แชร์

ทิวลิปสีม่วง

ผู้เขียน: จันทร์ส่องแสง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-19 13:10:17

“แล้วจะให้ผมทำอย่างไรเล่า แมวตัวนี้แม่ผมเอามาฝากไว้ ท่านไปทัวร์ยุโรป แต่มันคงไม่ชอบผมเลยหาทางหนีคงชอบผู้หญิงเลยหนีมานอนกับคุณ”

 มิราเพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่าตึกแถวห้องข้างๆ ที่มีระเบียงติดกัน มีเจ้าของใหม่มาซื้อไว้แต่เธอไม่รู้ว่าเป็นใครคงจะเป็นเขานี่แหละ

“ไม่ว่าอย่างไรก็แล้วแต่คุณบุกรุก ออกไปเดี๋ยวนี้เลย” 

เขาเดินไปนำเหมียวน้อยไปใส่ไว้ในตะกร้าแบบมีฝาที่เตรียมมาด้วย

“ไม่ได้บุกรุกผมแค่มาตามแมว”

 มิราเริ่มหายกลัวในเมื่อคุยกันรู้เรื่อง คงไม่ใช้คนบ้า แต่ยังไม่วางใจนักกอดหมอนไว้แนบอกหวังใช้เป็นที่พึ่ง

“คุณมาตามแมวในบ้านของฉันซึ่งฉันไม่อนุญาตถือว่าบุกรุก”

“โธ่คุณบ้านใกล้เรือนเคียงกัน ผม..หัสนัย..ผมอยู่ข้างๆ คุณนี่เองยินดีที่รู้จัก”

 แววตาไม่มีอะไรแอบแฝงแต่ทว่าออกจะยียวน

“คุณควรเข้ามาดีๆ เช่นมาเคาะประตูถามฉันขออนุญาตฉันก่อน ไม่ใช่แอบปีนเข้าบ้านคนอื่นแบบนี้”

“ผมไม่มีเวลาคิดผมกลัวมันหนี ขอโทษอีกทีสำหรับ...” 

ดวงตามีแววประกายระยิบระยับจนมิราคิดไปถึงปากอุ่นที่ประกบปากของมิราเมื่อสักครู่

“นั่นมันจูบแรกของฉัน”

เขาเลิกคิ้วสูง อมยิ้มแสดงความแปลกใจและสีหน้าแสดงว่าไม่ได้เชื่อคำพูดของมิราแม้แต่น้อย

“คุณคิดว่ามันเป็นจูบด้วยหรือผมคิดว่ามันเป็น...อุบัติเหตุ” 

น้ำเสียงยังยียวนเหมือนเดิม มิราหน้าแดงรู้สึกอาย

“อย่างนั้นผมให้คุณจูบคืนละกัน ว่าแต่ผู้หญิงสวยๆ อย่างคุณนี่ไม่น่าเชื่อว่าเป็นจูบแรก” 

แววตาไหวระริกมองมิราอย่างมีความหมาย มิรารู้สึกโกรธจริงๆ

“คนบ้า”

 ปาหมอนที่กอดอยู่ใส่เขาเต็มแรง แต่เขากลับรับได้ทันมิรายิ่งโมโห

“ออกไปได้แล้ว”

“ผมเดินลงบันไดไปแล้วกัน”

 หิ้วตะกร้าใส่แมวทำท่าจะจากไป

“มาทางไหนไปทางนั้นคุณปีนเข้ามาก็ปีนออกไป”

“ไม่ไหว ผมมีเจ้าโยดาอยู่ด้วยปีนไม่ได้”

“นั่นมันเรื่องของคุณ” มิราฉุนจัด

“คุณเป็นแผลนี่”

 ไวชะมัดกระโดดขึ้นมาบนเตียงคุกเข่าตรงหน้ามิรา จับไหล่มิราไว้แน่นชันเข่าขึ้นจ้องดูแผลที่หน้าผากของมิรา ที่มีเลือดซึมมิรารู้สึกว่าตัวเองหัวใจเต้นตุบตับ ก้มลงมองแผงอกที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามก็ยิ่งทำให้ใจสาวสั่นไหว ใบหน้าที่บวมเริ่มยุบลงแล้วจนไม่เหลือเค้าลางว่าเคยมีอาการบวมมาก่อน แต่แผลที่ศีรษะยังมีเลือดซึมออกมา

