แสงแดดเจิดจ้าในยามเช้าช่างเป็นอุณหภูมิที่เหมาะแก่การเปิดภาคเรียนวันแรกของลูก คนเป็นแม่ในชุดกึ่งทางการ กางเกงยีนขาตรงสีฟ้าซีดตามแฟชั่นกับเสื้อแขนกุดสวมทับด้วยสูทไร้ปกสีเดียวกับยีนยืนกอดอกมองลูกชาย ซึ่งกำลังนั่งสวมรองเท้านักเรียนสีขาวอยู่บริเวณชานพักเท้าทางเข้าบ้าน
หน้าตาของคลาวด์สดใสและค่อนข้างตื่นเต้นกับการเข้าโรงเรียนครั้งแรกในชีวิต กางเกงขาสั้นกับเสื้อกั๊กสีกรมท่าคือยูนิฟอร์มโรงเรียนเอกชนชื่อดังใกล้บ้าน มันถูกสวมทับเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีขาวของลูกอีกที
น่ารักจนใจคนเป็นแม่เจ็บไปหมด ยิ่งแก้มแดงๆ แบบเด็กฝรั่งยิ่งทำให้คนหลงลูกอย่างเธอสุดจะต้านทาน สุดท้ายจึงเลือกหยิบโทรศัพท์ส่วนตัวสไลด์เปิดกล้องถ่ายเป็นความทรงจำเอาไว้หลายรูป
“มี้~ ไม่ถ่ายน้า~” เสียงเล็กๆ ติดงอแงเมื่อรู้ตัวว่าถูกแอบถ่ายโดยไม่ยินยอม คลาวด์ยกสองมือตนเองขึ้นมาปิดบังใบหน้าด้วยความเขินอาย ก่อนจะก้มหน้างุดจนผมเผ้าที่ถูกเซตเป็นทรงยุ่งเหยิง
ลูกชายของเธอเป็นเด็กขี้อายเมื่ออยู่ต่อหน้ากล้อง จะว่าไปก็นิสัยเหมือนกับใครบางคน
คนนั้น...
คุณแม่วัยสาวย่อตัวนั่งยองตรงหน้า คล้ายจะมันเขี้ยวความน่าหยิกแก้มมะเขือเทศของลูกไม่น้อย ชาลีเอื้อมมือไปดึงสองมือของลูกชายลงพลางแสดงสีหน้ากรุ้มกริ่มคล้ายกับกำลังแซวหนุ่มหน่อยน่ารักที่เดินผ่านตา
“อายทำไมฮึ ลูกชายหม่ามี้หล่อขนาดนี้” แซวจบก็เขี่ยแก้มกลมหนึ่งทีจนมันสั่นกระเพื่อมอย่างน่าเอ็นดู
เด็กน้อยรู้ตัวว่าถูกมารดากลั่นแกล้งก็โผเข้ามาสวมกอดเต็มรักจนร่างบอบบางเซไปด้านหลัง หากตั้งตัวได้ช้ากว่านี้คงล้มคะมำตั้งแต่เช้าทั้งแม่ทั้งลูก
“หม่ามี้หยอกเล่นพ่อหนุ่มขี้อาย”
“มี้~”
น้ำเสียงของลูกดังน้ำอีกครั้งด้วยความเขินอายจนผู้เป็นแม่หัวเราะออกมา ก่อนจะเปลี่ยนจากการกอดเป็นจูงมือน้อยเดินออกจากเขตบ้านเพื่อไปส่งเข้าโรงเรียนวันแรก ซึ่งระหว่างทางจากหน้าบ้านไปถึงปากซอยเพื่อขึ้นรถ ชาลีก็พูดคุยกับลูกไม่หยุด
“ถ้าอยู่โรงเรียนรู้สึกไม่ดีหรือไม่สบายบอกครูประจำชั้นนะคะ หม่ามี้ให้เบอร์กับครูไว้แล้ว”
“ครับ”
“มีปัญหาอะไรลูกคุยกับหม่ามี้ได้ทุกเรื่องนะ ถ้าถูกแกล้งให้มาบอกมี้ มี้จะไปตีให้” พูดจบก็ขยิบตาขี้เล่นให้หนุ่มน้อยตรงหน้าอีกทีจนลูกมุ่ยหน้า
“มี้อย่าเป็นนักเลง”
คำพูดห้ามปรามของลูกทำเอาหญิงสาวหัวเราะอีกครั้ง คลาวด์เป็นเด็กอ่อนโยน ความคิดความอ่านเกินวัย ใจดี และเรียบร้อยมาก ไม่มีเลยสักครั้งที่ลูกจะทำให้เธอรู้สึกลำบากใจ
มันคงเป็นนิสัยส่วนดีของพ่อเขาที่ติดตัวมา...
