แชร์

บทที่ 7

ผู้เขียน: นัวร์เนีย
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-12-05 15:19:46

เจ้าของร่างบอบบางก้าวเท้าลงจากรถยุโรปคันหรู เดินตามบอดีการ์ดตัวโตเข้าไปภายในลิฟต์โดยสารส่วนตัวของลุกซ์ ลิมิเต็ดด้วยความประหม่าเล็กน้อย ดวงตากลมโตมองตามเรียวนิ้วของเชร์กดปุ่มชั้นบนสุดจากนั้นก็ยืนอยู่ตรงหน้าเธออย่างสงบนิ่ง

“เอ่อ...”

เพียงแค่วลีเดียวที่เอ่ยขึ้นมา ก็ทำให้อีกคนที่ยืนทำหน้าขรึมหันมามอง หากแต่ไม่ได้เอ่ยอะไรตอบกลับมา

“คุณ...”

“เชร์ เชสนีย์ครับ”

“ค่ะ คุณเชร์ทำงานกับพี่...คุณลูเซียมานานแค่ไหนแล้วคะ” ชาลีพยายามท่องคำพูดของอดีตคนรักให้ขึ้นใจ

อย่าตีสนิทเพราะเขาไม่อยากสนิทด้วย เมื่อกี้ที่เผลอเรียกพี่เพราะตกใจ ไม่นับ...

“สามปีครับ”

“อะ อ้อ ทำงานกับเขาเหนื่อยไหมคะ” เพราะไม่รู้จะคุยเรื่องอะไรเพื่อคลายความอึดอัด ชาลีจะชวนบอดีการ์ดหนุ่มพูดคุยสัพเพเหระไปเรื่อย

“ไม่ครับ”

“เขาดูเข้มงวดขึ้นมาก”

“นายเป็นแบบนี้ตั้งแต่ผมมาทำงานครับ”

คำตอบของอีกฝ่ายทำเอาหญิงสาวก้มหน้างุด

“ที่เขากลายเป็นแบบนี้ เพราะฉันหรือเปล่าคะ” เพราะลูเซียเมื่อก่อนใจดีและใจเย็นกว่านี้มาก

ติ๊ง!

เสียงลิฟต์ดังขึ้นเมื่อมาจอดบนชั้นที่หมายเรียบร้อย การสนทนาระหว่างทั้งสองจึงจำต้องหยุดลงเพียงแค่นั้น

“ผมว่าคุณชาลีถามกับเจ้านายเองดีกว่าครับ” เชร์ตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ จากนั้นจึงก้าวเท้านำคนตัวเล็กไปยังหน้าห้องสุดทางเดิน บอดีการ์ดหนุ่มสแกนนิ้วเปิดประตูผายมือให้ชาลีเดินเข้าไปด้านใน

ปัง!

ทันทีที่เปิดประตูให้หญิงสาวเข้าไปในห้อง ชายหนุ่มก็ดึงมันปิดจากด้านนอกทันทีจนคนตัวเล็กสะดุ้งโหยงตกใจ ในห้องนี้มืดสลัวจนมองไม่แทนไม่เห็นทางเดิน บรรยากาศในเวลากลางวันไม่ได้ให้ความรู้สึกแตกต่างจากตอนกลางคืนแม้แต่น้อย

แกร๊กๆ แกร๊กๆ

ชาลีหันไปหมุนลูกบิดเช็กอีกรอบแล้วก็ต้องรับรู้ว่ามันถูกล็อกจากข้างนอกอย่างที่ใจเดาเอาไว้ จะออกไปก็ทำไม่ได้ จะเดินเข้าไปก็กลัวว่าคนในห้องจะพลั้งมือฆ่าเธอตายเสียก่อน

