สองวันต่อมา
เรือนกายกำยำขาวละเอียดของหนุ่มเจ้าของบ่อนคาสิโนนอนคว่ำหน้าบนเตียงกว้าง เผยกล้ามเนื้อแผ่นหลังแข็งแกร่งที่มีผ้าห่มสีขาวปิดบังช่วงเอวสอบเอาไว้อย่างหมิ่นเหม่
แสงแดดยามเช้าไม่อาจเล็ดลอดเข้ามาในห้องเย็นฉ่ำนี้ได้เลย ปล่อยให้เจ้าของห้องจมลึกอยู่กับห้วงความฝัน
แต่แล้วเควินก็ต้องถูกรบกวนการพักผ่อนเข้าจนได้ เมื่อมีเสียงเคาะประตูดังขึ้น
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“นายครับ...นาย” เสียงนิ่งเรียบดังขึ้นจากอีกฝั่งของบานประตู ส่งผลให้หัวคิ้วคนบนเตียงที่กำลังหลับสบายขมวดเข้าหากัน
“นายครับ...เรามีปัญหานิดหน่อยครับ”
“Shit! What the Fuxk!”
มาเฟียหนุ่มสบถออกมาด้วยความหงุดหงิด เมื่อถูกปลุกขึ้นกลางคัน ฝ่ามือใหญ่ยกขึ้นยีเส้นผมสีน้ำตาลทองจนยุ่งเหยิงก่อนจะก้าวลงจากเตียง คว้าผ้าเช็ดตัวขึ้นมาพันรอบเอวสอบอัดแน่นด้วยกล้ามเนื้อเรียงตัวกันสวย ก่อนจะเปิดประตูออกไปด้วยความหงุดหงิด
“ถ้าไม่ใช่เรื่องใหญ่...ต่อให้เป็นมึง กูก็ไม่เว้นนะเร็น” เสียงข่มขู่ลอดไรฟันถูกส่งให้คนสนิท สิ่งที่เควินเกลียดที่สุดคือการถูกกวนตอนนอน เพราะเขาเป็นคนหลับยาก และจะลุกก็ต่อเมื่อรู้สึกว่านอนอย่างเพียงพอแล้วเท่านั้น
“ขออภัยครับ แต่เมื่อครู่ธนัทติดต่อมา มันต้องการเจรจาใหม่”
“ไอ้เวรนั่น! ดูท่าจะไม่อยากตายดีสินะ”
สันกรามแกร่งถูกขบแน่น ทำให้เส้นเอ็นตามลำคอลามไปถึงท่อนแขนกำยำปูดโปนขึ้นมาตามระดับโทสะที่พุ่งขึ้นสูง
“มันว่าไง”
“มันบอกว่าไม่สามารถทำเรื่องยกตัวหลานสาวมาอยู่ในการดูแลของนายได้ ทำได้แค่ขายเธอให้เท่านั้น”
“หึหึ เจ้าเล่ห์จริง ๆ คงหวังใช้กูกักตัวหลานสาวมันเอาไว้ แล้วจะฮุบคฤหาสน์หลังนั้นเอาไว้เองสินะ”
“ครับ ผมก็คิดว่างั้น”
“...”
