หลังจากความสุขที่อบอวลไปด้วยคำมั่นสัญญาแห่งรักทั้งภาคินัยกับปลายฝันและธามกับน้ำหวาน ก็ได้เวลาเริ่มต้นบทใหม่ที่สำคัญที่สุดในชีวิต นั่นคือการเตรียมงานแต่งงาน ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความสุข ความตื่นเต้นและความอบอุ่นของครอบครัวทุกฝ่าย
เช้าวันหยุดสุดสัปดาห์ที่คฤหาสน์ภาคินัยคึกคักเป็นพิเศษ ไม่ใช่แค่ภาคินัย และปลายฝันที่มารวมตัวกันแต่ยังรวมถึงคุณปู่และญาติผู้ใหญ่คนสนิทของภาคินัยอีกหลายท่านฝั่งของปลายฝันก็มีคุณพ่อคุณแม่และญาติๆ มาร่วมด้วยเช่นกัน บรรยากาศเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและรอยยิ้มบ่งบอกถึงความสุขที่จะเกิดขึ้นในไม่ช้า
"คุณปู่คะ นี่คุณลุงสมชายกับคุณป้าอารีนะคะ เป็นญาติผู้ใหญ่ของปายค่ะ" ปลายฝันแนะนำด้วยรอยยิ้มสดใส
คุณปู่ยิ้มแย้มและกล่าวทักทายอย่างอบอุ่น "ยินดีที่ได้รู้จักนะครับทุกท่าน ขอบคุณมากนะครับที่ให้เกียรติมาเยี่ยมบ้านเราในวันนี้"
ภาคินัยเองก็คอยดูแลทุกคนอย่างใกล้ชิด เขาเห็นปลายฝันในชุดกระโปรงลายดอกไม้สีอ่อนเดินไปมาพูดคุยกับญาติผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายอย่างเป็นกันเอง ก็รู้สึกภาคภูมิใจในตัวเธออย่างมาก
"คุณภีมคะปายว่าเรามาเริ่มคุยกันเลยไหมคะ จะได้ไม่เสียเวลา" ปลายฝันหันมาบอกภาคินัยหลังจากที่ทุกคนนั่งพร้อมหน้ากันในห้องรับรอง
ภาคินัยพยักหน้าเขากุมมือปลายฝันไว้แน่น "ครับปาย"
การประชุมเรื่องงานแต่งงานครั้งแรกนี้เต็มไปด้วยไออุ่นแห่งความรักและความผูกพัน ทุกคนต่างเสนอความคิดเห็นและให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ คุณพ่อคุณแม่ของปลายฝัน ดูมีความสุขมากที่ได้เห็นลูกสาวมีความสุขและกำลังจะได้สร้างครอบครัวที่ดี
หัวข้อแรกคือเรื่องสถานที่จัดงาน คุณปู่ เสนอให้จัดที่โรงแรมหรูของ ภาคินัย กรุ๊ปเพื่อความสะดวกและภาพลักษณ์ของบริษัทแต่ปลายฝัน ยิ้มแล้วเสนอความคิดเห็นขึ้นมาอย่างสุภาพ
"คุณปู่คะ ถ้าเป็นไปได้ ปายอยากจัดงานริมทะเลค่ะ แบบอบอุ่นๆ ไม่ต้องใหญ่มากเน้นความใกล้ชิดของแขกผู้มีเกียรติและคนในครอบครัว ปายว่าแบบนั้นมันน่าจะโรแมนติกกว่าค่ะ" ปลายฝันเอ่ยด้วยท่าทางน่ารัก
ภาคินัยมองปลายฝันด้วยความรักเขาจำได้ว่านี่คือความฝันของเธอเมื่อครั้งที่พวกเขาคุยเรื่องอนาคตกันในห้องทำงาน
"ผมเห็นด้วยกับปายครับคุณปู่" ภาคินัยเสริม "ผมอยากให้งานแต่งงานของเราเป็นไปตามที่ปายฝันไว้ครับ"
คุณปู่ยิ้ม "ในเมื่อหลานชายของปู่ตามใจว่าที่หลานสะใภ้ขนาดนี้ ปู่ก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอก" คุณปู่หันไปทางญาติผู้ใหญ่ของปลายฝัน
