Share

ตอนที่ 23 : (っ˘з(˘⌣˘)18+ (1)

last update Last Updated: 2025-03-16 15:01:20

ภายในห้องอาหารได้จัดปาร์ตี้เล็กๆ ขึ้น ทั้งห้องครึกครื้นไปด้วยเสียงดนตรีที่สนุกสนาน คนที่เริงร่าที่สุดหนีไม่พ้นสาวน้อยยาร่า นอกจากเธอและน้องชาย จะได้ใช้เวลาแห่งความสุขร่วมกันกับบิดาแล้ว ยังมีสมาชิกใหม่ที่ถูกใจเพิ่มขึ้นมาด้วยอีก

เมื่อเพลงพื้นเมืองที่ใช้สำหรับงานเฉลิมฉลองเริ่มดังขึ้น ยาร่าก็เคี่ยวเข็ญให้ทุกคนลุกออกมาเต้นรำ ท่าที่ใช้ประกอบก็ไม่ได้ยาก สามารถเต้นตามกันไปได้โดยง่าย ฮาน่าเองก็เข็นรถให้องค์ชายน้อย เดินวนตามไปรอบวงด้วยเช่นกัน 

เด็กชายมีสีหน้าตื่นเต้นยินดี นัยน์ตากลมเล็กมีประกายแวววาวขึ้นเล็กน้อย แต่ริมฝีปากยังคงหุบสนิท ไม่ยิ้มและไม่พูดกับใครเช่นเคย 

ท่ามกลางแสงสลัวจากแชนเดอเลียร์ ผู้พันอิฟราอิมพยายามดึงมือให้พริมโรสลุกขึ้นเต้นรำอีก แต่เธอเริ่มรู้สึกเหนื่อยจากการที่เต้นติดกันไปแล้วสามเพลงจึงปฏิเสธ ฝืนร่างไว้ไม่ให้ไปตามแรงดึงของเขา ไม่ว่าจะพยายามออดอ้อนเท่าไหร่ เธอก็ยังยืนกรานคำเดิม เลยกลายเป็นโต้เถียงกันไปมาเบาๆ โดยลืมสนใจสิ่งรอบตัวไปเสียสนิท

คามิลล่านั่งจิบไวน์อย่างเงียบๆ ขณะที่ช้อนสายตาขึ้นมองดูบุรุษผู้สูงศักดิ์ที่อยู่ข้างๆ ถึงแม้เธอพยายามจะชวนคุย แต่เขาก็ตอบมาเพียงสั้นๆ คล้ายว่าไม่ได้ให้ความสนใจ แต่เธอกลับชื่นชอบท่าทางสุขุมเย่อหยิ่ง และดูสูงส่งอยู่เหนือผู้คนเช่นนี้ของเขายิ่งนัก และอยากจะครอบครอง ความหยิ่งยโสนี้มาเป็นของตัวเองเหลือเกิน 

บางทีความเย็นชานี้อาจเป็นเพียงเปลือกนอก ที่ห่อหุ้มบุรุษที่เร่าร้อนดุจเปลวไฟเอาไว้ภายใน โดยใช้ความหยิ่งยโสเป็นเครื่องมือ ในการควบคุมกดขี่ผู้คนให้ยอมสยบอยู่ใต้ร่างก็เป็นได้ 

เมื่อคิดถึงตรงนี้ แก้มนวลเนียนก็แดงซ่านขึ้น หัวใจอ่อนยวบ รู้สึกวาบหวิวไปกับจินตนาการของตัวเอง ความกระหายใคร่อยากจะเป็นผู้พิชิตร่างกายและหัวใจของบุรุษผู้นี้ ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเป็นเท่าทวีคูณ

ฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ทำให้เธอยิ่งใจกล้า คิดที่จะเรียกร้องความสนใจจากเขา จึงขยับเก้าอี้มานั่งข้างๆ ยื่นมือขาวเนียนข้างหนึ่ง แตะที่ข้อศอกแล้วคล้องเอาไว้หลวมๆ ขยับเอนกายเข้ามาซบต้นแขนอบอุ่น ใบหน้าเงยแหงนช้อนสายตาขึ้นมองอย่างอ่อนหวาน

เขาหันมามองตรงที่ถูกสัมผัส มุมปากยกยิ้มขึ้นเล็กน้อยในทีแรก จากนั้นเงยหน้าขึ้นมองสบตา แล้วเผยรอยยิ้มอบอุ่นออกมาให้เห็น รอยยิ้มของเขาเช่นนี้ ทำให้คามิลล่าตะลึงงันไปครู่หนึ่ง เพราะนั่นเป็นรอยยิ้ม ที่สามารถทำให้ผู้หญิงทั้งโลกหลงใหล และพร้อมจะยอมทำตามใจทุกอย่าง 

