“ลุกขึ้นไม่ต้องมากพิธี ข้ารอเจ้านานแล้วมาช่วยฝนหมึกให้ข้าหน่อย”
แพรวาว่าง่ายเดินตามอย่างเป็นกันเอง ลี่มี่ถอยห่างออกมาก่อนจะปิดประตูลง
กุ้ยเหรินมองด้วยสายตาน้อยเนื้อต่ำใจ
“วันนี้พระองค์ทรงมีกุ้ยเหรินมาปรนนิบัติ ไยต้องเรียกหาข้าพระองค์ด้วย”
โดนไปแล้วหนึ่งดอกหยั่งเชิงดูก่อน
ฮ่องเต้เชยคางมนเนียนละมุนมือก่อนจะก้มหน้าจนจมูกชนจมูกแพรวา เอาเปรียบเธอมากไปไหม
“ใครจะทนคิดถึงข้าหลวงหญิงคนสนิทอย่างเจ้าได้ ร้อยหญิงงามไม่เท่าหนึ่งนางรู้ใจ”
โอ้โห้จะลอยแล้วพระองค์
แพรวายิ้มแบบฝืนทน ก่อนจะใช้ศอกกระทุ้งเบาๆให้ฮ่องเต้ปล่อยตัวเธอเพราะรู้สึกว่ามันจะเลยเถิดไปใหญ่
กุ้ยเหรินกำมือที่ผสานกันแน่น
“มาวันนี้เรามาคุยกันยันเช้าไปเลย”
หาเอาอย่างนั้นเลยเหรอ แพรวาปรับสีหน้าให้แช่มชื่น
“ใครที่ อยู่ข้างนอก ส่งกุ้ยเหรินกลับตำหนักวันนี้เราจะอยู่กับข้าหลวงเฟยลี่”
อย่างนี้ก็ได้เหรอ คำประกาศิต เสี่ยวโอลนลานเข้ามาโดยเร็ว กุ้ยเหรินตาแดงๆแต่เมื่อลุกขึ้นยืนได้กลับเชิดคอตั้งตรงด้วยชาติกำเนิดหรือฐานันดรของนางแพรวาไม่อาจคาดเดาได้ ก่อนจะถวายความเคารพเดินเยื้องย่างตามแบบของนางใน
กุ้ยเหรินจากไปแพรวาขยับตัวจะออกจากห้องมาบ้าง
“จะไปไหน”
“ก็หมดหน้าที่ของข้าพระองค์พรุ่งนี้เย็นค่อยว่ากันใหม่”
“อย่าวางใจ เจ้ายังไม่รู้จักวังหลวงแห่งนี้ข้าอยู่ที่นี่มานานเจ้าต้องแสดงให้ ให้แนบเนียนในนี้ไม่มีใครวางใจใครง่ายๆ”
“กระหม่อมง่วงนอนแล้ว”
“นู้นอย่างไรล่ะ ...แท่นบรรทม”
เฮ้ยหรือจะโดนเหมือนคนอื่นเขา เมียคืนเดียวไม่นะไม่แพรวาคิดไปไกล
“เจ้าง่วงก็นอนข้ายังมีฎีกาต่ออีกหน่อย ข้าไม่ถือหากมีใครนอนร่วมห้อง”
ไม่สนแต่เธอสน
“ไหนก็ช่วยแล้วช่วยให้ตลอดอย่า เจ้าไม่อาจเปลี่ยนใจ”
เป็นอะไรไม่อยากนอนกับพวกเมียๆนะ
แพรวาต้องหาเหตุผลให้ได้พรุ่งนี้จะถามจากเจ้าเสี่ยวโอให้หมด อย่าหวังว่าจะปิดบังพี่สาวคนนี้ได้
แพรวาปลดเสื้อคุมตัวนอกออกมีเพียงเสื้อคุมตัวในสีขาวสะอาดดา สายรัดเอวแน่นถูกกระตุกให้คายออกก่อน จะนั่งลงตรงขอบเตียง ได้นอนในที่นอนฮ่องเต้ เลยทีเดียวเป็นบุญนะนั่น
