Home / วัยรุ่น / เด็กเฮียเต / บทที่ 7 เบาะแส

Share

บทที่ 7 เบาะแส

last update Huling Na-update: 2025-01-24 21:27:38

หลายวันต่อมา...

“งานอะไรก็ได้เจ๊ ฉันทำได้ทั้งนั้น” มะปรางพูดกับเจ๊แก้วผู้จัดการร้านผับที่ตั้งอยู่ห่างออกไปจากชุมชน หากว่าเธอตัดสินใจนั่งวินมาถึงตัวอำเภอเพื่อมาหางานทำ อีกทั้งอาจจะได้เบาะแสเพิ่มเติม

“งานที่แล้วก็เพิ่งกระทืบลูกค้ามาเพราะเพื่อนโดนลวนลาม งานนี้มันหนักกว่ามากนะ แกจะไม่เอาปืนมายิงลูกค้าเจ๊เลยเหรอ”

“ให้ฉันล้างถ้วยล้างจานหลังร้านก็ได้เจ๊ รับรองว่าฉันจะไม่มาเพ่นพ่านในนี้เด็ดขาด”

“แกมาถึงที่นี่เพื่อที่จะมารับจ้างล้างจานจริง ๆ เหรอ มันคุ้มค่าเดินทางแกเหรออีมะปราง”

“ก็ยังดีกว่าไม่มีอะไรทำนี่เจ๊”

“อ้าวดูสิว่าใครมา” หนึ่งในสามสาวที่เพิ่งมาใหม่เอ่ยทักทายมะปรางอย่างเป็นกันเอง

“หวัดดีพี่โส” มะปรางยกมือไหว้ทั้งสามคนเหนือหัวอย่างหยอกล้อ​ หากว่ารู้จักกันเป็นอย่างดี

“โอ๊ยยัยเด็กบ้านี่ เรียกพี่โสเดี๋ยวแม่ตบปากแตกเลย ฉันเจนนี่ย๊ะ”

“ส่วนพี่...ชื่อโบวี่”

“ส่วนพี่ก็...ชื่อหนูเล็ก มากับเจนนี่แล้วก็มากับโบวี่”

“รู้แล้ว ๆ แนะนำตัวเป็นทางการตลอด​ แหม...วันนี้​แต่งตัว​สวยเชียวนะ”

“อย่ามาอวย​เดี๋ยวเงินหมดกระเป๋า​ ว่าแต่แกมาทำอะไรที่นี่อีมะปราง จะมาแย่งงานพวกฉันเหรอ” เจนนี่เท้าเอวถาม ก่อนที่หนูเล็กจะช้อนปลายคางของมะปรางขึ้นเล็กน้อย

“หน้ามันก็เอาเรื่องอยู่นะ แต่งนิดแต่งหน่อยก็รับแขกได้แล้ว”

“อีหนูเล็ก เสียงดังนะมึง!” เจ๊แก้วผู้จัดการร้านพูดปรามพลางทำหน้าขึงขังใส่ทั้งสามคน

“อะไรนักหนาเจ๊ ห่วงมันจังเลยเด็กคนนี้” โบวี่พูดแทนเพื่อน

“ไปทำงานได้แล้วไป เสียเวลาทำมาหากิน​” ผู้จัดการร้านไล่คนของตัวเองให้รีบออกไป ทั้งสามคนเลยต้องรีบเดินเลี่ยงออกไปยังหลังร้านเพื่อแต่งตัวสำหรับทำหน้าที่ของตัวเอง

“น่าสนอยู่นะเจ๊ รายได้ดีแน่เลย” มะปรางพูดพร้อมทำท่าทางชะเง้อมองไปยังหลังร้าน ด้วยความอยากรู้อยากเห็น

“อีมะปราง!”