นัยน์ตาสีฟ้ามืดครึ้มลง ทำให้บรรยากาศในห้องเปลี่ยนเป็นหนาวเหน็บขึ้นทันตา บ่งบอกถึงความโกรธเกรี้ยวภายในที่ก่อตัวขึ้นและกำลังแผดเผาเจ้าของร่างให้ร้อนผ่าวราวกับภูเขาไฟใกล้ปะทุ หากไม่ใช่คนจิตแข็งอย่างเร็นก็คงมีขนลุกกันบ้างแน่
“ติดต่อมันให้กู”
“ครับนาย”
ชายหนุ่มเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาไม่ต่างจากดาราเน็ตไอดอลค้อมศีรษะเล็กน้อย ก้าวถอยไปยังโทรศัพท์ไร้สายของห้องพักสุดหรูบนคาสิโนใจกลางเมือง กดต่อสายตรงหาลูกหนี้ตัวแสบให้เจ้านายตามความต้องการ ไม่นานปลายสายก็รับ เร็นจึงกดเปิดลำโพงให้เจ้านายได้คุยกับอีกฝ่ายโดยสะดวก
(สวัสดีครับ)
“ดูเหมือนว่าคุณธนัทคงอยากมีปัญหากับผมมากสินะครับ”
เสียงเหี้ยมเกรียมของเควินเอ่ยออกไปทันทีที่ได้ยินเสียงสบายอารมณ์ของลูกหนี้หัวหมอ
(อะไรกันครับคุณเควิน อย่าปรักปรำผมแบบนี้สิครับ เพียงแต่สิ่งที่คุณขอมันไม่อาจทำได้ตามกฎหมายเท่านั้นเอง)
“หึหึ วันนี้ดูกล้าขึ้นเยอะนะครับ”
(โธ่ คุณเควิน ผมมันเป็นแค่ชายธรรมดา ไม่ได้มีเงินทองหรืออำนาจอะไรไปต่อกรกับผู้มีอิทธิพลอย่างคุณเควินเลยนะครับ แต่ผมลองมาคิด ๆ ดูแล้ว ผมเป็นหนี้คุณเควินสิบล้านบาท หากคุณจะเอาตัวหลานสาวผมไป แล้วยังจะเอาคฤหาสน์อีก มูลค่ามันต้องมากกว่าสิบล้านแน่ ๆ)
“แล้วคุณต้องการยังไง” ร่างสูงทิ้งตัวลงบนโซฟายาว คว้าบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบดับคลื่นโทสะ อยากจะยื่นมือเข้าไปบีบคอไอ้แก่เจ้าเล่ห์ที่กล้ามาลองดีกับเขาให้รู้แล้วรู้รอด
(ผมต้องการให้คุณเควินยกหนี้ทั้งหมดให้ แลกกับตัวหลานสาวผมเท่านั้น ซึ่งไม่รวมถึงทรัพย์สมบัติอื่น ผมยังถือว่าเป็นผู้ปกครองของเธอโดยชอบธรรม)
“หึหึ ได้ แต่คุณจะไม่มีสิทธิ์มาวุ่นวายในตัวอิงฟ้าอีกแล้ว มีชื่อแค่ในนามบนเอกสารเท่านั้น ห้ามติดต่ออะไรกับเธออีก และไม่มีสิทธิ์มาเรียกร้องเงินเพิ่มจากผมภายหลัง การหักล้างหนี้สิบล้านในครั้งนี้ถือเป็นการขายขาด”
(นี่คุณ!)
ธนัทร้องออกมาด้วยความโมโหที่ถูกเควินดักทางเอาไว้หมด ได้แต่กัดฟันกรอดขุ่นเคืองกับข้อตกลงใหม่ในครั้งนี้
“อ๊ะ ๆ พูดดี ๆ นะครับคุณธนัท คุณเป็นคนพลิกลิ้นก่อน ถ้าไม่ตกลงตามนี้ ก็เตรียมลงไปนอนว่ายน้ำเล่นใต้ทะเลได้เลย”
(ก็ได้! ผมตกลง!)
