"...คุณมันเเห็นแก่ตัวที่จะเอาให้ได้ทุกอย่างในชีวิตนี้ ผู้หญิงบริสุทธิ์ก็จะเอา แม่ของลูกก็จะเอา เมียที่คอยปรนเปรอบนเตียงก็จะเอา!!!" -- "อุ้มรักสัญญาเถื่อน" โดย ลิขิตา นิยายแนวดราม่า ครอบครัว ปมความลับทับกันไปมา ไม่ต้องกลัวเครียด 🥰🥰 - ไม่เคยเผยแพร่ที่ไหน อ่านได้ที่เดียวที่ Goodnovel เท่านั้น #goodnovel #อุ้มรักสัญญาเถื่อน 🔞 คำเตือนสำหรับผู้อ่าน 🔞 เรื่องนี้แต่งขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น บริบทต่าง ๆ ล้วนสมมติขึ้น ไม่เกี่ยวข้องกับบุคคลหรือเหตุการณ์จริงใด ๆ ทั้งสิ้น โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
더 보기“ตาล! พี่บอกแล้วไงว่าอย่ามาที่นี่ ทำไมไม่เชื่อกันบ้าง”
ศักดิ์สยามเอ่ยด้วยน้ำเสียงกึ่งโมโห ทันทีที่เห็นเด็กสาวร่างบางในชุดนักศึกษาปรากฏตัวอยู่หน้าห้องฝากขังบนสถานีตำรวจ สีหน้าเขาอาจดูขุ่นเคืองแต่เธอรู้ดีว่าพี่ชายกำลังห่วงใยมากกว่าจะโกรธ ดวงตาของศีตลาหรือลูกตาล ยังคงแดงก่ำจากความเครียดสะสมและการร้องไห้ เธอจะไม่มาได้อย่างไรในเมื่อศักดิ์สยามคือครอบครัวเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ สาวน้อยร่างบางส่ายหน้าทั้งน้ำตา “ตาลจะหาทางช่วยพี่ต้นออกไปให้ได้” “ไม่ต้องมายุ่งเรื่องนี้ พี่จัดการเองได้” “แล้วพี่ต้นจะจัดการยังไง มีคนช่วยแล้วหรือ” “มีสิ...พี่มีทนาย” ศักดิ์สยามตอบ แต่ถ้อยคำที่ควรจะฟังดูมั่นใจกลับไม่หนักแน่นนัก ราวกับเจ้าตัวก็ยังไม่เชื่อคำพูดของตัวเอง “ทนายที่ไหน ทนายอาสาหรือ?” ศีตลาต้องถามออกไปแบบนั้นเพราะรู้กันดีว่าสองพี่่น้องคงไม่มีปัญญาจ้างทนายเก่ง ๆ ค่าตัวแพง ๆ มาสู้คดี ชายหนุ่มที่ยืนอยู่หลังซี่ลูกกรงส่ายหน้าน้อย ๆ ไม่กล้าแม้แต่จะสบตาน้องสาว “ไม่ใช่หรอก...ทนายของคุณเพิร์ลเขาน่ะ” แม้กระทั่งตอนนี้ ตอนที่เขาสิ้นอิสรภาพ น้ำเสียงที่ศักดิ์สยามใช้เอ่ยถึงผู้หญิงอีกคนก็ยังเจือไปด้วยความรักใคร่ใยดี แต่คนเป็นน้องสาวขมวดคิ้วแน่น “คุณเพิร์ล? คุณไข่มุกเมียของเจ้านายพี่น่ะเหรอ" ศักดิ์สยามกัดกรามแน่น จำใจต้องพยักหน้าน้อย ๆ แม้สีหน้าเจ็บปวดของพี่ชายจะบ่งบอกความนัยบางอย่าง แต่คนเป็นน้องสาวก็ยังไม่แน่ใจนัก "แล้วคุณไข่มุกอะไรนี่เขาจะช่วยพี่ต้นทำไม...