สาขาวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยเอกชนเซนต์บรอวโวรี่
Bachelor of Science Program in Computer Science Class.
“นี่... อีตุ่มดิน! อย่าบอกนะว่ามึงจะยกอาจารย์ฮอตเนิร์ดให้นาง? มึงเห็นแขนจานหล่อล่ำของพวกเราปะ กล้ามสุด น่าบีบ ต๊าซซ! ขุ่นแม่ปลื้ม”
“เอาไปเหอะไหว้ย่อ ใครอยากได้เอาไปโลด โหดขนาดนี้กูไม่เอาด้วย… ให้เกรดก็ย้ากกยาก ไม่รู้จะหวงไปทำไม เก็บไว้ใช้เองก็ไม่ได้”
“เออ ใช่ มึง! พวกเราเรียนวิทยาการคอมฯ นะเว้ย จบไปต้องได้อยู่บริษัทใหญ่ ๆ ไม่ใช่หาผัวรวยแล้วจะได้ดิบได้ดี ยิ่งอาจารย์นี่ลืมไปได้เลย เก็บไว้บูชาบนหิ้งค่ะ ขึ้นหิ้งไว้เลย”
“ถ้ามึงไม่รวยด้วยตัวเอง มึงจะโดนผัวด่าทุกวันว่าอีโง่! มึงมันโง่!”
“A+ A เท่านั้นที่จะทำให้เราได้งานดี ๆ พ่อมึงไม่ด่ามึงด้วยไอ้เปี๊ยก แต่ว่าบ้านกูรวยอยู่แล้วอันที่จริงกูก็ไม่แคร์นะว่าจะได้ A+ ไหมอะ แค่อยากสงเคราะห์พวกมึง...”
เสียงหนุ่มสาวกระซิบกระซาบพูดคุยกันด้วยภาษาแสนโบราณ ไร้ความเป็นสุภาพชนตรงข้ามเครื่องแบบของสถาบันที่ทำให้พวกเขาดูเป็นผู้ดี นักศึกษาชายผูกเน็กไทเสื้อเชิ้ตสีขาว นักศึกษาหญิงติดกระดุมตรามหา’ลัยปกติแต่กระโปรงสั้นเสมอต้นขา!
ไม่มีใครรู้ตัวเลยว่าอาจารย์หนุ่มได้ยินทุกคำตอนเดินผ่านโต๊ะนักศึกษาไปยืนบริเวณหน้าชั้นเรียน ทว่าพอเริ่มชั่วโมงการสอนต่างคนก็เริ่มที่จะเงียบเสียงลง
ชายร่างสูงใหญ่กำยำขยับเน็กไทลายขวางให้เข้าที่ด้วยท่าทางสุขุม ก่อนจะเริ่มเก็บงานจากแท็บเล็ต ใช้เวลาการบรรยายเพียงชั่วโมงกว่า ๆ รับงานผ่านอีเมลหลังหมดคาบสอนวิทยาศาสตร์ทางภาพถ่ายและเทคโนโลยีทางการพิมพ์
ถามว่าการย้ายมหาวิทยาลัยมาสอนที่นี่ดีไหม?
