Share

บทที่ 240

Author: ใบไม้ร่วงในเมืองร้าง
ฉินซูพยักหน้าเล็กน้อย “ก็อาจจะใช่ ข้ามิค่อยสบายใจนัก จึงแอบตามมาด้วย เจ้าลองเล่าถึงเหตุการณ์ตอนนั้นให้ข้าฟังหน่อยเถอะ ข้าจะได้ดูว่ามีจุดอ่อนใดที่พวกเขาเผยไต๋ออกมาบ้างหรือไม่”

ฉงชูโม่จึงเล่าถึงการลอบโจมตีของชายชุดขาวให้ฟังอย่างละเอียด

เมื่อนางพูดจบ ตงฟางไป๋ก็เสริมว่า “หลังจากที่แม่ทัพฉงไล่ตามชายชุดขาวไปแล้ว เฉินอันและพรรคพวกก็เข้าโจมตีพวกเราทันที หม่อมฉันคิดว่าพวกเขาต้องเป็นพวกเดียวกันแน่!”

แต่ฉินซูปฏิเสธ “ไม่หรอก หากพวกเขาเป็นพวกเดียวกัน วิธีที่ดีที่สุดคือต้องให้เฉินอันและพรรคพวกโจมตีเราก่อน เพื่อให้พวกเจ้าติดพันอยู่กับการต่อสู้ เมื่อมัวต่อสู้จนชุลมุน แล้วชายชุดขาวค่อยออกมาจากป่ามาโจมตีทีหลัง เช่นนั้นจะมีโอกาสสำเร็จมากกว่าและสมเหตุสมผลกว่าด้วย”

ตงฟางไป๋ประหลาดใจ “ถ้าเช่นนั้น พวกเขาเป็นคนละพวกกัน ไม่สิ ดูแล้วน่าจะมีถึงสามกลุ่ม!”

“สามกลุ่ม? เจ้าหมายความว่าอย่างไร?” ฉงชูโม่ถามด้วยความงุนงง

“อ้อ เดิมทีกระหม่อมก็ยังมิรู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติ แต่หลังจากที่ได้ฟังคำวิเคราะห์ขององค์รัชทายาทแล้ว คนที่ออกมาโจมตีกระหม่อมคือชายชุดดำ เขามิใช่พวกเดียวกับเฉินอัน แต่เป็นอีกกลุ่มหนึ่ง”

“เจ้าว่ากระไ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 836

    มู่หรงอวิ๋นเจิงกล่าวจบ ก็มององค์จักรพรรดิบนบัลลังก์มังกรด้วยความคาดหวังองค์จักรพรรดิครุ่นคิดเล็กน้อย แล้วพยักหน้ากล่าว “ที่เจ้าพูดก็มีเหตุผล เอาเถิด เช่นนั้นตัวข้าจะ...”ยังมิทันกล่าวจบ มู่หรงโม่ก็เอ่ยปาก “เสด็จพ่อ มิได้เด็ดขาดพ่ะย่ะค่ะ! การเดินทัพทำศึกยากลำบากแสนสาหัส แนวหน้าอันตรายยิ่ง อวิ๋นเจิงตามไป มีแต่จะพบกับความยากลำบากยากเข็ญมิใช่น้อย หรือไม่ก็อาจถึงแก่ชีวิตได้!หากเสด็จพ่อต้องการให้คนจับตาดูบุตรแห่งนักปราชญ์ ลูกยินดีอาสาไปแทนอวิ๋นเจิงพ่ะย่ะค่ะ!”มู่หรงอวิ๋นเจิงขมวดคิ้วเรียว กำลังจะออกปากปฏิเสธแต่ทันใดนั้น มู่หรงหัวก็กลับชิงกล่าวขึ้นก่อน “เสด็จพ่อ เสด็จพี่รัชทายาทคือผู้สืบทอดบัลลังก์แผ่นดิน มิควรบุ่มบ่ามออกไป ให้ลูกไปเถิดพ่ะย่ะค่ะ ลูกเคยฝึกยิงธนูบนหลังม้ามาสองปี เรื่องการป้องกันตนเองมิใช่ปัญหา ขอเสด็จพ่อโปรดพระราชทานพระราชานุญาตด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ”มู่หรงเซี่ยวเทียนเกิดความลังเลขึ้นมามู่หรงอวิ๋นเจิงรีบกล่าว “เสด็จพี่รัชทายาท เสด็จพี่สาม ความหวังดีของพวกท่าน อวิ๋นเจิงซาบซึ้งใจยิ่งนัก เพียงแต่การที่หม่อมฉันอาสาในครั้งนี้ อีกหนึ่งวัตถุประสงค์ก็คือเพื่อทำความเข้าใจตัวฉินซูใ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 835