อย่าบอกนะว่าที่ตาลได้ยินมา มันเป็นความจริง” “แล้วตาลได้ยินอะไรมาล่ะ” “ก็ได้ยินมาว่า...” เสียงของศีตลาเบาลง แฝงความไม่แน่ใจว่าควรจะพูดมันออกมาดีหรือไม่ “ตาลได้ยินมาว่า พี่ต้นกับคุณไข่มุก...มีซัมติงกัน" ศักดิ์สยามหัวเราะขื่น เงยหน้าขึ้นสบตาน้องสาวอย่างคนที่กำลังสมเพชตัวเองง “จะถามว่าพี่กับคุณเพิร์ลเป็นชู้กันจริงหรือเปล่า อย่างนั้นใช่ไหมล่ะ...คำตอบคือ ใช่” “พี่ต้น...” ศีตลาครางแผ่ว เสียงสะอื้นข่มกลั้นกลืนลงไปในลำคอ เธอหวังไว้ลึก ๆ ว่าพี่ชายอาจจะปฏิเสธ หรือไม่ก็อธิบายว่ามันก็แค่เรื่องเข้าใจผิด แต่ไม่ใช่การยอมรับตรง ๆ อย่างนี้ “ถ้าอย่างนั้น...เรื่องที่พี่ยักยอกเงินบริษัทเพื่อนำมาให้คุณเพิร์ล...มันก็เป็นเรื่องจริงด้วยหรือ” ศีตลาถามเสียงเบาหวิว และความเงียบของศักดิ์สยามก็เหมือนคำยืนยันที่ทรงพลังที่สุด “ตาลไม่เข้าใจเลย...คุณไข่มุกก็เป็นเมียคุณธาม แถมยังมาจากครอบครัวที่มีฐานะ ใครก็รู้ว่าเธอร่ำรวยมากแค่ไหน แล้วทำไมพี่จะต้องยักยอกเงินเพื่อเอาไปให้ผู้หญิงคนนั้นด้วย" "ตาลไม่เข้าใจหรอก" "ใช่ ตาลไม่เข้าใจ พี่ต้นก็อธิบายให้ตาลเข้าใจสิ คนดี ๆ อย่างพี่ต้นทำไมถึงทำเรื่องแบบนี้ พี่ทำมันลงไปได้ยังไง" "พี่ไม่ใช่คนดีหรอกตาล พี่ก็แค่ผู้ชายชั่ว ๆ คนหนึ่งเท่านั้น" ชายหนุ่มก้มหน้าเอ่ยเสียงเบา เจ็บปวดที่ต้องทำให้น้องสาวผิดหวัง แต่เขาจะยอมรับมันไว้เองทุกอย่าง ไม่มีทางจะให้เรื่องนี้ต้องกระทบกระเทือนชื่อเสียงหรือความรู้สึกของไข่มุกไปมากกว่านี้ ศักดิ์สยามรักไข่มุก แม้เธอจะเป็นภรรยาของเจ้านายของเขา มันเริ่มต้นจากความเห็นอกเห็นใจ เมื่อไข่มุกค่อย ๆ มาปรับทุกข์ให้เขาฟังว่าแท้จริงแล้ว 'คุณธาม' เป็นคนโหดร้ายเพียงใด เขาเป็นสามีที่ทั้งนอกใจ ทุบตี และไม่เคยให้เกียรติ ชายหนุ่มยังเคยไปรับเธอออกจากคอนโดหรูหลังหนึ่ง เธอเดินลงมาทั้งน้ำตา รอยฟกช้ำ และเสียงสั่นเครือ 'คุณเพิร์ลครับ ถ้าคุณเพิร์ลจะแจ้งความ ผมพร้อมจะไปเป็นเพื่อน' 'ไม่...ต้น ฉันจะไม่ทำอย่างนั้น ครอบครัววงศ์ตระกูลของฉันยังไม่พร้อมจะรับความจริงเรื่องนี้ และธามเองก็คงไม่ปล่อยให้ฉันเอาเรื่องเขาได้ง่าย ๆ หรอก ดูสิ ฉันอุตส่าห์หนีเขามาอยู่คอนโดฯ เขาก็ยังตามมาทำร้ายถึงที่นี่' ตอนนั้นไข่มุกสะอึกสะอื้น ผู้หญิงที่สวยงามและน่าทนุถนอมอย่างเธอช่างดูน่าสงสารจนเขาแทบจะข่มความโกรธไว้ไม่ได้ อยากจะแล่นไปกระชากหน้ากากไอ้ธาม...