“ปล่อย” 

มิราพูดเบาๆ

“ไปโดนอะไรมา ผมล้างแผลให้ไหมเผอิญผมเป็นหมอแผลค่อนข้างแย่ ล้างแผลบ่อยๆ แผลหายเร็วและไม่เป็นแผลเป็น” 

จริงหรือนั่น

“อุบัตินิดหน่อย”

 มิราเสียงอ่อนลงเมื่ออีกคนมีท่าทีห่วงใยอย่างจริงจัง ลมหายใจอุ่นๆ รินรดใกล้ๆ

“อยู่นิ่งๆ ให้ผมดูที คุณมีพวก เบตาดีน แอลกอฮออล์กับสำลีไหม เดี๋ยวผมล้างแผลให้ถือเป็นการไถ่โทษ” 

น้ำเสียงยังคงเหมือนออกคำสั่งมากว่าจะใส่ใจ

“อยู่ในตู้ยา” 

ว่าพลางชี้มือไปที่ตู้ยาใบเล็ก หัสนัยเดินไปรื้อค้นหาของที่ต้องการแล้วหอบมาพะรุงพะรัง

“นอนลงเลย”

 ออกคำสั่งตามเคย ไม่พูดเฉยๆ ยกมือขึ้นจะดันตัวมิราให้ล้มลงแต่มิรายกมือขึ้นปัดป้องเขาขมวดคิ้ว

“ห่วงตัวชะมัด ผมไม่ทำอะไรคุณหรอกเชื่อใจผมสิ ผมเคยเจอคนที่สวยกว่าคุณเซ็กซี่กว่าคุณมาตั้งเยอะแยะ ยังไม่เคยไปทำอะไรเขาเลย ผมเป็นหมอนะคุณ หรือว่าวันนี้คุณจะดูสวยกว่าทุกวันนะ”

 มิราขมวดคิ้วบ้างนี่มันเรื่องอะไรกัน วันสองวันมานี้ทำไมเจอแต่คนแปลกๆ

มิรานอนลงช้าๆ เขาคุกเข่าลงข้างเตียง มิราปล่อยให้เขาล้างแผลให้ว่าแต่มือเบาเหลือเกินต่างจากคำพูดที่ค่อนข้างไม่มีความอ่อนโยนเจือปนอยู่

“เจ็บไหม แต่คงไม่เจ็บหรอกดูท่าทางคุณเป็นคนหัวแข็งนี่”

 มิราขมวดคิ้วคำพูดเขาไม่ค่อยจะเข้าหูมิรานัก จ้องมองแผลไม่วางตาเมื่อเสร็จภารกิจสายตาไล่เรื่อยลงมาที่ดวงตากลมของมิรา เขาเผลอจ้องตามิราจนมิราต้องเบือนหน้าหนีสายตาคม

“คุณชื่ออะไร”

“มิรา”

 เขาเอ่ยชื่อมิราเบาๆ เหมือนกับจะพยายามจดจำชื่อมิราไว้

“เอาล่ะคุณมิรา ผมคงต้องขอตัว คราวนี้คุณคงไม่ปล่อยให้ผมปีนระเบียงกลับไปแล้วล่ะใช่ไหม สายตาคุณออกจะเป็นมิตรน่ารักซะขนาดนั้นถึงตอนนี้ผมเดินลงบันไดไปได้แล้วใช่ไหม”

“คุณ ...หยุดพูดจาแบบนี้ได้แล้ว ไปให้พ้น คุณจะไปทางไหนเรื่องของคุณ”

“ถ้าคิดถึงผมจนหักห้ามใจไม่ไหว ไปหาผมได้นะบ้านผมไม่ต้องเคาะประตู หรือคุณจะปีนระเบียงเหมือนที่ผมปีนเข้าไปหาผมก็ได้ผมไม่ถือ ผมอยู่ข้างๆ คุณแค่นี้เอง” สุดจะทนกับคำพูดแบบนั้นของเขา

“อย่าหวังว่าจะได้เจอฉันอีก”

 มิราปาหมอนตามหลังเขาไป เขาหิ้วตะกร้าแมวแล้วหัวเราะเสียงใสอย่างมีความสุขออกจากห้องไป

ถอนหายใจยาว เฮ้อ ไม่เข้าใจเลยทำไมเจอแต่คนแปลกๆ พลิกตัวลุกจากที่นอนอาบน้ำแต่งตัวแผลไม่เจ็บเท่าที่ควรจะเป็นคงเป็นเพราะแผลสะอาดความหิวเริ่มรบกวนจิตใจ มิราเดินลงมาชั้นล่าง ต้องหาอะไรรองท้องเสียหน่อย เปิดตู้เย็นว่ามีของสดอะไรบ้าง ได้หมูบดและกุ้งสดมานิดหน่อยคงต้องกินข้าวต้ม สวมผ้ากันเปื้อนเตรียมลงมือ

เสียงเคาะประตูเบาๆ มิราเช็ดมือกับผ้ากันเปื้อนด้วยความเคยชิน ชักสงสัยหรือจะเป็นเฮงที่ที่บอกว่าจะมาอยู่ๆ ก็คิดถึงใบหน้าใสซื่อ แต่เมื่อไปถึงหน้าบ้าน ที่เป็นประตูกระจกใส คนที่มิราเห็นก็คือปัณภัทร เขามาอยู่นี่ได้อย่างไรทั้งๆ ที่เขาน่าจะอยู่ที่เรือนหอหรืออยู่เคียงข้างนิรมน เพราะมือคืนเพิ่งผ่านพ้นงานแต่งมาหยกๆ

แววตาเศร้าสร้อยของปัณภัทรเหมือนกับมีหลายสิ่งในนั้นเหมือนกับโลกทั้งใบโถมทับมาที่ตัวเขา มิราเดาไม่ออกว่าเขามีเรื่องอะไรหนักใจหนักหนา

เอื้อมมือเปิดประตูด้วยมือที่เย็นเฉียบ หัวใจไหววูบเมื่อครั้งสุดท้ายที่ปัณภัทรมาเยือนที่นี่ มันคือวันที่มิราสูญเสียเขาไปให้เพื่อนรัก

“พี่ปัณ มีธุระอะไรกับมิราหรือเปล่า”

เป็นคำทักทายที่ดีที่สุดในเวลานั้น น้ำเสียงแหบพร่าที่มิราพยายามสะกดกลั้นเอาไว้

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • หากดาวดวงนั้นคือเธอ   จบบริบูรณ์

    ศาลพระพรหม หน้าโรงพยาบาลพวงมาลัยดอกมะลิส่งกลิ่นหอมกรุ่น เฮงเดินผ่านเตรียมเรียกแท็กซี่ แต่อะไรบางอย่างที่ศาลพระพรหมสะดุดตาเหลือเกิน“เฮ้อเมื่อไหร่จะเจอ คนที่ถูกใจเสียที ไปลองอธิฐานขอพรดูดีกว่าเผื่ออะไรๆจะดีขึ้นมาบ้าง"บ่นเบาๆแม้จะรู้สึกเสียใจที่พลาดจากมิราแต่ก็ยังคงคิดว่าไม่ถึงเวลาของตัวเองมิราพบคนที่ดีดีอย่างหัสนัยเขา็้ดีใจด้วยที่สุดนั่งลงประนมมือตรงหน้าอธิฐานเบาๆก่อนจะยิ้ม"ขอแค่ใครสักคนที่พร้อมจะอยู่เคียงข้างกันจนแก่เฒ่า"ยิ้มกับคำอธิฐานของตัวเองว่าทำไมขอน้อยจังไม่ขอคนสวยๆดีๆเหมือนคนอื่นเขา แสงสว่างวาบจากดอกบัวในมือพระพรหมที่สว่างขึ้นมาเมื่อคำขอจบลง คงมีบางอย่างที่รับรู้ในคำขอของเฮงแล้วล่ะ แต่เฮงไม่ทันเห็นโยดา กลายเป็นแมวสีส้ม ยืนคลอเคลียเฮงอยู่ ได้เวลาย้ายบ้านแล้วโยดา“เมี๊ยว” เฮงอุ้มโยดาขึ้นมามอง ดวงตากลมโตของเจ้าเมี้ยวจ้องตอบ“น่ารักจัง ไปอยู่ด้วยกันไหม ฉันกำลังเหงาๆพอดีเลย”“เมี๊ยวๆ ๆ” เจ้าแมวส้มท่าทีกวนประสาทแต่ดวงตาบ๋องแบ็วส่งเสียงร้องตอบรับคำเชิญของเฮง"นายชวนฉันเองนะ ความหฤหรรษ์กำลังจะเริ่มขึ้นฉันสัญญาเลยสำหรับนายคนคุ้นเคยกันมาก่อนฉันจะกัดเบาๆเอ๊ยไม่ใช่ฉันจะหาคนที่น่ารักที

