공유

บทที่ 239

작가: ใบไม้ร่วงในเมืองร้าง
ฉินเหยี่ยนคิดอย่างไรก็คิดมิตก จู่ ๆ เขาก็หันไปมองตงฟางไป๋และถามว่า “ข้าจำได้ว่าเมื่อครู่เจ้าว่าพวกเขาคือคนของอ๋องหนิง ใช่หรือไม่?”

“ตอนที่พวกเราออกนอกเมืองมาพร้อมแม่ทัพใหญ่ฉง คนพวกนั้นก็โผล่มาพอดี ตอนนั้นพวกเขากล่าวอ้างว่าตนเป็นทหารในสังกัดของจวนอ๋องหนิง”

“ถ้าเช่นนั้น รีบตรวจดูว่าบนร่างพวกเขามีป้ายของจวนอ๋องหนิงหรือไม่!”

ตงฟางไป๋โบกมือให้เหล่าทหาร พวกเขาจึงเริ่มค้นหาบนร่างของผู้เสียชีวิตเหล่านั้น

แต่เพียงครู่เดียว พวกเขาก็มิพบอะไรเลย

ฉงชูโม่โกรธจัดและกล่าวว่า “ตงฟางไป๋ เจ้าคุ้มกันองค์รัชทายาทกลับไป ข้าจะไปถามอ๋องหนิงให้รู้เรื่อง!”

เมื่อนางพูดจบก็ทำท่าจะจากไป แต่ฉินซูกลับเรียกนางเอาไว้ก่อน

“ชูโม่ ช้าก่อน!”

“องค์รัชทายาทมีรับสั่งอะไรอีกหรือเพคะ?”

“เจ้าบุกไปถามตรง ๆ เช่นนั้น หากอ๋องหนิงยอมรับ ก็นับว่าแปลกแล้ว”

ฉงชูโม่ครุ่นคิดเล็กน้อย นางเห็นด้วยจึงถามว่า “เช่นนั้นในความเห็นของท่าน เราควรทำอย่างไรต่อไป?”

ฉินซูคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วกล่าวว่า “เมื่อครู่คนร้ายโจมตีแล้วรีบหนีไปโดยมิลังเล เพราะมันคิดว่าฉินเหยี่ยนตายแล้ว ดังนั้นเราจะใช้แผนลวง รอจนข่าวการตายของฉินเหยี่ยนล่วงไปถึงหลงเฉิง แ
이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요
잠긴 챕터

관련 챕터

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 240

    ฉินซูพยักหน้าเล็กน้อย “ก็อาจจะใช่ ข้ามิค่อยสบายใจนัก จึงแอบตามมาด้วย เจ้าลองเล่าถึงเหตุการณ์ตอนนั้นให้ข้าฟังหน่อยเถอะ ข้าจะได้ดูว่ามีจุดอ่อนใดที่พวกเขาเผยไต๋ออกมาบ้างหรือไม่”ฉงชูโม่จึงเล่าถึงการลอบโจมตีของชายชุดขาวให้ฟังอย่างละเอียดเมื่อนางพูดจบ ตงฟางไป๋ก็เสริมว่า “หลังจากที่แม่ทัพฉงไล่ตามชายชุดขาวไปแล้ว เฉินอันและพรรคพวกก็เข้าโจมตีพวกเราทันที หม่อมฉันคิดว่าพวกเขาต้องเป็นพวกเดียวกันแน่!”แต่ฉินซูปฏิเสธ “ไม่หรอก หากพวกเขาเป็นพวกเดียวกัน วิธีที่ดีที่สุดคือต้องให้เฉินอันและพรรคพวกโจมตีเราก่อน เพื่อให้พวกเจ้าติดพันอยู่กับการต่อสู้ เมื่อมัวต่อสู้จนชุลมุน แล้วชายชุดขาวค่อยออกมาจากป่ามาโจมตีทีหลัง เช่นนั้นจะมีโอกาสสำเร็จมากกว่าและสมเหตุสมผลกว่าด้วย”ตงฟางไป๋ประหลาดใจ “ถ้าเช่นนั้น พวกเขาเป็นคนละพวกกัน ไม่สิ ดูแล้วน่าจะมีถึงสามกลุ่ม!”“สามกลุ่ม? เจ้าหมายความว่าอย่างไร?” ฉงชูโม่ถามด้วยความงุนงง“อ้อ เดิมทีกระหม่อมก็ยังมิรู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติ แต่หลังจากที่ได้ฟังคำวิเคราะห์ขององค์รัชทายาทแล้ว คนที่ออกมาโจมตีกระหม่อมคือชายชุดดำ เขามิใช่พวกเดียวกับเฉินอัน แต่เป็นอีกกลุ่มหนึ่ง”“เจ้าว่ากระไ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 241

