มือเล็กๆ ของไกอาเปิดหนังสือไปเรื่อยๆ จนเธอสะดุดที่ลำดับขั้นยศต่างๆ ของขุนนาง
ภาพวาดนั้นทำให้หัวใจของไกอาเต้นไม่เป็นจังหวะไม่รู้ทำไมเหมือนกันแต่เธอรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองกำลังจะเป็นลมล้มลงที่ตรงนั้น ปลายนิ้วที่สั่นเทาของไกอาสัมผัสลงไปบนภาพวาดนั้นอย่างเชื่องช้า ดยุคเซนเดอร์ คาเรน เขามีใบหน้าที่ละม้ายคล้ายคนรักของเธออย่างไม่น่าเชื่อ “อะ..อึ่ก” ไกอายกมือขึ้นมาจับที่หัวใจของตัวเอง เธอรู้สึกว่ามันเจ็บปวดราวกับว่ามีเข็มนับพันที่กำลังทิ่มแทงเข้าไปในหัวใจ ความเจ็บปวดนั้นส่งผลให้มือของเธอถือหนังสือเอาไว้ไม่อยู่ เธอปล่อยมือออกจากหนังสือเล่มนั้นแล้วยกมือขึ้นมากุมหัวใจของตัวเอง “ตุบ!!” ประตูเปิดออกมาเมื่อผู้ที่อยู่ด้านนอกได้ยินเสียงหนังสือตก โรสกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้ามาด้านในก่อนจะประคองคุณหนูของเธอให้นอนลงไปบนม้านั่งตัวยาว “ตะ..ตามหมอมาให้หน่อยค่ะ!!” มาธ่ารีบส่งทหารไปตามหมอมา สติของไกอานั้นเลือนรางมากทีเดียว สิ่งสุดท้ายที่เธอรับรู้คือเสียงเรียกที่เต็มไปด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือของโรส .............. บัตรเชิญมากมายถูกส่งเข้ามาด้านในคฤหาสน์ที่เปลี่ยนชื่อใหม่ว่าเป็นคฤหาสน์ของเลดี้อามิตี้ มาธ่าส่งบัตรเชิญพวกนั้นให้แก่โรส “นายหญิงควรจะไปออกงานค่ะ นั่นคือธรามเนียม ชาวนอลข่านชื่นชอบความรื่นเริงและชนชั้นสูงที่นี่จะไม่ทำงานเพราะในทุกเดือนองค์ราชาพระราชทานเงินทองของมีค่ามากมายให้แก่ชนชั้นสูงทุกคนอยู่แล้ว” โรสก้มหน้ามองบัตรเชิญมากมายพวกนั้นในมือ ฟังดูแล้วชนชั้นสูงที่นี่ดูสบายจังเลยนะ ไม่ต้องดิ้นรนทำงาน วันๆ ไปเที่ยวแต่งานเลี้ยงเพื่อหาคู่ครอง “ข้าเองก็คิดเช่นนั้น เพียงแต่คุณหนูยังไม่ฟื้นเลยค่ะคุณมาธ่า” “เจ้าควรจะเรียกคุณหนูว่านายหญิงได้แล้วนะ นางไม่ใช่คุณหนูแต่เป็นนายหญิงคนใหม่ของที่นี่” โรสพยักหน้าเห็นด้วย เธอควรจะเก็บความเคยชินของตัวเองเอาไว้และเรียกคุณหนูไกอาว่านายหญิง ไกอาค่อยๆ ปรือตาขึ้นมา เธอได้ยินเสียงของสาวใช้ทั้งสองคุยกันอย่างชัดเจน และ..