  • หากดาวดวงนั้นคือเธอ   บทสรุป2

    “จรรยาบรรณแพทย์ไปไหนหมดค่ะ”“แพทย์ก็คนนะคุณ ผมก็มีอารมณ์เหมือนกันไม่ใช่พระอิฐพระปูน 555ไม่อย่างนั้นจะมีเมียได้เหรอ” มิราทุบอกเบาๆ หัสนัยจับมือบางสบตาส่งสายตากรุ้มกริ่ม“อีกไม่กี่วันก็ออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว จะเอาสินสอดเท่าไหร่ ผมรอไม่ไหวแล้ว” มิราก้มหน้ามองแผงอกกว้าง“ถือว่าเป็นคำขอแต่งงานหรือเปล่า” หัสนัย คุกเข่าลงกับพื้นยื่นส่งแหวนเพชรน้ำงาม ให้กับมิรา“แต่งงานกับผมนะครับมิรา ....ผมรักคุณ....” เสียงสะท้อนว่า...รักคุณ...ดังก้องเข้าไปในหัวใจของมิรา หรือว่าเธอคิดไปเองมิรายิ้มทั้งน้ำตา“ค่ะพี่หาด” หัสนัยยืนขึ้นจุมพิตที่หน้าผากเบาๆ เมื่อมิรารับแหวนมากำไว้“พรสุดาเปิดประตูเข้ามาพร้อมเฮง ที่ใบหน้าเศร้าสร้อย“เซอร์ไฟร์ส ดีใจด้วยนะมิรา” พรสุดา ถลาเข้าขอดูแหวน เฮงจับมือหัสนัยเขย่าเบาๆ เป็นการแสดงความดีใจ โยดาเข้ามาทีหลัง สวมกอดหัสนัยแทนคำดีใจ“นายมังกรคงดีใจที่นายทำสำเร็จหลังจากที่เขาพยายามอย่างหนัก” โยดาเผลอพูดขึ้นทำเอามิราและหัสนัยมองหน้ากัน โยดารู้ว่าตัวเองพูดผิด จึงแกล้งพูดกลบเกลื่อน“อ๋อ...อย่ามองหน้าผมอย่างนั้นสิ ผมหมายความว่า เขาพยายามจะจีบคุณมิราแต่ไม่สำเร็จ แต่คุณหัสนัย ก็ทำให้

