/ LGBTQ+ / อินกินหมี่ / บทที่ 2 หมี่พิเศษ (3/6)

공유

บทที่ 2 หมี่พิเศษ (3/6)

last update 최신 업데이트: 2024-11-19 20:15:12

“ดีนะที่เริ่มเรียนพรุ่งนี้ วันนี้มึงนอนพักเยอะ ๆ ล่ะ” อินพูดพร้อมเดินเข้าไปในตัวอาคารเพราะหลังจากนี้ทั้งคู่จะแยกย้ายกลับห้องพักตัวเอง

“โอเค” กันต์พยักหน้างึกงักตามประสา

“มีอะไ-” อินพูดไม่ทันจบก็มีเสียงอีกฝ่ายแทรกขึ้นมา

“จะโทรไป” ซึ่งคำพูดนั้นคือประโยคที่เขาจะบอก กันต์ชูมือถือและเดินขึ้นบันไดไปชั้นสาม ขณะเดียวกันอินก็เดินมาหยุดนิ่งอยู่หน้าห้องตัวเอง ไม่ยอมเปิดเข้าไปสักที คงเป็นเพราะเสียงที่ดังโครมครามมาจากด้านใน...

กึกกัก! ตึง! เคร้งงง!!

“เสียงอะไรวะ” รู้สึกว่าช่วงนี้จะมีแต่สถานการณ์ที่ทำให้คิ้วของเขาต้องขมวดเข้าหากันจนรู้สึกปวดหัวไปหมด แล้วครั้งนี้เขาต้องเจอกับเรื่องอะไรอีกล่ะเนี่ย

‘ห้องสองศูนย์ห้า...เพื่อนร่วมห้องติดต่อมาว่าจะขอย้ายของเข้าหลังจากเสร็จกิจกรรมรับน้องนะครับ’

“หรือจะย้ายเข้ามาแล้ว” เสียงของอาจารย์หอที่ดังขึ้นในหัวทำให้อินนึกถึงเรื่องของเพื่อนร่วมห้องคนนี้ได้ทันที นายภูริวัฒน์คนนั้นมาแล้วสินะ

มือหนาของอินหมุนลูกบิดประตูและชะเง้อมองสำรวจในห้องพัก เตียงฝั่งตรงข้ามที่เคยว่างเปล่า ตอนนี้กลับเต็มไปด้วยเสื้อผ้ามากมายวางกระจัดกระจายไปทั่ว ไหนจะบรรดาตุ๊กตาตัวน้อยใหญ่ที่วางเรียงรายกันอยู่ตรงหัวเตียงนั่นอีก

สองขายาวก้าวเข้าห้องและปิดประตูลงอย่างเบามือเพราะไม่อยากรบกวนอีกฝ่ายที่น่าจะกำลังจัดของอยู่ตรงโต๊ะไม้ด้านหลังเตียง ทว่าข้าวของที่เพ่นพ่านอยู่บนพื้นหน้าประตูทำให้เดินผ่านไปได้ยาก และแล้วอินก็เผลอเหยียบตุ๊กตายางลูกเป็ดเข้าเต็มแรง

แกว๊กกกก!!! กว่อยยยย~~~

อินหน้าเหยเกทันทีเมื่อรู้ว่าตัวเองทำเสียงดังซะแล้ว ก่อนจะมีเสียงทักทายดังมาจากหลังห้อง...ว่าแต่ทำไมเสียงคุ้นจังเหมือนเคยได้ยินที่ไหน

“อ้าวมาละเหรอ! ยินดีที่ไ- อะ...ไอ้ยักษ์!”

“เธอ!” อินไม่ต้องคิดหาคำตอบให้เสียเวลาเพราะอีกฝ่ายชะโงกหน้าออกมาพร้อมกับตะโกนเรียกเขาดังลั่น ทางด้านอินก็ตกใจไม่น้อยเมื่อรู้ว่าเพื่อนร่วมห้องที่เด็กหนุ่มจะต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยตลอดระยะเวลาสี่ปีหลังจากนี้เป็นใคร...

