เมื่อเห็นว่าแฟนสาวเดินออกไปจากห้องแล้ว ศิลาจึงหันมาพูดกับเด็กสาวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
"อาไม่ได้อยากจะดุน้องเซียเลยนะครับ แต่น้องเซียโตเป็นสาวแล้ว ไม่ใช่เด็กตัวเล็กๆเหมือนเมื่อก่อน อีกอย่างอาเป็นผู้ชายและอาก็มีแฟนแล้ว น้องเซียจะมากอดมาหอมหรือถึงเนื้อถึงตัวกับอาเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้แล้วนะครับ เพราะมันไม่เหมาะสม"
"น้องเซียไม่สน น้องเซียอยากอยู่ใกล้ๆอาศิแบบนี้"
พรึ่บ!
พูดจบซีเซียก็หย่อนก้นกลมมนนั่งลงบนตักแกร่งทันทีพร้อมกับยกแขนเรียวเล็กทั้งสองข้างคล้องลำคอหนาเอาไว้อย่างออดอ้อน
ฮึม~
ด้านศิลาถึงกับถอนหายใจออกมาอย่างหนักใจ ทว่าเขาก็ไม่ได้ผลักใสเด็กสาวแต่อย่างใด แถมยังยกแขนแกร่งทั้งสองข้างกอดเอวบางเอาไว้หลวมๆ
"น้องเซียรักอาไหมครับ" เขาถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน มองเด็กสาวด้วยสายตารักใคร่เอ็นดู
"รักค่ะ น้องเซียรักอาศิที่สุดเลย แล้วก็รักอาเตด้วย"
คำตอบของเด็กสาวทำให้ศิลาระบายยิ้มออกมาอย่างนึกเอ็นดู เขารู้ดีว่าเด็กสาวรักเขาแล้วก็รักเพื่อนของเขาที่เป็นอาแท้ๆของเธอด้วย ทว่าเขากลับไม่แน่ใจเลยว่าความรักที่เด็กสาวมอบให้เขามันเป็นรักแบบไหนกันแน่ รักแบบผู้ชายคนหนึ่งหรือรักแบบเคารพนับถือ ข้อนี้เขาเองก็ไม่แน่ใจและไม่กล้าถามเธอด้วย เพราะถ้าเกิดเขาถามไปแล้วเด็กสาวไม่ได้มีความรู้สึกรักแบบเดียวกับที่เขารู้สึกคลุมเครือกับเธอ มันอาจจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเธอแย่ลง ซึ่งเขาไม่อยากให้เป็นแบบนั้น เขาจึงเลือกที่จะเก็บซ่อนความรู้สึกคลุมเครือที่เขามีต่อเด็กสาวฝั่งลึกเอาไว้ในใจคนเดียว ซึ่งการที่เขาคบหากับขวัญตานั้นต้นเหตุหลักก็มาจากเด็กสาว เขาอาจจะเป็นผู้ชายที่เห็นแก่ตัวที่ดึงขวัญตาเข้ามาเพื่อไม่ให้ตัวเองรู้สึกกับเด็กสาวในเชิงชู้สาวไปมากกว่านี้ แม้ว่าลึกๆเขาจะรู้ตัวเองดีเพราะไม่ว่าเขาจะพยายามฝืนใจให้รักขวัญตามากแค่ไหนแต่เขาก็รักขวัญตาไม่ได้จริงๆ เพราะในใจของเขากลับมีแต่หลานสาวของเพื่อน ต่อให้ตัวเขาเองจะไม่แน่ใจเหมือนกันว่าความรู้สึกที่มีต่อเด็กสาวนั้นมันเรียกว่ารักแบบไหนกันแน่ แต่ที่เขารู้คือตอนนี้คนที่สำคัญที่สุดสำหรับเขา ก็คือเด็กน้อยบนตักของเขาคนนี้