  • หากดาวดวงนั้นคือเธอ   บทสรุป

    ห้องผ่าตัดถูกเตรียมอย่างเร่งด่วน มิราชีพจรเต้นช้าลง ในฝันมิราเห็นมังกรยืนอยู่ด้วยชุดสีขาวสะอาดตา โบกมือลาเธอพร้อมรอยยิ้มยียวน เหมือนที่เคยเห็นเป็นประจำ มิราเผลออมยิ้มรู้สึกเป็นสุขเมื่อเห็นรอยยิ้มแบบนั้นของมังกรการผ่าตัดผ่านไปนานแสนนาน อาหารกลางวันที่หัสนัยไม่มีทางได้ออกจากห้องผ่าตัดมากินถูกนำมาส่งโดยเฮง และพรสุดาที่มาคอยอยู่เป็นเพื่อนคุยกับโยดาที่บัดนี้กลับเศร้าสร้อย พรสุดาพร่ำพูดขอบคุณมังกรและโยดาซ้ำๆ เกี่ยวกับการบริจาคอวัยวะ ทีมแพทย์สามารถนำอวัยวะของมังกรช่วยเหลือผู้ป่วยได้อีกสองสามรายในเวลาเดียวกัน (กุศลอันยิ่งใหญ่คือการบริจาคอวัยวะอย่างน้อยก็ต่อชีวิตให้ผู้อื่นแม้จะไม่รู้จักกันมาก่อนแต่เชื่อเถอะเขาจะไม่มีวันลืมคุณ)หัสนัยออกมาจากห้องผ่าตัด ใบหน้าอิดโรยโยดานั่งนิ่ง พรสุดากับเฮงวิ่งเข้าถามถึงอาการของมิราหัสนัยยิ้มแห้งๆ“ต้องรอดูก่อนว่าการตอบสนองจะเป็นอย่างไร และมีการติดเชื้ออย่างอื่นร่วมด้วยไหม ตอนนี้เธออยู่ในห้องปลอดเชื้อ พวกคุณยังเข้าไปเยี่ยมไม่ได้จนกว่าจะออกมาอยู่ห้อง ซีซียู” หัสนัยเดินเข้าไปหาโยดายื่นส่งมือเขาให้โยดาจับ โยดายื่นมือมาจับมือของหัสนัย“ขอบคุณจริงๆ ครับขอบคุณทั้ง

  • หากดาวดวงนั้นคือเธอ   เธอคือดวงใจ

    สังเกตสีหน้าของโยดาด้วยความเห็นใจ“แล้ว เมื่อไหร่เขาจะฟื้น”ถามไปทั้งๆที่รู้ว่าไม่มีทางแล้ว“ผมบอกไม่ได้อาจจะหนึ่งชั่วโมง หนึ่งวัน หนึ่งเดือนหรือหลายปีหรืออาจไม่ฟื้นขึ้นมาเลย จำเป็นต้องรอปาฏิหาริย์” โยดาขมวดคิ้ว“แล้วเราจะทำอย่างไรต่อไป”น้ำเสียงเลื่อนลอย“ทางการแพทย์เราถือว่าผู้ที่สมองตายคือ ก้านสมองถูกทำลาย คือผู้ที่เสียชีวิตไปแล้ว อวัยวะส่วนอื่นๆ จะลดการทำงานลงและจะเสื่อมสภาพตอนนี้เราใช้เครื่องช่วยหายใจอยู่ทำให้หัวใจยังเต้นได้ประมาณ1-2วันหากนานกว่านี้หัวใจก็จะหยุดเต้น และต้องรอให้ญาติตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรต่อไป”“คุณรู้สึกอะไรไหมคุณหัสนัย” โยดาถามยิ้มหยัน จะอยากฟังคำตอบอะไรจากพวกมนุษย์“ผม...รู้สึกใจหาย ไม่น่าเชื่อว่าทุกอย่างจะเลวร้ายกว่าที่คิดไว้ ผมเข้าใจความรู้สึกคุณดี ผมเสียใจที่คุณมังกรต้องมารับเคราะห์แทนมิรา มิราเองตอนนี้หัวใจของเธอก็มีปัญหา อายุเธออาจจะไม่ยืนยาวไปกว่านี้หากไม่ได้รับการรักษาทันท่วงที”“หมายความว่าอย่างไร”“มิราหัวใจเธอมีปัญหาตั้งแต่กำเนิด ต้องได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ ดีที่ผมตรวจพบก่อนแต่น่าแปลกที่ไม่เคยเห็นเธอมีอาการอะไรมาก่อนเลย จนกระทั่งเกิดอุบัติเหตุครั้

