เธอตกใจสุดขีด นี่เจ้าหล่อนกำลังทำบ้าอะไรอยู่กันแน่นะ บทจะง่ายก็ง่ายแบบนี้เลยหรอ แกมันบ้าชัดๆ ไอรีน
ไม่ทันที่สมองจะได้ประมวลผล ทว่าต่อมรับความรู้สึกของร่างกายมันช่างตอบสนองอย่างซาบซ่าน คนเป็นงานก็คุมเกมจนใครอีกคนโอนอ่อนอย่างว่าง่าย แม้ในใจจะอยากคัดค้านและปฏิเสธเขา แต่ทำไมกันนะ..ทำไม ทำไมเธอถึงได้ใจง่ายอะไรเช่นนี้ ทันทีที่ชายหนุ่มผละริมฝีปากออกเพราะดูท่าว่าคนที่เขาจูบกำลังจะขาดอากาศหายใจ แล้วเธอก็สูดเอาออกซิเจนเข้าปอดในทันที เขามองดูร่างเล็กบางสั่นระริก ไอ้คนปากดีก่อนหน้านี้หายไปไหนซะล่ะ นี่คงจะเป็นจูบแรกของเธอจริงๆ สินะ มันผิดคาดของเขาไปซะหมด ก็ดูเธอสิ แต่งตัวเก่ง เซ็กซี่ ไอ้เราก็นึกว่าจะเจนจัดเรื่องบนเตียง ‘นี่เราควรไปต่อหรือพอแค่นี้วะ เชี่ยชิบ ข้างล่างก็ปวดหนึบแทบแตก ถ้าไปปลุกไคลน์มาจัดการตอนนี้ แล้วเธอล่ะ เราจะไม่ต้องอายหรอกนะที่ต้องแสดงหนังสดต่อหน้าคนอื่น ทริปสั้นจะไม่ว่า นี่ทริปยาว15 วันเลยนะโว้ย!!’ คนตัวสูงกว่า 190 สบถกับตนเองในใจ “ไหวมั้ยครับ? ให้พี่ทำต่อหรือให้พี่พอแค่นี้” ทั้งๆ ที่ตัวเองอยากไปต่อแทบตาย แต่ก็เอ่ยปากถามหญิงสาวออกมาอย่างนั้น แล้วเจ้าหล่อนก็เล่นนิ่งเงียบไม่ตอบเป็นนาทีๆ เมื่อเห็นว่าเธอนิ่งเงียบเขาจึงต้องเอ่ยอะไรบางอย่าง “งั้นเดี๋ยวพี่มานะ หนูก็ชมเมืองชมไอเฟลรอไปก่อนแล้วกัน” พูดเสร็จเขาก็เดินดุ่มๆ เข้าไปในห้องน้ำอย่างไว มือหนาไม่รอช้าเริ่มจับงัดเจ้าแท่งยักษ์ออกมานอกกางเกง จากนั้นมือหนาก็ชักขึ้นชักลงรูดเข้ารูดออก พลางจินตนาการว่ากำลังได้จิ้มกับเธอ ยิ่งคิดเขาก็ยิ่งเสียว ความอยากก็ยิ่งโหมกระหน่ำ ซี้ดดดดส์ ….. อื้มมมม ….. คนเสียวถึงกับหน้านิ่วร้องส่งเสียงครางเบาๆ ส่วนอีกคนที่ยังหลับก็หลับอย่างกับซ้อมตาย รายนั้นนะ ถ้าได้นอน ต่อให้ไฟไหม้ก็คงต้องถูกเผาตายในเปลวเพลิง ด้านหญิงสาวเองก็อารมณ์ค้างเติ่งไม่ต่างกัน ใต้ร่มผ้าของเธอนั้นมันฉ่ำแฉะ ด้านในของเธอมันขมิบตอบตุบๆ อย่างถี่ระรัว ทำไมเธอถึงจะดูไม่ออกล่ะว่าที่เขารีบขอตัวไปเข้าห้องน้ำนั่นเพราะอะไร ส่วนคนที่กำลังชักกายอย่างสุขสมก็เอาแต่บ่นให้ตัวเอง “แม่งเชี่ยไรวะเนี่ย!!” เขาไม่เคยคิดพิศวาสในตัวของผู้หญิง แต่ทำไมกับเธอเขาถึงมีอาการแปลกๆ แบบนี้กันได้นะ นึกแล้วก็ส่ายหัวไปมา ก่อนจะจัดการเช็ดทำความสะอาดของเหลวที่พึ่งจะพวยพุ่งออกมาเมื่อครู่ จากนั้นเขาก็กดชักโครกให้พวกสิ่งมีชีวิตตัวน้อยๆ ลงท่อไป ชายหนุ่มเดินกลับมาด้วยความเงียบ เขาเห็นคนร่างบอบบางกำลังยืนถือแก้วไวน์หันมองไปยังยอดหอสูง นี่ถ้าไม่บอกว่าพึ่งรู้จักกันเมื่อไม่กี่ครู่ ถ้าใครมาเห็นภาพนี้คนอื่นต้องคิดว่าพวกเขามาฮันนีมูนกันแน่ๆ คนที่เผลอลอบมองหญิงสาวไปนานจนกระทั่งตัวเจ้าหล่อนหันมา “อ้าว!! พี่เอริค ทำธุระเสร็จแล้วหรอคะ?” คนถามยังไม่ส่างเมาเท่าไหร่ และก็จำได้ทุกอย่างว่าก่อนหน้านี้มันเกิดอะไรขึ้นระหว่างเธอกับเขา พอนึกแล้วก็พาลแต่จะหน้าแดง พร้อมกับความรู้สึกที่ยังถูกบีบอัดอยู่ข้างใน “เสร็จแล้วครับ” เขายิ้มให้เธอพร้อมกับเดินเข้าไปยืนดูวิวเมืองใกล้ๆ จากนั้นเธอก็หันไปมองสู่ด้านหน้าเหมือนเช่นเดิม ภาพของคนสองคนในตอนนี้มันช่างเหมือนพวกเขายืนชมวิวด้วยกัน โดยที่อีกคนยืนซ้อนจากทางด้านหลัง กลิ่นหอมๆ จากกายของหญิงสาวมันทำให้อดรีนาลีนของชายหนุ่มพลุ่งพล่านขึ้นมาอีกรอบ อยู่ใกล้เธอทีไร มันเหมือนมีฟีโรโมนเพศให้ดึงดูดอยู่ตลอดเวลา ชายหนุ่มหลับตาอย่างช้าๆ เพื่อพยายามข่มใจ ‘เป็นอะไรอีกวะ’ ทีกับเพื่อนๆ ผู้หญิงของเขา พวกมันเคยนอนก่ายกอด แต่เขาเองกลับไม่รู้สึกอะไร … ส่วนคนตัวเล็กที่มองเมืองอย่างเพลินจนไม่รู้ว่ามีใครอีกคนมายืนซ้อนอยู่ เธอก็หันมาเพื่อจะเอ่ยอะไรกับเขา ก็เมื่อกี้เห็นว่าเขาเลื่อนเก้าอี้ออกนั่ง ใครจะไปรู้ล่ะว่าจะมายืนอยู่ใกล้ๆ ทันทีที่หญิงสาวเผลอหันมาสุดแรงเพราะคิดว่าอีกฝ่ายนั่งอยู่ “อุ๊ยย!!” คนตัวสูงถึงกับก้มมองไวน์สีแดงที่ตอนนี้มันหกใส่แผ่นอกของตัวเอง “ขอโทษค่ะ เดี๋ยวไอรีนเช็ดให้นะคะ” หญิงสาวกล่าวลุกลี้ลุกลนรีบไปหยิบเอาทิชชูมาสามสี่แผ่น ก่อนจะค่อยๆ บรรจงเช็ดให้เขา ดีนะที่เขาใส่ชุดคลุมอาบน้ำเลยไม่เลอะเสื้อผ้าตัวแพง อกแกร่งที่ถูกเผยออ้าออกน้อยๆ ยิ่งทำให้เห็นซิกแพคกล้ามเนื้อเป็นสันลอนของเขา คนร่างหนาเริ่มอยู่ไม่สุขอีกแล้ว พลางคิดไปว่าถ้าเธอช่วยเลียน้ำไวน์ที่หกใส่ มันจะเป็นอย่างไรกันนะ “เดี๋ยวพี่เช็ดเอง” พูดจบเขาก็หยิบเอาทิชชูจากมือน้อยๆ มา แต่เธอกลับไม่ยอมปล่อย “หนูเป็นคนทำพี่เลอะ ให้หนูเช็ดเถอะนะคะ” ‘แม่เจ้าโว้ย ยิ่งเธอพูดเขาก็ยิ่งอยากขึ้นมาอีกรอบ’ คนร่างหนาเอาแต่ขบกรามตัวเองไว้แน่น ก่อนจะแหงนหน้าขึ้นมองบนและหลับตาลงช้าๆ อีกรอบ ส่วนคนที่อยู่ตรงหน้า เมื่อเห็นท่าทีแบบนี้ของเขา มันก็ทำให้เธออดที่จะแหงนขึ้นมองตามไม่ได้ ตาก็มองในขณะที่มือยังคงถูไถเช็ดคราบที่เลอะไปมา เธอมองเขาเพลิน ผู้ชายอะไรขนตาเป็นแพหนา จมูกโด่ง ปากกระจับได้รูปสวย คิดพลางจ้องลงมายังลูกกระเดือกเซ็กซี่ของเขา ทำเอาหญิงสาวลอบกลืนน้ำลายเอื้อกใหญ่ ทันทีที่คนตัวสูงก้มหน้าลงเพื่อจะมองว่าไวน์ตรงหน้าอกมันถูกเช็ดออกจนหมดหรือยัง เพราะการใกล้ชิดกันของเธอและเขามันเริ่มทำให้ใครอีกคนอยู่ไม่ติด แต่แล้วคนที่มองลงมาไวๆ โดยที่ไม่รู้ว่าใครอีกคนกำลังเงยหน้ามองตัวเองอยู่ นาทีนี้นี่เองทำเอาคนทั้งคู่จมูกถึงกับชนกัน ริมฝีปากของทั้งสองก็ชนกันโดยไม่ได้ตั้งใจ วินาทีนี้พ่อพระก็พ่อพระเถอะวะ ใครจะไปทนไหว!! จากนั้นมือหนาก็ทึ้งร่างบางเข้ามาใกล้ๆ เขาจับยึดใบหน้างามเอาไว้แน่น ก่อนจะประทับริมฝีปากจ้วงจูบหญิงสาวอีกระลอกจากนุ่มนวลอ่อนโยนเปลี่ยนสลับเป็นเร่งเร้าและดุดัน ร่างกายของชายหนุ่มมันตอบสนองอย่างอัตโนมัติ มือหนาอีกข้างเกี่ยวรั้งท้ายทอยของหญิงสาวให้มั่น ก่อนจะตะโบมจูบเจ้าหล่อนอย่างคนหื่นกระหาย หญิงสาวถึงกับโอบรัดชายหนุ่มไว้แน่นอย่างคนไม่รู้ตัว มือเรียวบางยกขึ้นป่ายปัดอย่างไม่เป็นท่า คนไม่ประสาเรื่องอย่างว่าก็ไม่รู้จะเอาไปวางไว้ตรงไหน ชายหนุ่มจับยึดมือทั้งสองข้างของเจ้าหล่อนด้วยมือข้างเดียวของเขา ก่อนจะไขว้มันยึดไว้ที่ด้านหลัง จากนั้นมือหนาก็ค่อยๆ ปล่อยมือเล็กให้เป็นอิสระ ก่อนจะจับเอามือเล็กบางของเธอไปกุมตรงเป้าแข็งๆ หญิงสาวรีบชักมือกลับออกมาอย่างไว “ตกใจหรอ …” เขาก้มลงถามข้างๆ ใบหูของเจ้าหล่อน ก่อนจะงับมันเบาๆ อย่างมันเขี้ยว ต่อด้วยใช้ปลายลิ้นเลียเบาๆ เข้าที่ติ่งหูก่อนจะขบดูดมันอย่างเร่าร้อน อื้อหืมมม ไม่ว่าใครก็คงใจสั่นตัวสั่น คนร่างอ่อนปวกเปียกก็ยิ่งปล่อยให้เขากระทำได้ตามใจ “หนูอยากให้พี่ต่อมั้ยครับ?” เอาอีกแล้ว เขาถามคำถามนี้อีกแล้ว เธอควรต้องตอบว่าอย่างไรดีล่ะ ในใจมันก็ไม่ได้อยากให้เขาหยุด แต่ถ้าจะต่อกับคนที่พึ่งรู้จักกันเมื่อตอนเย็น เขาจะมองว่าเธอเป็นผู้หญิงแบบไหนกันแน่นะ แม้ว่าจะไม่อยากปฏิเสธแต่ปากก็พูดออกไป “เราควรหยุดนะคะ!!” เขาทำท่าเลิกคิ้วสูงเชิงคำถาม “ไม่กล้าลอง หรือกลัวท้องครับ?” นั่นน่ะสินะ เธอไม่กล้าลอง หรือกลัวว่าจะท้อง