ฮ่องเต้เหลือบตามอง ก่อนจะแสร้งมองเลยไปยังรูปวาดบนผนัง ยกฎีกามาบังใบหน้าไว้ เมื่อแพรวาเงยหน้าพบสาตาจับจ้องอยู่ ไม่ต้องอายแพรวา ไม่ได้แก้ผ้าสักหน่อยไม่ต้องคิดอะไร คงไม่กล้าทำอะไรเธอไม่อยู่ในข้อตกลง ถ้ากล้าก็จะตะโกนลั่นทีเดียว อย่าหวังว่าจะได้แอ้มเธอไม่มีทาง
แล้วจะนอนหลับไหมฮ่องเต้ทำเป็นไม่สนใจตรวจฎีกาต่อไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแต่แอบกลืนน้ำลายลงคอ อากาศเย็นลงอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเวลาดึกสงัด เสี่ยวโอชงชาร้อนเข้ามาถวาย รินชาใส่แก้วด้วยความชำนาญ แพรวาหลับตาพริ้ม นอนตะแคง ก่ายหมอนเหมือนที่นอนอยู่กลับบ้าน ในฝันผู้ชายที่เธอรักกำลังพลอดรักกับหญิงสาวแปลกหน้า เธอโมโหสุดขีดกระชากไหล่หญิงนางนั้นให้หันมา แต่กับถูกคนรักผลักจนล้มลงใบหน้าของผู้หญิงที่หันมากลับไม่ใช่ ผู้หญิงเป็นหนุ่มน้อยหน้าตาดี ที่เธอเคยเห็นที่ไหนสักแห่ง
น้ำตาไหล เป็นทางพร้อมกับเสียงสะอื้นไห้ ฮ่องเต้มองยังร่างที่สั่นสะท้าน เดินเข้ามานั่งข้างๆ เตะไหลเบาๆ
คนที่เธอรักหันหลังเดินหนีแพรวาไม่อาจตัดใจกอดเอวใหญ่ไว้แน่น สะอื้นสุดเสียง ฮ่องเต้เขย่าแรงขึ้นๆแพรวาสะดุ้งก่อนจะผวาเข้าหาอกอุ่นของคนใกล้ตัว อ้อมแขนกอดรัดฮ่องเต้แน่น
“อย่าไปพี่กันต์อย่าไป พี่ทิ้งแพรได้จริงๆหรือคะแพรไม่ให้ไป”
ฮ่องเต้ปล่อยให้เป็นอยู่อย่างนั้น กอดปลอบอ่อนโยน แพรวามีอาการสงบลงก่อนที่ฮ่องเต้จะประคองตัวเธอให้ลงนอนบนที่นอนตามเดิม ไม่พ้นความคิดแบบผู้ชายทั่วไปหญิงงามผุดผาดในอ้อมกอด มันน่า...หักห้ามอารมณ์ตัวเองก่อนจะหยิบผ้าแพรห่มคลุมร่างกายให้แพรวา แม้จะไม่ค่อยเข้าใจภาษาพูดของแพรวาแต่ก็พอจับกิริยาได้ว่าเธอละเมอเพ้อพก ถึงคนที่รักน้ำตาที่ไหลคงเป็นเรื่องที่ทำให้เสียใจอย่างมาก ไม่อย่างนั้นก็คงเป็น คนที่เธอรักอย่างที่สุด ความรู้สึกขัดใจเกิดขึ้นในจิตใจของฮ่องเต้ จับมาตัดคอให้หมดใครที่ทำให้หญิงงามบุคลิกโดดเด่นอย่างเฟยลี่ต้องเสียใจ