“ปรางล้อเล่น ว่าแต่เจ๊จะให้ฉันทำงานที่นี่หรือเปล่า”

“กลับไปต้มเหล้าเถื่อนขายเหมือนเดิมน่าจะได้เงินดีกว่าล้างจานนะ”

“ชู่ว...เบา ๆ สิเจ๊” มะปรางส่งเสียง​ชู่ออกจากริมฝีปาก​ พลางมองซ้ายมองขวา​ “เรื่องแบบนี้ใครเขาให้พูดในที่สาธารณะกัน”

“ฉันกับแกเคยอยู่ในจุดที่เอาตัวไม่รอดมาครั้งหนึ่งแล้วนะอีมะปราง ฉันไม่อยากให้แกกลับมาวนลูปอยู่ที่เดิม”

“เจ๊ไม่อยากให้ฉันวนลูป แล้วทำไมเจ๊ยังทำงานแบบนี้อยู่”

“ฉันมันไม่ยอมหยุดเองตั้งแต่วันนั้นทั้งที่ฉันทำได้ แกโชคดีแล้วนะ แกอยู่ในจุดที่แกอยู่ตอนนี้มันดีที่สุดแล้ว เพราะที่ฉันเป็นอยู่มันทรมานมาก”

“มีใครอยู่เบื้องหลังงานนี้หรือเปล่าเจ๊” มะปรางเอียงศีรษะเล็กน้อยพลางกระซิบกระซาบเสียงเบา ก่อนจะโดนอีกฝ่ายแผดเสียงดังกลับมา

“แกไปให้พ้น ๆ จากที่นี่เลยนะ ถือว่าเจ๊เตือนด้วยความหวังดี เจ๊เห็นว่าแกเป็นน้องนะอีมะปราง”

“เจ๊พูดอะไรมาฉันก็ไม่เข้าใจหรอก เจ๊ก็รู้ว่าฉันมันโง่ จบแค่มอหกเองจะเอาความรู้มาจากไหน แค่มีงานให้ทำก็บุญหัวนักหนาแล้ว”

“ที่นี่ไม่มีงานให้คนไม่มีสมองอย่างแกทำหรอก กลับบ้านไปเลยไป” เจ๊แก้วชี้นิ้วไล่ตะเพิดมะปรางอีกครั้ง ก่อนจะกระทืบเท้าปึงปังเดินจากไป โดยไม่เหลียวหลังมามองเด็กสาวที่มาของานทำอีก

“เสียเวลาชะมัด” มะปรางบ่นอุบเมื่อไม่ได้อะไรติดไม้ติดมือมาสักอย่าง ก่อนจะได้ยินเสียงของใครบางคนเอ่ยทักทายและเชิญชวน

“จะรีบไปไหนล่ะ มานั่งดื่มด้วยกันก่อนสิ”

มะปรางหันไปมองยังต้นทางของเสียง จึงเห็นว่าเจ้าของเสียงนั้นเป็นผู้หญิงในชุดเสื้อยืดสีดำกางเกงยีนสีเดียวกันกับเสื้อ กำลังนั่งดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อยู่เพียงลำพัง

“พี่...คนนั้น”

เรติกาวางแก้วน้ำสีอำพันลงกับโต๊ะ เธอเอียงศีรษะเล็กน้อยพร้อมผายมือเชิญชวนให้เด็กสาวนั่งลง

“รู้จักพี่ด้วยเหรอ น้อง...มะปราง”

“ก็พี่ที่พยายามจะมาช่วยปราง ตอนที่ปรางกำลังตีกับพวกลูกค้าวันนั้นไงคะ”

“เห็นด้วยเหรอ ช่างสังเกตนะเรา”

“ขอบคุณนะคะที่พยายามจะช่วยปราง ทั้งที่เรื่องนั้นมันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพี่”

“น้องก็ช่วยเหลือเพื่อนทั้งที่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับน้องเหมือนกัน พี่โคตรนับถือใจน้องเลย”

“ค่ะ งั้นปรางขอตัวกลับ...”

“จะรีบไปไหนนั่งคุยด้วยกันก่อน เพื่อนพี่กำลังจะมาถึงแล้ว เดี๋ยวพี่แนะนำเพื่อนให้รู้จัก”

“ไม่ดีกว่า...”

“เอาน๊าถือว่าคนกันเอง มะปรางเอาเหล้าหน่อยไหม หรือเอาเบียร์?”

“งั้นเอาเบียร์ก็ได้ค่ะ แต่ปรางไม่ดื่มเยอะนะคะ”

“คออ่อนเหรอเราอ่ะ หมดแก้วนี้พี่ให้พันหนึ่ง หมดสองแก้วเอาไปสองพัน หมดเท่าไหร่เอาไปเท่านั้น” คำพูดของเรติกาทำเอาดวงตาเด็กสาวลุกวาวเป็นประกาย อย่างน้อยวันนี้ก็ไม่ได้กลับบ้านมือเปล่า “ลืมแนะนำตัว พี่ชื่อพี่เรย์นะ”

“มะปรางค่ะ”

เอ้า...ชนแก้ว!!!

