/ LGBTQ+ / อินกินหมี่ / บทที่ 5 หมี่พิเศษ (5/6)

공유

บทที่ 5 หมี่พิเศษ (5/6)

last update 최신 업데이트: 2024-11-20 20:15:49

อุก อ้วกกกกก!!!!

“เฮ้ย!” ชัดเจน สิ่งที่พวยพุ่งออกมาจากปากของคนตัวเล็กถือเป็นคำตอบอย่างดีให้กับคำถามของเขา

เศษอาหารที่หมี่อาเจียนออกมานั้นทำให้รู้เลยว่าก่อนหน้านี้อีกฝ่ายกินอะไรเข้าไปบ้าง แถมตอนนี้สิ่งพวกนั้นก็เปรอะเปื้อนไปทั่วเสื้อยืดแขนสั้นสีขาวตัวโปรดของเขาอีกด้วย โอ้โห กลิ่นก็สุดจะบรรยายทำเอาอินหลุดสบถออกมาอีกจนได้

“ไอ้หมี่! มึงนี่มันตัววุ่นวายของจริงเลยว่ะ ทำไมกูต้องมาเจออะไรแบบนี้จากคนอื่นที่ไม่ใช่คนในครอบครัวด้วยวะ” ถึงแม้ว่าหมี่จะอ้วกใส่แต่อินก็ไม่ปล่อยมือที่โอบเอวบางไว้ เด็กหนุ่มยกมืออีกข้างขึ้นเสยผมเผยให้เห็นเส้นเลือดที่ปูดขึ้นตรงขมับ

ท้ายที่สุดแล้วอินก็พาหมี่ไปอ้วกในห้องน้ำได้สำเร็จและรีบออกมาเช็ดอ้วกที่เลอะเทอะหน้าประตูห้องน้ำ ก่อนที่เด็กหนุ่มจะถือวิสาสะถอดเสื้อเปื้อนอ้วกของอีกฝ่ายออกและหยิบผ้าขนหนูชุบน้ำ เช็ดไปตามเนื้อตัวของคนตัวเล็ก วินาทีที่ความเย็นจากผ้าขนหนูอันเปียกชุ่มสัมผัสร่างกายสีขาวอมชมพูก็ทำเอาคนตัวเล็กสะดุ้งเล็กน้อยพร้อมขนลุกชูชัน

มือหนาลูบไล้ผ้าเปียกไปตามส่วนต่าง ๆ พลางสอดส่องสายตามองเรือนร่างอีกฝ่ายไปด้วย หมี่ที่ยังคงมึนเมาอยู่แต่รับรู้ทุกสิ่งอย่างก็ตัวแดงขึ้นมาอีกครั้งเพราะความเขินอาย

ตึกตัก~ ตึกตัก~

เสียงนี้อีกแล้ว

อินหยุดมือที่กำลังเช็ดตัวให้อีกฝ่ายและเงียบฟัง เมื่อรู้ว่าต้นเสียงมาจากคนตัวเล็กตรงหน้า คิ้วเข้มขมวดเป็นปมและก้มลงไปแนบหูบนอกของหมี่เพื่อฟังเสียงหัวใจ พลางคิดว่าเสียงแบบนี้คือหัวใจเต้นผิดจังหวะรึเปล่า ก่อนจะเริ่มกังวลว่าคนตัวเล็กอาจมีอาการแอลกอฮอล์เป็นพิษ

“นะ...นี่...ขยับออกไปได้แล้ว” อินที่ได้ยินอีกฝ่ายบอกแบบนั้นก็ถอยและลุกขึ้นทันที ก่อนจะกลับมาใช้น้ำเสียงทุ้มเข้มและยื่นมือไปหาอีกฝ่าย

“ลุกไหวมั้ย” หมี่ที่ดูเหมือนว่าอาการเริ่มดีขึ้นแล้วเอื้อมมือมาจับมือของอินไว้แน่นเพื่อใช้พยุงตัวและลุกขึ้นยืนด้วยแรงทั้งหมดที่มี

