ปกติไข่มุกจะไม่ตื่นมากินอาหารเช้าจนกว่าจะเก้าโมง แต่ช่วงนี้หญิงสาวจงใจอยู่ให้ธามเห็นหน้าตลอดเวลาเพราะอยากก่อกวนทำสงครามประสาทกับเขา ธามรับประทานอาหารเช้าของเขาไปเงียบ ๆ อย่างไม่เร่งรีบเพราะเช้าวันเสาร์เขาไม่มีนัดที่ไหน ไข่มุกก็กรีดกรายใช้มีดตัดเนยทาบนขนมปังที่ตัวเองไม่เคยคิดจะกิน
"รับกาแฟเพิ่มไหมคะธาม..."น้ำเสียงหวานเอ่ยอย่างเอาอกเอาใจ นี่ก็อีกเหมือนกัน แต่งงานกันมาไข่มุกไม่เคยใ่ส่ใจเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ของสามี แต่นี่เธอจงใจยวนเขา
"ผมพอแล้ว ขอบคุณ"
ธามตอบกลับอย่างสุภาพและห่างเหิน ไข่มุกขบริมฝีปากตัวเอง ข่มใจที่จะไม่หยิบแก้วน้ำส้มแล้วปาออกไปเพื่อเรียกร้องความสนใจจากเขา...สามีผู้เพียบพร้อมที่เย็นชาจนเธอโมโห
“คุณผู้หญิงคะมีคนมาขอพบค่ะ”
ละออง แม่บ้านค่อนข้างสูงวัยเดินเข้ามาบอกอย่างนอบน้อม อารมณ์หงุดหงิดของหญิงสาวจึงเปลี่ยนเป้าหมายไปที่อื่น
“ใคร! ใครที่ไหนบ้ามาหาแต่เช้า”
“เอ่อ เขาบอกว่าชื่อสี...สีลาสีดาอะไรนี่ล่ะค่ะ เป็นน้องชายคนที่ชื่ออะไรสัก ๆ อะไรสักอย่างนี่แหละค่ะ เอ...เมื่อกี้ป้าก็จำได้นะ แต่ตอนนี้กลับลืมไปเสียได้"
ไข่มุกหันไปสบตาธามทันทีและก็เห็นว่าเขาก็มองเธออยู่เช่นกัน คิ้วเข้มยกขึ้นนิด ๆ เป็นเชิงถาม ไข่มุกกัดกรามแน่น ก่อนจะหันไปสั่งแม่บ้านด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด
“ไล่มันกลับไป! ฉันไม่มีธุระอะไรจะพูดกับคนพวกนั้น”
ละอองสะดุ้งกับน้ำเสียงของผู้เป็นนาย ท่าทีเงอะงะทำให้ไข่มุกหันไปสั่งเด็กรับใช้อีกคนที่อายุน้อยกว่า
"นังก้อย แกไปบอกมันหรือใครก็ตามที่มาหาฉัน ว่าให้ไสหัวไป ฉันไม่ให้ใครมาพบฉันทั้งนั้น แล้วถ้าพวกมันไม่ยอมไป แกก็โทรเรียกตำรวจได้เลย"
"ได้ค่ะคุณผู้หญิง"
ก้อยรีบรับคำอย่างกระตือรือร้น แล้ววิ่งตื๋อออกไปตามคำสั่ง
"คุณรู้หรือว่าใครมาหา ถึงได้บอกว่าไม่มีธุระอะไรกับเขา"
ธามถามเสียงเรียบ ไข่มุกหน้าตึง
"ไม่รู้ และไม่อยากรู้ แล้วคุณก็ไม่ต้องเอาเรื่องพวกนี้มายัดเยียดให้ฉันด้วยนะธาม"
"เรื่องพวกนี้ เรื่องพวกไหน"
"เอ๊ะ! จะมากวนฉันทำไม ฉันยิ่งอารมณ์ไม่ดีอยู่"
