เขยอีสาน จาติรัช

เขยอีสาน จาติรัช

last updateLast Updated : 2025-11-25
By:  plernwaleeUpdated just now
Language: Thai
goodnovel16goodnovel
Not enough ratings
25Chapters
17views
Read
Add to library

Share:  

Report
Overview
Catalog
SCAN CODE TO READ ON APP

ความน่ารักเป็นเหตุ เพราะคำว่าไม่มีงานทำให้กลับบ้านไปเลี้ยงควายของแม่ ขึ้นรถผิดคันวันไปสัมภาษณ์ เลยทำให้โดนใจคนขับเข้าอย่างจัง กับเกณฑ์การพิจารณาผู้ช่วยสุดแปลก "มึงถามไปเลยบ้านใครเลี้ยงควาย?...

View More

Chapter 1

บทที่ 1 คุณลุง

“โอ๊ย! เรียกรถผ่านแอปนี่ทำไมมันรอนานขนาดนี้วะ นัดสัมภาษณ์ 10 โมงมันจะทันมั้ยเนี่ย” เสียงเล็ก ๆ โวยวายตามองถนนพลางยกข้อมือดูนาฬิกาอย่างหัวเสีย

วันนี้เป็นวันนัดสัมภาษณ์งานของสาวสวยผู้ว่างงานอยู่เหย้าเฝ้าหอเป็นแม่ถูเรือนให้เพื่อนมาปีกว่า เลยพากันตื่นเต้นกันเป็นพิเศษทั้งตัวเธอและเพื่อนร่วมห้อง ขนาดที่ว่านัดสัมภาษณ์ล่วงหน้า 1 สัปดาห์ เธอถึงกับลงทุนซื้อรองเท้าส้นสูงมาใส่เดินในห้องให้ชินเวลาเดินจะได้สง่าผ่าเผย ให้สมกับตำแหน่งที่จะเข้าสัมภาษณ์ เพราะงานนี้เธอจะพลาดไม่ได้เด็ดขาด ด้วยประกาศิตของคุณนายแม่สั่งมาว่า **ถ้าไม่ได้ทำงานก็กลับบ้านไปเลี้ยงควายช่วยพ่อซะ ทีแม่ไม่เชื่อแล้วว่าเธอมีแฟนอยู่ที่นี่จริง** และวันนี้เธอก็ตื่นตั้งแต่ตี 5 อาบน้ำแต่งหน้าทำผมซ้อมตอบสัมภาษณ์ทั้งภาษาไทยภาษาอังกฤษกว่า 2 ชั่วโมงโดยมีเพื่อนคอยคอมเพลนเพื่อป้องกันการผิดพลาดและยังฝึกยิ้มมารยาทหน้ากระจกจนหมดน้ำไปหลายแก้ว ก่อนจะลงมารอรถที่เรียกซึ่งตอนนี้ก็ผ่านมากว่าครึ่งชั่วโมงแล้ว แต่ก็ยังไม่เห็นวี่แววว่ารถที่เรียกจะมาถึงแต่อย่างใด

“มึงเรียกรถอะไรเนี่ยหมี่ ครีมกูก็ไม่ได้ทา หน้าก็ไม่ได้ล้างผู้ชายเดินผ่านราคาตกหมดแล้วเนี่ย” เพื่อนสาวร้องถามพลางชะโงกมองที่ถนนใหญ่หน้าหอพักจนคอยืดยาวพอกัน ซึ่งจริง ๆ เธอจะไม่ลงมาส่งเพื่อนก็ได้แต่นานแล้วที่เพื่อนไม่ได้ไปไหนคนเดียวเธอเลยอดห่วงไม่ได้

“เรียกรถเก๋งน่ะสิ ใส่กระโปรงงามขนาดนี้เซ็ตผมก็ปานนี้กูจะไปมอเตอร์ไซค์ได้ยังไง” หญิงสาวตอบเพื่อนพลางมองรถเก๋งสีขาวที่วิ่งเข้ามาจอดฝั่งตรงข้าม มองเลขทะเบียนรถแล้วทำท่าจะวิ่งข้ามถนน แต่คนขับกลับเปิดประตูลงมาเดินเข้าร้านสะดวกซื้อที่อยู่ใกล้ ๆ “มึง...นั่นรถมาแล้ว แต่คนขับเสือกลงมาเข้าร้านค้า ต่อนยอนเกิ๊นพ่อใหญ่ กูไปนะ” หญิงสาวหันไปพูดกับเพื่อนพลางชี้ไปที่รถที่จอดอยู่ฝั่งข้ามพร้อมกับโบกมือให้เพื่อนแล้ววิ่งข้ามถนนไปรอที่ข้างรถ

