ภายใต้แสงสลัวของผับชื่อดัง ดวงตากลมโตที่เริ่มปรือปรอยเพราะแอลกอฮอล์ในกระแสเลือดเข้มข้นขึ้นตามเวลาจับจ้องไปที่ชายหนุ่มรูปหล่อที่นั่งดื่มคนเดียวเงียบๆตรงหน้าบาร์ เธอจำเขาได้ เขาคือ ปุณณัตถ์ หรือ โปรด พระเอกหนุ่มอันดับหนึ่งที่ดังเป็นพลุแตกในตอนนี้ และกำลังมีประเด็นข่าวว่าเป็นคู่จิ้นคู่รักกับมินตรา หรือ มินนี่ นางเอกดาวรุ่งพุ่งแรง คนที่ชอบแย่งทุกอย่างไปจากเธอตั้งแต่เล็กจนโต และครั้งล่าสุด มินตรา คนนั้น เพิ่งแย่งแฟนหนุ่มที่คบหากันมายาวนานถึง 7 ปีของเธอไปอย่างหน้าด้านๆ
สมองที่เริ่มมึนเบลอของเธอก็นึกอะไรขึ้นมาได้ ถ้ามินตรา แย่งผู้ชายของเธอไปได้ ทำไมปุณณัตถ์คนนี้ เธอจะแย่งมาบ้างไม่ได้ คงสะใจดีพิลึกที่คนที่ต้องอยู่เหนือกว่าเธอมาตลอดอย่างมินตรา ที่คอยมองเหยียดเธอว่าเป็นผู้หญิงขี้แพ้ จะฉกผู้ชายที่เจ้าหล่อนหมายปองมานอนกกกอดสักคืน เจ้าหล่อนจะทำหน้ายังไงนะ ถ้ารู้ว่าคนแบบเธอ ก็เคยได้นอนกับผู้ชายที่เจ้าหล่อนหวงนักหวงหนา
ร่างบางกระดกเหล้าเข้าปากอีกอึกใหญ่ ก่อนทำใจกล้าเดินไปหาชายหนุ่มคนนั้น
"คุณ คืนนี้ไปนอนกับฉันไหม"
คำพูดโต้งๆ ที่ดังมาจากด้านหลัง ทำให้เขาหมุนตัวกลับไปมอง ตั้งแต่นอนกับผู้หญิงมา ทั้งเป็นคนเอ่ยชวนและเป็นฝ่ายถูกชวน ก็ยังไม่เคยเจอใครที่พูดตรงๆ ทื่อๆแบบนี้มาก่อนเลย
ทันทีที่ปุณณัตถ์ หมุนตัวมามองยังต้นเสียง สายตาก็ปะทะกับหญิงสาวผมยาว ใบหน้าเรียวรูปไข่ คิ้วที่ตกแต่งมาอย่างดีเป็นรูปทรงสวยงาม ดวงตากลมโตที่ตอนนี้มันปรือปรอยหน่อยๆ จมูกโด่งเป็นสันปลายเชิดรั้น รับกับริมฝีปากรูปกระจับอวบอิ่มสีสด เขาไล่สายตาลงมาก็ต้องอมยิ้มพอใจ สาวน้อยคนนี้จัดว่าสวยน่ารัก ขนาดอยู่ในสภาพเมาๆก็ยังดูสวย โดยเฉพาะหุ่นบอบบางผอมเพรียว เอวคอดกิ่ว สะโพกผายกำลังดี ต้นขาเรียวเล็กในกางเกงยีนแต่งขาดรัดรูป เมื่อไล่สายตามองกลับขึ้นมาก็เห็นว่าเสื้อเชิ้ตสีขาวแขนยาวของเธอ กระดุมเม็ดบนๆหลุดลุ่ยออกจากรังดุมจนเห็นร่องอกอวบที่เบียดกันจนชิดชัดเจน ขนาดของมันกะจากสายตาแล้วก็ไม่ธรรมดา ไม่รู้ว่าของแท้แม่ให้มาหรือของปลอม ก็คงต้องไปพิสูจน์กันในคืนนี้
ใช่ เขาจะไปนอนกับเธอ ตามที่เธอเอ่ยชวน แม้คืนนี้คู่ขาที่มีในสต๊อก ดีกรีนางเอกดาวรุ่งที่กำลังมีข่าวคู่จิ้นกับเขาตอนนี้จะพยายามติดต่อเขามาเท่าไหร่ก็ตาม แต่เขาก็ไม่ยอมรับสาย เพราะว่าเบื่อเธอแล้ว
"คุณรู้ใช่ไหมว่าผมเป็นใคร"
ชายหนุ่มเอ่ยถามขึ้นหลังจากที่มองสำรวจใบหน้าและรูปร่างของเธอจนพอใจแล้ว
"รู้สิ โปรด ปุณณัตถ์ไง"
"แล้วคุณล่ะ ชื่ออะไร"
"ต้องรู้ด้วยหรอ"