หญิงสาวเอ่ยเสียงสูง แม้เธอจะสามารถเอาตัวรอดจากคดียักยอกทรัพย์ของศักดิ์สยามได้ แต่ลึก ๆ ในใจก็ยังสะดุ้งสะเทือนตามประสาวัวสันหลังหวะ
ที่ด้านหน้าของตัวบ้าน ก้อยเดินมาแจ้ง 'แขก' ของคุณผู้หญิงตามที่ได้รับบัญชามา
“นี่เธอ คุณผู้หญิงไม่ให้พบ กลับไปได้แล้ว"
“หมายความว่ายังไงคะ ไม่ให้พบ"
“ไม่ให้พบก็แปลว่าไม่ให้พบยังไงล่ะ เข้าใจยากตรงไหน”
ศีตลาหน้าซีดเผือด แต่ยังใจแข็งสูดหายใจลึกก่อนพยายามอย่างสุภาพและเป็นมิตร
“แต่ฉันมีธุระสำคัญจะคุยกับคุณไข่มุก ขอความกรุณาเถอะนะคะ”
“เอ๊ะ! ก็คุณผู้หญิงไม่อยากพบ กลับไปได้แล้วไปไป๊"
“พี่...ไปบอกคุณผู้หญิงของพี่อีกสักครั้งเถอะ มันเรื่องสำคัญจริง ๆ พี่ชายฉันถึงกับผูกคอตายในคุกเลยนะ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ นะพี่”
ก้อยตกใจพูดอะไรไม่ออกไปเล็กน้อย
"ผูกคอตาย ใครตาย แล้ว...แล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณผู้หญิงของฉันยะ”
“เกี่ยวสิคะ เกี่ยวมากด้วย เรื่องนี้เกี่ยวกับคุณไข่มุกแน่นอน”
ศีตลาเริ่มเสียงดังทั้งใจเสียและร้อนรนเป็นห่วงเรื่องศักดิ์สยาม
"ถ้าเขาไม่ออกมา ฉันก็จะรออยู่ตรงนี้จนกว่าจะได้คุยกัน"
"อ้าวเธอนี่ พูดอย่างนี้ฉันโทรเรียกตำรวจได้นะ"
"ก็โทรเลยค่ะ ดีเหมือนกันจะได้ให้ตำรวจช่วยไกล่เกลี่ย"
ศีตลาบอกอย่างที่ใจคิด ก้อยอึกอักลังเล ก่อนจะหันไปเห็นคนขับรถที่กำลังเดินตรงมาทางนี้
"ลุงธง ๆ มานี่ที ช่วยมาไล่นังนี่ไปที เป็นใครก็ไม่รู้ ไล่ก็ไม่ไป"
ศีตลาตกใจที่ก้อยพูดแบบนั้น เมื่อหันไปเห็นชายวัยกลางคนที่แต่งตัวด้วยชุดซาฟารีสีเทาเข้มกำลังเดินตรงมาที่เธอ ก็ตัดสินใจได้ทันทีว่าเป็นไงเป็นกัน วันนี้เธอจะต้องหาคนไปช่วยพี่ชายของเธอให้ได้
"ว้าย! จะไปไหนน่ะ"
ก้อยกรีดร้องเมื่อศีตลาทำท่าจะวิ่งโผเข้าไปในตัวบ้าน ปากก็กรี๊ด ขาก็ขยับ มือก็พยายามไขว่คว้ายื้อยุดฉุดแขนแขกไม่ได้รับเชิญเอาไว้
“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้นะ เข้ามาไม่ได้ พูดไม่รู้เรื่องหรือยังไง”
“ไม่กลับ! จนกว่าฉันจะได้พบกับคุณไข่มุก”
“ก็บอกว่าไม่ได้ไง อีบ้า! กรี๊ด! ลุงธงมาช่วยกันเร็ว ใครก็ได้โทรแจ้งตำรวจให้ที คนบ้าจะเข้าบ้าน"
"แจ้งเลย แน่จริงก็โทรเรียกตำรวจเลย!"
