تسجيل الدخول“ปล่อยฉันนะ เมียคุณตบหน้าฉัน ฉันจะเอาคืน”
ธามไม่พูดอะไรแต่บีบข้อมือศีตลาไว้แน่นจนเด็กสาวร้อง
“ปล่อย! คิดจะรังแกกันหรือไง เอาพี่ชายฉันเข้าคุกยังไม่พอ ยังจะทำร้ายร่างกายฉันอีก เรียกตำรวจเลยสิ วันนี้ถ้าคุยกันไม่รู้เรื่อง ต่อให้จะลากออกไปฉันก็ไม่ยอมออกจากบ้านพวกคุณแน่ ๆ”
“เธอ ต้อง การ อะไร”
ธามถามเสียงขรึม น้ำเสียงของเขาทำให้ศีตลาสงบลงได้เล็กน้อย มันมีอำนาจแต่เธอรู้สึกได้ว่าคนที่เอ่ยประโยคนี้ออกมาต้องไม่ใช่คนโหดร้าย...
ถ้าคุยกับนังเมียของเขาไม่ได้ ก็คุยกับคุณธามคนนี้ก็แล้วกัน
“ฉัน...ต้องการให้พวกคุณช่วยปล่อยพี่ชายของฉันค่ะ”
"พี่ชายคุณคือใคร"
"พี่...ศักดิ์สยามค่ะ พี่ชายฉันชื่อศักดิ์สยาม เขาเป็น..."
"ผมรู้ เขาทำงานกับผม คุณเป็นน้องเขาหรือ"
"ค่ะ ฉันเป็นน้องสาวแท้ ๆ ของพี่ต้น...คุณศักดิ์สยามน่ะค่ะ"
เด็กสาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ใจเย็นลงมากแล้ว ธามจึงยอมปล่อยข้อมือของเธอเพราะแน่ใจว่าเธอคงไม่กระโดดเข้าใส่ไข่มุกอีก
"ผมนึกว่าทีมกฎหมายของบริษัทไปประกันตัวเขาแล้วเสียอีก"
"ยังไม่มีใครแจ้งคุณหรือคะ
ศีตลาเงยหน้ามองเขา ถามด้วยน้ำเสียงที่พยายามไม่ให้สั่น แต่ท่าทางหวั่นไหวของเด็กสาวย่อมไม่พ้นไปจากสายตาของธาม เขาเลิกคิ้ว
"ข่าวอะไร"
"พี่ชายของฉันตอนนี้อยู่โรงพยาบาล พี่...พี่พยายามฆ่าตัวตายในห้องขังเมื่อคืนนี้"
แม้แต่ไข่มุกก็ยังตกใจที่ได้ยิน ธามสีหน้าเคร่งเครียด
"แล้วเขาเป็นอย่างไรบ้างตอนนี้"
"พี่่ปลอดภัยแล้วค่ะ หมอให้ยากล่อมประสาทแล้วก็หลับไปยาว ๆ แต่ตำรวจก็ยังใส่กุญแจมือพี่เอาไว้..."
"เอ๊า เขาก็ทำถูกแล้วนี่ พี่ชายหล่อนเป็นอาชญากรนะ จะให้ปล่อยเดินเพ่นพ่านได้ยังไง"
ธามตวัดสายตามองไข่มุกด้วยแววตำหนิ ศีตลาก็มองหล่อนเช่นกัน สายตาเหมือนจะพ่นไฟได้
"ฉันรู้แล้วค่ะว่าบริษัทของพวกคุณ จะกรุณาตั้งทนายให้พี่ถึงแม้ว่าพี่จะเป็นฝ่ายทำผิดก็ตาม...พี่ฉันก็ยอมรับว่าเขาทำจริง เขาบอกฉันว่าเขายักยอกเงินในบริษัทไปจริง ๆ"
คนพูดต้องพยายามไม่ให้ตัวเองเป็นลมเพราะระหว่างที่พูดไป ทุกถ้อยคำก็เหมือนกรีดใจตัวเองไปด้วย พี่ชายที่เธอเคารพบูชา แต่กลับต้องมาโดนตราหน้าว่าเป็นคนใจคด
"เห็นมั้ย พี่ชายเธอก็ยอมรับว่าทำจริง แล้วเธอจะมาโวยวายที่นี่เพื่ออะไร จะมารีดไถเงินฉันหรือสามีฉันหรือ...ก็ได้ จะเอากี่บาท ฉันให้แล้วแกก็ช่วยออกไปให้พ้น ๆ ด้วยก็แล้วกัน"
"ไม่ใช่ค่ะ ฉันจะมาหาคนที่ทำผิดร่วมกับพี่"
ม่านตาของธามหรี่ลง แต่ไข่มุกกลับตาเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย
"นี่หล่อนอย่าบอกนะว่ามานี่เพราะเชื่อเรื่องที่พวกพนักงานเอาไปนินทากัน"
"แล้วไม่จริงหรือคะ คุณจะบอกว่าคุณกับพี่ต้น พี่ชายฉัน ไม่ได้มีอะไรกัน และคุณไม่ได้โกหกสร้างเรื่องเพื่อให้พี่ยักยอกเงินมาให้คุณหรือคะ"
"เอ๊ะอีนี่!"
