บแปล๊บ ๆ เหมือนโดนมีดบาด แต่ผมไม่สนน่ะ เพราะผมเป็นผัวเธอจริง ๆ“พูดไม่คิดยังไงแป้ง ที่กูพูดไป กูคิดมันทุกคำ ว่ากูเป็นผัวมึง แล้วไอ้เรื่องเมื่อคืนอีก อย่าบอกนะว่าลืม...”“คุณอิฐ อยู่ต่อหน้าลูกอย่าพูดคำหยาบได้ไหม ฉันไม่อยากให้ลูกซึมซับสิ่งไม่ดี”ใบหน้าแสนหวานหม่นลงในทันทีที่ผมพูดจบ ผมชะงักไปทันที ถึงแม้ว่าที่ผ่านมานิสัยผมจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น แต่คำพูดคำจาก็ยังคงเหมือนเดิม เพราะผมรู้ตัวเองดีว่าผมเป็นคนโผงผาง พูดไม่เพราะ ชอบพูดจาหยาบคายเป็นที่หนึ่ง เลยทำให้คนตัวเล็กเอือมระอาขนาดนี้ ซึ่งตอนนี้ผมก็รู้สึกผิดเป็นอย่างมาก กลัวว่าน้องโอปจะซึมซั
“ฉันอยาก”เท้าเรียวเล็กจิกเกร็งไปหมด แป้งร่ำเธอใช้ขาข้างหนึ่งถูไถไปตามเรียวขาสวยเพื่อระบายอารมณ์เสียวซ่านที่พลุ่งพล่านอยู่ในตัว“ก็จะทำให้อยู่นี่ไง รีบเหรอ”ผมโน้มลงไปกระซิบที่ซอกคอของเธอด้วยน้ำเสียงแหบพร่า พลางจูบพรมไปตามลำคอระหง เลื่อนขึ้นมายังพวงแก้มขาวนวล และจูบย้ำ ๆ ลงบนปากกระจับได้รูปของเธอ ร่างเล็กอ่อนระทวยด้วยพิษรักยั่วสวาท เธอเด้งหน้าอกรับเมื่อผมใช้ริมฝีปากคลอเคลียลงไปตามเนินอกอวบอิ่ม“อืม ฉันรีบ ฉันไม่ไหวแล้ว มันร้อน ร้อนไปทั้งตัว”มือเรียวยกขึ้นสางผมที่เปียกซกไปด้วยเม็ดเหงื่อ ใบหน้าแสนหวานของเธอเปล่งประกายระเรื่อขึ้นมาจนเห็นได้ชัด เธอร้องซี๊ดออกมายกใหญ่ทั้งที่ผมยังไม่ทันทำอะไร ดวงตาคู่สวยจ้องมองมาที่ใบหน้าคมคายด้วยสายตาหวานหยาดเยิ้ม“จะรับไหวหรือเปล่า ของกูใหญ่นะ”“ไหวสิ ฉันจะอดทน คุณรีบทำหน่อยได้ไหม”ฟันคู่คมกัดเม้มริมฝีปากบางของตัวเองแน่น ก่อนที่เธอจะยกมือเรียวขึ้นมาคล้องคอผมไว้และแสดงสีหน้าออดอ้อน ผมที่ได้เห็นถึงกับเก็บอารมณ์ฟุ้งซ่านในใจเอาไว้ไม่อยู่ อยากจะจับเธอกระแทกให้แรง ๆ โทษฐานที่ทำตัวน่าเอา“อยากจูบตรงนั้นของมึงด้วยได้ไหม?”“ได้สิ ฉันยอมคุณแล้ว ยอมทุกอย่าง คุณอยาก
[คุณอิฐ]หลายอาทิตย์ผ่านไปผมกลับมาดูแลบริษัทที่กรุงเทพฯทุกอาทิตย์ ก่อนจะเดินทางกลับไปหาลูกเมียทันทีเมื่อเคลียร์งานทุกอย่างเสร็จ ผมใช้เวลาเพียงสี่ชั่วโมงในการเดินทางไปจังหวัดใกล้เคียงที่น้องโอปอล์กับแม่ของลูกอาศัยอยู่ มาถึงที่นี่ก็เป็นเวลาสามทุ่มพอดีเป๊ะรถสปอร์ตคันหรูจอดสนิทอยู่หน้าบ้านไม้หลังเล็ก ๆ แต่กลับพบเพียงความมืดมน เพราะเวลานี้กลับไม่มีใครอยู่บ้านเลยสักคน แล้วแป้งร่ำเธอพาลูกไปอยู่ที่ไหน ผมไม่รอช้ารีบต่อสายตรงหาเธอทันที แต่โทรไปเท่าไรเธอก็ไม่รับสาย ก่อนที่ผมจะตัดสินใจส่งข้อความไปหาเธอAit : [อยู่ไหน ทำไมไม่มีใครอยู่บ้านเลยสักคน]Ait : [พาลูกไปไหน บอกมา... เดี๋ยวจะไปรับ]Ait : [ตอบกลับข้อความที]ผมรอจนแล้วจนรอดแต่ก็ไม่มีข้อความตอบกลับแต่อย่างใด จนเวลาล่วงเลยไปถึงเที่ยงคืน ก่อนจะตัดสินใจไปกดกริ่งหน้าบ้านของป้าเพ็ญ เผยให้เห็นเด็กหญิงตัวเล็ก กับหญิงวัยกลางคนเดินออกมาเปิดประตูรั้วหน้าบ้าน ทำไมเวลานี้น้องโอปถึงยังไม่นอน“ป๊า...”ผู้เป็นพ่อนั่งย่อตัวอ้าแขนรอรับลูกสาวที่กำลังวิ่งเข้ามาหาด้วยท่าทางดีอกดีใจอย่างเช่นทุกอาทิตย์“น้องโอป...”ชายหนุ่มคว้าลูกสาวตัวน้อยมาโอบกอดอย่างแนบแน่น ก่