“โห! ตอนแรกกะว่าจะทักทายกันดี ๆ แล้วนะ ยังจะมาเรียกเธออีก เดี๋ยวพ่อก็เขกหัวซะหรอก!” ท่าทางเอะอะโวยวาย ชอบพูดเสียงดังเหมือนตะโกนอยู่ตลอดเวลา ไหนจะเบ้าหน้าที่หงุดหงิดหงิกงอนั่นอีก...ทำไมกันนะ ทั้งที่คิดไว้ว่าจะไม่พาตัวเองเข้าไปยุ่งกับคนแบบนี้ แต่...

“...ดีแล้วที่เป็นมึง...” เสียงพูดแสนเบาหวิวของอินทำให้คนตัวเล็กชักจะโมโหขึ้นมาจนอดไม่ได้ที่จะยกมือกอดอกและตะเบ็งเสียงบ่น

“พูดว่าอะไรนะ! ตัวก็ตั้งใหญ่ทำไมชอบพูดเสียงเบาจังวะ อ้าปากพูดแล้วดอกพิกุลมันจะร่วงลงมารึไง” บ่นไปพลางมือเล็กก็หยิบจัดของไปพลาง ก่อนจะขยับมาเก็บของที่เพ่นพ่านอยู่ตรงพื้นหน้าประตูห้องใส่ลัง

“เปล่า...ทำไมเพิ่งย้ายของเข้าหอล่ะ” อินย่อตัวลงและช่วยเก็บของที่อยู่รอบตัวขณะเอ่ยถามอีกฝ่าย นึกแปลกใจอยู่เหมือนกันว่าคนแบบเขาอยากรู้เรื่องของคนอื่นตั้งแต่เมื่อไหร่

“พอดีพี่ชายไม่สบายอ่ะเลยไม่อยากให้ฝืนตัวเองมาช่วยกู เมื่อวานกูนั่งแท็กซี่และขนของมาเอง แล้วมึงล่ะเมื่อคืนนอนบ้านเพื่อนเหรอ มึงไม่ได้กลับมานอนที่หอนี่” คนตัวเล็กหยุดมือและหันมานั่งขัดสมาธิมองตรงไปหาอินราวกับว่ากำลังทำการสอบสวนอยู่

“กูไปนอนบ้าน” ตอนนี้มีเพียงอินเท่านั้นที่ก้มหน้าก้มตาเก็บของเพราะอีกฝ่ายดูท่าจะไม่สนใจการเก็บของแล้ว คนตัวเล็กคิดว่าเรื่องของอินน่าสนใจกว่าตั้งเยอะ

“เอ๋~ บ้านอยู่ใกล้กันเหรอ”

“บ้านอยู่ติดกัน” อินตอบเสียงนิ่งพลางเอื้อมมือไปดึงลังเก็บของให้เข้ามาอยู่ใกล้ตัวเองมากขึ้น

“แล้วเพื่อนมึงป่วยหนักมั้ยวะ ต้องพาไปหาหมอรึเปล่า” คำถามนี้ของคนตัวเล็กทำให้เด็กหนุ่มชะงักไปเล็กน้อย

‘ไอ้กันต์ลุกไปหาหมอ! มึงป่วยหนักขนาดนี้จะไม่ไปโรงบาลไม่ได้นะ ถ้ามึงกลัวเข็มเดี๋ยวกูยืนรอข้าง ๆ เอง ลุกเลย!’

