- ผิดที่รักคนใจร้าย - 《แผ่นดิน x ลูกพีช》 แผ่นดิน "เธอรู้ใช่ไหมผีเสื้อไม่ชอบให้ใครไล่จับมัน" ลูกพีช "พี่จำที่พีชเคยบอกได้ไหม วันไหนที่พีชพอแล้ว พีชจะหยุดทุกอย่างแล้วเป็นฝ่ายไปเอง ใช่ค่ะ..วันนี้พีชพอแล้ว" คำเตือน/Warning ดราม่าหนักหน่วง - คำหยาบ - ครอบครัว - แต่งงาน - มีฉากร่วมเพศ18+ - ข่มขืนแบบไม่สมยอม - ไม่นอกกายนอกใจ **พระเอกดีกับทุกคนยกเว้นนางเอก** เรื่องนี้ไม่มีการ 'นอกกาย นอกใจ' ดราม่าหนัก นินายเรื่องนี้เกิดขึ้นจากจิตนาการของผู้แต่ง ไม่มีเจตนาพาดพิงถึงสถานที่หรือบุลคลที่ไม่เกี่ยวข้องแต่อย่างใด นิยายไม่ได้อิงจากความเป็นจริงทั้งหมด โปรดใช้วิจารณญานในการอ่าน ไม่อนุญาตให้คัดลอดหรือดัดแปลงเนื้อหาทั้งสิ้น! หากพบเจอจะดำเนินคดีทางกฏหมายทันที Thanks for following me 🙏
ดูเพิ่มเติมตึก ตึก
“รอด้วยค่ะ!” เสียงที่ดังมาจากข้างหลัง เรียกสายตาผู้คนในละแวกนั้นให้หันมองด้วยความตกใจ เช่นเดียวกับร่างสูงที่ยืนอยู่ในลิฟต์ เขาจึงเอื้อมมือไปกดไม่ให้ประตูปิดลงเพื่อรอเธอ “ขอบคุณค่ะ แฮ่ก~” เมื่อเข้ามาอยู่ด้านในตัวลิฟต์ ใบหน้าเปื้อนหยาดเหงื่อจึงหันไปเอ่ยขอบคุณ “ชั้นไหนครับ” “37ค่ะ” เมื่อได้รับคำตอบจากอีกฝ่าย ชายหนุ่มจึงกดไปยังชั้นที่หญิงสาวต้องการ ซึ่งชั้นที่ทั้งสองกำลังขึ้นไปดันเป็นชั้นเดียวกัน ระหว่างที่ลิฟต์กำลังเคลื่อนตัวขึ้นไป ภายในลิฟต์ก็เกิดความเงียบ มีเพียงเสียงหอบหายใจของหญิงสาวดังเป็นระยะ “มาทำงานเหรอครับ” ก่อนที่ร่างสูงตรงหน้าจะเอ่ยถาม โดยที่ตัวเขายังคงหันหลังให้เธอ “เปล่าค่ะ ฉันแค่มาทำธุระน่ะค่ะ” ชายหนุ่มพยักหน้าเข้าใจ มาทำธุระนี่เอง นึกว่าเป็นพนักงานที่นี่เสียอีก ดูจากการแต่งตัวไม่น่าจะใช้พนักงานแต่เขาก็ยังถามไปแบบนั้น น่าตลกชะมัด แล้วไม่นานลิฟต์ก็มาถึงยังชั้นที่หมาย ร่างอรชรก้าวออกจากลิฟต์ไปทันที และไม่ลืมที่จะส่งรอยยิ้มแทนคำขอบคุณไปยังชายหนุ่มอีกคน เธอไม่ได้สนใจว่าเขาคนนั้นจะไปชั้นไหน ทำเพียงแค่หันหลังแล้วเดินจากไปเงียบ ๆ เสียงรองเท้าส้นสูงกระทบกับพื้นไปตามทางเดิน หญิงสาวในชุด เดรสสีชมพูกระโปรงสั้นเลยเข่าขึ้นมาเล็กน้อย