“ไม่ได้!”
เสียงเหี้ยมเกรียมขัดขึ้นมาในเวลาเดียวกับที่ชายท้วมเอ่ยประโยคจบลง
แววตาของเควินวาวโรจน์ไม่มีแววล้อเล่น แรงกดดันมหาศาลนั้นแทบทำให้ชายวัยกลางคนหายใจไม่ออก เม็ดเหงื่อเย็นไหลซึมออกจากโคนผมไปตามกรอบหน้า มือไม้ชุ่มเหงื่อ แต่กลับเย็นเฉียบ หน้าค่อย ๆ ซีดเซียวลงตามลำดับ
“ขะ...ขอร้องละครับ คุณเควิน ผมขอเวลาอีกหนึ่ง ไม่สิ สองสัปดาห์ จะรีบหาเงินมาคืนคุณเควินให้ครบแน่นอน”
“คุณธนัทหนอ คุณธนัท ตอนนี้คุณไม่มีหลักประกันอะไรให้ผมเลย”
หนุ่มตาน้ำข้าวเหยียดยิ้ม หยัดตัวลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เอ่ยด้วยน้ำเสียงสบายอารมณ์ขณะก้าวเข้ามาใกล้เหยื่อที่น่าสงสาร
มือหนาตบไหล่สั่นเทิ้มของธนัทเบา ๆ อย่างสนิทสนม แต่ยิ่งทำให้ชายร่างท้วมแทบไม่กล้าหายใจ นั่งตัวเกร็ง บีบมืออ้วนป้อมของตนเองแน่นด้วยความเครียด
“ช่วยเมตตาผมสักครั้งนะครับคุณเควิน ถือว่าเห็นแก่ที่ผมเป็นลูกค้าของคุณมานาน”
“จุ๊ ๆ ๆ เหมือนว่าคุณจะไม่เข้าใจที่ผมพูดเลยสินะ”
“มะ...หมายความว่ายังไงครับ”
เสียงของเขาสั่นเครือ หันมองตามใบหน้าหล่อเหลาของหนุ่มฝรั่งที่แสยะยิ้มเจ้าเล่ห์ให้อย่างไม่ไว้วางใจ
“ผมต้องการหลักประกัน เข้าใจไหม”
“ผะ...ผม”
“ถ้าคุณวางคฤหาสน์ของคุณเป็นหลักประกันเอาไว้ เราก็คงสามารถหาทางเจรจากันใหม่ได้ ฮื้ม? ว่าไง”
“...”
ธนัทลอบกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ความเคร่งเครียดกอบกุมจิตใจ ครุ่นคิดหาทางรอดไปจากสถานการณ์น่าอึดอัดนี้ไปให้ได้
สายตาหลุกหลิกหลุบมองวัตถุสีดำขลับที่ถูกเหน็บเอาไว้ที่เอวมาเฟียหนุ่มข้างกาย ก็รู้สึกเหมือนจะเป็นลมอยู่รอมร่อ แต่ธนัทก็ไม่โง่พอที่จะกระโดดเข้าไปในหลุมพรางของอีกฝ่ายง่าย ๆ
“นะ...นั่นเป็นเรื่องใหญ่...ผะ...ผมขอกลับไปคิดทบทวนอีกครั้งได้ไหมครับ”
“เสียใจด้วย ถ้าวันนี้คุณธนัทไม่มีดอกเบี้ยสามแสนมาคืน หรือไม่มีอะไรค้ำประกันผมคงไม่สามารถปล่อยให้คุณเดินออกไปจากห้องนี้ง่าย ๆ”
เควินยังคงคลี่ยิ้มกว้างอารมณ์ดี ก่อนจะถือวิสาสะทิ้งกายนั่งลงข้างธนัท โอบไหล่ชายท้วมเป็นการกดดัน มืออีกข้างยกมวนบุหรี่ที่คีบขึ้นมาอัดกลุ่มควันขาวเข้าปอด ก่อนจะจงใจพ่นมันใส่ชายอายุมากกว่า
“แค่ก แค่ก แค่ก”
“รีบตัดสินใจซะ ผมไม่ได้มีเวลาว่างทั้งวัน”
“...”