  • หากดาวดวงนั้นคือเธอ   ดอกบานไม่รู้โรย

    หัสนัยประคองมิรานั่งกึ่งนอนอยู่ที่เบาะหลัง ส่วนมังกรเบาะหน้าถูกปรับเอนเลือดท่วมตัว โยดาขับรถเร็วปานจะเหาะแต่หัสนัยกับคิดว่ามันช้าเหลือเกินรถแล่นมายังดรงพยาบาลประจำจังหวัด จอดหน้าห้องฉุกเฉินบุรุษพยาบาลเข็นรถเข็นมาแต่ช้ากว่าหัสนัยที่อุ้มมิราเข้าไปข้างในห้องพร้อมกับ บอกพยาบาลเสียงดังลั่น“ผมเป็นหมอ” พยาบาลรีบเตรียมอุปกรณ์ให้กับหัสนัย มังกรถูกเข็นเข้ามาบ้างคราวนี้เองที่โยดาสีหน้าเป็นกังวล เผลอยกมือขึ้นไหว้“ท่านพ่อ อย่าทำให้เจ้ามังกรต้องจากไปอย่างนี้เลย ลูกยังไม่ได้บอกลาและเขาเองก็ยังไม่ได้บอกลาสาวน้อยในดวงใจ” โยดาลงทุนขอร้องต่อพระพรหมหันหน้าไปทางศาลพระพรหมในโรงพยาบาล ใบหน้าเป็นกังวลไม่สามารถปิดบังได้ก็มังกรไม่เคยเป้นแบบนี้สักทีกี่ปีที่เคยพบกันไม่เคยเจ็บไม่เคยตาย โยดาเพิ่งจะรู้ในตอนนี้เองว่าใจหายแค่ไหนหากมังกรจะจากไปจริงๆหมอวิ่งวุ่นเมื่อมังกรถูกเข็นเข้าไปในห้องโยดาเริ่มวิตก เพราะปกติเคยเห็นแต่ว่าหากมังกรมีแผล แผลของเขาจะหายเองในเวลาไม่กี่อึดใจ หรือว่าครั้งนี้ไม่เหมือนทุกครั้งเขาโดนหนักไปหน่อยสักพัก หมอออกมาบอกกับโยดาว่ามังกรสมองกระทบกระเทือนอย่างแรง ทำให้สมองตาย ต้องใส่เครื่องช่วยหายใ

  • หากดาวดวงนั้นคือเธอ   ดอกปีบร่วงหล่น

    บัดนี้เด็กหญิงตัวน้อยอยู่ใกล้เกินกว่าใกล้ แต่มิราจะมีใจให้เขาเหมือนที่เขาเฝ้าฝันถึงเธอตลอดเวลา15ปีที่ผ่านมาไหมหัสนัยขับรถห่างตัวเมืองมาเรื่อยๆ จนกระทั่งเข้าสู่เขตจังหวัดหนึ่ง ที่สองข้างทางเริ่มร่มรื่น มิรามองนู้นมองนี่“ชลบุรี คุณหัสนัยมาทำไมที่นี่ค่ะ”“บ้านเกิดผมเลย” รถเลี้ยวเข้าสู่ตัวบ้านหลังใหญ่ร่มรื่น ตัวบ้านแม้จะเก่าแต่ทว่าถูกดูแลอย่างดี มิรามองบ้านสองหลังที่ติดกันบ้านของมิราอยู่ทางซ้ายมือแต่หัสนัยเลี้ยวรถเข้าบ้านหลังทางขวามือ รั้วชาฮกเกี้ยนที่ทำเป็นรั้วรายรอบกั้นบ้านสองหลังถูกตัดแต่งจนเป็นระเบียบ มิราจำได้ดีด้วยอาศัยอยู่ที่นี่ตั้งแต่เล็ก ตั้งแต่พ่อแม่ตายไปมิราก็ย้ายออกจากที่นี่ไปอาศัยอยู่หอของมหาลัยอาศัยเงินจากการขายบ้านเก็บเป็นทุนรอนเปิดร้านขายดอกไม้และเรียนมหาลัย เมื่อเรียนจบและก็ไม่เคยกลับมาที่นี่อีกเลย บ้านถูกขายให้เพื่อนสนิทของคุณพ่อของมิรา ที่เอ่ยปากกับมิราในวัย18ว่าหากต้องการบ้านคืนก็แค่ให้นำเงินมาคืนเท่านั้น อย่าถือว่าเป็นการชื้อขายแต่บ้านยังคงเป็นของมิราอยู่เพราะไม่มีการโอนกรรมสิทธิ์ใดใดทั้งสิ้น“ถึงแล้ว ....บ้านของมิราอยู่ทางซ้าย” หัสนัยบอกมิรามิราหันมองหัสนัยอย่

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status