“เข้ามาในนี้ได้ยังไง” “ไม่บอก” มะปรางกระโดดลงจากโต๊ะทำงานของชายหนุ่ม เด็กสาวยิ้มแป้น เพราะการที่ได้รู้ความลับของเตชินมันทำให้เธออารมณ์ดี “อะส์!” คนตัวเล็กอุทานเสียงหลงเมื่อถูกแขนแกร่งรั้งเอวคอดเอาไว้ “เฮียจะจัดการปิดปากคนที่รู้ความลับของเฮียยังไงดีนะ” เตชินเอ่ยกระซิบกระซาบเสียงเบาที่ข้างกกหนูใบเล็ก ก่อนจะเผยรอยยิ้มชวนขนลุกออกมา “คิดว่าเฮียจะปล่อยให้หนูออกไปจากห้องนี้ง่ายๆ เหรอ”
view moreในค่ำคืนที่แสนอลวนวุ่นวาย ทุกปีจะมีเทศกาลงานวัดจัดขึ้นเพื่อพัฒนาชุมชนเล็ก ๆ ที่ทั้งแออัด ทุรกันดาร และห่างไกลความเจริญ
ผู้ใหญ่ผินถือโอกาสนี้เปิดตัวหลานชาย เตชิน สกุลเกียรติ ในฐานะร้อยตำรวจเอกหรือผู้กองหนุ่มไฟแรง ซึ่งเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของนาริน สกุลเกียรติ พี่สาวของผู้ใหญ่ผิน
ด้วยใบหน้าหล่อคมทรงเสน่ห์ของผู้กองหนุ่มทำให้สาวน้อยสาวใหญ่ที่มาร่วมเทศกาลงานวัดต่างฮือฮากันทั้งชุมชน
เทศกาลงานวัดประกอบไปด้วยชิงช้าสวรรค์ ม้าหมุน ปาลูกโป่ง สาวน้อยตกน้ำ และอื่น ๆ อีกมากมาย หากแต่ว่าการละเล่นต่าง ๆ ภายในงานก็ยังหนีไม่พ้นการพนันขันต่อเหมือนอย่างทุกปี
พนันมวยที่ท้าดวลระหว่าง มะปราง ลูกสาวคนเดียวของแม่มะลิ กับ กวิน ลูกชายคนเดียวของผู้ใหญ่ผินที่ทำทรงเป็นนักเลงประจำหมู่บ้าน
รอบสังเวียนมวยอัดแน่นไปด้วยผู้คนมากมายที่ต่างแห่มาดูศึกดวลครั้งนี้ โดยมีแม่มะลิตั้งตัวเป็นเจ้ามือคอยรับแทงพนันกันอย่างลับ ๆ
แน่นอนว่าคนที่ไม่มีศิลปะมวยไทยอย่างมะปรางจะต้องใช้แผนซ้อนแผน เพื่อจัดการกับกวินที่เป็นคู่ปรับของเธอตั้งแต่สมัยอนุบาล กวินต้องการที่จะเอาชนะมะปรางสักครั้ง จึงท้าดวลกับมะปรางในเรื่องที่ตนเองถนัด
“เดี๋ยวแกไปทำตามแผนที่วางไว้นะ” มะปรางกระซิบกระซาบออกคำสั่งกับเติร์ด ลูกสมุนของเธอ เพื่อทบทวนแผนการกันอีกครั้ง
“จัดให้พี่ปราง งานนี้ไอ้กวินมันต้องแพ้พี่ปรางแหง ๆ” ว่าแล้วเติร์ดก็รีบวิ่งออกไปทำหน้าที่ของตัวเอง
เมื่อสองวันก่อนกวินประกาศปาว ๆ ว่าถ้ามะปรางล้มมวยเขาได้ เขาจะให้เงินมะปรางจากการพนันอีกสิบเท่า และก็เป็นอย่างที่คิด คนที่มาร่วมแทงพนันต่างเลือกแทงข้างกวินกันเป็นส่วนใหญ่