จังหวะที่อินได้สัมผัสมือแสนนุ่มนิ่มของคนตัวเล็กนั้นก็มีความคิดหนึ่งแวบเข้ามาในหัว มือของอีกฝ่ายเล็กมากแถมยังดูบอบบางมากราวกับมือของเด็กตัวน้อยเลย คิดไปคิดมาเด็กหนุ่มก็เริ่มสงสัยว่ามือยังนิ่มขนาดนี้ แล้วส่วนอื่นของร่างกายจะนิ่มขนาดไหน...นี่เขาคงเมาเหมือนกันสินะ

ทั้งคู่เดินออกมาจากห้องน้ำด้วยความทุลักทุเล ก่อนจะไปหยุดอยู่ที่เตียงนอนของหมี่ ร่างเล็กนั่งลงอย่างหมดแรง ขณะที่อินเดินไปเก็บซากกระป๋องและทำความสะอาดพื้นที่ตรงนั้นจนแวววับสะอาดเอี่ยมอ่อง แล้วก็ถอดเสื้อที่เปื้อนอ้วกออก เปลี่ยนไปใส่เสื้อกีฬาตัวอื่นแทน

“ฮ้าาา~ อ้วกแล้วค่อยสบายตัวขึ้นหน่อย” หมี่ที่นอนแผ่อยู่บนเตียงถอนหายใจและพูดออกมาเสียงดัง อินได้ยินอีกฝ่ายกลับมาโวยวายได้อีกครั้งก็เผลอยิ้มไม่รู้ตัว

“สร่างเมายัง” หลังจากมัดถุงขยะเสร็จ เด็กหนุ่มเดินไปหาอีกฝ่ายและนั่งลงตรงพื้นที่ว่างข้างเตียงพลางมองตรงไปยังคนที่นอนอยู่นั้น

“ขอบใจมากนะที่ตามใจกูอ่ะ!”

“อยากนอนเลยมั้ย”

“อืม” อินได้ยินแบบนั้นก็กำลังจะลุกขึ้นไปนอนที่เตียงตัวเองบ้างแต่เสียงของหมี่ก็ทำให้เขาหยุดความคิดนั้น

“ชีวิตกูมีแค่พี่ชาย...พ่อแม่โดนรถชน แล้วก็ตายไปตั้งแต่กูยังเด็ก ๆ พี่เลยทำทุกอย่างเพื่อให้พวกเรายังมีชีวิตรอด ทั้งเรียน ทำงานและเลี้ยงดูกู” ถึงแม้เด็กหนุ่มจะมองไม่เห็นหน้าคนตัวเล็กแต่ก็รับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายกำลังเสียใจ

“พี่รับภาระคนเดียวมาตลอด ไม่เคยคิดเอ่ยปากให้กูช่วยทำอะไรเลย พี่ตามใจกูทุกอย่างจนบางครั้ง...กูเริ่มหงุดหงิดและรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า” เสียงของหมี่ไม่ได้สดใสเหมือนอย่างทุกที อินที่รู้สึกเป็นห่วงคนตัวเล็กเลยตัดสินใจไม่ลุกไปไหนและพร้อมรับฟังสิ่งที่อีกฝ่ายอยากระบาย

“ความจริงแล้ว ที่กูนั่งรถและขนของมาเองก็เพราะอยากให้พี่รู้ว่าน้องชายคนนี้ดูแลตัวเองได้ พี่จะมาช่วยกูทั้งที่ตัวเองป่วยอยู่มันไม่ได้รึเปล่า นั่นมันมากไป กูปีหนึ่งแล้วนะเว้ย ถึงเวลาที่กูต้องเริ่มใช้ชีวิตของตัวเองแล้ว” หมี่พูดพลางยกมือขึ้นราวกับกำลังเอื้อมคว้าอะไรบางอย่างในอากาศ ทว่าตรงหน้ามีเพียงความว่างเปล่า

“พี่แค่ไม่อยากให้มึงลำบากรึเปล่า” อินคงทำได้เพียงแค่พูดปลอบใจตามสิ่งที่ตัวเองคิด

“เหอะ! คนเป็นพี่ เค้าคงมีความคิดแบบนี้กันสินะ...แต่กูอึดอัดว่ะ ครอบครัวเรามีกันแค่สองคนแต่พี่ทำเหมือนกับว่ากูไม่มีตัวตนและเลือกที่จะทำทุกอย่างด้วยตัวคนเดียว...ช่างเถอะ กูก็แค่เพ้อไปเรื่อย”