แต่คนไม่มีทางเลือกอย่างเธอไม่มีสิทธิ์ลังเลนาน

สุดท้ายจำต้องสูดอากาศเอาความกล้าเข้าปอด ค่อยๆ ตะล่อมเดินตรงเข้าไปด้านใน กวาดสายตาสังเกตทางหนีทีไล่ก็เห็นว่าประตูภายในห้องทุกบานถูกปิดหมด คล้ายกับกำลังบังคับให้หญิงสาวเดินเข้าไปตามทางที่ถูกกำหนดเอาไว้ กระทั่งจมูกค่อยๆ ได้กลิ่นบุหรี่ลอยคละคลุ้งบนอากาศ มันหอมและฉุนให้ความรู้สึกแปลกในเวลาเดียวกัน กลิ่นนี้คล้ายกับบนสะพานนั้น ที่หญิงสาวมักจะได้กลิ่นเมื่อลมทางใต้พัดโชยเข้าหาตัว

กลิ่นของร้านดอกไม้ริมทางข้างสะพานปงต์เดซาร์ ร้านของหญิงชราที่ชอบเอาดอกลาเวนเดอร์มาขายทีละหลายสิบกิโล ทั้งคู่มักจะไปที่นั่นบ่อยๆ เวลาที่ต้องการดอกไม้มาประดับห้องพัก

‘พี่ชอบกลิ่นมันไหม เอาไปทำดอกไม้แห้งให้ห้องของเรา’

‘พี่ชอบทุกอย่างที่ที่รักทำให้’

‘ฉันกลัวว่ากลิ่นมันจะรบกวนเวลาพี่ทำงาน’

‘อะไรที่เป็นความสุขของที่รัก พี่ชอบหมด’

‘พี่น่ารักจัง ฉันรักพี่นะ’

‘รักพี่...คืนนี้อยู่กับพี่นะ’

“ยืนเหม่ออะไร?”

เฮือก!!

น้ำเสียงเย็นชาจากคนที่นั่งรออยู่ด้านในทำให้คนที่เผลอนึกถึงเรื่องราวในอดีตสะดุ้งสุดตัว ใบหน้าสวยหวานกะพริบตาสลัดอารมณ์ที่เข้ามาเกาะกุมหัวใจอีกครั้งออกจนหมด ก่อนจะขยับเท้าเข้าไปยืนเผชิญหน้ากับมาเฟียทรงอิทธิพล

“อยากคุยอะไรกับฉัน?”

คนที่นั่งไขว่ห้างบนโซฟากำมะหยี่สีดำเท้าศอกกับพนักพิงถาม ก่อนจะขยับข้อมือหันเอาบุหรี่ที่ถืออยู่อัดควันเข้าปอด ไอควันพิษสีขาวที่พ่นออกมาทางปากและจมูกกระทบกับคนไม่เคยใช้มันจนไอสำลักออกมา

“คะ แคกๆ ฮื่อ~! คุณไม่ทำแบบนี้ได้ไหมคะ” ชาลียกสองมือขึ้นปิดจมูก ดวงตาหลุบมองดูก้นบุหรี่จำนวนมากที่ฝังอยู่บนที่เขี่ยบุหรี่ด้วยความไม่ชอบใจ “หยุดสูบก่อนได้ไหม จะสูบให้ตายเลยหรือไง”

มาเฟียหนุ่มแค่นหัวเราะกับคำพูดนั้น หยัดกายลุกขึ้นก่อนจะพุ่งตัวเข้าหาร่างบอบบางและยกมือดันหัวไหล่มนจนกระแทกชนเข้ากับผนังด้านหลังอย่างรุนแรง

ปึก!

“โอ๊ย! พะ พี่” ความเจ็บทำให้เธอลืมตัว กว่าจะตั้งสติได้ก็ถูกมือหยาบของอีกฝ่ายบีบคางให้เชิดหน้าขึ้นสบตากับใบหน้าหล่อเหลา ซึ่งกำลังอัดควันเข้าไปในปอดอีกครั้งต่อหน้าต่อตา “ขะ ขอโทษ อื้อ!”