เธออยากออกงานมากทีเดียว อาการแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นมาเมื่อวานเธอไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองเป็นอะไร หมอได้แต่บอกว่าเป็นเพราะเธอเดินทางมาไกลจึงมีอาการอ่อนเพลีย ทว่าเธอปกติดีทุกอย่าง จนมาเห็นภาพวาดของท่านดยุค ความเจ็บปวดพวกนั้นยังฉายชัดไม่ยอมจางหายไปไหน เขามีใบหน้าที่ละม้ายคล้ายคนรักของเธอมากทีเดียว ผู้ชายที่อ่อนโยนกับเธอมากกว่าใครๆ จะเป็นเขารึเปล่านะ หรือว่านี่มันคือเรื่องบังเอิญ แต่จะมีคนที่หน้าตาคล้ายกันขนาดนั้นได้ไง หรือว่าท่านดยุคจะเป็นบรรพบุรุษของเขา แต่นี่มัน..โลกในนิยายไม่ใช่เรอะ ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัวเพราะอย่างนั้นมีแต่เธอจะต้องไปหาคำตอบเรื่องราวพวกนั้นด้วยตัวเองเท่านั้นเอง ว่าเขาใช่คนรักของเธอหรือว่าเป็นแค่เพียงคนหน้าคล้ายเท่านั้น “ข้าจะไปงานเลี้ยงที่ว่านั่น มาแต่งตัวให้ข้าสิโรส” ทั้งโรสและมาธ่ามองนายหญิงของพวกนางเป็นตาเดียว มาธ่าส่งยิ้มให้นายหญิงจางๆ “ข้าจัดเตรียมชุดสำหรับออกงานให้นายหญิงแล้วค่ะ คงจะไม่สะดวกเท่าไหร่หากว่าท่านแต่งกายดังเช่นในตอนที่อยู่ในจักรวรรดิ เพราะอากาศที่นี่ค่อนข้างร้อนพอสมควร” นั่นสินะ ส่วนใหญ่ที่เธอเห็นสตรีจะสวมเสื้อตัวเล็กๆ ที่ปิดเฉพาะหน้าอกเท่านั้น ส่วนบุรุษจะนิยมถอดเสื้อและใช้ผ้าพาดไปบนไหล่.. “เอาตามที่เจ้าว่าเลยมาธ่า” เข้าเมืองตาหลิ่วก็ต้องหลิ่วตาตามสินะ อีกทั้งเธอจะต้องอยู่ที่นี่ตลอดไป ที่จริงอยู่ที่ไหนก็เหมือนกันเพราะว่าเธอไม่คุ้นเคยเลยสักที่ แต่หากได้อยู่ที่คฤหาสน์แห่งนี้เงียบๆ คงจะดีไม่น้อย เพราะมันเหมือนกับว่าเธอได้อยู่ในโลกส่วนตัวของตัวเอง มีช่วงเวลาที่ได้คิดทบทวนเรื่องราวต่างๆ มากมาย แต่เพราะว่ามันไม่ได้มีเวลามากมายอะไรขนาดนั้นนะสิ เธอต้องออกงานเพื่อตามหาสามีทั้งสองคนของเธอในระยะเวลาหกเดือน ชุดที่มาธ่าสวมใส่ให้เธอก็ไม่แตกต่างจากสตรีนางอื่นสักเท่าไหร่ เป็นเสื้อตัวจิ๋วที่โชว์เนื้อหนังมังสามากพอสมควรและกระโปรงที่พอดีกับสัดส่วน มีผ้าคาดไหล่สีขาวนวลอีกหนึ่งผืน ไกอานั้นถือเป็นสตรีที่งดงามมากพอสมควร เป็นความงามที่..อาจจะแตกต่างอย่างสิ้นเชิงหากเปรียบเทียบกับคนที่นี่ ความงดงามของไกอานั้นจะค่อนไปทางน่ารักซะมากกว่า ทั้งๆ ที่นิสัยของเจ้าตัวนั้นตรงกันข้ามกับหน้าตาเลย.. “นายหญิงช่างงดงามแตกต่างจากชาว นอลข่าน วันนี้ท่านจะต้องได้เป็นดาวเด่นของแวดวงสังคมอย่างแน่นอนค่ะ” เธอนั่งมองตัวเองหน้ากระจก ก่อนจะส่งยิ้มจางๆ ให้มาธ่า “ท่านดยุคเซนเดอร์..