ศีตลาร้องออกไประหว่างยื้อยุดกับก้อยเช่นกัน ลุงธงที่เป็นคนขับรถก็พยายามเข้ามาช่วยแต่ยังเก้ ๆ กัง ๆ เพราะไม่กล้าโดนตัวเด็กสาวทั้งสองคน
"ทำบ้าอะไรกัน!"เสียงแหลมปรี๊ดบ่งบอกอารมณ์โกรธจัดของไข่มุกดังขึ้น ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นหยุดชะงักกันไปทันที ดวงตาไฮโซสาวยามนี้วาวโรจน์ สีหน้าเหมือนจะฆ่าคนได้
“แกเป็นใครฉันไม่สน! แต่ต้องออกจากบ้านฉันไปเดี๋ยวนี้”
แต่นาทีนี้ ศีตลาเป็นห่วงพี่ชายเกินกว่าจะกลัวสิ่งใด
“คุณไข่มุกใช่ไหมคะ ฉันมาเพราะเรื่องพี่ชายฉัน พี่ฉันชื่อศักดิ์สยาม เขาเป็น..."
"ฉันไม่สน! พี่แกจะเป็นใครก็ไม่ต้องสาระแนมาบอกฉัน นายธง ลากยัยบ้านี่ออกไปแล้วนังก้อยแกโทรหาตำรวจเดี๋ยวนี้"
"ค่ะคุณผู้หญิง"
ก้อยสะบัดแขนออกจากมือของศีตลา รีบจัดแต่งผมที่กระเซอะกระเซิงและกำลังจะวิ่งไปโทรศัพท์ แต่ศีตลาโพล่งขึ้นมาก่อนด้วยเสียงไม่เบาเลย
"พี่ฉันกับคุณมีอะไรกันไม่ใช่หรือคุณไข่มุก คุณจะไม่ช่วยเขาเลยสักนิดเหรอ"
สีสันบนใบหน้าของไฮโซสาวเผือดหายไปทันที วินาทีต่อมามันก็แดงก่ำเช่นเดียวกับดวงตาที่ลุกวาบเหมือนมีใครราดน้ำมันใส่กองไฟ
"ออกไปเดี๋ยวนี้นะ ฉันบอกให้ออกไป๊"
“ฉันไม่ไป ฉันจะพูด พี่ชายฉันกับคุณเป็นชู้กัน และเรื่องที่พี่ยักยอกเงินก็เพราะ..."
เด็กสาวพูดยังไม่ทันจบตอนที่ไข่มุกโผมาถึงตัวและตบหน้าเธออย่างแรงชนิดไม่ให้ทันตั้งตัว
ศีตลาถึงกับเซหน้าหัน น้ำตาไหลพรากออกมาทันทีทั้งเจ็บและโกรธ เมื่อตั้งหลักได้กางมือขึ้นหมายจะพุ่งไปเอาคืนแต่ก็ต้องอุทานเมื่อมีมือที่แข็งแรงกว่ายุดข้อมือเธอไว้ได้ก่อน
ศีตลาร้องด้วยความเจ็บ ดิ้นรนตามสัญชาติญาณและเงยหน้ามองเจ้าของมืออุ่น เขาสูงกว่าที่เธอคิดไว้มาก ผู้ชายตัวสูง ผิวขาว ตัดกับเรือนผมสีดำ ดวงตาสีดำ คนที่เธอเคยเห็นเขาบ่อย ๆ ในสื่อต่าง ๆ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้พบตัวจริงของเขา
คุณธาม ธนกิจ...เจ้านายของพี่ชายเธอนั่นเอง
แต่วีณายังไม่ทันได้ถาม... ก้อยก็รีบวิ่งกลับมาเคาะประตูด้วยท่าทางตื่นเต้น"คุณท่านคะ คุณท่าน!""อะไร! มีอะไร!""คุณธามกลับมาแล้วค่ะ มาถึงก็ถามหาคุณท่านทันทีเลยค่ะ!"