 แต่แล้วเขาก็ใช้สายตาที่ลึกล้ำน่าหลงใหลนั้น มองตรงไปยังทิศทางเดิม ความสนใจทั้งหมดของเขาอยู่ที่ตรงนั้น ไม่ได้อยู่ที่เธอมาตั้งแต่แรก คามิลล่าอึ้งไปชั่วขณะ จากนั้นก็ขยับนั่งตัวตรง เพื่อปกปิดความอับอายของตัวเอง

เธอมองตามสายตาของเขาไป รู้สึกริษยาและไม่อยากเห็นใบหน้าที่งามเยือกเย็นแบบนั้นอีกต่อไปแล้ว และไม่อยากจะยอมรับด้วยว่า ผู้หญิงที่เน่าเหม็นคนนี้ มีความงดงามที่สะกดตาสะกดใจผู้คนได้อย่างแท้จริง

ขณะที่ผู้พันอิฟราอิมลุกเดินออกไปนอกห้อง เนื่องจากมีคนมาตามให้ไปรับโทรศัพท์ พริมโรสก็รู้สึกได้ว่ามีความกดอากาศบางอย่าง กดดันอยู่โดยรอบทั้งลบและบวก เธอเงยหน้าขึ้นมองแต่แล้วก็ต้องสะดุ้งในใจ ไม่ผิดไปจากที่ผู้พันได้เคยพูด นัยน์ตาสีดำล้ำลึกคู่นั้น กำลังเปิดเปลือยอารมณ์และความรู้สึกออกมาให้เห็น ซึ่งตรงกันข้ามจากแววตาของอีกคน ที่นั่งอยู่ข้างๆ กันนั้นอย่างสิ้นเชิง

พริมโรสลอบถอนใจ เธอรู้สึกอึดอัดขัดเขินเมื่อถูกนัยน์ตาคมกริบคู่นั้นจับจ้อง จึงหันไปหยิบมือถือขึ้นมาสไลด์เล่นเพื่อกลบเกลื่อน ชั่วขณะหนึ่งพลันนึกได้ว่า กำลังต้องการจะค้นหาอะไรบางอย่างในอินเทอร์เน็ตอยู่พอดี จึงหมดความสนใจในสิ่งรอบข้างไปโดยปริยาย

แต่ผีก็คือผี ถึงแม้ไม่อยากจะยุ่ง แต่ผีมันก็ไม่เคยละเว้นผู้ใด ไม่นานนักก็เห็นคามิลล่าถือแก้วไวน์สองแก้ว เดินนวยนาดเข้ามาใกล้ แล้วนั่งลงที่เก้าอี้ข้างตัวด้วยท่าทีแช่มช้อยงดงามเช่นเคย หลังจากนั้นก็ส่งไวน์ในมือมาให้เธอแก้วหนึ่ง ชูแก้วของตัวเองขึ้นในเชิงเชิญชวน แล้วยื่นแก้วในมือมากระทบกับแก้วที่พริมโรสถือค้างไว้ 

“ทำไม? ไม่กล้าดื่มเหรอ? กลัวฉันวางยาพิษหรือไง?” เสียงหัวเราะอย่างมีจริตงดงามชวนให้คนหลงใหลดังขึ้นเล็กน้อย แม้แต่ผู้หญิงเหมือนกัน ได้ยินแล้วก็ยังอดเคลิบเคลิ้มไม่ได้

พริมโรสยักไหล่ เธอไม่ได้กลัวยาพิษ เพียงแต่ตั้งใจไว้ว่าจะไม่ดื่มแอลกอฮอล์ แต่สำหรับแก้วนี้ ถึงเธอจะไม่ชื่นชอบยัยผีแต่ก็คงหลีกเลี่ยงมารยาททางสังคมไม่ได้ 

พริมโรสดื่มไวน์จนหมดแก้ว แล้วดื่มกรานมอลต์ปิดท้าย จากนั้นก็ลุกขึ้นเดินไปนั่งข้างๆ ยาร่าที่กำลังร้องเพลงคาราโอเกะอย่างสนุกสนาน เธอถือว่าให้เกียรติแล้ว ไม่จำเป็นต้องแบกความสุภาพไว้ตลอดทั้งคืนอีก เป็นการตัดการสนทนาไปโดยสิ้นเชิง  

พริมโรสรู้สึกกระหายน้ำตลอดเวลา จึงดื่มน้ำผลไม้หมักไปหลายแก้ว สักพักก็รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวจนร้อนวูบวาบไปตามผิว เธอคิดว่าอาจจะเป็นอาการแพ้น้ำผลไม้สกัด ชนิดใดชนิดหนึ่งในส่วนผสมนั้นจึงขอตัวกลับห้อง เพื่อจะได้ตรวจดูให้แน่ชัดว่ามีผื่นหรืออาการอื่นๆ ที่ร้ายแรงร่วมด้วยอีกหรือเปล่า