"แล้วทางนี้เห็นว่ายังไงบ้างครับ"
คุณพ่อของปลายฝันพยักหน้า "แล้วแต่เด็กๆ เลยครับ ขอให้พวกเขามีความสุขก็พอ"
เมื่อได้ข้อสรุปเรื่องสถานที่ทุกคนก็เริ่มหารือเรื่องรายละเอียดอื่นๆ อย่างสนุกสนานตั้งแต่ธีมงานชุดแต่งงานการ์ดเชิญเมนูอาหารไปจนถึงช่างภาพและวงดนตรี
ปลายฝันมีส่วนร่วมในการตัดสินใจแทบทุกเรื่อง เธอแสดงความคิดเห็นอย่างกระตือรือร้นและรอบคอบ ทำให้เห็นถึงความตั้งใจที่จะให้งานแต่งงานออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด
ภาคินัยคอยนั่งอยู่ข้างๆ คอยให้กำลังใจและสนับสนุนทุกการตัดสินใจของเธอ บางครั้งก็แอบกระซิบหยอกล้อกันเบาๆ ทำให้บรรยากาศดูผ่อนคลายและเต็มไปด้วยความรัก
"คุณภีมว่าชุดไหนดีคะ" ปลายฝันชี้ไปที่รูปชุดเจ้าสาวสองชุดที่เปิดอยู่ในแท็บเล็ต
ภาคินัยเลื่อนสายตาไปดูอย่างตั้งใจ "สวยทั้งสองชุดเลยครับแต่ชุดนี้ ผมว่าเหมาะกับปายที่สุดเลย" เขาชี้ไปที่ชุดลูกไม้สีขาวบริสุทธิ์ที่มีดีไซน์เรียบหรู
"จริงเหรอคะ" ปลายฝันยิ้มกว้าง "ปายก็ชอบชุดนี้เหมือนกันค่ะ"
ในอีกมุมหนึ่งของเมืองน้ำหวานและธามก็กำลังวุ่นอยู่กับการเตรียมงานแต่งงานของพวกเขาเช่นกัน พวกเขานัดเจอกันที่คาเฟ่แห่งหนึ่งเพื่อพูดคุยกับออร์แกไนเซอร์เกี่ยวกับรายละเอียดต่างๆ
"คุณธามคิดว่าดอกไม้นี้เหมาะกับธีมงานวินเทจของเราไหมคะ" น้ำหวานชี้ไปที่ภาพตัวอย่างช่อดอกไม้ในนิตยสาร
ธามพยักหน้า "สวยมากเลยน้ำหวาน ผมว่ามันเข้ากับชุดของคุณได้ดีเลยนะ"
"คุณธามนี่รู้ใจฉันจริงๆ เลย" น้ำหวานพูดแล้วก็ยิ้มหวาน
การเตรียมงานแต่งงานของน้ำหวานและธามเน้นไปที่ความเรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยความหมาย พวกเขาต้องการให้งานแต่งงานสะท้อนถึงความรักที่มั่นคงและอบอุ่นของพวกเขา
"คุณธามอยากให้จัดงานแบบไหนคะ" ออร์แกไนเซอร์ถาม
"ผมอยากให้เป็นงานที่อบอุ่นครับ ไม่ต้องใหญ่โตอะไรมาก เน้นความหมายของพิธีการและอยากให้แขกทุกคนรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของความสุขของเรา" ธามตอบอย่างหนักแน่น
น้ำหวานพูดเสริม "ใช่ค่ะ ฉันก็อยากให้เป็นแบบนั้นเลยค่ะ"
พวกเขาใช้เวลาหลายชั่วโมงในการพูดคุยและตัดสินใจรายละเอียดต่างๆ ตั้งแต่สถานที่จัดงาน ซึ่งพวกเขาเลือกโบสถ์เล็กๆ ที่มีสถาปัตยกรรมเก่าแก่สวยงามสำหรับการประกอบพิธีจากนั้นจึงไปจัดเลี้ยงที่สวนอาหารที่ตกแต่งสไตล์วินเทจตามความชอบของน้ำหวาน
"น้ำหวานครับ เหนื่อยไหม" ธามถามด้วยความเป็นห่วง เมื่อเห็นน้ำหวาน นั่งเท้าคาง
"ไม่เหนื่อยหรอกค่ะคุณธาม ฉันมีความสุขมากกว่า" น้ำหวานตอบพลางยิ้มหวาน "ยิ่งคิดว่าใกล้จะถึงวันนั้นแล้ว ฉันก็ยิ่งตื่นเต้นค่ะ"
