ทันทีที่หญิงสาวกระโดดไปนั่งบนตักของชายหนุ่มผมดำ เธอนั่งโดยไม่คิดอะไร เอ๊ะ!! หรือว่าแอบคิดกันแน่นะ
ผมยาวดกดำที่พึ่งถูกสระ กับกลิ่นบาธโฟมยี่ห้อหรูจากทางโรงแรม มันทำให้กลิ่นหอมละมุนนั้นลอยเตะเข้าจมูกของเขาอย่างจัง ร่างนุ่มนิ่มของหญิงสาว ที่ตอนนี้ดิ้นยุกยิกบนตักของเขาไปมา ชายหนุ่มหลับตาลงช้าๆ อย่างสงบจิตสงบใจ ‘มันต้องไม่เป็นแบบนี้สิ เราไม่ชอบผู้หญิงนี่นา’ คนที่สมองข้างในตีกันตุบตับ ยิ่งเธอดิ้น เขาก็ยิ่งมีอารมณ์แปลกๆ คนร่างบอบบางหันมามองชายหนุ่ม ซึ่งตอนนี้ใบหน้าของคนทั้งคู่มันใกล้กันมาก ใกล้ซะจนเธอใจโหวงไหว ก่อนที่ร่างบอบบางจะเอ่ยถามขึ้น “พี่เอริคไม่รู้สึกอะไรจริงๆ ด้วย ว๊าาา แย่จัง เสน่ห์ของหนูเสื่อมสภาพหมด ความมั่นใจหายหดถดถอย” เธอพูดทั้งๆ ที่ร่างแน่งน้อยยังคงดิ้นยุกยิกไปมา ก่อนจะหันมาเอ่ยกับเขาต่อ ซึ่งทว่าตอนนี้ใบหน้าของคนทั้งคู่ก็อยู่ห่างกันไม่ถึงคืบอีกแล้ว เธอลอบมองริมฝีปากของเขาอยู่นาน แน่นอนว่ามันน่าจูบเป็นบ้า คนอะไรริมฝีปากสวยกว่าผู้หญิงเสียอีก แล้วอะไรก็ไม่รู้ที่ดลใจให้เธอพูดเอ่ยอะไรออกมา “งั้น …. ลองจูบดูมั้ยคะ? เผื่อว่าพี่จะหวั่นไหวได้บ้าง” พูดอย่างคนทะเล้นแบบไม่คิดอะไร ทว่าภายในของอีกคนดังถูกไฟสุม เขาเริ่มจะเก็บอาการมันเอาไว้ไม่อยู่เหมือนกันเริ่มแปลกๆ ตั้งแต่ที่เธอมานั่งทับ หรือเขาเองไม่เคยเรื่องอย่างว่ากับผู้หญิงกันนะ แต่ตอนนี้ภายในมันรู้สึกร้อนรุ่มอยู่แปลกๆ อาการนี้มันคืออะไรกันแน่นะ ยิ่งคนตัวเล็กขยับกายหยุกหยิก ยุกยิก เขาก็ยิ่งมีอาการร้อนรุ่ม มือหนาจับทึ้งเอวบางให้อยู่นิ่งๆ “หนูจะขยับอะไรนักหนาเนี่ย!!” “ทำไมหรอคะ พี่รู้สึกเสียวหรอ?” คนเอาแต่ใจก็ยียวนเขาไม่หยุด จะด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์หรือด้วยว่าเพราะเขาไม่เคยใกล้ชิดกับผู้หญิงก็คงจะไม่ใช่ เขาและไคลน์ต่างก็เคยนอนรวมกับเพื่อนสาวคนสนิทเตียงเดียวสี่คน ทว่าก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ครั้งนี้ยอมรับว่าเขาต่างรู้สึกแปลกๆ คนหายใจหอบถี่แบบติดๆ ขัดๆ ก็เผลอลืมตัวบีบเอวคอดของหญิงสาวก่อนจะขยับก้นเธอส่ายไปมา เมื่อเจ้าหล่อนเริ่มรู้สึกว่านั่งทับอะไรแข็งๆ แปลกๆ จู่ๆ มันก็เริ่มแผ่ขยายและอุ่นร้อนขึ้น เธอจึงพยายามผละตัวออกจากตักเขา คนร่างสูงกว่า 190 ก็ดึงทึ้งเอวบางเอาไว้ ก่อนจะก้มลงพูดข้างๆ หูของเธอ “ไหนๆ หนูก็อยากจะพิสูจน์อยู่แล้ว และถ้ามันมีอาการขึ้นมาจริงๆ ล่ะก็ หนูคงต้องรับผิดชอบมันซะหน่อย ว่ามั้ย? ” เธอยังไม่ทันได้เอ่ยคำพูดอะไรใดๆ ทว่ามือหนา กลับดึงทึ้งร่างบางของเธอให้หันมาประจันหน้ากัน คนที่ถูกหญิงสาวนั่งคร่อมถึงกับหายใจไม่เป็นจังหวะ “พี่ก็เคยสงสัยตัวเองเหมือนกัน ว่าจริงๆ แล้วพี่ชอบผู้หญิงรึเปล่า ยังไงหนูช่วยพี่ทดสอบหน่อยได้มั้ยล่ะ? ” คนเอ่ยคำท้าพูดเสียงแหบพร่าน่าฟัง ทำเอาคนฟังถึงกับหายใจติดขัด เธอรู้สึกแปลกๆ ตั้งแต่ที่ตัวเองขึ้นมานั่งคร่อมบนตักของเขาแล้ว ก็เจ้าตัวอะไรไม่รู้จู่ๆ มันก็แข็งใหญ่ปึ๋งปั๋งเด้งสู้ก้นนุ่มนิ่มของเธอ หญิงสาวพยายามทำใจดีสู้เสือก่อนว่า.. “พี่จะพิสูจน์ยังไงคะ? ” ดวงตากลมโตช้อนมองใบหน้าหล่อเข้ม ยอมรับว่าเขาหล่อ หล่อมาก หล่อแบบตะโกน ไหนจะกลิ่นน้ำหอมราคาแพงที่เขาพรมกาย ไหนจะกลิ่นเสื้อผ้าที่เขาสวมใส่นั่นอีก มันหอมไปซะหมด “พี่อยากรู้มั้ย ว่าทำไมหนูถึงถูกทิ้ง” จู่ๆ ร่างบอบบางก็เล่นถามเขาซะดื้อๆ คนตัวสูงที่เอาแต่จ้องมองเธออย่างใคร่รู้ในคำตอบ “ทำไมหรอครับ? หนูไม่มีเวลาให้เขาหรอ” เขาก็ถามแบบสุ่มเดาไปอย่างนั้นแหละ “เปล่าค่ะ!!” เธอเงียบไปสักพักก่อนจะเอ่ยต่อ “พี่อยากรู้มั้ยคะว่าเพราะอะไร?” เขานิ่งเงียบไปชั่วครู่ “ครับ เพราะอะไรหรอครับ?” “เพราะหนูไม่ยอมให้พี่เขาเอาไงคะ” พูดจบเธอก็หัวเราะชอบใจออกมาอย่างบ้าคลั่ง ทว่าคนที่หลับเป็นตายก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะตื่น “แล้วทำไมหนูถึงอยากลองจูบกับพี่ จะให้พี่สอนว่างั้น? ” ที่ถามเพราะอยากรู้คำตอบของเธอจริงๆ “พี่เก่งอ่าาา รู้ได้ไง คือหนูว่านะ อย่างน้อยๆ คนที่สอนจูบแรกให้หนูก็คือพี่ ก็ไม่น่าจะอะไร อีกอย่างพี่ก็ไม่ได้ชอบผู้หญิง” คำว่าอีกอย่างพี่ก็ไม่ได้ชอบผู้หญิง ทำเอาคนฟังถึงกับสะอึก เอริคหันมาสบตาเธอ แววตาของเขามันคาดเดาได้ยากนัก ‘นี่พี่เขาโกรธเธอมั้ยนะ’ “พี่โกรธหนูมั้ยคะที่พูดตรงๆ กับพี่แบบนี้?” ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะได้เอ่ยต่อ เขาก็ดึงทึ้งท้ายทอยของเจ้าหล่อนลงมาก่อนจะขยับใบหน้าเข้ามาใกล้ๆ เขาค่อยๆ ก้มใบหน้าเธอเข้ามาจูบ เอริคประกบริมฝีปากหยักหนาเข้ากับริมฝีปากนุ่มนิ่มอย่างแผ่วเบา ทั้งๆ ที่ใต้กางเกงของเขาตอนนี้มันแทบปริ ลิ้นอุ่นร้อนค่อยๆ ดุนดันฟันซี่สวย แต่เธอกลับขบเม้มริมฝีปากตัวเองไว้แน่น เขาค่อยๆ ถอนจูบออก ก่อนจะเอ่ยบางอย่างออกมาอย่างแผ่วเบา “หนูไม่เคยจูบรึไง?” ชายหนุ่มลอบมองใบหน้าสวยของหญิงสาวอย่างรอคำตอบ เธอส่ายหน้าไปมา … “ก็จูบแบบแลกลิ้น จูบแบบเฟร้นส์คิสไงครับ ไหนๆ เราก็มาเที่ยวถึงเมืองของเจ้าถิ่น ต้องจูบแบบเจ้าถิ่นดูบ้าง” “ยังไงคะ” เธอตอบน้ำเสียงตะกุกตะกัก “คือหนูจูบไม่เป็น … พี่คือจูบแรกของหนู” คนฟังยิ่งตาเบิกโต เขาก็น่าจะเดาออกตั้งแต่เมื่อกี้แล้วมั้ย แต่พอได้ฟังก็ทำเอาอีกคนใจสั่นไม่หาย มันมีด้วยหรออายุ 27 แต่ไม่เคยจูบ พอรู้ว่าตัวเองคือจูบแรกของเธอ หัวใจของชายหนุ่มก็เต้นผิดจังหวะเขาควรต้องรู้สึกอย่างไรกันแน่นะ มันก็ดีอยู่หรอกถ้าจะเล่าถึงความรู้สึก แต่ดูตอนนี้สิ แก่นกายใต้ร่มผ้าของเขา มันแทบจะปลิแตกออกมาเป็นเสี่ยงๆ คนทั้งคู่อยู่อีกด้านของระเบียงที่ถูกกั้นไว้ด้วยผ้าม่านสีทึบลายเรียบหรู คนที่หลับปุ๋ยด้านในก็คงจะเข้าเฝ้าพระอินทร์ไปหลายพระองค์แล้ว ชายหนุ่มหายใจติดๆ ขัดๆ ก่อนจะเอ่ยถามกับหญิงสาว “อยากให้พี่สอนบทจูบให้มั้ย? ” คนได้ฟังถึงกับพยักหน้าอย่างเร็วรัว ด้วยความร้อนรุ่มจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์บวกกับร่างกายของชายหนุ่มหญิงสาว ที่ต่างเป็นไปและตอบสนองต่อสิ่งเร้า มันคือความต้องการของธรรมชาติ ทำให้บุรุษร่างสูงที่ตั้งแต่เกิดมาจากท้องพ่อท้องแม่ ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะชอบสตรีใด ทว่าตอนนี้กลับเร่าร้อนกับกลิ่นกายหวานหอมของคนที่อยู่ตรงหน้าแปลกๆ มือหนาสอดเข้าท้ายทอยของหญิงสาว ก่อนจะบดขยี้ริมฝีปากเล็กเข้าสู่โพรงปากนุ่มนิ่มของตัวเองอย่างคนเอาแต่ใจ แรกๆ เธอก็ขัดขืนเขาอยู่หรอก แต่ด้วยความชำนาญมันทำให้ชายหนุ่มฉวยเอาโอกาสในจังหวะที่หญิงสาวเผยออ้าปากสูดเอาลมหายใจเข้าปอด