แต่เอ๊ะ!! เขาจะไม่ใส่ถุงเลยรึไง บ้าจริง คิดไปถึงไหนต่อไหนแล้วนะยัยไอรีน “ปล่ะ เปล่าค่ะ คือหนูกลัวติดใจ” คำพูดนั้นทำให้อีกคนเผลอหัวเราะเสียงดังออกมา แต่ไม่ว่าจะดังแค่ไหนทว่าใครอีกคนก็ยังคงนอนกรนเบาๆ และไม่มีทีท่าว่าจะตื่น “เราเสียงดังขนาดนี้ ทำไมพี่ไคลน์ยังหลับได้อยู่อีกนะคะ” “รายนั้นถ้าได้หลับต่อให้น้ำท่วม พี่ว่าก็คงจะจมน้ำตาย” คำพูดของเอริคทำเอาคนตัวเล็กถึงกับหลุดขำ ก่อนจะอึ้งกับคำตอบต่อมาของเขา “เสียงดังกว่านี้ไคลน์ก็ไม่ตื่นหรอก” เขาพูดเสียงทุ้มต่ำก่อนว่า “อยากจะลองทดสอบดูมั้ยล่ะ?” แววตาพี่เขาแพรวพราวเหมือนหมาป่าหิวเหยื่อชะมัด “พี่เป็นพวกบัดเตอร์ฟลายหรือเปล่าคะเนี่ย!!” “อะไรกัน มาหาว่าพี่เป็นผีเสื้อ” แหนะ รู้แล้วยังจะแกล้งแหย่ “หนูรู้นะคะ ว่าพี่รู้ว่าหนูจะสื่ออะไร” “พี่ไม่ใช่พวกเจ้าชู้หัวงูนะครับ ตลอด11 ปีที่ผ่านมา พี่ก็คบไคลน์คนเดียวมาโดยตลอด” “แต่ที่เราเผลอกระทำไปเมื่อครู่นี่ล่ะคะ นี่เขาเรียกว่ากำลังนอกใจพี่ไคลน์อยู่มั้ย? ” คนฟังถึงกับต้องลอบกลืนเจ้าก้อนเหนียวๆ ลงคออย่างยากลำบาก เมื่อหญิงสาวเห็นสีหน้าไม่สู้ดีของเขาจึงต้องรีบเอ่ยอะไรออกมา “แต่มันก็ยังไม่ถึงกับเลยเถิดชนิดที่กู่ไม่กลับไม่ใช่หรอคะ เรายังยับยั้งมันได้ทัน” ชายหนุ่มจ้องมองหญิงสาวอย่างอยากรู้ในคำตอบที่แท้จริงของเธอ ยับยั้งทันอย่างนั้นน่ะหรอ … “ทำไมถึงยอมมอบจูบแรกให้พี่ล่ะ?” คนถามก็ใจเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ ไม่ต่างจากคนตอบ “เอ่อ… คือหนู … หนู!!” ตอบไงดีนะ!! “หนูแค่อยากลองมั้งคะ” “งั้นให้พี่เป็นโค้ชให้เอาไหม เดี๋ยวพี่จะสอนหนูทุกอย่างเลย พี่จะเป็นครูที่ดี” คนที่เริ่มทนไม่ไหวก็ยิ่งขยับเข้าใกล้หญิงสาว แต่แล้วก็ต้องปล่อยให้คืนนี้ผ่านพ้นไปอย่างน่าเสียดายหลังจากการแต่งงานผ่านไป หญิงสาวก็พึ่งมารู้ทีหลังว่าครั้งแรกที่ปารีสตอนห้องเต็มคือเรื่องจริง แต่ว่าคืนที่สองไกด์สาวต่างหาห้องให้เธอได้แล้ว ทว่าเอริคเป็นคนไปขอร้องบอกกับสองไกด์สาวว่าให้จัดการเรื่องนี้ต่อไป คือให้ห้องเต็ม แต่ที่พีคไปกว่านั้นคือไคล์นเองก็เป็นคนไปบอกกับสองไกด์สาวเหมือนกัน ซ้ำร้ายไปกว่านั้นคือทุกกิจกรรมทุกการกระทำพวกเขาสองคนต่างรับรู้และซุ่มดูกันอย่างเงียบๆ ตลกดีใช่มั้ยล่ะห้าปีเต็มมาแล้วสินะที่ชีวิตแห่งความสุขสงบหลังจากแต่งงาน (แต่ไม่เคยขาดสีสัน) ก็ได้หล่อหลอมให้ชีวิตคู่ของพวกเขากลายเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น บ้านหลังใหญ่ที่เอริคและไคล์นสร้างขึ้นเพื่อเป็นเรือนหอได้กลายเป็นสนามเด็กเล่นของเด็กหญิงและเด็กชายฝาแฝดวัยสี่ขวบ ผู้ซึ่งทำให้บ้านหลังนี้เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและรอยยิ้มท่ามกลางความซุกซน“แด๊ดดี๊ขา! ดูสิ พี่วิ่งเร็วกว่าหนูอีก!” เด็กหญิงตัวน้อยในชุดกระโปรงสีชมพูตะโกนพลางหัวเราะเสียงใส ขณะที่พี่ชายฝาแฝดของเธอหัวเราะคิกคักไล่ตามมาติดๆ“เดี๋ยววิ่งระวังหน่อยลูก เดี๋ยวชนโต๊ะล้ม!” ไอรินพูดพลางจับผมยาวของตัวเองที่ถูกลมพัดให้ยุ่งเหยิง ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความรักและควา
คนทั้งสองต่างรู้สึกผิดเมื่อวันนี้หญิงสาวมีไข้ แม้เธอจะบอกว่าไม่เป็นไร เพราะเธอเองก็ต้องการเรื่องอย่างว่านั้นเหมือนกัน แต่คนทั้งคู่ต่างรู้สึกผิดอยู่ดีวันนี้คนทั้งสามต่างหยุดงาน จะไปหรือไม่ไปมันก็ไม่มีผลอะไรมาก เพราะทุกคนเริ่มจัดการบางอย่างเอาไว้แล้ว พวกเขาแพลนงานและให้ลูกน้องสานต่อ ยังมีความลับที่สองหนุ่มยังไม่ได้บอกกับหญิงสาว และกะว่าจะบอกทีเดียวในวันนั้นเมื่อเห็นว่าเธอทานข้าวทานยาจนหลับไป เอริคก็หันมองไคล์นด้วยความกระสันอยากขึ้นมาอีกแล้ว เขาเหมือนเสือโหยที่กินไม่รู้จักอิ่ม จากนั้นคนทั้งคู่ก็ออกไปด้านนอก ปล่อยให้หญิงสาวได้พัก“สายตาแบบนี้จะกินฉัน?” ไคล์นสบตาเอริคอื้มมมม ….ไม่ทันที่ไคล์นจะได้เอื้อนเอ่ย เอริคก็จัดการถอดเสื้อผ้าของทั้งคู่ก่อนจะก้มจ้วงตวัดเรียวลิ้นอุ่นร้อนสาดใส่ดูดตวัดอย่างเร่าร้อน ยิ่งกระตุ้นไฟในกายปรารถนาให้โหมกระหน่ำ ความกระสันซ่านแผ่ขยายจนคับแน่นไปหมด“นายนี่อดอยากปากแห้งจริงๆ เลยนะเอริค ก็บอกให้ซื้อกิน ก็ไม่เชื่อ”แน่นอนว่าไคล์นกับไอรีนไม่มีปัญหาหากเขาจะซื้อกิน แต่ทว่าชายหนุ่มกลับเลือกเซ็กส์โฟนแทน“นายรู้มั้ยว่าผมเงี่ยนแค่ไหนเวลาเห็นนายเอากับเธอ ผมอยากจนต้องช่วยต