"ผมก็เหมือนกันครับ" ธามยิ้ม "แทบจะอดใจรอไม่ไหวแล้วที่จะได้เรียกคุณว่าภรรยา"
การเตรียมงานแต่งงานของทั้งสองคู่ไม่ได้มีแค่ตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาวเท่านั้นแต่ยังรวมถึงการสนับสนุนจากครอบครัวอย่างเต็มที่
คุณปู่คอยให้คำแนะนำและช่วยเหลือเรื่องการเงินอย่างเต็มที่ โดยคุณปู่ได้มอบสมุดบัญชีเล่มหนึ่งให้ภาคินัยพร้อมรอยยิ้ม
"นี่เป็นเงินทุนสำหรับงานแต่งงานของแกนะตาภีม ปู่เก็บไว้ให้นานแล้ว" คุณปู่ภาคินัยกล่าว
ภาคินัยรับสมุดบัญชีมาด้วยความซาบซึ้ง "ขอบคุณมากครับคุณปู่"
ฝั่งครอบครัวของปลายฝันก็ช่วยเตรียมของชำร่วยและของตกแต่งเล็กๆ น้อยๆ ด้วยมือตัวเอง ทำให้งานแต่งงานมีความหมายและเต็มไปด้วยความรัก
ส่วนทางด้านน้ำหวานและธาม ครอบครัวของธามก็เข้ามาช่วยดูแลเรื่องการจัดการแขกผู้มีเกียรติและพิธีการต่างๆ ที่ค่อนข้างซับซ้อนตามธรรมเนียมประเพณี ครอบครัวของน้ำหวานก็เข้ามาช่วยดูแลเรื่องเสื้อผ้าและเครื่องประดับสำหรับเจ้าสาว ทำให้น้ำหวานรู้สึกอบอุ่นใจและคลายความกังวลไปได้มาก
การเตรียมงานแต่งงานนี้ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองครอบครัวแนบแน่นยิ่งขึ้น ทุกคนได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันได้พูดคุยได้ช่วยเหลือกันทำให้รู้สึกเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกันอย่างแท้จริง
ในขณะที่เจ้าสาววุ่นอยู่กับการเลือกชุดและรายละเอียดต่างๆ เจ้าบ่าวอย่าง ภาคินัยและธาม ก็มีเวลามานั่งคุยกันถึงเรื่องราวในอดีตและอนาคตที่กำลังจะเกิดขึ้น
"ไม่อยากคิดเลยว่าเราสองคนจะแต่งงานแล้วทั้งคู่ " ธามพูดขึ้นมาในขณะที่พวกเขานั่งดื่มกาแฟด้วยกัน
ภาคินัยยิ้มเบา ๆ “ก็จริง ฉันเองก็ไม่อยากเชื่อเหมือนกัน”
"แต่ก็ดีใจด้วยจริงๆ นะภีม ที่เห็นแกมีความสุขได้ขนาดนี้"
"แกก็เหมือนกันแหละธาม" ภาคินัยตบบ่าธามเบาๆ "ฉันก็ดีใจที่เห็นแกกับน้ำหวานกลับมารักกันได้อีกครั้ง"
"เพราะแกนั่นแหละภีมที่ทำให้ฉันกับน้ำหวานได้กลับมาอยู่ด้วยกัน" ธาม กล่าวด้วยความซาบซึ้งใจ "แกเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉันจริงๆ"
"ไม่เป็นไรหรอกธามเราเป็นเพื่อนกันนี่นา" ภาคินัย ยิ้ม
พวกเขาทั้งสองคนคุยกันเรื่องงานเรื่องชีวิตคู่ที่กำลังจะเริ่มต้นและเรื่องอนาคตของมิตรภาพที่ยาวนานนี้ การแต่งงานของทั้งคู่จะทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขายิ่งแน่นแฟ้นขึ้นไปอีกเพราะจากนี้ไปพวกเขาจะเป็นทั้งเพื่อนและญาติกัน