จากนั้นลิ้นอุ่นร้อนก็ได้เข้าชอนไชสำรวจละเลียดชิมทั่วริมฝีปากบาง เขาดูดเอาลิ้นเรียวเล็กเข้ามาด้านในโพรงปากของตนเองอย่างดูดดื่ม อื้มมม … แม้ร่างกำยำจะพยายามกลั้นเสียงคราง ทว่ามันก็ยังอู้อี้ในลำคอหนาของเขาอยู่ดี คนร่างบอบบางถึงกับตัวอ่อนปวกเปียก และปล่อยให้เขาบดขยี้และสำรวจริมฝีปากได้อย่างตามใจ มือหนาจับมือเธอลงมาตรงอกแกร่ง ก่อนที่มืออีกข้างจะบดคลึงสะโพกงอนหนาของเธอเอาไว้ ตอนนี้คนอยู่ไม่สุขก็ส่ายร่อนสะโพกบางไปมาบดขยี้เข้ากับแท่งทื่อแข็งที่ซุกซ่อนอยู่ด้านใน เขาเองก็เด้งเอวรับเพื่อให้เจ้าแก่นกายถูไถกับบั้นท้ายของเธอ “แบบนี้คือ พี่มีอารมณ์ใช่มั้ยคะ? ” คนงามเอาแต่ถามอย่างคนไม่รู้อะไร “แบบนี้เขาเรียกว่าพร้อมที่จะระเบิด” เขาตอบ ‘ระเบิดงั้นหรอ แล้วที่เป็นเกย์คือยังไง หรือเพียงเพราะพี่เขาอยากสอนเรากันล่ะ’ ทว่าสมองอันน้อยนิดในตอนนี้มันไม่มาแยกผิดถูกชั่วดีได้หรอก มันรู้แค่ว่า หยุดการกระทำไม่ได้ รู้แค่อยากจะไปต่อให้เสร็จๆ “เรามาทำให้เสร็จดีมั้ย? ” เขาเอ่ยถามเธอ ยิ่งกระตุ้นให้กายสาวที่ไม่เคยกระทำเรื่องอย่างว่าถึงกับผงะ “ก็ไม่ดีรึไงครับ ที่คนสอนเป็นพี่ รับรองพี่จะเป็นครูที่ดี หนูก็ต้องว่าง่ายด้วยนะ” เขาจับถ่างขาเธอแยกออก ก็ผู้หญิงบ้าอะไรใส่ชุดนอนเซ็กซี่น่าเอาเป็นบ้า “แล้วแฟนพี่ละคะ เขาจะไม่ตื่นมาเห็นหรอคะ เขาจะไม่เสียใจหรอ” “เวลาที่ไคลน์เมา ต่อให้ช้างร้องเขาก็ไม่ตื่น” ชายหนุ่มกระซิบใกล้หูหญิงสาว “หนูอยากลองดูมั้ยล่ะ เดี๋ยวพี่ลองเรียกเขาดูให้” แต่แล้วมือเล็กบางของเธอก็เข้ามาทาบทับปิดลงตรงริมฝีปากเขา “อย่านะคะ อย่าเรียก!!” เขาเองก็ไม่เคยเรื่องอย่างว่ากับผู้หญิง แต่กับคนนี้ร่างกายมันแสดงออกและเร่าร้อนแปลกๆ “จริงๆ พี่ก็ไม่เคยกับผู้หญิง งั้นเราก็เป็นครูสอนให้กันและกันดีมั้ย?” หญิงสาวพยักหน้าแทนคำตอบ ก่อนที่ชายหนุ่มจะเริ่มต้นบทจูบอีกครั้ง ครั้งนี้มันเป็นจูบที่วาบหวามซาบซึ้งตรึงใจ เขาขบเม้มริมฝีตวัดดูดดื่มทั้งบนและล่างอย่างเร่าร้อน เขาบดขยี้จูบเธออย่างรุนแรงเผลอไผลจนทำให้ริมฝีปากของเธอบวมเป่ง จากนั้นมือหนาก็ค่อยๆ เขี่ยชุดนอนสายบางลงมา