หญิงสาวค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา ก่อนจะพบว่ามีใครอีกคนที่นอนกกกอดเธออยู่ข้างๆ เธอหันไปมองนาฬิกาดิจิตอลตรงปลายเตียงที่ติดอยู่ฝาผนังก็พบว่านี่เป็นเวลาเกือบๆ จะสองทุ่ม‘ตายจริง โอ๊ย!! ซี้ดดดส์’ เธอซี้ดปากเจ็บที่ศอกด้านซ้าย ก่อนที่ใครอีกคนจะสะดุ้งตื่นตาม“ตื่นแล้วหรอครับคนดี” ว่าพลางดึงกระชับเธอเข้ามากอดตามด้วยลูบหัวทุยน้อยๆ อย่างแผ่วเบา“ตื่นแล้วค่ะ นี่หนูเมามาก”“ครับ พี่รู้” เขาพูดพลางพยักหน้า ก่อนจะก้มมากดจมูกโด่งลงแก้มนวลเบาๆ“มีคนเมา และก็โทรไปโวยวายกวนคนกำลังหลับปุ๋ยถึงเมกา” เขาบอกหญิงสาวสะดุ้งตัวโหยงลุกขึ้นนั่ง เธอเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราว นี่เธอโทรไปโวยวายอะไรบ้าๆ กับเขากันแน่นะ ก่อนที่ชายหนุ่มจะค่อยๆ เปิดผ้าห่มออก และก็ไปคว้าเอาโทรศัพท์ที่อยู่ข้างๆ เตียงขึ้นมา และส่งรูปบางอย่างให้เธอดู“อื้อ ….” เขายื่นให้หญิงสาว“อะไรคะ? ”จากนั้นเธอก็หยิบมันขึ้นมาดูและก็พบรูปถ่ายของคนสี่คน และก็หญิงสาวคนสวยคนนั้นกับเสื้อผ้าชุดนั้นที่เธอรับสาย และก็หันมามองคนข้างๆ อย่างมีคำถาม“วันนั้นพวกเอริคอยู่กันสี่คน พวกเขาทำงานไปดื่มไป และตอนที่สาวสวยคนนั้นรับสายเพราะเอริคอาบน้ำ ส่วนคนอื่นๆ ยังไม่มีใครตื่น นี่เอร
เขาซุกไซร้เรือนกายที่หอมกรุ่น มือหนาจับขาหญิงสาวที่นอนตะแคงอยู่ตอนนี้อ้ากางออกขึ้นพาดสะโพกของเขา ก่อนจะงัดเอานิ้วสากหนาชอนไชหาปุ่มเสียวกระสันของหญิงสาว มืออีกข้างเคล้นคลึงบีบเต้า ส่วนอีกข้างก็กดจุดปุ่มเสียวของหญิงสาวไปมาเขาให้นิ้วเรียวหนาทั้งสองนิ้วเข้าแหย่สำรวจในกลีบดอกไม้ ก่อนจะจับเธอนอนคว่ำหน้า จากนั้นเขาก็ยกก้นของหญิงสาวให้แอ่นเด้งขึ้น เขาไล้เลียตั้งแต่ติ่งหูลามลงมาจนถึงแผ่นหลังนุ่มเนียนของเธอ ชายหนุ่มยังคงละเลงลิ้นอยู่อย่างนั้นตวัดหมุนวนไปมาจนเธอเสียวซ่าน ก่อนไล้ลิ้นร้อนเข้ามาตรงช่องทางสวาทด้านหลัง เขาให้นิ้วอุ่นค่อยๆ จิ้มเข้าไปในรูก้นของหญิงสาว ก่อนจะหยิบเอาอุปกรณ์สั่นๆ บางอย่างขึ้นมา แล้วกดไปที่โหมดเบาสุด ก่อนจะค่อยๆ แหย่มันเข้ากับช่องทางคับแคบด้านหลังของเธอหญิงสาวก็เปลี่ยนสลับหันมาหยิบเอาทอยส์กระบองใหญ่ ขนาดมันอาจจะเล็กกว่าของเอริคและคนที่เธอกำลังกระทำกับคนตรงหน้า หญิงสาวเปลี่ยนสลับให้ตนเองเป็นคนคุมเกมรัก และตอนนี้ชายหนุ่มต่างนอนคว่ำหน้าในท่าโค้งตูด เธอค่อยๆ ใช้ปลายลิ้นน้อยๆ แหย่เข้าช่องทางรักของเขาจากทางด้านหลัง นวัดลิ้นไปมารัวๆ มืออีกข้างก็จับเจ้างูยักษ์ชักขึ้นชักลงอย่างช้