ปกติก็ไม่ต้องเคยถามใคร เพราะแค่มีอะไรกัน ไม่จำเป็นต้องรู้ขนาดนั้น และหญิงสาวทุกคนจะเอ่ยแนะนำตัวกับเขาก่อนอยู่แล้ว ด้วยต้องการอยู่ในความทรงจำของเขา หรือแม้แต่เรียกร้องขอให้เขาครางเรียกชื่อเจ้าหล่อนพวกนั้นในยามที่กำลังเสียดเสียวหรือเสร็จสม แต่เขาก็ไม่เคยทำแบบนั้นกับใคร แต่กับเธอคนนี้ ที่ดูท่าทางไม่น่าจะวิ่งโร่มาขอนอนกับผู้ชายได้ เธอไม่ใช่สเปคของเขา และไม่ใช่ในรูปแบบของผู้หญิงที่เขาจะลากขึ้นไปกระแทกบนเตียง
ก็ดูเจ้าหล่อนแต่งตัวสิ มันออกจะธรรมดา ไม่ได้เปรี้ยวเข็ดฟันเหมือนผู้หญิงที่เขาชอบควง แต่ไม่รู้เป็นอะไร แค่มองสบตากลมโตที่ปรือปรอยของเธอ เขากลับอยากลากเธอคนนี้ไปขย้ำให้ทั่วห้อง
"ถ้าคุณอยากนอนกับผม ผมขอแค่รู้ชื่อของคุณ"
"อัณณา"
ดาราหนุ่มยกยิ้มมุมปาก สวยทั้งตัว สวยทั้งชื่อ จะเป็นยังไงนะ ถ้าเขาครวญครางเรียกชื่อนี้ตอนที่เขากำลังจะเสร็จสม
"ไปคอนโดฉันก็ได้ หรือจะเปิดห้อง"
"ไปคอนโดผมดีกว่า"
ครั้งแรกที่เขาจะพาผู้หญิงไปเชือดที่คอนโด ปกติแล้วถ้าไม่เปิดห้อง ก็จะไปที่ห้องผู้หญิงพวกนั้น เพราะคอนโดคือพื้นที่ส่วนตัวที่เอาไว้ใช้พักผ่อนเมื่อทำงานดึกจนกลับบ้านไม่ไหว และเป็นสถานที่หวงห้าม เพราะไม่อยากให้ผู้หญิงที่เขาเขี่ยทิ้งเข้ามาวุ่นวายกับเขาได้ แต่ครั้งนี้ไม่รู้เป็นอะไร อยากให้เธอมาร่วมทดสอบความแข็งแรงของเตียงราคาแพงของเขาดูสักที
ร่างเปลือยเปล่าของเธอ ถูกวางลงบนเตียงกว้าง ในขณะที่เขาค่อยๆถอดเสื้อผ้าของตนเองออกทุกชิ้นจนตอนนี้ร่างกายเปลือยเปล่าเสมอกัน ไฟในห้องที่สว่างจ้าทำเอาเธอต้องเบือนหน้าหนีกายแกร่งของเขาเพราะเธอมองเห็นทุกอย่างได้อย่างชัดเจน ทั้งมัดกล้ามเนื้อและซิกแพคที่ขึ้นลอนชัดเจน ไหนจะรอยสักที่ต้นแขนและสีข้างของเขาอีก โดยเฉพาะตัวตนใหญ่โตของเขา ที่ต้องบอกว่าใหญ่จริงๆ จนเธอเริ่มกลัว
เขาค่อยๆก้าวขึ้นเตียงมานอนทาบทับบนกายเธอ ดวงตาคมกริบจ้องมองสบตากับเธอด้วยแววปรารถนาร้อนแรงจนเธออยากจะเปลี่ยนใจ
แววตาสับสนตื่นกลัวของคนตัวบางใต้ร่างทำให้เขารู้ว่าเธอคนนี้ไม่ค่อยมีประสบการณ์นัก
"อัณณา คุณเปลี่ยนใจไม่ทันแล้วนะ ผมจะไม่ปล่อยคุณก้าวลงจากเตียงนี้ไปไหน ถ้าคุณและผมยังไม่เสร็จ"
แก้มสาวแดงปลั่งไปถึงใบหูกับคำพูดหื่นห่ามของเขา และเขาก็สังเกตเห็น จึงกดจมูกลงหอมแก้มเธอแรงๆฟอดหนึ่ง และประกบปากอุ่นของตัวเองกับริมฝีปากนุ่มนิ่มของเธอ เขาขยับปากบดเบียดเคล้าคลึงขบเม้มเธอเชื่องช้าเนิบนาบและหนักเน้นขึ้นเรื่อยๆจนคนตัวบางขยับปากจูบตอบเขากลับไป จูบนุ่มนวลหวานล้ำค่อยๆแปลเปลี่ยนเป็นเรียกร้องโหยหา ก่อนที่เขาจะไถลปากออกมาซุกไซ้ซอกคอของเธอจนทั่วพร้อมขบเม้มเบาๆอย่างเร้าอารมณ์