ไข่มุกคงจะโผมาตบเด็กสาวอีกรอบถ้าไม่เพราะธามยืนขวางไว้ เขากวาดสายตาดุไปยังแม่บ้านและคนรถที่ยังยืนฟังอยู่ด้วยสีหน้าตื่นตะลึง ทุกคนเมื่อเห็นธามมองมาแบบนั้นก็รีบก้มหน้าก้มตาพาตัวหนีหายไปจากตรงนั้นทันที
ธามถอนหายใจหนักอย่างเหนื่อยหน่าย"มีอะไรไปคุยกันที่ห้องทำงานผมดีกว่า...เชิญทางนี้"
ศีตลาเงยหน้ามองเขาอย่างประหลาดใจ แต่ก็ใจชื้นขึ้น ไข่มุกรีบคว้าแขนของธามไว้
"คุณจะคุยอะไรกับมัน"
"คุณก็ควรจะตามมาด้วยนะเพิร์ล จะได้รู้ว่าผมจะคุยอะไรกับเขา"
หญิงสาวกัดฟันกรอด ๆ ธามยืนขวางระหว่างเธอกับยัยเด็กนั่นเอาไว้ เห็นชัดว่าเขาจะไม่ยอมปล่อยเรื่องนี้ผ่านไปและก็ไม่ยอมให้เธอขับไล่ยัยเด็กไม่ได้รับเชิญนี้ง่าย ๆ ด้วย
ไข่มุกจึงเหลือทางเดียวคือยอมเดินตามเขาไปที่ห้องทำงาน อย่างน้อยก็จะได้เป็นทนายแก้ต่างให้ตัวเองเผื่อว่านังน้องสาวของศักดิ์สยามมันบอกธาม ในสิ่งที่ได้ยินมาจากพี่ชายหน้าโง่ของมัน
* * * * *
ถ้าเป็นสถานการณ์ปกติ เด็กสาววัย 19 อย่างศีตลาคงจะตื่นตะลึงกับห้องทำงานที่อยู่ภายในบ้านของธาม ธนกิจ เพราะที่นี่เหมือนเป็นห้องสมุดขนาดย่อม ๆ มีหนังสือเรียงรายตั้งแต่พื้นจรดเพดานเต็มกำแพงด้านซ้าย ด้านขวาเป็นผนังกระจกสีชาอ่อน ๆ มองออกไปเห็นสวนหย่อมด้านข้างตัวบ้านและน้ำพุกลางสนาม ส่วนโต๊ํะทำงานของธามอยู่ด้านในสุด กลางห้องยังมีโต๊ะเขียนหนังสือขนาดใหญ่นั่งได้หลายคนและชุดโซฟารับแขก
"นั่งก่อนสิ"
เจ้าของบ้านเอ่ยถามอย่างสุภาพพลางผายมือให้เด็กสาวที่เห็นได้ชัดว่าอายุคงจะน้อยกว่าเขาหลายปีนั่งลงที่โซฟาหนัง ศีตลาค่อย ๆ หย่อนตัวลงนั่ง เผลอทำตัวลีบเล็กโดยไม่ได้ตั้งใจทั้งที่บอกตัวเองก่อนมาที่สี่แล้วว่าจะไม่ยอมทำตัวเล็กตัวน้อยให้ใครรังแกได้
ธามนั่งลงตรงข้าม ส่วนไข่มุกยังเลือกจะยืนกอดอกมองจิกศีตลาด้วยสีหน้าบูดบึ้ง"รับเครื่องดื่มอะไรดี น้ำหรือน้ำผลไม้ดีไหม"
"ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณ หนู...ฉันว่าเราคุยธุระกันเลยดีกว่าค่ะ"