ใบหน้าแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางราคาแพง ความสวยของหญิงสาวไม่จำเป็นต้องแต่งหน้าจัดก็ทำให้ดูดีขึ้นมาได้ เพียงแค่ปัดแก้มเขียนคิ้วทาปากนิดหน่อยก็สวยจนผู้ชายเหลียวมองไม่วางตา เท้าเล็กก้าวมาหยุดหน้าห้องทำงาน ‘คุณ พรเกียรติ ปรีดิวัฒน์ ประธาน' ซึ่งป้ายชื่อหน้าห้องได้เขียนเอาไว้ว่าห้องนี้เป็นห้องใคร ใบหน้าเล็กคลี่ยิ้มหวาน ก่อนจะเลื่อนขึ้นไปเคาะประตูสองครั้งเพื่อเป็นการขออนุญาตเข้าไปข้างใน ก๊อก ก๊อก ระหว่างที่รอเสียงตอบกลับจากคนด้านใน หญิงสาวก็รู้สึกเหมือนมีใครบางคนเดินมาหยุดอยู่ด้านหลังตัวเอง ก่อนที่ใบหน้าสวยจะตัดสินใจหันไปมอง “อ้าวคุณ” ผู้ชายคนเดียวกับที่อยู่ในลิฟต์นี่ เธอไม่รู้ว่าเขาจะมาชั้นเดียวกับเธอ สงสัยมัวแต่คิดอะไรเรื่อยเปื่อยเลยไม่ทันสังเกตตอนที่เขากดลิฟต์ “....” ทว่าคนด้านหลังทำเพียงแค่ส่งยิ้มอ่อนให้ เพราะเขาเองก็ไม่รู้จะพูดอะไรเช่นกัน เกิดความเงียบขึ้นระหว่างทั้งสอง เหมือนบรรยากาศที่อยู่ในลิฟต์เมื่อครู่เลย “คุณทำงานที่นี่เหรอคะ” หรือว่าคนตรงหน้าจะเป็นพนักงานของบริษัทแห่งนี้ อาจจะใช่แหละ หรือไม่ก็เป็นลูกน้องของใครสักคน “ครับ” คำตอบเพียงสั้น ๆ ของชายหนุ่ม ทำหญิงสาวไม่กล้าเอ่ยถามอะไรต่อ เธอหันกลับไปยืนนิ่งที่เดิม ก่อนที่เสียงคนด้านในจะดังขึ้น ‘เข้ามา’ แอ๊ด~ ทันทีที่ผลักประตูเข้าไปในห้องก็พบกับชายคนหนึ่งนั่งหันหลังมาทางประตู กำลังทอดสายตามองวิวเมืองหลวงผ่านกระจกใสในห้องทำงานของตน “สวัสดีค่ะคุณลุง” เสียงหวานเอ่ยทักทายเจ้าของห้องด้วยท่าทีนอบน้อม “มาแล้วเรอะ” ก่อนที่เก้าอี้ตัวใหญ่จะหมุนกลับมาเผชิญหน้ากับทั้งสองที่ยืนอยู่ “สวัสดีครับนายใหญ่” หญิงสาวถึงหันขวับไปมองทันทีเมื่อได้ยินเสียงของคนข้าง ๆ ดังขึ้น เมื่อกี้เขาเรียกคุณลุงว่านายใหญ่ งั้นก็แสดงว่าผู้ชายคนนี้เป็นคนของคุณลุงน่ะสิ “งามที่นั่นเป็นยังไงบ้าง” หญิงสาวได้แต่ยืนเงียบกลางบทสนทนาของคุณลุงและลูกน้องของท่าน เธอไม่กล้าเสียมารยาทแทรกบทสนทนาผู้ใหญ่ “เรียบร้อยหมดทุกอย่างแล้วครับ” “ไปพักเถอะ” “ครับ” จากนั้นชายหนุ่มก็เดินเลี่ยงไปยังมุมหนึ่งของห้อง ซึ่งเป็นห้องนอนของเขาเอง