"อื้อ อื้ม คุณโปรด"
เขาค่อยๆลากไล้ปากและจมูกลงมาที่หน้าอกอวบอิ่มครัดเคร่งของเธอ ต้องบอกว่าถ้ามองจากสายตา หน้าอกคู่นี้คือของแท้แม่ให้มา แต่ก็คงต้องพิสูจน์ด้วยมือเขาดูก่อน ถึงจะให้คำตอบที่ชัวร์ได้
"นมสวยจัง ใหญ่มาก"
มือใหญ่ลูบไล้หน้าอกของเธออย่างแผ่วเบาจนยอดอกสีสดแข็งตั้งเป็นไต จึงค่อยๆบีบขยำเคล้นคลึงหน้าอกคู่นั้นอย่างเมามัน
"อืมม เด้งสู้มือฉิบ"
เขาก้มหน้าลงตวัดปลายลิ้นระรัวที่ยอดสีสดนั่นสลับกับการขบเม้มดูดดึงในทันที หน้าอกที่ว่างอีกข้างก็ยังคงโดนมือเขาบีบขยำอยู่อย่างนั้นจนหญิงสาวส่งเสียงครางหวานออกมาอย่างยากที่จะกลั้น
"อื้อ อ๊ะ คุณ อื้อออ คุณโปรด"
เมื่อเขากระทำจนพอใจ จึงจูบซับเรือนร่างบอบบางขาวโพลนของเธอลงมาเรื่อยๆ จนถึงเนินเนื้ออวบอูมไร้เส้นขน เขากดจูบที่เนินนั้นแรงๆ แล้วจับขาทั้งสองข้างของเธออ้าออกกว้างแล้วแทรกกายเข้าไปนั่งตรงกลางระหว่างขาของเธอ
ทันทีที่ขาของเธออ้าออกกว้างจนสุด ภาพดอกไม้งามสีสวยกลีบปิดสนิทที่มีน้ำหวานออกมาเคลือบคลอจนมันวาววับก็ปรากฏแก่สายตา เขามองภาพตรงหน้าด้วยความตกตะลึง ก็ดอกไม้ของเธอสวยงามที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมา จึงทำสิ่งที่ไม่เคยทำกับใครมาก่อน ด้วยการกดจมูกลงไปสูดดมกลิ่นเฉพาะตัวของเธอ แล้วลากลิ้นสากของเขาปาดไล้ขึ้นลงช้าๆจนทั่วกลีบดอก
"อ๊า ไม่นะ คุณโปรด อื้อออ"
เขาตวัดลิ้นรัวๆที่ติ่งเกสรสาว สลับกับดูดเม้มมันแรงๆ จนหญิงสาวกระดกสะโพกร่อน ตัวสั่นสะท้าน ยื่นมือน้อยมากำจิกที่เส้นผมของเขา เพื่อกดใบหน้าให้เขาปรนเปรอเธอได้อย่างถึงแก่น ลิ้นร้ายยังคงทรมานเธอไม่เลิก เสียงสัมผัสฉ่ำแฉะยิ่งเร้าอารมณ์เธอจนเตลิดลอยสูงขึ้น ก่อนร่างบางจะหยัดเกร็งและกระตุกเสร็จสมด้วยลิ้นร้อนของเขา
"คุณโปรด อ๊ายยยยยยยย"
ช่องทางรักปลดปล่อยน้ำหวานจากการเสร็จสมจนฉ่ำเยิ้มไปหมด คนตัวโตสูดกลิ่นน้ำรักของเธออีกครั้งแล้วตวัดลิ้นลากเลียเก็บกินน้ำหวานของเธอจนหมดทุกหยาดหยด
เขาขยับตัวขึ้นนั่งคุกเข่า มือใหญ่กำสาวตัวตนที่แข็งตัวเครียดเขม็ง จนมีเส้นเลือดปูดโปนทั่วลำ อีกทั้งหัวทู่มนเบ่งบานแดงก่ำนั้นยังขับน้ำหล่อลื่นออกมาเสียเยิ้มไปหมด
"อืมมม อัณณา มองมาที่ผม"
เธอลืมตามองไปที่เขา ที่กำลังกำสาวท่อนร้อนใหญ่โตน่ากลัวนั่น คิ้วหนาเข้มขมวดเป็นปมจนแทบจะชนกัน ดวงตาคมกริบฉายแววร้อนแรงหื่นกระหาย ใบหน้าหล่อเหลาราวเทพบุตรของเขายิ่งทำให้เขาโคตรเซ็กซี่เกินจะต้าน
เขาลดตัวลงมานอนทาบทับเธอ มอบจูบอันดูดดื่มให้กับเธออีกหน จนหญิงสาวหัวหมุนเคว้งล่องลอยไปกับการชักนำของเขาอีกครั้ง เขาจดจ่อตัวตนนั้นที่ปากทางรักของเธอโดยไม่คิดสวมปลอกป้องกัน ทั้งๆที่มีอยู่ในลิ้นชักข้างเตียงเป็นโหล