หญิงสาวถอดเสื้อผ้าแล้วมายืนดูที่หน้ากระจก หมุนสำรวจไปรอบตัว แต่ก็ไม่พบร่องรอยของอาการผื่นแพ้ใดๆ ราวกับความร้อนวูบวาบตามผิวที่เกิดขึ้นนี้มีสาเหตุมาจากภายใน และกำลังเพิ่มระดับความรุนแรงขึ้นทุกที

เธอรีบเดินเข้าไปในห้องน้ำ เปิดก๊อกน้ำเย็นลงอ่าง และเพื่อให้รู้สึกผ่อนคลาย จึงหย่อนก้อนบับเบิ้ลบาธกลิ่นกล้วยไม้ป่ากลิ่นโปรดลงไปด้วย แต่ก็รอให้น้ำเต็มไม่ไหว จึงก้าวเท้าลงไปแช่ในน้ำเย็นจัดนั้นทันที

ความสบายตามผิวหายไปเพียงแค่ชั่วครู่ แล้วก็กลับมาวูบวาบอีกครั้งและเหมือนจะเป็นมากกว่าเดิม เธอยกมือจับไว้ที่หน้าอก รู้สึกว่าหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ เดี๋ยวเร็วเดี๋ยวช้าจนเริ่มจะหายใจหอบ 

พริมโรสยกมือลูบไล้ไปตามผิวจนรู้สึกวาบหวิว อ่อนไหวไปกับทุกสัมผัสที่มาถูกกระทบ ความรุ่มร้อนสายหนึ่งผุดขึ้นที่กลางกาย คล้ายกับมีกระแสไฟที่กำลังจะปะทุ และค่อยๆ ลุกโชนขึ้นเตรียมจะแผดเผาทั้งร่างให้มอดไหม้

เธอรู้สึกปวดหน่วงๆ ที่จุดอ่อนไหว พยายามข่มกลั้นความกระวนกระวายที่อยากจะใช้มือเข้าไปสัมผัส โหยหาอารมณ์ความรู้สึกบางอย่างขึ้นมาอย่างรุนแรง

เธอตัดสินใจลุกขึ้นไปยืนใต้ฝักบัว เปิดก๊อกน้ำเย็นให้รินไหลไปตามร่าง กระทบทั่วทุกพื้นที่อ่อนไหวในขณะที่น้ำไหลผ่าน ความรู้สึกวาบหวิวแผ่ซ่านไปทั่วทุกซอกทุกมุม แล้วเปลี่ยนเป็นความเสียวแปลบปลาบจนแทบจะยืนไม่อยู่ ต้องเม้มริมฝีปากไว้แน่นไม่ให้หลุดเสียงครางออกมา

“โรส! คุณเป็นอะไร?” ชายหนุ่มรู้สึกตกใจที่เห็นร่างเปลือยของหญิงสาวตัวงอลง ใบหน้านวลแดงระเรื่อ ริมฝีปากแดงก่ำ ผิวที่เคยขาวราวกับน้ำนมดูแดงฝาดไปทั้งตัว ถึงแม้นัยน์ตาจะดูฉ่ำหวานสะอาดใสไร้รอยราคี แต่สีหน้ากลับแสดงอาการคล้ายเจ็บปวดจากอะไรสักอย่าง

“ผู้พันคะ! ฉันร้อนเหลือเกินไม่รู้เป็นอะไร! ช่วยพาไปหาหมอที!” 

ชายหนุ่มได้ยินดังนั้นพลันหนังศีรษะชาวาบ ใบหน้าซีดเผือดชั่วแวบหนึ่ง ก่อนที่รังสีโหดเหี้ยมอำมหิตจะฉายชัดออกมาแทนที่ นัยน์ตาลุกเรืองดุร้ายเต็มไปด้วยเพลิงโทสะ ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะขวัญกล้าทำเรื่องแบบนี้ภายใต้ชายคาบ้านของเขา 

ถ้ามาช้ากว่านี้ก็คง…!!

พอได้ยินเสียงหวานครางปานจะขาดใจคล้ายเจ็บปวดขึ้นมาอีก เขาก็รีบเข้าไปประคอง ทิ้งความรู้สึกหวั่นวิตกเหล่านั้นไปก่อน แต่ทว่าเมื่อฝ่ามือใหญ่แนบไปกับผิวเนื้อ ร่างบอบบางที่บิดเกร็งอยู่นั้นก็ผวาขึ้นแรง คล้ายกำลังถูกไฟนาบไปที่ผิวหนัง

“อาา~” หญิงสาวครางออกมาอย่างพึงพอใจ ใบหน้าเคลิบเคลิ้ม

โดยไม่คาดคิด ร่างบางหมุนตัวเข้ามา ในอ้อมกอดของเขา เขย่งปลายเท้าขึ้น โอบแขนเรียวขาวไปรอบคอเขาอย่างชวนเชิญ แล้วเหนี่ยวใบหน้าคมคายให้โน้มลงมาหา ริมฝีปากอิ่มที่กำลังแดงก่ำ เผยอออกเล็กน้อย แล้วประทับลงบนริมฝีปากบางเย็นของเขาทันทีอย่างเร่าร้อน

“โรส!!”

