๑
วันฝนพรำ
ฟ้าครึ้มได้ไม่นาน ฝนก็เทลงมาอย่างหนักหน่วง ทำให้เดือนอ้ายที่เพิ่งออกมาจากบริษัทที่มาสัมภาษณ์งาน จำเป็นต้องวิ่งเข้าไปในร้านกาแฟใกล้กับป้ายรถเมล์
ภายในร้านมีลูกค้านั่งอยู่สองคน คนหนึ่งนั่งที่โต๊ะบาร์ติดกระจก อีกคนนั่งอยู่ที่โต๊ะด้านข้าง คนนี้เป็นผู้หญิงหน้าตาสะสวยเลยทีเดียว
เดือนอ้ายผ่อนลมหายใจยาวขณะก้าวตรงไปยังเคาน์เตอร์บาร์ หญิงสาวคะเนดูแล้วคิดว่าฝนคงจะตกหนักไปอีกสักพักใหญ่และรถก็คงจะติดยาวเป็นแพ จึงตัดสินใจสั่งโกโก้ร้อนมาหนึ่งแก้ว แล้วนั่งลงบนเก้าอี้ที่โต๊ะบาร์ริมกระจก หันหน้าออกไปด้านนอก มองรถราที่แออัดพยายามฝ่าสายฝนที่โปรยลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา ขณะที่หญิงสาวกำลังละเลียดโกโก้อยู่นั้น เสียงกระดิ่งจากประตูก็ดังขึ้น พร้อมกับเสียงหวานๆ ของสาวสวยที่ร้องเรียกใครบางคนจนเดือนอ้ายต้องหันไปมองตามอย่างอดไม่ได้
“ทางนี้ค่ะพริก”
ชายหนุ่มที่ถูกเรียกว่า ‘พริก’ ก้าวตรงไปหาสาวสวยคนนั้น เขาส่งยิ้มบาดตาให้เจ้าหล่อนแล้วนั่งลงบนเก้าอี้ตัวตรงข้าม รูปร่างหน้าตาของชายหนุ่มคนนั้นจัดว่าดีมาก ส่วนสูงน่าจะไม่ต่ำกว่าหนึ่งร้อยแปดสิบเซนติเมตร ส่วนสูงกับน้ำหนักสัมพันธ์กัน การแต่งตัวอาจดูเหมือนหนุ่มออฟฟิศทั่วไป แต่กลับดูภูมิฐานกว่าและคล่องแคล่วในเวลาเดียวกัน ถือเป็นผู้ชายที่น่าสนใจอย่างยิ่งเลยทีเดียว แต่แล้วหญิงสาวก็ต้องหันกลับมายังแก้วโกโก้ของตน เมื่อรู้สึกตัวว่ามองเขานานเกินไปแล้ว อาจทำให้สาวสวยคนนั้นเกิดความไม่พอใจขึ้นมาได้ แต่ถึงอย่างนั้นหญิงสาวก็ไม่อาจห้ามใจไม่ให้แอบฟังบทสนทนาของเขากับสาวผู้นั้นได้อยู่ดี
“พรุ่งนี้พริกว่างไหมคะ”
น้ำเสียงของสาวสวยดังขึ้นเล็กน้อยค่อนไปทางเบา แต่ไม่เป็นปัญหาสำหรับคนที่กำลังให้ความสนใจพวกเขาทั้งสองคนอย่างจริงจังเลยสักนิด
หญิงสาวขมวดคิ้ว นึกแปลกใจตัวเองที่กลายเป็นพวกสอดรู้สอดเห็นไปเสียแล้ว
“อืม ก็พอว่างอยู่ แต่ช่วงเย็นนะ” เจ้าของเสียงทุ้มตอบกลับ
“งั้นดีเลยค่ะ ด้าอยากชวนพริกไปงานวันเกิดของน้องสาว พริกไปนะคะ”
“ตกลงครับ”
เสียงของฝ่ายชายตอบรับ สาวสวยคนนั้นก็ส่งเสียงหวานเจื้อยแจ้วฟังดูดีใจอย่างยิ่ง
ปิ๊นๆ เสียงแตรรถด้านนอกเรียกความสนใจของเดือนอ้าย พอดีกับฝนที่ตกเป็นเวลากว่าครึ่งชั่วโมงเริ่มซาลง และรถแท็กซี่ก็มาจอดรอรับผู้โดยสาร หญิงสาวจึงผุดลุกแล้วรีบออกจากร้าน
“อุ๊ย!”