ทางฝั่งคนขับรถมานั้น

“แม่ง! คันละเป็น 10 ล้าน จอดแค่เดือนเดียวเสือกสตาร์ทไม่ติด ต้องเรียกรถสไลด์ ดีนะที่ศูนย์มีรถให้ยืมกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเข้าออฟฟิศ อากูนี่ก็ยังไงรับสมัครผู้ช่วยเลขาแต่จะให้รองประธานฝ่ายบริหารไปสัมภาษณ์ โวะ! สำคัญอะไรนักวะ แล้วฟันนี่ก็เป็นเวรอะไรทุกวันไม่ปวดเสือกมาปวดเอาวันจะต้องพูด” หนุ่มหล่อร่างสูงโปร่งเดินบ่นลงจากรถเข้าร้านสะดวกซื้อ หยิบแผงยาแก้ปวดมาจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์และกลับมาที่รถ

กรึ่บ! ปึก! “เฮ้ย!” “ไปเลยลุง รอซะนานเลยหนูจะไม่ทันแล้วเนี่ย” สาวสวยที่เปิดประตูเข้ามานั่งหลังรถออกคำสั่งสวนคำอุทานของคนขับพลางก้มลงเปิดกระเป๋าหาอะไรบางอย่าง

“ไป? ไปไหน” ชายหนุ่มถามงง ๆ *อะไรวะฟันก็ปวดแล้วกูต้องไปไหนอีกเนี่ย...* ชายหนุ่มคิดในใจ

“เอ๊า! ก็โรงทอไทยวรวัฒน์ไงคะ หนูก็ปักหมุดให้แล้วนี่ หรือจะเนียนไม่ไปส่ง อย่านะ อย่านะ หักเงินจากแอปไปแล้วนะ” หญิงสาวว่าขึ้นพร้อมกับมองด้านหลังของคนขับ เขาใส่เสื้อแขนยาวสีเข้มพับถึงข้อศอก ใส่แว่นดำอันใหญ่ จากด้านหลังเห็นผมหงอกโผล่มา 1 เส้นก็น่าจะเพียงพอเรียกว่าลุงได้ แต่ไปสะดุดตาที่นาฬิกาหน้าปัดฝังเพชรบนข้อมือซ้าย ซึ่งน่าจะแพงพอสมควรถ้าเป็นของจริงตามยี่ห้อที่ปรากฎ แต่ถ้าซื้อตามตลาดนัดก็น่าจะไม่กี่ร้อยซึ่งก็เหมือนจนคนดูไม่เป็นแยกไม่ออก “ออกรถสิลุง หนูมีนัดสัมภาษณ์งาน 10 โมงนะ รอลุงก็ครึ่งชั่วโมงไปแล้วเนี่ย ไปเลย เดี๋ยวไม่ทัน” หญิงสาวเร่งพลางกดมือถือหาเพื่อน “ขึ้นรถแล้วนะ ....อะเครจ้า สาธุค่ะสาธุ ถ้าได้เดี๋ยวเลี้ยงบุฟเฟต์” เสียงพูดคุยกับเพื่อนอย่างร่าเริงด้านหลัง ทำให้คนขับรถถอนหายใจแรง ๆ ออกรถไปส่งคนที่ขึ้นมาอย่างเสียไม่ได้ เพราะเธอบอกว่ามีนัดสัมภาษณ์งานที่นั่นและเหลือเวลาอีกไม่มาก และจากหน้าตาเธอน่าจะเป็นเด็กจบใหม่เพิ่งหางานเลยดูตื่นเต้นเป็นพิเศษและเขาก็ไม่อยากให้เธอเสียโอกาสนี้ไป

“ตื่นเต้นแค่ไหนก็ไม่ควรมองกูเป็นลุงมั้ยวะ กูแค่ 32 เอง เอ้อ...” ชายหนุ่มพึมพำส่ายหน้ากับสรรพนามใหม่ที่เพิ่งรับมาหมาด ๆ ในวัยหลัก 3 ต้น ๆ ของตัวเอง

“อะไรนะลุง!”

“ปะ เปล่า กำลังคุยกับตัวเองอยู่ ไม่เกี่ยวกับใครหรอก” คำตอบของเขาทำให้คนนั่งข้างหลังขมวดคิ้วอย่างหวาดระแวงทันที “แล้วจะเข้าประตูไหน มันมี 2 ประตู จะไปโรงทอหรือจะเข้าออฟฟิศ”

“เข้าออฟฟิศค่ะลุง หนูมีนัดสัมภาษณ์งานที่นั่น” หญิงสาวตอบกลับสุภาพขึ้นเมื่อวางสายจากเพื่อนและรีบกดโทรออกหาอีกเบอร์กลบเกลื่อนอาการหวาดระแวงของตัวเอง

“เฮ้อ...คำก็ลุง 2 คำก็ลุง” ชายหนุ่มถอนหายใจพึมพำ

“ว่าอะไรนะคะ?”