“เรื่องที่ให้สืบเป็นไงบ้าง” เตชินเอ่ยถามเพื่อนสาวทันทีที่เธอขึ้นมานั่งบนรถ

“พวกมันเกี่ยวข้องกันหมดเลย” คาริสาพูดพร้อมถอดหน้ากากออก เธออธิบายรายละเอียดและข้อมูลที่รู้มาขณะที่เปลี่ยนเสื้อผ้าตัวใหม่ภายในรถ “นายดำรงกับนายชูวิทย์ผู้อำนวยการโรงเรียน พวกเขาสองคนเป็นเพื่อนกัน ส่วนนายชูวิทย์เป็นลูกพี่ลูกน้องกับนายเจษฎา นายเจษฎารู้จักกับพวกไมเคิล พ่อค้ายารายใหญ่ที่แกยัดเข้าคุกเมื่อห้าปีก่อน แต่มันโดนตัดสินจำคุก 20 ปีไม่ใช่เหรอ?”

“แกเห็นตัวไอ้ไมเคิลหรือยัง”

“ได้ยินแค่เสียง อาทิตย์หน้าพวกมันมีนัดเจอกันด้วย ตอนนี้ยังไม่ทราบสถานที่ ฉันได้ติดเครื่องดักฟังไว้กับมือถือของนายเจษฎาแล้ว นาวินกำลังดักฟังข้อมูลเพิ่มเติมอยู่ ถ้ามีอะไรคืบหน้าเดี๋ยวก็คงรายงานเข้ามาเองแหละ”

“อืม” เตชินพยักหน้ารับรู้ เป็นจังหวะเดียวกับที่คาริสาแต่งตัวเสร็จพอดี “จำเป็นต้องแต่งตัวจัดเต็มขนาดนี้ไหม”

ครื๊ด ครื๊ด

คาริสาไหวไหล่อย่างสะทกสะท้านในคำพูดของเพื่อนหนุ่ม ก่อนจะกดรับสายคนที่โทรเข้ามา

“ว่าไง”

‘อยู่ไหน? เมื่อไหร่จะมาถึง’

“ใกล้ถึงแล้ว”

‘เร็ว ๆ นะ มีอะไรจะอวดพวกแกด้วย’

“เออ...อย่าเพิ่งเมาล่ะ เดี๋ยวก็หมดสนุกกันพอดี”

‘พี่เรย์...คุยกับใครคะ’ เสียงอ้อแอ้ของผู้หญิงที่เล็ดลอดเข้ามาในสาย ทำให้สองหนุ่มสาวที่อยู่ภายในรถเดียวขมวดคิ้วด้วยความสงสัย หากว่าคิดเป็นตุเป็นตะไปเรื่อย

“เสียงใคร” เตชินเป็นฝ่ายเอ่ยถาม

‘พี่เรย์ ปรางดื่มหมดแก้วที่สิบแล้วนะ ปรางต้องได้หนึ่งหมื่นนะคะ’

“มะปราง!” เตชินอุทานออกมาด้วยความตกใจ ขณะที่คาริสายกมือขึ้นมาปิดปากอย่างนึกไม่ถึงว่าเรติกาจะพามะปรางมาสังสรรค์ด้วย

‘แค่นี้ก่อนนะ รีบมาล่ะ’

ไม่รอให้เตชินได้พูดอะไรเรติกาก็วางสายทิ้งในทันที

“ยัยเรย์นี่มันเอาเรื่องนะ” คาริสาพูดออกมาด้วยความตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก โดยไม่สนว่ามีสายตาอำมหิตจากคนข้าง ๆ แผ่มองมาอยู่

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • เด็กเฮียเต   ตอนพิเศษ 3 มิตรภาพและครอบครัว