ปุณณัตถ์ค่อยๆกดแทรกท่อนเอ็นใหญ่โตให้ดำดิ่งลงไปในกายเธอ แต่แค่เพียงหัวเบ่งบานนั้นที่เข้าไปได้ ก็สัมผัสได้ถึงความคับแน่นและช่องทางบอบบางของเธอที่บีบรัดผลักไสท่อนร้อนของเขาให้ออกไปจากกายเธอ เขาแหงนหน้าสูดปากด้วยความอึดอัดและเสียดเสียว ไม่เคยรู้สึกยากเย็นอย่างนี้มาก่อน ทั้งๆที่น้ำหวานของเธอก็เยิ้มเสียขนาดนั้น แต่ทำไมร่องรักสีหวานของเธอถึงกลับไม่ต้อนรับตัวตนของเขากันนะ
"ซี๊ดดดดด เข้ายังจัง อัณณา อย่ารัดผม"
ความค้างคาอึดอัดนี้ทำให้เขาต้องเดินหน้าต่อไป จึงกลั้นใจกดแทรกท่อนเอ็นใหญ่โตเข้าไปในร่องรักที่แสนคับแน่นของเธออย่างแรงจนสุดโคน
กึด กึด ปึ่ด!!!!
"โอ๊ยยยย คุณโปรด อัณณ์เจ็บ เอาออกไปนะ"
หญิงสาวกรีดร้องเสียงหลง ผวากอดรัดเขาแน่น มือน้อยจิกเล็บลงที่แผ่นหลังและบ่าเสียเขาแสบไปหมด ร่างงามสั่นระริกด้วยความเจ็บจนความมึนเมาที่เคยมีหายไปจนหมดสิ้น
สัมผัสที่เขาเหมือนฝ่าแหวกม่านบางๆแล้วทำมันขาดสะบั้นนั่นคืออะไร ไหนจะช่องทางรักที่คับแน่นของเธอที่ตอดรัดเขาระรัว ทั้งพยายามผลักไสท่อนร้อนของเขาหนักขึ้นไปอีก อย่าบอกนะว่า เขาเป็นคนแรกของเธอ
เขามองหน้าเธอที่น้ำตาไหลอาบแก้ม ใบหน้าเหยเกอย่างเจ็บปวดด้วยความตกตะลึง ก่อนจะก้มมองจุดเชื่อมต่อระหว่างเธอกับเขา ก็พบเลือดสดๆไหลอาบท่อนเอ็นของเขาจนหยดลงไปบนผ้าปูที่นอนสีขาวเสียหลายหยด เห็นดังนั้นก็ต้องกลับไปมองใบหน้างามที่เปื้อนน้ำตาอีกครั้ง
ปุณณัตถ์ส่งยิ้มอบอุ่นให้กับเธอ ใจแกร่งอุ่นวาบด้วยความภูมิใจและสุขล้ำอย่างที่ไม่เคยเป็น นึกดีใจที่ตัดสินใจไม่สวมปลอกป้องกันกับเธอ เขาก้มลงจูบซับน้ำตาบนใบหน้าให้กับเธอจนหมด ก่อนกระซิบปลอบเธอที่ข้างหูอยู่นาน
"อัณณา ไม่ต้องร้อง อย่าเกร็ง ยิ่งเกร็งคุณจะยิ่งเจ็บ"
"คุณโปรด อัณณ์เจ็บ เอาออกไปเถอะนะ อัณณ์ไม่ไหว"
"ผมก็ไม่ไหวอัณณ์ อื้มมม คุณรัดผมแน่นเหลือเกิน ผ่อนคลายหน่อยนะครับ เชื่อผม"
เขาก้มลงประกบปากมอบจูบอันหวานล้ำลึกซึ้งให้กับเธอ ลิ้นร้อนสอดแทรกเข้าไปในปากของเธอ ก่อนไล้เลียที่ลิ้นน้อย แล้วเกี่ยวกระหวัดดูดดึง กวาดต้อนความหวานในปากเธอจนหญิงสาวหัวหมุนเคว้งอีกครั้ง
สะโพกสอบหมุนวนบดคลึงร่องรักของเธอเนิบนาบเชื่องช้าเพื่อให้ช่องทางที่แสนคับแคบได้ปรับตัว ก่อนความอดทนของเขาจะหมดลง จึงขยับชักสาวตัวตนเข้าสุดออกสุดหนักเน้นอยู่หลายครั้ง แล้วเพิ่มจังหวะรักให้ทวีความร้อนแรงขึ้น เสียงเตียงใหญ่ที่เขาคิดว่าทนทานลั่นเอี๊ยดอ๊าด หัวเตียงกระทบผนังดังตึงตัง เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังก้องผสานกับเสียงครวญครางกระเส่ายิ่งเร้าอารมณ์คนทั้งคู่ให้ลุกโหมยากที่จะดับ