ศีตลาอยากจะเสริมด้วยว่ารีบคุยรีบแก้ปัญหาจะได้รีบไปให้พ้น ๆ หน้าไข่มุกเสียที เพราะภรรยาของธามนั้นท่าทางเหมือนอยากจะกินเธอเป็นอาหารเสียให้ได้ ถ้าไม่ได้มาเจอกับตัวไม่มาเห็นกับตา เด็กสาวคงนึกไม่ออกว่าผู้หญิงที่เวลาเห็นในสื่อว่าทั้งสวย ทั้งบุคลิกดีอย่างไข่มุก ธนกิจ ตัวจริงจะเกรี้ยวกราดหยาบคายยิ่งกว่าชาวบ้านร้านตลาดบางคนเสียอีก
"คุณชื่ออะไรนะ ผมจำไม่ได้ว่าคุณได้่แนะนำตัวหรือยัง"
ธามนั่งไขว่ห้าง ท่าทางเขาดูผ่อนคลายมากขึ้น แต่ดวงตาสีดำคู่นั้นมีแววครุ่นคิดระหว่างที่ชวนศีตลาคุย
"ฉันชื่อศีตลาค่ะ เรียกฉันว่าลูกตาลก็ได้"
"คุณยังเรียนอยู่หรือทำงานแล้ว"
"เรียนอยู่ค่ะ ฉันเรียน ปวส. อยู่..." ศีตลาเอ่ยชื่อวิทยาลัยเทคโนโลยีพาณิชยการที่หนึ่งออกไป ธามพยักหน้าว่ารู้จัก
"แล้วคุณพ่อคุณแม่ของเธอล่ะ พวกท่านรู้เรื่อง...คดี...ของศักดิ์สยามหรือยัง"
"พ่อฉันตายตั้งแต่ฉันได้สามเดือน ส่วนแม่ก็ตายไปตอนที่ฉัน 7-8 ขวบ ฉันกับพี่ต้น เราเหลือกันแค่สองคนพี่น้อง"
ธามฟังนิ่ง สีหน้าไม่บ่งบอกความรู้สึก เป็นไข่มุกเองที่เริ่มทนไม่ได้
"แล้วยังไงคะธาม คุณจะสัมภาษณ์มันเพื่อ...? หรือพอฟังนิยายดราม่าบีบน้ำตาแล้วคุณก็จะสงสารจนไม่คิดจะเอาเรื่องเอาราว อย่างนั้นหรือคะ"
ธามรีบไปโรงพยาบาลทันทีที่มีคนโทรศัพท์มาบอก ทิพย์ลาวัณย์อยากไปด้วยแต่เขาขอร้องไว้"ผมว่าแม่รออยู่ที่นี่ก่อนดีกว่านะครับ ผมไม่แน่ใจว่าถ้าคุณแม่...หมายถึงคุณหญิงธัญญาถ้าเห็นหน้าแม่ แล้วท่านจะมีอาการโกรธเกรี้ยวอะไรขึ้นมาอีก"ธามพูดตามตรงและทิพย์ลาวัณย์ก็เข้าใจ ก่อนเขาออกไป เธอจับมือเขาไปบีบไว้ มือของเธอเย็นเฉียบเหมือนกลัวว่าจะไม่ได้จับมือคู่นี้ของธามไว้อีกชายหนุ่มสบตาแม่ผู้ให้กำเนิดอย่างเข้าใจ วูบหนึ่งเขารู้สึกอยากกอด แต่เพราะถูกเลี้ยงดูอย่างห่างเหินมาตลอดชีวิต เขาจึงยังไม่กล้าทำ"แม่ไม่ต้องห่วงนะครับ เดี๋ยวมีอะไรคืบหน้าผมจะรีบกลับมา...ผมไม่หายไปไหนอีกแน่นอน แม่สบายใจนะครับ"ประโยคนั้นจึงทำให้ทิพย์ลาวัณย์ยิ้มออกมาได้ นั่นสิ...ความกังวลที่สั่งสมมานานค่อยๆ สะสางไปทีละปมทีละเปลาะทีนี้ก็เหลือแต่พี่สาวของเธอเท่านั้น ธัญญาจะเป็นปมสุดท้ายที่คลี่คลายได้หรือไม่ ก็คงไม่มีใครรู้นอกจากเจ้าตัวเพียงคนเดียว* * * * *ที่โรงพยาบาล ธัญญาเข้าพักในห้องพิเศษ ธามเจอก้อยที่หน้าห้องเป็นคนแรก"แม่เป็นอะไรก้อย...เกิดอะไรขึ้น"ธามถามเสียงเครียด เพราะถ้าเด็กแม่บ้านถึงกับต้องตามมาด้วยอาจเป็นได้ว่าแม่ของเขาอาการหนั