* * * * * ตอนแรกธามคิดว่าอาจจะพักสมองอยู่ที่เชียงรายต่ออีกสองสามวันแต่ปีขาลเตือนเขาว่า เรื่องบางเรื่อง ปล่อยไว้นานก็จะยิ่งคุยกันไม่รู้เรื่อง 'ถึงยังไงคุณน้าก็เป็นแม่ของมึงนะธาม เลี้ยงดูกันมาขนาดนั้น จะไม่มีเยื่อใยความผูกพันกันเลยก็คงไม่ใช่ มึงกลับไปคุยกับแม่ดี ๆ เถอะ อย่างน้อยก็จะได้ใช้ชีวิตต่อไปโดยไม่มีอะไรค้างคา'ขนาดคนที่หุนหันพลันแล่นอย่างปีขาลยังบอกแบบนี้ ธามจึงนั่งเครื่องบินกลับกรุงเทพฯ มาทันทีเมื่อเลขาฯ บอกว่าท่านประธานฯ ไม่เข้าบริษัท เขาจึงมาที่บ้าน และก็เจอธัญญาจริง ๆ ในห้องทำงานของธัญญา มีกันเพียงสองคนแม่ลูก ชายหนุ่มใจชื้น อย่างน้อยแม่ก็ไม่ได้ไล่เขาทันทีที่เห็นหน้า"มาทำไม ต้องการอะไร""ผมอยากรู้ความจริงครับ ว่าผมเป็นลูกของ...คุณทีน่า...จริง ๆ ใช่ไหม""แกยังไม่ได้ไปถามมันอีกเหรอ""ผมยังไม่ได้ไปเจอเธอเลยครับ ผมอยากมาคุยกับแม่ก่อน เพราะสำหรับผม คุณทีน่าก็ไม่ต่างจากคนแปลกหน้า แม่ต่างหากที่ยังเป็นแม่ของผม""แต่สำ
หลังเพื่อนสนิทเล่าเรื่องทุกอย่างให้ฟัง ปีขาลถึงกับนั่งงงอยู่เป็นนานสองนานถ้าไม่ใช่เพราะคนเล่าคือ "ธาม" เพื่อนที่แสนจะสุขุม จริงจัง และไม่เคยล้ออะไรใครเล่น เขาก็คงนึกว่ากำลังฟังละครวิทยุอยู่แน่ ๆ"แล้วป่านนี้แม่มึง...ทั้งสองแม่ ไม่ตามหาตัวมึงให้วุ่นหรือวะ จู่ ๆ หลบมาแบบนี้""ไม่รู้"ธามตอบเนือย ๆ "แม่...หมายถึงแม่ตามกฎหมาย คงไม่อยากเห็นหน้ากูเท่าไหร่ แต่คุณทีน่า บอกตรง ๆ ว่ากูยังช็อก..."ชายหนุ่มนึกถึงหญิงคนนั้น คนที่ดวงตาซึ้งดูเศร้าแต่ก็จับใจเขาไว้ได้ตั้งแต่แรกเห็น"กูถูกชะตาเขามากตั้งแต่วันแรกที่เจอที่โรงแรม รู้สึกอยากเข้าใกล้ อยากรู้จัก... ไม่ใช่เชิงชู้สาว แต่เป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูก...""เขาเองก็คงอึดอัดอยากบอกมึงเหมือนกันว่าเป็นแม่..."ปีขาลคาดเดาจากที่เพื่อนเล่าให้ฟังก่อนหน้า"ที่จริงมันก็ไม่มีอะไรซับซ้อน ถ้าไม่เพราะคุณน้าธัญญาดันเกลียดแม่ที่ให้กำเนิดมึงน่ะไอ้ธาม..."นี่ปีขาลก็เดาอีก แต่ธามพยักหน้าเห็นด้วย"เท่าที่ได้ยิน แสดงว่าพ่อกับคุณทีน่าลักลอบมีอะไรกัน จนเกิดเป็นกูขึ้นมา กูก็คือลูกชู้ ลูกนอกสมรส ที่แม่เก็บมาเลี้ยง ไม่ใช่เพราะรัก แต่เพราะอยากทำร้าย เพื่อที่แม่แท้ ๆ จะได้เ