ตลอดช่วงเวลาการเตรียมงานแต่งงาน บรรยากาศของความสุขและความตื่นเต้นอบอวลไปทั่วทั้งสองครอบครัว ทุกคนต่างให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเลือกสถานที่การออกแบบการ์ดเชิญ การลองชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาวไปจนถึงการประชุมเรื่องเมนูอาหาร
ปลายฝันและน้ำหวานต่างก็ตื่นเต้นและมีความสุขกับทุกขั้นตอนของการเตรียมงาน พวกเขาคอยปรึกษาหารือกันอยู่เสมอราวกับเป็นพี่น้องที่กำลังจะแต่งงานพร้อมกัน
"น้ำหวานคิดว่าชุดเจ้าสาวของปายกับของน้ำหวานคนไหนจะสวยกว่ากัน" ปลายฝันเอ่ยถามน้ำหวานขณะที่พวกเขากำลังลองชุด
น้ำหวานหัวเราะ "ไม่รู้สิ ฉันก็ว่าของฉันสวยที่สุดแล้วแหละ"
“อย่างนั้นปายก็คิดว่าของปายสวยมาก ๆ เหมือนกัน” ปลายฝันพูดขึ้นมาแล้วก็มองหน้าของเพื่อนรักของเธอก่อนจะหัวเราะออกมา
"สวยทั้งคู่แหละจ้ะ" ช่างตัดเสื้อกล่าวพลางยิ้มอย่างเอ็นดู
แม้จะมีเรื่องจุกจิกเล็กน้อยในการเตรียมงาน แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดี เพราะมีคนที่รักคอยอยู่เคียงข้างและให้กำลังใจกันเสมอ
ครอบครัวภาคินัยและครอบครัวของปลายฝัน รวมถึงครอบครัวของธามและน้ำหวาน ต่างก็มีความสุขกับการได้เห็นลูกๆ และหลานๆ กำลังจะเริ่มต้นชีวิตคู่ในแบบที่พวกเขาใฝ่ฝัน
เมื่อการเตรียมงานดำเนินไปอย่างราบรื่น ทุกอย่างใกล้จะเสร็จสมบูรณ์ เหลือเพียงแค่รอวันสำคัญที่กำลังจะมาถึง
ภาคินัยและปลายฝันไปเยี่ยมคุณปู่ที่คฤหาสน์เป็นครั้งสุดท้ายก่อนวันแต่งงาน
"คุณปู่คะ ปายตื่นเต้นจังเลยค่ะ" ปลายฝันบอกคุณปู่
"ไม่ต้องตื่นเต้นหรอกหนูปาย ทุกอย่างจะต้องออกมาดีแน่นอน" คุณปู่ลูบหัว ปลายฝันอย่างอ่อนโยน "ปู่ดีใจนะที่เห็นหนูปายกับตาภีมมีความสุขกันขนาดนี้"
"ผมก็เหมือนกันครับคุณปู่" ภาคินัยเสริม "ผมมีความสุขที่สุดเลยครับ"
คุณปู่มองหลานชายและว่าที่หลานสะใภ้ด้วยความรัก ความสุขที่เปี่ยมล้นในแววตาของคุณปู่บ่งบอกถึงความอิ่มเอมใจอย่างแท้จริง
ค่ำคืนนั้นภาคินัยและปลายฝันกลับมาที่คอนโดของพวกเขาพวกเขาช่วยกันจัดเตรียมของใช้ส่วนตัวสำหรับวันพรุ่งนี้ ปลายฝันร้องเพลงเบาๆ ด้วยความสุข ส่วนภาคินัยก็โอบกอดเธอจากด้านหลัง
"ตื่นเต้นไหมครับปาย" ภาคินัยกระซิบถาม
"มากเลยค่ะคุณภีม" ปลายฝันตอบ "เหมือนฝันเลยค่ะปายไม่คิดเลยว่าวันนี้จะมาถึง"
"ฝันของเรากำลังจะเป็นจริงแล้วนะครับปาย" ภาคินัยพูดพลางจูบลงบนไหล่ของปลายฝันอย่างอ่อนโยน
ทั้งสองคนมองหน้ากันแววตาเต็มไปด้วยความรัก ความหวังและคำมั่นสัญญาที่จะใช้ชีวิตคู่ร่วมกันอย่างมีความสุขไปตลอดไป วันพรุ่งนี้จะเป็นวันเริ่มต้นบทใหม่ในชีวิตของพวกเขา บทที่เต็มไปด้วยความรัก ความผูกพัน และความสุขที่อบอวลไปทั่วทั้งสองครอบครัว