    สองปีต่อมา...“วันนี้พ่อกับแม่เธอไม่อยู่บ้าน​ พวกเราก็เลยมาอยู่​เล่นเป็นเพื่อน”คามินเอ่ยพูด​ขณะที่​ปรินทร์ทำหน้าบูดบึ้ง​ เนื่องจาก​ถูกคนเป็นแม่บังคับ​ให้มาเป็นเพื่อนเล่นของเชอรีน​ แทนที่​เขาจะได้ไปเล่นยิงปืนที่ชอบกับพี่ชาย​ ต้องจำใจมาอยู่กับเชอรีน​เป็นเพื่อนคามินคามิน วงศ์วริศ หรือ คามิน​ ลูกชายคนโตของคาริสากับแดเนียล​ปรินทร์ เอกอัครกุล หรือ ปรินทร์​ ลูกชายคนเล็กของเรติกากับปีแสง“อ่ะนี่ขนมช่อม่วง​ ย่าทวดฉันเป็นคนทำเอง​ แม่เคสให้เอามาฝากเธอ”คามินยื่นขนมที่ถือติดมือมาด้วยให้กับเชอรีน​ ก่อนป้าเพ็ญ​จะมารับช่วงต่ออยากรู้งาน“มาค่ะ​ เดี๋ยวป้าเอาขนมไปจัดจานมาเสิร์ฟนะคะ”เชอรีนกอดอกพลางมองคามินกับปรินทร์สลับกันไปมา​ พูดกี่ครั้ง​ก็ไม่เคยจำเลย“ก่อนอื่นนะ​ พวกนายต้องเรียกฉันว่าพี่เชอ เพราะว่า​ฉันเกิดก่อนพวกนาย”“เกิดก่อนอะไรก็เกิดปีเดียว​กัน”ปรินทร์รีบโต้แย้ง​ ถ้าให้เขาเรียกเธอว่าพี่เชอคงจะกระดากปากที่สุด“แต่ฉันเกิดก่อนพวกนายตั้งหลายเดือนเลยนะ​ โดยเฉพาะนายปรินทร์​ ฉันเกิดก่อนนายตั้งสามเดือนกว่า​ ร

  • เด็กเฮียเต   ตอนพิเศษ 2 ความสำเร็จ

    หกปีต่อมา...“ยินดี​กับบัณฑิต​คนใหม่ด้วยนะครับ”เตชินกล่าวพร้อมยื่นดอกไม้ช่อใหญ่​ให้กับภรรยาคนเก่ง​ ที่บัดนี้​เป็นบัญฑิตจบใหม่​ป้ายแดงไปเรียบร้อย​แล้วหลังจากที่คลอดเชอรีนได้ปีกว่า ๆ​ มะปรางก็ตัดสินใจ​เรียนต่อในระดับอุดมศึกษา​ คณะครุศาสตร์​ สาขาคณิตศาสตร์ โดยมีเตชินให้การสนับสนุนเต็มที่​เรื่องลูกเธอก็​ไม่เป็นกังวล​หรือเป็นห่วง​มากนัก เพราะ​มีคุณย่ากับคุณยายของน้องเชอรีนอย่างแม่นารินกับแม่มะลิ​คอยประคบประหงม​ดูแล​อย่างใกล้ชิด​มะปรางตั้งใจเรียน​ ตั้งใจสอบ​ ตั้งใจทำเกรด​ จนได้เกียรตินิยม​อันอับหนึ่งคณะครุศาสตร์​ ต่อจากนี้ไป​ เธอก็จะนำความรู้ที่เรียนมา ไปสอนเด็ก ๆ​ ในโรงเรียน​ นอกจากหลักสูตรในรายวิชาคณิตศาสตร์แล้ว​ ประสบการณ์​ชีวิตของเธอก็นับเป็นอีกหลักสูตร​หนึ่งที่สามารถสอดแทรก​เข้าไปในการเรียนการสอนได้​ไม่มีคำว่าสายเกินไปที่จะเรียนรู้​​“คุณแม่ของน้องเชอเก่งที่สุด​” เชอรีนวัยห้าขวบย่างเข้าหกขวบเดินเตาะแตะเข้ามาแสดงความยินดี​ เธอยื่นพวงมาลัยพวงเล็ก ๆ​ ที่ไม่ได้สวยงามอะไรมากนักให้​กับคนเป็นแม่​พร้อมฉีกยิ้มจนตาหยี“น้องเชอหัดทำเองเ