มีภรรยารึยัง” รอยยิ้มของมาธ่าหุบลงในทันที “นายหญิงทรงถูกใจท่านดยุคอย่างนั้นหรือคะ” ไกอาพยักหน้า “ท่านดยุคนั้นขึ้นชื่อเรื่องความโหดเหี้ยม ท่านไม่มีภรรยาแต่มีสตรีมากมายที่ทำหน้าที่นางบำเรออยู่ที่คฤหาสน์เซนเดอร์ ชายผู้นั้นไม่เหมาะสมกับนายหญิงผู้งดงามหรอกค่ะ ลองมองเป็นบุรุษท่านอื่นดูไหมคะ” หลังจากได้เห็นสีหน้าของมาธ่า ก็เดาได้ไม่ยากเลยว่าท่านดยุคคงจะเป็นพวกคนชั่วช้าจริงๆ นั่นแหละ แต่กับบางอย่างที่ค้างคาในใจเธอต้องได้รับคำตอบด้วยตัวเองเท่านั้นถึงจะนอนหลับ ไม่ว่าจะอย่างไร เธอจะต้องได้พบเจอใบหน้าของท่านดยุคเซนเดอร์และพูดคุยกับเขาสักหน่อย งานเลี้ยงที่จัดขึ้นมาท่ามกลางทะเลทราย นี่คงเป็นงานเลี้ยงที่เธอพึ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก แถมในยามค่ำคืนอากาศที่นี่ก็เย็นมากกว่าในช่วงกลางวันเล็กน้อย มีบางคนไม่ได้สวมรองเท้าและกำลังเต้นรำด้วยความแนบชิดตามจังหวะของเสียงเพลง เหล่าสตรีและบุรุษแสดงความรักกันอย่างเปิดเผยมากจนกับการกระทำบางอย่าง เธอจะต้องเบือนหน้าหันหนีไปทางอื่น และในงานเลี้ยงนี้ไม่อนุญาตให้พาสาวใช้เข้ามา “เลดี้อามิตี้ ข้าดีใจที่ท่านตอบรับบัตรเชิญเข้าร่วมงานเลี้ยงของข้านะคะ” สตรีผู้หนึ่งเดินเข้ามาหาเธอพร้อมกับส่งยิ้มทักทาย เท่าที่อ่านชื่อของนางในบัตรเชิญก็ได้ความว่าสตรีผู้นี้มีชื่อว่าโนแอล เป็นลูกสาวของขุนนางสักคน “ข้าเองก็ดีใจที่เลดี้ให้เกียรติเชิญข้ามาในงานเลี้ยง” โนแอลส่งยิ้มให้กับไกอา “ข้าชื่นชมท่านจากใจจริงในตอนที่ท่านประกาศต่อหน้าองค์ราชาว่าท่านจะมีสามีสองคน ข้าและเพื่อนของข้าอีกหลายคนชื่นชอบความกล้าหาญนั้นมากทีเดียว” ไกอาส่งยิ้มแห้งๆให้กับโนเอล “มากับข้าสิ มีผู้คนมากมายต้องการรู้จักท่านเป็นการส่วนตัว” โนแอลจูงมือของไกอาเข้าไปด้านในงาน นางมีน้ำเสียงที่อู้อี้ในลำคอไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคงจะดื่มมามากพอสมควร และด้านในสุดของงานคือกระโจมงานเลี้ยงขนาดใหญ่ที่แบ่งเป็นกระโจมเล็กๆ เป็นห้องแยกออกไป ใบหน้าของไกอายังคงเรียบเฉยถึงแม้ว่าเธอจะเดินเข้ามาด้านในกระโจมที่ชาวนอลข่านกำลังทำเรื่องอย่างว่าก็ตามที และสิ่งที่สะดุดสายตาของเธอมากที่สุดคงเป็นบุรุษที่มีเรือนผมสีดำและยาวถึงกลางหลังเขากำลังจับกดศีรษะของสตรีให้ก้มลงแนบไปที่หว่างขาเพื่อให้นางครอบครองตัวตนของเขา ดยุคเซนเดอร์ คาเรน นี่คงจะเป็นการพบกันครั้งแรกที่น่าประทับใจมากทีเดียวพระราชวังแสนหรูหราที่ขนาดน้ำพุกลางสวนยังทำมาจากทองคำ ที่นี่เป็นสถานที่ ที่ความรู้สึกในการมาครั้งแรกและครั้งนี้แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงโนแอลหยุดฝีเท้าของเธออยู่ที่สวนด้านหน้าพระราชวัง เธอมองแผ่นหลังขององค์ราชาด้วยสายตาที่ว่างเปล่าและแฝงไปด้วยความเย็นชา“หากว่าฝ่าบาทจะทรงพูดคุยหรือว่าหารือเรื่องงานล่าสัตว์ที่กำลังจะถึง หม่อมฉันว่าเราสามารถพูดคุยกันที่นี่ได้นะเพคะ”คีนแนนหยุดฝีเท้าที่กำลังก้าวเดินในทันที เขาหันกลับมามองใบหน้าของดรุณีน้อยที่กำลังมองเขาด้วยแววตาที่แฝงไปด้วยความไม่พอใจ“เจ้าไม่ชอบที่ข้าเรียกเจ้ามาอย่างนั้นหรือ ทั้งที่ในคืนนั้น..รางวัลที่ข้ามองให้เจ้าก็นับว่าส่งมอบให้ด้วยความสุขสมมิใช่หรือ? แล้วเหตุใดถึงทำท่าทางราวกับไม่อยากได้รางวัลนั้นเป็นครั้งที่สองล่ะ”โนแอลขบเม้มริมฝีปากเบาๆ“เพราะหม่อมฉันไม่ชอบอยู่กับความเพ้อฝันเพคะ อะไรที่เป็นไปไม่ได้ หม่อมฉันก็จะไม่เอาตัวเองไปยุ่งเกี่ยวอีกแล้ว แค่ครั้งเดียวก็..มากเกินพอ”คีนแนนขยับฝีเท้าก้าวเดินเข้ามาหาโนแอล เขาจับที่ปลายคางของเธอก่อนจะเชยคางมนนั้นขึ้นมาเพื่อให้เธอมองสบตาเขา“หากจะนับกันจริงๆในเรื่องนี้ เจ้าเป็นฝ่ายที่เริ่มมันขึ้นมาด
ส่วนนั้นชุ่มไปด้วยน้ำลายหยาดเยิ้มยั่วยวนให้แทรกกายเข้าหา ปลายนิ้วสัมผัสบริเวณที่ถูกปิดสนิท ซึ่งชุ่มชื่นจากการปรนเปรอด้วยปาก“อา..คาเรน”ไกอาเรียกชื่อของเขาออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เธอหันหน้ากลับมามองหน้าเขา ซึ่งสีหน้าของเธอมัน..งดงามมากทีเดียวเหอะ..นี่มันคืออะไรกัน ความสวยงามที่ราวกับว่านางไม่ใช่มนุษย์นี้ สตรีสามารถงดงามเช่นนี้ได้ด้วยอย่างนั้นหรือ เขานอนกับสตรีมานับไม่ถ้วนแต่กลับไม่เคยมีสตรีใดที่สามารถตรึงใจได้ถึงเพียงนี้เลยสักนาง นี่คือเหตุผลที่รัชทายาทไม่สามารถปล่อยเธอไปได้อย่างนั้นสินะ มันคือเหตุผลที่พระองค์ยินยอมละทิ้งศักดิ์ของราชวงศ์เพื่อมาใช้ภรรยาคนเดียวกันกับเขาไกอาขบเม้มริมฝีปากเบาๆ ส่วนลึกในกายสั่นไหวจนเผลอขยับสะโพกตามจังหวะสอดรับกับการเคลื่อนไหวของนิ้วมือที่กำลังสำรวจข้างใน เสียงเปียกชื้นดังขึ้นอย่างน่าละอายนี่เป็นครั้งแรกที่เธอทำเรื่องเช่นนี้กับบุรุษทั้งสองคนพร้อมๆ กับ สาบานได้เลยว่าในครั้งแรกไกอาไม่ได้คาดคิดว่าเรื่องมันจะออกมาเป็นแบบนี้ เพราะว่าเธอแค่อยากจะพูดคุยกับพวกเขาทั้งสองคนให้รู้เรื่องไปเท่านั้นเอง แต่ทว่าการที่เรื่องราวมันดำเนินมาถึงการกระทำเช่นนี้ ก็ดีไม่น้อย