ตอนที่ 122 บทส่งท้ายกาลเวลาหมุนผ่านไปอย่างรวดเร็ว แต่ความทรงจำที่สวยงามยังคงถูกถักทอขึ้นอย่างต่อเนื่องในชีวิตของภาคินัย ปลายฝัน ธามและน้ำหวาน ทุกเส้นทางที่พวกเขาได้เดินผ่านมา ไม่ว่าจะสุข ทุกข์ หรือท้าทาย ล้วนหล่อหลอมให้พวกเขากลายเป็นคนที่สมบูรณ์ในวันนี้ บทสรุปของเรื่องราวนี้จึงเป็นการสะท้อนถึงชีวิตที่เต็มไปด้วยความสุข ความรักที่อบอุ่น และอนาคตที่สดใส ที่พวกเขาได้สร้างขึ้นด้วยกันวันหยุดสุดสัปดาห์ที่สดใสครอบครัวของภาคินัยและปลายฝัน รวมถึงธามและน้ำหวาน ได้วางแผนเดินทางไปเที่ยวทะเลด้วยกัน เป็นครั้งแรกที่เด็กๆ จะได้สัมผัสผืนทรายและน้ำทะเลด้วยตัวเองรถตู้คันใหญ่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและบทเพลงจากเด็กๆ น้องเมฆและน้องเมษาที่ตอนนี้เริ่มเดินได้คล่องแคล่ว ต่างตื่นเต้นกับวิวทิวทัศน์นอกหน้าต่างที่ไม่คุ้นเคย"คุณภีมคะ ดูสิคะน้องเมฆชี้ไปที่ทะเลใหญ่เลย" ปลายฝันยิ้มอย่างมีความสุข"เมษาก็ตื่นเต้นเหมือนกันค่ะคุณธาม" น้ำหวานเสริม พลางมองลูกสาวที่กำลังยิ้มกว้างเมื่อเดินทางถึงรีสอร์ตหรูริมทะเล ภาคินัยและธามต่างช่วยกันขนสัมภาระลงจากรถ ส่วนปลายฝันและน้ำหวานก็ดูแลเด็กๆ ที่วิ่งสำรวจไปทั่วบริเวณด้วยความกระตือ
ตอนที่ 121 บทสรุปของความรักชีวิตของภาคินัยและปลายฝันดำเนินมาถึงบทสรุปที่งดงาม พวกเขาได้ค้นพบความสุขที่แท้จริงในทุกมิติ ทั้งในด้านความรักที่มั่นคง ครอบครัวที่อบอุ่น และหน้าที่การงานที่รุ่งโรจน์ ความรักของพวกเขาสุกงอมและเบ่งบานอย่างเต็มที่ เช่นเดียวกับธามและน้ำหวาน ที่ต่างก็สร้างสรรค์ชีวิตในแบบของตัวเองได้อย่างลงตัว บทสรุปของความรักครั้งนี้จึงเป็นการเฉลิมฉลองให้กับชีวิตที่เต็มไปด้วยความสุข ความเข้าใจ และการเติมเต็มซึ่งกันและกันผ่านมาหลายปี นับตั้งแต่น้องเมฆลืมตาดูโลก ชีวิตของภาคินัยและปลายฝันดูเหมือนจะสมบูรณ์แบบในทุกด้าน พวกเขายังคงเป็นสามีภรรยาที่รักกันอย่างลึกซึ้ง ความผูกพันที่แน่นแฟ้นยิ่งทวีคูณขึ้นตามกาลเวลา แม้จะมีความรับผิดชอบมากมาย แต่พวกเขาก็ไม่เคยละเลยที่จะเติมเต็มความปรารถนาและความเร่าร้อนให้แก่กันและกันค่ำคืนหนึ่งหลังจากที่น้องเมฆหลับไปแล้ว แสงจันทร์สาดส่องเข้ามาในห้องนอนอย่างนุ่มนวล ภาคินัยโอบกอดปลายฝันจากด้านหลังอย่างแผ่วเบา สัมผัสที่คุ้นเคยทำให้ปลายฝันรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย เธอซบหน้ากับแผงอกที่คุ้นเคยของเขา"ปายครับ คุณสวยที่สุดเลยนะ" ภาคินัยกระซิบเสียงพร่า พลางจูบลงบนไหล