ลูกหนี้ยังคงหน้าซีดเซียวนิ่งเงียบไม่ตอบคำถาม เริ่มทำให้ระดับความอดทนของเจ้าของบ่อนลดลงไปเรื่อย ๆ
สายตาคมกริบสีฟ้าสะกดใจตวัดมองไปทางบอดี้การ์ดส่วนตัว อีกฝ่ายก็รู้หน้าที่
ธนัทมีอาการเลิ่กลั่กแตกตื่นขึ้นอีกเท่าตัวเมื่อเควินทำท่าจะลุกหนี และบอดี้การ์ดหน้านิ่งก้าวเข้ามาใกล้ตัวเขามากขึ้น ถึงกับตัวสั่นทำอะไรไม่ถูก
“อะ...อะไรกันครับ...จะ...จะทำอะไรผม!”
ดวงตาของชายอายุมากเบิกกว้างเมื่อเห็นมีดคมวาววับถูกดึงออกมาจากที่เหน็บเอวของหนุ่มเอเชีย ร่างท้วมพยายามยื้อแขนที่ถูกเขากระชากอย่างแรงกลับด้วยความตกใจ
“ผมแค่จะหาวิธีช่วยให้คุณธนัทตัดสินใจได้ไงครับ ว่าไง อยากจะเสียนิ้วไหนก่อนดี?”
“มะ...ไม่นะ! อย่าทำผมคุณเควิน ผมกลัวแล้ว”
เขาดิ้นพล่านยื้อข้อมือกลับมาอย่างกลัวตาย แต่ก็ต้องเบ้หน้าเหยเกกับแรงบีบรัดมหาศาลที่หนุ่มรูปร่างบางส่งให้
หัวใจเต้นระส่ำราวกับจะทะลุออกมานอกอก เมื่อวัตถุมีคมอยู่ห่างจากมือเขาเพียงไม่มาก พยายามกำมือซ้ายของตัวเองแน่น อ้อนวอนขอความเห็นใจทั้งน้ำตา
“ขอร้อง คุณเควิน อย่าทำผม ผมจะหาเงินมาคืนคุณแน่นอน ขอโอกาสผมหน่อย”
“เฮ้ออออออ ~ ไอ้เร็น ตัดนิ้วก้อยมันออกก่อนก็แล้วกัน กูเริ่มรำคาญแล้ว”
“ครับนาย”
“ไม่! ไม่! เดี๋ยว!”
ธนัทแตกตื่นสุดขีด หลังไม่อาจจะต้านเรี่ยวแรงมหาศาลของเด็กหนุ่มได้ สุดท้ายมือเขาก็ถูกกดลงไปแนบกับโต๊ะกระจกด้านหน้า พร้อมอาวุธในมือขวาของเร็นจ่อใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ
ชายท้วมโวยวายลั่น พยายามใช้มือข้างที่ว่างดึงข้อมือให้หลุดจากพันธนาการ ความกลัววิ่งพล่านไปทุกส่วนของร่างกาย เปิดปากร้องอ้อนวอนเท่าไร แต่สีหน้าของเร็นก็ยังคงเรียบเฉย ไม่มีวี่แววเห็นใจแม้แต่น้อย
“ผะ...ผมมีข้อเสนอใหม่ ขอร้องคุณเควิน...ชะ...ช่วยฟังผมด้วย”
“ลีลาเยอะจริง ๆ” ร่างสูงพึมพำเบา ๆ พลางส่ายหัวอย่างเบื่อหน่าย อัดควันพิษเข้าปอดอีกครั้ง ก่อนจะพ่นมันออกมาคละคลุ้งในอากาศ แล้วจ้องตรงมาทางธนัทด้วยแววตาเย็นเฉียบ ย้ำเตือนให้ชายท้วมรู้ว่าหากยังพูดจาไร้สาระ เขาพร้อมที่จะสั่งปลิดชีวิตอันไร้ค่าทันที
“ว่ามา คงรู้ใช่ไหมว่าผมไม่ใช่คนใจดีนัก”
“ครับ ๆ ทราบครับ”
“ไอ้เร็น...ปล่อยมือมันก่อน”
“ครับนาย”
บอดี้การ์ดหนุ่มเอ่ยตอบเสียงเรียบ ปล่อยมืออ้วนป้อมชื้นเหงื่อเป็นอิสระ เท่านั้นธนัทก็รีบกอดมือตัวเองแน่น เมื่อเกือบจะเสียมันไปอย่างหวุดหวิด
“ไหน ข้อเสนออะไร”
“คะ...คือ ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากใช้คฤหาสน์นั่นค้ำประกันเอาไว้นะครับ แต่คฤหาสน์หลังนั้นไม่ใช่ชื่อผม แต่เป็นชื่อของหลานสาว”
“แล้วยังไง”
“ผมมีข้อเสนอดีกว่านั้นครับคุณเควิน”
“...”