รสจูบขมปร่าบดเบียดเข้าปะทะริมฝีปากอวบอิ่มอย่างไม่ทันตั้งตัว พร้อมกับควันมหาศาลถูกปล่อยเข้าไปในลำคอของคนตัวเล็กอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง กลิ่นของมันมอมเมาสติของชาลีรุนแรงแสบร้อนจนเสียการควบคุมร่างกาย ชาลีไม่รู้สึกถึงความร้อนจากบุหรี่ราคาแพงที่คนตัวสูงทิ้งมันลงพื้นจนตนเองเผลอเหยียบมันจนมอดดับด้วยซ้ำ เธอเอาแต่หลับตารองรับอารมณ์โกรธที่ฝังในใจของอีกฝ่าย ไม่ว่าลูเซียจะบดจะเม้มจะกัดอย่างไร ริมฝีปากอวบอิ่มก็เต็มใจรับความรู้สึกนั้นเอาไว้

กระทั่งเจ้าของร่างกายกำยำสัมผัสถึงเรียวนิ้วเล็กที่แตะลงบนแผ่นหลังกว้างของตนเอง...

ผลั่ก!!

แขนแกร่งจึงจับเธอเหวี่ยงลงบนโซฟากว้างทันทีราวกับต้องการหยุดการกระทำที่อาจกู่ไม่กลับนั่น

ซึ่งชาลีเองก็เห็นด้วยและยกมือจัดชายเสื้อที่ถูกอีกฝ่ายเลิกขึ้นโดยไม่รู้ตัวให้เข้าที่เข้าทาง

“พูดธุระเธอมา” น้ำเสียงของลูเซียกลับมาเรียบเฉยอีกครั้ง ทว่าเขายังคงยืนพิงผนังอยู่ตรงนั้นมองตรงมา ไม่ได้ขยับไปไหน

“ฉะ ฉันมาขอความเห็นใจ มันอาจจะฟังดูมักง่ายนะ แต่เราไม่แก้แค้นกันด้วยวิธีนี้ได้ไหม...ลูกฉันต้องเรียนหนังสือ” หญิงสาวคิดว่าอย่างน้อยคนอย่างอดีตแฟนเธอที่มีจิตใจดีคงจะฉุกคิดเรื่องเด็กที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวขึ้นมาบ้าง

ทว่าเธอคิดผิด เพราะนอกจากเขาจะไม่เห็นใจ การพูดถึงลูกยังเป็นสิ่งต้องห้ามที่ชาลีคิดไม่ถึง

มือขวาที่เคยบีบคางให้รับจูบพุ่งเข้ามาคว้าคอสวยอีกครั้ง คราวนี้เขากดเธอลงจนนอนราบกับเบาะ ยกเข่าอีกข้างคร่อมร่างบางเอาไว้ด้วยความดุดันโกรธเกรี้ยว จนดวงตากลมสะท้านด้วยความตกใจหวาดกลัว

“กล้าเอาลูกตัวเองกับผัวใหม่มาขอความเห็นใจฉันเหรอ?”

ผัวใหม่? คนถูกกดอยู่เงยหน้าสบตาอดีตคนรักด้วยความตกใจ

“พะ พี่ตามสืบเรื่องฉันเหรอ” ความกลัวเข้ามาปะปนกับความตกใจ ตอนนี้ชาลีกังวลไปหมดว่าอีกฝ่ายสืบเรื่องเธอขนาดไหน

“อย่าสำคัญตัวเองผิด! ผู้หญิงที่ทิ้งผัวเก่า แล้วไปนอนให้ผัวใหม่เอาจนท้องไม่ได้ทำให้ฉันสนใจเลยสักนิด” มือที่บีบคอขาวออกแรงหนักหน่วงขึ้น เมื่อความทรงจำในอดีตที่ตนเองไปเฝ้ารอเธอบนสะพานแห่งนั้นหลายวันหลายคืนฉายเข้ามา “ฉันก็แค่อยากรู้ว่าผู้หญิงอย่างเธอมันสารเลวได้ขนาดไหน ที่ทิ้งฉันให้ตายอยู่ตรงนั้นแล้วกลับมามีความสุขอยู่ที่นี่จนได้เด็กมาหนึ่งคน”

น้ำเสียงที่เปล่งออกมาจากริมฝีปากหนาไม่มีคำว่าปรานี อะไรที่เขานึกออกว่าจะใช้เป็นคำพูดทำร้ายเธอได้ตอนนี้เขาพูดทั้งหมด จนคนที่กำลังถูกบีบคออยู่น้ำตาคลอจุกเจ็บ

“ร้องไห้ทำไม! น้ำตาของเธอตอนนี้มันเท่ากับความเสียใจของฉันวันนั้นไหม!?”