"ถ้าน้องเซียรักอา น้องเซียก็อย่าดื้อกับอาได้ไหมครับ เวลาอาพูดหรืออาสอนอะไรน้องเซียก็ต้องเชื่อฟัง ถ้าน้องเซียเป็นเด็กดีอาก็จะไม่ดุน้องเซีย" เขาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน พลางยกมือหนาข้างหนึ่งขึ้นมาลูบแก้มนุ่มของเด็กสาวอย่างทะนุถนอม
"น้องเซียไม่ได้อยากจะดื้อกับอาศิเลยนะคะ แต่น้องเซียแค่อยากกอดอาศิอยากหอมอาศิอย่างที่น้องเซียเคยทำ น้องเซียรักอาศิ น้องเซียอยากให้อาศิอยู่กับน้องเซีย น้องเซียไม่อยากให้อาศิมีแฟน เวลาน้องเซียเห็นอาศิอยู่กับอาขวัญตาน้องเซียก็เจ็บตรงนี้ไปหมดเลยค่ะ" ประโยคสุดท้ายซีเซียพูดพลางชี้นิ้วเข้าหาตัวเองตรงตำแหน่งหัวใจ ในขณะที่พูดทุกคำทุกประโยคเธอก็แทบจะร้องไห้ออกมาอยู่รอมร่อ น้ำเสียงสั่นเครือไปหมด
ศิลาที่มองอยู่อย่างไม่ละสายตา ใจแกร่งก็กระตุกวูบทันทีกับท่าทางและคำพูดน้อยอกน้อยใจของเด็กสาว เขาไม่รอช้ากระชับกอดเด็กสาวไว้แนบอก พลางลูบศรีษะเล็กเบาๆอย่างทะนุถนอมเพื่อปลอบประโลมเธอ โดยไม่มีคำพูดใดๆออกมาจากปากของเขาเลยสักคำ แม้ว่าในใจจะมีคำพูดมากมายที่อยากจะบอกกับเด็กน้อยบนตักก็ตาม ทว่าเขาก็เลือกที่จะเงียบและเก็บซ่อนความรู้สึกเอาไว้ไม่ยอมพูดมันออกมา และเมื่อกอดปลอบเด็กสาวอยู่พักใหญ่แล้ว เขาก็เอ่ยพูดออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนพลางดันเด็กสาวออกจากอกแกร่งเบาๆ
"เย็นแล้วเดี๋ยวอาไปส่งบ้านนะครับ"
"แต่น้องเซียยังไม่อยากกลับเลย น้องเซียอยากอยู่กับอาศิแบบนี้นานๆ" ซีเซียพูดด้วยใบหน้างองำ มีอาการงอแงเล็กน้อย
"ถึงอาจะไปส่งหนูที่บ้านแต่อาก็ไม่ได้รีบกลับหนิครับ อากะว่าจะอยู่ดื่มกับไอเตมันซะหน่อย"
"จริงเหรอคะ งั้นกลับกันเลยก็ได้ค่ะ" ซีเซียพูดพลางลุกพรวดขึ้นจากตักแกร่งด้วยความดีใจเมื่อรู้ว่าอีกคนจะไปบ้านเธอ ซึ่งแน่นอนเธอรู้ดีว่าถ้าหากอาศิกับอาเตของเธอได้นั่งดื่มกันแล้วก็จะนั่งดื่มกันนานจนถึงดึกดื่น ซึ่งมันก็เข้าทางเธอเพราะเธออยากอยู่กับอาศิของเธอนานๆ