“หึหึ หวังว่าจะไม่หาลูกไม้อะไรมาอ้างอีก เพราะครั้งหน้า ผมจะไม่ใจดีปล่อยผ่านง่าย ๆ แบบนี้อีกแน่นอน”
(…)
ปลายสายจิกกำมืออวบอ้วนเอาไว้แน่น เกลียดการตกเป็นรองและไม่อาจเรียกร้องอะไรได้แบบนี้ที่สุด
ชายวัยกลางคนได้แต่สูดลมหายใจเข้าออกถี่กระชั้น ปลอบใจตัวเองว่าเมื่อกำจัดอิงฟ้าให้พ้นทางไปแล้ว ต่อให้เธอไม่ตาย แต่คฤหาสน์หลายร้อยล้านและทรัพย์สมบัติอื่นก็ยังตกอยู่ในการดูแลของเขาอยู่ดี นั่นพอทำให้จิตใจแสนโสมมสงบลงได้บ้าง
(ครับ)
“ผมจะเตรียมเอกสารสัญญาเอาไว้ ถ้าตุกติกอีกละก็...คงรู้จุดจบตัวเองดีใช่ไหม”
(ครับ ผมทราบ)
ธนัทกัดฟันตอบกลับไป โกรธเคืองไอ้เด็กรุ่นราวคราวลูกที่วางท่ายโสโอหังเหลือเกิน แต่ในเมื่อตกเป็นรองทุกทาง เขาจึงไม่กล้าเอ่ยอะไรออกไปอีก
เร็นกดวางสายให้หลังจากสองฝ่ายเจรจากันเสร็จ เฝ้ามองสีหน้าเดือดดาลของผู้เป็นนายอย่างไม่เข้าใจ
“นายไม่น่าตกลง...” เขาเอ่ยออกมาเท่านั้น ก็ทำให้ผู้เป็นนายพอเข้าใจว่าบอดี้การ์ดหนุ่มต้องการจะสื่ออะไร
“ช่างมัน กูจะทำให้ผู้หญิงคนนั้นคุ้มค่ากับเงินสิบล้านที่เสียไป”
“...”
“ไปเตรียมร่างสัญญาซะ ตรวจให้ละเอียดว่าไอ้ธนัทมันจะไม่มีข้ออ้างอะไรมาเล่นตุกติกทีหลังอีก”
“ครับนาย”
ร่างสูงในชุดสูทสีดำสนิทตั้งแต่หัวจรดเท้าโค้งทำความเคารพเล็กน้อย ก่อนจะหมุนกายจากไป ปล่อยให้มาเฟียหนุ่มคว้าซองบุหรี่บนโต๊ะขึ้นมาจุดสูบดับความโมโห
“ไอ้ธนัท ครั้งนี้กูจะปล่อยมึงไปสักพัก ถ้ายังคิดลองดีกับกูอีก รับรองศพมึงไม่สวยแน่”
ฝ่ามือแกร่งบีบเข้าหากันแน่น ดวงตาวาวโรจน์โชติช่วงทำอุณหภูมิภายในห้องเหมือนจะลดฮวบไป พลางอัดควันหนาเข้าเต็มปอด ก่อนจะพ่นมันออกมา พลางจ้องตรงไปเบื้องหน้าด้วยสายตาน่ากลัว
และเหมือนว่าความซวยทั้งหมดจะตกไปสู่หญิงสาวที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวกับการเจรจาครั้งนี้ด้วยเลย
ไม่กี่วันต่อมา
มหาวิทยาลัย B
ร่างบางในชุดนักศึกษาเข้ารูปถูกระเบียบตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า แต่ถึงแบบนั้นก็ไม่อาจจะซ่อนสัดส่วนเซ็กซี่เย้ายวนที่ถูกบดบังด้วยชุดนักศึกษาได้เลย
อิงฟ้ายกมือโบกลากิ๊ฟเหมือนอย่างเคย ริมฝีปากแดงระเรื่อรูปกระจับคลี่ยิ้มกว้างจนเห็นฟันขาวเรียงตัวกันสวย ทำให้ใครต่อใครที่ยืนอยู่บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยต้องตาลอยด้วยความเคลิบเคลิ้ม
“เจอกันพรุ่งนี้นะกิ๊ฟ”
“กลับบ้านดี ๆ นะแก”
“จ้า บ๊ายบาย”
