LOGINจะยากอะไรก็อ่านมาตั้งสามรอบดูซีรีส์มาเกือบร้อยรอบ เรื่องอนาคตของพวกเจ้าน่ะหรอ จิ๊บจ๊อย ได้เวลากอบโกยแล้วจะไม่รวยก็ให้มันรู้ไป5555
View More“ไอ้ฉิบห๊ายมางัยก่อนมึงเนี๊ยะ”
เสียงเหน๋อๆ ของคนภูมิภาคหรือคนชายขอบกรุงเทพ ยามที่ตกใจหรือเผลอไผล (ปกตินางเอกพูดไทยกรุงเทพชัดๆ)
มีมี่คว้าผ้าห่มมาห่มร่างเกือบเปลือยบนแท่นนอน …แท่นนอน ตายห่าล่ะทำไมเป็นแท่นนอน
เสียงบางอย่างในหัวปรากฎขึ้นพร้อมจอบางใส
“ออนไลน์ นี่คือระบบการเอาตัวรอดของหลี่ชวี่หลิน ท่านผู้ใช้มีมี่กำลังทดแทนในระบบ” มีมี่ไม่ได้ฟังคำพูดนั้นด้วยซ้ำ
“ไม่ต้องเลยนะ 123กรี๊ดดดด หล่อจัง”
นี่ที่นี่โรงถ่ายเหิงเตียน ใช่มันต้องเป็นโรงถ่ายเหิงเตียนในประเทศจีน แต่ว่า ฉันทำไมมานอนอยู่บนแท่นนอนกับพระเอกซีรีย์เล่า
ร่างที่นอนตะแคงเห็นแค่เสี้ยวหน้าขาวทางด้านขวา จมูกโด่งเป็นสันริมฝีปากแดงระเรื่อน่าจูบแดงกว่าปากกูอีกมีมี่คิดในใจ คนที่ถูกมองเหมือนจะสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง ยกมือขึ้นขยี้ตาทั้งที่ไม่มีขี้ตาสักแอะแม้แต่ตอนขยี้ตายังหล่อ ชุดฮันฟูสีขาวสะอาดขับผิวขาวออร่า กินหลอดไฟเข้าไปหรืองัยขาวเว่อร์
ดวงตากลมโต
นี่มัน อ๋องหรงเป่ยหลางพระเอก กรี๊ดนี่มันพระเอกจากซีรีส์เรื่องสยบหัวใจอ๋องวายร้ายหน้านิ่งนี่ ต้ายตาย ตายแล้ว ตายแล้ว
เช็คอินรับทันที1 โอกาสพลังพิเศษ บวก1โอกาสพลังพิเศษออนไลน์
ระบบยังอ่านรายงานไม่หยุดแต่มีมี่กลับไม่สนใจ
เรื่องนี้อ่านไปสามรอบดูไปสองรอบ จำได้แม้กระทั่งคำพูด แล้วมาไงก่อน
“เจ้า”
พลิกตัว ขึ้นมาทาบทับไว้มือแกร่งบีบที่ลำคอไว้แน่น
ใบหน้าอีกเสี้ยวนั้นสวมหน้ากากเหล็กสีดำปิดทับไว้แต่นั่นไม่สำคัญหรอก
“ทำให้ตัวร้ายกลายเป็นตัวดีทำให้ตัวร้ายกลายเป็นตัวดี เดี๋ยวนี้ๆๆๆๆ หากทำให้ตัวร้ายอ่อนโยนลงได้จะรับเพิ่มสองโอกาสสำหรับพลังพิเศษ”
“พระเอกบ้าอะไรทำร้ายผู้หญิงวะ โอ๊ยเจ็บปล่อยนะเว๊ย ไม่อย่างนั้นสู้นะเว๊ย”
กำหมัดเตรียมชก อีกคนคว้าข้อมือบิดจนรู้สึกเจ็บจึงคลายกำมือออกเสีย คนอะไรทำร้ายผู้หญิง แต่ก็นะ พระเอกต้องเจอกับนางเอกที่เป็นองค์หญิงสามจอมแก่นของวังหลวงนี่ แล้วทำไมมานอนทับมีมี่แบบนี้ แล้วที่นี่ที่ไหนในซีรีส์หรือ