"โอยยย โอยยย คุณโปรด อื้อออ"
"โอวว อัณณ์ โคตรมัน โอยยยย"
คนตัวบางใต้ร่างหยัดเกร็งขึ้นเรื่อยๆ แรงตอดรัดระรัวในช่องทางรักทำให้เขารู้ว่าเธอกำลังจะแตะถึงขอบสวรรค์ จึงกระดกสะโพกเด้งเอวกระแทกกระทั้นตัวตนใหญ่โตลงในร่องรักของเธอถี่ยิบ
ตับ ตับ ตับ ตับ ตับ ป่าบ ป่าบ ป๊าบ ป๊าบบบบ
สองร่างผวากอดรัดกันแน่น ก่อนเขาจะกระแทกกระทั้นแรงๆหลายครั้งแล้วกดแทรกตัวตนสุดแรงจนลึกสุดโคนปลดปล่อยน้ำรักอุ่นๆเข้าสู่กายเธอจนหมดทุกหยาดหยด ความอุ่นร้อนในร่องรักทำให้กายบางเกร็งกระตุกกรีดร้องเสียงหลงถึงจุดสุดยอดอย่างเสียวซ่านเกินบรรยาย
"อัณณา อัณณา โอวววววว อื้มมมมม"
"คุณโปรด อ๊า อ๊า อ๊ายยยยยยยย"
กายแกร่งทรุดฮวบลงทาบทับบนกายบางทั้งตัวอย่างหมดเรี่ยวแรง สองร่างหายใจหอบกระชั้น เนื้อตัวเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อทั้งที่แอร์ในห้องถูกปรับเสียเย็นเจี๊ยบ เมื่อเริ่มหายเหนื่อย เขาก็ยกตัวขึ้นเล็กน้อยเพื่อมองหน้าเธอ ซึ่งแม่สาวขี้อายของเขาก็หลบตาเขาวูบ ทั้งยังหันหน้าหนีเขาให้วุ่น ไม่กล้าสบตากับเขาอีก
"อัณณา สบตาผม"
มือใหญ่เชยคางเธอขึ้น แล้วเธอก็ค่อยๆช้อนสายตามองเขา แววตาสั่นระริกสับสนของเธอทำเอาเขาใจอ่อนยวบ เหมือนเขาเป็นคนรังแกปล้นพรหมจรรย์ไปจากเธอ ทั้งๆที่จริงแล้ว เป็นเธอที่เข้ามาเสนอตัวนอนกับเขาแท้ๆ เขาเองก็สงสัยเหมือนกัน ว่าเพราะอะไร สาวพรหมจรรย์อย่างเธอจึงเข้ามาไล่แจกเยื่อบางๆนั่นให้กับเขา มันคงมีเรื่องอะไรที่ไม่ปกติแน่ๆ แต่เวลานี้จนถึงเช้าไม่ใช่เวลาที่จะมาถาม ไว้ตื่นขึ้นมาค่อยว่ากันแล้วกัน
คิดได้ดังนั้นก็ก้มลงมอบจูบอันแสนดูดดื่มให้กับเธออีกหน เมื่อพอใจแล้วก็ค่อยๆถอดถอนตัวตนที่ยังไม่ยอมสงบนิ่งของเขาออกมาจากร่องรักที่แสนบอบบางของเธอ น้ำรักของเขากับของเธอที่ผสมเลือดสาวพรหมจรรย์ไหลทะลักออกมากองอยู่บนเตียงอย่างรวดเร็ว
เขาลุกขึ้นนั่งคุกเข่ามองดูภาพนั้นด้วยความภูมิใจ ร่องรักของเธอที่ค่อยๆคายน้ำรักขาวขุ่นของเขาออกมาช่างเป็นภาพที่น่าดูที่สุด เธออับอายมากพยายามที่จะหุบขาแต่ก็ทำไม่ได้เพราะเขานั่งขวางเอาไว้ ทั้งยังใช้มือจับขาทั้งสองข้างของเธออ้าเสียกว้างอีกต่างหาก
"ขะ คุณ อย่ามอง พอได้แล้ว"
"ทำไม สวยดีออก ของคุณสวยมาก ยิ่งมีน้ำของผมไหลออกมายิ่งสวย"
"คุณไม่ได้ใส่ถุงยางหรอ"
"แล้วเห็นผมใส่ไหมล่ะ"
"ทำไมคุณไม่ป้องกันล่ะ คุณทำแบบนี้ตลอดเลยหรอ มันอันตรายนะ"