ภายในห้องทำงานแห่งนี้จะมีห้องนอนสองห้อง นั่นคือห้องเขาและประธานใหญ่ โดยปกติแล้วคนส่วนใหญ่จะทำไว้เพียงห้องเดียว แต่ทว่าชายวัยกลางคนกับคิดว่าถ้าเราทำสองห้องมันจะดีกว่า เพราะบางครั้งลูกน้องต้องทำงานช่วยเขาดึกดื่น หากจะให้ขับรถกลับหรือไปพักข้างนอกก็ยังไงอยู่ สู้พากันนอนที่นี่ด้วยกันแล้วค่อยกลับไม่ดีกว่าเหรอ เอาเป็นว่าเลิกสนใจเรื่องห้องนอนแล้วมาต่อที่เรื่องหญิงสาวตรงหน้านี้ดีกว่า “สบายดีใช่ไหม” พรเกียรติเอ่ยถามลูกสาวเพียงคนเดียวของเพื่อนรักเพื่อนตาย คนตรงหน้าเป็นลูกสาวเพื่อนสนิทของเขา เช่นเดียวกับเขาที่มีลูกชายเพียงคนเดียว “สบายดีค่ะ” “ลุงนึกว่าเราจะกลับอาทิตย์หน้า” หญิงสาวไปเรียนต่อต่างประเทศหลายปีแล้ว แต่ที่ต้องกลับมาเพราะที่บ้านโทรไปบอกว่ามีเรื่องสำคัญ แล้วต้องกลับมาไทยเท่านั้นถึงจะบอก โชคดีที่เธอเรียบจบแล้ว และที่ยังไม่กลับเพราะต้องการเที่ยวพักผ่อนอีกสักหน่อยถึงจะกลับมาช่วยงานที่บ้าน ทางด้านพรเกียรติ พอเพื่อนโทรมาบอกว่าลูกสาวจะเข้ามาศึกษาเรียนรู้งานที่บริษัทของตนก็รู้สึกตื่นเต้นอยู่ไม่น้อย เพราะหญิงสาวตรงหน้าเป็นหลานที่ตนรักยิ่งกว่าอะไร ด้วยความที่ตัวเองไม่เคยมีลูกสาวเลยทำให้รักและเอ็นดู เช่นเดียวกับครอบครัวฝั่งนั้นที่รักลูกชายเขา “มีคนบังคับให้กลับค่ะ^^” แล้วจะเป็นใครไปถ้าไม่ใช่คุณพ่อกับคุณแม่ ท่านทั้งสองคะยั้นคะยอให้เธอรีบกลับมาให้เร็วที่สุด ซึ่งตัวเธอเองก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า สุดท้ายก็ต้องเก็บของกลับไทยในคืนนั้นเลย ลูกพีช หญิงสาววัย 27 ปี เป็นการกลับมาเยือนประเทศไทยหลังจากไปเรียนเมืองนอกมาหลายปี เพราะความอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นจึงรีบกลับมา ทันทีที่ถึงสนามบินคุณพ่อก็ได้ให้ลูกน้องที่บ้านไปรับแล้วเดินทางมาหาคุณลุงทันที แม้จะงงอยู่เล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรออกไป คิดแค่ว่าคงให้แวะมาทักทายคุณลุงก่อน เนื่องจากเป็นทางผ่านอยู่แล้ว ส่วนเรื่องนิสัยส่วนตัว ลูกพีชเป็นผู้หญิงอ่อนโยน พูดเพราะและทำงานเป็นระเบียบเรียบร้อย