เจ้าของร่างบอบบางร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจ เมื่อจู่ๆ ร่างของหล่อนก็ถูกชนเข้าอย่างจังจากด้านข้าง เมื่อหันไปมองก็ต้องชะงักกึก
“ขอโทษครับ คุณเป็นอะไรหรือเปล่า”
ผู้ชายคนนั้นหลุบตามองหล่อนราวสำรวจ ทั้งสีหน้า แววตาและน้ำเสียง รวมทั้งกลิ่นหอมแบบผู้ชายที่กระจายออกมาทำให้เดือนอ้ายตกตะลึงจนลืมความตกใจไปชั่วขณะ
เวลาเดียวกันสาวสวยคนนั้นมองหญิงสาวด้วยสายตาวาววับ ก่อนส่งเสียงขัดขึ้น
“เป็นอะไรมากหรือเปล่าคะคุณ”
เดือนอ้ายกะพริบตาปริบๆ รู้สึกตัวเพราะเสียงหวานแหลมของสาวสวยคนนั้น
“เอ่อ มะ...ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวอุบอิบตอบ ขยับตัวห่างออกมาเล็กน้อย พลางหลุบตามองฝ่ามืออุ่นและเรียวสวยอย่างคนที่ไม่เคยหยิบจับงานหนักของหนุ่มรูปหล่อที่ผละออกไปอย่างแสนเสียดาย
“ถ้าไม่เป็นอะไรแล้วเราสองคนขอตัวนะคะ” พูดจบสาวสวยคนเดิมก็กอดแขนที่ดูแข็งแรงกำยำของชายคนเดิมราวจะประกาศสถานะ ทั้งยังส่งยิ้มเชือดเฉือนตรงมายังหล่อนแว็บหนึ่ง
“ไปค่ะพริก ฝนหยุดตกแล้ว”
ผู้ชายคนนั้นหันมองหล่อนอีกครั้ง เขาโน้มศีรษะให้พร้อมรอยยิ้มเล็กน้อยแต่กลับกระตุกหัวใจคนมองให้ปลิวตามไปด้วยอย่างช่วยไม่ได้เลยทีเดียว
เมื่อคนทั้งคู่เดินออกไป หญิงสาวก็ยกมือขึ้นกุมที่ตั้งของหัวใจตัวเองที่เต้นแรงจนน่ากลัว พลางคิดไปว่าแก้มหล่อนก็คงแดงจัดเช่นกัน เพราะเกิดความรู้สึกร้อนวูบวาบไปทั้งใบหน้า
เกิดมาเดือนอ้ายไม่เคยเขินอายต่อใครได้เท่านี้มาก่อน ทั้งที่เขาไม่ได้ทำอะไรเลย แต่หล่อนก็ยังรู้สึกใจเต้นแรงทันทีที่ได้สบตากันตรงๆ แบบนี้
หลังจากนั้นอีกหนึ่งอาทิตย์ เดือนอ้ายเริ่มจะเลือนๆ เรื่องของผู้ชายคนนั้นลงไปบ้าง เพราะมีเรื่องที่น่ายินดียิ่งกว่า นั่นคือหล่อนได้งานทำอย่างแน่นอนหลังจากเรียนจบ
วันแรกของการทำงาน หญิงสาวหยุดยืนที่หน้าบอร์ดผู้บริหารพร้อมเอกสารสำคัญเกี่ยวกับเรื่องที่จำเป็นต้องรู้ จึงได้พบว่าผู้ชายที่เคยทำให้หล่อนใจลอยตามเขาไปด้วยในวันนั้นคือท่านรองประธานกรรมการใหญ่ของบริษัทที่หล่อนเพิ่งก้าวเข้ามาเป็นลูกจ้างอยู่ในเวลานี้
พาทิศ รัตนบัญชา เขาคือว่าที่ท่านประธานในอนาคต ส่วนหล่อนคือผู้ช่วยเลขาฯ คนใหม่ของเขานั่นเอง
นี่มันพรหมลิขิตชัดๆ!!