เด็กหนุ่มเข้าใจความรู้สึกของคนตัวเล็กและไม่อยากให้อีกฝ่ายคิดว่าสิ่งที่ได้เจอหรือได้ระบายออกมานั้นเป็นเรื่องเพ้อเจ้อ เขาจึงคิดหาวิธีที่จะช่วยให้คนตัวเล็กรู้สึกดีขึ้นในแบบฉบับของตัวเอง บุคคลที่ไม่ค่อยเข้าสังคมแถมยังพูดน้อยอีกด้วย

“กูมีน้องชายคนนึง” เสียงทุ้มเข้มของอินเรียกความสนใจจากหมี่ได้เป็นอย่างดี นัยน์ตาสีน้ำตาลคาราเมลของคนตัวเล็กมองตรงมาที่เขา

“น้องกูชื่ออัน เป็นเด็กสดใสร่าเริง กินเก่งและยิ้มกว้าง ใช้ชีวิตด้วยความสนุกสนานตลอดเวลา อันเป็นที่รักใคร่เอ็นดูของผู้คนรอบข้างอยู่เสมอ พ่อแม่ก็รักเราไม่เท่ากัน...แต่อันทำให้กูรู้สึกแตกต่าง” หมี่ขยับมาใกล้ขึ้นเพื่อให้มองเห็นอินได้ชัด เด็กหนุ่มเห็นอีกฝ่ายจ้องตาไม่กะพริบก็จำใจเล่าต่อ

“อันเป็นคนเดียวที่ทำให้กูรู้สึกมีตัวตนอยู่บนโลกใบนี้และคอยอยู่เคียงข้างกูเสมอ อันเปรียบเสมือนแสงสว่างในชีวิตกูเลย” ฟังมาถึงตรงนี้ดวงตาแสนแป๋วแหว๋วของหมี่ก็หม่นลงอย่างเห็นได้ชัด ในใจก็คิดว่าที่ผ่านมาไอ้ยักษ์ต้องเจอเรื่องแบบไหนกันนะ

“น้องชายนิสัยต่างจากมึงคนละขั้วเลย ตอนนี้น้องอันอายุเท่าไหร่ล่ะ เรียนอยู่ที่ไหน” หมี่ลุกมานั่งขัดสมาธิเพราะดูเหมือนว่าการสนทนาครั้งนี้จะมีเนื้อหาลึกซึ้งกว่าที่คิดไว้

“อันเป็นน้องชายฝาแฝด เขาจมน้ำและจากกูไปก่อนจบมอสาม...” หมี่อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสลดไปตามเรื่องที่อินเล่า ขณะเดียวกันเด็กหนุ่มที่เห็นคนฟังเงียบผิดปกติก็กังวลว่าสิ่งที่พูดไปจะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกไม่ดี เลยพูดต่อด้วยน้ำเสียงติดเล่นเท่าที่จะทำได้เพื่อไม่ให้บรรยากาศอึดอัดไปมากกว่านี้

“ตอนนั้นกูเคว้งมากเลย...แต่กูกลับมาใช้ชีวิตปกติได้เพราะไอ้กันต์”

“ไอ้กันต์เหรอ” คนตัวเล็กเอียงคอด้วยท่าทีสงสัยและทวนชื่อของบุคคลอื่นที่ตัวเองเพิ่งเคยได้ยิน

“เพื่อนสนิทที่กูเคยบอกไง” หมี่พยักหน้ารับรู้เมื่อได้คำตอบพลางประติดประต่อเรื่องราวในหัว ไอ้ยักษ์สูญเสียน้องชายฝาแฝดไปแต่กลับมาได้เพราะเพื่อนสนิท คงสนิทกันมากแน่ ๆ คิดเองเสร็จสรรพก็เอนตัวลงนอน

“เป็นความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนเอาเรื่องเลยสินะ...” คนตัวเล็กบ่นพึมพำและคิดสงสัยว่าทำไมตัวเองถึงได้รู้สึกหน่วงใจแบบนี้ ก่อนจะนอนตะแคงหันหน้าเข้าหาผนังเพื่อหลบหน้าอิน