“พะ พี่ อึก! ฉันไม่ได้มีความสุขเลยที่ทำแบบนั้น”

“แล้ววันนั้นเป็นเหี้ยอะไรถึงทำแบบนั้น!!” เขาตะโกนใส่หน้าอย่างเหลืออดจนคนตัวเล็กหลับตานิ่ง น้ำตาใสๆ ไหลออกมาจากดวงตาคู่ตามด้วยเสียงสะอื้น

แต่แทนที่ลูเซียจะเห็นใจ มือสากกลับออกแรงบีบคอเล็กของอดีตคนรักแรงขึ้นจนใบหน้าของชาลีแดงก่ำ ต้องรีบยกมือกำข้อมือหนาเอาไว้แน่น

เขาในตอนนี้ฆ่าเธอได้แน่ๆ ลูเซียในตอนนี้ผิดกับคนรักของเธอเมื่อหกปีก่อนลิบลับ

“อึก! พะ พี่เองก็มีความสุขดีไม่ใช่เหรอ ฮึก! ตอนนี้พี่ขึ้นมาเป็นผู้บริหารตามที่ครอบครัวพี่หวังไว้ได้แล้วนี่ ให้เรื่องของเรามันจบแบบนี้ไม่ได้เหรอ” ใบหน้าเล็กๆ นั้นมองสีหน้าเจ็บปวดของอีกฝ่ายด้วยความเจ็บปวดไม่แพ้กัน “หรือพี่ต้องฆ่าฉันให้ตายถึงจะสาแก่ใจพี่”

มาเฟียหนุ่มแค่นหัวเราะผ่านความมืดกับน้ำเสียงตัดพ้อนั้น ใช้แรงดึงกระชากคอของอดีตแฟนสาวขึ้นมา ก่อนจะดันมันกลับไปกระแทกเบาะนุ่มอีกทั้งเสียงดัง ‘ปึก!’

“อ๊ะ อื้อ! จะ เจ็บ!”

“เจ็บได้เท่าฉันหรือเปล่า! คนอย่างเธอแค่นี้มันไม่ตายหรอก” ลูเซียตะโกนใส่เสียงดังอย่างต้องการให้คนตรงหน้ารับรู้ว่าเธอสร้างรอยแผลทิ้งเอาไว้ให้ตนเองรุนแรงขนาดไหน

ยิ่งกว่าความตายด้วยซ้ำที่เขาเคยผ่านมา...

“แต่ถ้าพี่ยังบีบคอฉันอยู่แบบนี้ฉันตายแน่!!”

“เมื่อก่อนตอนโดนฉันเอาก็ชอบให้บีบคอ ไม่ยักจะตาย” ใบหน้าหล่อเหลาโน้มลงมากระซิบตรงหน้าพร้อมกับแววตาคุกรุ่นที่ทวีความรุนแรงขึ้น “หรือพอไม่โดนเอาไปด้วยมันจะตาย?”

“พี่!!”

“รับไม่ได้? หึ! ผัวเก่าพูดเรื่องเสียวๆ ในอดีตที่เคยทำด้วยกันมันแสลงหูนักเหรอ หรือคำพูดฉันมันไปจุดไฟร่านในตัวเธอให้ลุกขึ้นมาอีก!!”

“หยาบคาย! ฉันมาคุยดีๆ ด้วยนะ” แม้จะรู้ตัวว่าอดีตคนรักกำลังเข้าใจผิด แต่ก็เลือกที่จะเก็บความจริงเอาไว้

ให้ใครรู้เรื่องนั้นไม่ได้ ถ้าเขาจะมองว่าใครผิด...ก็ให้เป็นเธอคนเดียวก็พอ

“คนอย่างเธออย่าตายให้เป็นภาระนรกเลย มีชีวิตอยู่ให้ฉันทรมานไปแบบนี้เนี่ยแหละ!”