    “หลิวเว่ย รองหัวหน้าศาลต้าหลี่ ถวายบังคมองค์รัชทายาทพ่ะย่ะค่ะ” “ขอถวายบังคมองค์รัชทายาทพ่ะย่ะค่ะ!”ฉินซูเลิกคิ้วเล็กน้อย ถามขึ้นว่า "ใต้เท้าหลิว เหตุใดพวกท่านจึงมาที่นี่ได้?"หลิวเว่ยตอบกลับอย่างนอบน้อม "กระหม่อมได้รับรายงานว่ามีผู้วางแผนลอบสังหารเฉินหลิวอ๋องที่ศาลาสิบลี้แห่งนี้ กระหม่อมจึงนำคนเร่งรุดมาทันที มิทราบว่าองค์รัชทายาทได้พบเจอพวกโจรบ้างหรือมิพ่ะย่ะค่ะ?""พวกเจ้ามาช้าไปแล้ว ฉินเหยี่ยนถูกลอบสังหารเสียชีวิตไปแล้ว พวกโจรชั่วส่วนใหญ่หลบหนีไปได้ ที่เหลือก็ถูกสังหารทั้งหมด"เมื่อได้ยินคำนี้ สีหน้าของหลิวเว่ยเปลี่ยนไปเล็กน้อยเขาเดินไปสำรวจที่รถม้าที่เสียหายและพินิจอย่างละเอียดเมื่อเห็นศพของฉินเหยี่ยนและชายารองข้างกาย เขาจึงกล่าวด้วยสีหน้าหนักใจว่า "องค์รัชทายาทพ่ะย่ะค่ะ การลอบสังหารเฉินหลิวอ๋องเป็นเรื่องใหญ่หลวงนัก กระหม่อมต้องรีบนำความกลับไปรายงานต่อศาลต้าหลี่ เพื่อให้ตุลาการศาลต้าหลี่ทูลเรื่องที่เกิดขึ้นต่อองค์จักรพรรดิ องค์รัชทายาท กระหม่อมของทูลลา""ได้ พวกท่านไปเถอะ" ฉินซูตอบอย่างมิใส่ใจ“ขอองค์รัชทายาททรงพระเจริญ”หลิวเว่ยคำนับแล้วขึ้นม้ากลับไปทางเดิมพร้อมกับเหล่

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 242

    “ไม่มีปัญหา อีกหนึ่งชั่วยามข้าจะให้คนจัดส่งไปให้เจ้า”“ฮ่าฮ่า ขอบพระทัยไว้ณที่นี้ มิเสียแรงที่กระหม่อมทุ่มเทเพื่อท่านไปมากมาย”หลังจากที่ชายชุดดำกล่าวจบ เขาก็เดินไปกดบางกลไกที่ข้างชั้นหนังสือเสียงกึกก้องดังขึ้น พร้อมกับที่ผนังค่อย ๆ แยกออกทั้งสองข้าง เผยให้เห็นทางเดินทอดยาวลงไปเบื้องยาวชายชุดดำเคลื่อนตัวหายเข้าไปในทางเดินนั้นทันทีฉินเซียวออกจากห้องตำรา แล้วเรียกลูกน้องคนสนิทมาพบ ก่อนสั่งการว่า “หาสตรีบริสุทธิ์มาสิบคน อย่าทิ้งร่องรอยไว้เด็ดขาด”“ท่านอ๋องโปรดวางพระทัย กระหม่อมจะรีบไปจัดการเดี๋ยวนี้พ่ะย่ะค่ะ”......ในโรงเตี๊ยมเทียนเว่ยมู่หรงจื่อเยียนและมู่หรงฟู่ กำลังรับประทานอาหารเย็นทันใดนั้น ร่างหนึ่งก็กระโดดเข้ามาทางหน้าต่างมู่หรงฟู่สะดุ้งด้วยความตกใจ พอเห็นชัดเจนจึงร้องออกมาว่า “จื่อชิน! เจ้าได้รับบาดเจ็บอย่างนั้นหรือ?!”“พี่จื่อชิน ท่านบาดเจ็บหนักหรือ เกิดเรื่องอันใดขึ้นกันแน่?”เมื่อเห็นแขนเสื้อข้างซ้ายของหนานกงจื่อชินถูกย้อมด้วยเลือดจนชุ่ม มู่หรงจื่อเยียนทั้งตกใจและกังวล รีบเดินไปพยุงให้เขานั่งลงหนานกงจื่อชินโบกมือเบา ๆ แล้วพูดว่า “มิเป็นไร แค่บาดแผลภายนอกเท่