"ผมรู้ครับว่าอันตราย แล้วก็ไม่เคยไม่ป้องกันหรอกนะ แต่ผมรู้ว่าคุณปลอดภัย ทำไมผมจะต้องป้องกันด้วยล่ะ"
เหตุผลนี้มันมาที่หลังการกระทำ เขาตั้งใจทำแบบนี้ตั้งแต่ที่ยังไม่รู้ว่าเธอยังบริสุทธิ์แล้วด้วยซ้ำ ในตอนนั้นก็ยังหาเหตุผลให้ตัวเองไม่เจอเหมือนกัน ว่าทำอะไรที่โคตรเสี่ยงและผิดกฎเหล็กของตัวเองแบบนั้นไปได้อย่างไร แต่ตอนนี้ เขามีเหตุผลให้อ้างแล้ว
"คุณปลอดภัย แต่ฉันจะไม่ปลอดภัยล่ะสิ ถ้าฉันท้องล่ะ"
"ยาคุมฉุกเฉินก็มี เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมซื้อให้ อีกอย่างนอนด้วยกันแค่คืนเดียว ถ้าท้องก็โคตรเก่ง เชื้อของผมมันคงแรงมาก"
ตรรกะป่วยๆ และความคิดเสี่ยงๆ แบบนี้ไม่เคยอยู่ในหัวของเขามาก่อน ไม่ว่ายังไง ปุณณัตถ์ก็ต้องปลอดภัยจากคู่นอนในทุกมิติ
"บ้าหรอ พอแล้ว ฉันจะกลับแล้วค่ะ"
"ผมบอกแล้วหรอว่าให้คุณกลับได้ ผมจะไม่ปล่อยให้คุณออกจากห้องนี้ไปไหน จนกว่าจะเช้า"
"แต่ฉันไม่เคยค้างคืนกับผู้ชาย"
ก็ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว ในเมื่อเขาเป็นผู้ชายคนแรกของเธอ
"หึหึหึ ผมก็ไม่เคยค้างคืนกับผู้หญิงที่ไหนเหมือนกัน"
เขาช้อนอุ้มเธอเข้าไปอาบน้ำด้วยกันในอ่างอาบน้ำใบโต แล้วสอนบทเรียนรักบทใหม่ให้กับเธอ บทแล้วบทเล่า จนแสงแรกของพระอาทิตย์กำลังจะพ้นขอบฟ้า เขาถึงปล่อยให้คนที่แทบสลบนอนหลับพักผ่อนในอ้อมกอดของเขาได้
บรรยากาศงานแต่งงานในสวนสวยเป็นไปด้วยความชื่นมื่น สถานที่สวยงามได้รับการประดับตกแต่งด้วยดอกไม้สีขาวชนิดต่างๆและสีฟ้าของดอกไฮเดรนเยียทั่วทั้งงาน เจ้าสาวในชุดลูกไม้เนื้อดีสีขาวงาช้าง แหวกอกพอเหมาะโชว์หน้าอกอวบอิ่มและแหวกหลังลึกโชว์ผิวขาวราวน้ำนมของเจ้าสาว ชุดกระโปรงบานฟูฟ่องกำลังงาม บนศีรษะเกล้ามวยต่ำแล้วประดับด้วยผ้าคลุมผมเจ้าสาวผืนบางยาวสวย ที่ด้านข้างมวยผมนั้นก็ประดับด้วยช่อดอกไม้ดอกเล็กๆสีขาวดูอ่อนหวาน เธอยืนเคียงคู่กับเจ้าบ่าวในชุดสูทสากลสีดำดูหล่อเหลาสมกันราวกิ่งทองใบหยก หลังจากที่บ่าวสาวยืนถ่ายรูปกับแขกที่มาในงานเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงพิธีมอบแหวนและปฏิญาณรักกันอย่างเรียบง่ายตามที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวต้องการ เขาสวมแหวนเพชรเม็ดใหญ่น้ำงามให้กับเธอ แล้วเธอก็สวมแหวนทองคำขาวที่มีเพชรเม็ดเล็กฝังอยู่ตรงกลางให้กับเขา “ผมจะรัก ซื่อสัตย์ มีอัณณ์แค่คนเดียวและดูแลอัณณ์กับลูกตลอดชีวิต ผมสัญญา” “อัณณ์ก็จะรัก และซื่อสัตย์กับคุณคนเดียวตลอดชีวิตค่ะ” บ่าวสาวโผเข้าจูบกั