ถึงแม้ว่าเธอจะเรียนอยู่เมืองนอกหลายปี แต่ความเป็นไทยยังไม่หายไปจากตัวเธอ ด้วยความที่ไปอยู่ต่างถิ่นนานก็ทำให้ซึมซับประเพณีของประเทศนั้นมาด้วย จากเมื่อก่อนที่เป็นคนค่อนข้างหัวโบราณมาก ทว่าตอนนี้เริ่มเปิดกว้างมากขึ้น ไม่ยึดติดกับอดีต เป็นคนเด็ดขาดและเด็ดเดี่ยวในคราเดียว เวลารักใครรักจริง ทนจนกว่าตัวเองจะไม่ไหว แต่เมื่อไหร่ที่ใจไม่เอาอะไรแล้ว ต่อให้อีกฝ่ายมากราบแทบเท้า แม้แต่หน้าเธอก็จะไม่มอง.. “วันนี้ลุงจะให้คนพาสำรวจบริษัทก่อน พรุ่งนี้เราค่อยมาทำ” และมีอีกเรื่องที่เธอเพิ่งทราบก็ตอนที่มาถึงบริษัทแล้ว ลูกน้องของคุณพ่อกับเธอ เรื่องที่เธอต้องมาเรียนรู้งานที่บริษัทคุณลุงเป็นเวลาสามเดือน ก่อนจะไปเริ่มงานจริงที่บริษัทตัวเอง ตอนแรกก็ไม่เข้าใจเท่าไหร่หรอก พอลูกน้องอธิบายเธอก็เข้าใจในทันที “ได้ค่ะ” ลูกพีชตอบกลับคุณลุง ถึงแม้ว่าตัวเองจะไม่เคยทำงานในบริษัทมาก่อนก็ตาม เชื่อว่าตัวเองทำได้แน่นอน ไม่มีอะไรยากเกินกว่าที่มนุษย์เราจะทำได้ อยู่ที่เราจะใฝ่เรียนรู้มันหรือเปล่า ตอนที่อยู่เมืองนอกก็ใช่ว่าอยู่เฉย ๆ ตลอดเวลาที่อยู่ที่นั่นเธอทำงานพาร์ทไทม์ไปด้วย โดยการเป็นพนักงานในร้านอาหาร และแน่นอนว่าการทำงานของเธอ เธอย่อมสนุกกับมันมาก ไม่ว่าจะเป็นงานอะไรเธอทำหมดขอแค่ให้ได้เงิน ถึงแม้ว่าครอบครัวจะรวยมากก็ตาม แต่การที่เราหามาได้ด้วยตัวเองมันน่าภูมิใจมากกว่าแบมือขอเงินพ่อแม่อยู่แล้ว “ลุงเรียกเลขาขึ้นมาแล้ว” จะให้เลขาเป็นคนพาสำรวจ เนื่องจากตนต้องไปพบลูกค้าด้านนอก ทำให้ไม่สามารถพาร้านทัวร์บริษัทได้ ก๊อก ก๊อก “เข้ามา” “สวัสดีค่ะท่านประธาน” ไม่นานเลขาก็เข้ามา “พาหนูลูกพีชไปสำรวจแผนกต่าง ๆ” พรุ่งนี้จะเป็นวันจริงที่เธอได้เข้ามาทำงาน ฉะนั้นควรรู้จักแต่ละแผนกเอาไว้ “รับทราบค่ะท่านประธาน” “หนูไปก่อนนะคะคุณลุง” ชายวัยกลางคนพยักหน้ายิ้มแทนคำตอบ จากนั้นทั้งสองก็พากันออกจากห้องทำงานของเขาไป บริษัทที่ลูกพีชมาเรียนรู้งาน เป็นบริษัทเกี่ยวกับนำเข้าอะไหล่รถยนต์ รวมถึงนำเข้ารถสปอร์ตหรู ยังไม่นับกับธุรกิจอีกมากมายของครอบครัวนี้ ถ้าให้เปรียบเทียบระหว่างครอบครัวเธอกับคุณลุง แน่นอนว่ามันเทียบกันไม่ติด “เชิญทางนี้เลยค่ะคุณลูกพีช” เลขาสาวผายมือให้หญิงสาวเดินเข้าลิฟต์ไปเพื่อนำไปยังชั้นต่าง ๆ ที่มีแต่ละแผนกประจำอยู่ ในระหว่างที่เธอกำลังแนะนำตัวให้แต่ละแผนกรู้จัก ต่างก็มีทั้งคนที่ชื่นชอบและไม่ชอบ ซึ่งเป็นปกติของมนุษย์เราอยู่แล้ว โชคดีตรงที่เธอเป็นคนไม่ค่อยใส่ใจคนเหล่านั้นเท่าไหร่ และไม่ค่อยสนใจคำพูดคน ใครดีมาดีกลับ นั่นแหละเธอ.. ลูกพีชเหมือนคนเข้าถึงง่ายแต่ไม่ง่าย เหมือนคนใจดีแต่ไม่ใจดี นั่นคือนิสัยที่แท้จริงของเธอ^^ให้ตัวเอง“พี่เอามาฝาก” เขามองซ้ายมองขวา เมื่อเห็นว่าไม่มีใครอยู่ตรงนี้ จึงใช้สรรพนามที่เอาไว้เรียกเวลาอยู่ด้วยกันสองคน ทว่าหญิงสาวกลับรู้สึกตกใจจึงหันขวับมองไปรอบ ๆ ตัวเองก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก“แกล้งฝันอีกแล้ว” นี่แหละผู้หญิงที่พ่อเขาพูดถึงก่อนหน้านั้น เธอชื่อว่า 'ฝันดี' ฝันดีเป็นพนักงานในบริษัทที่เพื่อนเขาเป็นเจ้าของ และเธอเป็นผู้หญิงคนแรกที่ทำให้เขารู้จักคำว่า ‘รัก’ เขาพยายามตามจีบเธอมาหลายปีแล้ว ทว่าหญิงสาวกลับไม่มีท่าทีว่าจะใจอ่อนยอมเปิดใจให้เข้าไปอยู่ตรงนั้นของเธอ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ยอมแพ้หรอกนะ ตื๊อเท่านั้นที่ครองโลก“เป็นคนขี้ตกใจไปซะแล้ว”“ก็ดูพี่ทำสิ”“อะไร ก็แค่แทนตัวเองว่าพี่เอง”“ปกติพี่พูดที่ไหนล่ะ” เขาจะพูดเฉพาะเวลาอยู่ข้างนอกต่างหาก พอมาพูดในบริษัทเธอก็ต้องตกใจเป็นธรรมดา อย่าลืมว่าแผ่นดินเป็นใครมาจากไหน ไม่ใช่คนที่เธอจะมาพูดเล่นด้วยได้ เขาเป็นถึงเพื่อนสนิทของท่านประธานบริษัทที่เธอกำลังทำงานอยู่ หากล่วงเกินอีกฝ่ายเธอมีโอกาสถูกไล่ออกได้เลยนะ“คืนนี้ว่างไหม”“คืนนี้ฝันไม่ว่างค่ะ” หญิงสาวปฏิเสธทันควัน พลางยิ้มอ่อนส่งมาให้“แล้วมีวันไหนที่ว่างบ้าง” เขาพูดด้วยคว
ณ คฤหาสน์ตระกูลปรีดิวัฒน์“พ่อเรียกผมมาทำไม” ร่างสูงใหญ่ก้าวเข้ามาภายในคฤหาสน์หลังใหญ่ ทันทีที่เดินมาถึงห้องนั่งเล่น ปากหยักได้รูปจึงเอ่ยถามผู้เป็นพ่อพลางหย่อนตัวนั่งลงฝั่งตรงข้าม“พรุ่งนี้น้องจะไปฝึกงานที่บริษัท ดูแลน้องให้ดี” ประมุขของบ้านเอ่ยกำชับลูกชายเพียงคนเดียวของตน