ชายหนุ่มอุทานเบาๆ ในลำคออย่างตื่นตะลึง ก่อนกระชับอ้อมแขนกอดร่างนุ่มนิ่มบอบบางไว้แนบแน่น รับรู้ถึงปลายลิ้นเล็กๆ ของหญิงสาว สอดเข้ามาแตะปลายลิ้นของเขาอย่างเงอะงะ ความอ่อนประสบการณ์ ทำให้เธอชักกลับไปมาอย่างรวดเร็ว เขารีบรุกเล้าไล่ตามอย่างไม่ยอมปล่อย

เขาเปลี่ยนมาเป็น ฝ่ายจุมพิตเสียเองอย่างหื่นกระหาย บดเบียดเสียดสีจนมีรสคาวนิดๆ อยู่ในปาก แต่เธอก็ไม่ได้แยแส ปล่อยให้ลิ้นเร่าร้อน ซอกซอนกัดเม้มไปอย่างย่ามใจ ซ้ำยังแตะตวัดเกี่ยวรัดปลายลิ้นของเขาไว้ จนแทบจะกลายเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน

ฝ่ามือใหญ่ปัดป่ายไปตามสัญญาตญาณดิบ โลมไล้ส่วนเว้าส่วนโค้งไปทั่วอย่างหิวกระหาย ทุกสัมผัสเต็มไปด้วยความเร่าร้อนที่บ้าคลั่ง เขามาถึงสุดขอบของการควบคุมตัวเองแล้ว

พริมโรสหายใจหอบถี่ ถูกอารมณ์ว้าวุ่นสับสนกลืนกินสติสัมปชัญญะไปจนหมด สมองไม่สามารถประมวลผลใดๆ ได้อีก สัมผัสได้เพียงจุมพิตที่ดูดดื่มลึกซึ้ง อย่างหนักหน่วงของเขา ทำให้รู้สึกซาบซ่านเข้าไปจนถึงกระดูก เนื้อตัวสั่นสะท้าน ร่างกายอ่อนระทวยจนควบคุมตัวเองไม่อยู่เท่านั้น

เขาจุมพิตอ้อยอิ่งอยู่ชั่วครู่ แล้วปล่อยริมฝีปากอิ่มให้เป็นอิสระ ริมฝีปากอิ่มแดงก่ำแย้มเผยอ แลบปลายลิ้นสีชมพูออกมานิดหนึ่ง ช้อนตาคู่งามหวานเยิ้ม ที่กำลังสะท้อนใบหน้าของเขาขึ้นมอง ขณะที่หลุดเสียงครางออกมาอย่างไม่รู้ตัว

สีหน้าเขาเรียบเฉยนิ่งสนิท สวรรค์เท่านั้นที่รู้ว่าเขากำลังควบคุมตัวเองจนสั่นไปหมด ขณะคว้าผ้าเช็ดตัวมาเช็ดเส้นผมที่เปียกชื้นแนบติดลำคอ ลูบไล้วนเวียนไปทั่วเรือนร่างขาวนวล จนหญิงสาวดูอ่อนระทวยไปทั้งร่าง เขาจึงช้อนตัวอุ้มขึ้น พาไปวางลงบนเตียงอย่างนุ่มนวลทะนุถนอม 

เขาคิดว่าเขารู้จุดประสงค์ของคนที่วางยา ความไม่มั่นใจในความสัมพันธ์ทำให้เขาเกิดความรู้สึกอยากเห็นแก่ตัว ตอนนี้ไม่ว่าอะไรที่สามารถผูกมัดเธอไว้ได้ เขายินดีจะทำหมด ต่อให้ต้องใช้วิธีบุกน้ำลุยไฟอย่างน่าละอาย เพื่อแลกกับการได้ครอบครองทั้งตัวทั้งหัวใจของเธอเขาก็ยินดี

ชายหนุ่มเดินไปสำรวจล็อกที่ประตู แล้วใส่โซ่คล้องไว้ เสร็จแล้วมายืนมองความเย้ายวนที่อยู่ตรงหน้า ค่อยๆ ถอดเสื้อผ้าออกอย่างไม่เร่งร้อน 