ถ้าชัยชนะครั้งนี้ตกเป็นของมะปราง เงินที่ได้จากคนที่เข้าร่วมแทงพนันคูณอีกสิบเท่า กำไรชัด ๆ
ยกที่หนึ่ง เสียงระฆังดังกริ๊ง นักพากย์มวยเริ่มออกลวดลายวาทศิลป์ ผู้คนรอบสังเวียนต่างส่งเสียงเชียร์ดังกระหึ่ม กวินทำทีมีลูกเล่นทั้งที่ใจจ้องจะปล่อยหมัดใส่หน้าคู่ปรับ ถึงมะปรางจะเอาชนะกวินในการต่อสู้ไม่ได้ แต่เธอก็มีไหวพริบในการหลบหนีเอาตัวรอด
“ไอ้ปรางมันทำอะไรของมันวะนั่นน่ะ”
“นั่นนะซิ ทำไมไม่ต่อย เอ้าต่อยกันหน่อย”
ผู้คนเริ่มส่งเสียงร้องโห่ เมื่อมะปรางเล่นวิ่งหลบหนีหมัดหนัก ๆ จากคู่แข่ง วิ่งวนไปวิ่งวนมารอบสนามจนคนดูเริ่มปวดหัว กวินเองก็เริ่มหัวร้อนที่มะปรางเอาแต่วิ่งหนีไม่ยอมสู้กับเขาอย่างที่ปากพูดไว้
วิ่งจนเหนื่อยหอบก็ยังไม่หมดยกสักที เพียงแค่มะปรางพักหายใจ มันก็เปิดโอกาสให้กวินได้ปล่อยหมัดซ้ายกระแทกศอกขวาอัดเบ้าหน้าจนต้องเดินโซซัดโซเซเพราะทั้งเจ็บทั้งจุกหนัก ทำเอาคนดูและคนที่ร่วมแทงพนันต่างเพิ่มมูลค่าเงินแทงข้างกวินทวีคูณมากขึ้น
เสียงระฆังดังขึ้นบ่งบอกว่าหมดเวลาของยกแรกแล้ว ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่เติร์ดวิ่งกลับมาจากบ้านของกวินพอดี
กวินมองมะปรางอย่างคนที่อยู่เหนือกว่า เขาทะนงตนคิดว่ายังไงเขาก็เอาชนะมะปรางได้สบาย ๆ จึงสั่งให้ลูกน้องไปแทงพนันเพิ่ม
“เป็นไงบ้างพี่ปราง”
“เจ็บสิวะถามได้ ไอ้กวินมันต่อยไม่ยั้งมือเลย กะจะชนะน็อกฉันให้ได้” มะปรางพูดด้วยความเจ็บใจ ร่างอรชรอ้อนแอ้นของเธอระบมไปหมด แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่ยอมแพ้หรอก หัวใจคนอย่างมะปรางใหญ่กว่าตับอยู่แล้ว เธอไม่กลัวใครหน้าไหนทั้งนั้น ใช้กำลังสู้ไม่ได้ก็ใช้ความฉลาดแกมโกงเข้าสู้ “ไอ้เติร์ด! เอาน้ำมาดื่มหน่อย”
กวินเห็นว่ามะปรางเรียกหาน้ำดื่ม เขาจึงวานให้ลูกน้องเอาน้ำมาให้ตัวเองดื่มบ้าง
เป็นไปตามแผนการที่วางไว้
มุมปากร้ายยกยิ้มขึ้นสูงด้วยความสะใจ เมื่อกวินเพื่อนรักดื่มน้ำเข้าไปจนหมดขวด ยานอนหลับชนิดน้ำที่เติร์ดได้แอบหยดใส่ไว้ก่อนหน้านี้ก็เริ่มออกฤทธิ์ทันที
“ไอ้กวินไอ้โง่!”
