“ขอบคุณพี่มามากนะคะ อ้ายจะตั้งใจทำงานให้ดีที่สุดค่ะ”
มาลินียิ้มสดใส รูปร่างและหน้าตาหากไม่บอกคงไม่รู้ว่ากำลังจะขึ้นหลักสี่อยู่รอมร่อ...
“จ้ะ ดีแล้ว ตั้งใจทำงาน เผื่อวันหนึ่งพี่เกิดจะต้องลาออก จะได้เสนอชื่อน้องอ้ายให้ทำแทนพี่เสียเลย ไม่ต้องไปหาใครที่ไหนอีก” มาลินีขยิบตาให้ ก่อนจะผุดลุกจากเก้าอี้เมื่อพาทิศก้าวตรงมายังห้องทำงาน
“สวัสดีค่ะบอส” มาลินีร้องทักทายเจ้านายหนุ่มรูปหล่อ ทำให้เดือนอ้ายต้องรีบวางมือจากแฟ้มเอกสาร แล้วลุกขึ้นยืนทำความเคารพชายหนุ่ม
“สวัสดีครับ”
พาทิศส่งยิ้มให้เลขาฯ สาวรุ่นพี่ ก่อนจะขมวดคิ้วเล็กน้อยขณะมองสาวสวยหน้าตาจิ้มลิ้มที่ยืนข้างๆ มาลินี พร้อมกับหยุดตรงหน้าคนทั้งสอง
“อ่า…” เขาชี้นิ้วไปที่สาวน้อยแปลกหน้า ทำให้มาลินียิ้มกว้าง
“ผู้ช่วยคนใหม่ของพี่มาเองค่ะ ชื่อเดือนอ้าย เรียกง่ายๆ ว่าน้องอ้ายค่ะ เพิ่งเรียนจบมาหมาดๆ กำลังไฟแรงเลยค่ะ” มาลินีโฆษณาชวนเชื่อ ทำให้พาทิศยกยิ้มอย่างขบขันเลขาฯ สาวของตน ก่อนจะมองสาวน้อยข้างกายอีกฝ่าย ขมวดคิ้วเล็กน้อยอีกครั้งทั้งยังทำท่าเอียงคอราวกับกำลังคิดอะไรบางอย่าง แต่แล้วก็ไหวไหล่พลางบอก
“ยินดีที่ได้รู้จักนะคุณอ้าย เรียนรู้งานจากคุณมาให้มาก คนนี้เก่ง ไม่ใช่แค่ผมที่ได้ประโยชน์ แต่ตัวคุณเองก็จะได้ประโยชน์เช่นกัน ตั้งใจทำงานล่ะ ผมขอตัว อ้อ! ผมขอเอกสารที่เข้าประชุมเมื่อวานด้วยนะครับคุณมา”
“ได้ค่ะ” มาลินียิ้มตอบพร้อมรับคำหนักแน่น ชายหนุ่มพยักหน้า โดยไม่ลืมปรายตามองสาวน้อยน่ารักอีกแวบหนึ่งก่อนเดินเข้าห้องทำงาน
“เฮ้อ…” เสียงถอนหายใจยาวของสาวน้อยทำเอามาลินีถึงกับหลุดเสียงหัวเราะออกมาทันที
“อะไรกัน ถึงกับถอนหายใจเลยเหรอน้องอ้าย”
ฝ่ายนั้นกระเซ้าพลางนั่งลงบนเก้าอี้ ทำให้หญิงสาวยิ้มเจื่อนแล้วนั่งลง
“ไม่ต้องกลัว บอสของเราไม่ดุ แค่ต้องมีสมาธิให้มากๆ เวลาถูกสั่งงาน เพราะท่านไม่ชอบคนที่จะต้องให้พูดซ้ำเกินหนึ่งรอบ อันนี้เรื่องจริงและสำคัญมาก ต้องเป๊ะมากนะ เพราะงานบอสเยอะ เวลาท่านเรียกพบ น้องอ้ายเอาสมุดกับปากกาเข้าไปด้วย เตรียมจดที่ท่านสั่งเอาไว้ กันลืมน่ะ”
“ค่ะ อ้ายจะทำให้ได้ตามที่พี่มาสอนค่ะ”
มาลินียิ้มให้สาวน้อย ยกมือขึ้นวางลงบนไหล่บอบบางแล้วตบเบาๆ อย่างให้กำลังใจ
“ดีจ้ะ อีกสักประเดี๋ยวอ้ายช่วยยกเอกสารเข้าไปให้บอสแทนพี่ทีนะ”
เดือนอ้ายใจกระตุก ความตื่นเต้นเมื่อครู่ไม่ทันจาง ก็มีเรื่องใหม่ให้ใจเต้นแรงเข้ามาอีก โอ๊ย.. ตายแน่ๆ นี่คือข้อเสียของการทำงานกับคนที่แอบชื่นชอบใช่ไหม แล้วต้องทำอย่างไรให้ไม่วอกแวกเวลาเผชิญหน้ากับเขาล่ะ...