อย่าคิดว่าดาราหนุ่มที่มีสถานะสมรสและเป็นคุณพ่อของลูกสาวในวัยสามเดือนจะหมดความฮอตนะ เปล่าเลย เขากลับยิ่งโด่งดังและครองใจผู้คนหลากหลายช่วงวัยยิ่งกว่าเดิม เพราะนอกจากงานละคร งานอีเว้นท์ต่างๆแล้ว งานพรีเซ็นเตอร์สินค้าและโฆษณายังเข้ามาหาเขาอย่างล้นหลาม แน่นอนว่าโฆษณาผลิตภัณฑ์ต่างๆที่เขาเป็นพรีเซ็นเตอร์มีมากมาย ทั้งน้ำหอม ครีมบำรุงผิวผู้ชาย เสื้อผ้า น้ำดื่ม น้ำอัดลม เครื่องดื่มบำรุงสมอง เฟอร์นิเจอร์ ขนมขบเคี้ยว สถาบันการเงินต่างๆ และต่างๆอีกมากมาย ชนิดที่ว่าเปิดทีวีมาจะต้องเห็นหน้าเขาแทบจะตลอดเวลาก็ว่าได้ โดยเฉพาะยิ่งเขามีลูกสาวที่แสนน่ารักและมีครอบครัวที่อบอุ่น ยิ่งมีงานโฆษณาที่เกี่ยวกับเด็กและครอบครัวติดต่อเข้ามาอีกมาย ทั้งผ้าอ้อมสำเร็จรูปของลูกน้อย แป้งเด็ก สบู่และยาสระผมเด็ก นมผงเด็ก เสื้อผ้าและของใช้จำเป็นของเด็กอีกมากมาย และภรรยาที่แสนจะงกของเขาก็รับเอาไว้หมดทุกชิ้น จนกลายเป็นว่า นอกจากเขาที่เป็นดาราที่ดังเพิ่มขึ้นแล้ว ยังมีลูกสาวที่กลายเป็นซุปตาร์ตัวน้อยที่ครองใจประชาชนไปทั่วประเทศแล้ว จนคนเป็
สองสัปดาห์ต่อมา ละครที่เขารับเล่นไว้ก็ได้ฤกษ์เปิดกล้องถ่ายทำวันแรก ปุณณัตถ์ที่หยุดงานไปหลายเดือน แล้วไปใช้ชีวิตพ่อบ้านเสียเต็มที่ วันนี้เป็นวันแรกที่ต้องออกมาทำงานห่างไกลลูกเมียก็รู้สึกไม่ชิน จึงออดอ้อนขอให้เมียและลูกรักมาทำงานกับเขาด้วย ดีหน่อยที่เขามีรถบ้านที่สะดวกสบายและแอร์เย็นฉ่ำ จึงมีที่สำหรับให้ลูกนอนระหว่างวันตอนที่รอเขาทำงาน ระหว่างพักกอง หรือในช่วงที่ไม่มีบทของเขา เขาจะแวะเข้ามาหาลูกเมียเสมอ เขาหอมแก้มลูกสาวเพื่อเป็นกำลังใจ และจูบเมียหวานๆเนิ่นนานจนเมียอ่อนระทวยเพื่อเป็นพลังให้เขากลับไปเข้าฉากอีกครั้ง เมื่อน้องแป้งหอมที่นอนกลางวันจนเต็มอิ่ม ตื่นแล้ว อัณณาจึงใส่หมวกให้ลูกสาวแล้วพาออกไปเดินเล่นรับลมในโลเคชันสวนสาธารณะ “อุ๊ย นั่นภรรยาพี่โปรดนี่นา” บรรดาแฟนคลับของเขาที่มารอให้กำลังใจในงานชิ้นแรกหลังเกิดเรื่องเกิดราว หันมาเห็นอัณณากำลังอุ้มลูกสาวเดินเล่นบริเวณสวนสาธารณะใกล้ๆกองถ่ายพอดี “ใช่จริงๆด้วย ไปขอถ่ายรูปกันไหม”
“อัณณ์ครับ คุณว่าผมรับละครเรื่องนี้ดีไหม ไม่ต้องแคสเลย ผู้ใหญ่ส่งบทมาให้ผมโดยเฉพาะเลย ไม่รู้เพราะปลอบใจในเรื่องที่เกิดขึ้นหรือเปล่า” “จะเพราะอะไรก็เป็นโอกาสของเราค่ะ ไหนเรื่องอะไรคะ ขออัณณ์ดูหน่อย” เธอรับบทละครของเขามาดู แค่เห็นชื่อผู้แต่งต้นฉบับและผู้แต่งบทละคร แถมชื่อผู้กำกับและผู้จัด คำตอบที่เขาควรมีคือ รับครับ ไม่ต้องถามอะไรกันอีกแล้ว “โห คุณโปรด เรื่องนี้มันสุดยอดเลยนะคะ ขายดีตั้งแต่เป็นนิยายแล้ว ไหนจะผู้จัดผู้กำกับอีก อัณณ์ว่าคุณควรรับนะคะ นี่มันโอกาสทองเลยล่ะ” “อืม