เสียงน้ำที่กระเซ็นในห้องน้ำทำให้แอเรียนไม่สามารถกลับไปนอนต่อได้ เธอลุกขึ้นนั่งและเริ่มเล่นโทรศัพท์ตัวเอง แอริสโตเติล ซึ่งอยู่ถัดจากเธอ ยังคงหลับสนิท เขามีกระบวนท่านอนที่เกินจินตนาการไปมาก นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเจ้าตัวน้อยจึงกินพื้นที่บนเตียงไปเยอะมาร์คออกมาจากห้องอาบน้ำและพบว่าแอเรียนนั่งอยู่บนเตียง “เป็นอะไร? นอนไม่หลับเหรอ?” เขาถามด้วยความประหลาดใจเธอมองเขาแล้วกลับไปเล่นโทรศัพท์ต่อ “อืม เดี๋ยวอีกสักพักฉันค่อยนอนต่อ วันนี้ฉันกับแอริสโตเติลเข้านอนกันเร็วมาก ตอนนี้ฉันเลยไม่ได้ง่วงขนาดนั้น ฉันว่าใกล้จะได้เวลาให้นมสมอร์แล้วด้วย เขาจะนอนไม่ได้ทั้งคืนถ้าเขาเข้านอนเร็วเกินไป ว่าแต่ เกิดอะไรขึ้นระหว่างธัญญ่ากับแจ็คสันเหรอ? ธัญญ่าสามารถทำมันได้อย่างไร้ที่ติได้อย่างไร? และเธอยังสามารถท้องได้จริง ๆ อีก ใครเป็นพ่อเหรอ?”มาร์คส่ายหัว "ฉันไม่แน่ใจ แจ็คสันถามธัญญ่าแล้วแต่หล่อนไม่ยอมบอก ไม่สำคัญหรอกว่าเด็กคนนั้นจะเป็นลูกใครตราบใดที่เขาไม่ใช่ลูกของแจ็คสัน คืนนั้นธัญญ่าวางยาแจ็คสัน ดังนั้นจึงไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตอนนี้เธอสบายใจได้แล้ว เลิกกังวลได้แล้ว”เธอจำได้ว่าตอนนั้นจู่ ๆ เฮนรี่ก็เปิดประตูเข้ามาถ
เมื่อพวกเขาเข้าใกล้กันมากขึ้น แอเรียนก็ยอมจำนนอย่างสมบูรณ์ สักวันหนึ่งลูกชายของเธอจะต้องโตขึ้นและครอบครัวที่มีสมาชิกสามคนก็จะไม่สามารถนอนเตียงร่วมกันได้นานเกินไป เธอไม่อยากจะเสียโอกาสที่ได้อยู่ใกล้แอริสโตเติลเร็ว ๆ นี้ ถ้าเธอปฏิเสธเขา มาร์คก็จะพาสมอร์กลับไปที่ห้องของเขาจริง ๆเช้าวันรุ่งขึ้นแอเรียนถูกปลุกโดยมาร์คและแอริสโตเติล คนหนึ่งเตือนเธอว่าถึงเวลาต้องไปแล้ว ส่วนอีกคนจ้องเธออย่างหิวกระหายพลางขอดื่มนมเธอยังคงง่วงมากเมื่อเธอให้นมลูกชาย แมรี่อุ้มเขาออกไปหลังจากที่เขาดื่มนมรอบเช้าเสร็จแล้ว และในที่สุดแอเรียนก็รู้สึกมีแรงพอที่จะลุกไปอาบน้ำเมื่อคืนเธอไม่ใช่คนที่เมาเสียหน่อย และเธอก็ไม่ใช่คนที่ออกแรงด้วย แล้วทำไมเธอถึงเหนื่อยกว่ามาร์คล่ะ? เธอบ่นในใจเมื่อเห็นว่ามาร์คดูมีพลังราวกับว่าเมื่อคืนนี้เขาไม่ได้เสียแรงเลยแอเรียนแต่งหน้าเบา ๆ เพื่อไม่ให้ตัวเองดูเหนื่อยเกินไป เธอได้หุ่นเก่าของเธอกลับมาหลังจากที่คลอดลูกแล้ว เธอจึงสามารถกลับมาใส่เสื้อผ้าเก่าของเธอได้อีกครั้ง แอเรียนจ้องมองภาพสะท้อนของเธอในกระจกและรู้สึกพอใจ อย่างน้อยเธอก็เป็นคุณแม่เต็มเวลาที่ไม่ได้ดูโทรมเกินไป เธอจะได้ไม่ถูกวิ