"ดื่มน้ำผลไม้สักหน่อยนะครับ..."ธามบอกผู้หญิงที่นั่งตรงหน้าเขาเมื่อตอนที่พนักงานในห้องอาหารนำมะพร้าวน้ำหอมสด ๆ มาเสริฟที่โต๊ะที่ทั้งคู่นั่งอยู่ ส่วนตัวเขาแค่กาแฟแก้วเดียวก็พอทิพย์ลาวัณย์ดูดน้ำมะพร้าวจากหลอดกระดาษ สีหน้าค่อยดีขึ้นกว่าเมื่อหลายนาทีก่อนจู่ ๆ ธามก็มาปรากฏตัวที่หน้าห้อง และหลังกระอักกระอ่วนกันอยู่ครู่ ก็เป็นทิพย์ลาวัณย์ที่ชวนลงมาคุยกันที่คาเฟ่ของโรงแรม ธามเห็นด้วย ส่วนอีแวนก็รออยู่ในห้องตามเดิม ไม่ได้ตามลงมาด้วยกันเธอรอให้ธามเอ่ยก่อน เพราะเขาเป็นฝ่ายมาหา แสดงว่าเขาคงมีอะไรอยากจะพูดเธอคิดถูก เพราะธามเอ่ยถามเบา ๆ แต่จริงจัง"แม่...อยากให้ผมเรียกว่าแม่ไหม"ทิพย์ลาวัณย์ไม่ได้ตั้งตัวกับคำถามนี้เลย เธอรู้สึกจุกขึ้นมาที่อก ต้องสูดหายใจลึกเพื่อไม่ให้น้ำตาไหลออกมาอีก"ไม่จำเป็นหรอกจ้ะ""ทำไมไม่จำเป็น คุณมาที่นี่ไม่ใช่เพราะอยากเจอผมในฐานะลูกชายหรอกหรือครับ"น้ำตาของทิพย์ลาวัณย์หยดลงมาจนได้"ใช่จ้ะ ฉันอยากเจอเธอมาตลอด สามสิบกว่าปีไม่มีวันไหนเลยสักวันเดียวที่ฉันจะไม่คิดถึงเธอ""แต่คุณก็ไม่เคยติดต่อหรือกลับมาหาผมเลย"ธามไม่ได้ตัดพ้อหรือถาม เขาแค่ทบทวนความเป็นจริง"เพราะแม่...เพราะฉ
แต่วีณายังไม่ทันได้ถาม... ก้อยก็รีบวิ่งกลับมาเคาะประตูด้วยท่าทางตื่นเต้น"คุณท่านคะ คุณท่าน!""อะไร! มีอะไร!""คุณธามกลับมาแล้วค่ะ มาถึงก็ถามหาคุณท่านทันทีเลยค่ะ!"* * * * * ตอนแรกธามคิดว่าอาจจะพักสมองอยู่ที่เชียงรายต่ออีกสองสามวันแต่ปีขาลเตือนเขาว่า เรื่องบางเรื่อง ปล่อยไว้นานก็จะยิ่งคุยกันไม่รู้เรื่อง 'ถึงยังไงคุณน้าก็เป็นแม่ของมึงนะธาม เลี้ยงดูกันมาขนาดนั้น จะไม่มีเยื่อใยความผูกพันกันเลยก็คงไม่ใช่ มึงกลับไปคุยกับแม่ดี ๆ เถอะ อย่างน้อยก็จะได้ใช้ชีวิตต่อไปโดยไม่มีอะไรค้างคา'ขนาดคนที่หุนหันพลันแล่นอย่างปีขาลยังบอกแบบนี้ ธามจึงนั่งเครื่องบินกลับกรุงเทพฯ มาทันทีเมื่อเลขาฯ บอกว่าท่านประธานฯ ไม่เข้าบริษัท เขาจึงมาที่บ้าน และก็เจอธัญญาจริง ๆ ในห้องทำงานของธัญญา มีกันเพียงสองคนแม่ลูก ชายหนุ่มใจชื้น อย่างน้อยแม่ก็ไม่ได้ไล่เขาทันทีที่เห็นหน้า"มาทำไม ต้องการอะไร""ผมอยากรู้ความจริงครับ ว่าผมเป็นลูกของ...คุณทีน่า...จริง ๆ ใช่ไหม""แกยังไม่ได้ไปถามมันอีกเหรอ""ผมยังไม่ได้ไปเจอเธอเลยครับ ผมอยากมาคุยกับแม่ก่อน เพราะสำหรับผม คุณทีน่าก็ไม่ต่างจากคนแปลกหน้า แม่ต่างหากที่ยังเป็นแม่ของผม""แต่สำ
หลังเพื่อนสนิทเล่าเรื่องทุกอย่างให้ฟัง ปีขาลถึงกับนั่งงงอยู่เป็นนานสองนานถ้าไม่ใช่เพราะคนเล่าคือ "ธาม" เพื่อนที่แสนจะสุขุม จริงจัง และไม่เคยล้ออะไรใครเล่น เขาก็คงนึกว่ากำลังฟังละครวิทยุอยู่แน่ ๆ"แล้วป่านนี้แม่มึง...ทั้งสองแม่ ไม่ตามหาตัวมึงให้วุ่นหรือวะ จู่ ๆ หลบมาแบบนี้""ไม่รู้"ธามตอบเนือย ๆ "แม่...หมายถึงแม่ตามกฎหมาย คงไม่อยากเห็นหน้ากูเท่าไหร่ แต่คุณทีน่า บอกตรง ๆ ว่ากูยังช็อก..."ชายหนุ่มนึกถึงหญิงคนนั้น คนที่ดวงตาซึ้งดูเศร้าแต่ก็จับใจเขาไว้ได้ตั้งแต่แรกเห็น"กูถูกชะตาเขามากตั้งแต่วันแรกที่เจอที่โรงแรม รู้สึกอยากเข้าใกล้ อยากรู้จัก... ไม่ใช่เชิงชู้สาว แต่เป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูก...""เขาเองก็คงอึดอัดอยากบอกมึงเหมือนกันว่าเป็นแม่..."ปีขาลคาดเดาจากที่เพื่อนเล่าให้ฟังก่อนหน้า"ที่จริงมันก็ไม่มีอะไรซับซ้อน ถ้าไม่เพราะคุณน้าธัญญาดันเกลียดแม่ที่ให้กำเนิดมึงน่ะไอ้ธาม..."นี่ปีขาลก็เดาอีก แต่ธามพยักหน้าเห็นด้วย"เท่าที่ได้ยิน แสดงว่าพ่อกับคุณทีน่าลักลอบมีอะไรกัน จนเกิดเป็นกูขึ้นมา กูก็คือลูกชู้ ลูกนอกสมรส ที่แม่เก็บมาเลี้ยง ไม่ใช่เพราะรัก แต่เพราะอยากทำร้าย เพื่อที่แม่แท้ ๆ จะได้เ