“ถ้าจัดการเรื่องร้านเรียบร้อยแล้ว หม่ามี้ถอยรถสักคันไว้รับส่งน้องคลาวด์ดีกว่า”
“มี้ประหยัด”
“หมายถึงให้มี้ประหยัดเหรอ”
“ฮื่อ~” หน้าเล็กๆ พยักขึ้นลงประกอบ
คนโดนลูกสอนจึงได้แต่พยักหน้าขึ้นลงตามคำสั่งลูกชาย อดอมยิ้มไม่ได้กับความห่วงใยให้กันและกันแม้จะเหลือสมาชิกในครอบครัวแค่สองคนแม่ลูก รู้สึกว่าคิดไม่ผิดเลยที่ตัดสินใจหอบเงินก้อนสุดท้ายออกจากบ้านหลังนั้นมาตั้งตัวในกรุงเทพ
หลังจากส่งลูกถึงหน้าห้องเรียนเรียบร้อยก็รีบนั่งรถไปตลาดใกล้เขตที่มีออฟฟิศกระจุกตัวอยู่หลายบริษัท เนื่องจากมี พนักงานออฟฟิศอยู่โซนนี้เป็นจำนวนมาก ทำให้กลายเป็นแหล่งขายอาหารและชอปปิงยอดฮิตตั้งแต่ช่วงพักเที่ยงจนถึงหลังเลิกงาน ชาลีค่อนข้างคาดหวังกับที่นี่เอาไว้มาก เพราะนอกจากค่าเช่าพื้นที่จะพอๆ กับตึกลุกซ์ซึ่งเธอสามารถจ่ายได้ ยังมีที่ว่างให้เช่าหลายจุด นั่นเท่ากับว่าโอกาสที่คนตัวเล็กจะได้ร้านย่อมมีมากขึ้นเช่นกัน
ชาลีนั่งกรอกเอกสารภายในสำนักงานของตลาด ก่อนจะยื่นให้คนดูแลตลาดรับเอาไว้
“ประกาศผลประมาณวันที่เท่าไหร่คะ” หญิงสาวเอ่ยถามหลังจากยื่นเอกสารให้เจ้าหน้าที่หญิงคนดังกล่าว
“ช่วงกลางเดือนค่ะ จะได้มีเวลาเตรียมตัวเปิดร้านในช่วงต้นเดือน”
“ดีเลยค่ะ รบกวนด้วยนะคะ”
ชาลีส่งยิ้มเป็นมิตรให้พนักงานอีกครั้งเผื่อเธอจะถูกชะตาและช่วยคุยให้อีกแรง จากนั้นจึงเดินออกจากสำนักงานมาเดินเล่นสำรวจตลาด ร้านค้าส่วนมากในตลาดนี้เป็นของกินของใช้ อยากพาลูกมาเดินที่นี่ตอนเย็นเผื่อจะได้ถามความเห็นตามประสาคนมีกันอยู่สองคน
ระหว่างเดินดูร้านขายขนมที่ลูกชอบเล็งเอาไว้ ชาลีก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้ เธอลืมขอเบอร์ติดต่อสำนักงานเอาไว้ เผื่อว่าจะได้สอบถามความคืบหน้า นึกได้ดังนั้นขาเรียวจึงหมุนตัวเดินกลับไปยังอาคารที่เพิ่งเดินออกมาทันที
เดินมาถึงหน้าประตูบานเลื่อนซึ่งติดฟิล์มทึบก็ต้องชะงัก เมื่อเห็นว่าสำนักงานในตอนนี้ปิดประตูเงียบต่างจากเมื่อสักครู่ที่เธอเพิ่งมาที่เปิดประตูกว้างต้อนรับ
มีแขกสำคัญหรือเปล่า หรือไม่อยู่...
ใบหน้าสวยยื่นหน้าไปชิดกระจกประตูพร้อมเอามือป้องบังแสงเพื่อดูด้านในว่ามีใครอยู่หรือไม่ ก่อนจะสะดุดเข้ากับพนักงานหญิงคนเมื่อกี้กำลังยื่นมือออกไปรับเงินจากเจ้าของร่างสูงโปร่งซึ่งยืนหันหลังให้คนตัวเล็กอีกที ชาลีจึงไม่มีโอกาสเห็นหน้าคร่าตาผู้ชายคนนั้น การกระทำของพนักงานหญิงดึงความสนใจให้ชาลีกลับไปมอง เธอยืนนับเงินอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงยัดมันเข้าไปในกระเป๋ากางเกงของตนเองก่อนจะหยิบกระดาษบนโต๊ะส่งให้อีกฝ่าย
จ่ายค่าเช่าเหรอ? ที่นี่จ่ายเงินสดเป็นหมื่นได้ด้วยเหรอ?