ก็คงดีด้วยความที่ใกล้บ้านเดินทางสะดวก แต่มาเจอหนุ่มสาวในวัยคึกคะนองไม่ตั้งใจเรียนคงไม่ใช่เรื่องน่าภิรมย์ใจนัก ป้ายชื่อปริ้นด้วยกระดาษที่ทำมาก็ยังเขียนชื่อผิดตั้งแต่วันแรกที่เขาเข้าสอน
‘ผศ. ดร. ป้องเกียรติ ศิลปะกานต์’
ตกสระไปตัว นามสกุลของอาจารย์ยังต้องเป็น ‘ศิลปการสกุล’
ก็นั่นแหละ... ไม่แปลกที่อาจารย์คนเก่าจะลาออก ส่วนตัวเขามาสอนได้เดือนกว่า ๆ แล้วคงไม่ถือสากันในบางเรื่อง
ด้วยบรรยากาศห้องเรียนเอกชนหรูหรา เครื่องปรับอากาศเย็นฉ่ำสบาย ระยะห่างการสอนต้องใช้ไมโครโฟนและจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่ในการบรรยาย บางคนเลยนั่งเอนหลังหลับน้ำลายยืด ส่งเสียงกรนให้เพื่อนข้าง ๆ หัวเราะหยอกแกล้งเอาปากกาจิ้ม พออาจารย์บอกให้ปลุกเพื่อนไปล้างหน้าล้างตาก็ส่งเสียงแข่งกัน แซวเพื่อนว่าไปทำอะไรดึกหรือว่าจะหนีไปเที่ยวผับ
ไปห้องน้ำทีไรได้หายตัวไปเลย เวลาเรียนฟังบ้างไม่ฟังบ้าง บางคนหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเล่น แต่พอถูกแววตาคมว้าบบเสียวสันหลังมองจ้องบอกว่าเขาไม่พอใจ ค่อยเก็บซ่อนลงบนหน้าตักไม่ให้เห็นว่าทำอะไร
ไม่นับเรื่องเทน้ำมันลงพื้นให้เจ้าของร้านเบเกอรี่สาวล้ม! ทำอาจารย์อย่างเขาขายขี้หน้าไปแล้วรอบหนึ่ง เพราะดันไปทำหน้าหื่นใส่สาวในดวงใจเสียภาพลักษณ์คนมีการศึกษา
ไม่มีใครเข้าใจว่าเขาก็แค่อยากกินเค้ก... ไม่ได้อยากเขมือบคนทำเค้กเข้าไป แต่ถ้าหากว่าเป็นผลพลอยได้เธอมีใจให้ก็เป็นเรื่องดี น่าเสียดายที่เขายังอยากตั้งใจกับการทำงาน อยากเคี่ยวเข็ญนักศึกษาให้ได้ดิบได้ดีก่อนเลยเถิดไปไกลกับเรื่องของความรัก
สำหรับป้องเกียรติการตื่นเช้ามาทำงานนั่งจิบกาแฟมองหญิงสาวจากที่ไกล ๆ แค่พอชื่นอกชื่นใจก็เพียงพอแล้ว
“งานผมขอพรุ่งนี้นะครับ ตั้งใจทำนะ ผมไม่อยากแก้เกรดบ่อย ๆ งานแก้จะได้คะแนนไม่ดีเท่างานครั้งแรกด้วย ที่ผมสอนไปพวกคุณได้ฟังกันใช่ไหม?”
“ฟังคร้าบบบ! / ฟังค่าอาจารย์!”
ทุกคนตอบอย่างพร้อมเพรียง ในรอยยิ้มใสซื่อบริสุทธิ์เสียยิ่งกว่าเด็กอนุบาลหมีน้อย แม้ในความเป็นจริง...
“วันนี้เราเรียนเรื่องอะไรกันบ้างครับ?”
เงียบกริบ...
อย่างน้อยก็มีผู้เข้าเส้นชัยรอบชิงชนะสักหนึ่ง... เป็นหญิงสาวในแว่นหนาเตอะ ผมหยิกฟู กระโปรงทรงพีทจีบรอบยาวถึงตาตุ่ม ยกมือด้วยหน้าตาเฉลียวฉลาด
“การเขียนโปรแกรมและซอฟต์แวร์ คำสั่ง JAVA ภาษา PHP ค่ะอาจารย์”
“มิสเกรนเจอร์... วันนี้บ้านเธอรับไปสิบแต้มนะ แล้วจะส่งลูกอมเวทย์ของร้านดิกกอรี่ไปให้เย็นนี้”
มุกตลกหน้านิ่งที่ฟังแล้วไม่ตลกดันเรียกเสียงหัวเราะดัง หลังเด็กท็อปของห้องช่วยชีวิตเพื่อเอาไว้ได้จึงไม่มีใครโดนอาจารย์ต่อว่า
อันที่จริงอาจารย์ป้องไม่ใช่คนดุมากมายถ้าหากว่าส่งงานครบ ฟังอาจารย์สอนบ้าง... ขนาดว่าลอกกันมาส่งเขาก็ยังไม่ว่าแต่ให้คะแนนไปตามความเป็นจริง
“งานกลุ่มก่อนสอบปลายภาค เอาเป็นวันศุกร์นะครับ ผมของานภายในวันศุกร์” เขาย้ำและถือว่าทุกคนรับรู้ ก่อนจะปรับน้ำเสียงเข้มขึ้นถาม
“แท็บเล็ตผม... หายไปไหนนะ? มีใครเห็นหรือเปล่าครับ”
“หนูเห็นอยู่ตรงหน้าต่างตรงนั้นไงคะ... อาจารย์วางลืมไว้หรือเปล่า?”