“งานนี้มันเสร็จพี่ปรางแน่” สองลูกพี่ลูกน้องมองหน้ากันแล้วเหยียดยิ้มอย่างชั่วร้าย ทุกอย่างเป็นไปตามแผน ก่อนระฆังยกที่สองจะดังขึ้น
เมื่อเห็นกวินเริ่มมีอาการง่วงซึม ใกล้จะหลับแหล่ไม่หลับแหล่ มะปรางก็ใช้โอกาสนั้นปล่อยหมัดซ้ายใส่หมัดขวาอัดเข้าหน้ากวินไม่ยั้ง ทำเอาตลาดหลักทรัพย์วุ่นวายกันไปหมด
กวินเริ่มยืนไม่อยู่กับที่ สายตาพร่ามัวใกล้จะหลับเต็มทน มะปรางจึงรวบรวมเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีตวัดขาแตะก้านคอแล้วดึงแขนคู่ต่อสู้จับทุ่มลงพื้น ทำเอากวินน็อกคาที่ในเวลาไม่ถึงนาที กรรมการจึงเริ่มนับถอยหลัง
…ห้า …สี่ …สาม …สอง …หนึ่ง
เมื่อไม่มีวี่แววว่ากวินจะลุกขึ้นมาสู้กับมะปรางต่อได้ เธอจึงเป็นผู้ชนะในศึกสังเวียนครั้งนี้
มะปรางรู้ดีว่าชัยชนะครั้งนี้เธออาจได้มาเพราะการเล่นสกปรก แต่มันก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่มะปรางทำแสบกับกวิน เพราะอย่างนี้กวินถึงไม่ชอบขี้หน้าเธอสุด ๆ
ศึกครั้งนี้ยังคงเป็นที่ติดปากกันต่อไปว่ากวินไม่มีทางเอาชนะมะปรางได้ไม่ว่าจะเรื่องอะไร และเงินที่ได้จากการแทงพนันของคนในหมู่บ้าน เธอและแม่มะลิเก็บกินเรียบ
ผู้กองเตชิน...หนึ่งในผู้ชมศึกสังเวียนครั้งนี้ เขารู้ดีว่ามะปรางคงทำเรื่องแสบไว้เช่นเคย มันเป็นไปได้ยากที่ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อย่างเธอจะชนะน็อกผู้ชายอกสามศอกอย่างกวินได้เพียงแค่ออกแรงต่อยไปไม่กี่หมัด เขาได้แต่ยกยิ้มมุมปากให้กับชัยชนะของเธอในครั้งนี้
สองปีต่อมา...“วันนี้พ่อกับแม่เธอไม่อยู่บ้าน พวกเราก็เลยมาอยู่เล่นเป็นเพื่อน”คามินเอ่ยพูดขณะที่ปรินทร์ทำหน้าบูดบึ้ง เนื่องจากถูกคนเป็นแม่บังคับให้มาเป็นเพื่อนเล่นของเชอรีน แทนที่เขาจะได้ไปเล่นยิงปืนที่ชอบกับพี่ชาย ต้องจำใจมาอยู่กับเชอรีนเป็นเพื่อนคามินคามิน วงศ์วริศ หรือ คามิน ลูกชายคนโตของคาริสากับแดเนียลปรินทร์ เอกอัครกุล หรือ ปรินทร์ ลูกชายคนเล็กของเรติกากับปีแสง“อ่ะนี่ขนมช่อม่วง ย่าทวดฉันเป็นคนทำเอง แม่เคสให้เอามาฝากเธอ”คามินยื่นขนมที่ถือติดมือมาด้วยให้กับเชอรีน ก่อนป้าเพ็ญจะมารับช่วงต่ออยากรู้งาน“มาค่ะ เดี๋ยวป้าเอาขนมไปจัดจานมาเสิร์ฟนะคะ”เชอรีนกอดอกพลางมองคามินกับปรินทร์สลับกันไปมา พูดกี่ครั้งก็ไม่เคยจำเลย“ก่อนอื่นนะ พวกนายต้องเรียกฉันว่าพี่เชอ เพราะว่าฉันเกิดก่อนพวกนาย”“เกิดก่อนอะไรก็เกิดปีเดียวกัน”ปรินทร์รีบโต้แย้ง ถ้าให้เขาเรียกเธอว่าพี่เชอคงจะกระดากปากที่สุด“แต่ฉันเกิดก่อนพวกนายตั้งหลายเดือนเลยนะ โดยเฉพาะนายปรินทร์ ฉันเกิดก่อนนายตั้งสามเดือนกว่า ร