มาเฟียหนุ่มจ้องมองสีหน้าประจบประแจงของอีกฝ่ายนิ่ง ๆ รอดูว่าชายตรงหน้าจะมาไม้ไหนอีก
พอเห็นเควินเงียบไป ธนัทก็สูดหายใจเข้าปอดอีกครั้ง ก่อนจะพ่นข้อเสนอแสนสารเลวออกมาโดยที่ยังคงพยายามยิ้มอยู่
“ทางเดียวที่คฤหาสน์นั้นจะเป็นชื่อผม ก็มีแต่ต้องกำจัดยัยเด็กนั่นให้พ้นทาง ผมถึงจะทำการใช้มันค้ำประกันให้คุณเควินได้ คุณเควินจะว่าไงครับถ้า...”
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ”
ยังไม่ทันที่ธนัทจะพูดจบประโยค มาเฟียหน้าโหดก็หัวเราะสวนขึ้นมากะทันหัน พร้อมปรบมือถูกอกถูกใจ ราวกับกำลังชมการแสดงอยู่
ธนัทหน้าเหวอ งุนงงไปหมดกับปฏิกิริยาเช่นนี้
เขากะพริบตาปริบ ๆ รอคอยจนกว่าเควินจะหยุดหัวเราะ และทันใดนั้นเขาก็ตัวชาวาบเมื่อสบเข้ากับนัยน์ตาเหี้ยมเกรียมแสนน่ากลัวคู่นั้น
“หึหึ ดูเหมือนว่าคุณธนัทคงจะคิดว่าผมโง่มากสินะ ถึงได้กล้าคิดจะยืมมือผมในการกำจัดหลานตัวเองให้พ้นทาง”
“มะ...ไม่ใช่นะครับ ผมไม่ได้คิดแบบนั้น ผม...ผมแค่เสนอเท่านั้น”
“คุณนี่มันช่างไม่มีประโยชน์อะไรเลยจริง ๆ”
“มะ...ไม่นะครับ”
ธนัทครวญครางหน้าซีดลงตามลำดับ แผนการร้ายในหัวเหมือนจะได้ผลตรงข้าม แต่ตอนนี้เขาไม่มีหลักประกันใด ๆ ในมือทั้งสิ้น นอกจากหลานสาวที่อยู่ในความดูแลของเขา
“คุณเควินเอาตัวหลานผมไปได้เลยนะครับ ให้หล่อนทำงาน หรือจะให้ทำอะไรก็ได้ เธอสวยมากเลยนะครับ รับรองว่าคุณเควินจะต้องชอบ...ขอร้อง อย่าทำอะไรผม”
“หน้าผมเหมือนคนขาดแคลนผู้หญิงขนาดนั้นเลยเหรอ...ไอ้เร็น จัดการสั่งสอนมันหน่อยสิ ที่กล้ามาหยามกู”
“ไม่! ไม่นะครับ ผมไม่ได้คิดแบบนั้น”
น้ำตาของชายวัยกลางคนคลอเบ้า ยกมือพนมไหว้อ้อนวอนอย่างอับจนหนทาง รีบล้วงโทรศัพท์ออกมาแล้วเปิดรูปหลานสาวเพียงคนเดียวให้เควินดู
นี่เป็นเพียงทางรอดเดียวของเขาแล้ว
“คุณเควิน! ขอร้อง ดูก่อนครับ ถ้าคุณเควินไม่พอใจข้อเสนอนี้ ผมจะรีบหาทางเอาเงินมาคืนคุณเควินให้เร็วที่สุด สาม...ไม่สิสี่วัน ขอแค่สี่วันเท่านั้น”
ร่างสูงยกมือขึ้นกุมขมับเพื่อบรรเทาอาการวิงเวียนกับสารพัดข้ออ้างของลูกหนี้สุดปลิ้นปล้อน กำลังจะออกคำสั่งให้ลูกน้องคนสนิทจัดการให้มันสำนึก สายตาคมก็ชะงักกับภาพหญิงสาวที่ปรากฏในโทรศัพท์ของธนัท
เขานิ่งไปเล็กน้อย ก่อนจะก้าวเข้ามาและดึงมือถือของชายท้วมไปเพื่อดูภาพสาวคนนั้นให้ชัดเจน
“มิลิน?”