ชาลีได้แต่ยืนสับสนอยู่ตรงนั้น กระทั่งอีกฝ่ายหมุนตัวเดินออกมาเธอจึงเห็นใบหน้านั้นเต็มสองตา จำได้อย่างแม่นยำว่าเขาเป็นคนเดียวกับคนที่เปิดประตูลงจากรถมาดูลูกชายตอนที่ลูกวิ่งตัดหน้ารถ
นั่นเท่ากับว่า...
ครืดดด~
ประตูบานเลื่อนถูกเปิดออก จากนั้นเจ้าของใบหน้าฉบับชาวยุโรปก็ต้องชะงัก เมื่อเห็นว่าเป้าหมายของเจ้านายยืนกอดอกจังก้าอยู่ตรงหน้าด้วยสีหน้าไม่พอใจรุนแรง
“กระดาษในมือคุณคงเป็นเอกสารของฉัน” หญิงสาวเอ่ยขึ้นด้วยภาษาฝรั่งเศสที่ไม่ได้ใช้มาหลายปี
เชร์ เชสนีย์ขยับมือซ่อนมันไว้ด้านหลัง ลอบถอนหายใจออกมาเมื่อรับรู้ว่าตนเองพลาดอย่างรุนแรงจนถูกจับได้ ดวงตาคมแสร้งมองไปทางอื่นไม่เห็นหน้าเล็กๆ ที่กำลังจ้องเขาราวจะกินเลือดกินเนื้อ
“พี่ลุกซ์สั่งให้ทำสินะคะ” สรรพนามที่ฟังดูสนิทสนมกับผู้เป็นนายออกจากปากชาลีด้วยความลืมตัว จนคนที่ได้ฟังก็อดขมวดคิ้วไม่ได้ “ที่ฉันหาร้านใหม่ไม่ได้สักที่ ก็คงเพราะคุณทำแบบเดียวกัน”
จ่ายเงินแลกกับเอกสารแล้วเอาไปทำลายทิ้ง หรือไม่ก็จ่ายเงินเพื่อให้เจ้าของพื้นที่ปฏิเสธเธอ
“ผมขอตัวครับ”
อีกฝ่ายสวมรองเท้าและเดินเลี่ยงไปยังลานจอดรถหน้าตาเฉย หญิงสาวเองก็ไม่ยอมปล่อยผ่าน ออกตัวเดินตามร่างสูงโปร่งอย่างไม่ลดละ
“ฉันต้องการคุยกับเจ้านายคุณอีกครั้งค่ะ”
คำพูดน่าสนใจทำให้บอดีการ์ดหนุ่มหันกลับมามองคนที่เดินตามมาด้านหลัง ประเมินจากรูปลักษณ์ภายนอกก็พอเดาออกว่าทำไมเจ้านายของตนเองถึงเป็นบ้าเป็นหลังกับผู้หญิงคนนี้ได้ ถึงแม้ชาลีจะมีรูปร่างผอมบางตัวเล็กต่างจากบรรดานางแบบที่ผ่านตาเจ้านายของตนเองมา แต่ด้วยความรู้สึกบางอย่างมันทำให้ผู้ชายหลายคนที่ได้เห็นหน้าเธอต้องหยุดมองใบหน้านั้นซ้ำอีกหลายหน อาจเพราะผิวที่เนียนละเอียดแม้จะออกไปทางโทนขาวเหลืองสไตล์เอเชีย หรือแพขนตางามที่เวลากะพริบขยับเสริมให้ดวงตากลมโตสีน้ำตาลอ่อนนั้นโดดเด่นน่าค้นหาขึ้นมา
ปฏิเสธไม่ได้ว่าลูเซีย กรอสเวอเนอร์เป็นผู้ชายที่รสนิยมดีทั้งเรื่องแอลกอฮอล์และผู้หญิง
“ว่ายังไงคะ คุณจะพาฉันไปตอนนี้เดี๋ยวนี้ได้ไหม” เสียงหวานเอ่ยถามอีกครั้งเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายนิ่งไป
ซึ่งเสียงนั้นได้เรียกสติเจ้าของร่างสูงให้กลับเข้าร่าง เชร์ถึงกลับส่ายหัวให้ตนเอง เมื่อกี้เขาเผลอตัวมองอีกฝ่ายนานแค่ไหน...สามสิบวิ...สี่สิบวิ...หรือหนึ่งนาที
บอดีการ์ดหนุ่มกระแอมเบาๆ สองสามครั้ง ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ส่วนตัวติดต่อหาเจ้านาย จากนั้นจึงหันมาให้คำตอบคนที่ยืนกลางแดดรอฟังคำตอบด้วยกัน
แก้มแดงหมดแล้ว...
“เชิญครับ นายอนุญาตแล้ว”
»»-------✧-------««