แสงยามเช้าส่องเข้ามายังฟผนังโรงแรม ซึ่งทำให้ทุกอย่างดูสว่างขึ้น อุณหภูมิเพิ่มขึ้นอย่างช้า ๆ จากสภาพอากาศในฤดูร้อน ทว่าแสงกลับจางลงเมื่อพวกเขาก้าวเข้าไปในล็อบบี้ของโรงแรม ความร้อนก็ลดลงเช่นกันแอริสโตเติลจามเมื่อพวกเขาเดินเข้าไปในลิฟต์ และแอเรียนก็กอดเขาใกล้ชิดกว่าเดิม “อุณหภูมิในโรงแรมนี้ต่ำเกินไป มันแอบหนาวนิดหนึ่ง”มาร์คตอบกลับทันทีว่า “โรงแรมนี้เป็นของเรา เดี๋ยวฉันจะบอกให้พวกเขาปรับอุณหภูมิใหม่”'นี่เป็นของเราเหรอ?' แอเรียนตกใจ เพียงภายนอกของโรงแรมอย่างเดียวก็ดูค่อนข้างทรงเกียรติเมื่อเธอมาถึงแล้ว เห็นได้ชัดว่ามันเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว… อืม ตระกูลเทรมอนต์มีธุรกิจมากมายและครอบคลุมทุกอุตสาหกรรมจริง ๆ เธอคงจะต้องชินกับเรื่องนี้เธอหยุดเดินกลางคันเมื่อพวกเขาก้าวออกจากลิฟต์ “เป็นไปได้ไหมว่าอีธานจะกลับมา? คุณพยายามจะฆ่าเขา ดังนั้นเขาเลยไม่ยอมเลิกสร้างปัญหาให้เรา แล้วแบบนี้เรื่องนี้จะจบลงเมื่อไหร่? ตอนนี้เรามีลูกแล้วนะ มันต่างกันกับเมื่อก่อนแล้ว ฉันไม่อยากให้ชีวิตของพวกเราต้องเสี่ยง…”มาร์คขมวดคิ้วราวกับว่าเขาเองก็กังวลเช่นกัน “อย่ากังวลเลย เธอมีฉันนี่ไง เรายังไม่แน่ใจเลย ดังนั้นอย่าเพิ
’มันไม่สำคัญ’คำตอบของแอเรียนทำให้ความเครียดของมาร์คผ่อนคลายลง เขาต้องการการอภัยจากเธอเพียงคนเดียว คนอื่นไม่สำคัญ เขาสนใจแต่ความคิดเห็นของเธอเท่านั้น แค่ได้ยินคำพูดเหล่านั้นจากเธอก็ดีเกินพอแล้ว“ไม่ใช่ว่าเราไม่มีจิตสำนึก” โซอี้ค้านอย่างอ่อนแรง “ก็แค่ว่า… คนลักพาตัวคนนั้นบอกว่า… คุณย่าเสียชีวิตหลังจากที่มาร์คไปเยี่ยมเขา และว่า… มาร์คอยู่เบื้องหลังการตายของเขา ฉันเองก็สงสัยอยู่ คุณย่าเป็นแค่โรคปอดบวมและมันไม่ควรทำให้เขาถึงขั้นเสียชีวิต นอกจากนี้ มันช่างบังเอิญเหลือเกิน… ทำไม? เขามีโอกาสที่จะตายตั้งมาก… ฉันไม่ได้พยายามจะสื่อถึงอะไรนะ ท้ายที่สุดฉันเองก็ไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นเหมือนกัน ฉันยอมรับว่าสามีที่โง่เขลาของฉันเป็นต้นเหตุที่ทำใหคุณย่าป่วย ฉันอยากจะหย่ากับเขามาโดยตลอด แต่ฉันทำไม่ได้… และครั้งนี้ลูกชายของฉันก็ถูกลักพาตัว ฉันถูกทิ้งให้ไม่เหลือทางเลือก ถ้าเป็นเธอ เธอจะไม่ส่งจดหมายนั้นเหรอ? พ่อแม่ที่ไหนจะอยากเห็นลูกของตัวเองตาย?”แอเรียนพูดไม่ออก เธอจ้องไปที่โซอี้ สามีของเขาและลูกพี่ลูกน้องของเธอ แล้วเธอก็เงียบไป เขาเป็นเพียงนักศึกษามหาวิทยาลัย เขายังเด็กมาก…ถ้าแอเรียนไม่ได้เป็นแม่