สติ! ต้องมีสติ!
หญิงสาวพยักหน้ากับตนเอง แล้วคิดถึงคนเมื่อครู่อีกครั้งขณะเตรียมเอกสารนำเข้าไปส่งให้เขาในห้อง
วันนี้พาทิศหรือคุณพริกยังคงหล่อเหลาเช่นเดิม กลิ่นกายของเขาหอมแบบมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจริงๆ ไม่ใช่กลิ่นหอมฉุนเหมือนหนุ่มๆ บางคน หรือจากน้ำหอมราคาถูก แต่เป็นกลิ่นหอมสดชื่น ออกแนวลึกลับน่าค้นหามากกว่า ตัวเขาเองก็เป็นเช่นนั้นเช่นกัน เขาดู...น่าค้นหา
ก๊อก ก๊อก ก๊อก...
เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น เพียงอึดใจจึงถูกผลักเข้ามาพร้อมกับร่างบอบบางของผู้ช่วยเลขาฯ สาวคนใหม่
พาทิศไม่ได้เงยหน้าขึ้นมองทันที จนกระทั่งเสียงหวานๆ คุ้นหูดังขึ้น คนที่ก้มหน้าก้มตาอ่านเอกสารจึงเงยหน้าขึ้นมอง
“เอกสารค่ะ”
ดวงตาคมกริบของพาทิศสบกับดวงตาหวาน หญิงสาวส่งยิ้มให้เขาพร้อมกับวางเอกสารลงบนโต๊ะทำงานของชายหนุ่ม ในใจพาทิศนั้นกำลังคิดกังขาว่า รูปร่างหน้าตาแบบนี้คล้ายว่าเขาเคยพบเจอที่ไหนมาก่อน เพราะรู้สึกคุ้นหน้าตาของหล่อนอย่างบอกไม่ถูก แต่ก็จำไม่ได้ว่าเคยพบกันที่ไหน
“เราเคยเจอกันที่ไหนมาก่อนหรือเปล่า”
คำถามของเขาทำเอาผู้ช่วยเลขาฯ สาวคนใหม่ถึงกับใจเต้นแรง เขาคงคุ้นหน้าหล่อนอยู่บ้างหลังจากเห็นหน้ากันด้วยอุบัติเหตุเล็กๆ น้อยๆ ในอาทิตย์ก่อน
“เคยค่ะ” หญิงสาวตอบพร้อมส่งยิ้มสุภาพ พยายามทำตัวให้เหมาะสมกับหน้าที่การงานในเวลานี้มากที่สุด
“ที่ไหน...ขอโทษนะ แต่ผมจำไม่ได้จริงๆ” เขาถามอย่างนึกสนใจ สำหรับผู้หญิงหน้าตาน่ารักขนาดนี้ ทำไมเขาถึงจำไม่ได้ว่าเคยเจอที่ไหนมาก่อน
“ที่ร้านกาแฟข้างตึกค่ะ เมื่ออาทิตย์ก่อน เราเจอกันเพราะ...”
“ผมเดินชนคุณ” พาทิศทวนความคิดออกมาดังๆ พร้อมกับรอยยิ้มจางๆ ที่เผยออกมาจนคนมองใจละลายซ้ำสอง เขาสบตาหล่อนแล้วพยักหน้าเบาๆ “วันนั้นคุณคงเพิ่งกลับออกมาจากสัมภาษณ์งานใช่ไหม”
หญิงสาวยิ้มจนนัยน์ตายิบหยี น้ำเสียงอ่อนหวานตอบออกมาในระดับความดังที่พอเหมาะพอดี
“ใช่ค่ะ ดิฉันเพิ่งกลับออกมาจากอาคาร กำลังจะกลับบ้าน แต่ดันเจอฝนเสียก่อน ก็เลยไปนั่งรอฝนหยุดในร้านกาแฟ แล้วตอนที่กำลังกลับออกจากร้านก็ชนกับคุณพาทิศเข้าค่ะ”
ชายหนุ่มพยักหน้ารับรู้ เขาจำหล่อนได้แล้ว ผู้หญิงหน้าตาจิ้มลิ้มที่ทำให้เขาต้องหันมามองหล่อนอีกรอบก่อนเดินจากไป เขานึกสนใจหล่อนอยู่เหมือนกัน ทว่ามีเรื่องอื่นที่สำคัญมากกว่าในเวลานั้นจึงลืมไปเสียสนิท
“คุณเป็นยังไงบ้าง วันนั้นผมทำคุณเจ็บหรือเปล่า”
เขาดึงแฟ้มเอกสารไปวางตรงหน้า แล้วเปิดกว้าง ทว่าสายตานั้นยังคงจับจ้องและกวาดตามองดวงหน้าเรียวสวยผู้ช่วยของเลขาฯ สาวใหญ่อย่างพอใจลึกๆ
“ไม่เป็นไรค่ะ คุณพาทิศไม่ได้ชนแรงอะไร”
คิ้วสีเข้มเลิกสูงนิดหน่อย ดวงหน้าคมคายมีรอยยิ้มแต้มจาง ก่อนจะพยักหน้าเบาๆ แล้วบอก
“ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว ก็...ยินดีต้อนรับ ขอให้ทำงานที่นี่อย่างมีความสุข เรียนรู้งานจากคุณมาเอาไว้ให้มากๆ ก็แล้วกัน แค่นี้แหละครับ”
หญิงสาวโน้มศีรษะพร้อมกับรับคำเบาๆ แล้วหันหลังเดินออกไป
พาทิศมองตามร่างระหงของผู้ช่วยเลขาฯ สาวคนใหม่ไปจนลับตา ก่อนจะเปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์เรียกดูประวัติของหญิงสาวคนเมื่อครู่ขึ้นมาอ่าน...
นางสาวเดือนอ้าย พสุธา อายุยี่สิบสองปี...
เขาทวนประวัติหญิงสาวในใจ ทว่าริมฝีปากค่อยๆ แย้มออกมา ดวงตามีรอยยิ้มพอใจครามครัน...