ไอ้คนใจร้ายนั่นให้โลกได้รู้ว่ามันชั่วช้ามากแค่ไหน ความเห็นใจค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นความรู้สึกที่อยากปกป้อง ยิ่งไข่มุกแสดงออกว่าเธอไว้วางใจเขามากแค่ไหน ศักดิ์สยามก็ยิ่งทุ่มเทใจให้เธอมากเท่านั้น และเมื่อวันหนึ่งที่เขาและเธอมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกัน ศักดิ์สยามก็กลายเป็นผู้ชายที่จงรักภักดีชนิดที่ยอมตายแทนได้ไปเลยทันที 'ต้น...เธอรอฉันนะ สักวันเมื่อฉันเก็บหลักฐานพร้อม ฉันจะฟ้องหย่า และเราจะไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยกัน' ไข่มุกเคยบอกเขาด้วยน้ำเสียงจริงใจและอ่อนหวาน เรือนร่างเย้ายวนของเธอยังคงกอดก่ายเขาอยู่ ทั้งคู่ลักลอบหาเวลาพบปะกันได้เสมอ...ยิ่งต้องหลบต้องซ่อน เขาก็ยิ่งลุ่มหลงและปรารถนาเธอจนแทบขาดใจ จนวันหนึ่งไข่มุกบอกว่าเธอมีแผนจะแก้แค้นเขา... 'นอกจากฉันจะได้เอาคืนธาม เราสองคนจะได้มีทุนไปจ้างทนายฟ้องหย่าที่เก่ง ๆ และฉันจะได้มีเงินไปตั้งต้นชีวิตใหม่' ไข่มุกถึงแผนการของเธอที่จะให้ศักดิ์สยามตกแต่งบัญชีเพื่อยักยอกเงินบริษัทในเครือของธามเอนเตอร์ไพรซ์ 'ผม...ผมไม่แน่ใจครับคุณเพิร์ล' ตอนนั้นชายหนุ่มเอ่ยไปแบบนั้น เขาอาจจะเลวพอที่จะลักลอบเป็นชู้กับเมียเจ้านาย แต่ให้ยักยอกเงินด้วยนั้น...มันอีกเรื่อง แต่แววตาผิดหวังตัดพ้อของไข่มุกก็ทำให้หัวใจชายหนุ่มเจ็บแปลบและอ่อนยวบ 'เธอคิดว่าฉันมีเงินเยอะแยะหรือต้น เงินพวกนั้นก็เป็นของคุณพ่อกับธามเขาทั้งนั้น ฉันไม่มีอะไรเลย ธามถึงได้ข่มเหงฉันเพราะเขารู้ว่าฉันไม่มีปัญญาหนีเขาไปยังไงล่ะ...' ไข่มุกปาดน้ำตาที่ร่วงหล่นลงบนแก้มขาวนวล เธอช่างดูน่าสงสารเหลือเกิน... 'ไม่เป็นไรหรอกต้น ฉันยอมแพ้แล้ว จากนี้เราไม่ควรจะพบกันอีก' 'ไม่ครับ ผมจะทำ อย่าพูดว่าเราจะไม่เจอกันอีกนะคุณเพิร์ล ผมรักคุณยิ่งกว่าชีวิตผมเองอีกนะครับ' 'คำพูดใครก็พูดได้ ธามก็บอกว่ารักฉันเหมือนกัน...' 'ผมไม่เหมือนเขา' ศักดิ์สยามประกาศก้องด้วยความไม่พอใจ ผมไม่มีทางทำร้ายคุณเพิร์ลเหมือนที่เขาทำ...อย่าร้องไห้ไปเลยนะครับทูนหัว ผมจะทำทุกอย่างตามที่คุณบอก เพื่อแก้แค้นเขาและเพื่ออิสรภาพของคุณที่ผมรัก...'ธามรีบไปโรงพยาบาลทันทีที่มีคนโทรศัพท์มาบอก ทิพย์ลาวัณย์อยากไปด้วยแต่เขาขอร้องไว้"ผมว่าแม่รออยู่ที่นี่ก่อนดีกว่านะครับ ผมไม่แน่ใจว่าถ้าคุณแม่...