สิ่งที่รับรู้ทำให้หญิงสาวแก้มแดง หัวใจฟูฟ่องพองโต แต่ในขณะเดียวกันก็เหี่ยวแฟบราวกับลูกโป่งถูกเจาะลงทันทีเมื่อตระหนักถึงความแตกต่าง
ฐานะห่างไกลกันปานนั้น เขาคงเป็นได้แค่ฝันเสี้ยวหนึ่งในวัยสาวของหล่อน เพราะฝ่ายหนึ่งอยู่สูงเกินเอื้อม อีกฝ่ายก็ไม่ได้อยู่ในสายตาของใครคนนั้น
หลังจากรายงานตัวเรียบร้อย เดือนอ้ายจึงถูกพามาส่งที่ห้องทำงาน หญิงสาวทำความรู้จักกับเลขาฯ มือหนึ่ง จากนั้นก็เริ่มงานแรก โต๊ะทำงานของหล่อนตั้งชิดกับโต๊ะทำงานของมาลินี รับหน้าที่เป็นผู้ช่วยให้กับอีกฝ่ายซึ่งเป็นเลขาฯ ผู้ทรงประสิทธิภาพ อายุสามสิบปลายแต่เก่งและใจดีมาก บนโต๊ะของมาลินีมีกรอบรูปภาพสามคนพ่อแม่ลูกตั้งเอาไว้ ประกาศชัดว่าอีกฝ่ายแต่งงานและมีลูกที่อยู่ในวัยกำลังน่ารักน่าชัง
“นี่คือเอกสารที่น้องอ้ายต้องเรียนรู้นะจ๊ะ พยายามจำรูปร่างหน้าตาจำชื่อเสียงเรียงนามให้ได้ รวมทั้งตำแหน่งของทุกคน เพราะพวกเขาคือผู้บริหารของบริษัทเรา จะได้ไม่พลาดเวลาบอสถาม” มาลินีหมายถึงพาทิศ หรือคุณพริก เจ้านายโดยตรงของพวกตน
“ส่วนอันนี้ คือเอกสารเกี่ยวกับคู่ค้าที่สำคัญนะจ๊ะ น้องอ้ายต้องจำให้ได้เหมือนกัน นี่จ้ะ เอาไป มีอะไรไม่เข้าใจถามพี่ได้เลยนะ”
มาลินียิ้มหวานให้สาวสวยรุ่นน้อง ทำให้เดือนอ้ายยิ้มตอบด้วยความรู้สึกยินดี เพราะการมีรุ่นพี่ในที่ทำงานที่เป็นมิตรและใจดีอย่างมาลินี ก็เหมือนกับถูกหวยเลยทีเดียว
สามปีต่อมา ช่วงหลังเลิกงาน ร่างสูงในชุดทำงานขาดแต่สูท เสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินเข้มพับแขน แต่แทนที่เขาจะอยู่บ้านกลับนั่งรอผลการตรวจร่างกายของภรรยาในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง จนเกือบสิบห้านาที นางพยาบาลจึงเดินออกมาเรียกเดือนอ้ายไปพบแพทย์ ชายหนุ่มผุดลุกและเดินตามภรรยาไปติดๆ หลังจากนั้นอีกแค่สิบนาทีสองสามีภรรยาก็ก้าวออกมาพร้อมรอยยิ้มสมใจของพาทิศ และสายตาค้อนคมของเดือนอ้าย “ถ้าน้องปราณกับน้องปริมรู้ว่ากำลังจะมีน้องอีกคน เด็กๆ จะต้องดีใจแน่ๆ” เขารวบเอวนุ่มของภรรยาเข้าไปกอดด้วยสีหน้าสดชื่น ท่าทางดีใจจนออกนอกหน้า ในขณะที่คนเป็นภรรยาทำหน้าตูม