สามปีต่อมา ช่วงหลังเลิกงาน ร่างสูงในชุดทำงานขาดแต่สูท เสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินเข้มพับแขน แต่แทนที่เขาจะอยู่บ้านกลับนั่งรอผลการตรวจร่างกายของภรรยาในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง จนเกือบสิบห้านาที นางพยาบาลจึงเดินออกมาเรียกเดือนอ้ายไปพบแพทย์ ชายหนุ่มผุดลุกและเดินตามภรรยาไปติดๆ หลังจากนั้นอีกแค่สิบนาทีสองสามีภรรยาก็ก้าวออกมาพร้อมรอยยิ้มสมใจของพาทิศ และสายตาค้อนคมของเดือนอ้าย “ถ้าน้องปราณกับน้องปริมรู้ว่ากำลังจะมีน้องอีกคน เด็กๆ จะต้องดีใจแน่ๆ” เขารวบเอวนุ่มของภรรยาเข้าไปกอดด้วยสีหน้าสดชื่น ท่าทางดีใจจนออกนอกหน้า ในขณะที่คนเป็นภรรยาทำหน้าตูม เพราะเขาเอาแต่ตั้งหน้าตั้งตาปั๊มลูกคนแล้วคนเล่า... “พี่พริก เราพอแค่คนนี้ได้ไหมคะ อ้ายเหนื่อยแล้วนะคะ” หญิงสาวซบหน้ากับท่อนแขนแกร่งเมื่อเข้ามานั่งภายในรถยนต์กับสามีผู้เป็นคนขับ ชายหนุ่มหลุบตามองหญิงสาวยิ้มๆ แล้วบอก “อันที่จริงพี่ตั้งใจมีสักห้าคน” คำตอบของพาทิศทำเอาคุณแม่ลูกสองในท้องอีกหนึ่งถึงกับเบิกตาโต “บ้าสิพี่พริก! อ้ายไม่ใช่แม่พันธุ์นะคะ” อุทานด้วยความตกใจ ก่อนจะผละออกมาจากสามีด้วยท่าทีปั้นปึ่ง ทำเอาพาทิศถึง
เนื้อแน่นหนั่นนุ่มตึงถูกลูบไล้หนักมือพร้อมเสียงตบเพียะเบาๆ จากฝ่ามือแกร่ง จากนั้นกลีบสาวสีหวานก็ถูกโลมเล้าด้วยปลายนิ้วและฝ่ามือเรียวยาว เขาสอดปลายนิ้วแหย่เข้าไปในช่องทางคับแคบ ขยับขยุกขยิกเข้าๆ ออกๆ จนหญิงสาวร้องครวญครางสูดปาก “พี่พริก อือ...” พาทิศแสบร้อนสมชื่อ เขาทำให้หล่อนร้อนราวกับถูกไฟสุมไปทั้งร่าง ทั้งเสียวซ่านกับการเล้าโลมอย่างผู้เชี่ยวชาญ จากนั้นหญิงสาวต้องสะดุ้ง เมื่อกลีบกุหลาบที่แย้มเยิ้มถูกปลายลิ้นกวาดเลียหยาดน้ำเชื่อม แล้วสอดลึกแหย่เย้าราวจะหยอกเอิน ยิ่งเพิ่มความกระสันเป็นทวีคูณเมื่อเขาสอดเสือกปลายนิ้วเรียวยาวเข้าออก แล้วบดบี้จุดกระสันจนเสียวปราดไปทั้งร่าง “อ๊าส์ โอ๊ย พะ...พี่พริกขา อ้าย อ้ายไม่ไหวแล้วนะคะ อ๊า!” พาทิศดูดกลีบสาวดังจ๊วบ ตวัดเลียถี่ยิบจนท่อนขาอวบงามที่สั่นระริกแทบทรงกายไม่อยู่ แต่ก่อนที่ร่างแน่งน้อยของเมียรักจะอ่อนยวบลงกับเตียง เขาก็ดึงใบหน้าออกห่างแล้วขยับกายเข้าประชิด ประคองแก่นกายพองใหญ่ที่รอบเรือนลำห้อมล้อมด้วยเส้นเลือดปูดโปน บ่งบอกถึงความกำหนัดพรักพร้อมที่จะปะทุเต็มที แล้วพุ่งกายเสือกใส่สู่ช่องทางล้ำลึกในคราเดียว