ตอนที่ 120 ความสุขหลังจากผ่านเรื่องราวมากมาย ทั้งความรัก ความสุข ความท้าทาย และการเติบโตในบทบาทใหม่ ทุกคู่ต่างค้นพบความสุขในแบบของตัวเอง ภาคินัยกับปลายฝัน และธามกับน้ำหวาน ต่างได้ใช้ชีวิตในแบบที่พวกเขาปรารถนา เติมเต็มความหมายของคำว่า "ความสุขที่แท้จริง" ในแบบฉบับของตัวเองชีวิตของภาคินัยและปลายฝันตอนนี้เปรียบเสมือนภาพวาดที่สมบูรณ์แบบ ทุกองค์ประกอบต่างถูกเติมเต็มอย่างลงตัว ด้วยความรักที่เปี่ยมล้นจากน้องเมฆ และความสำเร็จในหน้าที่การงานที่รุ่งโรจน์ภาคินัยยังคงทุ่มเทให้กับการบริหารภาคินัย กรุ๊ปอย่างเต็มที่ แต่เขาก็เรียนรู้ที่จะจัดสรรเวลาให้สมดุลระหว่างงานและครอบครัว เขามักจะตื่นเช้าขึ้นมาเล่นกับน้องเมฆก่อนไปทำงาน และพยายามกลับบ้านให้เร็วที่สุดเพื่อใช้เวลาช่วงเย็นกับภรรยาและลูกชาย การเห็นน้องเมฆเติบโตขึ้นในทุกๆ วัน คือพลังขับเคลื่อนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเขา"วันนี้น้องเมฆเรียก 'ป๊า' ชัดขึ้นเยอะเลยนะครับปาย" ภาคินัยเล่าด้วยรอยยิ้มกว้างในมื้อเย็นปลายฝันยังคงเป็นกำลังสำคัญอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของภาคินัย เธอทำหน้าที่ภรรยาและคุณแม่ได้อย่างไม่มีที่ติ ดูแลบ้านให้เป็นระเบียบเรียบร้อย อบอุ่
ตอนที่ 119 มิตรภาพที่ยั่งยืนท่ามกลางความวุ่นวายของชีวิตในบทบาทใหม่ ทั้งการเป็นพ่อแม่และการบริหารธุรกิจที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง มิตรภาพที่ถักทอขึ้นระหว่างภาคินัยและธาม รวมถึงปลายฝันและน้ำหวาน กลับยิ่งแข็งแกร่งและหยั่งรากลึก พวกเขาพิสูจน์ให้เห็นว่ามิตรภาพที่แท้จริงไม่เคยจางหายไปตามกาลเวลา แต่กลับยิ่งเปล่งประกายและเป็นพลังใจให้แก่กันเสมอครั้งหนึ่ง ภาคินัยและธามเคยเป็นคู่แข่งทางธุรกิจที่ขับเคี่ยวกันอย่างดุเดือดในสนามแข่งขัน แต่ด้วยความจริงใจและความเข้าใจซึ่งกันและกัน พวกเขาก็ได้ก้าวข้ามกำแพงแห่งการแข่งขันและแปรเปลี่ยนเป็นมิตรภาพที่แข็งแกร่ง การมีลูกในเวลาใกล้เคียงกัน ยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นบ่ายวันหนึ่ง ภาคินัยโทรหาธามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเหนื่อยล้าแกมขบขัน "เฮ้ยธาม! วันนี้น้องเมฆงอแงไม่ยอมนอนเลยว่ะ ฉันแทบไม่ได้ทำงานเลย"ธามหัวเราะจากปลายสาย "ฉันก็เหมือนกันภีม! น้องเมษาวันนี้เล่นไม่หยุดเลย พลังเยอะจริงๆ เด็กสมัยนี้"บทสนทนาของพวกเขาไม่ใช่เรื่องธุรกิจอีกต่อไป แต่เป็นเรื่องราวของผ้าอ้อม นมผง และการนอนไม่พอ การแลกเปลี่ยนประสบการณ์การเป็นคุณพ่อมือใหม่กลายเ