    “หากเป็นเช่นนี้ ฝ่าบาทจะทรงอนุญาตให้กระหม่อมร่วมเดินทางไปชายแดนด้วยได้หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”มู่หรงเซี่ยวเทียนนึกว่าตัวเองฟังผิดไป จึงเอ่ยถามว่า “บุตรแห่งนักปราชญ์ว่ากระไรนะ? เจ้าจะไปที่ชายแดนกระนั้นรึ? ชายแดนใด? เจ้าจะกลับแคว้นต้าเหยียนรึ?”ฉินซูตอบอย่างเฉยเมยว่า “ฝ่าบาททรงเข้าพระทัยผิดแล้ว กระหม่อมตั้งใจจะเดินทางพร้อมกับกองทัพใหญ่ไปยังทิศเหนือ หากระหว่างทางคิดแผนรับมือกระไรขึ้นมาได้ ก็สามารถเสนอแก่แม่ทัพใหญ่ของพระองค์ได้เลยอย่างไรเล่าพ่ะย่ะค่ะ"ใบหน้าของทุกคนเต็มไปด้วยความงุนงงตกใจเดิมทีพวกเขาคิดว่าฉินซูตั้งใจจะหาเหตุผลลอบกลับไปต้าเหยียนแต่กลับไม่มีใครคาดคิดว่า ฉินซูจะเป็นฝ่ายอาสาออกเดินทางร่วมกับลู่อวี้ไปยังชายแดนเหนือ เพื่อสกัดกั้นกองทัพทหารท้าหุ้มเกราะนับล้านจากแคว้นฉีด้วยตัวเองพึงรู้ไว้เถิดว่า หากประมาทเพียงเล็กน้อย ก็อาจถึงขั้นเป็นอันตรายต่อชีวิตได้เลยทีเดียว!ในชั่วขณะนั้น สายตาของเหล่าขุนนางในราชสำนักที่มองฉินซูกลับเต็มไปด้วยความซับซ้อนยิ่งนักถึงกับหาเหตุผลมาตำหนิมิได้เลยแววตาของมู่หรงโม่เป็นประกายแวบหนึ่ง เขากล่าวว่า “บุตรแห่งนักปราชญ์ นี่ดูมิเหมาะสมกระมัง แนวหน้ามี