เวลาสองทุ่ม จังหวัดเชียงรายไร่อรุณเบิกฟ้าเปิดไฟสว่างไสวตั้งแต่ปากทางเข้าไร่มาจนถึงตัวเรือนด้านในเพราะผู้มาเยือนโทรศัพท์มาบอกล่วงหน้าหลายชั่วโมงแล้วว่ากำลังจะมา เมื่อรถเล็กซัส แอลเอ็กซ์-หกร้อย มาถึงจึงมีคนงานคอยเปิดประตูให้ และเจ้าของไร่ตัวสูงใหญ่ยืนเท้าสะเอวรอต้อนรับด้วยสีหน้าดีใจแกมโล่งใจที่เพื่อนมาถึงโดยปลอดภัย"ไงมึง"ปีขาลทักสั้น ๆ พลางเข้าไปโอบเพื่อน ตบหลังเบา ๆ หนึ่งที แล้วหันไปทักทายลุงธงคนขับรถของเพื่อนสนิท"สวัสดีครับลุง ขับมาไม่ได้พักเลยสินะครับ""ก็มีแวะปั๊มบ้างครับ"ลุงธงยิ้มเหนื่อย ๆ ไม่รู้กี่สิบปีแล้วที่ไม่ได้ขับรถออกต่างจังหวัด เพราะปกติที่ขับรถให้นาย ไกลสุดก็แค่อยุธยา"ที่จริงคุณธามแกจะขับเองครับ บอกให้ผมกลับบ้านได้เลย แต่ผมขอมาด้วย อย่างน้อยจะได้เปลี่ยนมือกัน...นี่ก็ออกมาเลย เสื้อพงเสื้อผ้าอะไรไม่มีสักตัวเลยครับ"ลุงธงบอกอย่างเป็นห่วงมากกว่าจะฟ้อง"ผมให้แม่บ้านเตรียมห้องกับพวกกับข้าวกับปลาไว้ให้ลุงแล้ว ไปกินข้าวก่อนก็แล้วกันนะลุง เดี๋ยวเสื้อผ้าสะอาด ๆ ให้แม่บ้านหาให้แป๊บเดียว...แม่ต้อย ฝากดูแลลุงเปิ้นกำเน่อ""เจ้า"แม่บ้านวัยกลางคนรับคำแล้วพาลุงธงเดินหายเข้าไปด้านหลั
ธามยังจับต้นชนปลายไม่ถูก...เขาอยากจะคิดว่านี่เป็นเรื่องตลก เขากำลังถูกแกล้ง แต่สีหน้าของผู้หญิงสูงวัยสองคนที่กำลังมองมาที่เขาก็จริงจังเกินกว่าจะคิดเช่นนั้น"ทำไมแม่พูดอย่างนั้นล่ะครับ ก็แม่เป็นแม่ผม...""ใช่ แม่ควรจะเป็นแม่ของแก แม่ก็เคยเชื่อแบบนั้น"ธัญญาหันกลับไปมองทิพย์ลาวัณย์อย่างเจ็บแค้น"ฉันให้แกมาอุ้มบุญลูกของฉัน แต่แกกับทิมกลับสวมเขาให้ แอบไปมีอะไรกันตอนไหนฉันก็ไม่รู้ ไม่เคยคิดจะระแวงเลยสักครั้ง แต่ตอนแกเกิด สายตาของแกกับทิมทำให้ฉันสงสัยและตัดสินใจแอบตรวจดีเอ็นเอ จึงได้รู้ว่าเด็กคนนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับฉันเลย... แกหลอกฉันตลอดแปดเก้าเดือนที่ท้อง แกกับทิม เลวทั้งคู่""แม่...นี่มันอะไรกัน ผมงงไปหมดแล้วนะครับ""จนป่านนี้แล้วยังไม่ชัดอีกหรือไง"ธัญญาหันมาตอบเสียงดังจนแทบเป็นตะโกน"ฉันไม่ใช่แม่แท้ ๆ ของแก ฉันแค่เลี้ยงแกมา เพราะว่าแม่แท้ ๆ ของแกมันเป็นชู้ มันแค่อุ้มท้องแล้วก็คลอด แล้วก็ต้องหนีไปอยู่เมืองนอกเพราะทนขายขี้หน้าไม่ได้ที่แอบนอนกับผัวของพี่สาว..."ธามหน้าซีดเผือด ไม่กล้ามองทิพย์ลาวัณย์ให้ชัด ๆ ด้วยซ้ำ ธัญ