LOGIN“หยุดนะคุณจา หยุด!” เสียงหวานร้องห้ามไม่แรงนัก ร่างสูงยกยิ้มที่มุมปากปล่อยข้อมือบางมาชักรูดแก่นกายของตัวเองในขณะที่มืออีกข้างชักเข้าออกร่องแคบที่มีน้ำเยิ้มและเร็วขึ้นจนร่างบางสั่นคลอนไปตามแรงกระแทกของนิ้ว แล้วชักนิ้วออกจากร่องสาวแทนที่ด้วยแก่นกายของตัวเองทันที มือใหญ่จับเอวบางไว้แน่นกดสะโพกลงทีเดียวสุดลำ จนสาวสวยผวาตาค้างไขว่คว้าบ่าแกร่งจิกเล็บจนชายหนุ่มรู้สึกแสบ “อื้อ คุณจา”“จะให้ยืนเอาตรงนี้หรือจะให้เอาที่เตียง” คนตรงก้มลงถามพลางกัดริมฝีปากอย่างทรมานเมื่อด้านล่างของเธอบีบรัดจนรู้สึกปวดหนึบทั้งแท่ง“บ้าไปแล้ว หมี่ไม่น่าไว้ใจคุณจาเลย” หญิงสาวกัดฟันพูดไม่แรงนัก“ถ้าให้เอาอยู่ตรงนี้พรุ่งนี้คุณเดินไม่ไหวแน่ ๆ นะมัดหมี่” ชายหนุ่มว่าไปอีกทางเอื้อมมือไปปิดก๊อกน้ำ แล้วยกสะโพกของเธอขึ้นจนขาพ้นพื้นเดินออกมาจากห้องน้ำในขณะที่แก่นกายของเขายังคาอยู่ในร่อง ร่างสูงเดินมาถึงเตียงนอนแล้ววางหญิงสาวลงบนเตียงอย่างเบามือและเริ่มขยับเอวทันทีโดยไม่บอกไม่กล่าว “โอ๊ย! คุณจา” “อ่า...แน่นมากหมี่” ว่าพลาง
“เอาไงล่ะมึงคราวนี้” น้ำฝนหันมาถามเพื่อนเซ็ง ๆ“เอาไงล่ะ กูก็ไม่เคยขับรถเขาซะด้วย เอางี้...ให้คุณจาไปรถอ้าย มึงขับแล้วกันส่วนกูจะขับรถคุณจากลับหอ” หญิงสาวตอบเพื่อนพลางมองเจ้านายตัวเองที่นั่งตรงนิ่งเป็นตุ๊กตาและไม่บ่งบอกว่าเมาหรือไม่เมาในตอนนี้“ผมกลับกับหมี่” ชายหนุ่มว่าขึ้นพลางลุกขึ้นยืนไม่ได้มีอาการอะไร เมื่อเทียบกับพี่ชายของเธอที่ดูจะหนักมากเอาการ“เฮ้อ...งั้นเดี๋ยวหมี่พาอ้ายไปส่งที่รถช่วยฝนก่อนค่ะ”“ผมช่วย” ว่าพลางสะกิดคนนั่งข้างจนเขาเงยหน้าขึ้นมามอง “รถจอดที่ไหนครับผมไปส่ง” ย่อลงจับแขนพี่ชายของผู้ช่วยเลขาพาดบ่าแล้วพยักหน้าให้หญิงสาวบอกทาง ซึ่งการเดินของเขาไม่เหมือนกับคนดื่มเลยซักนิดทั้ง ๆ ที่เธอก็เห็นว่าเขาดื่มหนักพอ ๆ กับพี่ชายเธอ“บอสไม่เมาเลยหรือคะ” หญิงสาวถามเสียงเบาเมื่อเดินกลับมาที่รถมอเตอร์ไซค์ของเขาด้วยกัน“ก็นิดนึง คนไทยส่วนมากเขากินน้ำแข็งกับโซดากัน” ชายหนุ่มว่ายิ้ม ๆ พลางยื่นกุญแจรถให้หญิงสาวเป็นคนขับกลับไปที่หอพักโดยมีเขาซ้อนท้าย