นัยน์ตาลึกล้ำจับจ้องที่เรือนร่างเปลือยเปล่านิ่ง มองมือเรียวสวยที่กำลังเคล้นคลึงความอวบอิ่มของตัวเองอย่างอ้อยอิ่ง ยอดอกสีชมพูชูชันขึ้นท้าทายสายตา ดึงดูดให้เขาเข้าไปสัมผัสอย่างเต็มอกเต็มใจ 

ร่างบอบบางนุ่มนิ่มนอนทอดกายระทวยอยู่บนเตียง ส่งสายตาเว้าวอนชวนเชิญให้เขาเข้าไปข่มเหง รอคอยการถูกกระทำให้หนำใจ ไม่ว่าผู้ชายคนไหน มาเห็นอาการยั่วยวนอย่างไร้เดียงสาแบบนี้เข้า เชื่อว่าก็คงทนไม่ได้ด้วยกันทั้งนั้น

แววตาเขาเริ่มร้อนแรงดั่งเปลวเพลิง เมื่อทอดมองลงมายังเนินเนื้อที่บอบบางของเพศหญิง ที่กำลังถูกต้นขาขาวนวลเนียนบิดไขว้ไปมาอย่างยั่วยวน นัยน์ตาหวานเยิ้มปรือปรอยฉายแววพิศวาส เสียงหวานครางแผ่วเบาอย่างออดอ้อน คล้ายเรียกร้องเร่งเร้าให้เขาเข้าไปรุกประชิด

เขาเดินเข้ามาที่เตียงด้วยมาดของนักล่า สายตาที่ร้อนแรงราวกับไฟกวาดไล้ไปบนผิวกายทุกตารางนิ้ว ก่อนจะเคลื่อนกลับไปมองยังปลายยอดสีชมพูระเรื่อที่สั่นระริก เขาได้แต่เฝ้ารอและเก็บซ่อนความต้องการเหล่านี้เอาไว้ในใจ ไม่คาดคิดมาก่อนว่า ความปราถนาของเขาจะเป็นจริงแล้วในตอนนี้ 

ชายหนุ่มโน้มตัวลงเล็กน้อย คุกเข่าคร่อมอยู่เหนือร่างบอบบางเปลือยเปล่า ฝ่ามือข้างหนึ่งค้ำยันอยู่ข้างตัวหญิงสาว ใช้มืออีกข้างบีบเคล้นปลายยอดที่ชูชันขึ้นอย่างย่ามใจ มือใหญ่คล้ำแดดกอบกุมเคล้นคลึงความกลมกลึงของทรวงอกนุ่มหยุ่นไว้จนเต็มฝ่ามือ ความอวบใหญ่ทำให้เนื้อนุ่มบางส่วนล้นทะลักออกมาตามง่ามนิ้วเรียวยาวของเขา

พริมโรสปรือตามองเขาด้วยเนื้อตัวที่สั่นเทา เสียงหวานร้องครางออกมา ด้วยน้ำเสียงที่บอกไม่ถูกว่า เป็นเพราะความเจ็บหรือความเสียวซ่านกันแน่ เธอหอบหายใจไม่หยุด ร่างกายคล้ายร้อนเร่าด้วยความรัญจวน แอ่นยกอกขึ้นอย่างควบคุมไม่อยู่

ฝ่ามือใหญ่กุมต้นแขนเรียวกลมกลึง ทั้งสองข้างของเธอไว้กระชับ แล้วดึงให้ตัวลอยขึ้นมา อยู่ในอ้อมกอดในท่าคุกเข่าบนเตียง ฝ่ามือใหญ่ข้างหนึ่งล็อกท้ายทอยเธอไว้ บังคับให้หน้าเงยแหงนรับสัมผัสริมฝีปากและลิ้น ที่กำลังเข้าครอบครองอย่างเผด็จการและเอาแต่ใจของเขา

เขาฉกฉวยบดคลึงกลีบปากแดงก่ำของเธออย่างเมามัน ลองลิ้มชิมความหอมหวาน ของริมฝีปากอวบอิ่มร้อนผ่าวอย่างป่าเถื่อน ปลายลิ้นว่องไวไล้เลียความชุ่มชื้น ตรงผนังด้านในริมฝีปากล่างแล้วกัดไม่เบานัก

"อื๊อ!~" ความรู้สึกเจ็บทำให้หญิงสาวร้องออกมาในลำคอคล้ายเสียงละเมอ 

ปลายลิ้นร้ายกาจก็สอดแทรกเข้ามาในปาก กระหวัดพันเกี่ยวลิ้นเล็กอ่อนนุ่ม ดูดกลืนเสียงร้องอย่างตื่นตระหนก และเสียงหอบหายใจของเธอให้หายไปอย่างรวดเร็ว