เพราะเขาเอาแต่ตั้งหน้าตั้งตาปั๊มลูกคนแล้วคนเล่า... “พี่พริก เราพอแค่คนนี้ได้ไหมคะ อ้ายเหนื่อยแล้วนะคะ” หญิงสาวซบหน้ากับท่อนแขนแกร่งเมื่อเข้ามานั่งภายในรถยนต์กับสามีผู้เป็นคนขับ ชายหนุ่มหลุบตามองหญิงสาวยิ้มๆ แล้วบอก “อันที่จริงพี่ตั้งใจมีสักห้าคน” คำตอบของพาทิศทำเอาคุณแม่ลูกสองในท้องอีกหนึ่งถึงกับเบิกตาโต “บ้าสิพี่พริก! อ้ายไม่ใช่แม่พันธุ์นะคะ” อุทานด้วยความตกใจ ก่อนจะผละออกมาจากสามีด้วยท่าทีปั้นปึ่ง ทำเอาพาทิศถึง
เนื้อแน่นหนั่นนุ่มตึงถูกลูบไล้หนักมือพร้อมเสียงตบเพียะเบาๆ จากฝ่ามือแกร่ง จากนั้นกลีบสาวสีหวานก็ถูกโลมเล้าด้วยปลายนิ้วและฝ่ามือเรียวยาว เขาสอดปลายนิ้วแหย่เข้าไปในช่องทางคับแคบ ขยับขยุกขยิกเข้าๆ ออกๆ จนหญิงสาวร้องครวญครางสูดปาก “พี่พริก อือ...” พาทิศแสบร้อนสมชื่อ เขาทำให้หล่อนร้อนราวกับถูกไฟสุมไปทั้งร่าง ทั้งเสียวซ่านกับการเล้าโลมอย่างผู้เชี่ยวชาญ จากนั้นหญิงสาวต้องสะดุ้ง เมื่อกลีบกุหลาบที่แย้มเยิ้มถูกปลายลิ้นกวาดเลียหยาดน้ำเชื่อม แล้วสอดลึกแหย่เย้าราวจะหยอกเอิน ยิ่งเพิ่มความกระสันเป็นทวีคูณเมื่อเขาสอดเสือกปลายนิ้วเรียวยาวเข้าออก แล้วบดบี้จุดกระสันจนเสียวปราดไปทั้งร่าง “อ๊าส์ โอ๊ย พะ...พี่พริกขา อ้าย อ้ายไม่ไหวแล้วนะคะ อ๊า!” พาทิศดูดกลีบสาวดังจ๊วบ ตวัดเลียถี่ยิบจนท่อนขาอวบงามที่สั่นระริกแทบทรงกายไม่อยู่ แต่ก่อนที่ร่างแน่งน้อยของเมียรักจะอ่อนยวบลงกับเตียง เขาก็ดึงใบหน้าออกห่างแล้วขยับกายเข้าประชิด ประคองแก่นกายพองใหญ่ที่รอบเรือนลำห้อมล้อมด้วยเส้นเลือดปูดโปน บ่งบอกถึงความกำหนัดพรักพร้อมที่จะปะทุเต็มที แล้วพุ่งกายเสือกใส่สู่ช่องทางล้ำลึกในคราเดียว
บทส่งท้ายบริเวณบ้านรัตนบัญชานั้นกว้างขวาง จึงถูกเนรมิตให้เป็นสถานที่จัดเลี้ยงงานมงคลสมรสขึ้นอย่างงดงามไม่แพ้ภายในโรงแรมหรู เพราะได้นักออกแบบชื่อดังมาจัดสถานที่ให้ ทุกอย่างตระการตาจนเดือนอ้ายในชุดเจ้าสาวเรียบหรูสีชมพูอ่อนงดงามเกินคำบรรยายเริ่มไม่มั่นใจขึ้นมาเสียดื้อๆ พาทิศสังเกตเห็นอาการตื่นเต้นของภรรยาจึงก้าวเข้าไปหาแล้วกอดหล่อนแรงๆ หนึ่งทีพร้อมกับกดจูบลงหน้าผากมนแผ่วเบา “ตื่นเต้นเหรอ” หญิงสาวยิ้มเจื่อน