“ระบบออนไลน์ ระบบออนไลน์” มีมี่ขมวดคิ้ว
ดวงตาคมน่ากลัว จมูกโด่งเป็นสัน ไม่นะอย่าใจอ่อนนะมีมี่ชอบใจอ่อนกับคนหล่อเสมอ อือๆๆๆ น่าเอาผมแหย่จมูกที่สุด
“หล่อจัง” ยกมือขึ้นบีบที่ปลายจมูกขาวอย่างลืมตัว
“สามารถบีบจมูกของตัวร้ายรับ1โอกาสพลังพิเศษ
“เฮ๊ย บังอาจ ลู่เหวินลากตัวนางไป นางตั้งใจยั่วยวนข้า นางจะต้องวางยาข้าแน่ๆ ข้าจึงหลับใหลไม่ได้สติเช่นนี้”
ไอ้คนที่ชื่อลู่เหวินรีบวิ่งจู๊ดเข้ามาในห้อง
“ท่านพ่อบุญธรรม เมื่อคืนเป็นท่านที่โมโหที่นางใช้มีดแทง ท่านจึงลากนางเข้ามาในห้อง แทงก็แทงไม่ถูกท่านก็ยังลากนางเข้า…. นางแทงท่านท่านก็คงตั้งใจแทงนางกลับคืน”
ประโยคท้ายคล้ายรำพึงรำพันกับตัวเอง
…….
หมอนี่เข้าท่า กล้าพูดความจริง
มือเรียวยาวขาวจ๋องคว้าคอมีมี่ขึ้นจนตัวลอย
ไม่ใช่ล่ะ ไม่ใช่ล่ะ ไม่ใช่พระเอกล่ะ นี่มันตัวร้ายชัดๆ ก็ใช่นี่คนคนนี้ในบทก็
ร้ายๆ แบบนี้แหละ
“เจ้าบังอาจใช่มีดแทงข้าหรือ”
มารดาแกเถอะ ฉันจะกล้าทำอะไรแบบนั้นแค่มีดบาดก็ร้องไห้จะตายเพราะกลัวเลือด
“นายก็บังอาจพรากความสาวชั้นไปเหมือนกัน”
“อย่ายอมแพ้ท่านผู้ใช้สู้ๆ” ระบบส่งเสียงเชยร์
ดึงขอบกระโปรงก้มมองหว่างขานี่เมื่อคืนเสร็จเจ้าหมอนี่ไปแล้วหรือ แต่ว่ากี่ทีหนอ
“ข้าย่ำยีเจ้าไม่แปลก เมื่อคืนเป็นเจ้าที่รั้งข้าไว้”
มีมี่จิ้มนิ้วมือไปที่อกตัวเอง
“หาฉันเนี๊ยะนะ อย่ามั่วสิ นึกว่าหล่อแล้วจะยอมทอดกายให้เหรอไม่มีทางหรอกฉันยังบริสุทธิ์ผุดผ่องเอาความสาวให้คนที่หล่อแบบนาย หล่อแต่ไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษสักนิดชอบรังแกผู้หญิง”
เถียงไปงั้นแต่ในใจกลับคิดว่าหรือเราจะเป็นคนที่รั้งเข้าไว้จริงๆ ก็หมอนี่หล่อซะขนาดนั้น ถึงจะร้ายก็เถอะ
“หุบปาก ของเจ้าเสียลู่เหวินเอาผ้ามาอุดปากนางไว้แล้วก็จับนางมัดไว้กับเสา”
เจ้าลู่เหวินคนซื่อวิ่งเข้ามามีมี่อาศัยจังหวะนี้ถีบผลั๊กเข้าให้
“อย่าคิดว่าจะรังแกกันได้ง่ายๆ”
“กล้าต่อกรกับตัวร้ายรับไป1โอกาสพลังพิเศษ
“พ่อบุญธรรมอ่า ลู่เหวินไร้สามารถ”