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 243

    ครู่ต่อมา เสียงของเฉาฉุนก็ดังมาจากข้างใน “ทูลฝ่าบาท ตุลาการศาลต้าหลี่ หวังฉือ ขอเข้าเฝ้าพ่ะย่ะค่ะ!”หวังฉือจัดเครื่องแต่งกายให้เรียบร้อย แล้วก้าวเดินเข้ามาอย่างมั่นคงเขาคำนับรีบตามธรรมเนียม และเริ่มกล่าวทันทีว่า “ฝ่าบาท เกิดเหตุใหญ่แล้วพ่ะย่ะค่ะ เฉินหลิวอ๋องพร้อมทั้งพระชายารองถูกลอบปลงพระชนม์ระหว่างเดินทางผ่านศาลาสิบลี้พ่ะย่ะค่ะ...”“ว่ากระไรนะ!!”ฉินอู๋ต้าวผุดกายลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว พร้อมคำรามออกมาอย่างเกรี้ยวกราด “ใคร! ใครมันช่างบังอาจถึงเพียงนี้ กล้าลอบสังหารบุตรของข้าเชียวรึ?!”หวังฉือรีบตอบด้วยความหวาดกลัวว่า “ฝ่าบาทโปรดระงับโทสะ ยามที่คนของศาลต้าหลี่ไปถึงยังศาลาสิบลี้ เฉินหลิวอ๋องก็ถูกปลงพระชนม์ลงแล้วพ่ะย่ะค่ะ และพระศพก็ได้ถูกทหารที่ติดตามองค์รัชทายาทคุ้มครองนำกลับมา จากคำบอกเล่าขององค์รัชทายาท...”เขายังมิทันพูดจนจบประโยค ฉินอู๋ต้าวก็ขัดขึ้นทันที “เจ้าว่าอย่างไรนะ? องค์รัชทายาทก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วยหรือ?”“พ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท ได้ยินว่า องค์รัชทายาทยังพากองทหารจากตำหนักบูรพาไปด้วย”“องค์รัชทายาทพากองทหารไปยังศาลาสิบลี้ หรือว่าเขารู้ล่วงหน้าว่าจะมีการลอบสังหารฉินเหยี่ยน? หรือว่

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 244

    ภายในท้องพระโรงพระตำหนักจินหลวนฉินอู๋ต้าวนั่งอยู่บนบัลลังก์มังกร สีหน้าเคร่งขรึมราวกับน้ำแข็ง ดวงตาที่ลึกล้ำและเย็นชานั้นเต็มไปด้วยเส้นเลือดแดงก่ำความโกรธที่ปะทุขึ้นทำให้กล้ามเนื้อบนใบหน้าของเขากระตุกเล็กน้อยฉินอู๋ต้าวนั่งนิ่งบนบัลลังก์ มิเอ่ยปากแม้สักคำ สายตาจับจ้องไปยังด้านนอกท้องพระโรงอย่างมิลดละคล้ายกับว่ากำลังรออะไรบางอย่างอยู่...บรรยากาศในท้องพระโรงเต็มไปด้วยความอึดอัด ขุนนางทั้งฝ่ายบุ๋นและฝ่ายบู๊ทั้งหลายไม่มีผู้ใดกล้าเอ่ยปากขึ้นก่อนแม้กระทั่งเว่ยเจิงแห่งสำนักขุนนางใหญ่ และเหลยเจิ้นผู้เป็นเจ้าสำนักหอดูดาวหลวงต่างก็เลือกที่จะนิ่งเงียบขณะนั้น เสียงที่ยังฟังดูอ่อนเยาว์เสียงหนึ่งก็ทำลายความเงียบในท้องพระโรงลง“เสด็จพ่อ ลูกได้ยินว่าพี่หกถูกลอบสังหาร เรื่องนี้จริงหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”ผู้ถามคือ ฉินอี้ องค์ชายลำดับที่แปดในองค์จักรพรรดิหลังจากที่เขาเอ่ยถามจบ ฉินหงก็ถามขึ้นต่อว่า “เสด็จพ่อ ทรงพระกรุณาตรัสอะไรบ้างเถิด น้องหกของพวกเราเป็นอย่างไรกันแน่?” “เสด็จพ่อ แม้น้องหกจะถูกลดฐานันดรเหลือเพียงตำแหน่งเฉินหลิวอ๋อง แต่เขายังเป็นโอรสของท่าน และเป็นน้องของพวกเราด้วย หากเขาตาย

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 245

    จากนั้น “ร่าง”ของฉินเหยี่ยนก็ถูกหามเข้ามาในขณะนี้เขานอนอยู่บนเปลที่ทำขึ้นอย่างง่าย ๆ ใบหน้าซีดขาวราวกับกระดาษ ไม่มีสีเลือดแม้แต่น้อยบาดแผลที่หน้าอกของเขาถูกเย็บเรียบร้อยแล้ว ด้วยวิธีการเฉพาะตัวของฉินซู ทำให้ไม่มีใครสามารถสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติได้ฉินอู๋ต้าวเดินลงมาจากบันไดหยก เอื้อมมือไปสัมผัสที่มือของฉินเหยี่ยนเมื่อสัมผัสได้ถึงมืออันเย็นเฉียบไร้ชีวิตของฉินเหยี่ยน สีหน้าของเขาก็มืดมนลงไปอีกฉินหง ฉินหยางและคนอื่น ๆ ต่างก็แสดงท่าทางเศร้าสลด ราวกับมิอาจกลั้นน้ำตาเอาไว้ได้ไหว“พี่หก ท่านตายอย่างน่าอนาถเหลือเกิน...” ฉินอี้ องค์ชายแปดกล่าวด้วยความสะอื้นไห้ฉินอู๋ต้าวหันไปตวาดถามฉินซูว่า “พูดมา! ฉินเหยี่ยนตายอย่างไร?”“เหตุการณ์เป็นเช่นนี้พ่ะย่ะค่ะ...” ฉินซูเล่าเรื่องราวทั้งหมดอย่างสุขุมมิเปลี่ยนสีหน้าแม้แต่น้อยหลังจากฟังเรื่องราวจบ ฉินอู๋ต้าวก็ถามต่อด้วยเสียงเย็นชาว่า “เจ้าบอกว่าเจ้าไปที่ศาลาสิบลี้เพื่อช่วยชีวิตฉินเหยี่ยน แล้วเจ้ารู้ได้อย่างไรว่ามีคนจะลอบทำร้ายเขา?”ฉินหยางรีบพูดขึ้นก่อน “เสด็จพ่อ นี่มันชัดเจนอยู่แล้วมิใช่หรือพ่ะย่ะค่ะ? องค์รัชทายาทพอถูกเปิดโปง ก็เลยอ้างว่าจะ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 246