เวลาสองทุ่ม จังหวัดเชียงรายไร่อรุณเบิกฟ้าเปิดไฟสว่างไสวตั้งแต่ปากทางเข้าไร่มาจนถึงตัวเรือนด้านในเพราะผู้มาเยือนโทรศัพท์มาบอกล่วงหน้าหลายชั่วโมงแล้วว่ากำลังจะมา เมื่อรถเล็กซัส แอลเอ็กซ์-หกร้อย มาถึงจึงมีคนงานคอยเปิดประตูให้ และเจ้าของไร่ตัวสูงใหญ่ยืนเท้าสะเอวรอต้อนรับด้วยสีหน้าดีใจแกมโล่งใจที่เพื่อนมาถึงโดยปลอดภัย"ไงมึง"ปีขาลทักสั้น ๆ พลางเข้าไปโอบเพื่อน ตบหลังเบา ๆ หนึ่งที แล้วหันไปทักทายลุงธงคนขับรถของเพื่อนสนิท"สวัสดีครับลุง ขับมาไม่ได้พักเลยสินะครับ""ก็มีแวะปั๊มบ้างครับ"ลุงธงยิ้มเหนื่อย ๆ ไม่รู้กี่สิบปีแล้วที่ไม่ได้ขับรถออกต่างจังหวัด เพราะปกติที่ขับรถให้นาย ไกลสุดก็แค่อยุธยา"ที่จริงคุณธามแกจะขับเองครับ บอกให้ผมกลับบ้านได้เลย แต่ผมขอมาด้วย อย่างน้อยจะได้เปลี่ยนมือกัน...นี่ก็ออกมาเลย เสื้อพงเสื้อผ้าอะไรไม่มีสักตัวเลยครับ"ลุงธงบอกอย่างเป็นห่วงมากกว่าจะฟ้อง"ผมให้แม่บ้านเตรียมห้องกับพวกกับข้าวกับปลาไว้ให้ลุงแล้ว ไปกินข้าวก่อนก็แล้วกันนะลุง เดี๋ยวเสื้อผ้าสะอาด ๆ ให้แม่บ้านหาให้แป๊บเดียว...แม่ต้อย ฝากดูแลลุงเปิ้นกำเน่อ""เจ้า"แม่บ้านวัยกลางคนรับคำแล้วพาลุงธงเดินหายเข้าไปด้านหลั
ธามยังจับต้นชนปลายไม่ถูก...เขาอยากจะคิดว่านี่เป็นเรื่องตลก เขากำลังถูกแกล้ง แต่สีหน้าของผู้หญิงสูงวัยสองคนที่กำลังมองมาที่เขาก็จริงจังเกินกว่าจะคิดเช่นนั้น"ทำไมแม่พูดอย่างนั้นล่ะครับ ก็แม่เป็นแม่ผม...""ใช่ แม่ควรจะเป็นแม่ของแก แม่ก็เคยเชื่อแบบนั้น"ธัญญาหันกลับไปมองทิพย์ลาวัณย์อย่างเจ็บแค้น"ฉันให้แกมาอุ้มบุญลูกของฉัน แต่แกกับทิมกลับสวมเขาให้ แอบไปมีอะไรกันตอนไหนฉันก็ไม่รู้ ไม่เคยคิดจะระแวงเลยสักครั้ง แต่ตอนแกเกิด สายตาของแกกับทิมทำให้ฉันสงสัยและตัดสินใจแอบตรวจดีเอ็นเอ จึงได้รู้ว่าเด็กคนนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับฉันเลย... แกหลอกฉันตลอดแปดเก้าเดือนที่ท้อง แกกับทิม เลวทั้งคู่""แม่...นี่มันอะไรกัน ผมงงไปหมดแล้วนะครับ""จนป่านนี้แล้วยังไม่ชัดอีกหรือไง"ธัญญาหันมาตอบเสียงดังจนแทบเป็นตะโกน"ฉันไม่ใช่แม่แท้ ๆ ของแก ฉันแค่เลี้ยงแกมา เพราะว่าแม่แท้ ๆ ของแกมันเป็นชู้ มันแค่อุ้มท้องแล้วก็คลอด แล้วก็ต้องหนีไปอยู่เมืองนอกเพราะทนขายขี้หน้าไม่ได้ที่แอบนอนกับผัวของพี่สาว..."ธามหน้าซีดเผือด ไม่กล้ามองทิพย์ลาวัณย์ให้ชัด ๆ ด้วยซ้ำ ธัญ