พร้อมพยักหน้าเบาๆ “ตอนแรกอ้ายคิดว่าจะเป็นแค่งานเล็กๆ รู้กันแค่ภายในไม่กี่คน แต่ทำไม...” พาทิศยิ้มกว้าง พลางมองเดือนอ้ายด้วยสายตารักใคร่ วันนี้หล่อนสวยมากเหลือเกิน สวยจนเขามองตาค้าง ยิ่งนานวันความรักความต้องการยิ่งเผยตัวมันออกมาจากแววตาของพาทิศ เขาไม่คิดถนอมความรู้สึกที่มีต่อหล่อนเลยสักนิด เพราะเมื่อรู้ตัวว่ารัก เขาจะรักหล่อนให้ผู้หญิงทั้งโลกต้องอิจฉา... “แต่งงานครั้งเดียว จะให้ทำเล็กๆ ได้ยังไง อีกอย่าง พวกหนุ่มๆ จะได้รู้ว่าอ้ายมีสามีมีลูกแล้ว ห้ามแหยมเด็ดขาด” เขากระซิบ จนริมฝีปากเกือบชนกัน ทว่าเป็นเดือนอ้ายที่ดันหน้าเขาออ
“ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะหนูอ้าย พริก พาน้องไปพักผ่อนเสียก่อนสิ” คุณพัฒนาบอกกับลูกชาย แล้วหันไปสั่งสาวใช้ที่ยืนยิ้มแป้นเพราะความดีใจให้ช่วยกันขนกระเป๋าของเดือนอ้ายและพาทิศขึ้นไปไว้บนห้อง เมื่อลูกชายถูกแย่งไปดูแลโดยคุณปู่และคุณย่า หญิงสาวก็ถูกพาตัวแยกไปอีกทางหนึ่ง ร่างบางนิ่งอึ้งขณะยืนอยู่ที่หน้าห้องของพาทิศ เมื่อเขาเปิดประตูกว้างหญิงสาวก็น้ำตาคลอ จู่ๆ ก็เกิดรู้สึกน้อยใจขึ้นมาอีกเมื่อคิดถึงครั้งหนึ่งที่เขาชี้หน้าประกาศไม่ให้หล่อนเหยียบเข้าไปในห้องของเขาอีก เจ้าของห้องหยุดนิ่งและมองหล่อนเมื่อหญิงสาวไม่ยอมขยับเท้าเข้าไปข้างในด้วยกัน แต่เมื่อเห็นดวงตาที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำเขาก็ให้คิดถึงครั้งหนึ่งที่เคยทำร้ายจิตใจหล่อนอย่างเจ็บแสบ อ้อมแขนที่โอบกอดลงมาทำให้น้ำตาหยดแหมะ นั่นเองหญิงสาวจึงรู้ตัวรีบยกมือขึ้นเช็ดน้ำตา ทว่าต้องอุทานด้วยความตกใจเมื่อถูกชายหนุ่มช้อนอุ้มแล้วพาก้าวเข้าไปด้านในห้อง พร้อมประตูที่ปิดลงและกดล็อก “ขอต้อนรับสู่โลกของฉัน” เขาวางหล่อนลงบนเตียงกว้าง แล้วทิ้งตัวทาบทับลงมา กดริมฝีปากลงบนหน้าผากนวล เลื่อนไล้จูบซับน้ำตาด้วยสัมผัสบ