เพราะลูกพีชเป็นหลานสาวเพียงคนเดียวของเขา ฉะนั้นเจ้าลูกชายต้องดูแลหญิงสาวเป็นอย่างดี การที่หลานไปอยู่เมืองนอกเมืองนานาน อาจทำให้เธอไม่ค่อยคุ้นชินกับอะไรหลาย ๆ อย่าง ต้องมีคนคอยดูแลอย่างใกล้ชิด แล้วคนนั้นจะเป็นใครไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่ลูกชายของตน“น้องไหน” คิ้วเข้มขมวดเป็นปม เขาเป็นลูกคนเดียว แล้วพ่อกำลังพูดถึงใครอยู่“น้องลูกพีช ลูกคุณลุงราเชน”“เดี๋ยวนะ กลับมาแล้ว?” พอได้ยินชื่อคนที่ตัวเองต้องดูแล ร่างสูงถึงกับนั่งตัวตรง เขาจำได้ว่าเธอไปอยู่ต่างประเทศตั้งแต่อายุ 16 ปี เมื่อยังเด็กเราทั้งคู่อาจสนิทกันมาก แต่พอโตขึ้นทุกอย่างมันก็เปลี่ยนไป เราทั้งสองไม่ได้สนิทกันเหมือนเมื่อก่อน ต้องบอกว่าเธอสนิทกับเขาแค่คนเดียวถึงจะถูก “ใช่ แล้วหน้าที่ของแกคือดูแลน้องให้ดีระหว่างที่น้องฝึกงานอยู่ที่บริษัทเรา” อย่าคิดให้ใครมาแตะต้องหลานสาวเ
ตึก ตึก“รอด้วยค่ะ!” เสียงที่ดังมาจากข้างหลัง เรียกสายตาผู้คนในละแวกนั้นให้หันมองด้วยความตกใจ เช่นเดียวกับร่างสูงที่ยืนอยู่ในลิฟต์ เขาจึงเอื้อมมือไปกดไม่ให้ประตูปิดลงเพื่อรอเธอ“ขอบคุณค่ะ แฮ่ก~” เมื่อเข้ามาอยู่ด้านในตัวลิฟต์ ใบหน้าเปื้อนหยาดเหงื่อจึงหันไปเอ่ยขอบคุณ“ชั้นไหนครับ”“37ค่ะ” เมื่อได้รับคำตอบจากอีกฝ่าย ชายหนุ่มจึงกดไปยังชั้นที่หญิงสาวต้องการ ซึ่งชั้นที่ทั้งสองกำลังขึ้นไปดันเป็นชั้นเดียวกัน ระหว่างที่ลิฟต์กำลังเคลื่อนตัวขึ้นไป ภายในลิฟต์ก็เกิดความเงียบ มีเพียงเสียงหอบหายใจของหญิงสาวดังเป็นระยะ“มาทำงานเหรอครับ” ก่อนที่ร่างสูงตรงหน้าจะเอ่ยถาม โดยที่ตัวเขายังคงหันหลังให้เธอ“เปล่าค่ะ ฉันแค่มาทำธุระน่ะค่ะ” ชายหนุ่มพยักหน้าเข้าใจ มาทำธุระนี่เอง นึกว่าเป็นพนักงานที่นี่เสียอีก ดูจากการแต่งตัวไม่น่าจะใช้พนักงานแต่เขาก็ยังถามไปแบบนั้น น่าตลกชะมัดแล้วไม่นานลิฟต์ก็มาถึงยังชั้นที่หมาย ร่างอรชรก้าวออกจากลิฟต์ไปทันที และไม่ลืมที่จะส่งรอยยิ้มแทนคำขอบคุณไปยังชายหนุ่มอีกคน เธอไม่ได้สนใจว่าเขาคนนั้นจะไปชั้นไหน ทำเพียงแค่หันหลังแล้วเดินจากไปเงียบ ๆเสียงรองเท้าส้นสูงกระทบกับพื้นไปตามทางเดิน
ความคิดเห็น