    ฉงชูโม่พูดด้วยความเสียดายว่า “สอบสวนมิได้แล้ว พวกเขาตายหมดแล้ว”นางคาดการณ์ไว้ว่า อ๋องหนิงคงจะปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่เมื่อได้ยินเขาพูดเช่นนี้ นางก็จำเป็นต้องทบทวนเรื่องนี้ใหม่อีกครั้งหรือว่าพวกทหารจากจวนอ๋องหนิงที่ชื่อเฉินอันคนนั้น จะเป็นตัวปลอมจริง ๆ?ฉินหยางถามขึ้นว่า “ชูโม่ ตอนนั้นเจ้ากับองค์รัชทายาทออกเดินทางไปศาลาสิบลี้พร้อมกันหรือไม่?”ฉงชูโม่ส่ายหน้า “มิใช่เพคะ หม่อมฉันออกเดินทางไปก่อน ตอนที่รถม้าของเฉินหลิวอ๋องถูกลอบโจมตี องค์รัชทายาทเพิ่งจะมาถึงศาลาสิบลี้”ฉินหยางยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย แสดงท่าทีเหมือนมองเห็นความจริงทั้งหมดเขาหันไปมองฉินอู๋ต้าวแล้วกล่าวด้วยความภาคภูมิใจว่า “เสด็จพ่อ ฟังจากบทสนทนาของพวกเขาแล้ว ลูกก็พอจะรู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น แต่มิแน่ใจว่าควรพูดออกไปหรือไม่”ฉินอู๋ต้าวตรัสตำหนิว่า “มีอะไรจะพูดก็พูดมา อย่ามาเล่นลิ้นต่อหน้าข้า!”ฉินหงรู้สึกมิพอใจทันที ในใจเดิมทีอยากจะอวดความสามารถ แต่มิคิดว่าจะโดนตำหนิเช่นนี้เขาเหลือบมองฉินซูอย่างมิพอใจ ก่อนจะกล่าวเสียงดังว่า “เสด็จพ่อ ความจริงก็ชัดเจนแล้ว องค์รัชทายาทเป็นผู้สั่งให้คนไปลอบสังหารน้องหก”“ก่อนลงมือ เขากลัว

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 247

    ฉินหยางมีท่าทางมั่นใจ มิเกรงกลัวใด ๆ พูดเย็นชาออกมา “ถึงข้าไม่มีหลักฐาน แต่สำนักหอดูดาวหลวงสามารถตรวจสอบได้ ด้วยความสามารถของสำนักหอดูดาวหลวง แน่นอนว่าพวกเขาจะหาความจริงออกมาได้แน่นอน ถึงเวลานั้นก็จะรู้เองว่า สิ่งที่ข้าคาดเดานั้นจริงหรือไม่”ฉินอู๋ต้าวหันไปมองเหลยเจิ้น ก่อนพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า "สืบสวนเรื่องนี้โดยด่วน มิว่ามันจะเกี่ยวข้องกับผู้ใด ข้า… ต้องการเพียงความจริง!""กระหม่อมรับพระบัญชา!" เหลยเจิ้นก้มหน้ารับคำสั่งด้วยความเคารพท่ามกลางฝูงชน ฉินเซียวเริ่มกระวนกระวายหากสำนักหอดูดาวหลวงเข้ามาทำการสืบสวนจริง ๆ ในกรณีนั้นการสืบสาวมาถึงตัวเขาก็เป็รนเรื่องของเวลาเท่านั้นเมื่อนึกถึงจุดนี้ เขาก็หันไปส่งสัญญาณด้วยสายตาให้ขันทีน้อยที่ยืนอยู่ข้าง ๆ อย่างเงียบ ๆขันทีคนนั้นเข้าใจเจตนาในทันทีและรีบถอยออกไปมินานหลังจากนั้น ขันทีน้อยคนนั้นก็กลับเข้ามาอีกครั้ง ก่อนคุกเข่าลงและรายงานด้วยความเคารพว่า "กราบทูลฝ่าบาท มีคนจากภายนอกเข้ามาคนหนึ่ง เขากล่าวว่าเขาต้องการมอบตัวสารภาพผิดพ่ะย่ะค่ะ""มอบตัวสารภาพผิดหรือ?""พ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท คนผู้นั้นอ้างว่ารู้ความจริงเกี่ยวกับเหตุลอบสังหารเฉิน