จากนั้นทั้งคู่ก็พากันออกจากห้องทำงานของคนตัวโตแล้วเดินลงไปข้างล่างที่มีแฟนสาวของเขารออยู่ ในขณะที่เดินลงบันไดใหญ่ซีเซียถึงกับกรอกตามองบนทันทีเมื่อเห็นขวัญตายืนอยู่ตรงโถงกลางบ้าน ก่อนจะหันไปเอ่ยถามคนตัวโตด้วยใบหน้างองำ
"อาศิจะพาอาขวัญไปด้วยไหมคะ"
"ก็ต้องพาไปด้วยสิครับ ยังไงอาก็ต้องไปส่งอาขวัญที่คอนโดอยู่แล้ว"
"น้องเซียหมายถึงว่าอาศิจะพาอาขวัญไปบ้านน้องเซียด้วยไหมคะ หรือว่าเลยไปส่งอาขวัญที่คอนโดก่อนแล้วอาศิค่อยกลับมานั่งดืมกับอาเต" ที่ซีเซียถามไปแบบนั้นเพราะคอนโดของขวัญตาอยู่เลยไปจากบ้านของเธอพอสมควร เธอจึงแอบหวังลึกๆว่าคนตัวโตจะไม่หิ้วขวัญตาไปนั่งดื่มกับเขาที่บ้านของเธอด้วย ซึ่งเธอไม่อยากให้เป็นเช่นนั้นเพราะถ้ามีขวัญตาเขาก็จะดุเธอเวลาที่เธอจะกอดหรือจะหอมเขา แน่นอนว่าถ้ามีแฟนสาวของเขาอยู่ด้วยเธอจะไม่ได้ทำในสิ่งที่เธออยากทำกับเขา
"จะเลยไปส่งอาขวัญทำไมล่ะครับ ก็พาอาขวัญไปนั่งดื่มด้วยกันเนี่ยแหละ"
คำตอบของศิลาทำให้ใบหน้าสวยหวานยิ่งงองำบูดบึ้งหนักกว่าเดิม ทว่าเธอก็เลือกที่จะไม่พูดอะไรออกมาสักคำ จากนั้นเธอก็เดินผ่านขวัญตาโดยไม่มองหน้าอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย แม้ว่าศิลาจะหยุดเดินแวะคุยกับแฟนสาวของเขา แต่เด็กสาวก็ไม่ได้คิดจะหยุดตามแต่อย่างใด เธอรีบเดินจ้ำอ้าวเพื่อไปรอเขาที่รถอย่างไวเพราะไม่อยากอยู่มองภาพบาดตาบาดใจให้ใจมันเจ็บเล่นเปล่าๆ
หลายวันผ่านไปหลายวันมานี้มีเรื่องราวดีๆเกิดขึ้นมากมาย เรื่องแรกคือศิลาได้ให้พ่อแม่ของเขามาสู่ขอซีเซียเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เรื่องที่สองคือได้ฤกษ์งามยามดีในอีกสองเดือนข้างหน้า ซึ่งมันเร็วมากสำหรับซีเซีย ทว่ามันกลับช้าไม่ทันใจศิลาเอาเสียเลย เพราะเขาอยากได้ฤกษ์แต่งงานที่เร็วกว่านี้ แต่งวันนี้พรุ่งนี้เลยยิ่งดี แต่ไม่ว่าจะแต่งเร็วหรือแต่งช้าก็นับว่าเป็นเรื่องที่ดีงามเสมอ...ขณะนี้สองขาเรียวเล็กขาวเนียนไร้ที่ติของซีเซีย กำลังเดินคุยโทรศัพท์ไปมาอยู่บริเวณริมสระว่ายน้ำด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เพราะคนปลายสายโทรมาขอความช่วยเหลือจากเธอ ซึ่งคนปลายสายก็ไม่ใช่ใครอื่นเลย เป็นน้ำพั้นซ์ลูกพี่ลูกน้องของเธอนั่นแหละ"โดนจับขังในห้องสามวันแถมยังโดนคาดโทษอีก