เช้าอากาศสดใส แพรวาบิดขี้เกียจอยู่บนที่นอนเหมือนบ้านของตัวเองฮ่องเต้ บรรทมอยู่ที่แท่นอีกตัว ลุกขึ้น มาเมียงมองยังไม่ตื่น คนเป็นฮ่องเต้นี่ใช้ชีวิตแบบนี้ก็เป็นเหรอ เสียสละให้ผู้หญิง ใบหน้าหล่อเหลาราวรูปวาด ไม่มีอะไรบ่งบอกว่าเป็นผู้ปกครอง ณ.ที่แห่งนี้แพรวาเผลอเอามือเท้าคางมอง คุ้นคิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับเธอวันสองวันนี้หรือมันคือชะตาฟ้าลิขิต มองเพลินๆ คนถูกมองลืมตาขึ้นมาเมื่อไหร่ไม่รู้ยิ้ม โลกสว่างตามเคย ใจละลายเลยไหม
“เจ้าแอบมองข้าทำไม”
“เออออ....เปล่านะแค่เห็นฝ่าบาทนอน ข้างล่างนอนหลับไหมปกตินอนบนแท่นบรรทม”
เปลี่ยนเรื่องเลี่ยงคำตอบ
"ปากไม่แน่จะตรงกับใจ มีเรื่องใดปิดบังหรือเปล่าเจ้า"
"จะปิดบังอะไร เพียงแค่ อยากมองก็มองไม่จำเป็นต้องกลัวใคร"
แพรวาเริ่มออกลูกงี่เง่าคนฟังหัวเราะในลำคอ
"เจ้าคงเห็นว่าข้ารูปงาม หรือมีความรู้สึกอยากจะ....กับข้า ห้องนี้มีมนต์ขังใครเข้ามาก็ต้องอยากปรนนิบัติข้ากันทั้งนั้นไม่มียกเว้น"
แพรวามีอาการหน้าแดงด้วยความเขินอาย
"จะบ้าเหรอ ใครจะคิดแบบนั้น"
"เป็นเจ้า อย่างไม่ต้องสงสัยไม่อย่างนั้นคงไม่มองข้าด้วยสายตา แบบนั้น"
"ท่านนี่นอกจากจะชอบวางอำนาจแล้วยังหลงตัวเอง"
"น้อยคนที่จะมีอำนาจ ความมีอำนาจทำให้ อยากได้ในสิ่งที่อยากได้ ข้าไม่เคยเห็นใครเยี่ยงเจ้า ไม่เกรงกลัวอำนาจในมือข้า"
จริงสิแพรวาคุยอยู่กับใครนี่เธอนึกว่าเป็นเพื่อนเล่นหรืออย่างไร ในซีรีส์ในหนังมีแต่โทษประหารจากฮ่องเต้
คะนิ้งลืมตาตื่นมาบนแท่นนอนหนานุ่ม บรรยากาศน่านอนจนไม่อยากชันกายลุกขึ้น รู้สึกว่าผิวแก้มเย็นเฉียบ ยกมือขึ้นลูบแก้มทั้งที่ยังไม่ลืมตา กลิ่นกำยานกลิ่นแปลกๆ โชยมาเข้าจมูกเป็นระยะๆ รู้สึกหนักบนอกอิ่มเหมือนมีอะไรอุ่นๆ มากดทับขยับตัวลำบาก พรึ่บลืมตาตื่นด้วยความตกใจ“กรี๊ดดดดดด” คะนิ้งส่งเสียงร้องดังลั่นเมื่อเห็นว่ามีผู้ชายมานอนอยู่ข้างกาย ….แต่เดี๋ยวก่อนผู้ชายหรือผู้หญิงวะ ทำไมผมยาว ใบหน้าขาวใส เหมือนผู้หญิง แต่จมูกเชิดหยิ่งน่าดึงเล่น ถ้าเป็นผู้หญิงก็คงเป็นทอม แต่ถ้าเป็นผู้ชายก็คงจัดว่าหล่อทีเดียว ดึงผ้าห่มมาคลุมตัวแน่น ผู้ชายแน่ๆคนที่นอนกอดอยู่สะดุ้งสุดตัว“เอะอะ อะไรของเจ้า” น้ำเสียงงัวเงียแต่ทุ้มนุ่มหูพิลึก“นาย นายเขามาได้ยังงัย”นึกขึ้นได้ที่นี่ไม่ใช่ที่นอนของเธอ แต่เป็นที่ไหน สภาพแปลกไป ผ้าม่านยาวบางที่ล้อมแท่นนอนวงกลมปลิวสะบัด โต๊ะตั่งก็แปลกตา แม้แต่หมอนยังเหมือนกับ….