“ไม่มีอะไร” *หูดีไปอีกแม่ง...*

“ฮัลโหลแม่ หมี่ไม่ได้กลับบ้านแล้วนะ เออ...ได้งานแล้วจ้า ไม่ต้องมารับหรอก... พูดจริง เนี่ยกำลังจะไปบริษัทเลยเดี๋ยวลงรถปุ๊บ จะแชะส่งแม่ปั๊บเลย” เสียงหวาน ๆ พูดกับปลายสายอย่างน่ารักน่าเอ็นดูจนคนขับแอบยิ้มกับภาษาที่เธอใช้ “จริง...ไม่เชื่อแม่โทรถามอิฝนเลย หมี่ได้งานแล้วจริง จ้า...คิดถึงเหมือนกัน จ้า สวัสดีค่ะ” กดวางสายแล้วถอนหายใจเบา ๆ เบือนหน้ามองข้างกระจกรถเซ็ง ๆ

“จะสัมภาษณ์ตำแหน่งอะไรล่ะ เพิ่งจบใหม่เหรอ” ชายหนุ่มชวนคุยพลางแอบพิจารณาใบหน้าสวยหวานผ่านกระจกมองหลัง สีหน้าแววตาของเธอวิตกกังวลจนเขาจับสังเกตได้

“ตำแหน่งผู้ช่วยเลขาค่ะ แต่ไม่ได้จบใหม่หรอกจบมาเป็นปีแล้วล่ะ” เสียงตอบกลับเศร้าแปลก ๆ จนชายหนุ่มสะดุดหู

“แล้วที่ผ่านมาทำงานที่ไหนมาล่ะ”

“ก็! ยังหรอก นอนทำใจอยู่” คำตอบง่าย ๆ ทำเอาคนฟังถึงกับขำ

“ทำใจเป็นปีเลย?”

“อือ...สิ นี่ถ้าไม่ได้รับประกาศิตว่าถ้าไม่ได้ทำงานก็ให้กลับบ้านไปเลี้ยงควายนะ ไม่หางานทำหรอก นอนอยู่ห้องเหมือนเดิมนั่นแหละ” หญิงสาวว่าพลางถอนหายใจ

“เอ้อ...แล้วนอนอยู่ห้องจะเอาอะไรกินหรือมีแฟนเลี้ยงเลยสบายแบบนี้” ชายหนุ่มแกล้งถอนหายใจถามแอบมองตาเศร้า ๆ คู่นั้น

“แฟนไม่มีหรอกลุง หนูเกาะเพื่อนกินน่ะ แต่บอกที่บ้านว่าอยู่กับแฟน ตอนนี้โสดอยู่ในโหมดเอ๋อแดกน่ะลุง เรียนจบกลับบ้านไปเจอเซอร์ไพรส์ คนคบกันมาตั้งแต่ ม.3 เสือกมาได้เมียคุ้มบ้านเดียวกัน เฮ้อ...” หญิงสาวเล่าพลางถอนหายใจแรง ๆ มองนาฬิกาที่ข้อมือแต่ไม่ได้มองว่าตอนนี้รถกำลังจะจอดหน้าบริษัทแล้ว

“กลัวกลับไปทำใจไม่ได้หรือไง”

“เปล่า กลัวอดเตะปากมันไม่ได้ แม่ง! มันบอกว่าที่เป็นแบบนั้นเพราะหนูผิด หนูเยอะเกินคบมา 8 ปีขอหอมซักทีทำหวงยังกับจะมีตราประทับบนหน้าผาก หวงมากก็อยู่ให้โสดแห้งตายคาคาน ไอ้สันดาน กูเพิ่ง 23 มั้ย คน 40 เขายังลงจากคานได้เลย แล้วเมียมันก็เป็นรุ่นน้องหนูที่เล่นด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ ไงประเด็นแล้วตอนนั้นน้องมันกำลังท้องด้วยหนูเลยยังไม่อยากกลับไปกลัวน้องมันคิดมาก” หญิงสาวร่ายยาวถึงปัญหาชีวิตที่ไม่อยากกลับบ้านให้คนไม่รู้จักฟังเพราะคิดว่าแค่ระบายแล้วก็จะจำทะเบียนไว้ไม่ขึ้นอีกแล้ว

“ถึงแล้วครับ” ชายหนุ่มพูดขึ้นแต่ไม่ได้เปิดประตูลงจากรถ  

“ขอบคุณมากนะคะลุง” หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดพลางขยับตัวเปิดประตูลงจากรถ ก้าวฉับ ๆ เข้าไปหา รปภ. หน้าบริษัทอย่างมั่นใจ ชายหนุ่มได้แต่มองตามแล้วยกยิ้มที่มุมปากขำ ๆ

“คำก็ลุง 2 คำก็ลุง เฮ้อ...กูแก่ขนาดนั้นจริง ๆ หรือวะ” ชายหนุ่มส่ายหน้าขำ ๆ เอามือลูบคางสาก ๆ เขียวครึ้มของตัวเอง ขับรถกลับไปทางเดิมอีกรอบ พร้อมกับกดโทรศัพท์โทรหาเลขาส่วนตัว

‘สวัสดีครับบอส ถึงไหนแล้วครับ วันนี้มีนัดสัมภาษณ์ผู้ช่วยเลขาตอน 10 โมงตามคำสั่งของท่านประธานนะครับ’ เลขากดรับสายพร้อมรายงานและถามในประโยคเดียวกัน