อาจารย์หนุ่มมองตามของที่ว่า ไม่รู้ว่ามันอันตรธานจากโต๊ะไปอยู่ตรงโต๊ะอีกตัวข้างหน้าต่างตอนไหน อาจเป็นตอนเขาไปเข้าห้องน้ำแล้ววางของไว้อย่างชะล่าใจ
คนกันเอง... เจอหน้ากันทุกวัน แต่พวกนี้แหละตัวดี!
“มีของอย่างอื่นหายไปด้วยครับ... หาไม่เจอ...” ในคำพูดเป็นกันเอง ตาคมใต้แว่นกรอบหนามองไปทางหนึ่งแก๊งหลังห้อง... ติดหน้าต่าง... แล้วข้างหน้า... หน้าตาเอาการเอางานใส่แว่นหนาเตอะแต่นิสัยคนละเรื่อง
ตัวอาจารย์ก็ไม่อยากปรักปรำนักศึกษา แต่ด้วยความที่เจอเรื่องแปลก ๆ ตลอดการมาทำงานที่นี่
“ไม่เห็นนะคะอาจารย์...”
“ไม่เห็นเลยครับ ไม่มีใครเห็นครับ? ของอะไรครับจาน...”
จาน... ชัดเจน ฟังแล้วเหมือนจานใส่เค้กน่ารัก ๆ กระจุ๋มกระจิ๋ม ยิ่งใกล้สอบปลายภาคเต็มที นักศึกษาดูออดอ้อนขอเกรดขอใบ้ข้อสอบกันไม่เว้นวัน
“เอาเป็นว่าเจอตัวเมื่อไร เจอดีแน่...” เสียงเข่นเขี้ยวขู่ฟ่อพูดลอย ๆ อาจารย์หนุ่มลุกขึ้นยืนสุดความสูง บอกหมดชั่วโมงการเรียนให้แต่ละคนกลับบ้านได้เลยด้วยใจไม่เป็นสุขนัก หลังจากที่ของสำคัญชิ้นหนึ่งหายไปเฉย ๆ ด้วยน้ำมือของพวกหิวเกรด!
งานหมั้นเช้าแต่งเย็นดำเนินไปอย่างเรียบง่าย ด้วยความที่บ่าวสาวไม่ได้มีญาติเยอะ มีแขกมาร่วมงานไม่ถึงห้าสิบคน รวมเพื่อนร่วมชั้นสมัยเรียนอีกไม่กี่คน เรียกได้ว่าเป็นงานผูกข้อมือเล็ก ๆ ไม่ใช่งานแต่งเอิกเกริกซุ้มประตูดอกไม้ เพลงรักยอดฮิตในยุค 70s เคล้าคลอไปกับเสียงคลื่นลมของรีสอร์ตริมทะเล แม้แต่อาหารและสตรอว์เบอร์รีชีสเค้กก้อนโตยังตามใจคู่บ่าวสาว เดรสลายลูกไม้ชายลากยาวบนผืนทรายเข้ารูปทรงสมส่วน เสื้อสีขาวสะอาดคอลึกผ่าหลังเผยให้เห็นผิวขาวสวยทำเจ้าบ่าวตากระตุกน้อย ๆ ทว่าอาจารย์หนุ่มก็ลืมมันไปได้ เมื่อวันนี้เป็นวันสำคัญวันที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะสวยที่สุดในชีวิตใบหน้าหวานงามแต่งแต้มเครื่องสำอางอ่อนใต้รอยยิ้มเอียงอายที่มีให้ชายเพียงคนเดียว หน้าท้องเนินนูนเพียงเล็กน้อยคงไม่มีใครสังเกตเห็น ป้องเกียรติกำลังพึงพอใจกับบรรยากาศนี้ ขณะที่เธอบอกกับทุกคนผ่านไมโครโฟนว่ามากันสามคน พ่อแม่ลูก “เธอเป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุด เป็นคุณแม่ที่ผมรักที่สุด ขอบคุณทุกคนที่มาร่วมอวยพรให้ผมกับเนยนะครับ”เสียงปรบมือดังในลานกว้าง เธอสวย... ขนาดที่เขาละวางตาไปไม่ได้เสียเลย เขาจับจูงมือเธอไปบอกลาทุกคนหลังงานเลี้ยงสิ้นสุดลงญาติทา