เสียงดุของใครบางคนดังขึ้นในความทรงจำและเขาก็จำเสียงนั้นได้ดี อินเลื่อนลังเก็บของที่ตอนนี้เต็มไปด้วยตุ๊กตายางลูกเป็ด ช้อนตวง ผ้าผืนบางหลายผืนและของอื่นอีกมากมายไปให้คนตัวเล็กที่อยู่ตรงหน้า ก่อนจะลุกขึ้น

“คิดว่าครั้งนี้ไม่หนักนะ”

“ดีแล้ว ชีวิตวัยรุ่นอ่ะนะ ต้องดูแลสุขภาพให้แข็งแรงเข้าไว้จะได้ทำสิ่งที่อยากทำต่อไป~” คนตัวเล็กพูดจบก็ลุกขึ้นตาม

“...” เมื่อไร้เสียงตอบกลับจากคนร่างยักษ์ หมี่ก็เอาลังไปวางไว้ข้างโต๊ะไม้ปลายเตียงและเก็บของที่ยังจัดค้างไว้ก่อนหน้านี้ให้เข้าที่เข้าทาง

อินนั่งลงบนเตียง มือหนาไล่ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตที่สวมอยู่จนเหลือเพียงครึ่งเดียว สายตาคมจ้องมองการกระทำของรูมเมทอย่างเงียบเชียบพลางสำรวจข้าวของเครื่องใช้ที่อีกฝ่ายขนมา ส่วนใหญ่ก็เป็นเสื้อผ้า ตุ๊กตาแล้วก็พวกเครื่องครัว?

“นี่! ปกติมึงพูดน้อยเหรอหรือมึงแค่ทำตัวขี้เก๊กเพราะมีกูเป็นรูมเมท กูรู้นะว่าตัวเองเป็นคนที่มีออร่าความหล่อล้นเหลือแต่มึงไม่ต้องเกร็งขนาดนี้ก็ได้ ทุกวันนี้กูก็พยายามหล่อให้เท่ากับคนทั่วไปอยู่” จู่ ๆ เสียงเล็กแหลมของหมี่ก็โพล่งขึ้นมาและจิ๊ปาก

“...” คิ้วเข้มของอินผูกกันเป็นโบว์พร้อมมีคำว่า อะไรของมันอีกวะ ผุดขึ้นมาให้หัว

“หรือมึงกลัวว่าออร่าของกูจะไปบดบังเบ้าหน้าแสนตึงเครียดของมึงจนทำให้ไม่มีสาวคนไหนมาเหลียวแล ยิ่งคิดยิ่งรู้สึกแย่ว่ะ จะทำยังไงให้กูหล่อน้อยลงดีวะ” คนตัวเล็กไม่พูดเปล่าแต่ยกมือขึ้นกอดอกพลางทำท่าทางครุ่นคิดเป็นจริงเป็นจัง ตอนนี้ไม่มีคำไหนจะอธิบายคนตรงหน้าได้ดีเท่าคำว่า ‘บ้า’ อีกแล้ว

“กูแค่พูดไม่เก่ง”

“แต่กูพูดเก่ง! แถมชอบพูดไปเรื่อยด้วย ความจริงกูก็เริ่มคิดนะว่ามึงจะรำคาญกูรึเปล่า ถ้าวันไหนมึงทนไม่ไหวก็บอกนะเว้ยเพราะตอนนี้กูยังแก้นิสัยพูดมากไม่ได้” เด็กหนุ่มอดรู้สึกผิดเมื่อรับรู้ว่าตัวเองเป็นต้นเหตุที่ทำให้คนตัวเล็กคิดมาก เขาจึงตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่อ่อนนุ่มกว่าปกติ

“กูไม่ได้รำคาญ”

“แต่ดูจากท่าทางมึงตอนนี้ กูว่าไม่น่าใช่นะ”

“...” อดคิดไม่ได้ว่าตอนนี้หน้าตาของเขาเป็นแบบไหนกันนะถึงได้ทำให้อีกฝ่ายไม่เชื่อคำพูดของเขา แต่แล้วดวงตาคมของอินก็ต้องเบิกกว้างเมื่อได้ยินประโยคถัดไปจากรูมเมท

“เอางี้ดีกว่า คืนนี้กินเบียร์ฉลองกัน”

“ไม่ได้! หอในมีกฎห้ามกินแอลกอฮอล์นะ!” อินเผลอลุกขึ้นยืนพร้อมปฏิเสธเสียงแข็ง ปฏิกิริยาของเด็กหนุ่มทำให้คนตัวเล็กตกใจจนแทบสะดุ้งแต่คิดว่าเรื่องแค่นี้จะมาหยุดความต้องการของหมี่ได้เหรอ ไม่มีทางซะหรอก

“โอ๊ย! ใครมันจะมาตรวจกันล่ะ! มึงอ่ะใช้ชีวิตเครียดเกิน ระวังจะหน้าแก่เกินวัยอันควรนะ!” คราวนี้คนตัวเล็กลุกขึ้นและยกมือขึ้นเท้าสะเอว ก่อนจะตะเบ็งเสียงเถียงคอขึ้นเอ็น

“กฎระเบียบมีไว้เพื่อคอยควบคุมความประพฤติของผู้คน ถ้าคิดแต่จะทำอะไรตามอำเภอใจมีหวังได้แย่กันหมดสิ” อินยังคงยืนยันว่าไม่เห็นด้วยในการกระทำครั้งนี้พร้อมอธิบายเหตุผลให้อีกฝ่ายเข้าใจ

“โอโห อ้าปากทีก็จัดมาเป็นชุดเลยนะแต่กูไม่ยอมหรอก! กูจะกิน!” ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย อินจึงคิดหาวิธีโน้มน้าวอีกฝ่าย

“หมี่อย่าดื้อ” เด็กหนุ่มใช้น้ำเสียงนุ่มกว่าปกติเพื่อให้อีกฝ่ายล้มเลิกความคิดนี้ ในเมื่อใช้ไม้แข็งไม่ได้ผลก็ต้องใช้ไม้อ่อนสินะ ทว่าคนตัวเล็กกลับพุ่งตรงมาเกาะแขนเขาไว้พร้อมส่งเสียงอ้อน...สถานการณ์คุ้น ๆ ยังไงไม่รู้

“นะ นะ นะ แค่ครั้งเดียวเอง ฉลองที่ได้เป็นรูมเมทกันไง หลังจากนี้เราสองคนต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันในห้องนี้แล้วไม่ใช่เหรอ ถือว่าเป็นกิจกรรมละลายพฤติกรรมไง!” ก็เป็นซะอย่างนี้แล้วจะไม่ให้อินใจอ่อนได้ยังไง

“สัญญานะว่าจะทำผิดกฎแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว” หมี่พยักหน้างึกงักเป็นการตกลง อินหลับตาและถอนหายใจเฮือกใหญ่ พลางคิดว่าในเมื่อต่อต้านอีกฝ่ายไม่ได้ก็มีแต่จะต้องเข้าร่วมสินะ

“แต่กูให้แค่คนละกระป๋องพอ” สิ้นเสียงอิน คนตัวเล็ดก็ดีใจยกใหญ่ ต่างจากเด็กหนุ่มที่เริ่มกังวลเพราะต้องคอยดูแลไม่ให้อีกฝ่ายก่อความวุ่นวาย

ทั้งสองคนตกลงกันว่าจะออกไปซื้อแอลกอฮอล์จากร้านค้าใกล้ ๆ ช่วงหกโมงเย็นเพราะช่วงนั้นมีนักศึกษาเข้าออกมหาลัยฯ ค่อนข้างมากทำให้ยากต่อการตรวจสอบ อินรู้สึกไม่สบายใจเลยที่ต้องทำอะไรแบบนี้แต่เขาตัดสินใจไปแล้ว...มีแต่จะต้องยอมรับผลของการกระทำนั้น