“คุณสุรชาติครับ สัมภาษณ์ผู้ช่วยเลขาครับ ไม่ใช่ผู้ช่วยรองประธาน” ชายหนุ่มตอบกลับพลางมองบนกับความวุ่นวายเล็ก ๆ นี้

‘แต่บอสครับ คนเซ็นรับตามคำสั่งท่านคือบอสนะครับ จัดการให้เรียบร้อยเถอะครับก่อนที่ระเบิดจะลงออฟฟิศ อย่าเบี้ยวเลยนะครับทูนหัวคนดีเหนือปฐพีของบ่าว พลีส...’ เลขาร่ายยาวทั้งขอร้องในตอนท้ายอย่างน่าสงสารกับคำสั่งของท่านดอกเตอร์รวัช ประธานฝ่ายบริหาร คุณอาของชายหนุ่มที่สั่งให้หลานชายมาสัมภาษณ์ผู้ช่วยเลขาด้วยตัวเองให้แล้วเสร็จก่อนที่ท่านจะกลับมาจากต่างประเทศในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

“กูไม่ได้เบี้ยว แต่รถสตาร์ทไม่ติดครับ ...

เจอหน้าก็โบ๊ะบ๊ะกันเลยทีเดียว เอ็นดูผมหงอกลุงด้วยหนู...