หมายถึงคุณหญิงธัญญาถ้าเห็นหน้าแม่ แล้วท่านจะมีอาการโกรธเกรี้ยวอะไรขึ้นมาอีก"ธามพูดตามตรงและทิพย์ลาวัณย์ก็เข้าใจ ก่อนเขาออกไป เธอจับมือเขาไปบีบไว้ มือของเธอเย็นเฉียบเหมือนกลัวว่าจะไม่ได้จับมือคู่นี้ของธามไว้อีกชายหนุ่มสบตาแม่ผู้ให้กำเนิดอย่างเข้าใจ วูบหนึ่งเขารู้สึกอยากกอด แต่เพราะถูกเลี้ยงดูอย่างห่างเหินมาตลอดชีวิต เขาจึงยังไม่กล้าทำ"แม่ไม่ต้องห่วงนะครับ เดี๋ยวมีอะไรคืบหน้าผมจะรีบกลับมา...ผมไม่หายไปไหนอีกแน่นอน แม่สบายใจนะครับ"ประโยคนั้นจึงทำให้ทิพย์ลาวัณย์ยิ้มออกมาได้ นั่นสิ...ความกังวลที่สั่งสมมานานค่อยๆ สะสางไปทีละปมทีละเปลาะทีนี้ก็เหลือแต่พี่สาวของเธอเท่านั้น ธัญญาจะเป็นปมสุดท้ายที่คลี่คลายได้หรือไม่ ก็คงไม่มีใครรู้นอกจากเจ้าตัวเพียงคนเดียว* * * * *ที่โรงพยาบาล ธัญญาเข้าพักในห้องพิเศษ ธามเจอก้อยที่หน้าห้องเป็นคนแรก"แม่เป็นอะไรก้อย...เกิดอะไรขึ้น"ธามถามเสียงเครียด เพราะถ้าเด็กแม่บ้านถึงกับต้องตามมาด้วยอาจเป็นได้ว่าแม่ของเขาอาการหนั
"ดื่มน้ำผลไม้สักหน่อยนะครับ..."ธามบอกผู้หญิงที่นั่งตรงหน้าเขาเมื่อตอนที่พนักงานในห้องอาหารนำมะพร้าวน้ำหอมสด ๆ มาเสริฟที่โต๊ะที่ทั้งคู่นั่งอยู่ ส่วนตัวเขาแค่กาแฟแก้วเดียวก็พอทิพย์ลาวัณย์ดูดน้ำมะพร้าวจากหลอดกระดาษ สีหน้าค่อยดีขึ้นกว่าเมื่อหลายนาทีก่อนจู่ ๆ ธามก็มาปรากฏตัวที่หน้าห้อง และหลังกระอักกระอ่วนกันอยู่ครู่ ก็เป็นทิพย์ลาวัณย์ที่ชวนลงมาคุยกันที่คาเฟ่ของโรงแรม ธามเห็นด้วย ส่วนอีแวนก็รออยู่ในห้องตามเดิม ไม่ได้ตามลงมาด้วยกันเธอรอให้ธามเอ่ยก่อน เพราะเขาเป็นฝ่ายมาหา แสดงว่าเขาคงมีอะไรอยากจะพูดเธอคิดถูก เพราะธามเอ่ยถามเบา ๆ แต่จริงจัง"แม่...อยากให้ผมเรียกว่าแม่ไหม"ทิพย์ลาวัณย์ไม่ได้ตั้งตัวกับคำถามนี้เลย เธอรู้สึกจุกขึ้นมาที่อก ต้องสูดหายใจลึกเพื่อไม่ให้น้ำตาไหลออกมาอีก"ไม่จำเป็นหรอกจ้ะ""ทำไมไม่จำเป็น คุณมาที่นี่ไม่ใช่เพราะอยากเจอผมในฐานะลูกชายหรอกหรือครับ"น้ำตาของทิพย์ลาวัณย์หยดลงมาจนได้"ใช่จ้ะ ฉันอยากเจอเธอมาตลอด สามสิบกว่าปีไม่มีวันไหนเลยสักวันเดียวที่ฉันจะไม่คิดถึงเธอ""แต่คุณก็ไม่เคยติดต่อหรือกลับมาหาผมเลย"ธามไม่ได้ตัดพ้อหรือถาม เขาแค่ทบทวนความเป็นจริง"เพราะแม่...เพราะฉ