หกปีต่อมา...“ยินดีกับบัณฑิตคนใหม่ด้วยนะครับ”เตชินกล่าวพร้อมยื่นดอกไม้ช่อใหญ่ให้กับภรรยาคนเก่ง ที่บัดนี้เป็นบัญฑิตจบใหม่ป้ายแดงไปเรียบร้อยแล้วหลังจากที่คลอดเชอรีนได้ปีกว่า ๆ มะปรางก็ตัดสินใจเรียนต่อในระดับอุดมศึกษา คณะครุศาสตร์ สาขาคณิตศาสตร์ โดยมีเตชินให้การสนับสนุนเต็มที่เรื่องลูกเธอก็ไม่เป็นกังวลหรือเป็นห่วงมากนัก เพราะมีคุณย่ากับคุณยายของน้องเชอรีนอย่างแม่นารินกับแม่มะลิคอยประคบประหงมดูแลอย่างใกล้ชิดมะปรางตั้งใจเรียน ตั้งใจสอบ ตั้งใจทำเกรด จนได้เกียรตินิยมอันอับหนึ่งคณะครุศาสตร์ ต่อจากนี้ไป เธอก็จะนำความรู้ที่เรียนมา ไปสอนเด็ก ๆ ในโรงเรียน นอกจากหลักสูตรในรายวิชาคณิตศาสตร์แล้ว ประสบการณ์ชีวิตของเธอก็นับเป็นอีกหลักสูตรหนึ่งที่สามารถสอดแทรกเข้าไปในการเรียนการสอนได้ไม่มีคำว่าสายเกินไปที่จะเรียนรู้“คุณแม่ของน้องเชอเก่งที่สุด” เชอรีนวัยห้าขวบย่างเข้าหกขวบเดินเตาะแตะเข้ามาแสดงความยินดี เธอยื่นพวงมาลัยพวงเล็ก ๆ ที่ไม่ได้สวยงามอะไรมากนักให้กับคนเป็นแม่พร้อมฉีกยิ้มจนตาหยี“น้องเชอหัดทำเองเ
หลายเดือนต่อมา...“อึบ! อื้ออออ!!!”มะปรางพรั่งพรูลมหายใจออกมาจากทางปาก มือเรียวเล็กกำมือเตชินสามีของเธอไว้แน่น ขณะที่หมอกับพยาบาลต่างส่งเสียงเชียร์ให้เบ่งอีก เบ่งอีก!“อีกนิดเดียวนะคะคุณแม่ ใกล้แล้วค่ะ”“อีกนิดเดียวนะครับเด็กดี”เตชินพูดให้กำลังใจอย่างใกล้ชิด มะปรางพยักหน้าพร้อมสูดหายใจเข้าออกลึก ๆ ก่อนจะออกแรงเบ่งอีกครั้ง โดยก้มหน้าคางชิดอกและกลั้นหายใจเบ่งยาว ๆ ท่ามกลางแรงเชียร์ที่ล้นหลามอุ๊แว~ อุ๊แว~เสียงร้องของทารกแรกเกิดดังขึ้นมาพร้อมกับเสียงดีอกดีใจของหมอและเหล่าพยาบาลที่ช่วยกันทำคลอดนานเกือบชั่วโมงน้ำตาของมะปรางไหลออกมาทันทีที่ได้ยินลูกน้อยร้อง มันคือความเจ็บปวดที่มีความสุขที่สุดฉับ!เลือดกระเซ็นอาบคมกรรไกรหลังจากที่ตัดสายสะดือ บ่งบอกว่าสองชีวิตได้แยกจากแล้ว รอยยิ้มแห่งความสุขปรากฏอยู่บนใบหน้าของเตชินและมะปราง ในที่สุดวันที่เขาและเธอรอคอยมาตลอดก็มาถึงเที่ยงคืนสิบห้านาที เด็กหญิงชลธิมา สกุลเกียรติ ได้ออกมาลืมตาดูโลกเป็นวินาทีแรกสองวันต่อมา...
สองเดือนต่อมา...หลังจากที่มีการต่อสู้ในชั้นศาลเป็นเวลาเกือบสองเดือน ทุกอย่างก็คลี่คลายและจบลงด้วยดี หากว่าจำเลยทั้งห้าคนยอมจำนนต่อหลักฐานทั้งหมดที่มี ไม่ว่าจะเป็นคลิปเสียงที่ถกเถียงกันในกลุ่มผู้ร่วมกระบวนการ เอกสารสัญญาทำธุรกิจผิดกฎหมายของนายเจษฎา หลักฐานฉ้อโกงของคุณรัศมี คลิปจากกล้องวงจรปิดตอนที่ผู้อำนวยการชูวิทย์ค้ายาให้กับนักเรียนชายในโรงเรียน การติดสินบนของกำนันดำรง การปลอมแปลงเอกสารวิชาชีพของหมอยอดศักดิ์ จำเลยทั้งห้าคน มีส่วนหนุนหลังไมเคิลมาโดยตลอดนอกจากนี้ยังมีพยานปากสำคัญที่ยืนยันว่าจำเลยทั้งห้าคนรู้เห็นเป็นใจในการหายตัวไปของชาวบ้านและตำรวจหลายนาย ซึ่งก็คือคุณตาของเติร์ดที่เป็นหูเป็นตาให้กับทางการ“เซน!!” เติร์ดตะโกนเรียกเซนเสียงดัง