Expand
Next Chapter
Download

Latest chapter

More Chapters
No Comments
25 Chapters
บทที่ 1 คุณลุง
“โอ๊ย! เรียกรถผ่านแอปนี่ทำไมมันรอนานขนาดนี้วะ นัดสัมภาษณ์ 10 โมงมันจะทันมั้ยเนี่ย” เสียงเล็ก ๆ โวยวายตามองถนนพลางยกข้อมือดูนาฬิกาอย่างหัวเสียวันนี้เป็นวันนัดสัมภาษณ์งานของสาวสวยผู้ว่างงานอยู่เหย้าเฝ้าหอเป็นแม่ถูเรือนให้เพื่อนมาปีกว่า เลยพากันตื่นเต้นกันเป็นพิเศษทั้งตัวเธอและเพื่อนร่วมห้อง ขนาดที่ว่านัดสัมภาษณ์ล่วงหน้า 1 สัปดาห์ เธอถึงกับลงทุนซื้อรองเท้าส้นสูงมาใส่เดินในห้องให้ชินเวลาเดินจะได้สง่าผ่าเผย ให้สมกับตำแหน่งที่จะเข้าสัมภาษณ์ เพราะงานนี้เธอจะพลาดไม่ได้เด็ดขาด ด้วยประกาศิตของคุณนายแม่สั่งมาว่า **ถ้าไม่ได้ทำงานก็กลับบ้านไปเลี้ยงควายช่วยพ่อซะ ทีแม่ไม่เชื่อแล้วว่าเธอมีแฟนอยู่ที่นี่จริง** และวันนี้เธอก็ตื่นตั้งแต่ตี 5 อาบน้ำแต่งหน้าทำผมซ้อมตอบสัมภาษณ์ทั้งภาษาไทยภาษาอังกฤษกว่า 2 ชั่วโมงโดยมีเพื่อนคอยคอมเพลนเพื่อป้องกันการผิดพลาดและยังฝึกยิ้มมารยาทหน้ากระจกจนหมดน้ำไปหลายแก้ว ก่อนจะลงมารอรถที่เรียกซึ่งตอนนี้ก็ผ่านมากว่าครึ่งชั่วโมงแล้ว แต่ก็ยังไม่เห็นวี่แววว่ารถที่เรียกจะมาถึงแต่อย่างใด“มึงเรียกรถอะไรเนี่ยหมี่ ครีมกูก็ไม่ได้ทา หน้าก็ไม่ได้ล้างผู้ชายเดินผ่านราคาตกหมดแล้วเนี่ย” เพื่อ
last updateLast Updated : 2025-11-15
Read more
บทที่ 2 เลือกคนเลี้ยงควาย
“กูไม่ได้เบี้ยว แต่รถสตาร์ทไม่ติดครับชาติ กูเพิ่งกลับจากตุรกีเมื่อ 3 ชั่วโมงก่อน ต้องเรียกศูนย์มาเอารถไปซ่อมแล้วยืมรถเขากลับไปอาบน้ำเนี่ยครับคุณเลขา ถ้าถึงเวลานัดแล้วกูยังไม่ถึง คุณมึงก็เรียกหัวหน้าฝ่ายบุคคลมาร่วมสัมภาษณ์เลยไม่ใช่ให้เขามารอกูครับ แม่ง ไอ้ชาตินี้กูยิ่งปวดฟันจะให้พูดทำไมนักวะ”‘อ๋อ...เฮ้อ...วันนี้มีนัดมา 3 คน บอสอยากได้คนแบบไหนครับ’ สุรชาติร้องอ๋อเหมือนเพิ่งนึกได้ขึ้นมาทันทีพลางถามความต้องการของผู้เป็นนาย เพราะฟังแล้วหน้าที่สัมภาษณ์ผู้ช่วยวันนี้น่าจะเป็นเขาแน่นอน“มึงอยากได้ผู้ช่วยแบบไหนก็พิจารณาเอาสิครับ เขาจะมาช่วยมึงไม่ได้มาช่วยกูนะชาติ” ชายหนุ่มถอนหายใจเซ็ง ๆ‘แต่บอสครับ’ *เฮ้อ...แล้วถ้ากูเลือกไม่ถูกใจจะเป็นยังไงล่ะวะ ท่านยิ่งบอกว่าให้หาคนที่ได้ภาษาแล้วก็สามารถทำงานกับบอสได้ด้วย...* สุรชาติอึกอักคิดในใจอย่างหนักหน่วงกลัวว่าคนที่ตัวเองเลือกจะไม่ถูกใจผู้เป็นนาย“เฮ้อ...ฟังนะครับสุรชาติ มึงถามไปเลยบ้านใครเลี้ยงควายกูเลือกคนนั้น จบนะ” คำพูดของบอสทำเอาเลขาอ้าปากค้างเหมือนไม่เชื่อหู‘ฮะ!’“ตามนั้นเลยคนไหนบ้านเลี้ยงควายกูเลือกคนนั้น” ว่าจบกดวางสายปิดเครื่องเรียบร้อย ขับรถก
last updateLast Updated : 2025-11-15
Read more
บทที่ 3 32 แล้วไง