สาวผมสั้นตัวเล็กอย่างกิ๊ฟอมยิ้มพลางส่ายหัวเอ็นดู ก้าวขึ้นรถตู้ประจำทางไปก่อน ชำเลืองมองใบหน้าน่ารักใสซื่อของเพื่อนสาวผ่านกระจกสีทึบของตัวรถ สักพักอิงฟ้าก็หมุนกายเดินไปตามฟุตบาทเพื่อขึ้นสะพานลอยข้ามไปอีกฟากถนน แผ่นหลังของเพื่อนรักห่างไปไกลทุกที จู่ ๆ กิ๊ฟก็รู้สึกไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูก ในขณะที่กำลังจะตัดสินใจลงจากรถ รถโดยสารที่เธอนั่งอยู่ก็ออกตัวเสียก่อน ทำให้เธอได้แต่กักเก็บความเป็นห่วงนั้นไว้ในใจ เลือกหยิบมือถือขึ้นมาพิมพ์ข้อความย้ำเพื่อนสาวแสนดี
Line
Gift : รีบกลับบ้านนะแก ถึงแล้วทักบอกด้วย
เธอเฝ้ารอข้อความอยู่แบบนั้น แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าอีกฝ่ายจะเปิดอ่าน สะกดข่มอาการกระสับกระส่ายเอาไว้ มองในแง่ดีว่าอิงฟ้ากำลังข้ามสะพานลอยอยู่ คงไม่ว่างตอบข้อความเธอ อีกสักพักหลังจากขึ้นรถเมล์แล้วคงตอบเอง
คิดได้ดังนั้นใจที่ร้อนรุ่มก็พอสงบลงได้หน่อย
แสงแดดยามเย็นเปลี่ยนท้องฟ้ากลายเป็นสีส้มทอง ฝุ่นควันของรถราทำให้บรรยากาศดูขมุกขมัวไม่แจ่มใสนัก คนตัวเล็กกระชับกระเป๋าบนไหล่ ใช้มืออีกข้างเอื้อมปิดชายกระโปรงด้านหลังขณะก้าวขาขึ้นบันไดสูงของสะพานลอยตามปกติ หญิงสาวก้าวตรงไปเรื่อย ๆ อย่างไม่ได้คิดอะไร เพราะบริเวณนี้ก็มีนักศึกษาและผู้คนพลุกพล่านไม่ต่างจากทุกวัน
โดยที่ไม่ทันสังเกตเลยว่ามีชายรูปร่างสูง แต่งกายด้วยชุดสูทสีดำสนิทสองคนเดินตามหลังมาห่าง ๆ
อิงฟ้าต่อแถวลงบันได หลังจากข้ามถนนแปดเลนมาได้ ซึ่งมันก็เป็นเวลาเดียวกับที่รถประจำทางสายที่เธอต้องขึ้นมาถึงพอดี ทำให้เหล่านักศึกษาและประชาชนทั่วไปต่างวิ่งกุลีกุจอไปยืนออ เบียดเสียดคนตัวเล็กจนเธอกระเด็นไปด้านหลังสุด
ปึก!
“โอ๊ะ! ขอโทษค่ะ พอดีหนูโดนดันมา”
เธอหันไปขอโทษขอโพยคนด้านหลังเมื่อเสียหลักชนเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ
“อืม...”
“ขอโทษอีกครั้งนะคะ”
อิงฟ้าตัวลีบเมื่อเห็นท่าทางเคร่งขรึมและการแต่งตัวของชายสองคนชัด ๆ บวกกับสายตาที่พวกเขาจ้องมองเธออีก นั่นยิ่งทำให้ขนในกายลุกวาบ โค้งศีรษะเตรียมตัวจะปลีกตัวขยับเข้าหากลุ่มคนแออัดเบื้องหน้าแทน
และแล้วก็มีวัตถุวาววับเย็นเฉียบจ่อชิดแผ่นหลังบางเสียก่อน ทำหญิงสาวหน้าซีดยืนตัวเกร็งด้วยความกลัว แม้จะไม่เห็น แต่ก็คาดเดาได้ไม่ยากจากความแหลมคมของมัน คงหนีไม่พ้นมีดแน่นอน
ใจดวงน้อยสั่นระรัว บ่อน้ำตาเอ่อรื้น กำลังจะปริปากร้องขอความช่วยเหลือ แต่แล้วก็ต้องปิดปากแน่นเมื่อเสียงแข็งกร้าวขัดขึ้นมาก่อน
“เงียบซะถ้าไม่อยากตาย!”