“ตอนนั้นกูจำได้ว่าไอ้กันต์อาการหนักกว่ากูมาก ๆ พ่อแม่กูเลยต้องพามันไปหาหมอ เห็นมันเสียศูนย์ขนาดนั้นกูเลยต้องทำใจให้เข้มแข็งเข้าไว้ เสียไอ้อันไปแล้ว กูไม่อยากเสียมันไปอีกคน”

อินที่ไม่ได้ยินประโยคเมื่อครู่นี้จากอีกฝ่ายก็พูดต่อพลางยิ้มเยาะให้กับโชคชะตาของตัวเอง เขานึกย้อนไปถึงช่วงเวลาเก่า ๆ และเริ่มดำดิ่งไปกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในตอนนั้น

“งืมมม กูด้วย” ทว่าเด็กหนุ่มก็ต้องงงงวยกับปฏิกิริยาตอบกลับของคนตัวเล็กที่ตอนนี้นอนหันหลังให้เขาอยู่

“อะไรของม- หึ หลับไปแล้วเหรอ” จากการยิ้มเยาะให้ชีวิตตัวเองก็ต้องแปรเปลี่ยนมาเป็นการยิ้มเอ็นดูคนตรงหน้า นี่อีกฝ่ายหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ ไม่รู้จะได้ฟังเรื่องที่เขาเล่าจนจบรึเปล่า

สายตาคมของเด็กหนุ่มหันมองเวลาและรับรู้ว่าตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว มือหนาหยิบผ้านวมผืนใหญ่ที่อยู่ปลายเท้าของหมี่ห่มให้อีกฝ่ายอย่างเบามือ คนตัวเล็กหดตัวและซุกหน้าเข้าหาไออุ่นจากผ้าห่มทันทีพร้อมหลับตาพริ้มอย่างมีความสุข

“กูไม่เคยเปิดใจให้ใครมากขนาดนี้มาก่อนเลยนะ...หมี่” อินพูดเสียงเบาราวกับละเมอ เด็กหนุ่มเองก็รู้สึกตกใจที่ตัวเองยอมพูดคุยเรื่องส่วนตัวให้คนนอกครอบครัวหรือคนที่เพิ่งได้รู้จักกันอย่างหมี่มากขนาดนี้ มือหนาหยิบกระเป๋าตังขึ้นมาจากกางเกงและเปิดดูภาพถ่ายใบเล็กที่แนบไว้ด้านใน

“กูจะพยายามใช้ชีวิตส่วนที่เหลือเพื่อมึงนะ...อัน”

อินพูดพลางมองเด็กน้อยคนหนึ่งที่ยิ้มกว้างอยู่ในรูปและอาจเป็นเพราะความมึนเมาจากแอลกอฮอล์บวกกับความง่วงที่ถาโถมเข้ามาทำให้เด็กหนุ่มสลบไปทั้งที่ยังนั่งอยู่ข้างเตียงของเพื่อนร่วมห้อง

.

.

.

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • อินกินหมี่   วันแต่งงาน

    ชีวิตของเด็กหนุ่มทั้งสองก็ดำเนินต่อไป ผ่านเรื่องราวสุขทุกข์แต่ก็ยังคงจับมือกันและฝันฝ่าทุกอย่างไปได้จนมาถึงวันนี้ วันที่ทั้งสองคนเรียนจบและเข้ารับปริญญาทุกคนต่างก็มีเป้าหมายและเดินไปตามเส้นทางที่ตัวเองเลือกกันต์เรียนจบช้ากว่าพวกเขาไปหนึ่งเทอมแต่ก็ยังโชคดีที่เด็กหนุ่มขยันและติดตามงานจนเรียนจบมาได้ซึ่งแน่นอนว่าเส้นทางที่เขาเลือกเดินคือการไปทำงานต่างประเทศร่วมกับแม่ เด็กหนุ่มตัดสินใจประกาศปล่อยขายบ้าน ตอนนั้นเองที่หมี่คุยกับพี่ชายของตัวเองว่าอยากให้ช่วยซื้อบ้านหลังนี้ จะได้ย้ายมาอยู่ใกล้ ๆ กันแมนก็กลับไปคิดทบทวนอยู่หลายวันเพราะการย้ายบ้านเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเขา ทั้งข้าวของเครื่องใช้ ทั้งการเดินทางและเรื่องการเงิน อีกอย่างตอนนี้เขาไม่ได้เป็นโสดแล้ว ย่อมต้องปรึกษาคนรักท้ายที่สุดแล้วแมนก็ตัดสินใจซื้อบ้านหลังนั้นพร้อมพาแฟนมาอยู่ด้วยกัน หมี่มีความสุขมากที่เห็นพี่ชายมีคนรักที่ดี คนตัวเล็กรู้สึกชอบว่าที่พี่สะใภ้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เห็น พี่กวางทั้งสวยทั้งน่ารัก ทำงานเก่ง นิสัยดีแถมยังชวนหมี่ทำอาหารด้วยกันบ่อยมากซึ่งแน่นอนว่าตอนนี้หมี่ก็ได้เดินตามเส้นทางของตัวเองเหมือนกัน เขาไปสมัครงานที่ร้