“แสดงว่าบอสที่นี่ไม่ได้มีแค่กูหรือไง” ว่าแล้วเปิดเอกสารไปที่คนสุดท้ายอ่านหัวกระดาษพลางยิ้มที่มุมปากขำ ๆ กับความจริงจังกับคำสั่งของลูกน้อง“คนที่ 3 จบมาปีกว่ายังไม่ได้ทำงาน เคยฝึกงานที่บริษัททัวร์ของฝรั่งเศสเลยได้ภาษามาด้วยนิดหน่อย ภาษาอังกฤษค่อนข้างดี เมื่อกี๊บอกว่าจะไปสมัครฝั่งโรงทอด้วยจะได้ไม่เสียเที่ยว เอ้อ...ฝากบอกบอสด้วยครับ” “บอกว่า?” “ทีหลังถ้าจะเรียกมาเอาปริมาณทั้ง ๆ ที่ล็อกคนไว้แล้วก็อย่าเรียก เสียดายค่ารถ เสียความรู้สึกแล้วก็เสียเวลานอนด้วยครับ” สุรชาติว่าพลางหลบตา จริง ๆ ประโยคนี้เขาไม่จำเป็นต้องบอกผู้เป็นนายก็ได้แต่อยากรู้ว่านายจะทำหน้ายังไง ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้คือเหมือนเขาไม่ได้ยินในสิ่งที่เลขาบอกหรืออาจได้ยินแต่ไม่เข้าใจทั้งหมด“หึ! บ้านเลี้ยงควาย”“ครับ ที่บ้านเธอเลี้ยงควาย” สุรชาติพยักหน้าทันที“เรียกมาเริ่มงานเลย” ว่าพลางจรดปากกาเซ็นเอกสารรับหญิงสาวเข้าทำงานแบบไม่เปิดอ่านประวัติแล้วยื่นเอกสารส่งคืนให้เลขา“คนไหนครับบอส”“คนเลี้ยงควาย โทรบอกตอนนี้เลย” ว่าพลางลุกขึ้นยืนเต็มความสูงหยิบแว่นตามาสวมทำท่าจะเดินออกจากห้อง “ขอเหตุผลได้มั้ยครับ ผมคิดว่าท่านดอกเตอร์ต้องถามแน่ ๆ”
last updateLast Updated : 2025-11-15
Read more
บทที่ 4 ฉลองได้งานใหม่
“จาลูก เกรงใจคุณวิชาหน่อยสิคะ” คุณย่าเสียงอ่อนยิ้มแห้งมองแขกที่มาหาอย่างเกรงใจ เมื่อสิ่งที่ท่านคุยกับแขกก่อนหน้าไม่เป็นไปหลังจากที่เจ้าตัวมาถึง“แล้วทำแบบนี้คุณย่าเกรงใจผมหรือยังครับ ถึงจะให้ผมเกรงใจคนอื่น”“แต่หลานคุณวิชาเขาเหมาะกับพี่จานะคะลูก การศึกษาก็ดี มารยาทดี ฐานะ ตระกูลดีครบ สมัยนี้ผู้หญิงดี ๆ ครบขนาดนี้หาแทบไม่ได้แล้วนะคะ ลูกลองให้โอกาสน้องลองมาทำงานใกล้ชิดกันดูก่อนนะคะ” คุณย่ายังไม่วายเชียร์หลานสาวคนรู้จักให้หลานชาย ซึ่งคนฟังก็ได้แต่ถอนหายใจกับความวุ่นวายที่มองเห็นลาง ๆ นี้“ครบขนาดนั้นวันนี้เขาไม่ได้มาสัมภาษณ์หรอกครับ วันนี้คนมาสัมภาษณ์ 3 คนจบ ป.ตรี ในไทยทั้งหมด” ชายหนุ่มสวนขึ้นทำเอาคุณวิชาหน้าเจื่อนไปทันทีเพราะเมื่อครู่เพิ่งบอกกับคุณหญิงว่าส่งหลานสาวไปเรียนเมืองนอกเพิ่งกลับมาแต่ไม่ได้บอกว่าไปเรียนแค่ภาษาเท่านั้น “คุณหญิงครับผมว่าผมขอตัวก่อนดีกว่าครับ แล้วเรื่องนัดทานข้าวของเราคง...”“นัดทานข้าวกับคุณย่าได้แต่อย่านัดผม อย่าเทียบเชิญหรือเมลมารบกวนเลขาผม ผมไม่อยากเสียมารยาทกับผู้ใหญ่บ่อย ๆ สวัสดีครับ” ชายหนุ่มสวนขึ้นด้วยภาษาไทยที่คิดว่าสุภาพที่สุดแล้วกับผู้ใหญ่ แล้วลุกขึ้นย
last updateLast Updated : 2025-11-15
Read more
บทที่ 5 ภาษาไทยได้จำกัด
“เออ...จริงด้วย กูบอกอ้ายหมอกมาช่วยมึงดีกว่า” คนตัวเล็กหันมาชี้หน้าเพื่อนยิ้ม ๆ“โวะ! กูพูดเล่นค่ะ อ้ายมึงอยู่คนละฟากกรุงเทพ มาทีกูนึกว่าผู้ปกครองมาเฝ้าลูกทำกิจกรรม กูก็แค่ไปเร็วหน่อยค่อย ๆ จัดไปแค่นั้น มึงได้งานก็ดีแล้วไงวะ จะได้ไม่ต้องกลับบ้านอยู่เป็นเพื่อนกันกูไม่ชอบนอนคนเดียว” น้ำฝนว่าพลางกอดคอซบบ่าเพื่อน“แต่อ้ายกูนอนเป็นเพื่อนมึงได้นะ” มัดหมี่ยังไม่เลิกแซวเพื่อน“บอกอ้ายหมอกดึงวิญญาณออกจากกองหนังสือก่อนค่ะ เปลี่ยนเรื่องค่ะ เอางี้ ฉลองมึงได้งาน กูซื้อชุดใหม่ให้เอง”“จริง!” หญิงสาวกระโดดกอดคอถามเพื่อน“ชัวร์อยู่แล้ว นี่ใคร (ชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง) ว่าที่ลูกสะใภ้ใหญ่กำนันเมฆเชียวนะ สวยและรวยมากนะจ๊ะ” น้ำฝนพูดขึ้นอย่างอารมณ์ดี ซึ่งกำนันเมฆที่ว่าก็คือพ่อของมัดหมี่นั่นเอง“จ้า พี่สะใภ้ที่รัก มัวแต่เล่นตัวไม่ได้นะมึงเดี๋ยวก็ซิ่วเหมือนกูหรอก แต่รับรองได้นะ อ้ายกูไม่เชี้ยเหมือนไอ้โต้งแน่นอน” หญิงสาวกอดคอเพื่อนพูดถึงแฟนเก่าตัวเองที่หาข้ออ้างเลิกกับเธอเพียงเพราะขอหอมแก้มเธอไม่ให้แค่นั้น (แต่ตัวเองดันทำผู้หญิงท้อง)“จ้า งั้นก็ช่วยภาวนาให้คุณรองสารวัตรพชระออกจากดงวิจัยปริญญาเอก มาจีบกูด้วยเถอะน