หรือว่า ไม่นะ ไม่ไม่ไม่“เจ้านี่อย่างไรกัน ทำไมต้องเอะอะ” คะนิ้งยกมืออุดปากตัวเองเมื่อรู้ว่าไม่ได้สื่อสารด้วยภาษาไทยแต่เป็น ภาษาจีนที่เรียนมาตั้งแต่อยู่อนุบาล“นอนๆ เจ้าจะรีบตื่นไปไหน” เสียงประตูเปิดออกมา หนุ่มน้อยอีกค
หย่าจิ้ง ไทฮองไทเฮาและไทเฮาดื่มชาคารวะจากบ่าวสาวพร้อมเพรียงกัน หยางหลงและแพรวาหันมาสบตากันนิ่งนาน“ต่อแต่นี้สิ่งร้ายๆ ได้ผ่านไปแล้ว ย่าหวังว่าจะมีสิ่งดีๆให้ได้ชื่นใจบ้าง”“เสด็จย่า คอยเวลาอุ้มเหลนตัวน้อยได้แล้ว อีกไม่นานหลานหวังอย่างนั้น”เสียงหัวเราะดังขึ้นพร้อมเพรียงกัน ชินอ๋องเผลอสบตาลี่มี่ด้วยประกายตาลึกซึ้ง ทุกอย่างผ่านไปด้วยดีต้องขอบคุณเฟยลี่ที่นางทำให้ทุกอย่าง เป็นไปตามที่คาดหวังไว้แพรวาสวมชุดเจ้าสาวสีแดงที่ส่งให้แพรวางดงามอย่างหาที่ติไม่ได้บนศีรษะสวมมงกุฎบ่งบอกฐานะฮองเฮาชัดเจนมือบางลูบคลำราวสะพาน ด้วยความรู้สึกขอบคุณ เบื้องล่างน้ำใสไหลเชื่องช้า ลี่มี่ยืนอยู่ด้านหลังถือเสื้อคลุมอากาศหนาวจับใจแต่ภายในอบอุ่นอย่างประหลาดคำพูดของหมอหลวงที่บอกแพรวาก่อนหน้านั้น“ห้วงเวลาที่แม่นางข้ามผ่านถูกปิดแล้วนับจากนี้ไม่ว่าแม่นางอยากจะจากไปแค่ไหนก็ไม่อาจที่จะไปได้ เพราะทุกอย่างเหมือนถูกสวรรค์ลิขิตไว้แล้วแม้แต่ข้าเองยังไม่สามารถข้ามผ่านไปได้เช่นกัน แม่นางแพรวาได้สาบสูญไปจากภพภูมิของนางเหลือเพียงเยว่ถิงหรือแม่นางเฟยลี่เท่านั้นที่ยังอยู่ที่นี่.ในฐานะฮองเฮา”“ฮองเฮาเพคะอากาศหนาว สวมเสื้อคลุมจะดีก
ภาพความทรงจำที่ผุดขึ้นให้เขาเห็นช้ำแล้วช้ำเล่าเมื่อคราวที่แพรวารับกระบี่แทนเขา มันมิใช่เพียงเพิ่งเกิดขึ้นหากเกิดขึ้นถึงสองครั้งสองครา คราวนั้นเขาไม่สามารถมองเห็นเจ้าของกระบี่ แต่ภาพความทรงจำเด่นชัดคราวนี้เป็นเท้าจางที่ส่งกระบี่คมลงกลางอกของแพรวาหากแต่ดีที่ไม่ถูกจุดสำคัญ อย่างนี้จะให้เขายังมีสิ่งใดที่ต้องสงสัยในตัวของเฟยลี่ได้อีกเป็นเขาที่ติดค้างนาง“ฝ่าบาททรงคิดถึงเฟยลี่ใช่ไหม”ใบหน้าหวานยิ้มยียวน“ไม่เคยคิดถึงหากแต่คิดอยู่เสมอว่าทำอย่างไรจะให้เจ้าฟื้นคืนมาเจรจาเหมือนอย่างนี้ได้”“ฝ่าบาททำอย่างไรกับสนมฮุ่ย”“นางในที่รอดชีวิตจากการช่วยเหลือของเสี่ยวโอ เมื่อคราวหลบหนีออกจากวังยอมให้พูดความจริงเรื่องที่ฮุ่ยเหนียงใช้ยาบำรุงครรภ์จนแท้งแต่กลับโยนความผิดให้เจ้าเฟยลี่ ใต้เท้าจางลงมือสังหารหมอที่นำเข้ามาจากนอกวัง แล้วยังสังหารเหล่านางในนับสิบที่รู้เรื่องนี้ ส่วนนางในคนที่เหลือกำลังจะหาทางหนีดีที่เสี่ยวโอพบเข้าเสียก่อน สนมฮุ่ยข้าให้นางสำนึกผิดในตำหนักเย็นชั่วชีวิตของนาง”แพรวาเลิกคิ้วฟังอย่างตั้งใจรู้สึกสบายกายสบายใจอย่างประหลาดแต่ก็อดที่จะสงสารสนมฮุ่ยไม่ได้เพราะเคยดูซีรีส์จีนตำหนักเย็นโดดเดี่ย
แสงเรืองรองตรงขอบฟ้านั่น แพรวาขยับตัวบิดตัวไปมารู้สึกถึงความวาบหวามจากคนข้างกายพลิกตะแคงกอดร่างใหญ่ข้างๆ มือใหญ่ลูบไล้แก้มเนียน“หายป่วยแล้วสงสัยจะได้ยาดี”“ไออุ่นจากฝ่าบาทนั่นอย่างไรที่ทำให้ข้า จากป่วยไข้ก็กลายเป็นสบายดี”หยางหลงเขย่าหัวเบาๆ ยังไม่ทันได้ชื่นจิตเสียงฝีเท้าหนักๆ ก็ดังเล็ดลอดเข้ามาภายในกระท่อมหยางหลงพลิกตัวแพรวาให้ลงไปนอนด้านข้างเตียง เสียงวิ่งกรูกันเข้ามาบ้างมาจากด้านหน้า และวิ่งมาจากด้านหลังถูกล้อมกรอบถึงเพียงนั้นหยางหลงฉุดแขนแพรวาลุกจากที่ยังนอนอยู่ใช้กระบี่ในมือแหวกเป็นทางเพื่อพาตัวเองและแพรวาฝ่าวงล้อมออกไปใต้เท้าจางและทหารองครักษ์นับสิบยืนดาหน้าในมือมีอาวุธครบครัน“ฝ่าบาท ตามข้าน้อยกลับวังหลวงจะดีกว่า ตอนนี้คนของข้าได้เข้ายึดวังหลวงไว้เสียสิ้นฝ่าบาทออกมาเช่นนี้ข้าเห็นทีต้องเชิญฝ่าบาทกลับไปประทับยังวังหลวงตามเดิม”หยางหลงขมวดคิ้วคิดไม่ถึงว่าใต้เท้าจางจะคิดการใหญ่ถึงเพียงนี้ข่าวเรื่องเขาออกจากวังไม่มีใครรู้แต่ทำไมใต้เท้าจางถึงฉวยโอกาสนี้บุกยึดวังหลวง"เหตุใดท่านถึงคิดการใหญ่ขนาดนี้ในเมื่อท่านก็ได้ทุกอย่างไปหมดแล้วทั้งอำนาจก็มีเสียมากมายมีสิ่งใดที่ท่านต้องการอีก”“ฝ