최신 챕터

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 716

    กู้เสวี่ยเจี้ยนถามด้วยความประหลาดใจอย่างยิ่ง “ท่านว่ากระไรนะ? หนานเยวี่ยถูกทำลายแล้วหรือ?”“ใช่ เพิ่งได้รับข่าวเมื่อมินานมานี้ ฉินซูใช้กลอุบายเล็กน้อยก็บีบบังคับให้ทหารหนานเยวี่ยแสนนายยอมจำนน จากนั้นยังนำทหารชั้นยอดเพียงหมื่นนายบุกเข้ายึดเมืองหลวงของหนานเยวี่ย และสังหารเชื้อพระวงศ์หนานเยวี่ยจนหมดสิ้น”“มิจริงกระมัง? ท่านแน่ใจหรือว่าข่าวนั้นเป็นความจริง?” กู้เสวี่ยเจี้ยนแสดงสีหน้าเหลือเชื่อซ่างกวนอวิ๋นซีกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ข่าวนี้เป็นความจริงทุกประการ ต้องยอมรับว่าองค์รัชทายาทผู้รอวันปลดแห่งต้าเหยียนผู้นี้พอมีฝีมืออยู่บ้าง หากเขามา บางทีอาจจะช่วยข้าได้”“ท่านต้องการให้ฉินซูช่วยท่านทำกระไรหรือ?” กู้เสวี่ยเจี้ยนมองซ่างกวนอวิ๋นซีด้วยความหวาดระแวง“ถึงเวลานั้นเจ้าก็จะรู้เอง เอาเถอะ เจ้าลงไปได้แล้ว ข้าจะฝึกวิชา”ซ่างกวนอวิ๋นซีออกคำสั่งไล่แขกดื้อ ๆกู้เสวี่ยเจี้ยนเบะปากแล้วหันหลังเดินลงบันไดไปซ่างกวนอวิ๋นซีกลับไปยังห้องฝึกตน จากนั้นก็ร่ายเวทด้วยสองมือ ตวัดนิ้วส่งพลังปราณไปยังกระจกทองเหลืองบานหนึ่งในเวลาเดียวกันภายในสำนักหอดูดาวหลวงแห่งต้าเหยียนเหลยเจิ้นกำลังนั่งสมาธิบำเพ็

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 715

    มู่หรงเซี่ยวเทียนอธิบายว่า “คุณชายหยวน เทพธิดาซ่างกวนกำลังกักตนบำเพ็ญเพียรอยู่จริง ๆ หากท่านมิเชื่อ ท่านสามารถไปดูที่หอดารารักษ์ได้”“ข้าต้องไปแน่ ข้าขอพูดตามตรง ครั้งนี้ที่ข้ามาก็เพื่อสู่ขอนาง เทพธิดาซ่างกวน ข้าจะต้องแต่งกับนางให้ได้!”“การได้รับความเมตตาจากคุณชายหยวนนับเป็นบุญของเทพธิดาซ่างกวน คุณชายหยวนโปรดวางใจ เมื่อนางออกจากด่านกักตนบำเพ็ญเพียรแล้ว ข้าจะทำหน้าที่เป็นพ่อสื่อให้ท่านด้วยตนเอง”หยวนหัวยิ้มประสานมือคารวะมู่หรงเซี่ยวเทียน “เช่นนั้น ก็ขอบพระทัยฝ่าบาทแห่งเป่ยเยี่ยนยิ่งนัก”"คุณชายหยวนเกรงใจเกินไปแล้ว เชิญเถิด"จากนั้น มู่หรงเซี่ยวเทียนก็นำคณะของแคว้นฉีเข้าเมืองในหมู่เชื้อพระวงศ์แห่งเป่ยเยี่ยน หญิงสาววัยสิบแปดสิบเก้าปีคนหนึ่งแค่นเสียงเบา ๆ ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธเคือง ว่า “หึ แคว้นฉีพูดเสียดิบดีว่าจะส่งองค์รัชทายาทมาตรวจราชการ เสด็จพ่อจึงเสด็จออกไปต้อนรับด้วยพระองค์เอง ใครจะคิดว่าคนที่มาจะเป็นเพียงบุตรชายของอ๋องเซียงหยาง ช่างมิเห็นหัวคนเสียนี่กระไร”“ใครว่ามิจริงเล่า ข้าเองก็รู้สึกแย่พอกัน หากเป็นอ๋องเซียงหยางเสด็จมาด้วยตนเอง เสด็จพ่อเสด็จออกไปต้อนรับก็ยังพอว่า แต

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 714

    เป่ยเยี่ยนทั่วทั้งเมืองจินหลิงตกอยู่ภายใต้การวางกำลังที่เข้มงวดภายในเมืองหลวงอันกว้างใหญ่ไพศาลของเป่ยเยี่ยนแห่งนี้ สามารถพบเห็นทหารกองรักษาการณ์พร้อมอาวุธได้ทุกหนทุกแห่งบริเวณประตูเมืองทางเหนือมีการเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด โดยมีกองทัพทหารม้าเกราะหนักซึ่งเป็นกองกำลังที่มีกำลังรบแข็งแกร่งที่สุดของเป่ยเยี่ยนเป็นผู้รักษาการณ์พรมแดงที่โดดเด่นสะดุดตาผืนหนึ่งทอดยาวจากถนนสายหลักเมืองทางฝั่งเหนือ ไปจนถึงนอกประตูเมืองทางทิศเหนือขุนนางทั้งบู๊และบุ๋นของเป่ยเยี่ยนต่างมารวมตัวกันอยู่ที่นี่ ราชรถหรูหราโอ่อ่าของจักรพรรดิจอดอยู่ภายนอกประตูเมืองทางเหนือมู่หรงเซี่ยวเทียนในชุดลายมังกรที่ยืนอยู่สุดปลายพรมแดงกำลังมองไปยังทิศทางอันห่างไกลเบื้องหลังของเขาคือเหล่าพระโอรสและพระธิดามิว่าจะเป็นขุนนางข้าราชบริพาร หรือมู่หรงเซี่ยวเทียน หรือแม้แต่เชื้อพระวงศ์ ต่างก็ตั้งตารอคอยราวกับกำลังรอคอยบุคคลผู้ยิ่งใหญ่ก็มิปาน“ฝ่าบาท พวกเขากำลังมาแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”ในขณะนั้นเอง เสียงหนึ่งดังมาจากกำแพงเมืองมู่หรงเซี่ยวเทียนและคนอื่น ๆ มองออกไป เห็นขบวนหนึ่งกำลังเคลื่อนตัวเข้ามาอย่างช้า ๆ บนถนนหลวงที่อยู่ไกลออกไป

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 713

    "บัดนี้องค์รัชทายาทยังได้แสดงวรยุทธ์อันน่าตื่นตะลึงออกมา ข้าน้อยเห็นว่าก็สามารถใช้ประโยชน์จากองค์รัชทายาทได้ในด้านการประลองยุทธ์พ่ะย่ะค่ะหากมีองค์รัชทายาทเข้าร่วมโดยไม่มีสิ่งใดผิดพลาด ราชวงศ์ต้าเหยียนน่าจะสามารถก้าวเข้าสู่สามสิบอันดับแรกได้และหากแสดงฝีมือได้ดี บางทีอันดับของต้าเหยียนในกลุ่มแคว้นลำดับรองอาจจะขยับขึ้นได้อีกด้วยพ่ะย่ะค่ะ”ฉินอู๋ต้าวโบกมือ กล่าวด้วยสุรเสียงจริงจังว่า “เรื่องอันดับนั้นมิสำคัญ จุดประสงค์ที่เราเข้าร่วมการประชุมระหว่างแคว้นคือการเข้าสู่สามสิบอันดับแรก แล้วชิงสิทธิ์ในการเข้าสู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนเฉวียน”“เช่นนั้นก็ง่ายดาย ข้าน้อยเตรียมพร้อมทุกประการแล้ว ตราบใดที่พวกเขาสามารถเข้าไปในดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนเฉวียนได้ ย่อมต้องพบเทพศาสตราวุธในตำนานและเมล็ดพันธุ์พืชอันล้ำค่า ถึงยามนั้น การที่ต้าเหยียนจะก้าวขึ้นเป็นแคว้นผู้นำก็อยู่แค่เอื้อม”เหลยเจิ้นกล่าวแล้วก็อดตื่นเต้นมิได้ดังที่เคยกล่าวไว้แต่ต้น เมื่อสองร้อยปีก่อน ในแผ่นดินเฉินโจว ต้าเหยียนนั้นเป็นเพียงแคว้นเล็ก ๆ ที่ไม่มีผู้ใดสนใจต่อมาหลังจากได้เข้าไปในดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนเฉวียน ก็บังเอิญได้ครอบ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 712