last updateLast Updated : 2025-11-15
Read more
บทที่ 6 ไม่รับของคนแปลกหน้า
“อ่อ...(มัดหมี่พยักหน้า) แต่คุ้น ๆ เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อนเลย” หญิงสาวพึมพาเหมือนพูดกับตัวเอง “ก็น่าจะแถว ๆ นี้ล่ะค่ะ เชิญน้องเลือกดูก่อนนะคะ อยากลองชุดไหนหยิบลองด้านในได้เลยค่ะ” ว่าพลางผายมือไปที่ราวที่พนักงานเข็นมาให้แล้วพยักหน้าเรียกให้พนักงานในร้านให้มาดูแล 2 สาวอย่างเอาใจ “น่าจะลูกครึ่งมั้ยวะมึงชื่อก็ไม่ได้ไทยแถมเพิ่งกลับมาด้วย แม่ง! ขาวอย่างเผือก” น้ำฝนพูดกับเพื่อนเสียงเบา“คุณจากัวร์เป็นไทยแท้ค่ะ แต่ผู้ชายบ้านนี้เขาผิวแบบนี้กันทุกคน ผิวเหมือนคุณย่า” พนักงานในร้านพูดขึ้นยิ้ม ๆ“เป็นคนไทยแต่ภาษาไทยใช้ได้จำกัดหรือคะ?” หญิงสาวขมวดคิ้วมองหน้าพนักงานแล้วหันไปมองหน้าเพื่อนเหมือนเป็นเรื่องเกินความคาดหมาย“ผู้จัดการบอกว่าเขาไปเรียนที่ฝรั่งเศสตั้งแต่ 10 ขวบได้มั้งคะ พอกลับมาภาษาไทยเลยต้องจูนกันใหม่เกือบหมด ถ้ามากับครอบครัวเขาจะพูดฝรั่งเศสแต่ถ้ามาคนเดียวเขาจะพูดภาษาอังกฤษค่ะ แต่ภาษาไทยก็เพิ่งเคยได้ยินเหมือนกัน”“อ้อ...แต่แค่ขอโทษง่าย ๆ มันก็ควรจะพูดไ
last updateLast Updated : 2025-11-16
Read more
บทที่ 7 เริ่มงานวันแรก 1
‘อีกแล้วนะแม่เนี่ยบอกไม่จำ’ ดอกเตอร์รวัชบ่นให้ผู้เป็นแม่ที่วุ่นวายหาคู่ให้หลานชายคนโตของบ้านตั้งแต่เขากลับมาใหม่ ๆ ไม่หยุด“อย่าให้หมดความอดทนนะเว้ย พูดไม่ฟังผมกลับฝรั่งเศสนะอา”‘ใจเย็นสิวะ มึงนี่ได้พ่อมาเลยนะสันดานเนี่ย อุตส่าห์ส่งไปเรียนอีกฟากโลกยังจะเก็บนิสัยเอาแต่ใจมันไว้อีก’ คุณอาด่าหลานเสียงดัง‘พูดเหมือนมึงใจเย็นนะไอ้โรม นิสัยไอ้จามันก็คือมึงนั่นแหละ เลี้ยงแบบแกะบล็อกกันมาเองอย่ามาโทษกู’ เสียงพี่ชายของอาหรือคุณพ่อสรัญด่าน้องชายมาตามสาย“เอ้อ...ไม่ต้องโทษกันครับ อาเจ้าไปไหน” ชายหนุ่มเปลี่ยนเรื่องถามหาอาสะใภ้ที่สนิทมากกว่าพ่อแม่‘ไปชอปปิ้ง พรุ่งนี้จะไปหาลูกสาว ไอ้น้องมึงนี่ก็นะเชิญยากจนกูเหนื่อย เงินเดือนที่อิตาลีมันเท่าไหร่วะกูจะจ้างมันกลับบ้าน’ ท่านดอกเตอร์พูดถึงลูกสาวที่ไปเรียนแฟชั่นดีไซน์ที่อิตาลี่ตั้งแต่ระดับปริญญาตรีจนจบปริญญาโททางด้านแฟชั่นด้วยวัยเพียง 23 ปี เธอได้ทำงานที่บริษัทแฟชั่นอันดับต้น ๆ ของเมืองมิลาน ตั้งแต่ยังเรียนไม่จบปริญญาตรีจนตอนนี้จบปริญญาโทมาปีกว่าแล
last updateLast Updated : 2025-11-16
Read more
บทที่ 8 เริ่มงานวันแรก 2
“อ้าว? ล็อกคนแล้วนัดหนูมาทำไมคะคุณเลขา” ความปากไวของคนตัวเล็กถามขึ้นก่อนจะยิ้มแห้งส่งให้เลขา *เออ...เมื่อกี๊เขาก็บอกอยู่เลขาส่วนตัวรองประธานนี่เนอะ ไม่ใช่มาฝึกตำแหน่งเดียวกับเรา ไวไปนะปากกูเนี่ย แล้วทำไมชื่อคุ้นนักวะ คนมันจะชื่อโหลขนาดนั้นเลยหรือไง...* หญิงสาวคิดในใจ“เอ่อ...