ถ้อยคำดูถูกดูแคลนยังคงออกจากคนตัวโตไม่หยุด และไม่มีทีท่าว่าลูเซียจะรู้สึกผิดในสิ่งที่พูดออกมาด้วยซ้ำ เมื่อดุด่าจนสาแก่ใจเจ้าของมือใหญ่จึงปล่อยให้คอเล็กของเธอเป็นอิสระ แต่ยังไม่ลุกออกจาการคร่อมทับเรือนร่างเล็กเอาไว้

ชาลียกมือจับคอตนเองพร้อมกระแอมไอสูดอากาศเข้าปอดเฮือกใหญ่ในเวลาเดียวกัน คนตัวเล็กยกมือปาดน้ำตาทิ้งไม่แสดงความรู้สึกให้เขาเห็นไปมากกว่านี้

เอาเลย เธอรับได้ เคยเจ็บมาแล้วรอบหนึ่ง เจ็บอีกรอบก็คงไม่ตายอย่างเขาว่าจริงๆ

“ขอร้องล่ะพี่ ฉันมาคุยเรื่องร้านนะ พี่ทำแบบนี้มันทำฉันเครียดมากเลย”

มือเรียวยกฝ่ามือดันแผงอกแกร่งให้ขยับออกเพื่อให้ตนเองได้มีโอกาสลุกขึ้นนั่งบ้าง แต่ลูเซียกลับจับมือหญิงสาวเอาไว้แน่น ตอนนี้เขาดูสนุกกับการกลั่นแกล้งให้เธอเสียใจจนซ่อนสีหน้าสะใจของตนเองในความมืดไม่ไหว

“ลองเอากันแล้วคุยไปด้วยดีไหม เมื่อก่อนชอบอ้อนฉันตอนเอากันนี่” ถ้อยคำหยาบโลนพ่นออกมาจากปากคนตัวโตเต็มสูบ กระทั่งคนฟังเองยังต้องส่ายหน้าเอือม

“ขอร้อง...” ชาลีหมดแรงจะเถียงด้วย จึงทิ้งตัวลงนอนอย่างยอมแพ้

ลูเซียถึงได้พอใจที่เอาชนะแฟนเก่าได้ ร่างสูงหยัดกายลุกจาการคร่อมทับร่างบาง คว้าเอกสารสัญญาเช่าพื้นที่ในอาคารตนเองปาใส่ร่างหญิงสาวเสียงดัง ‘ปึก!’

“พรุ่งนี้เข้ามาทำสัญญาที่ตึก อย่าคิดหนีฉันอีก ไม่งั้นคนแรกที่ฉันจะไปหาคือลูกของเธอ”

การเอ่ยถึงลูกชายสร้างความกลัวในใจชาลีได้ผลเกินคาด มาเฟียหนุ่มเห็นหน้าเล็กซีดเผือดทันทีแม้แสงภายในห้องจะมืดสลัว เดาในใจคงรักลูกทูนหัวผัวใหม่มาก กดมือถือไม่นานนัก เชร์ก็เปิดประตูเข้ามาพาตัวคนตัวเล็กออกไปจากห้องโดยไม่เปิดโอกาสให้ชาลีพูดหรือถามอะไรอีก

คนที่เหลืออยู่ในห้องทิ้งตัวลงบนโซฟา ทั้งที่เพิ่งได้กลั่นแกล้งจนเธอกลัวหัวหด แต่กลับไม่รู้สึกถูกเติมเต็มความรู้สึกที่เสียไปแม้แต่น้อย

»»-------✧-------««
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • อดีตรักร้ายของคุณชายมาเฟีย   บทที่ 97

    “ปั้นขอโทษแทนลูกด้วยนะคะ ไม่รู้จะสอนยังไงแล้ว” กระทั่งผู้เป็นแม่ยังยอมแพ้ “ไม่เลยค่ะ น้องไข่หวานฉลาดและน่ารักมาก ฉันยังอยากมีลูกแบบนี้เพิ่มอีกสักคน” เธออยากมีลูกสาว แม้ลูกชายตัวน้อยจะเป็นละมุนบอยและอ่อนหวานสำหรับหม่ามี้อย่างชาลีขนาดไหน แต่การมีลูกสาวไว้คอยจับแต่งตัวเป็นอีกหนึ่งความฝัน “อยากมีล