  • อินกินหมี่   วันฮัลโลวีน NC++

    และแล้วช่วงเวลาก็ผ่านพ้นไปจนใกล้จะสิ้นปีอีกครั้ง ตอนนี้ทุกคนก็ใกล้จะจบการศึกษากันแล้ว ทว่ากิจกรรมที่หมี่อยากลองทำร่วมกับอินมาโดยตลอดคือการแต่งตัวในวันฮัลโลวีน“นะ มึงเบ้าหน้าดีจะตาย แต่งตัวคู่กับกูหน่อยไม่ได้เหรอ” น้ำเสียงออดอ้อนแกมเว้าวอนดังมาจากหมี่“ไม่เอา” อินที่ฟังประโยคนี้มาร่วมสัปดาห์ก็เริ่มรู้สึกท้อใจแทนคนตัวเล็กแต่เขาไม่อยากแต่งตัวแฟนตาซี จะให้ทำยังไงได้“โธ่! ปีหน้าก็เรียนจบกันแล้ว ขอแค่นี้ก็ไม่ได้!” จากการอ้อนก็เปลี่ยนเป็นประชดประชัน ซึ่งแน่นอนว่าคนอย่างอินเหรอจะยอม“เฮ้อ ก็ได้” และใช่ เขายอม“จริงนะ!” หมี่กระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ สาเหตุที่เขาชวนอินทำกิจกรรมร่วมกันไว้วันนี้เป็นเพราะรู้สึกเบื่อ นี่ถ้าพ่ออาร์มกับแม่ฝันอยู่บ้านคนตัวเล็กคงอ้อนผู้ใหญ่มากกว่าชวนร่างสูงทำอะไรแบบนี้“แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวนะ” อินที่ตอบตกลงก็พูดต่อ เด็กหนุ่มไม่อยากจะนับเลยว่าเขาพูดไอ้คำว่า ‘แค่ครั้งเดียว’ กับอีกฝ่ายไปกี่ล้านครั้งแล้ว ทว่าหมี่ที่เอาแต่คิดรังสรรเรื่องเครื่องแต่งกายก็ไม่ได้ฟังเลยแม้แต่น้อย“แล้วเราจะแต่งไปหลอกใครดี” ปากเล็กขยับขอความคิดเห็นจากคนรักด้วยท่าทีตื่นเต้น ต่างจากอินที่คิ้วขมว