    เซี่ยหลานตกใจลนลาน รีบแก้ตัวว่า “มิใช่อย่างนั้น ชูโม่ เจ้าคิดมากไปแล้ว ข้าจะกอดพระองค์ได้อย่างไร เจ้าก็รู้ว่าก่อนหน้านี้เขาทำกับข้าเช่นไร”ฉงชูโม่จึงนึกขึ้นได้ว่าก่อนหน้านี้เซี่ยหลานเคยถูกฉินซูฉีกอาภรณ์และทำให้อับอายนางจึงคลายความสงสัยในใจ “ข้าแค่ล้อเจ้าเล่นเท่านั้นเอง จะตกใจไปไยเล่า”“หึ กล้าล้อข้ารึ ข้ามิคุยกับเจ้าแล้ว” เซี่ยหลานแสร้งทำเป็นโกรธแล้วหันหลังเดินไปฉงชูโม่เห็นดังนั้นจึงรีบตามไป “เซี่ยหลาน ข้าผิดไปแล้ว เจ้าอย่าใจน้อยนักเลย”มองดูทั้งสองคนที่ทำราวกับว่าตนเป็นอากาศธาตุ ฉินซูก็จนคำจะกล่าวโชคดีที่ในเวลานั้นหลินชิงเหยาเดินเข้ามานางคล้องแขนฉินซูพลางกล่าวด้วยความนัยลึกซึ้งว่า “องค์รัชทายาท อากาศหนาวเย็นเช่นนี้อย่าประทับอยู่ข้างนอกเลยเพคะ ข้างนอกแม้จะเย็น แต่ดีที่ตำหนักบูรพาของเรามีบ่อน้ำพุร้อน องค์รัชทายาทจะเสด็จลงไปแช่เพื่อคลายความหนาวเหน็บหรือไม่เพคะ?”“ไปสิ ไยจึงมิไป!”ฉินซูเข้าใจความหมายในทันที จึงจับมือหลินชิงเหยาแล้วรีบเข้าไปในโรงอาบน้ำอย่างใจจดใจจ่อจากนั้นเขาก็ได้รำลึกถึงความหลังกับหลินชิงเหยาอีกครั้งในขณะเดียวกันเหลยเจิ้นได้รับพระบัญชาให้มายังห้องทรงอัก

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 711

    “อืม เพราะหากเป็นเช่นนั้น ก็อธิบายหลายสิ่งหลายอย่างได้”ฉงชูโม่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า “คนที่สามารถสั่งการยอดฝีมือจากวังหลวงได้ ตำแหน่งของเขาต้องมิธรรมดาอย่างแน่นอน หากคนเช่นนั้นลอบให้การช่วยเหลืออ๋องฉู่ ก็อาจจะปิดบังสายตาของสำนักโหรหลวงได้จริง ๆ”ฉินซูยักไหล่อย่างจนใจ “ดูเหมือนว่าการจะสาวถึงตัวคนที่อยู่เบื้องหลังอ๋องฉู่จะเป็นเรื่องยาก”“ถูกต้องแล้วเพคะ ครั้งนี้อ๋องฉู่ก่อกบฏมิสำเร็จ ต่อไปคงต้องระมัดระวังตัวยิ่งขึ้น พวกเราคงจะจับจุดอ่อนของเขาได้ยากขึ้นด้วย” ฉงชูโม่เองก็รู้สึกเสียดายอย่างยิ่ง“ช่างเถอะ พักเรื่องนี้ไว้ก่อน หากสืบสวนต่อไป เกรงว่าเสด็จพ่อจะทรงสงสัยว่าพวกเราสมคบคิดกันใส่ร้ายอ๋องฉู่”“แต่พวกเราจะปล่อยเรื่องนี้ไปเฉย ๆ หรือเพคะ? ในเมื่อที่อ๋องฉู่ตั้งใจจะก่อกบฏก็เป็นเรื่องจริง”ฉินซูกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “มิอาจปล่อยไปง่าย ๆ แน่นอน สิ่งที่เราทำได้ในยามนี้คือรอ รอให้ฉินอวี่ทำผิดพลาดอีกครั้ง ข้าเชื่อว่าเมื่อเรื่องนี้ซาลงไปแล้ว เขาจะต้องเคลื่อนไหวอย่างแน่นอน เมื่อใดที่มีการเคลื่อนไหว ก็จะต้องมีพิรุธเป็นแน่”ฉงชูโม่ถามว่า “ให้หม่อมฉ้นแอบจับตาดูเขาดีหรือไม่?”

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 710

    ฉินซูขมวดคิ้วกล่าวว่า “ตอนนี้ข้าก็แค่คาดเดา ยังไม่มีหลักฐานที่แน่ชัด จะสอบสวนเลยได้อย่างไร? ยิ่งกว่านั้นพวกเขายังเป็นศิษย์เอกของท่านทั้งสิ้น หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป เกรงว่าจะส่งผลเสียได้”เหลยเจิ้นส่ายหน้าอย่างจนใจ กล่าวว่า “ที่แท้องค์รัชทายาทก็แค่คาดเดาไปเอง แต่ข้าน้อยบอกท่านได้เต็มปากว่า นอกจากเสวี่ยเจี้ยน โฉ่วเยวี่ยและจีอันแล้ว ข้าน้อยล้วนจับศิษย์คนอื่น ๆ ขังแยกกันไว้ในห้องลับของสำนักหอดูดาวหลวงตั้งแต่ครึ่งปีก่อน พวกเขาไม่มีรอดพ้นจากสายตาข้าน้อยได้อย่างเงียบเชียบแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”“อ้อ? ถูกท่านขังไว้หมดเลยหรือ?”ต่อมความอยากรู้อยากเห็นของฉินซูถูกกระตุ้นขึ้นมาทันที เขาถามต่อว่า “ท่านหัวหน้าโหรหลวงขังพวกเขาไว้ด้วยเหตุผลใดหรือ?”กล้ามเนื้อบนใบหน้าของเหลยเจิ้นกระตุกสองสามครั้ง เขายกมือขึ้นลูบหน้าผากแล้วตอบว่า “ช่างเถิด ข้าน้อยมิกลัวองค์รัชทายาทจะหัวเราะเยาะอยู่แล้ว ศิษย์เอกของข้าน้อยแต่ละคนล้วนมีสันดานทรยศ ข้าน้อยแน่ใจว่าท่านก็พอจะรู้นิสัยใจคอของโฉ่วเยวี่ยและจีอันอยู่บ้าง ดังนั้นข้าน้อยจึงทำได้เพียงปล่อยให้พวกเขาไตร่ตรองถึงความผิดพลาดของตนเท่านั้น”“เช่นนั้น ศิษย์เอกทั้งเจ็ดคนของท