  • อดีตรักร้ายของคุณชายมาเฟีย   บทที่ 96

    กว่าจะหาทางไล่กลับบ้านไปได้แต่ละคน ลูเซียต้องนั่งกอดอกจิ๊ปากแล้วจิ๊ปากอีก คนแรกก็พ่อกับแม่ที่เห่อหลาน “พ่อกับแม่กลับไปนอนได้แล้ว” “แม่ยังตาใสปิ๊งอยู่เลย สี่ทุ่มเมืองไทยเท่ากับห้าโมงเย็นฝรั่งเศส แม่อยู่เล่นกับหลานได้จนถึงตีสองตีสามแหนะ” มิเชลละสายตาจากการมองโนเอลวิ่งตามรถของหลานชายต้อยๆ มาตอบ

  • อดีตรักร้ายของคุณชายมาเฟีย   บทที่ 95

    พวงกุญแจเครื่องบินไม่ได้หายาก มันถูกวางไว้บนเบาะบริเวณที่ลูกนั่งริมกระจก ชาลีเข้าใจว่าคลาวด์อาจจะเล่นแล้วเผลอวางและลืมเอง ติ๊ง! ลิฟต์โดยสารเปิดออกบนห้องพักชั้นบนสุด เมื่อบอดีการ์ดทำหน้าที่อารักขาหน้าห้องเปิดประตูให้เข้าไปข้างในคนตัวเล็กก็ชะงักกับความผิดปกติภายในห้องพัก นอกจากไฟทุกดวงจะถูกปิด แ

  • อดีตรักร้ายของคุณชายมาเฟีย   บทที่ 94

    การเดินทางมาที่วัดใช้เวลานานพอสมควร แต่เมื่อถามถึงเหตุผลว่าทำไมต้องเป็นวัดริมแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งนี้ ลูเซียกลับตอบสั้นๆ ว่าเพื่อนของเขาแนะนำ เพราะเป็นวัดที่ครอบครัวฝ่ายแม่ยายของเซนอุปถัมภ์ เมื่อก้าวเท้าลงจากรถยนต์พร้อมกับลูกชาย สายตาของลูกก็เอาแต่มองไปยังชุมชนฝั่งตรงข้ามวัดด้วยความสนใจ จนผู้เป็นพ่อ

  • อดีตรักร้ายของคุณชายมาเฟีย   บทที่ 93

    ‘มันไม่ใช่หลานกู!! ลูกมึง มึงก็เลี้ยงเอง!!’ เสียงของนิ่มผู้เป็นแม่แท้ๆ เอ่ยขึ้นก่อนจะสะบัดหน้าเดินหนีออกจากบ้านไปบ่อนท้ายหมู่บ้าน แต่ยังไม่ทันจะได้วิ่งไปคว้าลูกที่ถูกยายผลักล้มหน้าคะมำขึ้นจากพื้น เสียงของพงศ์ก็ตะโกนเรียกมาจากหน้าบ้าน ‘ชาลี!! เอาเงินมาให้กูซื้อข้าว กูหิวข้าว’ พงศ์ส่งเสียงดังพร้อม

  • อดีตรักร้ายของคุณชายมาเฟีย   บทที่ 92

    เงียบ... ไม่มีใครตอบเธอได้สักคน หรือการโกรธเกลียดใครสักคนมันไม่ต้องมีเหตุผลรองรับ “ต่อไปอย่ามายุ่งกับพวกเราอีก วันนี้พ่อกับแม่คงเห็นแล้วว่าพ่อน้องคลาวด์ทำอะไรได้บ้าง” ไม่อยากจะขู่บุพการีไปมากกว่านี้ เพราะตายไปก็ไม่ได้อยากกลายเป็นเปรต “เผื่อพ่อแม่จำไม่ได้ ตั้งแต่ฉันเกิดมาพ่อกับแม่ก็ทิ้งฉันให้ยายเ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status