สามีของโซอี้มองดูมาร์คอย่างระแวดระวังและรวบรวมความกล้าก่อนที่จะพูดว่า “นี่เป็นเพียงความคิดเห็นของฉันนะ แต่ป้าของเธอไม่ควรมีส่วนแบ่งในคฤหาสน์วินน์หน่อยเหรอ? มันคงจะดูไม่เหมาะสมหากเธอจะเก็บทุกอย่างไว้คนเดียวเลยถูกไหม? นอกจากนี้ เธอมีทุกอย่างที่เธอต้องการแล้ว เธอสามารถครองเมืองหลวงได้ครึ่งหนึ่งเพียงแค่เธอสะบัดมือของเธอ แต่สำหรับเรามันต่างกัน พวกเราจน ป้าเธอก็ใช้ชื่อวินน์ด้วย เธอไม่ควรจะโหดร้ายเกินไปนะ”แอเรียนรู้ว่าสิ่งนี้จะต้องเกิดขึ้น เธออุ้มแอริสโตเติลไปนั่งบนโซฟา ก่อนที่เธอจะใช้ดวงตาที่แสนสวยของเธอจ้องไปที่ครอบครัวสามคนนั้นอย่างสงบ “คุณพูดถูก ฉันมีทุกสิ่งที่ฉันต้องการแล้ว อย่างไรก็ตาม คฤหาสน์วินน์มีความพิเศษสำหรับฉันมากจนประเมินค่าไม่ได้ จริงอยู่ว่าคุณป้าก็ใช้ชื่อวินน์ แต่คุณย่าทิ้งคฤหาสน์นั้นไว้ให้ฉัน ฉันจะแบ่งมันกับพวกคุณได้อย่างไร? บางที… คุณควรจะขออนุญาตจากคุณย่าก่อนดีไหม?”หน้าของโซอี้ถอดสีด้วยความตกใจ “ไม่ ไม่ ไม่ เราไม่ต้องการมัน! คุณย่าทิ้งมันไว้ให้เธอ เราจะไม่เอามันไปจากเธอแน่นอน!”“คุณทำให้ฉันประหลาดใจจริง ๆ” แอเรียนพูดพร้อมกับเย้ยหยัน “คุณสามารถนึกถึงผลประโยชน์ทั้ง ๆ ท
แฮร์ริสเริ่มไม่พอใจมากขึ้นเรื่อย ๆ "ทำไม? เราดูแลหญิงชราคนนั้นมาเสมอ แต่สุดท้ายเขาได้ให้อะไรเราไหม? เธอเห็นสีหน้าของแอเรียนหรือเปล่า? หล่อนปฏิเสธที่จะนับญาติกับเราเพียงเพราะเรายากจน พวกเทรมอนต์มีเงินมากเกินพอแต่พวกเขาก็ยังคงจะเก็บคฤหาสน์วินน์ไว้ ใครจะไปรู้ว่าหล่อนคิดอะไร? หล่อนเป็นผู้หญิง หล่อนแต่งงานแล้ว ดังนั้นฉันเดาว่าเราคงจะต้องเปลี่ยนชื่อของคฤหาสน์วินน์ในอนาคตแล้วแหละ คฤหาสน์นั้นควรเป็นของฮาร์วีย์ เธอมอบคฤหาสน์วินน์ให้กับฆาตกรของพ่อตัวเอง ช่างเป็นความคิดที่แปลกเสียจริง!”ฮาร์วีย์รู้สึกรังเกียจพ่อแม่ตัวเองอย่างยิ่งเมื่อเขาได้ยินเรื่องทั้งหมดนี้ “หยุดพูดสักทีได้ไหม? ทุกอย่างของตระกูลวินน์ควรจะเป็นของเขาอยู่ดี ลองทิ้งความจริงที่ว่าเราดูแลคุณยายมานานหลายปีไปสิ ถ้าผมจำไม่ผิด พ่อก็ขอเงินจากพี่เขยมาเยอะแล้วไม่ใช่เหรอ? อย่างน้อยก็สองสามแสน? แม่กับผมไม่เคยเห็นแม้แต่เซ็นต์เดียวเลย พวกเขาใจดีกับเรามามากแล้ว เลิกโลภได้แล้ว”โซอี้ที่ไม่รู้เรื่องนี้จึงตกใจมาก "ลูกพูดว่าอะไรนะ? จริงเหรอ? มาร์คให้เงินนายมาเท่าไหร่?”สามีของเธอลูบจมูกพลางรู้สึกผิด “ตอนนั้นเราจะหย่ากันไม่ใช่เหรอ? เพราะอย่างนั้