  • เด็กเฮียเต   ตอนพิเศษ 1 รอยยิ้มแห่งความสุข

    หลายเดือนต่อมา...“อึบ!​ อื้ออออ!!!”มะปรางพรั่งพรู​ลมหายใจ​ออกมาจากทาง​ปาก​ มือเรียวเล็กกำมือเตชินสามีของเธอ​ไว้แน่น​ ขณะที่​หมอกับพยาบาลต่างส่งเสียง​เชียร์ให้เบ่งอีก เบ่งอีก!“อีกนิดเดียวนะ​คะคุณแม่​ ใกล้​แล้วค่ะ”“อีกนิดเดียว​นะครับเด็กดี”เตชิน​พูด​ให้กำลังใจ​อย่างใกล้ชิด​ มะปรางพยักหน้า​พร้อมสูดหายใจเข้าออกลึก ๆ ก่อนจะออกแรงเบ่งอีกครั้ง​ โดยก้มหน้าคางชิดอกและ​กลั้นหายใจเบ่งยาว ๆ ท่ามกลางแรงเชียร์​ที่ล้นหลาม​อุ๊แว~ อุ๊แว~เสียงร้องของทารกแรกเกิดดังขึ้นมาพร้อมกับเสียงดีอกดีใจ​ของหมอและเหล่าพยาบาลที่ช่วยกันทำคลอดนานเกือบชั่วโมง​น้ำตาของมะปรางไหลออกมาทันทีที่ได้ยินลูกน้อยร้อง มันคือความเจ็บปวด​ที่มีความสุข​ที่สุด​ฉับ!เลือดกระเซ็นอาบคมกรรไกรหลังจาก​ที่ตัดสายสะดือ​ บ่งบอก​ว่าสองชีวิตได้แยกจากแล้ว​ รอยยิ้มแห่งความสุข​ปรากฏอยู่บนใบหน้าของเตชินและมะปราง​ ในที่สุด​วันที่เขาและเธอรอคอยมาตลอดก็มาถึง​เที่ยงคืนสิบห้านาที​ เด็กหญิงชลธิมา สกุลเกียรติ​ ได้ออกมาลืมตาดูโลกเป็นวินาทีแรก​สองวันต่อมา...

  • เด็กเฮียเต   ตอนจบ พยานรัก

    สองเดือนต่อมา...หลังจากที่มีการต่อสู้ในชั้นศาลเป็นเวลาเกือบสองเดือน ทุกอย่างก็คลี่คลายและจบลงด้วยดี หากว่าจำเลยทั้งห้าคนยอมจำนนต่อหลักฐานทั้งหมดที่มี ไม่ว่าจะเป็นคลิปเสียงที่ถกเถียงกันในกลุ่มผู้ร่วมกระบวนการ เอกสารสัญญาทำธุรกิจผิดกฎหมายของนายเจษฎา หลักฐานฉ้อโกงของคุณรัศมี คลิปจากกล้องวงจรปิดตอนที่ผู้อำนวยการชูวิทย์ค้ายาให้กับนักเรียนชายในโรงเรียน การติดสินบนของกำนันดำรง การปลอมแปลงเอกสารวิชาชีพของหมอยอดศักดิ์ จำเลยทั้งห้าคน​ มีส่วนหนุนหลังไมเคิลมาโดยตลอดนอกจากนี้ยังมีพยานปากสำคัญที่ยืนยันว่าจำเลยทั้งห้าคนรู้เห็นเป็นใจในการหายตัวไปของชาวบ้านและตำรวจหลายนาย ซึ่งก็คือคุณตาของเติร์ดที่เป็นหูเป็นตาให้กับทางการ“เซน!!” เติร์ดตะโกนเรียกเซนเสียงดัง เมื่อเห็นว่าเซนกำลังจะเดินออกจากรั้วโรงเรียน หากว่าเซนเพียงแค่มายื่นเอกสารย้ายโรงเรียนกลางคัน เพื่อไม่ให้คนอื่นในโรงเรียนสงสัยในตัวเขา ชายหนุ่มหันไปมองหน้าเพื่อนนิ่ง ๆ ก่อนจะเมินเฉยด้วยการเปลี่ยนทิศทางการเดิน“เซน เซนกูขอโทษ กูขอโทษนะที่ด่ามึงวันนั้น” เติร์ดรีบวิ่งไปคุกเข่าตรงหน้าของเซนด้วยสีหน้าสำนึกผิด เขาอยากขอบคุ