เมื่อคุยกันลงตัวแล้วต่างคนก็ต่างแยกย้ายไปทำเรื่องของตัวเองต่อ คนตัวเล็กรีบจัดของและตรงไปอาบน้ำอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันอินก็นั่งเขียนตารางออกกำลังกายและตารางอาหารเพื่อเตรียมร่างกายให้พร้อมสำหรับการคัดเลือกตัวแทนนักกีฬาว่ายน้ำ

และแล้วเข็มนาฬิกาก็วนมาถึงเวลาหกโมงเย็นที่รอคอย เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นเป็นระยะ อินวางปากกาลง ปิดสมุดและเอื้อมมือไปกดปิดเสียงนาฬิกา ก่อนจะหันมองคนต้นคิดเรื่องการฉลองในค่ำคืนนี้แต่สิ่งที่เขาเห็นคือร่างกายผอมบางกำลังนอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียง

“ต้องปลุกมั้ยเนี่ย” เด็กหนุ่มพูดกับตัวเองเสียงเบา ก่อนจะตัดสินใจว่าควรปล่อยให้อีกฝ่ายนอนพักอีกสักหน่อยเพราะคิดว่าคนตัวเล็กคงเหนื่อยจากการจัดของ...จนกระทั่งเวลาได้ล่วงเลยไป

.

.

.

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • อินกินหมี่   วันแต่งงาน

    ชีวิตของเด็กหนุ่มทั้งสองก็ดำเนินต่อไป ผ่านเรื่องราวสุขทุกข์แต่ก็ยังคงจับมือกันและฝันฝ่าทุกอย่างไปได้จนมาถึงวันนี้ วันที่ทั้งสองคนเรียนจบและเข้ารับปริญญาทุกคนต่างก็มีเป้าหมายและเดินไปตามเส้นทางที่ตัวเองเลือกกันต์เรียนจบช้ากว่าพวกเขาไปหนึ่งเทอมแต่ก็ยังโชคดีที่เด็กหนุ่มขยันและติดตามงานจนเรียนจบมาได้ซึ่งแน่นอนว่าเส้นทางที่เขาเลือกเดินคือการไปทำงานต่างประเทศร่วมกับแม่ เด็กหนุ่มตัดสินใจประกาศปล่อยขายบ้าน ตอนนั้นเองที่หมี่คุยกับพี่ชายของตัวเองว่าอยากให้ช่วยซื้อบ้านหลังนี้ จะได้ย้ายมาอยู่ใกล้ ๆ กันแมนก็กลับไปคิดทบทวนอยู่หลายวันเพราะการย้ายบ้านเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเขา ทั้งข้าวของเครื่องใช้ ทั้งการเดินทางและเรื่องการเงิน อีกอย่างตอนนี้เขาไม่ได้เป็นโสดแล้ว ย่อมต้องปรึกษาคนรักท้ายที่สุดแล้วแมนก็ตัดสินใจซื้อบ้านหลังนั้นพร้อมพาแฟนมาอยู่ด้วยกัน หมี่มีความสุขมากที่เห็นพี่ชายมีคนรักที่ดี คนตัวเล็กรู้สึกชอบว่าที่พี่สะใภ้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เห็น พี่กวางทั้งสวยทั้งน่ารัก ทำงานเก่ง นิสัยดีแถมยังชวนหมี่ทำอาหารด้วยกันบ่อยมากซึ่งแน่นอนว่าตอนนี้หมี่ก็ได้เดินตามเส้นทางของตัวเองเหมือนกัน เขาไปสมัครงานที่ร้