ลู่เหวินยกมือขึ้นกุมท้องตัวงอ
“ข้าจะเอาม้าแยกร่างแล้วสับเจ้าหมื่นชิ้น เจ้าว่าดีไหม”
พูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
เอ คำพูดนี้มันคุ้นๆ อ่อ บทพูดของอ๋องหรง ยามโกรธชอบข่มขู่คนอื่นจนเคยตัว
“แฮะๆๆๆ ไม่ต้องเกรงใจ ฉันไม่รับไว้จะดีกว่า จะจับจะมัดอะไรก็รีบมาฉันพร้อมแล้ว”
“ท่านผู้ใช้สู้สู้”
ยอมง่ายดายก็ไอ้ที่รู้ๆ พระเอกคนนี้ไม่ใช่แค่ขู่อ่านมาเยอะล่ะ มันเอาจริง
เอามือไพล่หลังตัวเองคุกเข่าเชิดหน้า
ดวงตาคมดำขลับขนตางอนงามช้อนตาขึ้นมองมีมี่ แววตาดูโหดเหี้ยมแต่ยังมองว่าดูดีเพราะใบหน้าหล่อๆ ของหรงเป่ยหลางทำให้มีมี่อภัยในทุกอย่างได้ง่ายดาย
“ลู่เหวินนำนางไปขังตากแดดไว้ให้ตาย อดข้าวอดน้ำ”
“ลบ1โอกาสพลังพิเศษ ถูกลงโทษๆๆๆ”
“หุบปากเหอะน่าาาา” มีมี่ตะโกนดังๆ รำคาญระบบที่ส่งเสียงเย้วๆๆ ข้างๆ หู
ลู่เหวินโบกมือให้ทหารสองสามคนเข้ามายืนล้อมมีมี่ไว้
ตากแดด หน้าร้อนนะเฟ้ย แล้วขังตากแดดจนตายนี่ต้องทรมานแค่ไหนกัน แล้วในซีรีส์นี่มีมี่คือตัวละครตัวไหน ใช่ตัวประกอบออกมาแล้วตายเลยหรือเปล่า ไม่ได้การล่ะ
ระบบระบบอะไรนี่ช่วยฉันได้ไหม
“ท่านผู้ใช้ท่านมีโอกาสใช้พลังพิเศษ3ลบ1 จะใช้หรือไม่เจ้าคะ”
“ใช้ดิ ใช้เลย”
“มีสองพลังพิเศษ ร่างกายแข็งแกร่ง วรยุทธ์สูงส่งเจ้าคะท่านผู้ใช้”
“ดีๆๆๆ เอามาน่าอย่ามัวแต่พูดมากก” แต่
“ช้าก่อน”
“อือ”สะดุ้งเฮือกเมื่อพบว่าในผ้าห่มมีร่างอุ่นๆ ของใครในนั้นอีกทั้งมือเหนียวราวกับหนวดปลาหมึกกอดรัดเขาไว้แน่นผงกศีรษะมองหน้าก็รู้ว่านี่คือมีมี่ นางมานอนที่นี่ได้อย่างไร“มูมู่มาให้กอดหน่อยจะหนีไปไหน”มีมี่เองก็ครึ่งหลับครึ่งตื่นคิดว่ากำลังกอดแมว อ๋องหรงแกะมือเหนียวออกแต่ไม่สำเร็จ“หือ กอดนิดกอดหน่อยทำเป็นโมโห พรุ่งนี้ไม่ต้องกินเปียกเลยนะ” บนงึมงำอ๋องหรงเป่ยหรางใจเต้นตึกตัก จะว่าไปคืนนั้นจำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นด้วยซ้ำแต่ทำไมพอโดนนางกอดอ้อมกอดอบอุ่นนี้กลับรู้สึกแปลกๆ ใจก็เต้นไม่เป็นท่า ก็เขาไม่เคยแนบชิดหญิงใดมาก่อนต่างหาก แค่เพียงรอว่าสักวันได้ได้เผยความในใจกับองค์หญิงสามอวี่หนิง“ได้รับ1โอกาสพลังพิเศษ ทำให้ตัวร้ายใจสั่นอีกแล้วเย้ๆๆๆๆ”“นอนๆๆๆ ฉันง่วงแล้ว”ยกมือเกาที่คอให้อ๋องหรงตาก็ไม่ลืมอีกคนอยากจะปัดมือออกแต่พอเห็นดวงตาดำขลับที่หลับตาพลิ้มเคี้ยวปากจั๊บๆ ก็เลยสงสารไม่อยากปลุกปล่อยให้มี่มี่นอนกอดแบบนั้นมันก็รู้สึกดีไปอีกแบบ หากไม่รวมอาการใจเต้นตึกตักที่เป็นอยู่ริมฝีปากแห้งผากและรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ ก็ไม่ได้เสียหายอะไรนี่เขาเป็นบุรุษ ไม่สิจะเห็นแก่ตัวมากไปแล้วนางเป็นหญิงนี่จะมาทำแบบนี้นาง
“ดีๆๆๆ เอาตามนี้ แต่อย่าลืมองค์หญิงเก้าของเอ่อถัวจะต้องส่งเข้าถวายตัวทันที ข้าอดที่จะได้เห็นใบหน้างดงามของนางเสียไม่ได้ ภาพวาดที่ส่งมาจากชายแดนทำข้ากินไม่ได้นอนไม่หลับมาหลายคืนแล้วหวังจะได้เชยชมนางให้จงได้”“ฝ่าบาทองค์หญิงเก้าซวี่หลินว่ากันว่ามีกิริยาสูงส่งดั่งเทพธิดาสวรรค์ อีกทั้งคำพูดของนางล้วนหยั่งรู้อนาคต ฝ่าบาทแน่ใจหรือว่าจะรับองค์หญิงในตำแหน่งสนม ไม่อยากได้องค์หญิงไว้ในฐานะผู้วิเศษคอยทำนายทายทักเรื่องต่างๆ ล่วงหน้าหรอกหรือพ่ะย่ะค่ะ”ฉีก้านขมวดคิ้ว แต่ก็ยิ้มออกมาในที่สุด“หือ เป็นสนมข้าแล้วไม่อาจหยั่งรู้หรืออย่างไร ดีเสียอีกนางจะได้ไปไหนไม่รอด อยุ่ให้ใช้งานทั้งกลางวันกลางคืน5555”ขันทีประสานมืออมยิ้ม“ฝ่าบาททรงพระปรีชาจริงๆ พ่ะย่ะค่ะ”“ฮะฮะฮะฮ่าาาาา เอาน่าไม่ได้แย่เสียหน่อย ชีวิตท่านก็ได้เป็นนายกอง และยังมีครอบครัวที่อบอุ่น”ทหารนายหนึ่งที่ นั่งล้อมวงฟังมีมี่ทำนายอนาคตให้ ท่ามกลางความมืดที่มีเพียงกองไฟลุกโชติช่วงราวกับกำลังเล่นรอบกองไฟยามที่ไปพักแรมค่ายลูกเสือ“ข้ายังเป็นทหารเหมือนเดิมใช่ไหม”มีมี่ถอนหายใจ“ก็ใช่นะซี้ ไม่อยากเป็นหรือความจริงอยู่ตรงนี้ก็ดีแต่หากว่าไม่ชอบ กลับไปที่บ้
“ข้าไม่ชอบเข้าใกล้หญิงใด เจ้าหากยังคิดว่าจะนั่งบนเกี้ยวหลังนี้กับข้าจะต้องพึงระลึกไว้เสมอว่าอย่าเข้าใกล้ข้ามากกว่านี้”“เชอะใครอยากเข้าใกล้ก่อนนั้นก็ลากเราเข้าไปในห้องตื่นมาสภาพโป้เปลือยไม่รู้ทำอะไรหรือเปล่ามาวันนี้บอกว่าไม่อยากเข้าใกล้หญิงใด” บ่นงึมงำ“เย้ๆๆๆๆ ดีใจด้วยได้รับ1โอกาสพลังพิเศษเพราะสามารถทำให้ตัวร้ายใจสั่น” เสียงระบบปั่นป่วน“เจ้าเป็นคนแรกที่เห็นใบหน้าของข้า เช่นนั้นหากกล้าพูดเรื่องใบหน้าข้าให้ใครรุ้ข้าจะฆ่าเจ้าเสีย”“ไปโดนอะไรมา” ทอดเสียงอ่อนโยนเดินเข้ามาสังเกตใกล้ๆนี่ไม่ใช่ปู้ๆ จิงชินเวอร์ชันเกาหลีแล้วอีกอย่างมีมี่ก็ไม่ได้มีความสามารถในการแต่งหน้าก็แค่แสดงความเห็นใจ ในนิยายไม่ได้เขียนบอกไว้ว่าไปโดนอะไรมาด้วยสิ“อย่ายุ่ง” มีมี่ยิ้มเจื่อนๆ พยักหน้าขึ้นลง“ไม่ยุ่งก็ได้ ขอโทษละกันฉันเผลอไปหน่อยปกติต้องจับจิ้งจกให้แมวทุกเย็นป่านนี้เจ้ามูมู๋เป็นอย่างไรบ้างไม่รู้คงคิดถึงฉันแย่เลย” บ่นเบาๆ ในตอนท้ายอดไม่ได้ที่จะคิดถึงแมว“จริงด้วยฉันจะต้องไม่ตายจะต้องไม่ติดอยู่ที่นี่จะต้องออกไปให้ได้กลับไปหามูมู๋”“เพ้ออะไรของเจ้า จำไว้ว่าห้ามพูดเรื่องใบหน้าของข้ากับใครโดยเฉพาะองค์หญิงสาม” เสี
“รอพรุ่งนี้เถอะนะ รอพรุ่งนี้เถอะนะหนูจะหายไป”น้ำตาเต็มสองตา“ซวี่หลิน ซวี่หลิน”มีมี่สะดุ้งตื่นเมื่อรู้สึกได้ว่ามีใครบางคนกำลังเขย่าตัวยกมือขึ้นปาดน้ำตา ที่เปรอะแก้ม“เกี้ยวหยุดพักกินอาหารเที่ยงกันที่นี่เจ้าควรลงมาเดินเสียบ้างจะได้ไม่ปวดเมื่อย” น้ำเสียงเรียบเฉย มีมี่ได้แค่พยักหน้า อ๋องหรงสังเกตเห็นหยาดน้ำตาและแววตาเศร้าสร้อยของมีมี่ชัดเจน“ไปกันเถอะ”ข้างล่างนั่น เหล่าทหารกำลังหุงหา ซูเอ่อรีบนำเอาซาลาเปามายื่นให้อย่างเอาใจ“มีไส้เค็มที่ทำจากเนื้อหมูน้ำค้างเจ้าค่ะแล้วนี่ไส้หวานจากถั่วแดง ซู่เอ่อรู้ว่าองค์หญิงไม่นิยมกินเนื้อแพะภูเขา”มีมี่ยิ้มน้อยๆ ไม่ได้ร่าเริงเพราะความฝันที่ฉุดให้จมดิ่งลงกว่าเดิม โรคซึมเศร้ามันร้ายกว่าที่คิดมันจะโจมตีคุณทุกครั้งที่คุณดิ่งลงให้ยิ่งดิ่งลึกลงไปลึกสุดลึกจนในที่สุดคุณก็ไม่อยากจะขึ้นมาอ๋องหรงเดินมาทรุดกายลงนั่งข้างๆ พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยเช่นเดิม“เจ้าควรจะหัดกินเนื้อสัตว์อื่นบ้าง การเดินทางต้องใช้เวลาจึงไม่มีการเตรียมเสบียงมามากพออาศัยล่าสัตว์ตามป่าเขาพอได้ประทังหากเจ้ากินยากอยู่ยากแบบนี้จะทำให้ร่างกายอ่อนแอ”“ไม่ต้องมายุ่ง ข้าไม่ชอบกินเนื้อสัตว์ป่