บทส่งท้ายบริเวณบ้านรัตนบัญชานั้นกว้างขวาง จึงถูกเนรมิตให้เป็นสถานที่จัดเลี้ยงงานมงคลสมรสขึ้นอย่างงดงามไม่แพ้ภายในโรงแรมหรู เพราะได้นักออกแบบชื่อดังมาจัดสถานที่ให้ ทุกอย่างตระการตาจนเดือนอ้ายในชุดเจ้าสาวเรียบหรูสีชมพูอ่อนงดงามเกินคำบรรยายเริ่มไม่มั่นใจขึ้นมาเสียดื้อๆ พาทิศสังเกตเห็นอาการตื่นเต้นของภรรยาจึงก้าวเข้าไปหาแล้วกอดหล่อนแรงๆ หนึ่งทีพร้อมกับกดจูบลงหน้าผากมนแผ่วเบา “ตื่นเต้นเหรอ” หญิงสาวยิ้มเจื่อน พร้อมพยักหน้าเบาๆ “ตอนแรกอ้ายคิดว่าจะเป็นแค่งานเล็กๆ รู้กันแค่ภายในไม่กี่คน แต่ทำไม...” พาทิศยิ้มกว้าง พลางมองเดือนอ้ายด้วยสายตารักใคร่ วันนี้หล่อนสวยมากเหลือเกิน สวยจนเขามองตาค้าง ยิ่งนานวันความรักความต้องการยิ่งเผยตัวมันออกมาจากแววตาของพาทิศ เขาไม่คิดถนอมความรู้สึกที่มีต่อหล่อนเลยสักนิด เพราะเมื่อรู้ตัวว่ารัก เขาจะรักหล่อนให้ผู้หญิงทั้งโลกต้องอิจฉา... “แต่งงานครั้งเดียว จะให้ทำเล็กๆ ได้ยังไง อีกอย่าง พวกหนุ่มๆ จะได้รู้ว่าอ้ายมีสามีมีลูกแล้ว ห้ามแหยมเด็ดขาด” เขากระซิบ จนริมฝีปากเกือบชนกัน ทว่าเป็นเดือนอ้ายที่ดันหน้าเขาออ
“ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะหนูอ้าย พริก พาน้องไปพักผ่อนเสียก่อนสิ” คุณพัฒนาบอกกับลูกชาย แล้วหันไปสั่งสาวใช้ที่ยืนยิ้มแป้นเพราะความดีใจให้ช่วยกันขนกระเป๋าของเดือนอ้ายและพาทิศขึ้นไปไว้บนห้อง เมื่อลูกชายถูกแย่งไปดูแลโดยคุณปู่และคุณย่า หญิงสาวก็ถูกพาตัวแยกไปอีกทางหนึ่ง ร่างบางนิ่งอึ้งขณะยืนอยู่ที่หน้าห้องของพาทิศ เมื่อเขาเปิดประตูกว้างหญิงสาวก็น้ำตาคลอ จู่ๆ ก็เกิดรู้สึกน้อยใจขึ้นมาอีกเมื่อคิดถึงครั้งหนึ่งที่เขาชี้หน้าประกาศไม่ให้หล่อนเหยียบเข้าไปในห้องของเขาอีก เจ้าของห้องหยุดนิ่งและมองหล่อนเมื่อหญิงสาวไม่ยอมขยับเท้าเข้าไปข้างในด้วยกัน แต่เมื่อเห็นดวงตาที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำเขาก็ให้คิดถึงครั้งหนึ่งที่เคยทำร้ายจิตใจหล่อนอย่างเจ็บแสบ อ้อมแขนที่โอบกอดลงมาทำให้น้ำตาหยดแหมะ นั่นเองหญิงสาวจึงรู้ตัวรีบยกมือขึ้นเช็ดน้ำตา ทว่าต้องอุทานด้วยความตกใจเมื่อถูกชายหนุ่มช้อนอุ้มแล้วพาก้าวเข้าไปด้านในห้อง พร้อมประตูที่ปิดลงและกดล็อก “ขอต้อนรับสู่โลกของฉัน” เขาวางหล่อนลงบนเตียงกว้าง แล้วทิ้งตัวทาบทับลงมา กดริมฝีปากลงบนหน้าผากนวล เลื่อนไล้จูบซับน้ำตาด้วยสัมผัสบ