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 834

    “พูดถูกแล้ว! เขาเป็นตัวต้นเหตุแท้ ๆ จะมีสิทธิ์มาทำตัวเป็นคนนอกได้เยี่ยงไรกันเล่า? ฝ่าบาททรงรับสั่งให้เรียกเขาเข้ามาก็สมควรแล้ว!”ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของผู้คน ฉินซูเดินเข้ามาอย่างสุขุมไม่ไหวติงเขาหันไปทางมู่หรงเซี่ยวเทียนพร้อมประสานมือคารวะ และกล่าวว่า “กระหม่อมขอถวายบังคมองค์จักรพรรดิแห่งเป่ยเยี่ยน!”เมื่อเห็นดังนั้น ก็มีขุนนางคนหนึ่งตำหนิขึ้นมาทันทีว่า “ฉินซู ท่านช่างบังอาจนัก! เข้าเฝ้าองค์จักรพรรดิของพวกเราแต่กลับมิคุกเข่าเสียอย่างนั้น!”“ใช่แล้ว! ท่านคิดว่าที่นี่คือแคว้นต้าเหยียนของท่านหรือไร? ไฉนยังมิรีบคุกเข่าทำความเคารพอีกเล่า?”ฉินซูหลือบมองพวกเขาเพียงครั้งเดียว และกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “พวกท่านทั้งหลาย ลืมไปแล้วหรือว่ายังมีตัวตนอีกสถานะหนึ่ง?”ในตอนแรกบรรดาขุนนางทั้งหลายยังคงชะงักไปเล็กน้อย หลังจากนั้นก็เพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่ายามนี้ฉินซูยังเป็นบุตรแห่งนักปราชญ์ของหอดารารักษ์ด้วยบุตรแห่งนักปราชญ์ของหอดารารักษ์ได้รับการยกเว้นเรื่องมารยาทคุกเข่าเมื่อเข้าเฝ้าจักรพรรดิเป็นกรณีพิเศษเมื่อนึกถึงเรื่องนี้ พวกเขาก็เงียบจนพูดอะไรมิออกไปในทันใดมู่หรงเซี่ยวเทียนเปิดป

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 833

    “ใช่น่ะสิ สี่แสนเทียบกับหนึ่งล้าน จะสู้ได้อย่างไร?”“ดูเหมือนว่าสวรรค์จะประสงค์ทำลายเป่ยเยี่ยนของพวกเราแล้ว ช่างน่าสลดใจเหลือเกิน...”ลู่อวี้ได้ฟังคำพูดนั้น ก็แค่นเสียงเย็นชาและกล่าวว่า “สงครามยังมิทันเริ่ม แต่ท่านขุนนางทั้งหลายกลับถอนหายใจกันไปมาเช่นนี้ ทราบหรือไม่ว่าการบั่นทอนขวัญกำลังใจทหารนั้นมีโทษประการใด?”ได้ยินคำพูดนี้ ขุนนางเหล่านั้นที่เพิ่งพูดไปเมื่อครู่ก็กลัวจนใจสั่น พลันรีบก้มหัวพร้อมคุกเข่าลงมู่หรงเซี่ยวเทียนมิอยากจะเอาเรื่องพวกเขา จึงหันไปสั่งลู่อวี้ว่า “ขุนนางลู่ จงรีบเรียกกองทหารรักษาการณ์ทางใต้กลับมา แล้วจงมุ่งหน้าไปทางเหนือเพื่อต้านทานศัตรู!”“ข้าน้อยน้อมรับพระราชโองการ”มู่หรงอวิ๋นเจิงเปิดปากเอ่ยว่า “เสด็จพ่อเพคะ อ๋องเซียงหยางนำทัพมาด้วยตนเอง ท่านอาของลูกมิได้เป็นปรปักษ์ต่อเขาเลย ลูกอยากขอให้ท่านเจ้าสำนักร่วมเดินทางไปกับกองทัพด้วย เช่นนี้แล้ว ก็จะสามารถกดดันอ๋องเซียงหยางได้ด้วยเพคะ”เมื่อทุกคนได้ฟังคำพูดนั้น ก็ต่างรู้สึกมีกำลังใจกันขึ้นมาทันที!“ใช่แล้ว ลืมท่านเจ้าสำนักไปได้อย่างไรกัน?”“นางคือยอดฝีมืออันดับหนึ่งของเป่ยเยี่ยน เป็นดั่งเทพเซียนเดินดิน!”“หาก