“เพิ่งรู้นะคะว่าคุณจาทานอาหารอีสานรสจัดพวกนี้ได้” หญิงสาวว่าขึ้นพลางมองชายหนุ่มที่กำลังเอร็ดอร่อยกับอาหารอีสานรสจัดที่บางอย่างเธอกับเพื่อนก็ไม่สามารถทานได้แต่ดูง่ายมากสำหรับจาติรัช *นักเรียนนอกนี่มันนอกตรงไหนวะ นอกเทศบาลละมั้งกูว่าซดปลาร้าคล่องมากพ่อ...* หญิงสาวแอบคิดในใจ“คุณยายผม (หมายถึงแม่ยายคุณอา) เป็นคนอีสาน ผมไปหาบ่อย ๆ” คนพูดสั้นเริ่มพูดยาวขึ้น“ทำงานที่เดียวกับน้องสาวผมหรือครับ” หมอกพยายามผูกมิตรพลางแอบมองหน้าน้องสาวแล้วชำเลืองคนนั่งข้าง ๆ อย่างมีเลศนัย“ครับ ที่เดียวกัน”“ผมทำงานอยู่อีกฝั่งนาน ๆ ถึงจะมีเวลามาหาน้อง ๆ” รองสารวัตรหนุ่มพูดยิ้ม ๆ“บ้านคุณย่าผมก็อยู่อีกฝั่งเหมือนกัน แต่ไม่ค่อยได้ไปเท่าไหร่” ว่าพลางรับแก้วน้ำที่หญิงสาวรินส่งให้มาดื่มจนหมดแก้ว“แล้วนี่คุณจาพักอยู่ไกลมั้ยครับ ผมว่าเราปล่อยสาว ๆ ขายของเราไปดื่มกันต่อดีกว่ามั้ย” คำชวนของพี่ชายที่ชวนรองประธานไปดื่มทำเอาน้องสาวถลึงตาใส่ทันที แต่ที่หมอกชวนดื่มเพราะสังเกตการณ์พูดแบบสั้น ๆ ถามคำตอ
ตลาดเย็นเป็นสุขในวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผู้คนพลุกพล่านตั้งแต่ตลาดเริ่มตั้ง เพราะวันนี้นอกจากจะมีตลาดนัดแล้วยังมีมีดนตรีสดของนักเรียนนักศึกษาให้รับฟังกันฟรี ๆ ในสัปดาห์ต้นเดือนแบบนี้ ทำให้ตลาดมีความครึกครื้นขึ้นมาก 2 สาวเพื่อนรักรีบช่วยกันจัดร้านเสร็จตั้งแต่ก่อนบ่ายให้พร้อมขายก่อนจะพากันนั่งทานมื้อเที่ยงพร้อมกับมองลูกค้าเผื่อมาซื้อน้ำไปด้วย“เออ...หมี่ บิ๊กไบก์โรงทอคันนั้นไม่เห็นหลายวันแล้วนะ แม่บ้านบอกว่าเหมือนเขาไม่กลับมาเลย เข้าไปแอร์ไม่ฉ่ำ” น้ำฝนว่าพลางตักข้าวเข้าปาก“ไปต่างประเทศมั้งออฟฟิศก็ไม่เห็นตั้งแต่วันอังคารที่แล้วแล้วนี่” หญิงสาวตอบพลางตักกับข้าวใส่จานตัวเองไปด้วย“มึงรู้จักเขาแล้วดิ ใครวะ” น้ำฝนถามขึ้นไม่จริงจังนัก“ก็... เชี้ย!” หญิงสาวกำลังจะตอบแต่ต้องเปลี่ยนเป็นอุทานอย่างตกใจ เมื่อคนที่พวกเธอกำลังพูดถึงมายืนอยู่หน้าร้าน ถึงเขาจะใส่หน้ากากอนามัยปิดหน้ากับหมวกแก๊ป แต่ผิวขาวใสที่พ้นเสื้อยืดกับรูปร่างสูงโปร่งนั้นเธอจำได้ดี และเพิ่งนึกได้ว่าผู้ชายคนนี้คือลูกค้าประจำน้ำเปล่าของร้านเธอก่อนหน้าจะ