สายตาคมก็เอาแต่จ้องมองไปยังหน้าอกกลมกลึงเต่งตูมสวย แน่นอนว่าเขาก็มีอาการเทิ้มสั่นไม่ต่างจากเธอในตอนนี้ ชายหนุ่มก้มลงจ้วงลิ้นอุ่นร้อนเข้ามาขบเม้มยังยอดตูมสวย หญิงสาวถึงกับขยุ้มผมของเขาเอาไว้แน่น ปากอุ่นร้อนไม่รอช้าเข้างับยังเม็ดสีชมพูใช้ลิ้นตวัดเกลี่ยเม็ดตุ้มจิ๋วเป็นวงกลมไปมา ก่อนจะย้ายไปขบดูดกับเนินอีกข้างอย่างระรานใจ อืมมม …. การได้ลองกับผู้หญิงที่หน้าอกตูมๆ และร่างกายนุ่มนิ่ม มันช่างรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก เขากระเดาะลิ้นรัวๆ เล่นกับเม็ดบัวไปมา ภายใต้ร่มผ้าของเธอตอนนี้มันเริ่มแฉะเยิ้ม นิ้วเรียวสวยที่เอาแต่จิกแผ่นหลังของเขา จนชายหนุ่มรู้สึกแสบร้อนไปหมด แน่นอนว่าตอนนี้มันคงไม่ต่างจากรอยแมวข่วน ชายหนุ่มยกบั้นท้ายของหญิงสาวขึ้นมา ก่อนจะค่อยๆ ถลกกางเกงลำลองตัวสั้นของตัวเองออก จากนั้นก็ต่อด้วยถลกบ็อกเซอร์ของตนเอง ก่อนจะรีบทึ้งสะโพกบางของเธอให้นั่งทับกับเจ้าแท่งอุ่นร้อนของเขา ไอรีนหายใจติดๆ ขัดๆ ใช่ว่าเธอจะไม่รู้ว่าตัวเองกำลังนั่งทับกับอะไร จากนั้นเขาก็ค่อยๆ เขี่ยบิกินี่เธอลงมาจนถึงหัวเข่า … ไอ้เจ้านั่นของเขาที่เธอกำลังทับอยู่มันใหญ่เป็นบ้า!! อุ๊ยยย!!หลังจากการแต่งงานผ่านไป หญิงสาวก็พึ่งมารู้ทีหลังว่าครั้งแรกที่ปารีสตอนห้องเต็มคือเรื่องจริง แต่ว่าคืนที่สองไกด์สาวต่างหาห้องให้เธอได้แล้ว ทว่าเอริคเป็นคนไปขอร้องบอกกับสองไกด์สาวว่าให้จัดการเรื่องนี้ต่อไป คือให้ห้องเต็ม แต่ที่พีคไปกว่านั้นคือไคล์นเองก็เป็นคนไปบอกกับสองไกด์สาวเหมือนกัน ซ้ำร้ายไปกว่านั้นคือทุกกิจกรรมทุกการกระทำพวกเขาสองคนต่างรับรู้และซุ่มดูกันอย่างเงียบๆ ตลกดีใช่มั้ยล่ะห้าปีเต็มมาแล้วสินะที่ชีวิตแห่งความสุขสงบหลังจากแต่งงาน (แต่ไม่เคยขาดสีสัน) ก็ได้หล่อหลอมให้ชีวิตคู่ของพวกเขากลายเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น บ้านหลังใหญ่ที่เอริคและไคล์นสร้างขึ้นเพื่อเป็นเรือนหอได้กลายเป็นสนามเด็กเล่นของเด็กหญิงและเด็กชายฝาแฝดวัยสี่ขวบ ผู้ซึ่งทำให้บ้านหลังนี้เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและรอยยิ้มท่ามกลางความซุกซน“แด๊ดดี๊ขา! ดูสิ พี่วิ่งเร็วกว่าหนูอีก!” เด็กหญิงตัวน้อยในชุดกระโปรงสีชมพูตะโกนพลางหัวเราะเสียงใส ขณะที่พี่ชายฝาแฝดของเธอหัวเราะคิกคักไล่ตามมาติดๆ“เดี๋ยววิ่งระวังหน่อยลูก เดี๋ยวชนโต๊ะล้ม!” ไอรินพูดพลางจับผมยาวของตัวเองที่ถูกลมพัดให้ยุ่งเหยิง ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความรักและควา
คนทั้งสองต่างรู้สึกผิดเมื่อวันนี้หญิงสาวมีไข้ แม้เธอจะบอกว่าไม่เป็นไร เพราะเธอเองก็ต้องการเรื่องอย่างว่านั้นเหมือนกัน แต่คนทั้งคู่ต่างรู้สึกผิดอยู่ดีวันนี้คนทั้งสามต่างหยุดงาน จะไปหรือไม่ไปมันก็ไม่มีผลอะไรมาก เพราะทุกคนเริ่มจัดการบางอย่างเอาไว้แล้ว พวกเขาแพลนงานและให้ลูกน้องสานต่อ ยังมีความลับที่สองหนุ่มยังไม่ได้บอกกับหญิงสาว และกะว่าจะบอกทีเดียวในวันนั้นเมื่อเห็นว่าเธอทานข้าวทานยาจนหลับไป เอริคก็หันมองไคล์นด้วยความกระสันอยากขึ้นมาอีกแล้ว เขาเหมือนเสือโหยที่กินไม่รู้จักอิ่ม จากนั้นคนทั้งคู่ก็ออกไปด้านนอก ปล่อยให้หญิงสาวได้พัก“สายตาแบบนี้จะกินฉัน?” ไคล์นสบตาเอริคอื้มมมม ….ไม่ทันที่ไคล์นจะได้เอื้อนเอ่ย เอริคก็จัดการถอดเสื้อผ้าของทั้งคู่ก่อนจะก้มจ้วงตวัดเรียวลิ้นอุ่นร้อนสาดใส่ดูดตวัดอย่างเร่าร้อน ยิ่งกระตุ้นไฟในกายปรารถนาให้โหมกระหน่ำ ความกระสันซ่านแผ่ขยายจนคับแน่นไปหมด“นายนี่อดอยากปากแห้งจริงๆ เลยนะเอริค ก็บอกให้ซื้อกิน ก็ไม่เชื่อ”แน่นอนว่าไคล์นกับไอรีนไม่มีปัญหาหากเขาจะซื้อกิน แต่ทว่าชายหนุ่มกลับเลือกเซ็กส์โฟนแทน“นายรู้มั้ยว่าผมเงี่ยนแค่ไหนเวลาเห็นนายเอากับเธอ ผมอยากจนต้องช่วยต
หญิงสาวค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา ก่อนจะพบว่ามีใครอีกคนที่นอนกกกอดเธออยู่ข้างๆ เธอหันไปมองนาฬิกาดิจิตอลตรงปลายเตียงที่ติดอยู่ฝาผนังก็พบว่านี่เป็นเวลาเกือบๆ จะสองทุ่ม‘ตายจริง โอ๊ย!! ซี้ดดดส์’ เธอซี้ดปากเจ็บที่ศอกด้านซ้าย ก่อนที่ใครอีกคนจะสะดุ้งตื่นตาม“ตื่นแล้วหรอครับคนดี” ว่าพลางดึงกระชับเธอเข้ามากอดตามด้วยลูบหัวทุยน้อยๆ อย่างแผ่วเบา“ตื่นแล้วค่ะ นี่หนูเมามาก”“ครับ พี่รู้” เขาพูดพลางพยักหน้า ก่อนจะก้มมากดจมูกโด่งลงแก้มนวลเบาๆ“มีคนเมา