 วงแขนแข็งแรงราวกับปลอกเหล็กค่อยๆ ผ่อนร่างเล็กบางลงบนเตียงนุ่ม ร่างแกร่งกำยำโน้มตัวตามลงมาทาบทับ ก่อนจะบดเบียดผิวกายที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม เสียดสีไปกับผิวนวลเนียนละเอียดทั้งเนื้อทั้งตัว แนบชิดกันจนแทบไม่เหลือช่องว่าง

เขาซุกหน้าลงตรงซอกคอหอมกรุ่น พ่นลมหายใจร้อนผ่าวออกมาเป่ารด ซุกไซ้ตักตวงความหอมหวานของเธออย่างไม่รู้เบื่อ ท่อนกายแข็งแกร่งเบียดแทรกตรงระหว่างขาเรียวขาว แสดงออกถึงแรงราคะซึ่งอัดแน่นอยู่ภายใน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนพิเศษ (3) : อิดรีส / ไลลา

    ค่ำคืนแห่งพระเกียรติ ถูกจัดขึ้นอย่างสมพระเกียรติ ณ พระราชวังขององค์สุลต่าน งานเลี้ยงวันคล้ายวันพระราชสมภพถูกเนรมิตขึ้น อย่างวิจิตรตระการตา ทุกซอกทุกมุมของพระราชวังส่องประกายด้วยโคมไฟแก้วเจียระไนระยิบระยับ พรมแดงทอดยาวจากบันไดสู่โถงต้อนรับ โต๊ะอาหารเรียงรายอย่างเป็นระเบียบ พร้อมเครื่องเงินแท้ที่ขัดเงาจนแวววาว เมนูรสเลิศจากเชฟมิชลิน ถูกเสิร์ฟแบบคอร์ส เคียงคู่กับเครื่องดื่มชั้นสูงจากทั่วทุกมุมโลก ขับกล่อมด้วยเสียงดนตรีออร์เคสตร้า ที่บรรเลงอย่างไพเราะ ทำให้ค่ำคืนนี้ สมพระเกียรติขององค์สุลต่านอย่างถึงที่สุด บรรดาผู้นำจากนานาประเทศ และทูตานุทูต ต่างตบเท้าเข้าร่วมงาน แขกเหรื่อล้วนเอ่ยปากชื่นชม ถึงบรรยากาศที่ได้รับการจัดเตรียมมาอย่างไร้ที่ติ และผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของงานนี้ก็ไม่ใช่ใครอื่น เจ้าหญิงไลลา สตรีหมายเลขหนึ่ง พระชายาของเจ้าชายอิดรีส ผู้ลงมาดูแลทุกอย่างด้วยตนเอง อย่างละเอียดถี่ถ้วน บางคนถึงกับกล่าวชมต่อหน้าเจ้าชายอิดรีส ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แม้เขาจะยังคงยืนสงบนิ่งในท่าทีสุขุมเช่นเคย แต่ในใจลึกๆ กลับรู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ที่ตนเลือกคู่ครองไม่ผิด สายตาของอิดรีส

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนพิเศษ (2) : หินพ่อมดลาบราดอไลต์

    แสงสว่างที่ลอยละล่องในความมืดส่องมาที่รินรดา พร้อมกับเสียงกระซิบที่แผ่วเบาแต่ชัดเจน เสียงนั้นไม่ใช่เสียงของใครในโลกนี้ มันเหมือนเสียงที่มาจากที่ไกลโพ้น ฟังดูทั้งใกล้ และไกลในเวลาเดียวกัน“ถึงเวลาแล้ว...จงทำตามสัญญา!”รินรดารู้สึกเหมือนร่างกายของเธอกำลังล่องลอย แต่ในขณะเดียวกัน ก็ตกลงไปในความเวิ้งว้างอันไร้จุดสิ้นสุด เธอพยายามมองหาเจ้าของเสียงแต่ไม่พบใครเธอหลับตาลงแล้วทันใดนั้น ภาพอดีตของเธอเมื่ออายุสิบห้าปีก็ย้อนกลับมา เธอเห็นตัวเองยืนอยู่หน้าหินพ่อมดลาบราดอไลต์ ที่ตั้งตระหง่านอยู่ในห้องลับใต้พระราชวัง ความศักดิ์สิทธิ์ของมันทำให้เธอรู้สึกได้ ถึงพลังลี้ลับที่ซ่อนอยู่ภายใน เธอท่องบทสวดที่แอบจดจำไว้ พร้อมกับอธิษฐานถึงสิ่งที่อยากรู้ที่สุดในชีวิต นั่นคือ..การตามหาครอบครัวที่แท้จริงจากนั้นเธอก็เริ่มฝันซ้ำๆ เดิมๆ อยู่หลายครั้ง จนกระทั่งถึงปัจจุบันเธอค่อยๆ ลืมตาขึ้น พบว่าตัวเองยืนอยู่ในอุโมงค์ที่ทอดยาวไปสู่แสงสว่างที่อยู่เบื้องหน้า เธอรู้ว่านี่คือจุดที่ผู้ตายต้องเดินผ่านไปยังภพหน้า แต่แล้วเสียงอันศักดิ์สิทธิ์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง“รินรดา เธอยังมีสิทธิ์เลือกเส้นทางของตนเองอยู่นะ”เบื้องหน้าของเ