นั่นสินะ โอกาสทองเลย คุณพ่อลูกหนึ่งอย่างผม ยังมีโอกาสดีๆแบบนี้ก็น่าดีใจมากจริงๆ คุณกับลูกคือเครื่องรางนำโชคของผมนะครับ” “ที่คุณได้มาทุกอย่างเพราะความสามารถและความทุ่มเทของคุณต่างหาก” “ขอบคุณที่อยู่เคียงข้างผมนะ เสียดายที่ลูกยังเล็ก ไม่งั้นผมก็อยากให้คุณตามผมไปด้วยทุกที่ จะได้มีกำลังใจจากเมียตลอดเวลา” เขาทิ้งตัวลงนอนหนุนตักของภรรยาสาวสวย แล้วจับมือเธอมาจูบเห
ปุณณัตถ์กับอัณณากลับเข้าบ้านมาอีกทีก็บ่ายคล้อยแล้ว เพราะหลังจากแถลงข่าว ผู้ใหญ่ท่านอื่นๆที่ช่องก็เรียกพบเขาเพื่อขอโทษที่มีผู้ใหญ่บางคนใช้อำนาจบังคับให้เขาต้องฝืนใจคบกับมินตรา แถมยังเป็นจุดเริ่มต้นให้เกิดเรื่องราวบานปลายแบบนี้ ปรากฏว่าตอนนี้ ทั้งละคร งานโฆษณา พรีเซ็นเตอร์สินค้า ต่างก็กลับคืนมาหาเขาจนหมด แถมผู้ใหญ่ยังมอบโอกาสเสนอบทละครที่ตั้งใจให้เป็นละครฟอร์มยักษ์แห่งปีมาให้เขาพิจารณาด้วย จากนั้น คุณพ่อที่เพิ่งเปิดตัวลูกเมียหมาดๆ ก็พาเมียกับลูกไปเดินเที่ยวห้างและช้อปปิ้งของให้ลูกรัก แถมยังซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมให้เมียรักอีกหลายใบ ก่อนกลับบ้านก็พาเธอไปทานอาหารร้านโปรดของเธอกับเขา แต่เมื่อก่อนต้องไปอย่างหลบๆซ่อนๆ แต่วันนี้ได้พาเมียพาลูกออกสู่สังคมอย่างเต็มภาคภูมิเสียที เมื่อกลับถึงบ้านก็ต้องตกใจเพราะมีแขกสำคัญมานั่งรอเธอกับเขาที่ห้องนั่งเล่นอยู่นานแล้ว “พ่อ” อัณณาวิ่งเข้าไปสวมกอดพ่อของเธอทันทีที่เข้ามาในห้อง เธอปล่อยน้ำตาให้ไหลอาบแก้มเพราะความกดดันและอัดอั้นตันใจมาตลอด
“กรี๊ดดดดดดดดด พี่โปรด พี่กล้าทำกับมินนี่ขนาดนี้เลยหรอ กรี๊ดดดดดดด” เสียงกรีดร้องดังลั่นบ้านของมินตรา ทำให้มารดาและพ่อเลี้ยงของเธอ ที่กำลังดูแถลงข่าวอยู่ที่ห้องนอนส่วนตัว รีบวิ่งลงมาดูเธอที่อยู่ในห้องนั่งเล่นทันที “มินนี่ ใจเย็นๆลูก” มารดาเข้ามาปลอบใจโดยไม่ต้องถามว่าลูกเป็นอะไร เพราะทีวีที่เปิดทิ้งเอาไว้อยู่เป็นช่องเดียวกันกับที่เธอและสามีเปิดดูเมื่อสักครู่ “พี่โปรดทำแบบนี้กับมินนี่ได้ยังไง มินนี่ไม่ยอม ทำไมเขาไม่เลิกกับนังอัณณ์แล้วมาแต่งงานกับมินนี่” อานนท์ บิดาของอัณณาที่ยังคงช็อกกับเรื่องของลูกสาวไม่หาย ทั้งๆที่ได้รับรู้เรื่องราวโดยละเอียดจากตุลย์อดีตคนรักของลูกสาวแล้วก็ตาม แต่พอภรรยาเปิดแถลงข่าวของมินตราให้ดูตอนเช้า ก่อนจะฟังการแถลงข่าวของดาราหนุ่มลูกเขยหมาดๆต่อเลยทันที ก็ยังไม่อยากจะเชื่อว่าลูกต้องมาเจอกับเรื่องราวอะไรแบบนี้ และเมื่อได้ยินมินตราพูดแบบนี้ก็ชักสีหน้าไม่พอใจ “ลุงว่ามินนี่ทำเกินไปหน่อยนะ” “เกินไปตรงไหนค