“อึก...พี่...อย่าทำอะไรหนูเลย”
“เงียบ!” เสียงดุดันตวาดขึ้นเบา ๆ จากทางด้านหลัง ยิ่งทำให้เธอขวัญหนีดีฝ่อ แตกตื่นทำอะไรไม่ถูก เม้มริมฝีปากแน่น ส่งสายตาพยายามขอความช่วยเหลือจากผู้คนที่เดินผ่านไปมา
แต่เหมือนว่าชายทั้งคู่จะเป็นมืออาชีพมากพอ พอคนหนึ่งประชิดด้านหลัง อีกคนก็มายืนบังด้านหน้าเอาไว้ ก่อนจะลากแขนหญิงสาวให้ออกห่างจากกลุ่มคนไปเรื่อย ๆ
วินาทีนี้อิงฟ้าไม่รีรออะไรอีกแล้ว ตั้งปณิธานแน่วแน่ว่าจะไม่มีทางยอมไปกับสองคนร้ายเด็ดขาด ทำท่าจะพุ่งตัวหนีร้องขอความช่วยเหลือ แต่แล้วฝ่ามือหนาก็ตะปบเข้าที่ริมฝีปากบางปิดกลั้นเสียงเธอเอาไว้ ชายหนุ่มคนหน้าก็ใช้กายใหญ่โตของตัวเองบดบังการกระทำอุกอาจให้รอดพ้นจากกลุ่มคนที่แย่งกันขึ้นรถประจำทาง ทำให้ไม่มีใครสังเกตเลยว่ามีนักศึกษาคนหนึ่งถูกลักพาตัวไป
และเพียงแค่ไม่ถึงนาทีอิงฟ้าก็ถูกพวกเขาลากห่างจากผู้คนมากขึ้น
หัวสมองเธอเวียนตื้อ แตกตื่นสุดขีดกับสถานการณ์แห่งความเป็นความตาย ขืนตัวสุดกำลังที่จะไม่ไปกับพวกเขา เธอส่งเสียงร้องได้เพียงแค่ในลำคอ บวกกับเสียงเครื่องยนต์ของรถ ทำให้กลบเสียงอู้อี้ของอิงฟ้าไปหมด
ดวงตากลมเบิกกว้าง ในช่วงที่พยายามขัดขืนอยู่นั้น เงยหน้าขึ้นมาอีกทีก็มีรถตู้สีดำคันใหญ่จอดรอเอาไว้เบื้องหน้าเสียแล้ว เรียวขาเล็กยันขอบรถเอาไว้สุดแรง ให้ตายอย่างไรเธอก็ไม่มีวันขึ้นไปบนนั้นแน่ น้ำตาใสไหลอาบ ไม่มีเวลาให้ทำอะไรทั้งสิ้น ชายด้านหน้าที่ก้าวขึ้นรถตู้ไปแล้วก็กระชากแขนเธอ เช่นเดียวกับหนุ่มด้านหลังที่ใช้มีดจ่อก็เปลี่ยนไปรวบท่อนขาเธอเอาไว้ ก่อนจะโยนตัวเธอขึ้น แล้วกระโดดตามมานั่งรวดเร็ว
ปึก
“ออกรถเลย”
“กรี๊ดดดดดดดดดดด! ช่วยด้วย ปล่อยฉันนะ!”