แต่วีณายังไม่ทันได้ถาม... ก้อยก็รีบวิ่งกลับมาเคาะประตูด้วยท่าทางตื่นเต้น"คุณท่านคะ คุณท่าน!""อะไร! มีอะไร!""คุณธามกลับมาแล้วค่ะ มาถึงก็ถามหาคุณท่านทันทีเลยค่ะ!"* * * * * ตอนแรกธามคิดว่าอาจจะพักสมองอยู่ที่เชียงรายต่ออีกสองสามวันแต่ปีขาลเตือนเขาว่า เรื่องบางเรื่อง ปล่อยไว้นานก็จะยิ่งคุยกันไม่รู้เรื่อง 'ถึงยังไงคุณน้าก็เป็นแม่ของมึงนะธาม เลี้ยงดูกันมาขนาดนั้น จะไม่มีเยื่อใยความผูกพันกันเลยก็คงไม่ใช่ มึงกลับไปคุยกับแม่ดี ๆ เถอะ อย่างน้อยก็จะได้ใช้ชีวิตต่อไปโดยไม่มีอะไรค้างคา'ขนาดคนที่หุนหันพลันแล่นอย่างปีขาลยังบอกแบบนี้ ธามจึงนั่งเครื่องบินกลับกรุงเทพฯ มาทันทีเมื่อเลขาฯ บอกว่าท่านประธานฯ ไม่เข้าบริษัท เขาจึงมาที่บ้าน และก็เจอธัญญาจริง ๆ ในห้องทำงานของธัญญา มีกันเพียงสองคนแม่ลูก ชายหนุ่มใจชื้น อย่างน้อยแม่ก็ไม่ได้ไล่เขาทันทีที่เห็นหน้า"มาทำไม ต้องการอะไร""ผมอยากรู้ความจริงครับ ว่าผมเป็นลูกของ...คุณทีน่า...จริง ๆ ใช่ไหม""แกยังไม่ได้ไปถามมันอีกเหรอ""ผมยังไม่ได้ไปเจอเธอเลยครับ ผมอยากมาคุยกับแม่ก่อน เพราะสำหรับผม คุณทีน่าก็ไม่ต่างจากคนแปลกหน้า แม่ต่างหากที่ยังเป็นแม่ของผม""แต่สำ
หลังเพื่อนสนิทเล่าเรื่องทุกอย่างให้ฟัง ปีขาลถึงกับนั่งงงอยู่เป็นนานสองนานถ้าไม่ใช่เพราะคนเล่าคือ "ธาม" เพื่อนที่แสนจะสุขุม จริงจัง และไม่เคยล้ออะไรใครเล่น เขาก็คงนึกว่ากำลังฟังละครวิทยุอยู่แน่ ๆ"แล้วป่านนี้แม่มึง...ทั้งสองแม่ ไม่ตามหาตัวมึงให้วุ่นหรือวะ จู่ ๆ หลบมาแบบนี้""ไม่รู้"ธามตอบเนือย ๆ "แม่...หมายถึงแม่ตามกฎหมาย คงไม่อยากเห็นหน้ากูเท่าไหร่ แต่คุณทีน่า บอกตรง ๆ ว่ากูยังช็อก..."ชายหนุ่มนึกถึงหญิงคนนั้น คนที่ดวงตาซึ้งดูเศร้าแต่ก็จับใจเขาไว้ได้ตั้งแต่แรกเห็น"กูถูกชะตาเขามากตั้งแต่วันแรกที่เจอที่โรงแรม รู้สึกอยากเข้าใกล้ อยากรู้จัก... ไม่ใช่เชิงชู้สาว แต่เป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูก...""เขาเองก็คงอึดอัดอยากบอกมึงเหมือนกันว่าเป็นแม่..."ปีขาลคาดเดาจากที่เพื่อนเล่าให้ฟังก่อนหน้า"ที่จริงมันก็ไม่มีอะไรซับซ้อน ถ้าไม่เพราะคุณน้าธัญญาดันเกลียดแม่ที่ให้กำเนิดมึงน่ะไอ้ธาม..."นี่ปีขาลก็เดาอีก แต่ธามพยักหน้าเห็นด้วย"เท่าที่ได้ยิน แสดงว่าพ่อกับคุณทีน่าลักลอบมีอะไรกัน จนเกิดเป็นกูขึ้นมา กูก็คือลูกชู้ ลูกนอกสมรส ที่แม่เก็บมาเลี้ยง ไม่ใช่เพราะรัก แต่เพราะอยากทำร้าย เพื่อที่แม่แท้ ๆ จะได้เ