“คะ...ครับ? ว่าไงนะครับ?”
“นี่นะเหรอหลานสาวที่บอก”
เควินดึงสติกลับมา เปลี่ยนคำถามใหม่ พยายามเก็บซ่อนความตื่นเต้นยินดีที่วิ่งพล่านไปทั้งตัว หลังจากได้เห็นภาพผู้หญิงคนนี้ชัด ๆ
“ใช่ครับ ๆ เธอชื่ออิงฟ้า อายุ 21 ปี เป็นเด็กหัวอ่อน เรียบร้อย ไม่เคยผ่านมือผู้ชายมาก่อน ผมรับประกันเลย”
“หึหึ เหมือนจริง ๆ”
“อะไรเหรอครับ?”
ธนัทเอียงคองุนงงกับคำพูดจาแปลก ๆ ของเควิน แต่ก็พอหายใจหายคอได้โล่งขึ้นเล็กน้อยกับการแสดงออกของอีกฝ่าย ซึ่งดูสนใจในตัวหลานสาวของเขาอยู่บ้าง
“ยัยนี่สินะ ที่เป็นเจ้าของคฤหาสน์หลังนั้น?”
“ชะ...ใช่ครับ”
“คุณธนัทจะยกเธอให้ผมใช่ไหม แลกกับหนี้ทั้งหมด”
“ทั้งหมด! ชะ...ใช่ครับ!”
ชายท้วมตาวาว เผลอร้องออกมาด้วยความตกใจ ตอนแรกเขาคิดว่ายัยหลานสาวตัวเองคงมีค่าเพียงแค่ใช้ขัดดอกไม่กี่แสน พอให้เขามีเวลาหนีหรือหาเงินอีกหน่อย ใครจะเชื่อว่าเธอจะเป็นตัวนำโชคให้ถึงขนาดที่เควินออกปากจะล้างหนี้ทั้งหมดให้ แลกกับการได้ตัวเธอ
“ได้...ผมตกลง”
“จะ...จริงเหรอครับ!”
“อืม ใช่”
“นายครับ…”
หลังจากเควินย้ำคำเดิม ก็ทำให้หางคิ้วของบอดี้การ์ดหนุ่มกระตุก เอ่ยเตือนผู้เป็นนายไม่ให้ตัดสินใจอะไรวู่วาม
“ไม่ต้องห่วง งานนี้กูมีแต่คุ้มกับคุ้ม”
ร่างสูงแสยะยิ้มเจ้าเล่ห์ ก้มมองใบหน้ายิ้มแย้มน่ารักของหญิงสาวในโทรศัพท์อีกครั้ง พลางใช้ก้านนิ้วยาวลูบไล้ใบหน้าหวานหยาดเยิ้มราวตุ๊กตาอย่างจาบจ้วง
เมื่อได้ยินคำพูดของเจ้านาย เร็นก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ ยืนนิ่งหลังตรงอยู่ข้างโซฟาตัวยาวเหมือนเดิม ปล่อยให้ทั้งคู่เจรจากันต่อไป
หัวใจของชายวัยกลางคนกำลังจะลิงโลดด้วยความยินดีที่รอดพ้นจากความตายมาได้ แต่แล้วเสียงทุ้มลึกของเควินก็ดึงเขากลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงอีกครั้ง
“ผมจะล้างหนี้ให้คุณธนัททั้งหมด...แต่ว่าผมต้องการให้คุณยกหลานสาวมาอยู่ในการดูแลของผม”
“เป็นผู้ปกครองเอง?”
“ใช่ ผมต้องการผู้หญิงคนนี้มาอยู่ใต้อำนาจ คุณสามารถทำได้ไหมล่ะ?”