  • อินกินหมี่   วันฮัลโลวีน NC++

    และแล้วช่วงเวลาก็ผ่านพ้นไปจนใกล้จะสิ้นปีอีกครั้ง ตอนนี้ทุกคนก็ใกล้จะจบการศึกษากันแล้ว ทว่ากิจกรรมที่หมี่อยากลองทำร่วมกับอินมาโดยตลอดคือการแต่งตัวในวันฮัลโลวีน“นะ มึงเบ้าหน้าดีจะตาย แต่งตัวคู่กับกูหน่อยไม่ได้เหรอ” น้ำเสียงออดอ้อนแกมเว้าวอนดังมาจากหมี่“ไม่เอา” อินที่ฟังประโยคนี้มาร่วมสัปดาห์ก็เริ่มรู้สึกท้อใจแทนคนตัวเล็กแต่เขาไม่อยากแต่งตัวแฟนตาซี จะให้ทำยังไงได้“โธ่! ปีหน้าก็เรียนจบกันแล้ว ขอแค่นี้ก็ไม่ได้!” จากการอ้อนก็เปลี่ยนเป็นประชดประชัน ซึ่งแน่นอนว่าคนอย่างอินเหรอจะยอม“เฮ้อ ก็ได้” และใช่ เขายอม“จริงนะ!” หมี่กระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ สาเหตุที่เขาชวนอินทำกิจกรรมร่วมกันไว้วันนี้เป็นเพราะรู้สึกเบื่อ นี่ถ้าพ่ออาร์มกับแม่ฝันอยู่บ้านคนตัวเล็กคงอ้อนผู้ใหญ่มากกว่าชวนร่างสูงทำอะไรแบบนี้“แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวนะ” อินที่ตอบตกลงก็พูดต่อ เด็กหนุ่มไม่อยากจะนับเลยว่าเขาพูดไอ้คำว่า ‘แค่ครั้งเดียว’ กับอีกฝ่ายไปกี่ล้านครั้งแล้ว ทว่าหมี่ที่เอาแต่คิดรังสรรเรื่องเครื่องแต่งกายก็ไม่ได้ฟังเลยแม้แต่น้อย“แล้วเราจะแต่งไปหลอกใครดี” ปากเล็กขยับขอความคิดเห็นจากคนรักด้วยท่าทีตื่นเต้น ต่างจากอินที่คิ้วขมว

  • อินกินหมี่   วันสงกรานต์ NC++

    “ไปเล่นน้ำกันนนนน” หมี่สดใสร่าเริงแต่หัววันเพราะวันนี้เป็นวันสงกรานต์และทางมหาลัยฯ ได้จัดสถานที่สำหรับสาดน้ำไว้ให้นักศึกษาและชาวบ้านในละแวกใกล้เคียง“ไปเปลี่ยนชุด” ทว่าขาของคนตัวเล็กก็ต้องหยุดชะงักทันทีเมื่อได้ยินเสียงทักท้วงเรื่องเครื่องแต่งกาย“เปลี่ยนทำไม ชุดนี้แหละได้แล้ว” คนตัวเล็กก้มมองชุดที่ตัวเองสวมอยู่ เสื้อยืดสีขาวเนื้อผ้าบางโปร่งโล่งสบาย กางเกงขาสั้นพร้อมลุยน้ำ สายคล้องคอสำหรับใส่มือถือกันเปียกน้ำ อุปกรณ์ก็พร้อมลุยแล้ว จะให้เปลี่ยนทำไม“จะไปเปลี่ยนเองหรือจะให้กูเปลี่ยนให้” แต่อินก็ยังคงยืนยันที่จะให้คนรักไปเปลี่ยนชุด เขาเป็นผู้ชายมากกว่าอีกฝ่ายและรู้ดีว่าชุดนี้มันล่อแหลม อันตรายมากขนาดไหน“กู! ไม่! เปลี่ยน!” หมี่ปฏิเสธเสียงแข็งและดึงดันที่จะใส่ชุดนี้ไปให้ได้ อินที่ทนไม่ไหวก็กำลังจะเอื้อมมือไปคว้าตัวอีกฝ่ายมาเปลี่ยนชุดก๊อก!! ก๊อก!! ก๊อก!!“ไอ้หมี่เสร็จยัง! แห้วรออยู่ข้างล่าง!” ตอนนั้นเองก็มีเสียงเคาะประตูตามมาด้วยเสียงเรียกจากบั๊มดังแทรกเข้ามา“เออ! เพื่อนมารอแล้วเห็นมั้ย รีบไปปป” คนตัวเล็กฉวยโอกาสนี้ดดันร่างสูงของอินตรงไปที่ประตู“ก็ได้” เด็กหนุ่มที่รับรู้ได้ว่าหมี่คงไม่ยอ