เมื่อเฮนรี่เดินเข้าไปในบ้าน เขาไม่ได้มาคนเดียวเพราะคนที่เดินตามหลังเขามาติด ๆ นั้นคือ เฮเลน เธอไม่ได้วางแผนว่าจะมาเซอร์ไพรส์แต่อย่างใด เธอเพียงแต่บังเอิญเจอกับเฮนรี่ที่รั้วบ้าน แอเรียนที่อุ้มสมอร์อยู่ในอ้อมอกเข้ามาทักทายเธอ “ที่รัก ทักทายคุณยายหน่อยสิ”สายตาที่เฮเลนมองสมอร์นั้นเต็มไปด้วยความรัก ทว่าเธอไม่ได้แสดงท่าทีว่าจะเข้าไปกอดหรืออุ้มเขาเลย คงจะเป็นเพราะเธอกลัวว่าแอเรียนอาจจะไม่พอใจกับสิ่งนั้น “น่ารักจังเลย! เขาหน้าเหมือนลูกแต่มีสีหน้าของมาร์ค” แอเรียนยิ้ม “เชิญนั่งก่อนสิ ในที่สุดก็มีเวลาว่างแล้วเหรอคะ?”เฮเลนนั่งลงบนโซฟาในห้องนั่งเล่นและพึมพำขอบคุณแมรี่ผู้นำน้ำดื่มใส่แก้วมาให้เธอ “แม่กำลังจะไปทำธุระและผ่านมาทางนี้พอดี แม่คิดว่าตอนนี้ลูกน่าจะอยู่บ้าน แม่ก็เลยแวะมาเยี่ยมหาสักหน่อย”“ผ่านมาทางนี้พอดี?” ไม่มีทางที่คฤหาสน์เทรมอนต์จะเป็น "ทางผ่าน" ของเส้นทางการเดินทางใคร ๆ เพราะที่ตั้งของมันไม่ได้อยู่ใกล้ทางด่วนหรือถนนที่พลุกพล่าน มันเป็นเพียงขอแก้ตัวของเฮเลน แต่แอเรียนเลือกที่จะมองข้ามมัน “แล้วเป็นอย่างไรบ้างคะ? ที่บริษัทของคุณเป็นอย่างไรบ้าง?” เฮเลนชะงักชั่วครู่ก่อนที่จะ
แอเรียนพยายามหยิบจี้คืนจากสมอร์ ทว่ามือของเขากำหมัดแน่นอย่างดื้อรั้นโดยไม่ยอมปล่อยไม่ว่าเธอจะพยายามงัดมันมากแค่ไหนก็ตาม ด้วยความกลัวว่าเธออาจจะทำให้เขาเจ็บโดยไม่ตั้งใจได้ แอเรียนจึงยอมแพ้และยอมจำนน "ก็ได้ เราจะไม่ได้มันกลับมาจนกว่าเขาจะเบื่อมัน โอ้ นั่นทำให้ฉันนึกถึง... เอ่อ เรื่องที่ว่า แอรี่เป็นอย่างไรบ้าง?”หากเธอมีทางเลือก แอเรียนจะไม่มีวันพูดถึงแอรี่เด็ดขาด แต่ ณ ตอนนี้เธอหมดเรื่องที่จะคุยกับเฮเลนโดยสิ้นเชิง เธอไม่อาจจะปล่อยให้ “ช่วงสนทนา” ที่เหลือของทั้งคู่กลายเป็นการจัองตากันไปมาได้ใช่ไหมล่ะ?เฮเลนเองก็ไม่นึกว่าแอเรียนจะพูดถึงแอรี่ขึ้นมาด้วยตัวเอง หลังจากที่เธอหายตะลึง เธอจึงตอบว่า “ก็ดีนะ ตอนนี้เธอกำลังเรียนอยู่ที่ต่างปกระเทศ แม่โล่งอกที่เธอดูเหมือนจะกลับไปตั้งใจเรียนเหมือนเมื่อก่อน คือ แม่หาครอบครัวอุปถัมภ์ที่แม่ได้สร้างความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดด้วยให้เธอเพื่อที่แม่จะได้เฝ้าติดตามทุกการเคลื่อนไหวและทุกสถานการณ์ของแอรี่จากที่นี่ จริง ๆ แล้วแค่แอรี่กลับไปตั้งใจเรียนและเลิกคิดที่จะทำลายชีวิตตัวเอง คนเป็นแม่ก็ไม่มีเหตุผลอะไรจะต้องหมดหวังในตัวลูกสาวของตัวเองแล้ว ลูกว่าไหม? แต่แน