เวลาสองทุ่ม จังหวัดเชียงรายไร่อรุณเบิกฟ้าเปิดไฟสว่างไสวตั้งแต่ปากทางเข้าไร่มาจนถึงตัวเรือนด้านในเพราะผู้มาเยือนโทรศัพท์มาบอกล่วงหน้าหลายชั่วโมงแล้วว่ากำลังจะมา เมื่อรถเล็กซัส แอลเอ็กซ์-หกร้อย มาถึงจึงมีคนงานคอยเปิดประตูให้ และเจ้าของไร่ตัวสูงใหญ่ยืนเท้าสะเอวรอต้อนรับด้วยสีหน้าดีใจแกมโล่งใจที่เพื่อนมาถึงโดยปลอดภัย"ไงมึง"ปีขาลทักสั้น ๆ พลางเข้าไปโอบเพื่อน ตบหลังเบา ๆ หนึ่งที แล้วหันไปทักทายลุงธงคนขับรถของเพื่อนสนิท"สวัสดีครับลุง ขับมาไม่ได้พักเลยสินะครับ""ก็มีแวะปั๊มบ้างครับ"ลุงธงยิ้มเหนื่อย ๆ ไม่รู้กี่สิบปีแล้วที่ไม่ได้ขับรถออกต่างจังหวัด เพราะปกติที่ขับรถให้นาย ไกลสุดก็แค่อยุธยา"ที่จริงคุณธามแกจะขับเองครับ บอกให้ผมกลับบ้านได้เลย แต่ผมขอมาด้วย อย่างน้อยจะได้เปลี่ยนมือกัน...นี่ก็ออกมาเลย เสื้อพงเสื้อผ้าอะไรไม่มีสักตัวเลยครับ"ลุงธงบอกอย่างเป็นห่วงมากกว่าจะฟ้อง"ผมให้แม่บ้านเตรียมห้องกับพวกกับข้าวกับปลาไว้ให้ลุงแล้ว ไปกินข้าวก่อนก็แล้วกันนะลุง เดี๋ยวเสื้อผ้าสะอาด ๆ ให้แม่บ้านหาให้แป๊บเดียว...แม่ต้อย ฝากดูแลลุงเปิ้นกำเน่อ""เจ้า"แม่บ้านวัยกลางคนรับคำแล้วพาลุงธงเดินหายเข้าไปด้านหลั
ธามยังจับต้นชนปลายไม่ถูก...เขาอยากจะคิดว่านี่เป็นเรื่องตลก เขากำลังถูกแกล้ง แต่สีหน้าของผู้หญิงสูงวัยสองคนที่กำลังมองมาที่เขาก็จริงจังเกินกว่าจะคิดเช่นนั้น"ทำไมแม่พูดอย่างนั้นล่ะครับ ก็แม่เป็นแม่ผม...""ใช่ แม่ควรจะเป็นแม่ของแก แม่ก็เคยเชื่อแบบนั้น"ธัญญาหันกลับไปมองทิพย์ลาวัณย์อย่างเจ็บแค้น"ฉันให้แกมาอุ้มบุญลูกของฉัน แต่แกกับทิมกลับสวมเขาให้ แอบไปมีอะไรกันตอนไหนฉันก็ไม่รู้ ไม่เคยคิดจะระแวงเลยสักครั้ง แต่ตอนแกเกิด สายตาของแกกับทิมทำให้ฉันสงสัยและตัดสินใจแอบตรวจดีเอ็นเอ จึงได้รู้ว่าเด็กคนนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับฉันเลย... แกหลอกฉันตลอดแปดเก้าเดือนที่ท้อง แกกับทิม เลวทั้งคู่""แม่...นี่มันอะไรกัน ผมงงไปหมดแล้วนะครับ""จนป่านนี้แล้วยังไม่ชัดอีกหรือไง"ธัญญาหันมาตอบเสียงดังจนแทบเป็นตะโกน"ฉันไม่ใช่แม่แท้ ๆ ของแก ฉันแค่เลี้ยงแกมา เพราะว่าแม่แท้ ๆ ของแกมันเป็นชู้ มันแค่อุ้มท้องแล้วก็คลอด แล้วก็ต้องหนีไปอยู่เมืองนอกเพราะทนขายขี้หน้าไม่ได้ที่แอบนอนกับผัวของพี่สาว..."ธามหน้าซีดเผือด ไม่กล้ามองทิพย์ลาวัณย์ให้ชัด ๆ ด้วยซ้ำ ธัญ
댓글