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนพิเศษ (1) : พิธีนิกะฮ์

    ค่ำคืนแห่งความสุขมาถึง... ท้องฟ้ายามราตรีของอาณาจักรเปเรซประดับไปด้วยแสงจันทร์และดวงดาวระยิบระยับ ขณะที่ปราสาทหลวง ถูกประดับด้วยผ้าม่านสีขาว และทอง ลวดลายอาหรับอันวิจิตร เจิดจรัสด้วยแสงไฟนวลอบอุ่น ของไฟระย้าคริสตัลสะท้อนแสง จนดูงดงามราวสรวงสวรรค์ ดอกไม้หายากจากทั่วทั้งอาณาจักร ถูกจัดวางประดับประดาไปทั่วบริเวณ สร้างบรรยากาศที่งดงาม ราวกับหลุดออกมาจากเทพนิยาย ภายในห้องโถงใหญ่ของพระราชวัง พรมเนื้อละเอียดทอดยาวตั้งแต่ประตูไปจนถึงแท่นพิธี โต๊ะเลี้ยงอาหารค่ำประดับด้วยผ้าปักทอง ดอกกุหลาบและลิลลี่ขาวบริสุทธิ์ให้กลิ่นหอมอ่อนๆ ตัดกับแสงเทียนที่กระพริบไหว ม่านบางเบาปลิวไสวไปตามสายลมเย็นของค่ำคืน พระราชพิธีอภิเษกสมรส ถูกจัดขึ้นตามขนบธรรมเนียม เป็นพิธีนิกะห์อันศักดิ์สิทธิ์ของโมเสลม ภายใต้กฎหมายชารีอะห์ และธรรมเนียมของราชวงศ์ ซึ่งแสดงถึงความงดงาม และเปี่ยมไปด้วยความหมาย นักวิชาการศาสนา(อุละมาอ์) ผู้ประกอบพิธี นั่งอยู่บนแท่นหินอ่อน ด้านข้างมีพยานฝ่ายเจ้าบ่าวและเจ้าสาว พร้อมด้วยบุคคลสำคัญจากราชวงศ์และข้าราชบริพาร เจ้าชายอิสราร์ ประทับยืนในชุดทางการขององค์มกุฏราชกุมาร เสด็จเข้ามายังแท่นพิธี พระอ

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 100 : การมา..ที่คาดไม่ถึง

    บรรยากาศภายในพระราชวังเปเรซวันนี้ เต็มไปด้วยความสงบและเรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยความหมายลึกซึ้ง ครบหนึ่งร้อยวันแห่งการจากไปของเจ้าหญิงรินรดา องค์สุลต่านทรงมีพระราชดำริให้จัด ‘โรงทานขนาดใหญ่’ เพื่อแจกจ่ายอาหาร และสิ่งของจำเป็นแก่ประชาชนผู้ยากไร้ ถือเป็นการอุทิศส่วนกุศลให้แก่ดวงวิญญาณของผู้ล่วงลับ ภายในโรงทานถูกจัดขึ้นอย่างเป็นระเบียบ เต็นท์ขนาดใหญ่ถูกกางเรียงรายภายในลานกว้างของลานพิธีหน้าพระราชวัง โต๊ะยาวหลายตัวถูกตั้งไว้ สำหรับแจกจ่ายอาหารร้อนที่ปรุงสำเร็จ และขนมหวานอาหรับ เช่น บาสบูซาและกุนาฟา รวมถึงน้ำดื่มเย็นๆ สำหรับประชาชนที่มาร่วมรับแจกอาหาร บรรดาข้าราชบริพาร และอาสาสมัครจากประชาชน ต่างช่วยกันแจกจ่ายด้วยรอยยิ้ม แม้จะเป็นวันแห่งความอาลัย แต่ทุกคนก็เต็มใจทำความดี เพื่อเป็นบุญกุศล ให้แก่เจ้าหญิงผู้ล่วงลับ นอกจากอาหารแล้ว ยังมีจุดแจกอาหารแห้ง และของใช้จำเป็น เช่น อินทผลัม ข้าวสาร น้ำมันพืช เครื่องปรุงรส สบู่ และยาสามัญ เพื่อให้ผู้ยากไร้สามารถนำกลับไปใช้ที่บ้านได้ ภายในงานยังมีแพทย์อาสา คอยตรวจสุขภาพเบื้องต้นให้กับประชาชน ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการช่วยเหลือสังคม ที่เจ้าหญิงรินรดาเคยผลักดั