ตอนที่ 118 การเติบโตของภาคินัย กรุ๊ปหลังจากที่น้องเมฆเข้ามาเติมเต็มชีวิตครอบครัวของภาคินัยและปลายฝัน แรงบันดาลใจและความมุ่งมั่นของทั้งคู่ก็ยิ่งเพิ่มพูนขึ้น ไม่เพียงแต่ในเรื่องส่วนตัวเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อการบริหารงานของภาคินัย กรุ๊ปอย่างเห็นได้ชัด ภายใต้การนำของภาคินัย และการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากปลายฝัน บริษัทก็ได้ก้าวเข้าสู่ยุคแห่งความเจริญรุ่งเรืองที่โดดเด่นยิ่งกว่าเดิมเช้าวันหนึ่งที่สดใสในเดือนมิถุนายน ภาคินัยเดินนำปลายฝันและน้องเมฆที่อยู่ในรถเข็นเด็ก เข้าสู่ล็อบบี้สุดหรูของภาคินัย ทาวเวอร์ อาคารสำนักงานใหญ่ใจกลางกรุงเทพฯ ภาคินัยในชุดสูทสีเข้มดูภูมิฐานและสง่างามกว่าเคย ส่วนปลายฝันในชุดเดรสสีอ่อนสบายตาดูสวยสดใสในมาดคุณแม่ลูกหนึ่ง น้องเมฆตัวน้อยในรถเข็นมองซ้ายมองขวาด้วยแววตาอยากรู้อยากเห็น ใบหน้าจิ้มลิ้มมีรอยยิ้มอ้อแอ้ตลอดเวลา"วันนี้ลูกชายมาเยี่ยมบริษัทป๊าครั้งแรกนะลูก" ภาคินัยกระซิบกับน้องเมฆพลางยิ้มอบอุ่นปลายฝันหัวเราะเบาๆ "สงสัยจะชอบบรรยากาศนะคะเนี่ย"พนักงานในล็อบบี้ที่กำลังสัญจรไปมา ต่างหยุดชะงักเมื่อเห็นภาพครอบครัวที่ดูอบอุ่นและสมบูรณ์แบบนี้ หลายคนส่งยิ้มและโค้งคำนับให้ผ
ตอนที่ 117 คุณปู่กับทายาทเมื่อน้องเมฆเติบโตขึ้นในแต่ละวัน ไม่เพียงแต่ภาคินัยและปลายฝันเท่านั้นที่ภาคภูมิใจ แต่ยังมีคุณปู่ของภาคินัย ผู้เป็นรากฐานของอาณาจักรภาคินัย กรุ๊ป ที่เปี่ยมด้วยความสุขอย่างยิ่งที่ได้เห็นทายาทคนใหม่ การมาถึงของน้องเมฆไม่เพียงแต่เติมเต็มความหมายของคำว่าครอบครัวให้สมบูรณ์ แต่ยังเป็นการยืนยันว่าธุรกิจที่สร้างมาด้วยหยาดเหงื่อแรงกาย จะมีผู้สืบทอดต่อไปอย่างมั่นคงคุณปู่ของภาคินัย แม้จะอยู่ในวัยชรา แต่ดวงตาท่านยังคงเปล่งประกายด้วยความสุขและความเฉียบแหลม การมาถึงของน้องเมฆ เหลนชายและทายาทของเหลนคนเดียวของตระกูล ทำให้หัวใจของคุณปู่เต็มตื้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนท่านเฝ้ารอวันนี้มานานแสนนาน วันที่จะได้เห็นสายเลือดของตระกูลยังคงดำเนินต่อไปคุณปู่ก็เดินทางมาเยี่ยมเหลนชายที่บ้านทันที ท่านนั่งลงข้างเปลนอนของน้องเมฆ มองเหลนชายตัวน้อยด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความรักและความเอ็นดู"ตาหนูเมฆของปู่ ในที่สุดเจ้าก็มา" คุณปู่กระซิบเสียงแผ่ว พลางเอื้อมมือที่เหี่ยวย่นลูบไล้แก้มยุ้ยของน้องเมฆอย่างอ่อนโยนภาคินัยและปลายฝันยืนมองภาพนั้นด้วยความซาบซึ้ง พวกเขารับรู้ได้ถึงความรักอันลึกซึ้งที่คุณ