ธัญญาก้าวเข้าไปในห้องโดยไม่ต้องรอให้เชิญ ทิพย์ลาวัณย์เบี่ยงตัวหลบให้โดยอัตโนมัติทั้งที่ตอนนี้เธอไม่ใช่เด็กสาวคนเดิมที่ต้องฟังคำสั่งของญาติผู้พี่อยู่เสมอ...แต่เธอก็อนุญาตให้ธัญญาเข้ามาแค่คนเดียว บรรดาผู้ช่วยผู้ติดตามของเขา เธอให้รออยู่ด้านนอกธัญญามองไปรอบ ๆ ห้องพักที่มีห้องนอนย่อยสองห้อง มีชุดครัว มุมนั่งเล่นดูโทรทัศน์ และมุมอ่านหนังสือ ทุกอย่างดูสะดวกสบายครบครันสมเป็นห้องที่ใหญ่ที่สุดของโรงแรม"ฉันไม่ได้มาที่นี่ตั้งนานแล้ว ธามเขายังดูแลได้ดีทีเดียว ดูดีกว่าตอนทิมยังอยู่เสียอีก""พี่ธัญมาทำไมคะ"ทิพย์ลาวัณย์ถามออกไปอย่างไม่อ้อมค้อม ญาติผู้พี่ของเธอคงไม่ได้มาที่นี่เพื่อแค่ทักทายอย่างแน่นอนธัญญาหันกลับมาทันที "แกต่างหากกลับมาทำไม 'กล้า' กลับมาทำไม หรือมันนานเกินไปจนแกลืมไปแล้วว่าแกสัญญาอะไรกับฉัน""ใช่ค่ะพี่ธัญ มันนานเกินไปแล้ว"ทิพย์ลาวัณย์ยอมรับ แววตาและน้ำเสียงอ่อนลงอย่างอ้อนวอน"มันสามสิบกว่าปีแล้วนะคะ พี่จะไม่ให้ฉันกลับมาเหยียบบ้านเกิดเมืองนอนตัวเองเลยหรือไง ฉันแค่อยากพาลูกชายฉันกลับมาเที่ยว... ไม่ได้มาเพราะต้องการจะรบกวนอะไรพี่... ขนาดงานศพพี่ทิม ฉันยังไม่มาเลย เท่านั้นยังไม่มา
เย็นนั้นลูกชายบอกว่าจะขอออกไปดินเนอร์กับเพื่อนใหม่ 'ที่อื่น'"มีบาร์ชั้นดาดฟ้าที่มองลงไปเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาครับ แวนอยากลองไปที่นั่น""ไปกับสาวก่อน แล้วค่อยพาแม่ไปวันหน้าใช่ไหม"ทิพย์ลาวัณย์แกล้งถาม แต่อีแวนยิ้มและพยักหน้าจริงจัง"แน่นอนครับ ถ้าร้านโอเคแวนจะพาแม่ไปอีกแน่นอน...""แล้วจะกลับดึกไหมลูก"อีแวนลังเลเล็กน้อย"น่าจะดึก หรืออาจจะค้างที่อื่นครับ"ทิพย์ลาวัณย์ตกใจนิด ๆ อดห่วงขึ้นมาไม่ได้ตามประสาคนเป็นแม่"ระมัดระวังตัวให้ดีนะแวน ที่นี่เมืองไทย ไม่ใช่อเมริกา""ครับ ไว้ใจได้ครับ"ชายหนุ่มวัยยี่สิบเอ่ยก่อนก้มลงจูบแก้มสองข้างของมารดา แล้วขอตัวออกจากห้องไปเพื่อไปตามนัดกับเพื่อนใหม่ที่เขาว่า ทิพย์ลาวัณย์ไม่เซ้าซี้ถามว่าใคร แม้จะพอเดาได้ว่าน่าจะเป็นสาวสวยคนที่ส่งยิ้มให้ลูกชายเธอเมื่อเช้าเมื่อลูกชายไม่อยู่ ทิพย์ลาวัณย์เลยคิดว่าอาจจะโทรสั่งรูมเซอร์วิสขึ้นมาก่อนบนห้อง แต่แล้วก็เปลี่ยนใจ เปลี่ยนเสื้อผ้าให้สุภาพสมวัยแล้วหยิบผ้าคลุมไหล่สีเลือดหมูลงไปที่ห้องอาหาร..."วันนี้มีดนตรีสดด้วยหรือคะ"เธอเอ่ยกับพนักงานอย่างแปลกใจตอนที่พนักงานมารับออเดอร์"ใช่ค่ะ ทุกวันศุกร์เสาร์อาทิตย์ กับวันหยุดย