“ปล่อยข่าวออกไปเรื่องที่ข้าสำเร็จโทษพวกนางนั่นเป็นเพราะพวกนางไม่ดูแลพระสนมที่กำลังทรงครรภ์ให้ดีจึงต้องโทษถึงตาย และต่อไปต้องเป็นคราวของแม่นางเฟยลี่บ้างแล้ว เป็นการกดดันฝ่าบาทไม่ให้ใจอ่อนกับหญิงงามล่มเมืองคนนั้น"“แต่ใต้เท้าฝ่าบาทจะทรงสอบสวน”“ข้าจะนำเหล่าขุนนางทั้งหลายร่วมกันกดดันฝ่าบาทอีกทาง อย่างไรเสียพระสนมต้องไม่มีผู้ใดเทียบเคียงหากเรายังต้องการยิ่งใหญ่เหนือผู้ใดในแผ่นดินนี้”ใบหน้าเหี้ยมเกรียมแสยะยิ้มอย่างน่าเกลียดท้องฟ้ามืดไร้ดาราและจันทราส่องแสง นางในนางหนึ่งหอบห่อผ้าที่บรรจุของมีค่าเล็กน้อย วิ่งหลบหลีกเร้นกายตามเงามืดด้วยความรุกลี้รุกรนแต่ดวงตาคมกริบคู่หนึ่งที่จับจ้องความเคลื่อนไหวอยู่ก่อนแล้วกับทะยานขึ้นสู่หลังคาตำหนักวิ่งตามไปทางเดียวกับที่นางเร้นกายทว่าวิชาตัวเบาเยี่ยมยอดจนไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าแม้แต่น้อยอีกด้านทหารยามหน้าห้องขังถูกชายลึกลับที่โพกหน้าด้วยผ้าดำสกัดจุด จนหมดสติแล้วก็ลากร่างหนักอึ้งให้ไปนอนแผ่คุดคู้แสนสบายข้างกำแพงห้องขังกุญแจถูกหยิบมาใช้อย่างง่ายดายแพรวานอนขดตัวด้วยความหนาวเหน็บ ชุดนักโทษสีขาวบางเบาไม่สามารถให้ความอบอุ่นได้ ชายลึกลับไขกุญแจเข้าไปภายในห้องขั
คำแรกที่เห็นหน้าสนมฮุ่ย“ลูกไม่อยากให้โอกาสหลุดลอยไปเราส่งมือสังหารไปฝ่าบาทก็อยู่ที่นั่นปกป้องนาง ครั้งนี้ถือเสียว่ายืมมือฝ่าบาทจัดการกับนางแค่เรื่องปองร้ายพระสนมนางก็ไม่อาจหลุดพ้นโทษประหารแล้วยังจะโทษฐานทำให้ลูกต้องสูญเสียองค์รัชทายาท มีกี่หัวก็ไม่พอให้ตัด”“แล้วเจ้าได้อะไร ได้เพียงให้ตาย ตายจากไปแต่ไม่ช้าไม่นานฝ่าบาทก็จะมีสนมคนอื่นอีกแต่หากเจ้ารั้งที่จะไม่บอกใครเรื่องการสูญเสียองค์รัชทายาทอย่างน้อยข้าก็เตรียมการให้เจ้าแล้วข้าไปเกณฑ์คนที่อายุครรภ์เท่ากับเจ้ามากักไว้เพื่อให้เจ้าได้มีองค์รัชทายาทเป็นแม่ขององค์รัชทายาทและแม่ของแผ่นดิน เจ้ากับทำให้ทุกอย่างพังทลายลงไป”สนมฮุ่ยหน้าเสีย แต่สักพักก็กลับเป็นปกติ“ท่านพ่อ องค์รัชทายาทจะมีเมื่อไหร่ก็ได้ยังคงใช้แผนการของท่านพ่อได้เพียงแต่ลูกแสร้งว่ามีครรภ์แล้วเราก็สรรหาเด็กที่ไหนมาเป็นองค์รัชทายาทก็ได้ แต่โอกาสกำจัดนางนั้นหายากยิ่งตอนนี้ลูกยอมแลกทุกอย่างเพื่อการณ์นี้”“เจ้าอย่างไรก็ทำอะไรไม่หารือพ่อก่อน”“ลูกขออภัยท่านพ่อแต่ลูกเกลียดนาง นางแย่งฝ่าบาทและ แววตาอ่อนโยนของฝ่าบาทไปจากลูก”“ไม่จำเป็นต้องมีความรักความสงสาร มีเพียงอำนาจที่ได้รับเมื่อนั้