เหตุการณ์สะเทือนขวัญยังหลอกหลอนยามหลับฝัน บางคืนเธอยังสะดุ้งตื่นกลางดึกด้วยความหวาดกลัว ทว่าพอพบสบตาคม อ้อมแขนอุ่นกลิ่นหอมสะอาด กลับแน่ใจถึงความปลอดภัยว่าไม่มีใครมาทำร้ายเธอได้ “พี่ป้อง... ตัวหอมจังค่ะ ตัวพี่อุ่นมาก เนยนอนหลับสบายจัง” “เนยก็หอมครับ ทำพี่หลับไม่สบายสักวันถ้าไม่ได้อึ้บเมีย” เงียบไป ใต้รอยยิ้มกรุ้มกริ่ม มือหนาลูบศีรษะน้อย ลากวนเข้าไปในเส้นผมสีน้ำตาลสลวยอย่างย่ามใจ ในความเงียบงันของห้องอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศเย็นฉ่ำ ต่างคนไร้เสื้อผ้าแม้สักชิ้นห่อหุ้มกาย คลุมไว้ด้วยผ้านวมหนาในอ้อมกอดกัน เป็นเรื่องปกติที่เธอจะปรารถนาในตัวเขามากขึ้นทุกวัน ยิ่งเป็นคุณแม่ท้องอ่อนฮอร์โมนทำร้าย “เนยต้องพักผ่อนนะ เดี๋ยวลูกไม่โตทำไง” “โตซี พี่ฉีดสารเร่งโตให้ทุกวัน” คนทะลึ่งก็อย่างนั้น เขาก้มหน้าลงประทับจุมพิตบนขมับเนียน ผุดรอยยิ้มกว้างหวานเต็มวงหน้าใต้โคมไฟสลัว “เอ... ตัวเล็ก... ผู้หญิงหรือผู้ชายนะ?” “จะรู้ไหมคะ? คงเป็น... ผู้ชายมั้ง...” “พี่อยากให้ชื่อฟ่อน เงินฟ่อน ชิฟฟ่อน ชื่อเล่นนะเจ้าลูกฟ่อน... ถ้า
เพราะมีคนเผลอทำตัวเปิ่น ๆ ในโรงพยาบาล ส่งเสียงดังลั่นห้องฉุกเฉินให้คุณพยาบาลหัวเราะกันยกใหญ่ แต่ก็เข้ามาแสดงความยินดีพร้อมผลตรวจของคุณหมอ เซ็นอนุญาตให้ผู้ป่วยกลับบ้านอย่างสบายใจ เณศราไม่รู้เอาหน้าไปไว้ที่ไหน เธอดีใจที่จะได้เป็นคุณแม่ มีลูกน่ารัก ๆ สักคนกับว่าที่สามีไม่สนเรื่องแต่งก่อนแต่งหลังหรอก ในขณะที่ยังมีเรื่องไม่สบายใจพอได้ยินบางคนโทรไปด่าน้องสาวยกใหญ่ ผ่านลำโพงในรถยนต์ สายประชุมครบพ่อแม่พี่น้อง แม้แต่พ่อแม่ของเธอเองเขาโทรบอกให้ทุกคนรับทราบวีรกรรมของคนคนเดียว ที่ไม่สมควรได้รับการให้อภัย“ก็ให้ท้ายกันไงครับถึงได้โตมาสันดานแบบนี้ ผมไม่ยอมแล้วผมจะไม่ถอนฟ้องแทนเมีย ไม่รับค่าเสียหาย ให้อีสองคนนั้นไปนอนคุกอย่างเดียว อย่าคิดว่ามีเงินแล้วทำได้ทุกอย่าง ผมมีเพื่อนเป็นทนาย นักโซเชียลเยอะเหมือนกัน ดี... จะได้เอาปี๊บคลุมหัวกันให้หมดทั้งบ้านเวลาออกไปข้างนอก ขอให้หุ้นตก บริษัทฉิบหายย่อยยับนะครับ”เป็นชุด! มากกว่านี้ยังมีเรื่องของหุ้นส่วน เงินหมกเม็ด ภาษีที่จ่ายไม่ครบ คนขุดได้ก็ขุดมาทั้งเรื่องและเขาพร้อมจะแฉทุกอย่างให้พินาศย่อยยับ จนคุณพ่อขอไกล่เกลี่ยยอมขอว่าเขาอยากได้อะไร คนปากหนัก
ห้องเงียบเชียบให้ความรู้สึกเงียบเหงากว่าทุกวัน อาจารย์หนุ่มรออาหารมื้อเย็นจากแม่ครัวที่ยังไม่กลับบ้านสักที แต่งตัวเรียบร้อยด้วยเชิ้ตสีดำสนิทอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะเครื่องใหญ่ งานสอนก็ค่อนข้างยุ่ง ต้องตรวจงานนักศึกษาไปด้วยระหว่างอธิบายการเขียนคำสั่งคอมพิวเตอร์ หลายอย่างวนเวียนในหัว ขมวดคิ้วมุ่นตั้งใจทำงานตลอดเวลาหลายคนในคลาสตั้งใจเรียนผิดปกติจนหมดชั่วโมงเรียน โดยเฉพาะกลุ่มเด็กแสบ ทำขยิบตาผ่านกล้องเหมือนมีปัญหาสักอย่างแต่ไม่กล้าพูด ส่งเป็นข้อความมาบอกแทน...‘She’s in Danger!’บอกใบ้มาเป็นภาษาอังกฤษให้ตีความอีกต่างหาก คนเป็นอาจารย์สงสัยอยู่พักหนึ่ง นึกหงุดหงิดคนส่งข้อความมาให้เป็นปริศนาคาใจ ก่อนตกใจเป็นอย่างมากแทบทำห้องเรียนล่ม เรื่องใหญ่กว่าคือคาบสอนนี้เป็นบันทึกเทปย้อนหลังซึ่งเขาไม่สามารถปิดโทรศัพท์กลางกลางคันได้เป็นโชคดีที่แก๊งนายเปี๊ยกดันออกจากห้องเรียนไปก่อน ส่วนคนสอนทำได้แต่นับเวลาถอยหลัง ภาวนาให้บันทึกการสอนจบเร็ว ๆ พูดจาติดขัดเพราะจิตใจไม่อยู่กับเนื้อตัวป้องเกียรติพอคาดการณ์ได้ว่าเกิดเรื่องอะไร ด้วยความที่เขาคอยดูพฤติกรรมของอีกคนอยู่ตลอด เธอมีท่าทีแปลก ๆ เมื่อคืนนี้ ทำท่