  • เด็กเฮียเต   บทที่ 22 เพราะรัก

    “เฮีย!!” มะปรางตะโกนเรียกเตชิน หากว่าลงมาจากบนบ้านแล้วไม่เจอเขา ก่อนจะเห็นกระดาษโน้ตติดไว้บนฝาชี‘เฮียไปทำธุระแป๊บหนึ่งนะครับ เดี๋ยวช่วงเที่ยง ๆ เฮียมารับ’“ไปไหนของเขาอีกนะ” มะปรางส่ายหน้าไปมาน้อย ๆ ก่อนเสียงมือถือที่วางอยู่ข้าง ๆ ฝาชีจะดังขึ้น หากว่ามันคือโทรศัพท์มือถือของเธอเองครื๊ด...ครื๊ด!“แล้วเมื่อวานก็ไม่ยอมคืนมือถือให้เรา” มะปรางจิ๊ปากพูดอย่างเอือมระอาก่อนจะกดรับสายอย่างไม่รอช้า เมื่อเห็นว่าปลายสายคือเจ๊แก้ว“ว่าไงเจ๊”‘เจ๊มีเรื่องสำคัญมากจะบอก มาหาเจ๊ที่ผับได้ไหม’“เรื่องอะไรเจ๊พูดตอนนี้เลยไม่ได้เหรอ”‘เรื่องนี้สำคัญมาก เจ๊จะรอนะ’พูดจบปลายสายก็ตัดทิ้งทันที โดยที่มะปรางก็ได้แต่อ้ำอึ้ง ปกติเจ๊แก้วจะไม่ค่อยให้เธอยุ่งเรื่องส่วนตัวเท่าไหร่ และถ้าไม่มีธุระเร่งด่วนอะไรเจ๊แก้วจะไม่มีทางโทรมาหาเด็ดขาด“เจ๊แก้วเรียกให้ปรางมาหา” มะปรางพูดกับคนที่ดูแลร้าน หากว่าช่วงกลางวันร้านเจ้แก้วจะไม่มีคนเลย นอกจากคนดูแลร้าน“เจ๊แก้วน่าจะอยู่ชั้นสองในห้องทำงานชั้นในสุด น่าจะเข้าไปได้เลยนะครับถ้าหากว่านัดไว้แล้ว”

  • เด็กเฮียเต   บทที่ 21 กลัวการจากลา

    หลังจากเคลียร์ทุกอย่างที่โรงพักเสร็จเรียบร้อย เตชินก็รีบมาหามะปรางโดยเร็ว เขาซื้ออาหารมื้อเย็นและของกินเล่นติดไม้ติดมือมาด้วย หวังว่าคืนนี้คงเป็นคืนสุดท้ายที่เขาและเธอจะได้อยู่ด้วยกันตามลำพัง“มะปราง!” เตชินอุทานเรียกชื่อเด็กสาวด้วยความตกใจ หากว่าข้าวของภายในบ้านถูกรื้อจนกระจัดกระจายเกลื่อนพื้น เขารีบเอาของกินที่ถือพะรุงพะรังอยู่ในมือไปวางบนโต๊ะอาหาร ก่อนจะตามหาเธอจนทั่วบ้าน ซึ่งก็ไม่มีวี่แววของเธอเลยชายหนุ่มยืนครุ่นคิดอยู่สักพัก หากว่าตอนที่เขาเข้ามา ประตูบ้านก็ยังถูกล็อกไว้อย่างหนาแน่น ถ้าโดนบุกรุกมันก็ต้องมีรอยงัดแงะให้เห็น เตชินหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเปิดดูภาพในกล้องที่เขาแอบติดไว้ตามจุดต่าง ๆ ภายในบ้านก่อนที่เขาจะออกไปปฏิบัติหน้าที่เมื่อช่วงสายของวันนี้ จึงเห็นว่ามะปรางเป็นคนทำลายข้าวของทั้งหมด แถมยังเอาตัวเองไปซ่อนอยู่ในตู้เสื้อผ้าอีก“ตัวแสบ!” เตชินกัดฟันพูดชายหนุ่มเดินไปยังในทิศทางของตู้เสื้อผ้า แล้วเปิดมันออก จึงเห็นว่ามีเด็กตัวแสบแอบไปหลบอยู่ในนั้นจริง ๆ“เฮีย!!”มะปรางตกใจเป็นอย่างมาก ไม่คิดว่าเขาจะหาทางเธอเจอได้รวดเร็วขนาดนี้ ก

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status