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 709

    ทันทีที่เขาลงบันไดมา จีอันก็ถามด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ว่า “ศิษย์พี่รอง โดนดุมาหรือไร?”“ไป ๆ ๆ หัวโขกจนปูดไปหมด เรื่องนี้ข้ายังมิได้คิดบัญชีกับเจ้าเลย!”“ดูเถอะ ขี้ใจน้อยเหมือนสตรีไปได้”“นี่ เจ้าอยู่ดี ๆ มิชอบใช่หรือไม่? ข้าจะฟาดเจ้าคอยดูเถอะ!” ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยไปหาแส้ยาวมาจากไหนก็มิทราบจีอันแคะขี้มูกแล้วกล่าวอย่างมิได้ยี่หระว่า “ข้ามิกลัวเจ้าหรอก ถึงอย่างไรท่านก็สู้ข้ามิได้”“ข้า… เจ้ามันร้ายกาจ ข้ายอมแพ้!”ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยหมดความอดทนใดทันที จีอันผู้นี้ขึ้นชื่อเรื่องหนังหนา อีกทั้งยังเก่งกาจจนน่าขนลุก สู้มิได้ เขาหลบดีกว่าพูดจบเขาก็หันหลังเดินออกไปครู่ต่อมา ฉินซูและฉงชูโม่ก็มาถึงเมื่อเห็นฉินซู จีอันก็อุทานด้วยความประหลาดใจว่า “โอ้โหแฮะ องค์รัชทายาท มิไปประกาศศักดาที่ใดหรือ ไฉนจึงมาเยือนสำนักหอดูดาวหลวงของเราได้?”ฉินซูงงงวยเล็กน้อย จึงถามกลับว่า “ตัวข้าต้องไปประกาศศักดาที่ใดเล่า? อวดอ้างกระไร?”“ท่านมิทรงทราบหรือ? ยึดครองแคว้นหนานเยวี่ยง่ายเหมือนปอกกล้วยเช่นนี้ ผลงานระดับนี้ไยมิไปประกาศให้ทั่วเล่า? หากเป็นข้าน้อย ข้าน้อยจะร้องแรกแหกกระเชอคุยโวไปสามวันสามคืนเต็ม ๆ ท่านนี่ช่าง

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 708

    ชิวก่วนกล่าวด้วยสีหน้าเศร้าหมองว่า “หาได้มีโจรผู้ร้ายบุกรุกเข้ามาไม่พ่ะย่ะค่ะ หูก่วงเซิงและพวกตายไปโดยไร้สาเหตุ ก่อนหน้านี้ก็ไม่มีความผิดปกติใด ๆ พ่ะย่ะค่ะ”“ว่ากระไรนะ? หูก่วงเซิงและพวกตายแล้วรึ?”ฉงชูโม่เดินเข้ามาด้วยสีหน้าประหลาดใจฉินซูกล่าวอย่างมิสบอารมณ์ว่า “มิใช่แค่พวกเขา แม้แต่กองทัพส่วนตัวห้าหมื่นนายของอ๋องฉู่ก็ถูกคนช่วยออกไปแล้ว”“ว่ากระไรนะเพคะ?”ฉงชูโม่ตกตะลึงอ้าปากค้าง!เมื่อได้สติกลับมา นางก็ขมวดคิ้วกล่าวว่า “ด้วยกำลังของอ๋องฉู่เพียงลำพัง ไม่มีทางทำเรื่องเหล่านี้ได้แน่ ดังนั้นเบื้องหลังของเขาต้องมียอดฝีมือคอยช่วยเหลือเป็นแน่เพคะ!”ฉินซูครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วกล่าวว่า “ศพของหูก่วงเซิงและพวกอยู่ที่ใด?”“ตอนนี้อยู่ที่ศาลต้าหลี่พ่ะย่ะค่ะ”“ไปดูกัน”ฉินซูกล่าวจบก็เดินจากไปอย่างรวดเร็วหวังฉือเห็นเขาออกมาก็คำนับแล้วกำลังจะกล่าวทว่าฉินซูกลับพูดแทรกขึ้นก่อนว่า “ใต้เท้าหวัง ไปกันเถิด ไปศาลต้าหลี่ของท่านด้วยกัน”เมื่อได้ยินเช่นนั้น หวังฉือก็ชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็รีบพยักหน้าหนึ่งชั่วยามต่อมาพวกเขาก็มาถึงศาลต้าหลี่เมื่อมองดูร่างไร้วิญญาณของหูก่วงเซิงและพวก ฉ

좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status