แรงกระตุ้นจากฝ่ามือที่ลูบไล้ส่งผลกับทุกส่วนในร่างกายอย่างน่าเหลือเชื่อ ลิ้นอุ่นไล้เลียไปตามยอดปลายถันสีหวาน ตวัดเลียไปมาสลับกับออกแรงดูดดึงเบาๆ พอให้ร่างกายของไกอาได้สั่นสะท้านหากจะบอกว่าองค์รัชทายาทคาเบเรียนนั้นเก่งกาจเรื่องการเร้าอารมณ์ เช่นนั้นท่านดยุคเซนเดอร์ก็คงจะเก่งกาจในการรู้จุดสัมผัสที่จะทำให้ร่างกายของเธอสั่นสะท้านเธอปรายตามองหน้า ในขณะที่ริมฝีปากของเขากำลังครอบครองปลายยอดอก“อา..”เมื่อริมฝีปากของไกอาเป็นอิสระ เธอก็เปล่งเสียงร้องครางแสนหวานล้ำออกมาอย่างน่าละอาย เคียนปลดเปลื้องอาภรณ์ที่ทำจากผ้าไหมราคาแพงระยับของเขาออกไปในทันที ดูเหมือนว่าการแข่งขันของเขาและดยุคแห่งเซนเดอร์จะยังไม่จบ..อันที่จริงต้องเรียกว่ามันไม่มีทางจบสิ้นเลยน่าจะดีกว่า เขาไม่รู้เหมือนกันว่าชายผู้นั้นเป็นอะไรถึงได้ชื่นชอบการแข่งขันกับเขานักหนา ในทุกครั้งที่ฤดูกาลล่าสัตว์เดินทางมาถึงท่านดยุคจะต้องแข่งขันล่าสัตว์อย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อเอาชนะเขา ตั้งแต่จำความได้เขาและท่านดยุคเป็นคู่แข่งกันมาโดยตลอด เคียนเองก็ไม่อยากจะเชื่อว่าแม้กระทั่งเรื่องสตรี เราทั้งสองคนก็ยังจะต้องแข่งขันกัน..และเขาไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวเ
สิ่งที่เกิดขึ้นมาโดยที่ตัวของไกอาเองก็ไม่ทันได้ตั้งตัวเช่นกัน สิ่งนั้นมันคงเป็นความลุ่มหลงและความอ่อนไหวที่ไขว้กันอย่างสลับซับซ้อนมาทีเดียวในตอนนี้ทั้งที่เมื่อไม่กี่วันก่อนเธอยังกังวลในเรื่องของการหาสามี แต่ทว่าในวันนี้เธอกลับได้บุรุษทั้งสองคนเป็นสามีพร้อมๆ กันงานแต่งงานของเราจะต้องสนุกมากแน่ๆ ..ดวงตาสีอำพันของเคียนวูบไหวไปมาราวกับเปลวเทียนที่ต้องสายลม ใบหน้าของเขาขึ้นเป็นสีแดงระเรื่อ ในขณะที่ไกอานั้นอยู่ในอ้อมแขนของเขาส่วนคาเรน เขากำลังคิดว่าตัวเองนั้นเสียเปรียบเล็กน้อย ฝ่ามือหนาใหญ่ของคาเรนจับเข้าที่เอวของไกอา เขายกเธอลอยขึ้นมาจากตักขององค์รัชทายาท ก่อนจะวางเธอเอาไว้ในอ้อมกอดของตัวเอง เขาวางคางเกยลงไปบนไหล่เล็กๆ ของเธอด้วยความออดอ้อน“จำครั้งที่เราพบเจอกันครั้งแรกได้หรือไม่ เจ้าบอกว่าเจ้าจะนอนกับบุรุษที่จะมาเป็นสามีของเจ้าเท่านั้นและในยามนี้ข้ายินยอมเป็นสามีของเจ้าแล้ว ในเมื่อหัวใจและความคิดของเรานั้นมันตรงกัน เช่นนั้นในเรื่องถัดไป เราก็ควรจะทำให้ร่างกายของเรามันตรงกันสิถึงจะถูกต้อง..”เขาไม่ได้กล่าวคำลอยๆ ขึ้นมาเรื่องที่เขาจะเป็นสามีของเธอ คาเรนจัดเตรียมใบทะเบียนสมรสมาด้วย เขาย