เดือนอ้ายหลุบตาลง คล้ายยังไม่แน่ใจนักกับการกระทำของเขาในวันนี้ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองเขาอีกครั้ง “นี่ไม่ใช่การฝืนใจใช่ไหม” เอ่ยถามให้แน่ใจว่าการตัดสินใจของเขาในวันนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะความจำใจเช่นครั้งก่อน พาทิศส่ายหน้า เขายิ้มให้หล่อนแล้วก้มลงจูบริมฝีปากอิ่มนุ่ม “คราวนี้ฉันไม่ได้ถูกบังคับ แต่จะเป็นฝ่ายบังคับแทน ถ้าเธอไม่ยอมแต่งกับฉัน” เดือนอ้ายหัวเราะเบาๆ พลางหันไปมองลูกชายที่ลืมตาแป๋วมองไปรอบๆ อย่างสนใจ “คุณหลิน” เพราะมัวแต่วุ่นวายอยู่กับเรื่องของตนเอง และเขาก็มาวุ่นวายอยู่กับหล่อนนานหลายวัน ทำให้หญิงสาวลืมฮุ่ยหลินไปชั่วคราว หรือความจริงแล้ว หล่อนพยายามลืมคนอื่นต่างหาก จะบอกว่ากำลังหลอกตัวเองอีกครั้งก็ย่อมได้ ขอแค่ได้อยู่กับเขาอีกสักครั้ง ต่อให้แกล้งทำเป็นลืมว่าเขายังมีผู้หญิงอีกคนที่ตั้งใจร่วมชีวิตด้วยก็ยอม พาทิศลูบแก้มหล่อนเบาๆ แล้วสอดฝ่ามือเข้าไปใต้กลุ่มผม ก้มลงจูบริมฝีปากอุ่นอีกครั้ง ซอนไซ้ ดูดดื่ม นานหลายอึดใจจึงยอมผละ “ฉันกับฮุ่ยหลินจบกันด้วยดี ตอนนี้มีแค่เธอกับลูกเท่านั้น” หัวใจดวงน้อยที่เคยช้ำกระตุกวาบ ม
เสียงคลื่นซัดสาดคลืนๆ ในยามเช้าตรู่ ส่งเสียงดังขึ้นไปถึงห้องพักของพาทิศภายในโรงแรมหรู ชายหนุ่มยืนกอดอกอยู่ที่ระเบียงกว้าง มือหนึ่งถือแก้วกาแฟ ดวงหน้าคมคายวันนี้แจ่มกระจ่างกว่าทุกวัน ร่างกายสดชื่นกระปรี้กระเปร่า ก่อนหันไปมองด้านหลังแล้วยิ้มอ่อน หมุนตัวตรงไปหาคนบนเตียง นั่งลงข้างๆ คนที่หลับใหล ในอ้อมแขนมีคนตัวเล็กหลับพริ้ม ริมฝีปากจิ้มลิ้มเผยอน้อยๆ ชายหนุ่มก้มลงจูบแก้มยุ้ยของลูกชาย ก่อนเลื่อนจูบหน้าผากมนของคนที่มีผ้าห่มคลุมจนชิดลำคอ เมื่อวานเขาพาสองแม่ลูกมานอนค้างที่ห้องนี้ ดวงตาสีเข้มเลื่อนมองท่อนแขนเปลือยของเดือนอ้าย ก่อนก้มลงกดจูบและขบเม้มผิวเนื้อนุ่มหอมกรุ่นเบาๆ ทว่ากลับปลุกให้คนที่หลับไปพร้อมกับความอ่อนเพลียแสนสุขสมรู้สึกตัวตื่นและลืมตาขึ้น เมื่อสบตาคมเข้มที่มองมาด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนปนล้อเลียน หญิงสาวก็กระชับผ้าห่มเอาไว้แน่น เนื้อตัวเปลือยเปล่าภายใต้ผ้าห่มตอกย้ำว่าค่ำคืนที่ผ่านมานั้นเกิดอะไรขึ้นกับหล่อนบ้าง พาทิศหลุบสายตามองนวลแก้มแดงก่ำ ระเรื่อยลงมายังลาดไหล่ละมุน แล้วลดใบหน้าลงจูบเบาๆ จนหญิงสาวต้องเบี่ยงไหล่หนีด้วยความจักจี้ “คุณพริก” ปรามเขาเบา