และก็โทรไปโวยวายกวนคนกำลังหลับปุ๋ยถึงเมกา” เขาบอกหญิงสาวสะดุ้งตัวโหยงลุกขึ้นนั่ง เธอเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราว นี่เธอโทรไปโวยวายอะไรบ้าๆ กับเขากันแน่นะ ก่อนที่ชายหนุ่มจะค่อยๆ เปิดผ้าห่มออก และก็ไปคว้าเอาโทรศัพท์ที่อยู่ข้างๆ เตียงขึ้นมา และส่งรูปบางอย่างให้เธอดู“อื้อ ….” เขายื่นให้หญิงสาว“อะไรคะ? ”จากนั้นเธอก็หยิบมันขึ้นมาดูและก็พบรูปถ่ายของคนสี่คน และก็หญิงสาวคนสวยคนนั้นกับเสื้อผ้าชุดนั้นที่เธอรับสาย และก็หันมามองคนข้างๆ อย่างมีคำถาม“วันนั้นพวกเอริคอยู่กันสี่คน พวกเขาทำงานไปดื่มไป และตอนที่สาวสวยคนนั้นรับสายเพราะเอริคอาบน้ำ ส่วนคนอื่นๆ ยังไม่มีใครตื่น นี่เอร
เขาซุกไซร้เรือนกายที่หอมกรุ่น มือหนาจับขาหญิงสาวที่นอนตะแคงอยู่ตอนนี้อ้ากางออกขึ้นพาดสะโพกของเขา ก่อนจะงัดเอานิ้วสากหนาชอนไชหาปุ่มเสียวกระสันของหญิงสาว มืออีกข้างเคล้นคลึงบีบเต้า ส่วนอีกข้างก็กดจุดปุ่มเสียวของหญิงสาวไปมาเขาให้นิ้วเรียวหนาทั้งสองนิ้วเข้าแหย่สำรวจในกลีบดอกไม้ ก่อนจะจับเธอนอนคว่ำหน้า จากนั้นเขาก็ยกก้นของหญิงสาวให้แอ่นเด้งขึ้น เขาไล้เลียตั้งแต่ติ่งหูลามลงมาจนถึงแผ่นหลังนุ่มเนียนของเธอ ชายหนุ่มยังคงละเลงลิ้นอยู่อย่างนั้นตวัดหมุนวนไปมาจนเธอเสียวซ่าน ก่อนไล้ลิ้นร้อนเข้ามาตรงช่องทางสวาทด้านหลัง เขาให้นิ้วอุ่นค่อยๆ จิ้มเข้าไปในรูก้นของหญิงสาว ก่อนจะหยิบเอาอุปกรณ์สั่นๆ บางอย่างขึ้นมา แล้วกดไปที่โหมดเบาสุด ก่อนจะค่อยๆ แหย่มันเข้ากับช่องทางคับแคบด้านหลังของเธอหญิงสาวก็เปลี่ยนสลับหันมาหยิบเอาทอยส์กระบองใหญ่ ขนาดมันอาจจะเล็กกว่าของเอริคและคนที่เธอกำลังกระทำกับคนตรงหน้า หญิงสาวเปลี่ยนสลับให้ตนเองเป็นคนคุมเกมรัก และตอนนี้ชายหนุ่มต่างนอนคว่ำหน้าในท่าโค้งตูด เธอค่อยๆ ใช้ปลายลิ้นน้อยๆ แหย่เข้าช่องทางรักของเขาจากทางด้านหลัง นวัดลิ้นไปมารัวๆ มืออีกข้างก็จับเจ้างูยักษ์ชักขึ้นชักลงอย่างช้