เรือนรับรองของขุนนางแต่ละคนจะเป็นกระโจมน้อยใหญ่แตกต่างกันไป แต่ทว่าเรือนรับรองของไกอา มันคือคฤหาสน์หลังย่อมๆ เลยทีเดียว เป็นที่พักที่ดูพิเศษแตกต่างจากขุนนางคนอื่นๆ เธอเดินนำองค์รัชทายาทและท่านดยุคเข้าไปด้านใน เหล่าสาวใช้ต่างยกถาดสุราและผลไม้มากมายขึ้นมาวางเอาไว้บนโต๊ะกลางตัวเตี้ยๆ ที่ทำจากไม้ หลังจากนั้นพวกนางก็เดินออกไปพร้อมประโยคที่ทิ้งท้ายเอาไว้ว่าพวกนางเติมน้ำอุ่นในอ่างเต็มแล้วไกอานั่งลงบนม้านั่งตัวยาว ส่วนคาเรนเลือกที่จะนั่งข้างๆ เธอ และนั่นทำให้ที่นั่งบนม้านั่งเต็มแล้ว เคียนจึงจำเป็นที่จะต้องเดินไปนั่งอีกฝั่งหนึ่งของโต๊ะ“ว่ามาสิคะ พวกท่านทั้งสองต่างก็บอกว่าว่ามีเรื่องจะพูดคุยกับข้า”คาเรนแสร้งหัวเราะเพื่อกลบเกลื่อนสถานการณ์ เขายื่นมือมาโอบเอวของไกอาเอาไว้ บอกได้เลยว่าที่เขาเข้าใกล้เธอมันเป็นเพราะเขาแค่ต้องการเอาชนะองค์รัชทายาท แต่ทว่ายิ่งเขารู้จักไกอามากเท่าไหร่ นางยิ่งมีมุมที่ทำให้เขาหลงใหลนางได้ตลอดเวลา เพราะดวงหน้าที่งดงามยากจะละสายตา และเพราะท่าทีเย่อหยิ่งที่แสนมั่นอกมั่นใจของนาง..“เท่าที่ข้าจำได้ เลดี้กล่าวว่าเจ้าจะให้คำตอบกับคำถามของข้าในวันนี้นี่ครับ”ไกอาเงยหน้าขึ้นมา
คำถามที่องค์ราชาเอ่ยถามออกมานั้นไม่ใช่แค่โนแอลที่ได้ยิน แต่ทว่าทั้งไกอาและผู้คนบริเวณนั้นต่างได้ยินทั้งหมดถึงแม้ว่าไกอาจะสนิทกับโนแอลได้ไม่นานมากนัก แต่เธอก็ชื่นชอบโนแอลมากพอสมควร และหากว่าเธอสามารถเลือกได้ ไกอาไม่อยากให้โนแอลวางมือของนางลงบนมือขององค์ราชา เธออยากให้เพื่อนหลุดพ้นจากความรักที่ไร้ซึ่งหนทางที่จะสมหวัง ความเจ็บปวดที่ไร้ที่สิ้นสุดกำลังรอคอยโนแอลอยู่บนเส้นทางความรักนั้น และในสายตาของไกอามันไม่คุ้มเลยสักนิด แต่ถึงแม้ว่าเธอจะคิดเช่นนั้น แต่นี่คือชีวิตของโนแอล..สิ่งที่ไกอาทำได้คือคอยมองดูโนแอลอยู่ห่างๆ นี่คือชีวิตของโนแอล..เพราะอย่างนั้นเธอเองก็ควรจะเคารพการเลือกของสหาย..โนแอลจ้องมองมือขององค์ราชาอยู่ครู่หนึ่ง มันน่าหัวเราะมากทีเดียว เพราะการที่พระองค์เอ่ยถามออกมาและยื่นมือออกมาเช่นนี้ พระองค์ไม่ได้ให้โอกาสในการปฏิเสธกับเธอตั้งแต่แรกเลยด้วยซ้ำ ไม่มีหนทางให้ถอยหนีเลยแม้แต่นิดเดียว มีเพียงหนทางที่จะต้องเดินไปข้างหน้าเท่านั้น..เธอวางมือลงบนมือขององค์ราชาด้วยใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม โนแอลเบนสายตาไปมองหน้าของไกอา“ดูเหมือนว่าข้าจะมีงานเร่งด่วนที่จะต้องไปทำ เพราะอย่างนั้นในวั