  • อินกินหมี่   วันสงกรานต์ NC++

    “ไปเล่นน้ำกันนนนน” หมี่สดใสร่าเริงแต่หัววันเพราะวันนี้เป็นวันสงกรานต์และทางมหาลัยฯ ได้จัดสถานที่สำหรับสาดน้ำไว้ให้นักศึกษาและชาวบ้านในละแวกใกล้เคียง“ไปเปลี่ยนชุด” ทว่าขาของคนตัวเล็กก็ต้องหยุดชะงักทันทีเมื่อได้ยินเสียงทักท้วงเรื่องเครื่องแต่งกาย“เปลี่ยนทำไม ชุดนี้แหละได้แล้ว” คนตัวเล็กก้มมองชุดที่ตัวเองสวมอยู่ เสื้อยืดสีขาวเนื้อผ้าบางโปร่งโล่งสบาย กางเกงขาสั้นพร้อมลุยน้ำ สายคล้องคอสำหรับใส่มือถือกันเปียกน้ำ อุปกรณ์ก็พร้อมลุยแล้ว จะให้เปลี่ยนทำไม“จะไปเปลี่ยนเองหรือจะให้กูเปลี่ยนให้” แต่อินก็ยังคงยืนยันที่จะให้คนรักไปเปลี่ยนชุด เขาเป็นผู้ชายมากกว่าอีกฝ่ายและรู้ดีว่าชุดนี้มันล่อแหลม อันตรายมากขนาดไหน“กู! ไม่! เปลี่ยน!” หมี่ปฏิเสธเสียงแข็งและดึงดันที่จะใส่ชุดนี้ไปให้ได้ อินที่ทนไม่ไหวก็กำลังจะเอื้อมมือไปคว้าตัวอีกฝ่ายมาเปลี่ยนชุดก๊อก!! ก๊อก!! ก๊อก!!“ไอ้หมี่เสร็จยัง! แห้วรออยู่ข้างล่าง!” ตอนนั้นเองก็มีเสียงเคาะประตูตามมาด้วยเสียงเรียกจากบั๊มดังแทรกเข้ามา“เออ! เพื่อนมารอแล้วเห็นมั้ย รีบไปปป” คนตัวเล็กฉวยโอกาสนี้ดดันร่างสูงของอินตรงไปที่ประตู“ก็ได้” เด็กหนุ่มที่รับรู้ได้ว่าหมี่คงไม่ยอ

  • อินกินหมี่   วันวาเลนไทน์ NC++

    “แห้ว เรามีเรื่องจะปรึกษา” หมี่นั่งลงข้าง ๆ เพื่อนสาวเพียงคนเดียวที่เขามีพลางกระซิบกระซาบเสียงเบาเพราะตอนนี้พวกเขาอยู่ในห้องสมุดของทางมหาลัยฯ“เรื่องอะไรเหรอหมี่” หญิงสาวหันมองเพื่อนแสนแสบด้วยสายตาสงสัย“ปกติวันวาเลนไทน์ต้องซื้ออะไรให้คนรักเหรอ ไม่เอาพวกชอกโกแลตหรือของกินนะ” ได้ยินคำถามแล้วแห้วก็ยิ้มอ่อนทันที“ก็ของขวัญทั่วไปแหละ หมี่จะซื้อของให้อินเหรอ”“ใช่ คราวก่อนซื้อกำไลข้อมือไปให้ตอนปีใหม่อ่ะ” คนตัวเล็กพยักหน้างึกงัก ก่อนจะหน้าแดงเมื่อพูดถึงเรื่องนั้น“ซื้อกำไลให้...แล้วทำไมต้องหน้าแดงด้วยล่ะ” นั่นยิ่งสร้างความฉงนให้กับเพื่อนสาว“ก็...ช่างเถอะ แห้วล่ะ วันวาเลนไทน์นี้จะซื้อของให้บั๊มมั้ย” ในเมื่อเขาไม่อยากนึกถึงเรื่องค่ำคืนแลกของขวัญวันปีใหม่ก็มีแต่จะต้องเบี่ยงประเด็นเท่านั้น“เราทำเค้กให้น่ะ” แห้วตอบกลับแกมเขินอายพลางอมยิ้มเล็กน้อย ต่างจากหมี่ที่หน้าซีดหน้าเซียวเป็นไก่ต้ม“เค้กเหรอ ไม่เอาเค้ก!”“หมี่จะตะโกนทำไมเนี่ย เราตกใจหมดเลย” เพื่อนสาวถึงกับสะดุ้งโหยงเพราะจู่ ๆ คนตัวเล็กก็ตะโกนออกมาเสียงดังลั่น“ขะ ขอโทษ คือเรา...เราไม่อยากทำเค้กน่ะ” โอ๊ย! ให้ตายสิ สมองน้อย ๆ ของไอ้หมี่ อย่