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 832

    ภายในหอดารารักษ์ฉินซูกำลังคิดจะออกไปข้างนอกพอดีแต่กลับมีเสียงเย็นชาของซ่างกวนอวิ๋นซีลอยลงมาจากชั้นบน“เจ้านี่ออกแต่เช้ากลับค่ำอยู่มิติดที่สักวัน ที่ข้าพูดไปเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาเจ้าไปแล้วสินะ?”น้ำเสียงของนางเต็มไปด้วยความมิพอใจยิ่งนักฉินซูแบมือออกพลางพูดอย่างหมดทางเลือก “องค์รัชทายาทของพวกท่านแห่งเป่ยเยี่ยนนัดหมายกับข้าไว้ตั้งแต่เมื่อวาน ข้าคงปฏิเสธมิไปมิได้กระมัง”“หึ อย่าหาข้ออ้างกระไรเลย อีกเพียงเดือนครึ่งก็จะถึงการประชุมระหว่างแคว้นแล้ว ในช่วงเวลาเช่นนี้ เจ้าควรจะรีบเร่งยกระดับวรยุทธ์ของเจ้าเองให้ได้โดยเร็วที่สุดจะดีกว่า”“วางใจเถิด ข้ารู้ขอบเขตตัวเองดี”ฉินซูพูดจบก็หมายจะออกไปทันทีขณะนั้น ขันทีอาวุโสคนหนึ่งรีบวิ่งเข้ามาด้วยความลนลาน แล้วตะโกนเสียงดังขึ้นไปยังชั้นบนว่า “ท่านเซียนซ่างกวน ชายแดนเกิดเหตุฉุกเฉิน ฝ่าบาททรงมีพระราชโองการ ขอให้ท่านรีบเร่งเข้าวังเพื่อประชุมหารือเรื่องด่วนขอรับ!”“ได้!”เมื่อเสียงของซ่างกวนอวิ๋นซีหยุดลง ร่างของนางก็เคลื่อนไหวว่องไวปานสายฟ้า นางกระโดดลงมาจากชั้นบนแล้วมุ่งตรงไปยังพระราชวังทันทีฉินซูลูบคางพลางพึมพำ “เจ้าขันทีอาวุโสนั่นดูตื่นตระ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 831

    ท่าทางน่าอนาถของเขาทำให้คนที่เห็นอดสงสารมิได้เลยหลังจากดื่มน้ำ ทหารก็ลงคุกเข่าข้างเดียวกับพื้น เขากล่าวด้วยเสียงแหบแห้ง “ฝ่าบาท แคว้นฉีได้ส่งกองทัพนับล้านบุกเข้ามา กำลังตรงมายังเขตแดนเป่ยเยี่ยนของเราพ่ะย่ะค่ะ!”คำพูดนี้เหมือนดั่งฟ้าผ่ากลางแจ้งที่ดังสนั่นเข้าหูทุกคน!“เจ้าว่ากระไรนะ?” มู่หรงเซี่ยวเทียนตกใจมาก คิดว่าตัวเองฟังผิดไปเสียด้วยซ้ำจนกระทั่งทหารคนนั้นพูดซ้ำอีกครั้ง มู่หรงเซี่ยวเทียนถึงได้แน่ใจว่าเป็นเรื่องจริง!ภายในท้องพระโรง ทุกคนรวมถึงมู่หรงเซี่ยวเทียนต่างก็เริ่มตื่นตระหนกองค์รัชทายาทมู่หรงโม่ถามทหารด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “เรื่องนี้ไม่มีเหตุผลเลย แคว้นฉีจะบุกโจมตีกะทันหันเช่นนี้ได้อย่างไร? ข่าวที่พวกเจ้าได้รับมาแน่ใจหรือว่าถูกต้อง?”ยังมิทันให้ทหารคนนั้นตอบ มู่หรงหัวก็กล่าวอย่างเย็นชาว่า “องค์รัชทายาท... ท่านทรงลืมเรื่องของหยวนหัวไปแล้วหรือพ่ะย่ะค่ะ?”มู่หรงโม่เพิ่งจะนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาได้ขุนนางระดับสูงคนหนึ่งรีบคุกเข่าลงกับพื้นทันที และกล่าวด้วยสีหน้าเศร้าราวกับจะร้องไห้ “ฝ่าบาท กองทัพทหารม้าหุ้มเกราะของแคว้นฉีนั้นแข็งแกร่งไร้คู่มือต้านทาน อีกทั้งยังมีกำลังพลน

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status