ว่าแต่ตาคาดโทษอะไรไว้อะ"(ตาบอกว่าถ้าคิดหนีออกจากห้องแล้วแอบไปเล่นปลากัดอีก ตาจะส่งเราไปอยู่กับแม่หรือไม่ก็จับเราแต่งงานอะ) ด้านน้ำพั้นซ์ที่พูดมาจากปลายสายน้ำเสียงคล้ายคนจะร้องไห้ออกมาอยู่รอมร่อ"ฮะ! จับแต่งงานเลยเหรอ นี่มันเรื่องใหญ่มากเลยนะพั้นซ์ ทำไมครั้งนี้ตาคาดโทษหนักจังอ่ะ ปกติเวลาตาจับได้ว่าพั้นซ์แอบไปเล่นปลากัดอย่างมากก็แค่ตีเองไม่ใช่เหรอ"ซึ่งตอน
จากนั้นก็มาถึงขั้นตอนการสอดใส่ มือหนาจับขาเรียวเล็กข้างหนึ่งยกขึ้นมาพาดบ่าแกร่ง แล้วจับท่อนเอ็นดันเข้าไปในรูรักของเด็กสาวช้าๆ ซึ่งการสอดใส่ในครั้งหลังๆมานี้มันง่ายกว่าครั้งแรกของเด็กสาว เพราะรูรักของเธอเริ่มขยายรับกับขนาดของเขาได้แล้ว แต่กระนั้นภายในของเธอก็ยังคงแน่นตอดท่อนเอ็นของเขาตุบๆ รัดแน่นเสมือนอยากให้มันแหลกคาร่องของเธอเอวสอบเริ่มขยับช้าๆจากเนิบนาบค่อยๆถี่ขึ้นตามกามารมณ์ จากนั้นก็โน้มกายแกร่งลงไปจูบปากบางอย่างเร่าร้อน มือหนาทั้งสองข้างก็ไม่ปล่อยให้อยู่นิ่ง บีบขย้ำเต้านมอวบอิ่มอย่างมันมือพลางบีบบี้สะกิดยอดอกเม็ดเล็กประหนึ่งยอกเย้าเจ้าของมันอย่างนึกหมั่นเขี้ยว ขณะที่เอวสอบก็ยังคงทำหน้าที่ของมันได้ดีไม่มีหยุดพัก จนเสียงหวานครางออกมาไม่ขาดสายด้วยความเสียวซ่าน"โอ๊ย! อาศิขา~ หนูเสียว""อา~ ครางแบบนี้อยากเจ็บตัวเหรอครับ หื้ม""ไม่อยากเจ็บค่ะ อ๊ะ! แต่อยากเสียว"...ในเมื่อเธออยากเสียวเขาก็จัดให้ สิ้นเสียงหวาน ศิลาก็จับขาเรียวเล็กที่พาดบ่าแกร่งออกก่อนจะล้มตัวลงไปนอนตะแคงข้างซ้อนหลังเด็กสาว โดยที่จุดเชื่อมต่อกลางกายไม่ได้หลุดออกจากกัน จากนั้นก็ตะบี้ตะบันกระแทกกระทำใส่ก้นกลมมนไม่ยั้ง มื
เมื่อทั้งคู่เข้ามาในห้อง ซีเซียก็ไม่รอช้าจัดการกดล๊อคประตูห้อง แล้วเริ่มพิสูจน์ความรักของเธอให้คนตัวโตเห็นทันที เธอยื่นมือบางไปจับหัวเข็มขัดของคนตัวโตโดยที่มองสบตาคู่คมของเขาไม่ละสายตา"นะ น้องเซียจะทำอะไรครับ" เสียงทุ้มติดขัดขึ้นมาทันที ขณะที่สายตามองตามมือบางที่กำลังถอดเข็มขัดของตัวเอง ใจแกร่งสั่นระรัวด้วยความตื่นเต้น"หนูก็กำลังพิสูจน์ให้อาศิเห็นไงคะ ว่าหนูรักอาศิมากแค่ไหน" ซีเซียตอบด้วยสีหน้ายั่วยวน ขณะที่ปลดเข็มขัดออกจากกางเกงของเขาเสร็จพอดี แล้วเหวี่ยงมันทิ้งลงไปบนเตียงนอน จากนั้นก็เดินต้อนคนตัวโตไปที่เตียง โดยมองสบตาคู่คมตลอดเวลา เมื่อมาถึงเตียงเธอก็ผลักคนตัวโตลงบนที่นอนเบาๆก่อนจะโน้มตัวลงไปหาเขาแล้วเลื่อนมือบางไปปลดกระดุมกางเกงของเขา ถอดมันออกพร้อมกับกางเกงตัวในอย่างใจเย็นด้วยความร่วมมือจากเจ้าตัว ทว่าตอนนี้ใจแกร่งสั่นระรัวเป็นกลองชุดด้วยความตื่นเต้นจนแทบคลั่งกับทุกการกระทำของเธอและเมื่อร่างกายท่อนล่างของคนตัวโตเปลือยเปล่า มือน้อยก็คว้าท่อนเอ็นลำใหญ่เอาไว้ก่อนจะสาวขึ้นสาวลงเบาๆเพื่อให้มันตื่นตัวเต็มที่ แม้จะรู้สึกประหม่าแต่ก็ทำใจกล้าเพียงเพราะอยากพิสูจน์ความรักของตัวเอง จากนั
หลังจากเหตุการณ์วุ่นวายสงบลง ทั้งสามคนก็พากันมานั่งเคลียร์เรื่องราวทั้งหมดที่ห้องนั่งเล่น และเป็นเตชินท์ที่พูดเปิดประเด็นขึ้นมา"ตกลงไอศิมันทำอะไรให้น้องเซียของอาเสียใจครับ"ได้ยินเช่นนั้นซีเซียก็หันไปมองคนรักที่นั่งอยู่ข้างๆด้วยแววตาน้อยใจ จนเขารับรู้ได้ก็ทำเอาใจแกร่งกระตุกวูบกับสายตาที่เธอมองมา ก่อนที่เสียงหวานจะเอ่ยตอบคนเป็นอาที่นั่งอยู่บนโซฟาอีกตัวเยื้องกัน"เมื่อเช้ามีคนโทรมาหาอาศิค่ะ ตอนนั้นอาศิอาบน้ำอยู่หนูก็เลยรับสายแทน แล้วอาเตรู้ไหมคะว่าคนที่โทรมาเป็นใคร""ใครครับ" เตชินท์ถามทันทีด้วยสีหน้าอยากรู้เต็มประดา"อาขวัญตาค่ะ อาศิยังติดต่อกับอาขวัญตาอยู่ค่ะอาเต ฮึ่ๆ" พูดจบซีเซียก็สะอื้นออกมาคล้ายจะร้องไห้อีกครั้ง ปากบางเบะคว่ำอย่างน่าสงสาร จนคนเป็นอาต้องรีบเอ่ยปลอบอย่างไว"โอ๋ๆ อย่าร้องนะครับ ดูสิตาบวมหมดแล้วเดี๋ยวไม่สวยเอานะครับ" เตชินท์โอ๋พลางลูบศรีษะของหลานสาวไปด้วย ก่อนที่เสียงของศิลาจะดังขึ้นดึงความสนใจของเขา"น้องเซียกำลังเข้าใจอาผิดนะครับ อากับขวัญตาเลิกกันไปตั้งนานแล้ว ที่ขวัญตาโทรมาเมื่อเช้าอาเองก็ไม่รู้ว่าเธอโทรมาทำไม อาถามได้ไหมครับว่าขวัญตาพูดอะไรกับหนูบ้าง"ซีเซียที่ได
เช้าวันต่อมา~~~~เสียงโทรศัพท์ของศิลาดังขึ้นมา แต่เจ้าตัวดันอาบน้ำอยู่ ซีเซียที่อาบน้ำก่อนและแต่งตัวเสร็จพอดี เธอจึงเดินออกมาจากห้องแต่งตัวแล้วหยิบโทรศัพท์ของคนรักที่วางอยู่บนโต๊ะข้างหัวเตียงขึ้นมากดรับสายแทน โดยที่ไม่รู้ว่าเป็นเบอร์ของใครโทรเข้ามาเพราะเป็นเบอร์ที่ไม่ได้เม็มชื่อไว้ เมื่อกดรับสายซีเซียก็ไม่ได้พูดอะไร เธอรอให้ปลายสายพูดก่อน"ศิ ขวัญโทรมาขอบคุณหนะ ถ้าไม่ได้ศิขวัญก็ไม่รู้จะไปพึ่งใครแล้ว ขอบคุณนะคะศิ"ได้ยินเช่นนั้นซีเซียถึงกับมือไม้อ่อนแรง ใจดวงน้อยกระตุกวูบทันที เพราะเธอจำได้ว่าเป็นเสียงของใครแถมอีกฝ่ายยังพูดชื่อตัวเองอีก แค่นี้เธอก็รู้แล้วว่าเป็นใคร แต่เธอก็พยายามประคองสติเอาไว้และเลือกที่จะกดตัดสายทิ้ง วางโทรศัพท์ไว้ที่เดิม ขณะที่เสียงเปิดประตูห้องน้ำดังขึ้นพอดี เธอจึงกระพริบตาถี่ๆเพื่อไล่น้ำตาที่เอ่อคลอเบ้าตาออกไป แม้ในใจจะรู้สึกเจ็บปวดกับการที่ต้องมารับรู้ว่าคนรักของตัวเองยังติดต่อกับแฟนเก่าของเขาอยู่ก็ตาม แต่เธอก็พยายามทำตัวให้เป็นปกติที่สุดด้านศิลาเมื่อเปิดประตูออกมาจากห้องน้ำก็เห็นว่าเด็กสาวนั่งหันหลังให้อยู่บนเตียง แต่เขาไม่ได้พูดอะไร เขาเดินเลยไปยังห้องแต่งตัว
อีกด้านหนึ่งหญิงสาวร่างบางหรืออดีตแฟนสาวของศิลา กำลังเดินไปเดินมาอยู่หน้าห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ใบหน้าสวยเปื้อนไปด้วยน้ำตาเพราะกำลังคิดไม่ตกว่าจะหาเงินเกือบครึ่งล้านมาจากไหนเพื่อเป็นค่าผ่าตัดอาการป่วยของแม่เธอ เธอไม่ใช่ลูกคนรวยอะไร ครอบครัวเหลือกันแค่สองคนแม่ลูก เธอทำงานเลี้ยงแม่มาตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ ตอนนี้เธอเป็นแค่พนักงานบริษัทตัวเล็กๆ เงินเดือนหลักหมื่นแค่พอเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง เงินเก็บก็พอมีบ้าง แต่ก็หมดไปกับการรักษาอาการป่วยของแม่ จนตอนนี้แม่เธอต้องเข้าผ่าตัด แต่เธอยังไม่มีเงินค่ารักษา และเมื่อไม่รู้จะหาพึ่งใคร ความหวังเล็กๆจึงแว็บเข้ามาในหัวของเธอ ไม่รอช้าเธอรีบกดโทรออกเบอร์ของคนรักเก่าทันทีและหวังว่าเขาจะยังคงใช้เบอร์เดิมอยู่ แม้จะไม่อยากรบกวนเขาแต่ตอนนี้เธอมืดแปดด้าน ไม่รู้จะพึ่งใครแล้วจริงๆ ญาติพี่น้องก็ไม่มีใครมีเงินมากพอให้เธอยืม เพราะงั้นความหวังเดียวของเธอตอนนี้ก็คือ ...เขา ...รอสายไม่นานคนปลายสายก็กดรับ"ศิ ศิใช่ไหม นี่ขวัญเองนะ" ไม่รอให้ปลายสายพูดก่อนขวัญตารีบพูดขึ้นทันที น้ำเสียงของเธอสั่นเครือ น้ำตาไหลอาบแก้มตลอดเวลา(อืม มีอะไร)เสียงเรียบนิ่งของคนปล