แต่เมื่อวานบอสเซ็นรับคุณพรพรรษานะครับ” สุรชาติรีบแจงให้คนที่ถูกเลือกเข้าใจ“พี่จากัวร์เซ็นรับเธอเข้ามาทำงานตำแหน่งผู้ช่วยเลขา แต่คุณย่าให้ฉันมาในตำแหน่งเลขาส่วนตัว คนละตำแหน่งกัน เธองงอะไรจ๊ะ” ริชชี่หันมาบอกยิ้ม ๆ “จริง ๆ หน้าที่เลขาส่วนตัวมันก็ควรจะเป็นว่าที่คู่หมั้นอย่างฉันนี่แหละ สุรชาติจะได้กลับไปช่วยงานลุงโรมเหมือนเดิมส่วนเธอก็ฝึกเป็นผู้ช่วยของสุรชาตินั่นแหละ ยังไงพี่จากัวร์ก็เซ็นรับเธอเข้ามาแล้ว”“งั้นก็เชิญ 2 คนเลย เดี๋ยวผมให้คนจัดโต๊ะเพิ่มให้แต่ไม่ว่าจะเลขาส่วนตัวของใครผมก็มีหน้าที่สอนงานให้พวกคุณอยู่ดี” สุรชาติจำต้องเปิดประตูให้ 2 สาวเข้าไปในห้องแล้วกดต่อหาเบอร์ภายในให้หาโต๊ะทำงานมาเพิ่มจนห้องดูคับแคบไปถนัดตา *แววปวดหัวมาละ
last updateLast Updated : 2025-11-17
Read more
บทที่ 9 ว่าที่คู่หมั้นบอส
สุรชาติถอนหายใจลุกไปเปิดตู้หยิบแฟ้มเอกสารบางส่วนไปวางที่โต๊ะของทั้ง 2 สาว “ดูเอกสารพวกนี้คร่าว ๆ มีอะไรสงสัยก็ถาม ส่วนหน้าที่ผู้ช่วยก็เหมือนเลขาทุกส่วน เอกสารที่จะเสนอเซ็นถ้าเป็นภาษาไทยให้แปลเป็นอังกฤษแนบด้วย บอสเป็นคนที่ละเอียดมาก ฉะนั้นต้องตรวจทานให้ดีก่อนยื่น ถ้าท่านเข้าออฟฟิศเอกสารต้องพร้อมเสนอหลังจากที่ท่านนั่งเก้าอี้ไม่เกิน 5 นาที โดยเฉพาะบอสหรือรองประธานจาติรัชห้องข้างหลังนี่ ถ้าเข้ามาให้ถือเอกสารตามเข้าไปเลย ต้องรายงานทุกหน้าอย่างละเอียด จะให้เซ็นตรงไหนต้องมาร์คให้เรียบร้อย ส่วนตารางนัดต่าง ๆ วันที่ เวลาและสถานที่ต้องห้ามพลาดเด็ดขาดอัพเดตทุกเช้า ถ้าเป็นนัดเย็นต้องแจ้งสายสุดไม่เกิน 10 โมง จดด้วยนะ” ร่ายยาวพลางถอนหายใจเมื่อเหลือบเห็นสาวสวยด้านในกำลังนั่งแต่งหน้าไม่ได้สนใจที่ตนพูดนัก “บอสมีงานที่ไทย 2 บริษัทต้องดูแลและบริษัทส่วนตัวที่ฝรั่งเศสอีก 1 ฉะนั้นเรื่องเวลาสำคัญมากที่สุดนะ เอ้อ...อันนี้สำคัญ บอสเราไม่รับนัดภายในวัน ไม่รับนัดทานข้าวเย็นเป็นการส่วนตัวทุกกรณี ส่วนท่านประธานจะรับนัดเฉพาะที่มีบัตรเชิญเท่านั้น เอ้อ...คนเข้าพบต้องนัดล่วงหน้า ห้ามให้มานั่งรอเด็
last updateLast Updated : 2025-11-17
Read more
บทที่ 10 ปรึกษาเพื่อนน้องชาย
2 สัปดาห์ต่อมาตลาดเย็นเป็นสุขในวันหยุดสุดสัปดาห์ที่มีตลาดนัดเย็นแบบนี้ 2 สาวกำลังช่วยกันขายน้ำปั่นจนมือเป็นระวิง“เอาอะไรคะพี่” สาวสวยใส่เสื้อยืดตัวใหญ่สีขาวชี้ถามคนที่ยืนอยู่หน้าร้านเพื่อจดออเดอร์ให้เพื่อน ส่วนคนที่ถูกถามนั้นหันซ้ายหันขวามองข้าง ๆ เหมือนไม่มั่นใจนัก “พี่นั่นแหละค่ะสั่งน้ำมั้ยคะ” หญิงสาวร้องถามเมื่อเห็นลูกค้ามองหน้ามองหลัง“อะ อ๋อ น้ำ 1 ขวด” ชายหนุ่มรีบตอบพลางขยับหน้ากากอนามัยแล้วล้วงกระเป๋าหยิบเหรียญมายื่นให้ตามราคาที่เขียนหน้าร้านแล้วรับน้ำเดินออกจากร้าน หญิงสาวได้แต่มองตามขมวดคิ้วสะดุดตากับผิวขาวใสและนาฬิกาคุ้นตาเรือนนั้น“เฮ้อ...หรือจะเป็นรุ่นฮิตขนาดลุงไรเดอร์ยังใส่ นายคนที่เดินชนเราที่ห้างก็ใส่ ผู้ชายสมัยนี้ทำไมมันผิวขาวสวยกันจังวะ” หญิงสาวพึมพำก่อนจะยักไหล่เบา ๆ แล้วหันไปสนใจลูกค้าคนต่อไปส่วนคนที่เดินออกมานั้นหลบเข้ามุมข้าง ๆ เดินไปนั่งที่เก้าอี้มองหญิงสาวไกล ๆ แต่ก็พอได้ยินเสียงเจื้อยแจ้วของเธอที่พูดคุยหยอกล้อกับลูกค้าอย่างสนิทสนม ซึ่งดูเธอเป็นคนร่าเริงเข้ากับคนได้ง่า
last updateLast Updated : 2025-11-18
Read more
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status