คนทั้งสามที่มายืนรอส่งใครอีกคนที่สนามบิน ตอนนี้มันเป็นอะไรที่เศร้ามาก เศร้าใจแบบสุดๆ เพราะนอกจากเรื่องอย่างว่า พวกเขาต่างมีความรักให้กันและกันจริงๆชายหนุ่มผมสีเข้มถึงกับหันมาลูบหัวของเธอกับไคล์น แน่นอนว่าระหว่างเอริคกับไคล์น เอริคจะออกแมนๆ มากกว่า ไคล์นจะนิสัยน่ารักคล้ายผู้หญิง ทว่ากับเธอ พวกเขาก็ต่างเร้าใจไม่แพ้กัน“อย่าเศร้ากันสิ ทำให้คนกำลังจะไปมันใจโหวงหวิว”คนร่างสูงกว่า 190 เอ่ยขึ้นทั้งพยายามสะกดกลั้นน้ำตาอย่างเต็มที่“พี่ห้ามไปมีใครนะคะ ไม่งั้นหนูกับพี่ไคล์นจะหนีไปจากพี่แบบไม่ให้พี่ตามตัวเจอ”เขาหันมายิ้มให้หญิงสาวและชายหนุ่มอีกคนด้วยน้ำตานองหน้า แต่ก็ฝืนมันเอาไว้ ตอนนี้มีแคไคล์นกับหญิงสาวเท่านั้นที่ปล่อยโฮครอบครัวของเอริคและไคล์นต่างทำธุรกิจในเครือไดม่อนและในเครือของท่าอากาศยาน มีน้อยคนมากที่จะรู้จักพวกเขา ก็เล่นรวยเงียบ ไม่ชอบออกสื่อ จริงๆ พวกเขาไม่ได้ต้องการจะปกปิดอะไรเธอ เพียงแค่ปล่อยให้มันค่อยเป็นค่อยไป ส่วนที่บ้านของหญิงสาวก็หาใช่ธรรมดาที่ไหน ส่งออกนำเข้าหยกแท้ทั้งในและต่างประเทศ รวมๆ มูลค่าของทรัพย์สินก็ไม่น่าจะต่ำกว่าพันล้าน เพราะเป็นธุรกิจของครอบครัวที่สืบทอดรุ่นต่อร
หลังจากที่พวกเขาใช้เวลาในอิตาลีอย่างเต็มที่ บรรยากาศของเยอรมันในวันสุดท้ายของทริปก็มาพร้อมความรู้สึกหลากหลาย ทั้งสุข เศร้า และโหยหาความต่อเนื่อง พรุ่งนี้พวกเขาจะขึ้นไฟลท์เย็นเพื่อกลับไปสู่ชีวิตจริงที่รออยู่ แต่ค่ำคืนนี้ ทุกอย่างดูเหมือนจะถูกตรึงไว้ในห้วงเวลาแห่งความทรงจำไกด์สาวอย่างลูกน้ำสังเกตเห็นสายสัมพันธ์พิเศษที่เริ่มก่อตัวขึ้นระหว่างลูกค้าทั้งสาม แม้จะไม่ได้เอ่ยปากอะไร แต่รอยยิ้มเล็ก ๆ บนใบหน้าของเธอก็บ่งบอกชัดว่าเธอรู้อะไรบางอย่าง“ไว้เรามาเที่ยวกันเองดีมั้ย ช่วงกุมภาวาเลนไทน์ พี่ว่าเราไปกรีซกันดีมั้ย?”เอริคเสนอขึ้นมาขณะที่พวกเขากำลังนั่งจิบกาแฟในคาเฟ่เล็ก ๆ ที่เมืองมิวนิก“แต่ฉันอยากไปโมนาโก”ไคล์นแย้งขึ้นทันที สีหน้าจริงจัง หญิงสาวที่นั่งฟังพวกเขาเถียงกันเรื่องแผนการเที่ยวครั้งหน้ากลับลอบยิ้มอย่างขำขัน สองหนุ่มนี่ช่างต่างกันเสียจริง“นี่พวกเราอยู่ด้วยกันมาตั้งหลายวันจนตัวติดกันแทบทุกนาที แต่ไม่มีช่องทางการติดต่อกันเลย รู้ตัวมั้ย? จนวันสุดท้ายแล้วพวกพี่ยังไม่มีไลน์หนูเลย!”เธอยื่นโทรศัพท์ให้ทั้งคู่ พลางหัวเราะน้อย ๆ“นี่ค่ะ พวกพี่แอดมาได้เลย”เมื่อทุกคนเชื่อมต่อกันเรียบร้อย ค