คนทั้งสามที่มายืนรอส่งใครอีกคนที่สนามบิน ตอนนี้มันเป็นอะไรที่เศร้ามาก เศร้าใจแบบสุดๆ เพราะนอกจากเรื่องอย่างว่า พวกเขาต่างมีความรักให้กันและกันจริงๆชายหนุ่มผมสีเข้มถึงกับหันมาลูบหัวของเธอกับไคล์น แน่นอนว่าระหว่างเอริคกับไคล์น เอริคจะออกแมนๆ มากกว่า ไคล์นจะนิสัยน่ารักคล้ายผู้หญิง ทว่ากับเธอ พวกเขาก็ต่างเร้าใจไม่แพ้กัน“อย่าเศร้ากันสิ ทำให้คนกำลังจะไปมันใจโหวงหวิว”คนร่างสูงกว่า 190 เอ่ยขึ้นทั้งพยายามสะกดกลั้นน้ำตาอย่างเต็มที่“พี่ห้ามไปมีใครนะคะ ไม่งั้นหนูกับพี่ไคล์นจะหนีไปจากพี่แบบไม่ให้พี่ตามตัวเจอ”เขาหันมายิ้มให้หญิงสาวและชายหนุ่มอีกคนด้วยน้ำตานองหน้า แต่ก็ฝืนมันเอาไว้ ตอนนี้มีแคไคล์นกับหญิงสาวเท่านั้นที่ปล่อยโฮครอบครัวของเอริคและไคล์นต่างทำธุรกิจในเครือไดม่อนและในเครือของท่าอากาศยาน มีน้อยคนมากที่จะรู้จักพวกเขา ก็เล่นรวยเงียบ ไม่ชอบออกสื่อ จริงๆ พวกเขาไม่ได้ต้องการจะปกปิดอะไรเธอ เพียงแค่ปล่อยให้มันค่อยเป็นค่อยไป ส่วนที่บ้านของหญิงสาวก็หาใช่ธรรมดาที่ไหน ส่งออกนำเข้าหยกแท้ทั้งในและต่างประเทศ รวมๆ มูลค่าของทรัพย์สินก็ไม่น่าจะต่ำกว่าพันล้าน เพราะเป็นธุรกิจของครอบครัวที่สืบทอดรุ่นต่อร
หลังจากที่พวกเขาใช้เวลาในอิตาลีอย่างเต็มที่ บรรยากาศของเยอรมันในวันสุดท้ายของทริปก็มาพร้อมความรู้สึกหลากหลาย ทั้งสุข เศร้า และโหยหาความต่อเนื่อง พรุ่งนี้พวกเขาจะขึ้นไฟลท์เย็นเพื่อกลับไปสู่ชีวิตจริงที่รออยู่ แต่ค่ำคืนนี้ ทุกอย่างดูเหมือนจะถูกตรึงไว้ในห้วงเวลาแห่งความทรงจำไกด์สาวอย่างลูกน้ำสังเกตเห็นสายสัมพันธ์พิเศษที่เริ่มก่อตัวขึ้นระหว่างลูกค้าทั้งสาม แม้จะไม่ได้เอ่ยปากอะไร แต่รอยยิ้มเล็ก ๆ บนใบหน้าของเธอก็บ่งบอกชัดว่าเธอรู้อะไรบางอย่าง“ไว้เรามาเที่ยวกันเองดีมั้ย ช่วงกุมภาวาเลนไทน์ พี่ว่าเราไปกรีซกันดีมั้ย?”เอริคเสนอขึ้นมาขณะที่พวกเขากำลังนั่งจิบกาแฟในคาเฟ่เล็ก ๆ ที่เมืองมิวนิก“แต่ฉันอยากไปโมนาโก”ไคล์นแย้งขึ้นทันที สีหน้าจริงจัง หญิงสาวที่นั่งฟังพวกเขาเถียงกันเรื่องแผนการเที่ยวครั้งหน้ากลับลอบยิ้มอย่างขำขัน สองหนุ่มนี่ช่างต่างกันเสียจริง“นี่พวกเราอยู่ด้วยกันมาตั้งหลายวันจนตัวติดกันแทบทุกนาที แต่ไม่มีช่องทางการติดต่อกันเลย รู้ตัวมั้ย? จนวันสุดท้ายแล้วพวกพี่ยังไม่มีไลน์หนูเลย!”เธอยื่นโทรศัพท์ให้ทั้งคู่ พลางหัวเราะน้อย ๆ“นี่ค่ะ พวกพี่แอดมาได้เลย”เมื่อทุกคนเชื่อมต่อกันเรียบร้อย ค