“ผะ...ผม...ไม่แน่ใจเรื่องนั้น”
เสียงของธนัทกลับมาสั่นเครืออีกครั้งด้วยความกังวล ตอนแรกเข้าใจว่ายกหลานสาวให้อีกฝ่ายไปก็เป็นอันจบเรื่อง เขาก็จะได้ครอบครองคฤหาสน์หลังนั้นโดยไม่มีใครมาขัดขวาง แต่หากเควินได้สิทธิ์ดูแลอิงฟ้าไป ทรัพย์สมบัติของน้องชายทั้งหมดก็ต้องตกเป็นของอีกฝ่ายด้วย
พอคิดได้เช่นนี้ ชายท้วมก็หน้าซีดเผือด ดูเหมือนว่าเขาจะหลงกลแผนการของเควินเข้าเต็มเปา
“ไปจัดการมา ไม่งั้น...คงรู้นะว่าจะเกิดอะไรขึ้น”
“คะ...ครับ”
ธนัทตอบเสียงสั่น มือสั้นป้อมจิกกำเข้าหากันแน่นข่มโทสะที่ถูกเอาเปรียบ ครุ่นคิดถึงสิ่งของมีค่าภายในบ้านหลังนั้น เขาต้องรีบขายสิ่งของเหล่านั้นทิ้งเพื่อเปลี่ยนเป็นเงินให้มากที่สุด ก่อนที่จะไม่เหลืออะไรให้กอบโกย
ริมฝีปากแห้งผากถูกขบแน่น แต่ก็ไม่อาจแย้งอะไรออกมาได้อีกในตอนนี้ แต่เขาจะไม่ยอมเสียแหล่งเงินไปง่าย ๆ แน่นอน
หลังจากชายท้วมจากไป เควินก็ทิ้งกายลงบนเก้าอี้ทำงานนุ่มของตนเอง เหยียดยิ้มมองภาพสดใสของสาวในรูปภาพที่ส่งยิ้มหวานมาให้ด้วยท่าทางน่ารักน่าเอ็นดู
สายตาวิบวับไล่สำรวจสัดส่วนโค้งเว้าของของเล่นชิ้นใหม่อย่างตื่นเต้น ซึ่งมันก็คาดเดาได้ยากมากเนื่องจากเธอสวมเสื้อผ้ารัดกุม
และสิ่งที่สะกดใจเขาที่สุดคงหนีไม่พ้นดวงตากลมโตแสนใสซื่อที่น่าลงโทษสุด ๆ
“โชคร้ายหน่อยนะ ที่ดันเกิดมาหน้าตาคล้ายผู้หญิงคนนั้น ในเมื่อฉันไม่ได้ตัวยัยนั่น...เธอก็มาเป็นของเล่นแทนแล้วกัน”
รอยยิ้มเหี้ยมเกรียมปรากฏขึ้นบนมุมปากชายหนุ่ม รู้สึกครึ้มอกครึ้มใจอารมณ์ดีขึ้นเป็นกองที่โลกนำพาผู้หญิงที่คล้ายคลึงกับหญิงสาวที่เคยหลุดมือเขาไปเมื่ออดีต ให้มาเจอเขาอีก
“ชื่ออิงฟ้างั้นเหรอ...หึหึ น่ารักดีนี่” เสียงทุ้มเอ่ยกับตัวเองแผ่วเบา ยังคงพูดคุยกับรูปถ่ายที่ปล้นธนัทมา ราวกับว่าเธอสามารถโต้ตอบกลับมาได้ ท่ามกลางสายตาเรียบเฉยของบอดี้การ์ดคนใหม่
“ไอ้เร็น...”
“ครับ”
“กูต้องการข้อมูลทุกอย่างของหลานสาวไอ้ธนัท เร็วที่สุด”
“ได้ครับนาย”
“หึหึ...เราคงได้เจอกันเร็ว ๆ นี้ นะจ๊ะคนสวย”
มาเฟียหนุ่มหัวเราะในลำคอ สายตาไม่อาจละไปจากใบหน้าหวานใสของสาวในมือถือได้เลย กล้ามเนื้อทุกมัดในตัวหดเกร็งด้วยความตื่นเต้น แทบจะอดทนรอให้ถึงวันที่เจอตัวจริงแทบไม่ไหว