ถ้าผัวฉันย่องไปหาแกที่ร้านอีกครั้งเดียว แกได้เจอฉันตัวเป็น ๆ แน่นังเนย เมมเบอร์นี้ไว้ด้วยนะเพราะฉันไม่เตือนใครเป็นครั้งที่สอง‘รวิตา’เณศราได้รับข้อความจากคนที่ไม่รู้ว่าเอาเบอร์ของเธอมาจากไหน เธอไม่เคยมีเรื่องมีราวกับใครจึงใจคอไม่ค่อยดี นอนพลิกไปพลิกมาบนท่อนแขนอุ่นที่หนุนนอนต่างหมอนทุกคืน หน้าตาครุ่นคิดด้วยความเป็นกังวล ตื่นมาแล้วออกไปทำธุระประปรัง เดินซื้อของจากร้านสะดวกซื้อ กลับเข้าบ้านมาสติไม่อยู่กับเนื้อตัวนัก ขณะที่คนเก่าส่งข้อความมาบอกกับเธอแค่...‘พี่อยากคุยกับเนยนะ’ทั้งที่บอกชวนผ่านเพื่อนสาวเรื่องงานผูกข้อมือมะรืนนี้ ประเด็นอื่นขอไม่พูดคุยกันอีก แปลกที่คนมีเหตุผลเป็นนักธุรกิจ เป็นลูกชายที่ดีของบ้านมาโดยตลอดกลับไม่พยายามเข้าใจเสียเลยจะอย่างไร เธอก็มีไม้กันหมาที่ดี ติดกว่าคนนี้ไม่มีแล้วในชุดคลุมอาบน้ำบนร่างกำยำส่งกลิ่นหอมอ่อน ลอยผ่านจมูกไป อาจารย์หนุ่มหุ่นล่ำคอยเดินยั่วยวน อวดสรีระเรือนกายของเขาที่อุตสาหะทำมาอย่างยากลำบาก บริโภคอกไก่ปั่นด้วยท่าทางกล้ำกลืนฝืนทน ซึ่งคนอยู่ด้วยกันยังไม่รู้ว่าเขาจะทำมันไปเพื่ออะไร ในเมื่อเธอยังไงก็รักเขาหมดใจไปแล้วอ้วนพุงพลุ้ย ก็ยังรัก หัวล้านแก
คนอยู่ด้วยกันทุกวันคงสังเกตเห็น เธอแค่ไม่รู้ว่าเขาจับอะไรตลอดเวลา“เนยต้องใส่ไว้ก่อนนะ คนเขาจะได้รู้ว่ามีเจ้าของแล้ว พี่ไม่ชอบเวลาใครมองเนย พี่หวง...”“แต่เนยชอบค่ะ เวลาพี่ป้องทำตาเขียว ๆ น่ะ”“ชอบโดนจัดหนักด้วยใช่ไหม?”“ไม่รู้ค่ะ...” เสียงหัวเราะคิกคักดัง หัวใจดวงน้อยเต้นรัวแรง เมื่อเขาบรรจงสวมลงบนนิ้วนางข้างซ้าย ชักชวนให้ดูลอยสลักบริเวณรอบตัวแหวนN & P ดูจะเป็นไอเท็มคู่รักแนวแฟชั่นมากกว่าแหวนเพชรเม็ดโตในงานแต่งอลังการ ที่เคยเห็นบ่าวสาวสวมให้กัน“ขอบคุณนะคะพี่ป้อง... เนยจะรักษามันให้ดีทั้งสองชิ้นนี้ สร้อยกับแหวนของพี่... ชอบมากเลยค่ะ”เธอชอบมันที่สุด... ชอบผู้ชายคนนี้ที่สุดเณศราเม้มปิดริมฝีปากของเธอสนิทแน่น หยดน้ำใสเอ่อคลออย่างอดกลั้นไม่ไหว ก่อนที่ร่างสูงในเชิ้ตสีดำสนิทจะโน้มตัวลงหาเธอเชื่องช้า ประกบเรียวปากอิ่มงามแผ่วเบาแล้วผละออกประทับจุมพิตบนขมับเนียน“พี่รักเนยนะ”คนมีความรักมักหน้าเด็กทุกคน มองอะไรก็เป็นสีชมพู เห็นจะจริงกล่องข้าวน่ารักในแต่ละวันของเณศราประดิดประดอยด้วยผักหลากสีสัน เธอใช้ตราปั๊มลายตุ๊กตาในการทำอาหารเช่นข้าวญี่ปุ่นหุงร้อนเป็นหมีน้อย ห่มคลุมด้วยไข่เจียว ราดน้ำซอส