  • อินกินหมี่   วันวาเลนไทน์ NC++

    “แห้ว เรามีเรื่องจะปรึกษา” หมี่นั่งลงข้าง ๆ เพื่อนสาวเพียงคนเดียวที่เขามีพลางกระซิบกระซาบเสียงเบาเพราะตอนนี้พวกเขาอยู่ในห้องสมุดของทางมหาลัยฯ“เรื่องอะไรเหรอหมี่” หญิงสาวหันมองเพื่อนแสนแสบด้วยสายตาสงสัย“ปกติวันวาเลนไทน์ต้องซื้ออะไรให้คนรักเหรอ ไม่เอาพวกชอกโกแลตหรือของกินนะ” ได้ยินคำถามแล้วแห้วก็ยิ้มอ่อนทันที“ก็ของขวัญทั่วไปแหละ หมี่จะซื้อของให้อินเหรอ”“ใช่ คราวก่อนซื้อกำไลข้อมือไปให้ตอนปีใหม่อ่ะ” คนตัวเล็กพยักหน้างึกงัก ก่อนจะหน้าแดงเมื่อพูดถึงเรื่องนั้น“ซื้อกำไลให้...แล้วทำไมต้องหน้าแดงด้วยล่ะ” นั่นยิ่งสร้างความฉงนให้กับเพื่อนสาว“ก็...ช่างเถอะ แห้วล่ะ วันวาเลนไทน์นี้จะซื้อของให้บั๊มมั้ย” ในเมื่อเขาไม่อยากนึกถึงเรื่องค่ำคืนแลกของขวัญวันปีใหม่ก็มีแต่จะต้องเบี่ยงประเด็นเท่านั้น“เราทำเค้กให้น่ะ” แห้วตอบกลับแกมเขินอายพลางอมยิ้มเล็กน้อย ต่างจากหมี่ที่หน้าซีดหน้าเซียวเป็นไก่ต้ม“เค้กเหรอ ไม่เอาเค้ก!”“หมี่จะตะโกนทำไมเนี่ย เราตกใจหมดเลย” เพื่อนสาวถึงกับสะดุ้งโหยงเพราะจู่ ๆ คนตัวเล็กก็ตะโกนออกมาเสียงดังลั่น“ขะ ขอโทษ คือเรา...เราไม่อยากทำเค้กน่ะ” โอ๊ย! ให้ตายสิ สมองน้อย ๆ ของไอ้หมี่ อย่