Jaguar partหลังจากที่คุณย่ามาที่โรงทอ ตลอดทั้งสัปดาห์รถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ที่เคยจอดอยู่ในที่จอดส่วนบุคคลหายไป มีรถของริชชี่เข้ามาจอดแทนที่โดยที่เธอจะเข้ามาเช้ากว่าปกติแต่ก็หลังจากที่ออฟฟิศเข้ามางานแล้วแทบทุกวัน ซึ่งทำให้ทั้งออฟฟิศต่างมั่นใจกับข่าวลือที่ว่าริชชี่คือว่าที่คู่หมั้นตัวจริงของรองประธานจาติรัช เพราะวันนั้นเธอออกไปทานข้าวพร้อมกับครอบครัวคุณย่า คุณพ่อและคุณอาของชายหนุ่มชายหนุ่มนั่งถอนหายใจอยู่บนห้างส่องสัตว์ในขณะที่น้องชายกำลังนอนอ่านการ์ตูนในแท็ปเล็ตของพี่ชายอย่างสบายใจ“ไหนมึงบอกว่าหยุด 3 วันไงเจ” เสียงทุ้มเอ่ยถามน้องชายที่นอนยกขาขึ้นไขว่ห้างหนุนกระเป๋าของตัวเองอยู่ *แล้วดูแม่งอ่าน นี่มันเป็นหมอหรือเป็นคนไข้กันแน่วะ...* ชายหนุ่มคิดในใจมองน้องชายที่ยังไม่รู้จักโตของตัวเองขำ ๆ“ลาต่อไง ทำงานวันจันทร์” น้องชายตอบแบบไม่รู้ร้อนรู้หนาวกับการมานอนป่าเข้าคืนที่ 3 ของคนทั้งคู่ที่ตรงนี้ไม่ไกลจากกรุงเทพมากนัก และจาติรัชก็มาหลายรอบเพราะชอบเป็นการส่วนตัวจนสนิทกับเจ้าหน้าที่อุทยานและพรานนำทางเป็นอย่างดี“กูมีงานต้องทำนะเ
‘ผมหยุด 3 วัน พาผมเข้าป่าหน่อยนะเฮียนะ ให้ไปไหนก็ไปทั้งนั้นแหละยกเว้นค่ายมวยพ่อใหญ่อัฐ ผมไม่อยากเข้าออฟฟิศ’ น้องชายรีบอ้อนทันที เขาเป็นหมอเพิ่งกลับมาจากเรียนต่อปริญญาโทเข้ามาทำงานได้ไม่ถึง 3 เดือนและนาน ๆ จะมีวันหยุดยาวซักครั้ง แต่คุณพ่ออยากให้เข้าไปเรียนรู้งานในบริษัท เลยเกิดอาการงอแงอยากพัก จึงมาอ้อนให้พี่ชายพาหนีเข้าป่า“อยากเข้าป่า?” พี่ชายถามน้องชายขำ ๆ แล้วหันหลังเดินลงบันไดเพื่อกลับไปที่รถอีกครั้ง‘อือ...บอกทางมาสิครับผมติดไฟแดงอยู่เนี่ยจะให้เลี้ยวซ้ายหรือขวา’“เฮ้อ... กลับบ้านกูเลยเดี๋ยวกูกลับไปเอาเสื้อผ้าที่บ้าน ไปเอารถใหญ่ออก” ว่าจบกดวางสายสวมหมวกกันน็อกอีกรอบเพื่อจะกลับบ้านพลางมองสาวตัวเล็กที่เธอเปลี่ยนชุดเป็นกางเกงขาสามส่วนกับเสื้อยืดคอกลมตัวใหญ่เดินลงมาจากบนตึก“หมี่!” เสียงทุ้มเอ่ยเรียกในขณะที่ขายาวก้าวคร่อมมอเตอร์ไซค์สตาร์ทเครื่องเสียงดังกระหึ่ม“คะ?” ขานรับพลางเดินเข้าไปหา *เรียกคล่องจนจะหลอนแล้วนะคะบอส...เอ้อ*“ขึ้นมาสิเดี๋ยวไปส่ง” ชายหนุ่มว่