  • อินกินหมี่   วันปีใหม่ NC++

    “หมี่ ปีใหม่นี้ไปเที่ยวกันมั้ย” เสียงทุ้มของอินเอ่ยถามคนรักอย่างแผ่วเบา ตอนนี้พวกเขากำลังจัดตกแต่งบ้านเพื่อเตรียมต้อนรับช่วงเทศกาลปีใหม่ที่จะมาถึงในอีกไม่กี่วันนี้“เที่ยวที่ไหน” คนตัวเล็กตอบพลางแปะแผ่น ‘สวัสดีปีใหม่’ ตรงขอบประตูหน้าบ้าน“ไม่รู้ อยากไปไหนรึเปล่า” เด็กหนุ่มตอบแบบขอไปทีเพราะเขาไม่ได้วางแผนอะไรไว้เลย...แค่อยากลองชวนหมี่ไปเที่ยวเท่านั้น“ขี้เกียจอ่ะ” ตอบเสร็จ คนตัวเล็กก็เท้าสะเอวยืนชื่นชมผลงานของตัวเอง ก่อนจะค่อย ๆ ก้าวลงจากเก้าอี้ที่อินช่วยจับไว้ให้“ไปสวนสนุกมั้ย กูเห็นคนไปกันเยอะเลย”“ร้อนจะตาย ไม่ไป” หมี่หน้ายู่เมื่อคิดถึงสภาพอากาศที่ร้อนระอุขนาดนี้ในพื้นที่ที่มีผู้คนแออัด“แต่กูอยากทำกิจกรรมร่วมกับมึงไง” ดวงตาสีคาราเมลของคนตัวเล็กเบิกกว้าง ไม่คิดเลยว่าจะมีวันที่อีกฝ่ายพูดกับตนแบบนี้“เอ๊ะ? เมื่อก่อนกูเป็นคนพูดคำนี้นะ ทำไมเดี๋ยวนี้กลายเป็นมึงพูดแทนล่ะ” แค่คิดว่าทุกวันนี้ไอ้ยักษ์หลงตัวเองหัวปักหัวปำก็เขินจนตัวบิดเป็นเกลียว“เออน่า สรุปไปมั้ย” อินถามย้ำอีกครั้ง เขารู้ดีว่าตัวเองติดอีกฝ่ายงอมแงมมากแค่ไหนก็ยังใจแข็งไม่พูดออกไป“ไม่ไป” เมื่อได้ยินคนรักปฏิเสธเสียงแข็งก็ทำอะ

  • อินกินหมี่   วันเกิดอิน [6 กันยายน] NC++

    งานวันเกิดของหมี่เพิ่งผ่านไปไม่ถึงเดือน ก็ถึงงานวันเกิดของแฝดอย่างอินและอันต่อ ซึ่งหลายคนเห็นพ้องตรงกันว่าอยากจัดงานเล็ก ๆ แบบเดิม โดยงานนี้จะมัดรวมวันเกิดของกันต์ไว้ด้วยเด็กหนุ่มผิวแทนก็ไม่บ่นอะไรเพราะวันเกิดของเขาถัดไปอีกแค่สามวันเท่านั้น ดีซะอีกที่เขาไม่ต้องทำอะไรเยอะ แค่มาช่วยงานที่บ้านลุงอาร์มป้าฝันก็พอและถึงแม้ว่างานนี้จะไม่มีอันแล้วแต่ทกุคนก็ยังคงคิดถึงเขาอยู่เสมอ อินรู้สึกดีที่ได้งานวันเกิดปีนี้เขามีคนรักเพิ่มเติมมาด้วยและเขาก็รับรู้ว่าตัวเองมีความสุขมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา เด็กหนุ่มยิ้มให้ภาพของแฝดน้องที่ติดอยู่บนฝาผนัง ก่อนจะเดินไปหาหมี่ในครัว“สอนกูทำเค้กหน่อย” เสียงทุ้มของอินขอความช่วยเหลือจากคนรักเด็กหนุ่มคิดมาตั้งแต่งานวันเกิดหมี่แล้วว่าเขาอยากทำเค้กให้คนสำคัญได้กิน แต่ตอนนั้นถ้าบอกให้คนตัวเล็กสอนมีหวังความลับรั่วไหลกันพอดี เลยต้องอุบเงียบเอาไว้ก่อน ทว่าตอนนี้ถือเป็นโอกาสเหมาะที่จะได้ลองแล้ว“หะ? อารมณ์ไหนของมึงเนี่ย” คนตัวเล็กที่กำลังล้างจานอยู่ ถึงกับหันควับมามองหน้าแฟนหนุ่มของตน“กูอยากลองทำเค้กให้พ่อกับแม่กิน” อินตอบอย่างที่ใจคิด ถึงแม้ว่าลึก ๆ แล้วเขาเพียงแค่อยากใช

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status