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 99 : เจ้าหญิงแห่งราชวงศ์อันฟูลัน

    เสียงไซเรนรถพยาบาลแผดก้องไปทั่วท้องถนน แต่รามิลไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น หูของเขาอื้อไปหมด มีเพียงเสียงลมหายใจบางเบาของรินรดา ที่กำลังแผ่วลงทุกขณะ เป็นสิ่งเดียวที่เขากำลังโฟกัส เลือดของเธอเปรอะเปื้อนเต็มมือเขา ลามไปตามแขนเสื้อ แผ่นอก และหยดลงเป็นทางบนเปลพยาบาล ร่างเล็กที่เคยเปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวา บัดนี้กลับนอนแน่นิ่ง แต่ถึงอย่างนั้น เธอยังคงยิ้มให้เขา “คุณ..รามิล…” เสียงของเธอเบาหวิวแทบไม่ได้ยิน “รดา! เดี๋ยวเราก็ถึงโรงพยาบาลแล้ว… แค่ทนไว้ก่อนนะรดา อย่าหลับนะ ได้ยินผมไหม!?” รามิลกุมมือหญิงสาวแน่น น้ำเสียงสั่นเครือ ความกลัวถาโถมเข้าใส่จนเขาหายใจแทบไม่ออก รินรดาไอออกมาเป็นเลือด ก่อนจะระบายลมหายใจบางเบา “ท่านพี่… ปลอดภัยไหม?” หัวใจของรามิลเหมือนถูกบีบจนแหลกสลาย เธอกำลังอาการสาหัส แต่ยังเป็นห่วงพี่ชายมากกว่าชีวิตตัวเองเสียอีก “ปลอดภัย! เขาปลอดภัย..” รามิลเม้มริมฝีปากแน่น พยายามกลั้นสะอื้น “ทำไมต้องทำแบบนี้ ทำไมต้องเสี่ยงขนาดนี้ด้วยฮึ!?” “เพราะเขาคือ… พี่ชายของฉัน” รินรดายิ้มจางๆ เสียงเธอขาดหายเป็นช่วงๆ เปลือกตาของเธอหนักอึ้งลงทุกที “รดา! อย่าหลับนะ! มองผมสิ มองผม!” มือของเธอใน

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 98 : มือสังหาร

    เสียงโกลาหลของฝูงชนยังคงดังก้องทั่วลานพิธี แต่แล้วจู่ๆ ผู้คนก็เริ่มแหวกออกเป็นสองทาง ราวกับคลื่นน้ำที่ถูกแบ่งออกโดยพลังที่มองไม่เห็น ท่ามกลางช่องว่างที่เปิดออก ปรากฏร่างของชายคนหนึ่ง เขายืนอยู่ในเงามืด แฝงตัวอยู่ในกลุ่มประชาชนที่กำลังแตกตื่น ในมือของเขากำปืนไรเฟิล ที่บรรจุกระสุนเจาะเกราะแน่น สายตาคมกริบกวาดไปรอบบริเวณอย่างระแวดระวัง ก่อนจะกลับมาตรึงอยู่ที่เป้าหมาย บุรุษผู้ตายยากที่สุดเท่าที่เขาเคยสังหารมา ร่างสูงสง่าของเจ้าชายอิสราร์ ยืนเด่นอยู่บนลานพิธียกพื้น ราวกับถูกจัดวางให้อยู่ในระยะยิงอย่างเหมาะเจาะ โอกาสมีเพียงครั้งเดียว ทุกอย่างจะต้องเกิดขึ้นเร็วที่สุด และต้องสร้างผลกระทบที่รุนแรงที่สุด ถ้าจะต้องถูกจับหลังจากเหนี่ยวไก อย่างน้อยก็ขอให้มันได้ตาย..เพื่อสังเวยผู้ที่ข้ารักและเคารพเหนือสิ่งอื่นใด ผู้ที่สมควรได้รับทุกสิ่งที่ปรารถนาบนโลกใบนี้!! “ตอนนี้แหละ!!” อาซีฟพึมพำกับตัวเองก่อนจะรีบยกปืนขึ้น ปึ่ก! แรงกระชากอย่างรุนแรง ทำให้ปืนในมือของอาซีฟหายไปในพริบตา เขาตวัดสายตาไปด้านข้าง แววตาเปลี่ยนเป็นโทสะสีเข้มจัด แต่แล้วเขาก็ต้องชะงัก เมื่อเห็นใบหน้าของผู้ที่ชิงอาวุธไปจากมือเขา

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status