เดือนอ้ายหลุบตาลง คล้ายยังไม่แน่ใจนักกับการกระทำของเขาในวันนี้ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองเขาอีกครั้ง “นี่ไม่ใช่การฝืนใจใช่ไหม” เอ่ยถามให้แน่ใจว่าการตัดสินใจของเขาในวันนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะความจำใจเช่นครั้งก่อน พาทิศส่ายหน้า เขายิ้มให้หล่อนแล้วก้มลงจูบริมฝีปากอิ่มนุ่ม “คราวนี้ฉันไม่ได้ถูกบังคับ แต่จะเป็นฝ่ายบังคับแทน ถ้าเธอไม่ยอมแต่งกับฉัน” เดือนอ้ายหัวเราะเบาๆ พลางหันไปมองลูกชายที่ลืมตาแป๋วมองไปรอบๆ อย่างสนใจ “คุณหลิน” เพราะมัวแต่วุ่นวายอยู่กับเรื่องของตนเอง และเขาก็มาวุ่นวายอยู่กับหล่อนนานหลายวัน ทำให้หญิงสาวลืมฮุ่ยหลินไปชั่วคราว หรือความจริงแล้ว หล่อนพยายามลืมคนอื่นต่างหาก จะบอกว่ากำลังหลอกตัวเองอีกครั้งก็ย่อมได้ ขอแค่ได้อยู่กับเขาอีกสักครั้ง ต่อให้แกล้งทำเป็นลืมว่าเขายังมีผู้หญิงอีกคนที่ตั้งใจร่วมชีวิตด้วยก็ยอม พาทิศลูบแก้มหล่อนเบาๆ แล้วสอดฝ่ามือเข้าไปใต้กลุ่มผม ก้มลงจูบริมฝีปากอุ่นอีกครั้ง ซอนไซ้ ดูดดื่ม นานหลายอึดใจจึงยอมผละ “ฉันกับฮุ่ยหลินจบกันด้วยดี ตอนนี้มีแค่เธอกับลูกเท่านั้น” หัวใจดวงน้อยที่เคยช้ำกระตุกวาบ ม
เสียงคลื่นซัดสาดคลืนๆ ในยามเช้าตรู่ ส่งเสียงดังขึ้นไปถึงห้องพักของพาทิศภายในโรงแรมหรู ชายหนุ่มยืนกอดอกอยู่ที่ระเบียงกว้าง มือหนึ่งถือแก้วกาแฟ ดวงหน้าคมคายวันนี้แจ่มกระจ่างกว่าทุกวัน ร่างกายสดชื่นกระปรี้กระเปร่า ก่อนหันไปมองด้านหลังแล้วยิ้มอ่อน หมุนตัวตรงไปหาคนบนเตียง นั่งลงข้างๆ คนที่หลับใหล ในอ้อมแขนมีคนตัวเล็กหลับพริ้ม ริมฝีปากจิ้มลิ้มเผยอน้อยๆ ชายหนุ่มก้มลงจูบแก้มยุ้ยของลูกชาย ก่อนเลื่อนจูบหน้าผากมนของคนที่มีผ้าห่มคลุมจนชิดลำคอ เมื่อวานเขาพาสองแม่ลูกมานอนค้างที่ห้องนี้ ดวงตาสีเข้มเลื่อนมองท่อนแขนเปลือยของเดือนอ้าย ก่อนก้มลงกดจูบและขบเม้มผิวเนื้อนุ่มหอมกรุ่นเบาๆ ทว่ากลับปลุกให้คนที่หลับไปพร้อมกับความอ่อนเพลียแสนสุขสมรู้สึกตัวตื่นและลืมตาขึ้น เมื่อสบตาคมเข้มที่มองมาด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนปนล้อเลียน หญิงสาวก็กระชับผ้าห่มเอาไว้แน่น เนื้อตัวเปลือยเปล่าภายใต้ผ้าห่มตอกย้ำว่าค่ำคืนที่ผ่านมานั้นเกิดอะไรขึ้นกับหล่อนบ้าง พาทิศหลุบสายตามองนวลแก้มแดงก่ำ ระเรื่อยลงมายังลาดไหล่ละมุน แล้วลดใบหน้าลงจูบเบาๆ จนหญิงสาวต้องเบี่ยงไหล่หนีด้วยความจักจี้ “คุณพริก” ปรามเขาเบา