  • อินกินหมี่   วันปีใหม่ NC++

    “หมี่ ปีใหม่นี้ไปเที่ยวกันมั้ย” เสียงทุ้มของอินเอ่ยถามคนรักอย่างแผ่วเบา ตอนนี้พวกเขากำลังจัดตกแต่งบ้านเพื่อเตรียมต้อนรับช่วงเทศกาลปีใหม่ที่จะมาถึงในอีกไม่กี่วันนี้“เที่ยวที่ไหน” คนตัวเล็กตอบพลางแปะแผ่น ‘สวัสดีปีใหม่’ ตรงขอบประตูหน้าบ้าน“ไม่รู้ อยากไปไหนรึเปล่า” เด็กหนุ่มตอบแบบขอไปทีเพราะเขาไม่ได้วางแผนอะไรไว้เลย...แค่อยากลองชวนหมี่ไปเที่ยวเท่านั้น“ขี้เกียจอ่ะ” ตอบเสร็จ คนตัวเล็กก็เท้าสะเอวยืนชื่นชมผลงานของตัวเอง ก่อนจะค่อย ๆ ก้าวลงจากเก้าอี้ที่อินช่วยจับไว้ให้“ไปสวนสนุกมั้ย กูเห็นคนไปกันเยอะเลย”“ร้อนจะตาย ไม่ไป” หมี่หน้ายู่เมื่อคิดถึงสภาพอากาศที่ร้อนระอุขนาดนี้ในพื้นที่ที่มีผู้คนแออัด“แต่กูอยากทำกิจกรรมร่วมกับมึงไง” ดวงตาสีคาราเมลของคนตัวเล็กเบิกกว้าง ไม่คิดเลยว่าจะมีวันที่อีกฝ่ายพูดกับตนแบบนี้“เอ๊ะ? เมื่อก่อนกูเป็นคนพูดคำนี้นะ ทำไมเดี๋ยวนี้กลายเป็นมึงพูดแทนล่ะ” แค่คิดว่าทุกวันนี้ไอ้ยักษ์หลงตัวเองหัวปักหัวปำก็เขินจนตัวบิดเป็นเกลียว“เออน่า สรุปไปมั้ย” อินถามย้ำอีกครั้ง เขารู้ดีว่าตัวเองติดอีกฝ่ายงอมแงมมากแค่ไหนก็ยังใจแข็งไม่พูดออกไป“ไม่ไป” เมื่อได้ยินคนรักปฏิเสธเสียงแข็งก็ทำอะ

  • อินกินหมี่   วันเกิดอิน [6 กันยายน] NC++

    งานวันเกิดของหมี่เพิ่งผ่านไปไม่ถึงเดือน ก็ถึงงานวันเกิดของแฝดอย่างอินและอันต่อ ซึ่งหลายคนเห็นพ้องตรงกันว่าอยากจัดงานเล็ก ๆ แบบเดิม โดยงานนี้จะมัดรวมวันเกิดของกันต์ไว้ด้วยเด็กหนุ่มผิวแทนก็ไม่บ่นอะไรเพราะวันเกิดของเขาถัดไปอีกแค่สามวันเท่านั้น ดีซะอีกที่เขาไม่ต้องทำอะไรเยอะ แค่มาช่วยงานที่บ้านลุงอาร์มป้าฝันก็พอและถึงแม้ว่างานนี้จะไม่มีอันแล้วแต่ทกุคนก็ยังคงคิดถึงเขาอยู่เสมอ อินรู้สึกดีที่ได้งานวันเกิดปีนี้เขามีคนรักเพิ่มเติมมาด้วยและเขาก็รับรู้ว่าตัวเองมีความสุขมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา เด็กหนุ่มยิ้มให้ภาพของแฝดน้องที่ติดอยู่บนฝาผนัง ก่อนจะเดินไปหาหมี่ในครัว“สอนกูทำเค้กหน่อย” เสียงทุ้มของอินขอความช่วยเหลือจากคนรักเด็กหนุ่มคิดมาตั้งแต่งานวันเกิดหมี่แล้วว่าเขาอยากทำเค้กให้คนสำคัญได้กิน แต่ตอนนั้นถ้าบอกให้คนตัวเล็กสอนมีหวังความลับรั่วไหลกันพอดี เลยต้องอุบเงียบเอาไว้ก่อน ทว่าตอนนี้ถือเป็นโอกาสเหมาะที่จะได้ลองแล้ว“หะ? อารมณ์ไหนของมึงเนี่ย” คนตัวเล็กที่กำลังล้างจานอยู่ ถึงกับหันควับมามองหน้าแฟนหนุ่มของตน“กูอยากลองทำเค้กให้พ่อกับแม่กิน” อินตอบอย่างที่ใจคิด ถึงแม้ว่าลึก ๆ แล้วเขาเพียงแค่อยากใช

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status