เมื่อเห็นว่าเซนกำลังจะเดินออกจากรั้วโรงเรียน หากว่าเซนเพียงแค่มายื่นเอกสารย้ายโรงเรียนกลางคัน เพื่อไม่ให้คนอื่นในโรงเรียนสงสัยในตัวเขา ชายหนุ่มหันไปมองหน้าเพื่อนนิ่ง ๆ ก่อนจะเมินเฉยด้วยการเปลี่ยนทิศทางการเดิน“เซน เซนกูขอโทษ กูขอโทษนะที่ด่ามึงวันนั้น” เติร์ดรีบวิ่งไปคุกเข่าตรงหน้าของเซนด้วยสีหน้าสำนึกผิด เขาอยากขอบคุ
“เฮีย!!” มะปรางตะโกนเรียกเตชิน หากว่าลงมาจากบนบ้านแล้วไม่เจอเขา ก่อนจะเห็นกระดาษโน้ตติดไว้บนฝาชี‘เฮียไปทำธุระแป๊บหนึ่งนะครับ เดี๋ยวช่วงเที่ยง ๆ เฮียมารับ’“ไปไหนของเขาอีกนะ” มะปรางส่ายหน้าไปมาน้อย ๆ ก่อนเสียงมือถือที่วางอยู่ข้าง ๆ ฝาชีจะดังขึ้น หากว่ามันคือโทรศัพท์มือถือของเธอเองครื๊ด...ครื๊ด!“แล้วเมื่อวานก็ไม่ยอมคืนมือถือให้เรา” มะปรางจิ๊ปากพูดอย่างเอือมระอาก่อนจะกดรับสายอย่างไม่รอช้า เมื่อเห็นว่าปลายสายคือเจ๊แก้ว“ว่าไงเจ๊”‘เจ๊มีเรื่องสำคัญมากจะบอก มาหาเจ๊ที่ผับได้ไหม’“เรื่องอะไรเจ๊พูดตอนนี้เลยไม่ได้เหรอ”‘เรื่องนี้สำคัญมาก เจ๊จะรอนะ’พูดจบปลายสายก็ตัดทิ้งทันที โดยที่มะปรางก็ได้แต่อ้ำอึ้ง ปกติเจ๊แก้วจะไม่ค่อยให้เธอยุ่งเรื่องส่วนตัวเท่าไหร่ และถ้าไม่มีธุระเร่งด่วนอะไรเจ๊แก้วจะไม่มีทางโทรมาหาเด็ดขาด“เจ๊แก้วเรียกให้ปรางมาหา” มะปรางพูดกับคนที่ดูแลร้าน หากว่าช่วงกลางวันร้านเจ้แก้วจะไม่มีคนเลย นอกจากคนดูแลร้าน“เจ๊แก้วน่าจะอยู่ชั้นสองในห้องทำงานชั้นในสุด น่าจะเข้าไปได้เลยนะครับถ้าหากว่านัดไว้แล้ว”
หลังจากเคลียร์ทุกอย่างที่โรงพักเสร็จเรียบร้อย เตชินก็รีบมาหามะปรางโดยเร็ว เขาซื้ออาหารมื้อเย็นและของกินเล่นติดไม้ติดมือมาด้วย หวังว่าคืนนี้คงเป็นคืนสุดท้ายที่เขาและเธอจะได้อยู่ด้วยกันตามลำพัง“มะปราง!” เตชินอุทานเรียกชื่อเด็กสาวด้วยความตกใจ หากว่าข้าวของภายในบ้านถูกรื้อจนกระจัดกระจายเกลื่อนพื้น เขารีบเอาของกินที่ถือพะรุงพะรังอยู่ในมือไปวางบนโต๊ะอาหาร ก่อนจะตามหาเธอจนทั่วบ้าน ซึ่งก็ไม่มีวี่แววของเธอเลยชายหนุ่มยืนครุ่นคิดอยู่สักพัก หากว่าตอนที่เขาเข้ามา ประตูบ้านก็ยังถูกล็อกไว้อย่างหนาแน่น ถ้าโดนบุกรุกมันก็ต้องมีรอยงัดแงะให้เห็น เตชินหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเปิดดูภาพในกล้องที่เขาแอบติดไว้ตามจุดต่าง ๆ ภายในบ้านก่อนที่เขาจะออกไปปฏิบัติหน้าที่เมื่อช่วงสายของวันนี้ จึงเห็นว่ามะปรางเป็นคนทำลายข้าวของทั้งหมด แถมยังเอาตัวเองไปซ่อนอยู่ในตู้เสื้อผ้าอีก“ตัวแสบ!” เตชินกัดฟันพูดชายหนุ่มเดินไปยังในทิศทางของตู้เสื้อผ้า แล้วเปิดมันออก จึงเห็นว่ามีเด็กตัวแสบแอบไปหลบอยู่ในนั้นจริง ๆ“เฮีย!!”มะปรางตกใจเป็นอย่างมาก ไม่คิดว่าเขาจะหาทางเธอเจอได้รวดเร็วขนาดนี้ ก
Mga Comments